Abe the Wizard 63 งานเลี้ยง

Now you are reading Abe the Wizard Chapter 63 งานเลี้ยง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

AtW ตอนที่ 63 งานเลี้ยง

 

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารก่อนใคร ND Translate นิยายแปลไทย

 

อาจารย์เบธแฮมได้หันโล่ห์ที่อาเบลได้สร้างขึ้นไปดูโดยรอบ ทันใดนั้นเองเบธแฮมก็ได้ตกใจเพราะว่าตรงที่จับโล่ห์นั้นมีอัญมณีถูกติดตั้งอยู่ เบธแฮมอดใจไม่ได้ที่ถามอาเบลว่า “นี่เป็นเวทย์มนตร์แห่งการป้องกันอย่างงั้นหรอ?”

 

“ใช่ครับ มันเป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ของผมเอง ด้วยสัญลักษณ์รูนอันนี้จะสามารถทำให้โล่ห์ดูดซับแรงกระแทกได้” อาเบลได้อธิบายเพิ่มเติม

 

“ดูเหมือนว่าความสามารถของนายจะแซงหน้าฉันไปมากแล้วนะ!” เบธแฮมได้พูดขึ้นมา ถึงแม้ว่าเบธแฮมจะไม่รู้ว่าโล่ห์อันนี้สามารถดูดซับแรงกระแทกได้ยังไง แต่เขาก็รู้ว่าอาเบลคงจะสามารถทำได้อย่างแน่นอน

 

“ผมยังมีชุดเกราะอีกชุดด้วย อาจารย์ช่วยดูให้ผมหน่อยได้ไหมครับ? ผมไม่รู้เลยว่ามันถูกสร้างขึ้นมาจากอะไรกันแน่” เมื่ออาเบลพูดเสร็จเขาก็หยิบชุดเกราะสีดำส่งไปที่มือของเบธแฮม

 

ในเวลาที่เบธแฮมได้รับชุดเกราะมาจากอาเบลเขาก็รู้ได้ทันทีว่าสิ่งที่อาเบลได้ส่งมาให้คือชุดเกราะนั่นเอง แต่เบธแฮมก็สัมผัสได้ว่าชุดเกราะชุดนี้ดูมีน้ำหนักเบากว่าที่ควรจะเป็นมาก

 

“มันเป็นสมบัติอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกหมาป่า นายได้ชุดเกราะชุดนี้มาได้ยังไงกัน?” เบธแฮมได้ถามอาเบลกลับไปด้วยสีหน้าที่ตื่นตกใจ

 

“เป็นของที่ผมได้มาจากการต่อสู้ครับ เมื่อไม่กี่วันก่อนผมได้ฆ่าโวร์แกนตัวหนึ่งไป เกราะตัวนี้อยู่ที่โวร์แกนตัวนั้น แล้วสิ่งนี้เป็นสมบัติอันศักดิ์สิทธิ์ของหมาป่าจริงๆ หรอครับ?” อาเบลไม่แน่ใจว่าทำไมอาจารย์เบธแฮมถึงได้มีท่าทีที่ตกใจมากถึงขนาดนี้

 

“นี่เป็นของอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับพวกโวร์แกน ถ้าหากพวกโวร์แกนรู้ว่านายมีชุดเกราะชุดนี้แล้วละก็พวกมันจะต้องทำทุกอย่างไม่ว่าอะไรก็ตามเพื่อที่จะแย่งชุดเกราะชุดนี้คืนมาจากนายอย่างแน่นอน” เบธแฮมยังคงพูดต่อไปอีกว่า “จำได้ไหมว่าที่ฉันบอกนายเกี่ยวกับเรื่องอุปกรณ์ในตำนานนั้นน่ะ? นี่แหละเป็นชุดเกราะในตำนาน”

 

เบธแฮมยังคงอธิบายต่อไปว่า “ตามบันทึกต่างๆ ของพวกโวร์แกนแล้ว ได้มีหมาป่าตัวหนึ่งได้สังหารมังกรวัยเด็กสีดำไปได้ แม้ว่าเหล่ามังกรทั้งหลายจะพยายามตามล่าหมาป่าตัวนั้น แต่หมาป่าตัวนั้นก็สามารถหนีกลับไปพร้อมกับร่างของมังกรเด็กได้ เมื่อหมาป่าตัวนั้นสามารถนำมังกรกลับไปหาโวร์แกนที่เป็นช่างตีเหล็กได้ ช่างตีเหล็กก็ได้สร้างชุดเกราะชุดนี้ขึ้นมาจากเกล็ดของมังกรนั่นเอง ดังนั้นแล้วโวร์แกนตัวที่นายได้จัดการไปจะต้องเป็นโวร์แกนที่มีระดับสูงอย่างแน่นอน”

 

อาเบลได้นึกถึงสิ่งที่เรียกว่า “เทคนิคการใช้หอกยาวของโวร์แกน” ถ้าหากปะติดปะต่อทุกอย่างเข้าด้วยกันสิ่งที่เบธแฮมพูดจะต้องเป็นความจริงอย่างแน่นอน

 

“ฉันว่าทางที่ดีที่สุดก็คือนายจะต้องเก็บชุดเกราะอันนี้เอาไว้ในที่ปลอดภัยซะ อย่าให้ใครรู้ล่ะว่านายมีชุดเกราะชุดนี้” เบธแฮมได้แนะนำอาเบลเอาไว้

 

เมื่ออาเบลรู้แล้วว่าชุดเกราะชุดนี้นั้นอันตรายขนาดไหน เขาก็ตัดสินใจที่จะเชื่อฟังคำแนะนำของอาจารย์เบธแฮม โวร์แกนตัวนั้นจะต้องเป็นออร์คที่สำคัญสำหรับอาณาจักรออร์คอย่างแน่นอน การที่จะโดนตามล่านั้นคงเป็นอะไรที่ไม่ดีสำหรับอาเบลเท่าไรนัก เมื่อคิดว่าตัวเขานั้นจะถูกตามล่าอาเบลก็รู้สึกเสียวไปถึงกระดูกสันหลังแล้ว

 

ในตอนแรกอาเบลตั้งใจที่จะสวมใส่ชุดเกราะชุดนี้ถ้าหากตัวอาเบลนั้นแปลงร่างเป็นโวร์แกน ชุดเกราะชุดนี้มีพลังป้องกันอันมหาศาลอยู่ แต่โชคดีที่อาจารย์เบธแฮมได้เล่าเรื่องทุกอย่างให้กับอาเบลได้ฟังก่อน ถ้าหากเขาสวมชุดเกราะชุดนี้และเดินทางไปที่อาณาจักรออร์คแล้วละก็จะต้องเป็นการฆ่าตัวตายอย่างไม่ต้องสงสัย

 

ในตอนที่อาเบลได้เดินทางกลับปราสาท เขาก็ได้เก็บ “สมบัติอันศักดิ์สิทธิ์ของหมาป่า” กลับปราสาทไปด้วย ในตอนนี้อาเบลไม่ได้ถือชุดเกราะชุดนี้เอาไว้ในมือระหว่างกลับอีกต่อไปแล้ว อาเบลได้เก็บชุดเกราะเอาไว้ในกล่องๆ หนึ่งก่อนจะล็อคเอาไว้อย่างแน่นหนาในห้องตีเหล็กส่วนตัวของเขาในทันที อาเบลเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีกุญแจในการไขกล่องๆ นี้

 

เมื่อเวลาผ่านไปบรรยากาศโดยรอบปราสาทแฮรี่เองก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นอีกครั้ง วันเกิดของอัศวินมาแชลนั้นใกล้ที่จะมาถึงแล้วนั่นเอง และลูกชายบุญธรรมของอัศวินมาแชลเองก็เพิ่งได้เลื่อนตำแหน่งเป็นท่านลอร์ดอีกด้วย อัศวินมาแชลจึงตัดสินใจที่จะจัดงานเลี้ยงให้กับเรื่องน่ายินดีทั้งหมดนี้ อัศวินมาแชลไม่ลืมที่จะเชิญชวนขุนนางทั้งหมดในเมืองฮาเวสรวมไปถึงท่านลอร์ดทั้งหลายและครอบครัวของอัศวินเบ็นเน็ตต์เพื่อที่จะเฉลิมฉลองความสำเร็จครั้งนี้ด้วยกัน

 

อาเบลได้ใช้เวลาว่างที่เขายังมีอยู่ไปป่าหลังปราสาทเพื่อที่จะไปเยี่ยมเมฆาสีขาวบ้างในครั้งคราว อาเบลใช้เวลาตลอดทั้งวันของเขาไปกับการสร้างอาวุธชิ้นใหม่ๆ ขึ้นมา อาเบลได้เตรียมอาวุธมากมายหลายชนิดเพื่อที่จะไปเปิดประมูลขายในร้านเอ็ดมันอีกครั้งหนึ่ง อาวุธที่อาเบลได้ทำทั้งหมดไม่ใช่อาวุธเวทย์แต่อย่างใด ถ้าหากมีอาวุธเวทย์จำนวนมากอยู่ในตลาดแล้วแน่นอนว่าราคาของอาวุธเวทย์เองก็จะตกลงไปมากอีกด้วย

 

ร้านเอ็ดมันที่เปิดอยู่ในเมืองฮาเวสนั้นเป็นร้านที่อยู่ภายใต้การปกครองในเมืองของดยุคคาร์เมล เนื่องจากเมื่องที่อยู่ภายใต้การปกครองของดยุคคาร์เมลยังไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอะไรกันมากนักอาเบลตัดสินใจที่จะขายดาบแห่ง 120 ทักษะ 10 เล่มพร้อมกับดาบเวทย์ 2 เล่มขายที่ร้านเอ็ดมันในครั้งหน้า ในตอนนี้ยังคงไม่มีใครที่สามารถสร้างอาวุธดีๆ ได้เหมือนกับอาเบลอีกแล้วดังนั้นอาวุธของอาเบลจะต้องขายดีอย่างแน่นอน

 

ในวันที่ 10 มิถุนายน ปราสาทของแฮรี่ก็ได้เปลี่ยนเป็นปราสาทสีแดงเพลิงที่สามารถสังเกตเห็นได้ตั้งแต่ระยะไกล ผนังทั้งหมดของปราสาทถูกตกแต่งไปด้วยผ้าสีแดงรวมไปถึงพรมสีแดงขนาดใหญ่ ถนนทุกสายที่เชื่อมไปยังปราสาทแฮรี่นั้นถูกทำความสะอาดจนดูใหม่เอี่ยม เหล่าบริวารรับใช้ทั้งหลายต่างก็สวมชุดใหม่ และแน่นอนทหารลาดตระเวนเองก็สวมชุดเกราะชุดใหม่ด้วยเช่นกัน ดูเหมือนว่าตอนนี้ปราสาทแฮรี่จะพร้อมสำหรับการต้อนรับแขกแล้ว

 

แม้ว่าจะเป็นงานเลี้ยงอาหารค่ำแต่แขกที่ได้รับเชิญทั้งหลายก็ได้เดินทางมาถึงที่ปราสาทแฮรี่ตั้งแต่ตอนเที่ยงแล้ว ในตอนนี้ปราสาทแฮรี่เต็มไปด้วยเหล่าบริวารรับใช้จากแขกที่ได้รับเชิญคนต่างๆ นี้แสดงให้เห็นว่าแขกที่ได้รับเชิญมานั้นมีสถานะที่สูงส่งมากแค่ไหน

 

เนื่องจากสถานะของอัศวินมาแชลนั้นได้ถูกยกสูงขึ้นดังนั้นแล้วสถานะทางสังคมของอัศวินมาแชลเองจึงสูงขึ้นตามด้วยเช่นกัน แม้ว่าขุนนางตำแหน่งลอร์ดจะเป็นตำแหน่งขุนนางที่อยู่ห่างไกลกับดยุคมากก็ตามที แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นท่านลอร์ดทั้งหลายก็ล้วนแต่ได้ความเคารพนับถืออยู่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านลอร์ดมาแชลที่เป็นท่านลอร์ดและมีดินแดนเป็นของตัวเอง ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้เองจึงทำให้ลอร์ดมาแชลนั้นมีสถานะสูงส่งของเมืองฮาเวสและบริเวณโดยรอบไปแล้ว

 

ในตอนนี้อาเบลได้สวมชุดสุดหรูหราเอาไว้ก่อนที่งานเลี้ยงจะเริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่ที่อาเบลได้ใช้ชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เขาก็ไม่เคยที่จะเข้าร่วมงานเลี้ยงของกษัตริย์มาก่อนเลย ตอนนี้ชุดที่อาเบลกำลังสวมใส่นั้นไม่มีปลอกแขนประจำตระกูลอีกต่อไป ชุดที่อาเบลกำลังสวมใส่อยู่เป็นชุดที่แสดงถึงฐานะท่านลอร์ดเพียงเท่านั้น นี่อาจะเป็นเพราะงานเลี้ยงในครั้งนี้อัศวินมาแชลตั้งใจที่จะเชิญช่างตัดเสื้อที่เก่งที่สุดในเมืองฮาเวส ร้านของแคนไดซ์เป็นร้านที่ตัดเสื้อสำหรับอาเบล

 

อาเบลรู้สึกหงุดหงิดในตอนที่จะต้องสวมใส่ชุดชุดนี้ การจะใส่ชุดๆ นี้ที่มีความซับซ้อนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ในสภาพอากาศที่ร้อนแบบนี้การจะใส่เสื้อผ้าหลายชั้นแบบนี้ทำให้อาเบลรู้สึกเหมือนถูกขังอยู่ในกล่องที่ปิดตาย

 

ตอนนี้อาเบลรู้แล้วว่าอัศวินมาแชลนั้นสนใจที่จะจัดงานเลี้ยงครั้งนี้มากแค่ไหน ไวน์ที่จะใช้สำหรับเลี้ยงแขกคนสำคัญอัศวินมาแชลได้สั่งมาจากเมืองฮาเวสทั้งหมด โดยไวน์ทั้งหมดนี้ผ่านการหมักมาแล้วอย่างน้อยกว่า 10 ปี เครื่องเงินบนโต๊ะเองก็เป็นเครื่องเงินใหม่ทั้งหมดเช่นเดียวกัน รวมไปถึงพ่อครัวที่ทำอาหารในงานเลี้ยงครั้งนี้ก็ถูกจ้างมาจากเมืองฮาเวส

 

ถ้าจะให้พูดในแบบที่ไม่เข้าข้างตัวเองแล้วปราสาทแฮรี่เองไม่ได้มีชื่อเสียงอันน่ายกย่องจากประวัติศาสตร์อันยาวนานเท่าไรนัก ปราสาทแฮรี่เป็นปราสาทที่มีอายุยังไม่ถึง 100 ปีเหมือนกับปราสาทอื่นๆ แม้ว่าครอบครัวของอัศวินมาแชลจะเป็นครอบครัวใหญ่ก็ตามที แต่เนื่องจากอัศวินมาแชลได้รับที่ดินรวมไปถึงปราสาทของตัวเองมาเขาจึงไม่ได้ถูกนับว่ามีความสัมพันธ์กับครอบครัวของตระกูลแฮรี่ที่อยู่ในเมืองเบกองอีกต่อไป นอกจากนี้เองระยะทางระหว่างเมืองสองเมืองยังคงอยู่ห่างกันเกินไปอีกด้วย

 

ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้เองอัศวินมาแชลได้ใส่ใจและเข้มงวดเกี่ยวกับมาตรฐานของงานเลี้ยงเป็นอย่างดี สำหรับคนขี้อวดอย่างอัศวินมาแชลแล้วงานเลี้ยงในครั้งนี้จะต้องถูกจัดออกมาสมบูรณ์แบบให้ได้มากที่สุด

 

“พ่อครับ พ่อต้องการให้ผมส่งคนรับใช้มาจากปราสาทอาเบลไหมครับ?” อาเบลได้ถามขึ้นมาอย่างเร่งรีบ อาเบลตระหนักได้ว่างานเลี้ยงในครั้งนี้ปราสาทแฮรี่กำลังขาดคนรับใช้นั่นเอง

 

“นั่นเป็นความคิดที่ดีมากอาเบล” อัศวินมาแชลตอบรับทันที ตอนนี้เขารู้ดีว่าปราสาทแฮรี่นั้นกำลังเจอกับสถานการณ์อะไร

 

เหล่าบริวารคนรับใช้ที่อยู่ในปราสาทอาเบลไม่ได้เป็นบริวารรับใช้ธรรมดาเท่านั้น เนื่องจากคนบริวารรับใช้เหล่านี้ได้รับการฝึกอบรมมาอย่างดีจากเจ้านายเก่าอย่างลอร์ดแมธริวมาแล้วดังนั้นการที่บริวารรับใช้ของอาเบลจะต้องสามารถทำงานในปราสาทแห่งนี้ได้อย่างแน่นอน

 

อาเบลได้ใช้รถม้า 2 คันที่อยู่ในปราสาทไปที่ปราสาทอาเบลในทันที อาเบลต้องการที่จะตรวจสอบให้มั่นใจว่าจะมีเหล่าบริวารรับใช้เพียงพอก่อนที่จะถึงงานเลี้ยงในตอนเย็น

 

เมื่อถึงช่วงเวลาค่ำคืนปราสาทแฮรี่ก็เต็มไปด้วยแสงที่สว่างไสวในทันที ท่านลอร์ดมาแชลได้ยืนอยู่กลางห้องรับแขกก่อนที่จะพูดต้อนรับแขกทุกคน อาเบลเองยืนอยู่ข้างๆ กับลอร์ดมาแชลพร้อมกับรอยยิ้ม ลอร์ดมาแชลไม่ได้รอช้าเขารีบแนะนำเพื่อนคนอื่นๆ ให้กับอาเบลได้รู้จักในทันที

 

“ยินดีต้องรับท่านเบธแฮม ยินดีต้อนรับอัศวินเบ็นเน็ตต์” พ่อบ้านลินด์เซ่ได้พูดขึ้น คำพูดเหล่านี้ได้ผ่านหูของอาเบลไป

 

ในทันทีที่อาเบลได้ยินอาเบลก็ได้เดินไปที่ทางเข้าในทันที อาเบลต้องการที่จะพูดต้อนรับพ่อของอาเบลเองอย่างอัศวินเบ็นเน็ตต์เป็นการส่วนตัว อาเบลเองก็มีความเคารพอย่างสุดหัวใจให้กับท่านอาจารย์เบธแฮมด้วยเช่นเดียวกัน แม้ว่าอาจารย์เบธแฮมจะเป็นอาจารย์ของอาเบลแต่ในเมืองฮาเวสนั้นเบธแฮมเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงมาก

 

“ท่านพ่อ ท่านอาจารย์ยินดีต้อนรับสู่งานเลี้ยงคืนนี้”

 

อาเบลได้วางแผนทุกอย่างเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อาเบลได้สั่งให้รถม้าสุดหรูหร่าซึ่งควรจะเป็นของขวัญของลอร์ดมาแชลไปรับครอบครัวของอัศวินเบ็นเน็ตต์รวมไปถึงอาจารย์เบธแฮมมาด้วย

 

อัศวินเบ็นเน็ตต์เป็นคนที่ลงมาจากรถม้าเป็นคนแรก เมื่อเขาเห็นอาเบลใบหน้าที่จริงจังของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นสีหน้าที่ยิ้มแย้มทันที คนที่เดินตามลงมาก็คือนอร่านั่นเอง อาเบลและครอบครัวเบ็นเน็ตต์นั้นไม่ได้เจอกันเป็นเวลานานแล้ว ในตอนที่นอร่าเห็นอาเบลดวงตาของเธอก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที แต่ด้วยงานเลี้ยงที่ถูกจัดขึ้นนี้เต็มไปด้วยความยินดี นอร่าจึงพยายามที่จะกลั้นน้ำตาของเธอเอาไว้

 

คนต่อมาที่เดินลงมาจากรถม้าก็คือพี่ชายของอาเบลซัคนั่นเอง เมื่อซัคเห็นอาเบลเขาก็รีบกระโดดลงจากรถม้าก่อนที่จะไปกอดอาเบลในทันที อัศวินเบ็นเน็ตต์ได้ส่งเสียงไอเล็กน้อยเพื่อเตือนว่าตอนนี้ซัคนั้นกำลังทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอยู่นั่นเอง

 

อาเบลหัวไม่อาจจะกั้นหัวเราะได้อีกต่อไป พี่ชายของเขาอย่างซัคเองก็ยังกลัวการตักเตือนของพ่ออยู่ จากนั้นอาเบลก็พูดด้วยรอยยิ้มออกมา “ถ้าพี่เป็นอัศวินอย่างเป็นทางการแล้วผมจะทำชุดเกราะทั้งตัวให้กับพี่เอง”

 

ดวงตาของซัคได้เบิกกว้างขึ้น ซัคหัวเราะออกมาก่อนจะพูดว่า “วันที่นายพูดถึงคงไม่นานเกินพอหรอก เตรียมตัวให้ดีละอาเบล”

 

อาจารย์เบธแฮมได้เดินลงมาจากรถม้าเป็นคนสุดท้าย เบธแฮมได้ยิ้มให้ก่อนที่จะพูดกับอาเบลว่า “รถม้าคนนี้มันสุดยอดจริงๆ ร่างกายที่แก่ชราของฉันไม่ได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดเลย แต่ลอร์ดมาแชลจะไม่โกรธนายหรอกหรออาเบลที่เอารถม้าที่จะเป็นของขวัญวันเกิดเขามาใช้รับฉันแทนน่ะ?”

 

“ถ้าลอร์ดมาแชลรู้ว่าถ้าผมมีรถม้าแล้วไม่ไปรับท่านอาจารย์ตอนนั้นลอร์มาแชลคงจะโกรธมากกว่านี้” อาเบลได้ตอบกลับไปพร้อมกับยื่นมือเพื่อช่วยเบธแฮมลงจากรถ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด