Abe the Wizard 76 ยุ่งอยู่กับการทานข้าวเที่ยง

Now you are reading Abe the Wizard Chapter 76 ยุ่งอยู่กับการทานข้าวเที่ยง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Abe the Wizard (AtW) AtW ตอนที่ 76 ยุ่งอยู่กับการทานข้าวเที่ยง

 

อาเบลได้เก็บดาบเวทย์น้ําแข็งที่เขาเป็นคนสร้างขึ้นไปที่ฮอร์ราดริกคิวบ์ ด้วยการใช้พลังแห่งความมุ่งมั่นของเขาในตอนนี้ก็มีข้อความอะไรบางอย่างปรากฏขึ้นอีกครั้ง

 

ดาบใหญ่แช่แข็ง (ทั่วไป)

 

ความเสียหายมือเดียว: 3-7

 

ความทนทาน: 24/24

 

+1-2 ความเสียหายเพิ่มเติมจากน้ําแข็งโดยมีผลนาน 2 วิ นาที

 

คําว่า “ดาบใหญ่แช่แข็ง (ทั่วไป)” ถูกเขียนด้วยตัวอักษรสี น้ําเงินเข้ม ดูเหมือนว่าสีที่ถูกใช้นั้นจะไม่เหมือนกับดาบใหญ่มือเดียวที่อาเบลได้เช็คคุณสมบัติก่อนหน้านี้ ดาบใหญ่มือเดียวที่อาเบลได้เช็คคุณสมบัตินั้นถูกเขียนด้วยตัวอักษรสีขาวทั้งหมด

 

เมื่ออาเบลเห็นตัวอักษรที่เขียนไว้ว่า “แช่แข็ง” เขาก็รู้ ได้ทันทีว่ามันเป็นตัวอักษรเดียวกับในเกมเดียโบ 2 คําว่า “แช่แข็ง” หมายความว่าดาบเล่มนี้จะสามารถทําความเสีย หายจากเวทย์น้ําแข็งได้นั่นเอง

 

แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นรูนน้ําแข็งเดิมในเกมคือรูนหมายเลข 10 รูนซาว์นะ

 

+3-14 ความเสียหายเพิ่มเติมจากน้ําแข็งโดยมีผลนาน 3 วินาที

 

พลังต้านทานการแช่แข็งเพิ่มขึ้น 30%

 

เนื่องจากวัสดุที่ถูกใช้เขียนรูนของดาบใหญ่เล่มนี้เลย ทําให้ความเสียหายเพิ่มเติมจากน้ำแข็งนั้นมีเพียง 1-2 ความเสียหายเท่านั้น และยังมีผลนานเพียง 1 วินาทีหรือต่ำ กว่านั้นอีกด้วย อาเบลไม่รู้เลยว่าเขาจะเพิ่มพลังของรูนรูนนี้ได้ยังไงกัน

 

แต่ถึงอาเบลจะไม่รู้วิธีในการเพิ่มพลังแต่ตอนนี้อาเบลก็มีแรงจูงใจในการพัฒนารูนมากขึ้นกว่าแต่ก่อนแล้ว เขาหยิบดาบใหญ่มือเดียวขึ้นมาก่อนที่จะโยนเข้าไปในเตาเผาในทันที หลังจากที่ให้ความร้อนกับดาบเล่มนั้นไปแล้ว อาเบลก็นําดาบเล่มนั้นไปใส่ไว้ในหลุม

 

หลังจากนั้นอาเบลก็ได้ทําแบบเดียวกันกับดาบอีก 19 เล่มด้วยกันจนสุดท้ายแล้ว อาเบลก็ใส่ดาบทั้ง 20 เล่ม 1 ลงไปในหลุมได้ทั้งหมด ในตอนนี้อาเบลได้ทําทุกอย่างอย่างเร่งรีบดังนั้นแล้วเขาจึงไม่ได้พักเลยตั้งแต่เริ่มทํางานมานั่นเอง

 

ในขั้นตอนการเขียนอักษรรูนต่อไปของอาเบลนั้น เต็มไปด้วยความราบรื่น เนื่องจากพลังแห่งความมุ่งมั่นของเขาได้พัฒนาจนเพิ่มมามากขึ้นแล้วอาเบลจึงสามารถ เขียนรูนลงบนดาบยาวได้ถึง 5 เล่มด้วยกันก่อนที่จะใช้เวลาช่วงหนึ่งไปกับการพัก อาเบลได้ทําเช่นนี้ไปอีกหลายรอบ กว่าที่ดาบทั้ง 20 เล่มจะถูกเขียนอักษรรูนได้สําเร็จ โดยที่อาเบลได้ใช้เวลาทั้งคืนของคืนวันนั้นยาวไปถึงเที่ยงของอีกวัน

 

ตั้งแต่ที่อาเบลได้ทํางานหนักโดยไม่หยุดพัก จนมาถึงช่วงเวลากลางวันของอีกวันในปราสาทแฮรีอาเบลก็ได้ใช้เวลาทั้งหมดไปกับการกินอาหารจานยักษ์อย่างไม่หยุดยั้ง ตอนนี้ลอร์ดมาแชลได้แต่ดูอาเบลที่กําลังทานอาหารอยู่ ด้วยรอยยิ้มโดยที่ตัวเขาเองนั้นไม่ได้พูดอะไรออกไป ลอร์ด มาแชลยังคงจ้องมองไปที่อาเบลต่อไปในขณะที่กําลังทานอาหารด้วยรอยยิ้ม

 

“พ่อครับ ผมรู้สึกหิวนิดหน่อยในวันนี้” อาเบลพูดกับ ลอร์ดมาแชลในขณะที่สังเกตุได้ว่าลอร์ดมาแชลนั้นกําลังจ้องมองมาที่ตัวเองอย่างไม่หยุดพัก ทันใดนั้น เองอาเบลก็รู้ตัวว่าตอนนี้เขากําลังทานอาหารโดยที่ขาดมารยาทไป มารยาทบนโต๊ะอาหารเป็นอะไรที่สําคัญมากสําหรับ เหล่าขุนนางทั้งหลาย แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นอาเบลก็ได้แต่รู้ สึกละอายใจกับตัวเองเล็กน้อยเท่านั้น

 

โดยปกติทั่วไปแล้วอาเบลมักจะระมัดระวังตัวตลอดเวลา แม้แต่เรื่องที่ระเอียดเล็กน้อยก็ตามที่ อาเบลได้อยู่ในโลกใบ นี้มานานกว่า 2 ปีแล้ว แม้ว่าตัวเขาจะระมัดระวังกับการใช้ชีวิตไปในทุกๆเรื่อง แต่ตอนนี้อาเบลไม่สามารถที่จะอดทนได้อีกต่อไป หลังจากที่คืนวันก่อนอาเบลได้ทํางานอย่างหนักทั้ งคืนทําให้พลังแห่งความมุ่งมั่นของตัวเขาไม่สามารถฟื้นฟู มาอย่างเต็มที่ได้อีกครั้ง ดังนั้นแล้วการกินอาหารเข้าไปจึงเป็นวิธีเดียวที่จะสามารถฟื้นฟูพลังได้ จนท้ายที่สุดแล้วอาเบลก็ลืมเรื่องมารยาทบนโต๊ะอาหารไปซะสนิท

 

“ไม่ต้องห่วงไปหรอกลูกพ่อ” ลอร์ดมาแชลได้พูดปลอบใจอาเบล

 

ตั้งแต่ที่อาเบลได้ย้ายมาอยู่ในปราสาทแฮรี่ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทําทั้งหมดนั้นล้วนแต่เป็นความคิดของผผู้ใหญ่ทั้งนั้น จนมาถึงตอนนี้ลอร์ดมาแชลจึงไม่ได้เป็นห่วงอะไรในตัวอาเบลเลย และลอร์ดมาแชลเองก็ไม่มีประสบการณ์ การเป็นพ่อมาก่อน ดังนั้นแล้วลอร์ดมาแชลจึงเลือกที่จะพูดคุยกับอาเบลให้เหมือนกับเพื่อนมากที่สุดการที่อาเบลรู้ สึกเชื่อใจและไว้วางใจในตัวเขาแบบนี้ก็จะเป็นผลดีกับลอร์ด มาแชลเองเช่นกัน

 

อัศวินเป็นเน็ตต์และลอร์ดมาแชลทั้งสองคนนั้นสําคัญ สําหรับอาเบลเสมอ เมื่ออัศวินเป็นเน็ตต์ต้องการให้อาเบลนั้นไปเป็นลูกบุญธรรมของลอร์ดมาแชลในตอนนั้นอา เบลก็ไม่ได้ต่อต้านของความคิดของผู้เป็นพ่อแม้แต่น้อย นี่อาจเป็นเพราะตัวอาเบลในปัจจุบันนั้นมีวุฒิภาวะที่มากกว่าวันในตอนนี้ดังนั้นแล้วอาเบลจึงไม่ได้เอาแต่ใจและยอมเป็นลูกบุญธรรมของลอร์ดมาแชลไปในที่สุด จนสุดท้ายแล้วอาเบลคนใหม่คนนี้ก็สามารถที่จะสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ รวมไปถึงพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับปราสาทแฮ รี่ไปในที่สุด

 

“พ่อครับผมไม่ใช่เด็กแล้วนะครับ” อาเบลได้พูดกับ ลอร์ดมาแชล ถึงแม้ในตอนนี้อาเบลจะมีอายุเพียง 13 ปีเท่า นั้นซึ่งแน่นอนว่าอาเบลในวัยนี้ย่อมดูเหมือนเด็กทั่วไปเป็นธรรมดาแต่อาเบลไม่เคยชอบให้ใครก็แล้วแต่เรียกเขาว่าเด็กอีกต่อไป ถ้าหากอาเบลอยู่ในโลกใบเดิมที่เขาได้จากมานั้นเขาจะไม่ถูกใครมองไปเด็กอีกต่อไปแล้วอย่างแน่นอน

 

“แน่นอนลูกพ่อไม่ใช่เด็กแล้ว” ลอร์ดมาแช ลพูดไปในขณะที่หัวเราะไปด้วย

 

“แล้วการสร้างอาวุธเวทย์ของลูกตอนนี้เป็นยังไงบ้างแล้วล่ะ?” ลอร์ดมาแชลได้ถามอาเบลด้วยน้ําเสียงที่ห่วงใย

 

ถ้าหากตามคาดการณ์แล้วดูเหมือยว่าพวกวูฟไรเดอร์จะโจมตีปราสาทแฮรี่ภายในระยะเวลาอีก 2 วัน ข่าวล่าสุด

 

จากหน่วยสอดแนมพบกลุ่มของวูฟไรเดอร์นั้นออกเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ๆ ภายนอกของเมืองฮาเวส แต่จากประสบการณ์ของลอร์ดมาแชล เขาคิดไว้ว่านี้จะต้องเป็นแผน การของพวกวูฟไรเดอร์ที่จะพยายามตรึงกําลังของอัศวินเอาไว้ภายในเมืองฮาเวสโดยการล้อมเมืองเอาไว้นั่นเอง ไวเคานต์กเคนเองก็คิดแบบนั้นเช่นเดียวกัน แต่ด้วยความเป็นเจ้า เมืองแล้วเขาคงจะแบกรับความเสี่ยงที่จะต้องเสียเมืองไปไม่ได้ ดังนั้นแล้วเขาจึงตรึงกําลังทหารรวมไปถึงอัศวินเพื่อที่จะปกป้องรักษาเมืองฮาเวสต่อไป

 

แต่ถึงลอร์ดมาแชลจะเข้าใจทุกอย่างดีแต่ตอนนี้เขาก็ยังรู้ สึกโทษท่านเจ้าเมืองคนนี้อยู่ดี ไวเคานต์ดี้กเคนรู้สึกได้ถึงการปรากฏตัวของวูฟไรเดอร์ที่มีระดับความสามารถใน การต่อสู้ใกล้เคียงกับอัศวินที่เป็นผู้บังคับบัญชาที่ด้านนอกกําแพงเมืองฮาเวส นี่เป็นสาเหตุที่ทําให้ท่านเจ้าเมืองคนนี้ไม่ยอมส่งทหารออกจากเมืองฮาเวสมาช่วยเหลือเหล่า ขุนนางรวมไปถึงประชาชนที่อยู่ภายนอกเมืองเลย

 

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง พวกหัวหน้าของพวกวูฟไรเดอร์ เองจะไม่ปรากฏตัวขึ้นอย่างง่ายดายแบบนี้ นี่เป็นเหมือนช่วงเวลาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายสําหรับไวเคานต์ดี้กเคน ตอนนี้ ดิ้กเคนรับหน้าที่เป็นท่านเจ้าเมืองที่คอยปกครอบเมืองฮาเวสแห่งนี้ แน่นอนว่าการเป็นเจ้าเมืองนั้นจะสามารถที่จะทําเงินรวมไปถึงมูลค่าอย่างอื่นได้อย่างมหาศาล ดังนั้นแล้วการปกป้องเมืองรวมไปถึงประชนชนเอาไว้จึงเป็นเหมือนกับความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ของไวเคานต์ดี้กเคนคนนี้

 

ถ้าหากดิ้กเคนส่งคนมาสนับสนุนปราสาทแฮรี่แล้วนั้น จะหมายความว่าเขาจะเสียโอกาสที่จะจัดการกับหัวหน้าของพวกวูฟไรเดอร์ ด้วยความที่เป็นเจ้าเมืองแล้วดึกเคนไม่ อาจที่จะปล่อยโอกาสในการรักษาเมืองทั้งเมืองไปเพื่อที่จะรักษาปราสาทเพียงหลังเดียวเอาไว้

 

“ดาบใหญ่มือเดียวทั้ง 20 เล่มใกล้ที่จะเสร็จสมบูรณ์แล้วครับ ภายในวันพรุ่งนี้ผมจะสร้างโล่ห์ที่เหลือของอัศวินทั้งหลายให้สําเร็จเอง” อาเบลพูดในขณะ ที่ตัวเขาเองวางมีดสําหรับทานอาหารเอาไว้บนโต๊ะ

 

“นี่มันรวดเร็วจริงๆ ยังไงลูกก็ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยล่ะ!” ลอร์ดมาแชลพูดขึ้น ตอนนี้เขารู้สึกเป็นห่วงการทํางานที่แสนจะบ้าคลังของอาเบล

 

“ไม่มีอะไรจะยากไปกว่าการสร้างรถม้าแล้วละครับ” อาเบลพูดพร้อมกับยิ้มให้ลอร์ดมาแชล ตอนนี้เขากําลังเช็ดปากด้วยผ้าเช็ดปากต่อไป

 

“แค่ก…แค่ก” ลอร์ดมาแชลรู้สึกผิดนิดหน่อยเมื่อได้ยินสิ่งที่อาเบลพูดออกมา ตอนนี้ลอร์ดมาแชลพูดต่อไปอีกว่า “สองสามวันที่ผ่านมาพ่อต้องใช้ความพยายามอย่าง หนักเพื่อที่จะคุ้นชินกับการใช้อาวุธชิ้นใหม่ที่ลูกสร้างขึ้นมา ถ้าหากพ่อใช้อาวุธได้อย่างถนัดมือแล้วคงไม่มีท่งเลยที่พวกวูฟไรเดอร์จะสามารถรุกรานปราสาทของเราได้ พวกเราจะต้องให้พวกมันเรียนรู้ถึงความเจ็บปวดบ้างแล้วล่ะ”

 

ทันใดนั้นเองลอร์ดมาแชลก็ได้นึกถึงอัศวินซาโรหยาน อีกครั้งหนึ่งและพูดต่อไป “อัศวินชั้นสูงอีกสองคนได้ต่อสู้กับพวกออร์คมาเมื่อไม่นานมานี้ อัศวินทั้งสองคนนั้นคืออัศวินเป็นเน็ตต์และอัศวินฮอปเปอร์นั่นเอง ตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนได้ถูกโจมตีไปแล้ว แต่โชคดีที่พวกเขาทั้งสองคนนั้นเตรียมพร้อมรับมือการจู่โจมจองพวกออร์ตเป็นอย่างดี ดังนั้นแล้วพวกเขาทั้งสองคนจึงสามารถกลับไปที่เมืองฮาเวสโดยที่บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”

 

“ไอพวกวูฟไรเดอร์พวกนี้!” อาเบลพูดด้วยน้ําเสียงที่แสดงถึงความโกรธเกรี้ยว

 

พื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่ใจกลางของโลกมนุษย์ ดังนั้นแล้วที่แห่งนี้จึงเป็นที่ปลอดภัยที่สุดแล้วสําหรับมนุษย์นั่นเอง แต่ถึงแบบนั้นการโจมตีของพวกออร์คเองก็ยังสามารถรุกรานมาที่แห่งนี้ได้ ชาวบ้านทุกคนเองก็ยังรู้สึกกลัวทั้งๆ ที่ยืนอยู่ในดินแดนที่ปลอดภัยที่สุดแห่งนี้ด้วย

 

“พ่อได้ยินมาว่าดยุคคาร์เมลได้ส่งอัศวินชั้นสูงอีกหลายคน มาช่วยดินแดนของพวกเรา แต่กว่าที่พวกนั้นจะมาถึงคงจะใช้เวลาต่ำๆ กว่า 3 วัน ถ้าหากพวกเราสามารถต้านทานการโจมตีของพวกออร์คภายในเวลา 3 วันได้ทุกๆ อย่างก็จะดีขึ้นเอง” ลอร์ดมาแชลพูดขึ้น

 

“ในที่สุดก็มีข่าวดีนะครับ อย่างน้อยพวกเราจะต้องใช้เวลาป้องกันปราสาทให้ถึง 3 วันให้ได้ แต่ทําไมพวกอัศวินชั้นสูงทั้งหลายถึงไม่มาเร็วกว่านี้ล่ะครับ?” อาเบลได้พูดเชิงตําหนื

 

หลังจากที่ได้ยินอาเบลพูดลอร์ดมาแชลก็ได้อธิบายไปในทันที “ดูเหมือนว่าเวลา 3 วันจะเป็นเวลาที่พวกเขาทั้งหมดจะสามารถมาถึงที่นี้ได้รวดเร็วที่สุดแล้ว เมืองใหญ่ ที่อยู่ใกล้ที่สุดก็คือเมืองไซดอร์ ถึงแม้จะใช้เวลามาถึงที่ที่เราอยู่ถึง 3 วันแล้วแต่เวลา 3 วันนั้นถือว่าเป็นเวลาที่รวดเร็วที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าหากจะนํากองกําลังมาจาก เมืองเบกองเมืองที่เป็นเหมือนหลวงแล้วคงจะใช้เวลามาก กว่านี้กว่าที่พวกอัศวินชั้นสูงทั้งหลายจะมาถึง ดังนั้นแล้วการตัดสินใจแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สุดในตอนนี้แล้ว ตอนนี้เองเนื่องจากเจ้าชายไวแอดต์ถูกออร์คสังหารตาย ดังนั้นแล้วกษัตริย์อาสเตอร์จึงรู้สึกโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก เมื่อกษัตริย์ได้ยินข่าวการโจมตีของพวกออร์คอีกครั้ง ดังนั้นแล้วกษัตริย์อาสเตอร์จึงส่งกองกําลังชั้นสูงมาที่นี่เพื่อจัดการกับพวกออร์คนั่นเอง”

 

อาเบลได้รู้สึกถึงความสุขที่กําลังอยู่ภายในใจของเขาลุกๆ ตอนนี้การสังหารเจ้าชายไวแอตด์ที่เป็นฝีมือของอาเบล ได้กลายเป็นฝีมือของโวร์แกนไปแล้วนั่นเอง และในตอนนี้ เองกษัตริย์อาสเตอร์เองก็ต้องการที่จะแก้แคนการตายของลูกชาย ดังนั้นแล้วเขาจึงส่งกําลังพลมาช่วยพวกอาเบลนั้นเอง

 

หลังจากที่อาเบลได้ทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว เขาก็ได้ให้บริวารรับใช้นําอาหารเย็นไปส่งไว้ภายในห้องตีเหล็กส่วนตัวของเขาทันที อาเบลต้องการที่จะกินอาหารเย็นในระหว่างที่ตัวเขานั้นทํางานอยู่นั่นเอง

 

อาเบลได้กลับมาเพื่อที่จะติดตั้งเพรชทั้ง 20 ชิ้นไว้บนอาวุธ และหลังจากที่ติดตั้งเพรชจนครบแล้วอาเบลก็ได้ใช้พลัง แห่งความมุ่งมั่นของเขาเพื่อชักจูงพลังของรูนนั้นไปสู่อัญมณี ได้จนท้ายที่สุดแล้วดาบยาวมือเดียวที่อาเบลได้ทําการปรับปรุงนั้นก็เสร็จสมบูรณ์

 

อาเบลได้ใส่ดาบยาทั้งหมด 20 เล่มที่ผ่านการพัฒนาปรับปรุงลงไปในฮอร์ราดริกคิวบ์ หลังจากนั้นอาเบลก็ใช้พลังแห่งความมุ่งมั่นของตัวเองในการประเมินคุณสมบัติของดาบทั้ง 20 เล่ม

 

ดาบยาบมือเดียว (ทั่วไป)

 

ความเสียหายรูปแบบเดี่ยว: 2-3

 

ความทนทาน: 24/24

 

+1-2 ความเสียหายจากการแช่แข็งในระยะเวลา 2 วินาที

 

คําที่เขียนว่า “ดาบยาบมือเดียว (ทั่วไป)” ได้ถูกเขียนด้วยตัวหนังสือสีน้ําเงินแล้ว ดังนั้นอาวุธทั้งหมดนี้จึงกลายเป็นอาวุธเวทย์ที่มีคุณสมบัติของเวทย์มนตร์แล้วนั่นเอง

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด