Scholar’s Advanced Technological System 1166 โปรเจกต์งานวิจัยจากวอยด์

Now you are reading Scholar’s Advanced Technological System Chapter 1166 โปรเจกต์งานวิจัยจากวอยด์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ความทรงจำวอยด์ทั้งสองความทรงจำเป็นของนายพลเรนฮาร์ท

ถ้าลู่โจวคิดถูก เสี่ยวไอก็อาจจะเคยเป็นเรือปัญญาประดิษฐ์อัจฉริยะบนยานอวกาศหลบหนีมาก่อน

หลังจากที่เรนฮาร์ทตาย ทุกอย่างรอบๆ ตัวเขาเริ่มหายไป โลกแตกออกมาเป็นอนุภาคสีฟ้าซีด มันแตกกระจายไปเหมือนผีเสื้อ

ตอนที่ลู่โจวกลับมาได้สติ เขากำลังยืนอยู่ในพื้นที่สีขาว ตรงหน้าของเขาคือชายที่เรียกตัวเองว่าผู้สังเกตการณ์

ลู่โจวกลืนน้ำลายและพูดด้วยน้ำเสียงลังเล

“…ดังนั้นคาลาเนียนเอ็มไพร์ถูกทำลายเหรอ”

“การล่มสลายของเอ็มไพร์เป็นขั้นตอนที่ยาวนาน…” ผู้สังเกตการณ์พยักหน้าและยิ้ม “ออราเคิลเป็นสาเหตุแห่งความขัดแย้งนี้ และความขัดแย้งนี้ก็นำไปสู่สงครามกลางเมือง สงครามกลางเมืองสร้างสนามรบในเอ็มไพร์ แต่ไม่ก็ไม่สามารถตกลงกันได้ สงครามกลายเป็นการสู้รบทางชีววิทยาที่มีไวรัสแพร่กระจายผ่านโครงข่ายประสาทในสมอง ซึ่งน่ากลัวกว่าอาวุธใดๆ พวกเขาใช้เวลาหลายร้อนปีในการกำจัดอาวุธของพวกเขา และใช้เวลาเพียงแค่ห้าปีในการสร้างมันคือมาใหม่”

“สงครามหลักจบลง แต่สงครามเล็กๆ ยังคงดำเนินต่อ ในการที่จะตอบสนองความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นต่ออุปทานทั่วโลก พวกเขาจะต้องใช้เรือรบในการขนส่งเรือขนส่ง กว่า 150 ปีต่อมา ริงเวิร์ลค่อยๆ เสียการควบคุมต่อดาวใกล้เคียง ความขัดแย้งภายในทำให้ริงเวิร์ลไม่มั่นคงอีกต่อไป”

“ถ้าคุณสนใจประวัติศาสตร์ในช่วงนี้ คุณสามารถคำนวณความทรงจำต่อก็ได้นะ เริ่มจากตัวเลขหลักที่ 5.67 ล้านล้านของ n และจบที่ 157.5 ล้านล้าน มันบันทึกประวัติศาสตร์ในอีก 150 ปีของเอ็มไพร์”

“ถ้าให้พูดตรงๆ การรวบรวมข้อมูลที่ล้ำค่าเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ มันยากสำหรับเราในการนำพามันมาสู่จักรวาลใหม่ หลังจากที่บทสนทนาของเราจบลง ผมแนะนำให้คุณบันทึกเลขนี้ไว้และคำนวณต่อ บางทีมันอาจจะทำให้อารยธรรมของคุณตาสว่างก็ได้”

ลู่โจวพยักหน้าและสูดลมหายใจเข้า

“บอกผมมาตรงๆ เลย คุณต้องการให้ผมทำอะไร”

ผู้สังเกตการณ์ยิ้ม

“คุณจะต้องทำโปรเจกต์วิจัย”

“…โปรเจกต์วิจัยเหรอ

“ใช่แล้ว” ผู้สังเกตการณ์พยักหน้าและพูด “จักรวาลก็เหมือนแหตกปลาขนาดใหญ่ มีเพียงผู้โชคดีไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถหลบหนีออกจากแหนี้ได้ ก่อนที่เราจะไปที่เดอะวอยด์ เราสังเกตการณ์มาหลายอารยธรรมในจักรวาลเก่าแล้ว ถ้าไม่มีการเดินทางด้วยความเร็วเหนือแสง พวกเขาก็สามารถเดินทางไปนอกระบบสุริยะด้วยวิธีการที่ช้ากว่า แต่อารยธรรมส่วนใหญ่ไม่สามารถมีชีวิตรอดได้นาน”

“ดังนั้นเราเชื่อว่าการพัฒนาความเร็วเหนือความเร็วแสงคือองค์ประกอบแรกในการเปลี่ยนอารยธรรมดาวเคราะห์เป็นอารยธรรมระบบดาวฤกษ์”

ลู่โจว “…คุณอยากให้ผมหาวิธีเพิ่มความเร็วแสงเหรอ”

ผู้สังเกตการณ์ยิ้มและส่ายหัว

“วิธีการเพิ่มความเร็วแสงเหรอ นั่นมันยากเกินไปสำหรับคุณตอนนี้ แต่เทคโนโลยีใดๆ ล้วนต้องเริ่มต้นด้วยพื้นฐานทางเทคนิคกันทั้งนั้น ใช่ไหม ผมมั่นใจว่าคุณสังเกตเห็นบางอย่างจากคาลาเนียนเอ็มไพร์ ตัวอย่างเช่น วิธีการที่ยานอวกาศของพวกเขาสามารถเดินทางระหว่างดวงดาว”

ลู่โจวพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร

จริงๆ แล้วอารยธรรมคาลานไม่ใช่สิ่งเดียวที่เป็นแรงบันดาลใจให้เขาในเรื่องความเร็วเหนือความเร็วแสง เขามีความคิดพวกนี้ตั้งแต่เขาค้นพบอนุภาค Z แล้ว

กุญแจสำคัญเพื่อความเร็วเหนือความเร็วแสงน่าจะอยู่ในไฮเปอร์สเปซ

แต่จนถึงตอนนี้ ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับไฮเปอร์สเปซเป็นแค่การคาดการณ์เท่านั้น มันยังคงเป็นข้อคาดการณ์ที่น่าเชื่อถือน้อยที่สุดของไอน์สไตน์

ผู้สังเกตการณ์มองลู่โจวและยิ้ม

“ผมบอกข้อมูลบางอย่างกับคุณได้นะ ในกาแล็กซีอายุน้อยนี้ โลกไม่ใช่สายพันธุ์เดียวที่มีความรู้สึก แต่พวกคุณยังอยู่ในระดับที่สูงกว่า แม้ว่าจะเหลือเวลาอีกไม่นาน แต่จากการคำนวณของพวกเราแล้ว มันก็น่าจะเพียงพอ”

อารยธรรมระดับสูงเหรอ

แม้ว่าลู่โจวจะไม่รู้ว่ามันหมายความว่าอย่างไร แต่สัญชาตญาณบอกเขาว่ามีกลุ่มผู้สร้างในเดอะวอยด์ที่ชอบช่วยเหลือผู้ยากไร้ บางทีจักรวาลอาจมีสิ่งมีชีวิตมากกว่าที่เราคิดไว้ก็ได้

บางทีโลกอาจจะทำการติดต่อกับอารยธรรมอื่นในอีก 200 ปีก็ได้

แต่ลู่โจวสงสัยว่ามันเกี่ยวอะไรกับเขา

ในอีก 200 ปี เขาก็คงไปไกลแล้ว

ผู้สังเกตการณ์มองลู่โจวที่กำลังจมอยู่ในห้วงความคิดและพูด

“แน่นอนว่าทฤษฎีความเร็วเหนือแสง เราหวังว่าคุณจะสามารถกอบกู้บางอย่างมาให้เราหรือไม่ก็กอบกู้มาให้ตัวคุณเองก็ได้”

ลู่โจว “…อะไร”

ผู้สังเกตการณ์ “มันคือของขวัญที่ควรจะส่งมอบให้คุณ แต่มันถูกสิ่งมีชีวิตที่เคยอาศัยอยู่บนดาวอังคารเมื่อหลายพันปีก่อนแย่งชิงไป เราประหลาดใจที่เห็นการกระทำนี้จากดาวเคราะห์ของเรา แต่โชคยังดีที่อารยธรรมนั้นเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องเดียวในชีวิตของพวกเขา และเก็บของขวัญของเราไว้”

สิ่งมีชีวิตบนดาวอังคารเหรอ

ตอนที่ลู่โจวได้ยินแบบนั้น ตาของเขาเบิกกว้าง

เขานึกถึงแบคทีเรียบนดาวอังคารที่พวกเขาค้นพบเมื่อนานมาแล้ว รวมไปถึงเอกสารที่เขาเคยอ่านเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของสนามแม่เหล็กและสภาพแวดล้อมบรรยากาศมาตรฐานบนดาวอังคารเมื่อ 3.9 พันล้านปีที่แล้ว ดูเหมือนว่ามันยังมีความเป็นไปได้อยู่ที่ดาวอังคารจะเคยมีสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึกอาศัยอยู่

แม้ว่าอารยธรรมนั้นจะมีอยู่จริงเมื่อนานมาแล้ว แน่นอนว่าทุกสิ่งที่มาจากยุคนั้นคงหายไปแล้ว

“คุณไม่สงสัยเหรอว่าของขวัญคืออะไร”

“…จริงๆ แล้วผมสงสัยเรื่องอารยธรรมที่เคยอยู่บนดาวอังคารมากกว่า”

“ผมเข้าใจ แต่น่าเสียดายที่ข้อมูลเหล่านั้นไม่รวมอยู่ในความทรงจำ”

ก็น่าเสียดายจริงๆ นั่นแหละ

ลู่โจวถอนหายใจแล้วพูด

“ก็ได้ ของขวัญอะไรล่ะ”

ผู้สังเกตการณ์ยิ้มและพูด “มันก็ขึ้นอยู่กับคุณว่าจะหาได้ไหม”

ลู่โจว “???”

ชายคนนั้นมองลู่โจวและพูด “ให้อภัยผมด้วยนะ เราพยายามเป็นอย่างมากในการส่งมันไปสู่จักรวาลใหม่และสู่กาแล็กซีที่กำหนด เราทำนายอย่างแม่นยำไม่ได้หรอกว่ามันจะเกิดขึ้นตอนไหน ผมช่วยคุณหามันไม่ได้ ผมจำได้ว่าผมให้รถสำรวจดาวอังคารไว้กับคุณไม่ใช่เหรอ แต่คุณยังหามันไม่เจอเลยใช่ไหม”

ลู่โจว “…แต่นั่นมันดาวเคราะห์ทั้งใบ คุณอยากให้ผมใช้รถในการหามันเหรอ

ผู้สำรวจได้ตรวจสอบข้อมูลล้ำค่าเกี่ยวกับพื้นผิวดาวอังคารและการกระจายของแหล่งแร่ แต่ก็ไม่พบร่องรอยของอารยธรรมใดๆ เลย

เพราะอารยธรรมนี้หายไปตั้งแต่ 3.9 พันล้านปีที่แล้ว

แม้แต่ฟอสซิลไดโนเสาร์ที่แก่ที่สุดยังมีอายุแค่ 228 ล้านปีเท่านั้น

ลู่โจวเริ่มสงสัยว่าของขวัญนี้มันยังมีอยู่หรือเปล่า

แต่ผู้สังเกตการณ์ไม่ได้สนใจคำบ่นของลู่โจว เขามองลู่โจวและยิ้มอย่างอบอุ่น

“ใกล้จะถึงเวลาแล้ว บางทีผมควรจะบอกลาได้แล้ว”

ลู่โจว “เดี๋ยวนะ คำถามสุดท้ายแล้ว…คุณเจอคนบนโลกมากี่คนแล้ว”

ผู้สังเกตการณ์ยิ้ม

“ผมเจอมาหมดทุกคนแล้ว แต่ไม่มีใครเคยเห็นผม

“ส่วนในแง่ของการสื่อสารทางอ้อมก็ประมาณสิบครั้ง ส่วนการสื่อสารโดนตรง ล่าสุดก็น่าจะร้อยปีก่อน ครั้งต่อไปก็อาจจะในอีกร้อยปีหรือไม่มีวันทำอีกแล้ว มันขึ้นอยู่กับว่ามนุษย์สามารถออกจากดาวเคราะห์บ้านเกิดของพวกเขาได้หรือไม่”

“โอเค ผมตอบคำถามสุดท้ายของคุณแล้ว คำตอบทั้งหมดของคำถามคุณจะอยู่ในความทรงจำนี้ อีกอย่างผมต้องยอมรับว่านี่เป็นการสนทนาที่สนุกที่สุดที่ผมเคยมีกับมนุษย์เลย”

“ผมคาดหวังกับคุณไว้สูง บางทีเราอาจจะได้คุยกันตัวต่อตัวสักวัน”

แม้ว่าเราจะไม่มีอารมณ์แห่งความสงสัย แต่อนาคตเป็นสิ่งน่าตื่นเต้น

“ลาก่อน มนุษย์แห่งอารยธรรม A-01722 บางทีเราอาจจะได้เจอกันอีก…”

ร่างของคนคนนั้นค่อยๆ รวมเป็นหนึ่งกับพื้นหลังสีขาว และหายไปจากสายตาของลู่โจว

……………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Scholar’s Advanced Technological System 1166 โปรเจกต์งานวิจัยจากวอยด์

Now you are reading Scholar’s Advanced Technological System Chapter 1166 โปรเจกต์งานวิจัยจากวอยด์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ความทรงจำวอยด์ทั้งสองความทรงจำเป็นของนายพลเรนฮาร์ท

ถ้าลู่โจวคิดถูก เสี่ยวไอก็อาจจะเคยเป็นเรือปัญญาประดิษฐ์อัจฉริยะบนยานอวกาศหลบหนีมาก่อน

หลังจากที่เรนฮาร์ทตาย ทุกอย่างรอบๆ ตัวเขาเริ่มหายไป โลกแตกออกมาเป็นอนุภาคสีฟ้าซีด มันแตกกระจายไปเหมือนผีเสื้อ

ตอนที่ลู่โจวกลับมาได้สติ เขากำลังยืนอยู่ในพื้นที่สีขาว ตรงหน้าของเขาคือชายที่เรียกตัวเองว่าผู้สังเกตการณ์

ลู่โจวกลืนน้ำลายและพูดด้วยน้ำเสียงลังเล

“…ดังนั้นคาลาเนียนเอ็มไพร์ถูกทำลายเหรอ”

“การล่มสลายของเอ็มไพร์เป็นขั้นตอนที่ยาวนาน…” ผู้สังเกตการณ์พยักหน้าและยิ้ม “ออราเคิลเป็นสาเหตุแห่งความขัดแย้งนี้ และความขัดแย้งนี้ก็นำไปสู่สงครามกลางเมือง สงครามกลางเมืองสร้างสนามรบในเอ็มไพร์ แต่ไม่ก็ไม่สามารถตกลงกันได้ สงครามกลายเป็นการสู้รบทางชีววิทยาที่มีไวรัสแพร่กระจายผ่านโครงข่ายประสาทในสมอง ซึ่งน่ากลัวกว่าอาวุธใดๆ พวกเขาใช้เวลาหลายร้อนปีในการกำจัดอาวุธของพวกเขา และใช้เวลาเพียงแค่ห้าปีในการสร้างมันคือมาใหม่”

“สงครามหลักจบลง แต่สงครามเล็กๆ ยังคงดำเนินต่อ ในการที่จะตอบสนองความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นต่ออุปทานทั่วโลก พวกเขาจะต้องใช้เรือรบในการขนส่งเรือขนส่ง กว่า 150 ปีต่อมา ริงเวิร์ลค่อยๆ เสียการควบคุมต่อดาวใกล้เคียง ความขัดแย้งภายในทำให้ริงเวิร์ลไม่มั่นคงอีกต่อไป”

“ถ้าคุณสนใจประวัติศาสตร์ในช่วงนี้ คุณสามารถคำนวณความทรงจำต่อก็ได้นะ เริ่มจากตัวเลขหลักที่ 5.67 ล้านล้านของ n และจบที่ 157.5 ล้านล้าน มันบันทึกประวัติศาสตร์ในอีก 150 ปีของเอ็มไพร์”

“ถ้าให้พูดตรงๆ การรวบรวมข้อมูลที่ล้ำค่าเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ มันยากสำหรับเราในการนำพามันมาสู่จักรวาลใหม่ หลังจากที่บทสนทนาของเราจบลง ผมแนะนำให้คุณบันทึกเลขนี้ไว้และคำนวณต่อ บางทีมันอาจจะทำให้อารยธรรมของคุณตาสว่างก็ได้”

ลู่โจวพยักหน้าและสูดลมหายใจเข้า

“บอกผมมาตรงๆ เลย คุณต้องการให้ผมทำอะไร”

ผู้สังเกตการณ์ยิ้ม

“คุณจะต้องทำโปรเจกต์วิจัย”

“…โปรเจกต์วิจัยเหรอ

“ใช่แล้ว” ผู้สังเกตการณ์พยักหน้าและพูด “จักรวาลก็เหมือนแหตกปลาขนาดใหญ่ มีเพียงผู้โชคดีไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถหลบหนีออกจากแหนี้ได้ ก่อนที่เราจะไปที่เดอะวอยด์ เราสังเกตการณ์มาหลายอารยธรรมในจักรวาลเก่าแล้ว ถ้าไม่มีการเดินทางด้วยความเร็วเหนือแสง พวกเขาก็สามารถเดินทางไปนอกระบบสุริยะด้วยวิธีการที่ช้ากว่า แต่อารยธรรมส่วนใหญ่ไม่สามารถมีชีวิตรอดได้นาน”

“ดังนั้นเราเชื่อว่าการพัฒนาความเร็วเหนือความเร็วแสงคือองค์ประกอบแรกในการเปลี่ยนอารยธรรมดาวเคราะห์เป็นอารยธรรมระบบดาวฤกษ์”

ลู่โจว “…คุณอยากให้ผมหาวิธีเพิ่มความเร็วแสงเหรอ”

ผู้สังเกตการณ์ยิ้มและส่ายหัว

“วิธีการเพิ่มความเร็วแสงเหรอ นั่นมันยากเกินไปสำหรับคุณตอนนี้ แต่เทคโนโลยีใดๆ ล้วนต้องเริ่มต้นด้วยพื้นฐานทางเทคนิคกันทั้งนั้น ใช่ไหม ผมมั่นใจว่าคุณสังเกตเห็นบางอย่างจากคาลาเนียนเอ็มไพร์ ตัวอย่างเช่น วิธีการที่ยานอวกาศของพวกเขาสามารถเดินทางระหว่างดวงดาว”

ลู่โจวพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร

จริงๆ แล้วอารยธรรมคาลานไม่ใช่สิ่งเดียวที่เป็นแรงบันดาลใจให้เขาในเรื่องความเร็วเหนือความเร็วแสง เขามีความคิดพวกนี้ตั้งแต่เขาค้นพบอนุภาค Z แล้ว

กุญแจสำคัญเพื่อความเร็วเหนือความเร็วแสงน่าจะอยู่ในไฮเปอร์สเปซ

แต่จนถึงตอนนี้ ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับไฮเปอร์สเปซเป็นแค่การคาดการณ์เท่านั้น มันยังคงเป็นข้อคาดการณ์ที่น่าเชื่อถือน้อยที่สุดของไอน์สไตน์

ผู้สังเกตการณ์มองลู่โจวและยิ้ม

“ผมบอกข้อมูลบางอย่างกับคุณได้นะ ในกาแล็กซีอายุน้อยนี้ โลกไม่ใช่สายพันธุ์เดียวที่มีความรู้สึก แต่พวกคุณยังอยู่ในระดับที่สูงกว่า แม้ว่าจะเหลือเวลาอีกไม่นาน แต่จากการคำนวณของพวกเราแล้ว มันก็น่าจะเพียงพอ”

อารยธรรมระดับสูงเหรอ

แม้ว่าลู่โจวจะไม่รู้ว่ามันหมายความว่าอย่างไร แต่สัญชาตญาณบอกเขาว่ามีกลุ่มผู้สร้างในเดอะวอยด์ที่ชอบช่วยเหลือผู้ยากไร้ บางทีจักรวาลอาจมีสิ่งมีชีวิตมากกว่าที่เราคิดไว้ก็ได้

บางทีโลกอาจจะทำการติดต่อกับอารยธรรมอื่นในอีก 200 ปีก็ได้

แต่ลู่โจวสงสัยว่ามันเกี่ยวอะไรกับเขา

ในอีก 200 ปี เขาก็คงไปไกลแล้ว

ผู้สังเกตการณ์มองลู่โจวที่กำลังจมอยู่ในห้วงความคิดและพูด

“แน่นอนว่าทฤษฎีความเร็วเหนือแสง เราหวังว่าคุณจะสามารถกอบกู้บางอย่างมาให้เราหรือไม่ก็กอบกู้มาให้ตัวคุณเองก็ได้”

ลู่โจว “…อะไร”

ผู้สังเกตการณ์ “มันคือของขวัญที่ควรจะส่งมอบให้คุณ แต่มันถูกสิ่งมีชีวิตที่เคยอาศัยอยู่บนดาวอังคารเมื่อหลายพันปีก่อนแย่งชิงไป เราประหลาดใจที่เห็นการกระทำนี้จากดาวเคราะห์ของเรา แต่โชคยังดีที่อารยธรรมนั้นเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องเดียวในชีวิตของพวกเขา และเก็บของขวัญของเราไว้”

สิ่งมีชีวิตบนดาวอังคารเหรอ

ตอนที่ลู่โจวได้ยินแบบนั้น ตาของเขาเบิกกว้าง

เขานึกถึงแบคทีเรียบนดาวอังคารที่พวกเขาค้นพบเมื่อนานมาแล้ว รวมไปถึงเอกสารที่เขาเคยอ่านเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของสนามแม่เหล็กและสภาพแวดล้อมบรรยากาศมาตรฐานบนดาวอังคารเมื่อ 3.9 พันล้านปีที่แล้ว ดูเหมือนว่ามันยังมีความเป็นไปได้อยู่ที่ดาวอังคารจะเคยมีสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึกอาศัยอยู่

แม้ว่าอารยธรรมนั้นจะมีอยู่จริงเมื่อนานมาแล้ว แน่นอนว่าทุกสิ่งที่มาจากยุคนั้นคงหายไปแล้ว

“คุณไม่สงสัยเหรอว่าของขวัญคืออะไร”

“…จริงๆ แล้วผมสงสัยเรื่องอารยธรรมที่เคยอยู่บนดาวอังคารมากกว่า”

“ผมเข้าใจ แต่น่าเสียดายที่ข้อมูลเหล่านั้นไม่รวมอยู่ในความทรงจำ”

ก็น่าเสียดายจริงๆ นั่นแหละ

ลู่โจวถอนหายใจแล้วพูด

“ก็ได้ ของขวัญอะไรล่ะ”

ผู้สังเกตการณ์ยิ้มและพูด “มันก็ขึ้นอยู่กับคุณว่าจะหาได้ไหม”

ลู่โจว “???”

ชายคนนั้นมองลู่โจวและพูด “ให้อภัยผมด้วยนะ เราพยายามเป็นอย่างมากในการส่งมันไปสู่จักรวาลใหม่และสู่กาแล็กซีที่กำหนด เราทำนายอย่างแม่นยำไม่ได้หรอกว่ามันจะเกิดขึ้นตอนไหน ผมช่วยคุณหามันไม่ได้ ผมจำได้ว่าผมให้รถสำรวจดาวอังคารไว้กับคุณไม่ใช่เหรอ แต่คุณยังหามันไม่เจอเลยใช่ไหม”

ลู่โจว “…แต่นั่นมันดาวเคราะห์ทั้งใบ คุณอยากให้ผมใช้รถในการหามันเหรอ

ผู้สำรวจได้ตรวจสอบข้อมูลล้ำค่าเกี่ยวกับพื้นผิวดาวอังคารและการกระจายของแหล่งแร่ แต่ก็ไม่พบร่องรอยของอารยธรรมใดๆ เลย

เพราะอารยธรรมนี้หายไปตั้งแต่ 3.9 พันล้านปีที่แล้ว

แม้แต่ฟอสซิลไดโนเสาร์ที่แก่ที่สุดยังมีอายุแค่ 228 ล้านปีเท่านั้น

ลู่โจวเริ่มสงสัยว่าของขวัญนี้มันยังมีอยู่หรือเปล่า

แต่ผู้สังเกตการณ์ไม่ได้สนใจคำบ่นของลู่โจว เขามองลู่โจวและยิ้มอย่างอบอุ่น

“ใกล้จะถึงเวลาแล้ว บางทีผมควรจะบอกลาได้แล้ว”

ลู่โจว “เดี๋ยวนะ คำถามสุดท้ายแล้ว…คุณเจอคนบนโลกมากี่คนแล้ว”

ผู้สังเกตการณ์ยิ้ม

“ผมเจอมาหมดทุกคนแล้ว แต่ไม่มีใครเคยเห็นผม

“ส่วนในแง่ของการสื่อสารทางอ้อมก็ประมาณสิบครั้ง ส่วนการสื่อสารโดนตรง ล่าสุดก็น่าจะร้อยปีก่อน ครั้งต่อไปก็อาจจะในอีกร้อยปีหรือไม่มีวันทำอีกแล้ว มันขึ้นอยู่กับว่ามนุษย์สามารถออกจากดาวเคราะห์บ้านเกิดของพวกเขาได้หรือไม่”

“โอเค ผมตอบคำถามสุดท้ายของคุณแล้ว คำตอบทั้งหมดของคำถามคุณจะอยู่ในความทรงจำนี้ อีกอย่างผมต้องยอมรับว่านี่เป็นการสนทนาที่สนุกที่สุดที่ผมเคยมีกับมนุษย์เลย”

“ผมคาดหวังกับคุณไว้สูง บางทีเราอาจจะได้คุยกันตัวต่อตัวสักวัน”

แม้ว่าเราจะไม่มีอารมณ์แห่งความสงสัย แต่อนาคตเป็นสิ่งน่าตื่นเต้น

“ลาก่อน มนุษย์แห่งอารยธรรม A-01722 บางทีเราอาจจะได้เจอกันอีก…”

ร่างของคนคนนั้นค่อยๆ รวมเป็นหนึ่งกับพื้นหลังสีขาว และหายไปจากสายตาของลู่โจว

……………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+