Scholar’s Advanced Technological System 1185 แม้แต่ 2,000 ก็ไม่ใช่ปัญหา

Now you are reading Scholar’s Advanced Technological System Chapter 1185 แม้แต่ 2000 ก็ไม่ใช่ปัญหา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ณ กระทรวงป้องกันราชอาณาจักร

ภายในออฟฟิศของผู้อำนวยการ

ชายหนวดขาวเปิดประตูออฟฟิศและเดินเข้ามาด้านใน

“ผู้เฒ่าหลี่! ผมอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น! “

ผู้อำนวยการหลี่ยังคงใจเย็น แต่เสียงนั้นทำให้ผู้ช่วยกลัว

คนทั่วไปส่วนใหญ่คงไม่มีใครกล้าพูดกับเลขากระทรวงป้องกันราชอาณาจักรแบบนี้ แต่นักวิชาการเสวี่ยไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป

ลืมเรื่องกระทรวงป้องกันราชอาณาจักรไปได้แล้ว แม้แต่คนใหญ่คนโตของกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศยังต้องแสดงความเคารพต่อชายสูงวัยคนนี้

ตอนที่ผู้อำนวยการหลี่เห็นนักวิชาการเสวี่ยตรงหน้าประตู เขาดูเหมือนจะรู้สาเหตุที่นักวิชาการเสวี่ยมาที่นี่ เขายิ้ม วางปากกาในมือ และพูดขึ้นมา

“ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่ล่ะ เข้ามานั่งสิครับ…เสี่ยวโจว คุณไปเตรียมชามาให้นักวิชาการเสวี่ยและพิมพ์เอกสารนี้มา 50 ชุดแล้วไปส่งให้ผู้อำนวยการหลิว”

“ได้ครับ!”

เสี่ยวโจวเทชาร้อนให้นักวิชาการเสวี่ยทันที หลังจากนั้นเขาหยิบเอกสารจากโต๊ะของผู้อำนวยการหลี่ และออกจากออฟฟิศ

“อะไรนะ?” นักวิชาการเสวี่ยพูดขณะหยิบถ้วยชาที่อยู่บนโต๊ะ เขาจิบชาและพูดด้วยความโมโห “คุณกำลังถามผมว่าทำไมผมถึงมาที่นี่เหรอ ผมจะมาที่นี่เพราะอะไรได้อีกล่ะ”

ก่อนที่ผู้อำนวยการหลี่จะตอบโต้ นักวิชาการเสวี่ยเริ่มยิงคำพูดราวกับปืนกล

“คุณคือคนที่ต้องการพัฒนาอัลกอริทึมการเข้ารหัสควอนตัม! แต่ตอนนี้คุณกลับยกเลิกโปรเจกต์ ผู้เชี่ยวชาญวิทยาการเข้ารหัสลับกว่าครึ่งมาที่ปักกิ่งกันแล้วและงานของเราก็เพิ่งจะเริ่มต้น แต่ตอนนี้คุณกลับไม่ต้องการเราแล้วอย่างนั้นเหรอ ล้อกันเล่นหรือเปล่า”

ผู้อำนวยการหลี่รู้สึกละอายเล็กน้อย นักวิชาการเสวี่ยพูดถูก แต่มันก็ไม่ใช่ความผิดของเขาเสียหมด

“สถานการณ์นี้มันซับซ้อนครับ”

“หมายความว่าอย่างไรที่ว่าซับซ้อน ผมเตือนคุณแล้วไม่ใช่เหรอว่าแม้แต่คอมพิวเตอร์ควอนตัมที่ก้าวล้ำที่สุดก็ทำได้แค่ 100 คิวบิต คอมพิวเตอร์ควอนตัม 1,000 คิวบิตเป็นเรื่องเพ้อฝัน”

ในสายตาของนักวิชาการเสวี่ยมันเป็นโปรเจกต์วิจัยที่ไร้สาระที่เสนอโดยคนธรรมดา เขาเกลียดที่คนใหญ่คนโตเข้ามาแทรกแซงงานวิจัยวิทยาศาสตร์ของเขา มันเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรในการวิจัย

ผู้อำนวยการหลี่กระแอมและพูด “นั่นไม่ใช่เหตุผลในการยกเลิกโปรเจกต์ โปรเจกต์ไม่ได้ถูกยกเลิกเสียทีเดียว เราก็แค่กำลังปรับเปลี่ยนกลยุทธ์…”

นักวิชาการเสวี่ยพูด “แล้วทำไมคุณถึงทำแบบนี้”

“เพราะมีคนอื่นที่สามารถแก้ปัญหานี้ได้แล้ว”

ออฟฟิศเงียบไป

นักวิชาการเสวี่ยอึ้งไป เขาใช้เวลาอยู่สักพักกว่าจะกลับมามีสติอีกครั้ง

“แก้เหรอ แล้วปัญหาที่ถูกแก้คืออะไร”

“แน่นอนว่ามันคืออัลกอริทึมการเข้ารหัสควอนตัม…”

“เป็นไปไม่ได้!”

ดวงตาของนักวิชาการเสวี่ยเบิกกว้างอย่างเหลือเชื่อ เขาคิดว่าผู้อำนวยการหลี่โกหกเขา เขาโกรธยิ่งกว่าเดิม “ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาการเข้ารหัสลับอยู่ที่นี่ที่ปักกิ่งกับผม และคุณกำลังบอกว่ามีคนแก้ปัญหานี้ได้แล้วเหรอ”

หลังจากทำงานยาวนานหนึ่งอาทิตย์ งานวิจัยของพวกเขายังไม่คืบหน้าเลยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้กลับมีคนมาบอกเขาว่าปัญหานี้ถูกแก้ไปแล้ว มีคนที่สามารถหาอัลกอริทึมได้แล้วเหรอ

เขาไม่เคยได้ยินอะไรที่ไร้สาระขนาดนี้มาก่อน

ผู้อำนวยการหลี่ถอนหายใจและพูด “ไหนๆ คุณก็อยู่ที่นี่แล้ว ผมอยากจะคุยเรื่องนี้กับคุณ”

เขาเปิดลิ้นชักและนำแผ่นซีดีที่บรรจุข้อมูลพิเศษออกมา

นักวิชาการเสวี่ยขมวดคิ้วขณะที่ผู้อำนวยการหลี่พูดต่อ

“อัลกอริทึมการเข้ารหัสควอนตัมอยู่ที่นี่…แน่นอนว่ามันต้องอยู่ในออฟฟิศนี้เท่านั้น จะเอาออกไปไม่ได้ แต่ผมสามารถสาธิตให้คุณดูจากคอมพิวเตอร์ของผมได้”

นักวิชาการเสวี่ยพ่นลมหายใจและพูด “ผมไม่ได้โง่นะ”

ผู้อำนวยการหลี่ยิ้มและพูด “ผมรู้ ผมก็แค่คนธรรมดา เราต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญอย่างคุณ นี่คือเหตุผลที่ผมอยากให้คุณดูสิ่งนี้ ดูว่ามันสามารถป้องกันการโจมตีจากคอมพิวเตอร์ควอนตัม 1,000 คิวบิตได้จริงๆ …”

เขาใส่แผ่นซีดีเข้าไปในโน้ตบุ๊ค

ผู้อำนวยการหลี่หมุนหน้าจอไปทางนักวิชาการเสวี่ยในขณะที่แผ่นซีดีเริ่มหมุน

นักวิชาการเสวี่ยดื่มชาขนหมดและยืนขึ้นจากโซฟา เขาเดินไปที่โต๊ะผู้อำนวยการหลี่และนั่งลงที่เก้าอี้

เขาใช้เมาส์กดไปที่ไฟล์บนแผ่นซีดี นักวิชาการเสวี่ยเห็นรหัสอัลกอริทึมการเข้ารหัสบนหน้าจอ

พูดตรงๆ ก็คือมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพัฒนาอัลกอริทึมการเข้ารหัสให้แข็งแกร่งและปลอดภัยมากกว่าที่แตกต่างจากโพรโทคอล BB84 โดยเฉพาะในเวลาสั้นๆ

เขารู้นักวิชาการจีนแทบทุกคนที่ทำงานในสายนี้

ถ้าแม้แต่ทีมวิจัยของเขาเองยังทำไม่ได้ เขาก็ไม่เชื่อว่าคนอื่นจะทำได้

เว้นเสียแต่ว่า พวกเขาได้รับความช่วยเหลือจากต่างชาติ

แต่เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความมั่นคงแห่งชาติ ความน่าจะเป็นในการใช้บริการทีมวิจัยต่างชาติให้ทำอัลกอริทึมการเข้ารหัสแก้จึงเป็นศูนย์

นักวิชาการเสวี่ยชำเลืองมองรหัส

ในขณะที่เขาเลื่อนเมาส์ไปเรื่อยๆ สีหน้าของเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป

แม้การเปลี่ยนแปลงจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่มันชัดเจนในสายตาของผู้อำนวยการหลี่

ในที่สุดชายสูงวัยจอมดื้อพูดขึ้น

“ใครเป็นคนทำ”

“ผมบอกคุณไม่ได้” ผู้อำนวยการหลี่พูด เขากระแอมและพูด “มันเป็นความลับสุดยอด หวังว่าคุณจะเข้าใจนะครับ”

ออฟฟิศเงียบลง

นักวิชาการเสวี่ยละสายตาของหน้าจอและสบตากับผู้อำนวยการหลี่ เขาถามด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง “นักวิชาการลู่เหรอ”

นั่นคือความเป็นไปได้เดียว…

ผู้อำนวยการหลี่ไม่ได้ตอบ เขาแสดงสีหน้าที่ว่างเปล่า

บางครั้ง สีหน้าที่ว่างเปล่าก็เป็นคำตอบหนึ่ง

นักวิชาการเสวี่ยหันหัว เขายังคงอ่านรหัสลับต่อด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจ

ดูเหมือนว่าเขาเพิ่งสัมผัสกับปาฏิหาริย์ เขาพึมพำกับตัวเอง “แปลว่าเป็นเขานี่เอง ไม่แปลกใจเลย”

ไม่แปลกใจที่โปรเจกต์นี้ถูกยกเลิก

อัลกอริทึมแบบนี้ ก็ไม่เหลืองานอะไรให้เราทำแล้ว

น่าอายอะไรขนาดนี้ คน 20 คนแพ้คนแค่คนเดียว

เขามีสีหน้าที่ขมขื่น

ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมจึงมีคนพูดว่าการทำงานในแขนงเดียวกับนักวิชาการลู่เป็นเรื่องน่าหงุดหงิด

เขาไม่เพียงแค่หงุดหงิด แต่เขาเริ่มไม่มั่นใจกับทุกอย่างเกี่ยวกับชีวิตของเขา เขาแทบจะรู้สึกไร้ความหมาย

บางทีมันคงจะดีเสียกว่าถ้าฉันไม่รู้เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการยกเลิกในครั้งนี้…

จากที่เห็นว่านักวิชาการเสวี่ยไม่ได้พูดอะไรอยู่สักพัก ผู้อำนวยการหลี่เริ่มเป็นกังวลขณะที่พูด

“อย่านั่งเฉยๆ บอกผมว่าสิครับว่าอัลกอริทึมเป็นอย่างไรบ้าง”

นักวิชาการเสวี่ยพูด

“มันแข็งแกร่ง”

“หมายความว่าอย่างไรที่ว่าแข็งแกร่ง”

“หมายความว่า ลืม 1,000 คิวบิตไปได้เลย…”

นักวิชาการเสวี่ยกลืนน้ำลายและพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา “แม้แต่ 2,000 คิวบิตก็ไม่ใช่ปัญหา…”

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Scholar’s Advanced Technological System 1185 แม้แต่ 2,000 ก็ไม่ใช่ปัญหา

Now you are reading Scholar’s Advanced Technological System Chapter 1185 แม้แต่ 2000 ก็ไม่ใช่ปัญหา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ณ กระทรวงป้องกันราชอาณาจักร

ภายในออฟฟิศของผู้อำนวยการ

ชายหนวดขาวเปิดประตูออฟฟิศและเดินเข้ามาด้านใน

“ผู้เฒ่าหลี่! ผมอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น! “

ผู้อำนวยการหลี่ยังคงใจเย็น แต่เสียงนั้นทำให้ผู้ช่วยกลัว

คนทั่วไปส่วนใหญ่คงไม่มีใครกล้าพูดกับเลขากระทรวงป้องกันราชอาณาจักรแบบนี้ แต่นักวิชาการเสวี่ยไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป

ลืมเรื่องกระทรวงป้องกันราชอาณาจักรไปได้แล้ว แม้แต่คนใหญ่คนโตของกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศยังต้องแสดงความเคารพต่อชายสูงวัยคนนี้

ตอนที่ผู้อำนวยการหลี่เห็นนักวิชาการเสวี่ยตรงหน้าประตู เขาดูเหมือนจะรู้สาเหตุที่นักวิชาการเสวี่ยมาที่นี่ เขายิ้ม วางปากกาในมือ และพูดขึ้นมา

“ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่ล่ะ เข้ามานั่งสิครับ…เสี่ยวโจว คุณไปเตรียมชามาให้นักวิชาการเสวี่ยและพิมพ์เอกสารนี้มา 50 ชุดแล้วไปส่งให้ผู้อำนวยการหลิว”

“ได้ครับ!”

เสี่ยวโจวเทชาร้อนให้นักวิชาการเสวี่ยทันที หลังจากนั้นเขาหยิบเอกสารจากโต๊ะของผู้อำนวยการหลี่ และออกจากออฟฟิศ

“อะไรนะ?” นักวิชาการเสวี่ยพูดขณะหยิบถ้วยชาที่อยู่บนโต๊ะ เขาจิบชาและพูดด้วยความโมโห “คุณกำลังถามผมว่าทำไมผมถึงมาที่นี่เหรอ ผมจะมาที่นี่เพราะอะไรได้อีกล่ะ”

ก่อนที่ผู้อำนวยการหลี่จะตอบโต้ นักวิชาการเสวี่ยเริ่มยิงคำพูดราวกับปืนกล

“คุณคือคนที่ต้องการพัฒนาอัลกอริทึมการเข้ารหัสควอนตัม! แต่ตอนนี้คุณกลับยกเลิกโปรเจกต์ ผู้เชี่ยวชาญวิทยาการเข้ารหัสลับกว่าครึ่งมาที่ปักกิ่งกันแล้วและงานของเราก็เพิ่งจะเริ่มต้น แต่ตอนนี้คุณกลับไม่ต้องการเราแล้วอย่างนั้นเหรอ ล้อกันเล่นหรือเปล่า”

ผู้อำนวยการหลี่รู้สึกละอายเล็กน้อย นักวิชาการเสวี่ยพูดถูก แต่มันก็ไม่ใช่ความผิดของเขาเสียหมด

“สถานการณ์นี้มันซับซ้อนครับ”

“หมายความว่าอย่างไรที่ว่าซับซ้อน ผมเตือนคุณแล้วไม่ใช่เหรอว่าแม้แต่คอมพิวเตอร์ควอนตัมที่ก้าวล้ำที่สุดก็ทำได้แค่ 100 คิวบิต คอมพิวเตอร์ควอนตัม 1,000 คิวบิตเป็นเรื่องเพ้อฝัน”

ในสายตาของนักวิชาการเสวี่ยมันเป็นโปรเจกต์วิจัยที่ไร้สาระที่เสนอโดยคนธรรมดา เขาเกลียดที่คนใหญ่คนโตเข้ามาแทรกแซงงานวิจัยวิทยาศาสตร์ของเขา มันเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรในการวิจัย

ผู้อำนวยการหลี่กระแอมและพูด “นั่นไม่ใช่เหตุผลในการยกเลิกโปรเจกต์ โปรเจกต์ไม่ได้ถูกยกเลิกเสียทีเดียว เราก็แค่กำลังปรับเปลี่ยนกลยุทธ์…”

นักวิชาการเสวี่ยพูด “แล้วทำไมคุณถึงทำแบบนี้”

“เพราะมีคนอื่นที่สามารถแก้ปัญหานี้ได้แล้ว”

ออฟฟิศเงียบไป

นักวิชาการเสวี่ยอึ้งไป เขาใช้เวลาอยู่สักพักกว่าจะกลับมามีสติอีกครั้ง

“แก้เหรอ แล้วปัญหาที่ถูกแก้คืออะไร”

“แน่นอนว่ามันคืออัลกอริทึมการเข้ารหัสควอนตัม…”

“เป็นไปไม่ได้!”

ดวงตาของนักวิชาการเสวี่ยเบิกกว้างอย่างเหลือเชื่อ เขาคิดว่าผู้อำนวยการหลี่โกหกเขา เขาโกรธยิ่งกว่าเดิม “ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาการเข้ารหัสลับอยู่ที่นี่ที่ปักกิ่งกับผม และคุณกำลังบอกว่ามีคนแก้ปัญหานี้ได้แล้วเหรอ”

หลังจากทำงานยาวนานหนึ่งอาทิตย์ งานวิจัยของพวกเขายังไม่คืบหน้าเลยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้กลับมีคนมาบอกเขาว่าปัญหานี้ถูกแก้ไปแล้ว มีคนที่สามารถหาอัลกอริทึมได้แล้วเหรอ

เขาไม่เคยได้ยินอะไรที่ไร้สาระขนาดนี้มาก่อน

ผู้อำนวยการหลี่ถอนหายใจและพูด “ไหนๆ คุณก็อยู่ที่นี่แล้ว ผมอยากจะคุยเรื่องนี้กับคุณ”

เขาเปิดลิ้นชักและนำแผ่นซีดีที่บรรจุข้อมูลพิเศษออกมา

นักวิชาการเสวี่ยขมวดคิ้วขณะที่ผู้อำนวยการหลี่พูดต่อ

“อัลกอริทึมการเข้ารหัสควอนตัมอยู่ที่นี่…แน่นอนว่ามันต้องอยู่ในออฟฟิศนี้เท่านั้น จะเอาออกไปไม่ได้ แต่ผมสามารถสาธิตให้คุณดูจากคอมพิวเตอร์ของผมได้”

นักวิชาการเสวี่ยพ่นลมหายใจและพูด “ผมไม่ได้โง่นะ”

ผู้อำนวยการหลี่ยิ้มและพูด “ผมรู้ ผมก็แค่คนธรรมดา เราต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญอย่างคุณ นี่คือเหตุผลที่ผมอยากให้คุณดูสิ่งนี้ ดูว่ามันสามารถป้องกันการโจมตีจากคอมพิวเตอร์ควอนตัม 1,000 คิวบิตได้จริงๆ …”

เขาใส่แผ่นซีดีเข้าไปในโน้ตบุ๊ค

ผู้อำนวยการหลี่หมุนหน้าจอไปทางนักวิชาการเสวี่ยในขณะที่แผ่นซีดีเริ่มหมุน

นักวิชาการเสวี่ยดื่มชาขนหมดและยืนขึ้นจากโซฟา เขาเดินไปที่โต๊ะผู้อำนวยการหลี่และนั่งลงที่เก้าอี้

เขาใช้เมาส์กดไปที่ไฟล์บนแผ่นซีดี นักวิชาการเสวี่ยเห็นรหัสอัลกอริทึมการเข้ารหัสบนหน้าจอ

พูดตรงๆ ก็คือมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพัฒนาอัลกอริทึมการเข้ารหัสให้แข็งแกร่งและปลอดภัยมากกว่าที่แตกต่างจากโพรโทคอล BB84 โดยเฉพาะในเวลาสั้นๆ

เขารู้นักวิชาการจีนแทบทุกคนที่ทำงานในสายนี้

ถ้าแม้แต่ทีมวิจัยของเขาเองยังทำไม่ได้ เขาก็ไม่เชื่อว่าคนอื่นจะทำได้

เว้นเสียแต่ว่า พวกเขาได้รับความช่วยเหลือจากต่างชาติ

แต่เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความมั่นคงแห่งชาติ ความน่าจะเป็นในการใช้บริการทีมวิจัยต่างชาติให้ทำอัลกอริทึมการเข้ารหัสแก้จึงเป็นศูนย์

นักวิชาการเสวี่ยชำเลืองมองรหัส

ในขณะที่เขาเลื่อนเมาส์ไปเรื่อยๆ สีหน้าของเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป

แม้การเปลี่ยนแปลงจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่มันชัดเจนในสายตาของผู้อำนวยการหลี่

ในที่สุดชายสูงวัยจอมดื้อพูดขึ้น

“ใครเป็นคนทำ”

“ผมบอกคุณไม่ได้” ผู้อำนวยการหลี่พูด เขากระแอมและพูด “มันเป็นความลับสุดยอด หวังว่าคุณจะเข้าใจนะครับ”

ออฟฟิศเงียบลง

นักวิชาการเสวี่ยละสายตาของหน้าจอและสบตากับผู้อำนวยการหลี่ เขาถามด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง “นักวิชาการลู่เหรอ”

นั่นคือความเป็นไปได้เดียว…

ผู้อำนวยการหลี่ไม่ได้ตอบ เขาแสดงสีหน้าที่ว่างเปล่า

บางครั้ง สีหน้าที่ว่างเปล่าก็เป็นคำตอบหนึ่ง

นักวิชาการเสวี่ยหันหัว เขายังคงอ่านรหัสลับต่อด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจ

ดูเหมือนว่าเขาเพิ่งสัมผัสกับปาฏิหาริย์ เขาพึมพำกับตัวเอง “แปลว่าเป็นเขานี่เอง ไม่แปลกใจเลย”

ไม่แปลกใจที่โปรเจกต์นี้ถูกยกเลิก

อัลกอริทึมแบบนี้ ก็ไม่เหลืองานอะไรให้เราทำแล้ว

น่าอายอะไรขนาดนี้ คน 20 คนแพ้คนแค่คนเดียว

เขามีสีหน้าที่ขมขื่น

ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมจึงมีคนพูดว่าการทำงานในแขนงเดียวกับนักวิชาการลู่เป็นเรื่องน่าหงุดหงิด

เขาไม่เพียงแค่หงุดหงิด แต่เขาเริ่มไม่มั่นใจกับทุกอย่างเกี่ยวกับชีวิตของเขา เขาแทบจะรู้สึกไร้ความหมาย

บางทีมันคงจะดีเสียกว่าถ้าฉันไม่รู้เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการยกเลิกในครั้งนี้…

จากที่เห็นว่านักวิชาการเสวี่ยไม่ได้พูดอะไรอยู่สักพัก ผู้อำนวยการหลี่เริ่มเป็นกังวลขณะที่พูด

“อย่านั่งเฉยๆ บอกผมว่าสิครับว่าอัลกอริทึมเป็นอย่างไรบ้าง”

นักวิชาการเสวี่ยพูด

“มันแข็งแกร่ง”

“หมายความว่าอย่างไรที่ว่าแข็งแกร่ง”

“หมายความว่า ลืม 1,000 คิวบิตไปได้เลย…”

นักวิชาการเสวี่ยกลืนน้ำลายและพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา “แม้แต่ 2,000 คิวบิตก็ไม่ใช่ปัญหา…”

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+