Abe the Wizard 55 การเพิ่มพลัง

Now you are reading Abe the Wizard Chapter 55 การเพิ่มพลัง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

AtW ตอนที่ 55 การเพิ่มพลัง

 

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารก่อนใคร ND Translate นิยายแปลไทย

 

อัศวินมาแชลต้องใช้มืออีกข้างของเขาในการป้องกันการโจมตีของอาเบลเอาไว้ “แข็งแกร่งมาก หมัดของอาเบลมีแรงประมาณ 200 ปอนด์ในการโจมตีครั้งนี้”

 

หลังจากที่ร่างกายของอาเบลได้เปลี่ยนแปลงไป ผิวของอาเบล กล้ามเนื้อ รวมถึงกระดูกก็ได้แข็งแกร่งและดูหนาขึ้นมากว่าเดิม ในตอนที่อาเบลได้ออกหมัดที่ใช้แรงมากถึง 200 ปอนด์ออกมาอาจจะรุนแรงพอๆ กับการใช้กระบอกเหล็กหรือแท่งไม้อะไรก็แล้วแต่ในการโจมตีเลยก็ว่าได้

 

และนี่คือสาเหตุที่ทำให้อัศวินมาแชลนั้นรู้สึกปวดหลังของเขา นอกเหนือจากแรงกายของอาเบลที่ได้เพิ่มมากขึ้น แรงต่อยของอาเบลเองก็เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน นี่คงเป็นความแข็งแกร่งของอาเบลที่เพิ่มขึ้นมา

 

“ปีศาจชัดๆ” อัศวินมาแชลได้พึมพัมออกมาในตอนที่อยู่หลังของอาเบล “ดูเหมือนว่าการโจมตีของลูกจะแข็งแกร่งพอๆ กับพวกสัตว์ร้ายขนาดใหญ่จากพวกอาณาจักรออร์คเลยนะ”

 

“ดีมากอาเบล งั้นครั้งต่อไปโจมตีพ่อมาด้วยพลังลมปราณในการโจมตีของลูกซะ” อัศวินมาแชลได้สั่งอาเบลต่อไป จากนั้นอาเบลก็ได้ตั้งท่าต่อยไปที่อัศวินมาแชลอีกครั้ง ส่วนอัศวินมาแชลเองก็ได้หยิบโล่ห์ป้องกันจากมุมห้องขึ้นมาเตรียมป้องกันการโจมตีของอาเบลไว้

 

ในระหว่างที่อาเบลกำลังตั้งท่าโจมตีพลังลมปราณสีทองของอาเบลก็ได้รวมไปที่หมัดของเขา อาเบลไม่รอช้าเขารีบโจมตีไปที่ใจกลางโล่ห์ของอัศวินมาแชล ในเวลานั้นเองอัศวินมาแชลที่กำลังยืนอยู่ร่างกายของเขาก็เริ่มสั่นไหวเล็กน้อย

 

มีอะไรบางอย่างที่แตกต่างกันออกไป อัศวินมาแชลมั่นใจว่าครั้งนี้เขาจะสามารถป้องกันได้อย่างแน่นอน แม้การโจมตีของอาเบลในครั้งนี้จะเหมือนกับการโจมตีครั้งแรกแต่มันก็มีอะไรบางอย่างที่แตกต่างออกไป

 

ความแตกต่างที่ต่างออกไปในตอนนี้อัศวินมาแชลมีโล่ห์นั่นเอง หมักของอาเบลที่ถูกป้องกันด้วยมือเปล่านั้นสำหรับอัศวินที่ถูกโจมตีแล้วก็เป็นเหมือนกับการรับการโจมตีด้วยตัวเปล่านั่นเอง การใช้หมัดโจมตีของอาเบลในครั้งนี้นั้นไม่ได้ทำให้อัศวินมาแชลลอยกระเด็นอีกต่อไป แต่การโจมตีครั้งนี้ทำให้อัศวินมาแชลต้องกระเด็นถอยหลังกลับไปพร้อมโล่ห์ของเขา

 

“700 ปอนด์!” อัศวินมาแชลพูดออกมาอย่างมั่นใจ “ดูเหมือนว่าพลังในการโจมตีของลูกจะเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่ากับอีกครึ่งหนึ่งด้วยกันนะ”

 

อัศวินมาแชลพูดต่อไปด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความชื่นชมต่อไป “ดูเหมือนว่าลูกจะมีกล้ามเนื้อและพลังลมปราณในการต่อสู้ที่ดีนะ สิ่งที่ลูกยังไม่มีก็คงจะเป็นชุดเกราะดีๆ สักชุด ถ้าหากลูกมีชุดเกราะดีๆ แล้วละก็พ่อก็ไม่รู้เลยว่าจะมีใครหยุดลูกได้ไหม”

 

“อะไรนะครับ?” อาบลรู้สึกพอใจที่ได้ยินเช่นนั้น สำหรับอาเบลแล้วอาเบลรู้สึกปลอดภัยที่อยู่ในโลกใบนี้

 

“เร็วๆ นี้แหละลูกพ่อ” อัศวินมาแชลได้พูดกับอาเบลต่อไป “ถ้าหากลูกเจอกับคนธรรมดาๆ แล้วละก็ก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าหากลูกต้องเผชิญหน้ากับจอมเวทย์แล้วละก็ลูกจะต้องจะต้องทำให้พวกเขาอ่อนล้าเกินกว่าที่จะร่ายคาถาอะไรใส่ลูกไว้”

 

อาเบลกำลังมองไปที่ดวงตาของอัศวินมาแชลก่อนที่พูดกับอัศวินมาแชล “ผมอยากที่จะเป็นจอมเวทย์ครับ”

 

หลังจากที่ได้พูดเสร็จอาเบลก็ได้หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งที่ตกลงบนพื้นก่อนที่จะออกจากห้องอ่านหนังสือไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับพูดบอกลาอัสวินมาแชลไป ตอนนี้อาเบลได้กลับมาที่ห้องนอนของเขาอีกครั้งหนึ่งแล้ว อาเบลก็ยังพบกับลมทมิฬที่กำลังอยู่ในห้องเช่นเคย

 

ตอนนี้ลมทมิฬกำลังไม่สบายอยู่เพราะว่ามันเป็นห่วงเมื่อไม่เห็นอาเบลกลับมาในไม่กี่วันมานี้ แต่เมื่อเห็นอาเบลกลับมามันก็แสดงความดีใจออกมาทันที ลมทมิฬรีบเลียหน้าอาเบลทันทีที่อาเบลอุ้มมันขึ้นมาจากพื้น

 

ถ้าจะกลับมาคิดดูตอนนี้อาเบลได้กลายเป็นอัศวินมือใหม่แล้ว ตอนนี้อาเบลสามารถใช้ความสามารถในการยกระดับขีดความสามารถของสัตว์ขี่ของตัวเองได้แล้ว อาเบลอยากให้ลมทมิฬแข็งแกร่งขึ้นในขณะที่มันกำลังเด็กอยู่

 

อาเบลอุ้มลมทมิฬไปวางกลับพื้นก่อนที่จะเริ่มร่ายคาถาอะไรบางอย่าง ตอนนี้อาเบลรู้แล้วว่าร่างกายทางกายภาพทั้งหมดของลมทมิฬนั้นเป็นยังไง อาเบลได้ใช้พลังลมปราณสีทองของเขาเริ่มที่จะถูกร่างของลมทมิฬในทันที ลมทมิฬหลับตาไปเพราะกำลังเคลิบเคลิ้มกับการนวดของอาเบลอยู่

 

การใช้พลังลมปราณของอาเบลนั้นยังเป็นอะไรที่ผันผวนอยู่มาก ตอนนี้อาเบลได้มีพลังทำลายล้างที่รุนแรงเป็นของตัวเองแล้ว การที่อาเบลจะใช้พลังลมปราณกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ นอกจากตัวเองนั้นอาจจะทำให้พลังลมปราณส่งผลเสียต่อสิ่งมีชีวิตชนิดนั้น ดังนั้นแล้วการที่จะใช้พลังลมปราณกับสิ่งมีชีวิตอื่นที่ไม่ใช่ตัวเองนั้นจึงเป็นเรื่องอะไรที่ยากมาก และการที่จะใช้พลังลมปราณกับสิ่งมีชีวิตอื่นด้วยวิธีใดก็แล้วแต่นั้นจะไม่ได้ส่งผลในระยะสั้นๆ เท่านั้น การใช้พลังลมปราณนั้นจะส่งผลระยะยาวกับสัตว์ขี่นั่นเอง

 

อัศวินมาแชลได้โบกมือให้กับอาเบลที่กำลังเดินมาที่ห้องทานอาหารเย็น “พ่อลืมบอกอะไรไปอย่าง ร้านเอ็ดมันด์เพิ่งจะขายอาวุธของลูกไปนะ เมื่อลูกมีเวลาก็ไปเก็บเงินด้วยนะ”

 

“ได้เลยครับ”

 

“และก็มีอีกเรื่องหนึ่ง ตอนนี้ไวเคานต์ดิ้กเคนกำลังตามหาลูกอยู่นะ ดูเหมือนว่าจะต้องมีอะไรแน่ถ้าหากลูกไปหาเขาน่ะ ไวเคานต์ดิ้กเคนเป็นคนที่มีภูมิปัญญาและความรู้อยู่มากมาย ลูกจะต้องได้ประโยชน์แน่นอนถ้าไปหาเขาน่ะ” อัศวินมาแชลพูดไปพร้อมกับหัวเราะไป

 

อาเบลถามด้วยน้ำเสียงวิตกกังวล “การขอแผนที่จะเป็นอะไรที่ผิดไหมครับ?”

 

ในโลกใบนี้ถ้าหากใครก็ตามที่สามารถทำคุณงามความดีได้แอบอ้างข้อรางวัล การกระทำแบบนั้นจะต้องถูกลงโทษโดยกฎหมายของประเทศนั่นเอง ด้วยสาเหตุนี้อาเบลจึงพยายามที่จะถามหาถึงแผนที่กระดาษที่มีรายละเอียดที่ชัดเจนกว่านี้จากความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ที่อัศวินมาแชลสามารถทำได้นั่นเอง การที่อาเบลจะได้แผนที่ไหมขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรองนั่นเอง

 

และนี่คือสิ่งที่พิเศษสำหรับอาเบล ถ้าหากอาเบลไม่ได้เป็นปรมาจารย์ช่างตีเหล็กแล้ว ไวเคานต์ดิ้กเคนก็คงจะไม่ได้ถามอะไรอาเบลมากนักว่าทำไมถึงป้องกันปราสาทเอาไว้ได้ ดังนั้นแล้วอัศวินมาแชลจะได้รางวัลทั้งหมดอย่างแน่นอน อัศวินมาแชลรู้เรื่องนี้ดีเขาจึงหลีกเลี่ยงที่จะไปรับรางวัลด้วยตัวเอง

 

“ไม่เป็นไรหรอกอาเบล” อัศวินมาแชลพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ “ไวเคานต์ดิ้กเคนเป็นคนที่มีความยุติธรรมมากพอ พ่อแน่ใจเลยแหละว่าเขาจะต้องให้รางวัลที่ลูกสมควรได้แน่นอน”

 

“งั้นผมจะออกเดินทางไปวันพรุ่งนี้ครับ และระหว่างทางผมจะไปร้านเอ็ดมันด์ด้วย”

 

ถ้าหากจะพูดถึงร้านเอ็ดมันด์อาเบลก็นึกถึงน้ำยาเดินลมปราณสำหรับการฝึกฝนอัศวินนั่นเอง ถ้าหากการดื่มน้ำยาเดินลมปราณทำให้การฝึกฝนของอาเบลในฐานะอัศวินฝึกหัดนั้นสำเร็จไปได้เร็วยิ่งขึ้น แน่นอนด้วยการใช้วิธีเดียวกันนี้เองจะทำให้อาเบลสามารถฝึกฝนในปัจจุบันได้อย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน

 

ในค่ำคืนของวันนี้เองอาเบลก็ได้กินอาหารไปมากกว่าวันคืนธรรมดา ในตอนที่อาเบลได้พลาดการกินอาหารที่ปราสาทแฮรี่ไป อัศวินมาแชลก็ได้เปลี่ยนเมนูอาหารเพื่อที่จะต้อนรับการกลับมาของอาเบล ตอนนี้อาเบลกลับมาแล้วและตอนนี้อาเบลได้เป็นอัศวินมือใหม่แล้วด้วย การที่จะมากินมื้ออาหารธรรมดาในค่ำคืนนี้นั้นคงจะเป็นอะไรที่ไม่เหมาะสมจนเกินไป

 

โชคดีที่ปราสาทแฮรี่นั้นมีรายได้จากร้านขายอาวุธรวมไปถึงการผลิตอาวุธขายด้วย ด้วยเหตุนี้เองการกินอาหารที่ฟุ่มเฟือยมากยิ่งขึ้นสำหรับอัศวินทั้ง 2 คนจึงไม่ใช่ปัญหาสำหรับพวกเขาเลย

 

ค่าใช้จ่ายที่แพงที่สุดสำหรับเหล่าอัศวินนั้นคือพวกอุปกรณ์นั่นเอง แต่เนื่องจากอาเบลนั้นเป็นปรมาจารย์ช่างตีเหล็ก เขาจึงสามารถทำอุปกรณ์อะไรก็ได้ที่อาเบลต้องการเอง แต่สำหรับชุดเกราะแล้วอาเบลแทบที่จะไม่ได้สร้างมันเลย ตอนนี้อาเบลได้เติบโตขึ้นตลอดเวลา ร่างกายของอาเบลจะต้องเติบโตขึ้นภายในอีกไม่กี่เดือนนี้ แต่โชคดีสำหรับอาเบลมาก ในตอนนี้ยังคงสงบไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น อาเบลกะจะรอจนกว่าตัวเขานั้นจะไม่สูงขึ้นอีก

 

อัศวินมาแชลได้คิดถึงการสะสมอาวุธตลอดเวลาที่ผ่านมากก่อนที่จะหัวเราะเสียงดัง แม้ว่าปราสาทแฮรี่จะมีรายได้มากมายเท่าไหร่แต่สุดท้ายแล้วปราสาทแฮรี่ก็ไม่ต้องเสียเงินซื้ออาวุธเลย และในตอนนี้อัศวินมาแชลก็ได้ใช้ดาบเวทย์ทั้ง 2 เล่มโดยที่ไม่ต้องเสียเงินซื้อสักเหรียญเดียว ในตอนที่อาเบลกลับมานั้นอัศวินมาแชลอยากที่จะให้อาเบลทำชุดเกราะเวทย์มนตร์ให้กับเขา สำหรับชุดเกราะดวงตะวันนั้น อัศวินมาแชลไม่ได้สนใจเลยว่าตาแก่ที่เมืองเบกองนั้นจะเก็บรักษาไว้ด้วยตัวเองไหม

 

ถ้าหากไวเคานต์ดิ้กเคนมอบสมญาณามอัศวินให้กับอาเบลแล้ว อัศวินมาแชลก็จะได้รับชื่อเสียงที่ดีตามไปด้วย อาเบลที่ประสบความสำเร็จมากเท่าไหร่ก็จะดีกับตระกูลแฮรี่ในอนาคตมากขึ้นเท่านั้น

 

แค่คิดถึงอนาคตอันสดใสก็ทำให้อัศวินมาแชลนั้นร้องเพลงขึ้นมาอย่างมีความสุข ในขณะเดียวกันนั้นเองอาเบลก็ไม่รู้เลยว่าพ่อบุญธรรมของเขาคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่  อาเบลคิดว่าอัศวินมาแชลนั้นกำลังตื่นเต้นมากจนเกินไป บางทีอัศวินมาแชลคงยังไม่ฟื้นคืนสติหลังจากโดนการโจมตีของอาเบลในห้องอ่านหนังสือไปหลายต่อหลายครั้ง

 

ในตอนที่ทานอาหารเย็นอยู่ทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดอะไรกันมากนัก พวกเขาทั้งสองคนนั้นมุ่งมั่นที่จะกินอาหารของตัวเองอย่างรวดเร็ว

 

หลังจากที่ทานอาหารเย็นเสร็จแล้วอาเบลก็กลับมาที่ห้องนอนของตัวเองอีกครั้ง ตอนนี้อาเบลได้เอาชุดเกราะสีดำจากม้าศึกของตัวเองมาที่ห้องนอนของเขา อาเบลได้ฝึกฝนเทคนิคการหายใจแบบอัศวินอยู่พักหนึ่ง แต่พลังลมปราณที่อาเบลได้จากการฝึกฝนนั้นไม่มากพอ

 

ความคืบหน้าสำหรับการฝึกฝนแบบนี้นั้นไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไรเลยสำหรับการเป็นอัศวินอย่างเป็นทางการ เมื่อถึงระดับแรกของอัศวินมือใหม่แล้วจะต้องใช้ความพยายามอีกหลายปีกว่าที่จะสามารถไปถึงระดับต่อไปได้ การฝึกฝนในเส้นทางของอัศวินนั้นก็เหมือนกับการครกขึ้นภูเขานั่นเอง

 

ในเช้าวันรุ่งขึ้นนี้เองก็ยังคงร้อนระอุเช่นเคย อัศวินมาแชลและอาเบลตัดสินใจที่จะออกเดินทางไปที่เมืองฮาเวสให้เร็วกว่าปกติ ถ้าหากอาเบลและอัศวินมาแชลเดินทางไปที่เมืองฮาเวสช้ากว่านี้แน่นอนว่ามันจะต้องร้อนกว่านี้ด้วย

 

อัศวินมาแชลตัดสินใจที่จะหยุดอาบน้ำเพื่อชำระร่างกายซะก่อน เนื่องจากไวเคานต์ดิ้กเคนที่เป็นคนเชิญชวนพวกเขาทั้งสองคนให้ไปหานั้นเป็นคนที่จริงจังเป็นอย่างมาก  อัศวินมาแชลได้ขอให้ผู้ดูแลบ้านอย่างโรบินนั้นเตรียมห้องอาบน้ำสำหรับพวกเขาทั้งสองคนเอาไว้ หลังจากที่อาเบลได้อาบน้ำเสร็จแล้วอาเบลก็ได้สวมชุดสูทก่อนที่จะออกไปพบกับท่านเจ้าเมืองต่อไป

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด