Abe the Wizard 43 พลังที่สามารถขับไล่ศัตรูได้

Now you are reading Abe the Wizard Chapter 43 พลังที่สามารถขับไล่ศัตรูได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

AtW ตอนที่ 43 พลังที่สามารถขับไล่ศัตรูได้

 

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารก่อนใคร ND Translate นิยายแปลไทย

 

การโจมตีของอัศวินมาแชลที่ได้ฟาดฟันออกไปนั้นฟาดฟันออกไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด นี้เป็นความประทับใจที่ทำให้อาเบลไม่อาจที่จะละสายตาไปได้เลย

 

อาเบลไม่สามารถละสายตาจากการฝึกฝนของอัศวินมาแชลได้เลย ในขณะที่อาเบลกำลังมองอัศวินมาแชลใช้ดาบของเขาฟาดฟันอากาศไปในแนวตรง อาเบลรู้ได้ทันทีว่ามีเพียง 2 ทางเลือกเท่านั้นที่อาเบลจะสามารถตอบโต้การโจมตีของอัศวินมาแชลได้ ตัวเลือกแรกคือการโจมตีสวนกลับไป หรือไม่อาเบลก็ทำได้เพียงแค่ถอยกลับไปเท่านั้น

 

หลังจากที่อาเบลจินตนาการการต่อสู้อีกหลายร้อยครั้งด้วยพลังแห่งความมุ่งมั่นของตัวเอง อาเบลก็ไม่เห็นเลยว่าตัวเขานั้นจะสามารถรับมือกับการโจมตีของอัศวินมาแชลได้เลย ไม่ว่ากี่ครั้งในจินตนาการของอาเบล อาเบลก็จะถูกดาบของอัศวินมาแชลฟาดฟันจนร่างกายจนแหลกเป็นชิ้นๆ อยู่ดี

 

หลังจากที่อาเบลได้แพ้มานับครั้งไม่ถ้วนในที่สุดอาเบลก็กลับมาจดจ่อกับตัวเองในโลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้งหนึ่ง เมื่อกลับมาสู่ความเป็นจริงอีกครั้งอาเบลก็รู้ได้ว่าการต่อสู้ที่โลกใบนี้นั้นแตกต่างจากการต่อสู้ในโลกเดิมที่อาเบลเคยอยู่ เนื่องจากในโลกใบนี้การจะต่อสู้กันแต่ละครั้งเหล่านักรบทั้งหลายจะใช้กันแต่อาวุธที่เน้นในการโจมตีทางกายภาพแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เองพวกเขาจึงคุ้นเคยกับการใช้อาวุธและการเคลื่อนไหวที่ไม่ได้ซับซ้อนอะไร แต่ถึงการเคลื่อนไหวจะไม่ได้ซับซ้อนอะไรแต่การเคลื่อนไหวของพวกเขากลับทรงพลังและเป็นการเคลื่อนไหวอย่างสุดพลังอยู่ตลอดเวลา

 

สำหรับโลกใบนี้แล้ว พวกออร์คคือศัตรูของมวลมนุษยชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในตอนนี้เองเรื่องราวทุกอย่างก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นแล้ว หากมนุษย์ไม่ได้ใช้พลังอย่างสุดความสามารถแล้วละก็ คงจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะโจมตีเข้าร่างกายของออร์คที่แข็งเป็นพิเศษได้ พวกออร์คส่วนใหญ่นั้นมีความรวดเร็วและยืดหยุ่นกว่ามนุษย์มาก ดังนั้นแล้วมนุษย์ทั้งหลายจึงไม่มีทางเลือกอื่น การโจมตีโดยตรงในแบบที่เรียบง่ายที่สุดจึงเป็นสิ่งที่มนุษย์สามารถทำได้เพียงเท่านั้น

 

ในตอนนี้อาเบลเป็นอัศวินฝึกหัดระดับ 5 เพียงเท่านั้น อาเบลจึงไม่คุ้นเคยกับเทคนิคการโจมตีในโลกใบนี้เท่าไรนัก ถ้าหากจบการฝึกฝนกับอัศวินมาแชลในวันนี้แล้วละก็อาเบลก็คงจะได้รับมุมมองเกี่ยวกับการต่อสู้ใหม่ๆ จากการฝึกฝนอย่างแน่นอน

 

“อาเบล ลูกกำลังมองหาพ่ออยู่อย่างงั้นหรอ?” อัศวินมาแชลพูดออกมาทันทีที่สังเกตุเห็นอาเบลยืนอยู่

 

“คะ..ครับ” อาเบลที่กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงได้แต่ตอบรับเสียงของอัศวินมาแชล “ผมมาที่นี่เพื่อที่จะทดทอบดาบเล่มใหม่ครับ”

 

ทันใดนั้นเองอัศวินมาแชลก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที ตอนนี้เขากำลังจ้องมองไปที่ดาบเล่มใหม่ที่อยู่ในมือของอาเบล อัศวินมาแชลถามต่อไปอีกว่า “นี่คือดาบเล่มใหม่อย่างงั้นหรอ? แล้วดาบเล่มนี้มีความสามารถอะไรกันล่ะ?”

 

อัศวินมาแชลรู้ดีว่าที่จริงแล้วอาเบลสามารถสร้างดาบเวทย์ได้ทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน แต่ดาบเวทย์ที่อัศวินมาแชลชื่นชอบมากที่สุดก็คือดาบเวทย์น้ำแข็งนั่นเอง แม้ว่าดาบเวทย์น้ำแข็งจะมีพลังการทำลายล้างน้อยกว่าดาบเวทย์เพลิง แต่ดาบเวทย์น้ำแข็งนี้เองสามารถที่จะทำให้ศัตรูที่ถูกดาบฟาดฟันนั้นเคลื่อนไหวได้ช้าลงนั่นเอง ด้วยข้อดีนี้เองจึงทำให้อัศวินมาแชลชอบดาบเวทย์น้ำแข็งมากกว่า

 

อาเบลมาที่ห้องฝึกฝนนี้เพื่อที่จะทดสอบดาบเวทย์เล่มใหม่ ดาบเล่มใหม่เองไม่ใช่ทั้งดาบเวทย์เพลิงและน้ำแข็ง อาเบลไม่รู้เลยว่าจะเรียกดาบเวทย์เล่มใหม่นี้ว่าอะไรกันแน่ ตอนนี้อัศวินมาแชลยังคงตื่นเต้นอยู่ ดาบเวทย์น้ำแข็งร่วมไปถึงธนูแฮรี่ที่อาเบลสร้างขึ้นล้วนแต่เพิ่มพลังการต่อสู้ของอัศวินมาแชลให้มีมากขึ้นทั้งนั้น

 

อาเบลใช้เวลาคิดอยู่พักหนึ่ง เนื่องจากความสามารถของรูนก็คือความสามารถในการขับไล่ศัตรู และในตอนที่อาเบลใช้ดาบเล่มนี้ในการตัดฟืน ดาบเล่มนี้ก็กลับไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากดาบเล่มอื่นทั่วๆ ไปเลย แต่ถ้าหากอาเบลใช้ดาบนี้ในการเข้าปะทะกับศัตรูบางทีอาจจะมีอะไรเกิดขึ้นก็เป็นได้ ดังนั้นเขาจึงมาที่นี่เพื่อมาหาอัศวินมาแชลนั่นเอง

 

“เอ่อ พ่อครับ ผมจะโจมตีพ่อด้วยดาบเล่มนี้ ผมอยากให้พ่อป้องกันการโจมตีจากดาบเล่มนี้ให้ได้ ผมอยากจะรู้ว่ามันจะมีอะไรเกิดขึ้น”

 

“ไม่มีปัญหา” อัศวินมาแชลมั่นใจในพลังของตัวเขาเองเป็นอย่างมาก แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นพลังของอาเบลเองก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน

 

“พร้อมยังครับ?” อาเบลที่กำลังถือดาบเล่มใหญ่อยู่กำลังถามอัศวินมาแชล ในตอนที่อาเบลกำลังจินตนาถึงการต่อสู้กับอัศวินมาแชลอยู่ อาเบลก็รู้ได้ว่าการโจมตีของอัศวินมาแชลนั้นรุนแรงแค่ไหน

 

หลังจากที่อัศวินมาแชลพร้อม ท่าทางทุกอย่างของอัศวินมาแชลก็เปลี่ยนไปในทันที ตอนนี้อัศวินมาแชลกำลังสัมผัสได้ถึงดาบขนาดใหญ่ที่อยู่เหนือหัวของอาเบล ดาบเล่มนี้ทำอะไรได้กันแน่? คงมีแต่เพียงผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นที่จะรู้ว่าดาบเล่มนี้ทำอะไรได้กันแน่

 

ครั้งแรกที่อัศวินมาแชลสามารถใช้พลังลมปราณในการเคลือบดาบได้ก็คือเมื่อ 5 ปีที่แล้วนั่นเอง แต่อาเบลกลับฝึกการใช้ดาบในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น ตอนที่อัศวินมาแชลได้รับเลี้ยงอาเบลมาจากอัศวินเบ็นเน็ตต์ ดูเหมือนว่าเบ็นเน็ตต์จะบอกความสามารถทุกอย่างของอาเบลห้กับอัศวินมาแชลได้รู้แล้ว

 

อาเบลได้เข้าสู่สถานะเดิมอีกครั้ง สถานะนี้เป็นเหมือนกับสถานะในตอนที่อาเบลกำลังสร้างดาบแห่งร้อยทักษะในครั้งแรก พลังลมปราณในการต่อสู้ของอาเบลได้เริ่มไหลเข้ามาสู่ร่างกายของเขามากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ในไม่ช้าร่างกายของอาเบลก็ส่องประกายแสงออกมา ตอนนี้อาเบลรู้สึกได้ว่าตัวเขานั้นเป็นเหมือนกับดาบที่คมกริบ เมื่อพลังงานมาถึงจุดสูงสุดแล้วอาเบลก็รู้สึกได้ทันทีว่าพลังลมปราณของเขานั้นได้ไหลซึมเข้าไปในดาบใหญ่ของเขาแล้ว  แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นความเร็วในการใช้ดาบใหญ่ของอาเบลก็ไม่ได้ลดลงเลย ดาบที่อาเบลได้ใช้ฟาดฟันนั้นผ่านอากาศไปอย่างรวดเร็ว เสียงดาบที่ฟาดฟันผ่านอากาศนั้นดังไปทั่วทั้งห้องฝึกฝน

 

อัศวินมาแชลถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นอาเบลใช้ดาบใหญ่เล่มนี้ ในฐานะที่อัศวินมาแชลเป็นอัศวินระดับกลาง การที่จะตอบโต้การโจมตีของอาเบลได้ไม่ใช่เรื่องที่เกินความสามารถของอัศวินมาแชลเลย แต่ว่าตอนนี้อัศวินมาแชลกลับต้องใช้พลังลมปราณในการต่อสู้กับอาเบลแล้ว อัศวินมาแชลพยายามที่จะใช้พลังลมปราณในการต่อสู้ให้น้อยที่สุด อัศวินมาแชลไม่ต้องการที่จะทำร้ายอาเบลในการฝึกฝนนั่นเอง

 

อัศวินมาแชลกระโดดถอยหลังกลับไปเพื่อจะหลบการโจมตีของอาเบล อาเบลใช้พลังของเขาทั้งหมดไปกับการโจมตีครั้งนี้แล้ว ในตอนนี้แม้แต่จะถือดาบเอาไว้อาเบลก็ยังทำไม่ได้ ดาบที่อาเบลได้ใช้โจมตีนั้นตกลงสู่พื้นทันที อาเบลนั่งลงทันทีหลังจากที่โจมตีเสร็จ ตอนนี้อาเบลได้แต่สูดหายใจครั้งใหญ่อย่างไม่ลดละ

 

อัศวินฝึกหัดแบบอาเบลนั้นสามารถที่จะใช้พลังลมปราณในการต่อสู้ได้มากที่สุดเพียงแค่หนึ่งครั้งต่อวันเท่านั้น ถึงแม้ว่าการใช้พลังลมปราณนั้นจะไม่ได้ทำลายคอร์ของตัวเองไป แต่การที่จะฟื้นพลังลมปราณกลับมาได้นั้นอัศวินฝึกหัดอย่างอาเบลอาจจะต้องใช้เวลาอีกหลายวัน

 

อาเบลที่เพิ่งจะพยายามฟันโดยใช้พลังลมปราณนั้นได้สูญเสียพลังลมปราณทั้งหมดในร่างกายไปแล้ว

 

“เกิดอะไรขึ้นกัน?” อาเบลถามขึ้น ตอนนี้อาเบลกำลังนั่งลงอยู่บนพื้น อาเบลรู้สึกเวียนหัวเป็นอย่างมาก

 

อัศวินมาแชลรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเขาเองนั้นไร้ความสามารถเป็นอย่างมาก อัศวินมาแชลรู้สึกด้อยค่าราวกับว่าตัวเขาเองนั้นเป็นแค่หมูยังไงยังงั้น อัศวินมาแชลใช้เวลาตลอดทั้งชีวิตของเขากว่า 30 ปีในการใช้พลังลมปราณในการฟันดาบแบบอาเบล แต่ตอนนี้กลับมีเด็กอายุเพียง 13 ปีเท่านั้น อาเบลในวัย 13 ปีสามารถที่จะใช้พลังลมปราณในการฟาดฟันดาบของเขาได้แล้ว

 

ในฐานะที่เป็นชายวัยกลางคนแล้ว อัศวินมาแชลไม่เคยประสบความสำเร็จอะไรที่ยิ่งใหญ่แบบอาเบลมาก่อน แต่เด็กอย่างอาเบลกลับใช้พลังลมปราณในการต่อสู้ได้หลังจากที่ทดลองใช้เพียง 2 ครั้งเท่านั้น ทำไมความแตกต่างระหว่างอาเบลกับคนธรรมดาทั่วไปถึงได้แตกต่างกันถึงขนาดนี้

 

ทันใดนั้นเองอัศวินมาแชลก็ได้เปลี่ยนใจในทันที ตอนนี้อัศวินมาแชลจำได้แล้วว่าเด็กคนนี้เป็นเหมือนกับผู้สืบทอดของเขา ทันใดนั้นเองอัศวินมาแชลก็กลับมารู้สึกมีความสุขอีกครั้ง ท้ายที่สุดแล้วตระกูลแฮรี่ก็จะได้อาเบลเป็นผู้สืบทอดในท้ายที่สุด

 

“ตอนนี้ลูกเข้าใจแล้วใช่ไหมว่าการใช้พลังลมปราณในการต่อสู้นั้นเป็นยังไง?” อัศวินมาแชลได้ถามอาเบลพร้อมกับยิ้มให้กับเขา

 

“ไม่ครับ ตอนนี้ผมรู้สึกหมดแรงแล้ว จะต้องเป็นแบบนี้ทุกครั้งหลังใช้พลังลมปราณในการต่อสู้เลยหรอครับ?” อาเบลได้ถามกับอัศวินมาแชล ตอนนี้อาเบลรู้สึกหมดแรงไปแล้ว อาเบลรู้ได้ทันทีว่าการใช้พลังลมปราณในการฟันดาบนั้นจะสร้างภาระให้กับร่างกายของตัวเขาเองขนาดไหน

 

อัศวินมาแชลจ้องอาเบลด้วยสายตาเยือกเย็น ตอนนี้อัศวินมาแชลใช้มือของเขาลูบไปที่หัวของอาเบล อัศวินมาแชลกำลังสงสัยว่าเขาควรที่จะสอนบทเรียนให้กับอาเบลในตอนนี้ดีไหม ดูเหมือนว่าอาเบลในตอนนี้จะยังไม่พร้อมสำหรับบทเรียนที่อัศวินมาแชลจะสอน

 

“ทำไมพ่อถึงเลือกที่จะถอยละครับ? หรือว่า…พ่อกระเด็นถอยหลังกัน?” อาเบลพูดอย่างสงสัย อาเบลรู้สึกตกใจทันทีที่อัศวินมาแชลได้เปลี่ยนตำแหน่งไป

 

“บ้าไปแล้วอย่างงั้นหรอ? พ่อถอยกลับไปด้วยตัวของพ่อเองต่างหาก” อัศวินมาแชลได้ตอบกลับอาเบลไปในทันที ตอนนี้อัศวินมาแชลไม่รู้ว่าอาเบลกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

อาเบลยืนขึ้นอย่างรู้สึกผิดหวัง ตอนนี้อาเบลสามารถฟื้นฟูพลังกลับมาได้บางส่วนแล้ว แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นพลังลมปราณสำหรับการต่อสู้ของอาเบลก็ได้หมดไปแล้ว ตอนนี้อาเบลมีเพียงเมอร์ริเดียนเปล่าๆ เท่านั้น แต่ถึงแบบนั้นอาเบลก็ไม่ได้คิดจะใช้พลังลมปราณในการต่อสู้อีกต่อไป

 

“ครั้งนี้ผมจะใช้แต่พลังจากร่างกายของผมเพียงเท่านั้น ดังนั้นผมอยากให้พ่อป้องกันการโจมตีของผมให้ได้” อาเบลพูดในขณะที่เขากำลังยกดาบขึ้นเหนือหัวอีกครั้ง เนื่องจากพลังของอาเบลยังไม่ฟื้นฟูกลับมาเต็มที่ ตอนนี้อาเบลจึงไม่สามารถที่จะเคลื่อนที่ได้รวดเร็วอีกต่อไปแล้ว

 

อัศวินมาแชลได้ตั้งท่าป้องกันขึ้นอีกครั้ง ตอนนี้อัศวินมาแชลได้วางดาบของตัวเองเอาไว้ที่ด้านหน้าของอกตัวเองแล้ว อัศวินมาแชลกำลังมองไปที่อาเบลอย่างไม่ละสายตาคล้ายกับจะบอกกับอาเบลว่าตอนนี้อัศวินมาแชลนั้นพร้อมแล้วนั่นเอง

 

อาเบลไม่รอช้า หลังจากที่เขารู้แล้วว่าอัศวินมาแชลพร้อม อาเบลก็ใช้ดาบใหญ่ของเขาฟาดฟันลงไปทันที ตอนนี้ดาบใหญ่ของอาเบลกำลังฟาดฟันผ่านอากาศไปอย่างช้าๆ อัศวินมาแชลรู้สึกได้ว่าเขาไม่จำเป็นจะต้องใช้พลังอะไรในการรับมือการโจมตีของอาเบลมากนัก

 

ช่วงเวลาที่ดาบของพวกเขาทั้งสองคนเข้าปะทะกัน ตอนนั้นเองเสียงดาบที่ปะทะกันไม่ได้ดังเหมือนกับที่อัศวินมาแชลได้คิดไว้

 

เมื่ออัศวินมาแชลกำลังจะหัวเราะเยาะอาเบลกับการโจมตีที่อ่อนแรงนี้ ทันใดนั้นเองดาบใหญ่ที่อาเบลได้ใช้ก็ปล่อยแรงอะไรบางอย่างออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง แรงนั้นเองไม่ได้ทำร้ายอะไรร่างกายของอัศวินมาแชล แต่แรงนั้นค่อยๆ หนักมากขึ้นเรื่อยๆ อัศวินมาแชลไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากจะต้องถูกกระแทกกระเด็นกลับถอยหลังไป 1 ก้าว.. 2 ก้าว.. 3 ก้าว.. อัศวินมาแชลถูกบังคับให้ต้องถอยหลังไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายแล้วอัศวินมาแชลต้องถอยหลังไปมากถึง 10 ก้าวกว่าที่อัศวินมาแชลจะสามารถหยุดแรงนี้เอาไว้ได้

 

สีหน้าที่แสดงถึงความอวดดีบนใบหน้าของอัศวินมาแชลนั้นกำลังจางหายไป ตอนนี้สีหน้าของอัศวินมาแชลกำลังเต็มไปด้วยความตกใจ ตอนแรกอัศวินมาแชลมั่นใจอย่างเต็มที่ว่าด้วยพละกำลังของเขาที่มีอยู่แล้วจะต้องสามารถต้านทานการโจมตีของอาเบลที่อ่อนแรงได้อย่างแน่นอน พลังที่ไหลออกมาจากดาบนี้ทำให้อัศวินมาแชลไม่สามารถที่จะต้านทานได้เลย เมื่ออัศวินมาแชลได้เจอกับแรงที่หนักอึ้งแบบนี้ทำให้อัศวินมาแชลนึกถึงผู้บังคับบัญชาในสมัยอดีต แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นแรงที่ดาบของอาเบลได้ปล่อยออกมาก็ไม่สามารถที่จะเปรียบเทียบอะไรกับแรงในตอนนั้นได้เลย

 

ที่จริงแล้วพลังที่ไหลออกมาอย่างไม่หยุดยั้งนี้เป็นพลังจากรูนบนดาบของอาเบลนั่นเอง เมื่ออาเบลโจมตีไปที่ดาบของอัศวินมาแชลความสามารถของรูนในการ “ขับไล่ศัตรู” ก็ถูกแสดงออกมาในทันที ด้วยความสามารถนี้เองทำให้ตัวของอัศวินมาแชลนั้นต้องกระเด็นถอยหลังกลับไป เมื่อดาบของอาเบลเข้าปะทะกับดาบของอัศวินมาแชลรูนที่ประทับอยู่บนดาบก็รู้ได้ทันที่ว่าอัศวินมาแชลนั้นมีพลังเหนือกกว่าอาเบลมาก ดังนั้นแล้วพลังของรูนจึงแสดงออกมานั่นเอง

 

“อะไรกัน… ดาบเล่มนี้มีความสามารถอะไรกันแน่?” อัศวินมาแชลถามด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย เห็นได้ชัดว่าตอนนี้อัศวินมาแชลคิดจะยึดดาบของอาเบลไว้กับตัวเอง

 

“พลังที่สามารถขับไล่ศัตรูได้? ดูเหมือนว่าดาบจะมีความสามารถเป็นอย่างงั้นนะครับ” อาเบลพูดในขณะที่จ้องมองดาบอย่างมีความสุข ตอนนี้อาเบลประสบความสำเร็จอีกครั้งแล้ว

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด