Abe the Wizard 47 โจมตีและป้องกัน

Now you are reading Abe the Wizard Chapter 47 โจมตีและป้องกัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

AtW ตอนที่ 47 โจมตีและป้องกัน

 

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารก่อนใคร ND Translate นิยายแปลไทย

 

นกกระจอกแห่งท้องนภานั้นเป็นเหมือนกับอาวุธลับในเชิงกลยุทธ์ของพวกอาณาจักรออร์คนั่นเอง นกกระจอกแห่งท้องนภานั้นมีความสามารถในการบรรทุกของที่น่าประทับใจเป็นอย่างมาก ช่วงไหล่ที่กว้างของมันสามารถขนของได้มากกว่าน้ำหนักออร์คถึง 5 เท่าด้วยกัน ด้วยเหตุนี้เองพวกนกกระจอกแห่งท้องนภานั้นจึงกลายเป็นพาหนะการขนส่งที่ดีที่สุดที่อาณาจักรออร์คจะหาได้

 

ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของนกกระจอกแห่งท้องนภานั้นคือความขี้ขลาดของพวกมันนั่นเอง เมื่อพวกนกตกอยู่ในความหวาดกลัวนั้นพวกมันจะทำได้แค่บินไปบินมาบนท้องฟ้าเท่านั้น ถึงจะเป็นแบบนั้นพวกออร์คทั้งหลายก็เลือกใช้นกยักษ์ตัวนี้เป็นสัตว์ขี่อยู่ดี นอกจากขนาดที่ใหญ่รวมไปถึงความสามารถในการแบกของได้หนักแล้วนกพวกนี้สามารถที่จะบินได้ในระยะที่ไกลอีกด้วย

 

สัตว์ขี่ที่บินได้พวกนี้เองมีความคล้ายคลึงกับม้าศึกที่พวกมนุษย์ใช้กันมาก

 

นกกระจอกแห่งท้องนภานี้เป็นเหมือนกับสัตว์ขี่ที่มีค่าเป็นอย่างมากอย่างหมาป่าของพวกวูฟไรเดอร์นั่นเอง สัตวขี่เหล่านี้เป็นเหมือนกับทรัพย์สินอันมีค่าในการทำสงคราม แต่นกกระจอกแห่งท้องนภาเองไม่เหมือนกับสัตว์ขี่ตัวอื่นๆ พวกมันไม่ได้มีส่วนร่วมในการต่อสู้โดยตรงนั่นเอง น่าเสียดายที่สัตว์ขี่ที่บินได้ของพวกมนุษย์นั้นมีแต่พวกอีแร้งเท่านั้น โดยพวกอีแร้งเองจะถูกฝึกฝนโดยดยุคเซนท์อลิซ

 

การสืบพันธุ์ของนกกระจอกแห่งท้องนภาพวกนี้เป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้ยากอย่างเป็นอย่างมาก ทุกวันนี้การที่จะได้เห็นนกกระจอกแห่งท้องนภาพวกนี้จึงเป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้ยากนั่นเอง แน่นอนว่าการที่อาณาจักรออร์คจะต้องสูญเสียพวกนกเหล่านี้จะต้องเป็นความเสียหายครั้งยิ่งใหญ่ของอาณาจักรออร์คอย่างแน่นอน

 

ตอนนี้ทหารที่เฝ้าอยู่ทางเข้าหุบเขาได้ทำการปิดผนึกทางเข้าโดยใช้ก้อนหินขนาดยักษ์ที่มีความสูง 10 เมตรปิดทางเข้าหุบเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

เสียงของก้อนหินก้อนยักษ์ที่ถูกผลักลงมาจากด้านบนภูเขานั้นทำให้เหล่าออร์คทั้งหลายตกใจในทันที ความสุขที่พวกออร์คได้เห็นพวกนกจากบนท้องฟ้านั้นถูกขัดจังหวะไป ตอนนี้กลุ่มของพวกออร์คบางส่วนนั้นกำลังเคลื่อนตัวออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

 

หินที่ถูกผลักลงมาก่อนหน้านี้ถูกราดไปด้วยน้ำมันก่อนที่จะจุดไฟเผาไปในทันที เมื่อพวกออร์คทั้งหลายเดินมาถึงหินก้อนนี้พวกมันก็เห็นแต่เปลวไฟที่ปกคลุมหินแล้ว ทางเข้าของหุบเขานี้ถูกปิดสนิทอย่างสมบูรณ์แบบ

 

นกกระจอกแห่งท้องนภานั้นได้หยุดบินลงมาที่หุบเขาทันทีที่พวกมันเห็นสถานการณ์ที่แปลกไปบนพื้นดินในตอนนี้ โชคดีที่พวกออร์คนั้นอยู่ไกลจากทางเข้าหุบเขาเป็นอย่างมาก ถ้าหากพวกออร์คอยู่ใกล้กับทางเข้าหุบเขาพวกมันไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับนกกระจอกแห่งท้องนภาของพวกมันกันแน่ พวกนกทั้งหมดจะต้องตกอยู่ในความกลัวอย่างแน่นอน ในตอนนี้คนที่คอยควบคุมนกยักษ์ทั้งหลายทำได้เพียงพยายามทำให้พวกนกสงบลงเท่านั้น

 

ในระหว่างที่พวกออร์คทั้งหลายนั้นตกอยู่ในความสับสน ก็ได้มีกลุ่มของวูฟไรเดอร์กว่า 10 ตัวที่แสดงท่าทีที่แตกต่างจากพวกออร์คตัวอื่นๆ หนึ่งในวูฟไรเดอร์กลุ่มนั้นที่กำลังยืนอยู่ตรงกลางสวมชุดเกราะแบบชาวสยามสีดำ ส่วนวูฟไรเดอร์อีก 9 ตัวนั้นใส่เพียงชุดเกราะหนังเต็มตัวเท่านั้น

 

“ท่านครับ ดูเหมือนว่ามีอะไรบางอย่างที่ไม่ถูกต้องกำลังเกิดขึ้น ผมคิดว่าพวกมนุษย์ต้องมาดักซุ่มโจมตีพวกเราอย่างแน่นอนครับ” วูฟไรเดอร์ตัวหนึ่งพูดด้วยสีหน้าที่น่ากลัวของตัวมัน

 

“รีบเอาเหรียญของฉันไปแสดงให้ทุกคนเห็นซะ ตอนนี้ต้องฟังคำสั่งของฉันให้เร็วที่สุด” วูฟไรเดอร์ที่ยืนอยู่ตรงกลางกำลังพูดอย่างใจเย็น แม้ว่าสถานการณ์ในปัจจุบันจะวุ่นวายมากขึ้นแต่ความเยือกเย็นของวูฟไรเดอร์ตัวนี้ก็ไม่ได้ลดลงไปเลย

 

“ทุกคนจงฟังฉันซะ ตอนนี้ฉันมีเหรียญตราประจำตระกูลวูลฟแล้ว ทุกคนรวมกลุ่มกันซะ ตอนนี้พวกเราจะต้องร่วมกลุ่มกันให้เร็วที่สุด!” ในตอนนี้วูฟไรเดอร์ตัวหนึ่งที่กำลังถือเหรียญตรากำลังตะโกนขึ้นอย่างเสียงดัง

 

ทันใดนั้นเองออร์คที่กำลังตกอยู่ในความวุ่นวายก็เงียบลงไปในที่สุด พวกออร์คทั้งหลายต่างก็รวมกลุ่มกันอย่างรวดเร็วขึ้นมาในทันที

 

“ฉันชื่อฟาวเลอร์ ฉันเป็นลูกชายคนที่ 6 ของตระกูลวูลฟ ออร์คทุกตัวจนฟังคำสั่งของฉันซะ ทุกตัวจงเงียบ!” ฟาวเลอร์กำลังสั่งการพร้อมกับมองไปที่ออร์คทุกตัว ตอนนี้ออร์คทุกตัวได้เงียบสงบลงแล้ว “พวกเราเป็นออร์คที่ทรงพลงที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย พวกมนุษย์นั้นใช้วิธีที่แสนสกปรกเพื่อที่จะดักซุ่มโจมตีพวกเราในตอนนี้… ตอนนี้พวกเราจะต้องสู้เท่านั้น! นี่คือทางเลือกเดียวของพวกเรา!”

 

เมื่อฟาวเลอร์หันขึ้นไปมองบนท้องฟ้าเขาก็ตะโกนออกไปอีกว่า “ตอนนี้พาหนะสำหรับใช้กลับบ้านของพวกเราอยู่เพียงแค่เหนือหัวของพวกเราเท่านั้น แน่นอนว่านกพวกนั้นจะไม่บินลงมาบนพื้นดินตราบที่พวกเรายังไม่สามารถจัดการศัตรูทัง้หมดลงได้ พวกเรายังต้องการที่จะกลับบ้านกันอีกไหม? พวกเราอยากที่จะมีชีวิตอยู่อีกไหม? พวกเราต้องสู้เท่านั้น! ขอให้เทพเจ้าแห่งสัตว์ร้ายคุ้มครองพวกเราด้วย! ขอให้เหล่าออร์คทั้งหลายคว้าชัยชนะมา!”

 

“พวกเราต้องชนะ! ในตอนนี้จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของพวกออร์คได้ถูกปลุกขึ้นมาจากส่วนลึกในหัวใจของพวกมันแล้ว แม้ว่าออร์คจะมีเพียง 160 ตัวเท่านั้นแต่เสียงกู่ร้องของพวกมันนั้นก็ดังกึกก้องไปทั่วทั้งหุบเขา “พวกเราจะต้องชนะ” เป็นเสียงที่ถูกตะโกนดังขึ้นมาไปทั่วทั้งหุบเขา

 

อัศวินซาโรหยานที่กำลังประเมินสถานการณ์ในหุบเขาอยู่พูดกับอัศวินทั้งสองคนที่กำลังยืนอยู่เคียงข้างเขา “ฉันคิดว่าเราควรจะปล่อยให้พวกมันเคลื่อนไหวอย่างโกลาหลต่อไปซักพัก รอจนกว่าพวกมันจะสับสนมากพอพวกเราค่อยโจมตีกันจะดีกว่า แต่ใครจะไปรู้กันละว่าพวกมันจะสงบและเยือกเย็นได้เร็วขนาดนี้ แต่ยังไงพวกเราก็ต้องมีประสบการณ์ในสนามรบมากกว่าพวกออร์คอยู่แล้วจริงไหม!”

 

อัศวินเบอร์นอลชักดาบของตัวเองออกมาพร้อมท่าทีที่พร้อมต่อสู้ก่อนจะพูดออกไปว่า “พวกเราโจมตีพวกมันตอนนี้เลยดีไหมท่านลอร์ด?”

 

อัศวินซาโรหยานพยักหน้าให้กับทหารที่คอยรับคำสั่ง ตอนนี้พวกทหารได้กำลังเคลื่อนไหวขั้นต่อไปแล้ว ทหารคนนี้ได้ตะโกนสั่งการเสียงดังขึ้น “หน่วยป้องกันเคลื่อนพลไปข้างหน้า ส่วนหน่วยซุ่มยิงนั้นเคลื่อนพลต่อหน่วยป้องกันทันที ตอนนี้พวกเราเตรียมพร้อมที่จะโจมตีได้”

 

เมื่อเบอร์นอลได้รับคำสั่งเขาก็นำทหารกว่า 800 นายนั้นเข้าประจำการในหุบเขาตามแผนการรบอย่างรวดเร็วในทันที ทหารหน่วยป้องกันที่ใช้โล่ห์นั้นมีจำนวนกว่า 150 คน ตอนนี้พวกเขาได้ชูโล่ห์สูงขึ้นมาเตรยมพร้อมด้วยแขนของพวกเขาแล้ว แนวหน้าของกำลังพลที่กำลังจะเคลื่อนทัพนั้นเป็นแนวสำหรับการป้องกันที่พร้อมแล้ว

 

ด้านหลังของหน่วยการป้องกันเองมีกองพลมือปืนกว่า 200 คนกำลังเดินตามทหารหน่วยป้องกันอย่างใกล้ชิด ขนาดปืนที่พวกเขาใช้เองมีความยาวกว่า 5 เมตรด้วยกัน ปืนไรเฟิลของกองพลมือปืนนั้นถูกสร้างมาจากเหล็กชั้นดี ด้วยกระสุนที่ถูกยิงจากปืนเองสามารถที่จะทะลุเกราะที่ไม่ได้หนาอะไรได้

 

เมื่อพบเห็นขบวนการเดินทัพในตอนนี้ไม่แปลกเลยถ้าจะมีคนคิดว่าแนวหน้าสำหรับการเคลื่อนพลนี้เป็นเหมือนกับเต่าในกระดอง แนวหน้านั้นถูกป้องกันเอาไว้อย่างแน่นหนา ส่วนกองกำลังพลที่โจมตีหลักๆ นั้นจะเป็นมือธนูนั่นเอง มือธนูทุกคนนั้นจะใช้ธนูยาว แน่นอนว่าอาวุธอย่างธนูนั้นก็ยังคงเป็นอาวุธที่มีประสิทธภาพสูงสุดในการโจมตีระยะไกลในเวลานี้แล้ว

ในเวลานี้เองพวกออร์คทั้งหลายที่ได้รวมตัวกัน 160 ตัวล้วนแต่มีความสามารถในการต่อสู้ที่อยู่เหนือกว่าระดับ 6 ขึ้นไปทุกตัว ที่แนวหน้าหมีขนาดยักษ์ขนสีขาวกำลังเคลื่อนที่อยู่ บนหมีตัวยักษ์เองมีชายที่มีลักษณะคล้ายหมีขี่อยู่ นอกเหนือจากหมีตัวนี้แล้วยังมีวัวทอเรนที่บ้าคลั่งที่ถูกขี่โดยวูฟไรเดอร์อีกด้วย วูฟไรเดอร์ทั้งหลายนั้นยืนล้อมฟาวเลอร์เอาไว้นั่นเอง

 

เมื่อพวกออร์คทั้งหลายรวมตัวกันขึ้นเพื่อที่จะพุ่งเข้าโจมตีพวกมนุษย์ ในตอนที่พวกมันอยู่ห่างออกไปประมาณ 150 เมตรนั้น รองผู้บัญชาการการรบในครั้งนี้ก็ได้สั่งให้เหล่าพลธนูนั้นยิงธนูโจมตีพวกออร์คในทันที หลังจากที่ลูกธนูถูกยิงออกไปพวกพลธนูไม่รอช้าเขารีบรีโหลดลูกธนูลูกใหม่ในทันที

 

“แถวแรกยิงซะ!” ผู้ที่คอยสั่งการทหารทั้งหมดนั้นได้สั่งพลธนูกว่า 150 คนที่กำลังยืนเรียงแถวกันให้ยิงธนูขึ้นไปบนท้องฟ้าในทันที

 

“แถวที่สองยิงได้!” ทันทีที่พลธนูแถวแรกยิงธนูออกไป ทหารคนนั้นก็ได้สั่งการให้พลธนูที่อยู่แถวที่สองนั้นยิงธนูตามต่อไปทันที หลังจากที่มือธนูทุกคนยิงธนูออกไปแล้ว พวกเขาก็ไม่รอช้าพวกเขารีบหยิบลูกธนูลูกใหม่ออกมาจากซองธนูในทันที

 

“แถวที่สามยิงซะ!” ตอนนี้พลธนูแถวที่สามได้ยิงธนูขึ้นไปบนฟ้าตามแถวที่สองทันที

 

หลังจากที่ธนูของพลธนูแถวที่สามถูกยิงออกไป ลูกธนูที่ถูกยิงไปก่อนหน้านี้ก็ได้ตกลงมาคล้ายกับห่าฝนในทันที

เมื่อลูกธนูห่าฝนได้ตกลงมาใส่พวกออร์ค พวกออร์คทั้งหลายก็ได้แตกแถวในทันที พวกออร์คหลายตัวได้สูญเสียสัตว์ขี่ไปในการโจมตีครั้งนี้ ในตอนนี้มีเพียงโอกาสเดียวที่พวกออร์คจะสามารถเอาชนะพวกมนุษย์ได้ พวกออร์คจะต้องเร่งความเร็วสูงสุดเพื่อที่จะเข้าใกล้มนุษย์ให้ได้ในตอนนี้

 

พวกออร์คใช้เวลาเพียงสั้นๆ เท่านั้นตอนนี้ระยะห่างระหว่างพวกออร์คกับกองทัพของมนุษย์นั้นได้ห่างเหลือเพียง 50 เมตรเท่านั้น ตอนนี้พวกออร์คนั้นต้องตัดใจทิ้งสมาชิกพวกออร์คกว่า 40 ตัวที่อยู่ข้างหลังแล้ว เมื่อออร์คทั้งหลายเข้ามาใกล้กองกำลังที่ใช้ปืนมากขึ้น ตอนนี้พวกมือปืนนั้นได้เห็นคมเขี้ยวที่แหลมคมของพวกออร์คแล้ว การปะทะกันระหว่างสองกลุ่มกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว

 

“ใช้พลังลมปราณซะ!” ฟาวเลอร์ตะโกนสั่งขึ้น ในตอนนี้พวกออร์คทั้งหมดกำลังเรืองแสงสีขาวขึ้นแล้ว ทั้งสองฝ่ายใกล้ที่จะปะทะกันเต็มที่

 

กลุ่มกองพลที่ใช่ปืนนั้นใช้ปืนของพวกเขาแทงไปที่ร่างของออร์คอย่างไม่หยุดยั้ง แต่เนื่องจากร่างกายอันแข็งแกร่งของพวกออร์คแล้วทำให้ปืนนั้นแตกเป็นชิ้นๆ ในที่สุด

 

กลุ่มที่คอยใช้โล่ห์ป้องกันนั้นได้รับความเสียหายจากการโจมตีของพวกออร์คมากที่สุดแล้ว พลังของพวกออร์คในการพุ่งเข้าใส่เป็นอะไรที่ทรงพลังอยู่แล้วดังนั้นจึงมีทหารที่ถือโล่ห์หลายคนถูกชนกระเด็นไป

 

ในตอนนี้ในสนามการต่อสู้กำลังเต็มไปด้วยฉากนองเลือด ตอนนี้ในสนามรบเหมือนกับนรกเข้าไปทุกที ในสนามรบมีทั้งเลือดของมนุษย์และเลือดของออร์คนั้นผสมผสานกันจนแยกไม่ออก เสียงครวญครางของพวกออร์ครวมไปถึงเสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานนั้นกำลังดังมาจากทั้ง 2 ข้างของสนามรบ

 

แม้ว่าพวกออร์คนั้นจะพุ่งโจมตีแนวป้องกันของพวกมนุษย์โดยตรง ถึงการต่อสู้แบบนี้พวกออร์คที่มีพละกำลังที่ทรงพลังกว่ามนุษย์จะได้เปรียบมากแต่ตอนนี้พวกออร์คก็ได้ตายไปแล้วกว่า 30 ตัว ถ้าหากจะเทียบกันในระยะเวลาสั้นๆ แล้วพวกออร์คย่อมมีทั้งพละกำลังและความเร็วมากกว่าพวกมนุษย์อยู่แล้ว ภายใต้การออกคำสั่งของฟาวเวอร์นั้นทำให้พวกออร์คทั้งหลายรีบฝ่าวงล้อมกันอย่างรวดเร็วมากขึ้น ถ้าหากการต่อสู้ยังยืดยื้อต่อไปพวกออร์คจะถูกมนุษย์กดดันให้ต้องแพ้ไปในที่สุด

 

ผู้ที่คอยสั่งกำลังพลทั้งหมดกำลังยืนอยู่ทางด้านซ้ายของพลธนูแถวที่ 3 ตอนนี้เขากำลังยืนมองการต่อสู้ที่อยู่ด้านหน้าของเขาอย่างไร้อารมณ์ ทันใดนั้นเองชายคนนั้นก็ได้ตะโกนขึ้นมาว่า “เปลี่ยนเป็นมีดซะ” ก่อนที่จะโบกมือสั่งการทหารในทันที

มือธนูทั้งหลายที่กำลังถือธนูอยู่นั้นปล่อยธนูให้ตกลงสู่พื้นทันที ตอนนี้พวกเขาได้ชักดาบออกมาจากเข็มขัดของพวกเขาแล้ว ในตอนนี้ความตายได้เข้ามาใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ตอนนี้ทหารทุกคนทำได้เพียงทุ่มเทพลังทั้งหมดในการสังหารออร์คตรงหน้าเท่านั้น

 

ทหารที่คอยสั่งการการต่อสู้ได้หยิบดาบทหารออกมาจากเอวของเขา ตอนนี้ได้มีออร์คได้ฝ่าแนวป้องกันจนมาถึงหน่วยพลธนูได้แล้ว ตอนนี้ออร์คกำลังพุ่งเข้ามาเพื่อจัดการพลธนูในทันที

 

พวกออร์คที่กำลังถูกระตุ้นด้วยเลือดแห่งสัญชาตญาณแห่งการต่อสู้นั้นกำลังใช้ดาบของพวกมันเข่นฆ่ามนุษย์อย่างเต็มที่ ดวงตาของพวกออร์คนั้นเต็มไปด้วยความปรารถาที่จะต่อสู้อย่างแรงกล้า พลธนูสำหรับพวกออร์คแล้วก็เป็นเหมือนกับลูกแกะที่กำลังรอคอยมือสังหารนั่นเอง ดวงตาของพวกออร์คส่องประกายความบ้าเลือดออกมาอย่างไม่สิ้นสุด ตอนนี้ลูกแกะทั้งหลายกำลังอยู่ต่อหน้ามือสังหารแล้ว

 

ก่อนที่พวกออร์คทั้งหลายจะพุ่งตรงมาที่เหล่าพลธนู เหล่าพลธนูที่อยู่ด้านหน้านั้นก็ได้พุ่งเข้าใส่พวกออร์คก่อนแล้ว ตอนนี้ขาของพวกออร์คทั้งหลายนั้นถูกโจมตีไป การเคลื่อนไหวของพวกมันจึงช้าลงเป็นอย่างมาก

 

ทหารที่คอยสั่งการการรบนั้นกำลังเร่งความเร็วของตัวเองจนไปถึงแถวที่สองของพลธนูแล้ว ตอนนี้พลธนูทั้งหลายไม่อาจที่จะต้านทานออร์คได้อีกต่ไป เวลานี้พวกออร์คนั้นได้บุกเข้าในใจกลางกองทัพของพวกมนุษย์ได้สำเร็จแล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด