Scholar’s Advanced Technological System 1265 เทพีแห่งทะเลสาบจะให้พรคุณ

Now you are reading Scholar’s Advanced Technological System Chapter 1265 เทพีแห่งทะเลสาบจะให้พรคุณ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ไม่มีหญิงคนไหนอาจจะต้านความโรแมนติกนี้ได้…”

ลู่โจวพยายามอย่างดีที่สุดที่จะไม่มองหญิงสาวที่ลานเต้นรำเพื่อให้เขาดูโรคจิตน้อยลง เขาโฟกัสที่จะมองหาคนพิเศษในกลุ่มฝูงชน

อยู่ดีๆ เขารู้สึกว่ามีใครบางคนกระตุกแขนเสื้อ เขามองไปทางที่มีแรงดึงแต่กลับไม่เห็นใคร

“สวัสดี อยู่ข้างล่างนี่ค่ะ”

มีเสียงเบาดังมาจากด้านล่าง ลู่โจวก้มมองลงและเห็นเด็กหญิงในชุดเดรส อายุคงราวๆ หกหรือเจ็ดปี เธอมองเขาด้วยตาเบิกกว้างใหญ่

จู่ๆ เหมือนว่าเธอนึกอะไรออก เธอหดมือมาปิดปากตัวเองและพึมพำช้าๆ “โอ้ ศาสตราจารย์ปราด้าบอกหนูว่าผู้หญิงต้องสุภาพกว่านี้”

ลู่โจวอดไม่ได้ที่จะยิ้มให้เจ้าหญิงตัวน้อย เขามองดูเธอและพูดอย่างสุภาพ “เจ้าหญิงผู้น่ารัก เธอหลงกับพ่อแม่เหรอ?”

“เปล่าค่ะ” เจ้าหญิงลิเลียจ้องมองลู่โจวตรงๆ และพูดว่า “ลิเลียมาที่นี่เพื่อเต้น”

“เต้น?”

“ใช่ค่ะ…คุณนักวิชาการ” เจ้าหญิงตัวน้อยถอนสายบัวและพูดว่า “ขอหนูเต้นรำกับคุณได้ไหม?”

เธอลืมชื่อเขาไปแล้วแน่เลย

ลู่โจวกลั้นยิ้มและตอบว่า “แต่ผู้ปกครองของเจ้าหญิงอาจจะเป็นห่วงนะ รีบตามหาพวกท่านน่าจะดีกว่า ผมช่วยถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้ได้นะครับ”

“ไม่ ไม่เป็นไรเลย หญิงสาวสวีเดนทุกคนชอบเต้นรำ หนูอยากเลือกคู่เต้นด้วยตัวเอง”

“แต่…ทำไมเป็นผมล่ะ?”

“ก็ต้องเป็นคุณ” เจ้าหญิงลิเลียพูดว่า “ลิเลียรู้ว่าคุณเป็นตัวละครหลัก ทุกคนจับตามองคุณอยู่ หนูเป็นสาวที่งดงามที่สุดที่ลานเต้นรำแห่งนี้ และหนูต้องเลือกคู่เต้นรำที่หล่อเหลาที่สุด”

ไม่ได้จริงๆ

มันน่าเอ็นดูเกินไป

ลู่โจวอดกลั้นขำไม่ได้ในที่สุด เขารีบไอกลบเกลื่อนด้วยความรวดเร็ว

ลิเลียที่ยังไม่เคยได้เข้าสังคมกลับคิดว่าเขาเป็นหวัด เธอกะพริบตาแล้วพูดด้วยความกังวล “คุณนักวิชาการต้องการหมอไหมคะ?”

“ไม่ครับ…เจ้าหญิงผู้น่ารัก ผมไม่ต้องการหมอ แต่ผมคิดว่าเจ้าหญิงควรจะเลือกคู่เต้นที่มีอายุรุ่นคราวเดียวกัน”

“แต่เด็กผู้ชายรุ่นเดียวกันซนทุกคนเลย พวกนั้นชอบยุ่งกับผมเปียเพื่อเรียกร้องความสนใจ” เจ้าหญิงตัวเล็กเบะปากและพูดว่า “พวกผู้ชายมันโง่”

ลู่โจว “…”

ลู่โจวกังวลเกี่ยวกับการศึกษาของราชวงศ์และเริ่มมองหาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ล็อบบี้ เขาได้ยินเสียงที่คุ้นเคย

“ขอโทษที ฉันมาสาย”

เมื่อลู่โจวหันไปมองต้นเสียง เขาเห็นสาวในชุดราตรีสีดำเดินฝ่าฝูงชนเข้ามาหา

ผมยาวสีดำของเธอถูกมัดไว้เป็นมวย ด้านหลังของกระโปรงสีดำประกายเหมือนหินออบซิเดียนส่องสว่าง มีทั้งความหรูหราและงดงามรวมเป็นหนึ่ง ลู่โจวอดไม่ได้ที่จะจ้องมองเธออยู่นาน เขานึกไม่ออกเลยว่าเธอเป็นใคร

เฉินยู่ซานรู้สึกว่าใบหน้าเริ่มร้อนผ่าว เธอเสมองและรีบก้าวมาหาเขา เธอยื่นมือไปจับแขนเขา

“ตามฉันมา ไปคุยกันนอกลานเต้นรำ”

ก่อนที่ลู่โจวจะได้พูดตอบ เด็กหญิงตัวเล็กชิงพูดขึ้นก่อน

“นี่ เขาเป็นคู่เต้นของหนูนะ มันหยาบคายที่จะแย่งคู่เต้นของคนอื่น”

เฉินยู่ซานมองดูเด็กหญิงที่ไม่พอใจ เธอสังเกตดูเจ้าหญิงตัวเล็กที่เธอเคยเห็นที่สนามบินมาก่อน

เธอดูค่อนข้างตื่นตระหนกและหันไปที่ลู่โจว ลู่โจวตอบเธอด้วยท่าทีอย่างเสียไม่ได้ จากนั้นเขาถอนหายใจแล้วคุกเข่าลง เขามองดูเด็กหญิงและพูดว่า “ขอโทษครับ ผมต้องขอตัวสักพัก”

“นานไหมอะ?”

“ผม…ไม่ทราบครับ”

“รีบกลับมานะ คุณต้องมาเต้นรำกับหนู”

“เมื่อเจ้าหญิงโตขึ้น ผมจะเต้นรำด้วยครับ”

เมื่อสลัดเด็กสาวที่ก่อกวนใจไปได้ในที่สุด ลู่โจวเดินตามเฉินยู่ซานออกจากลานเต้นรำไป และเดินไปบริเวณนั่งพักใกล้กับทางเข้า

หลังจากหยิบไวน์แดงสองแก้วมาจากถาดเครื่องดื่ม เขายื่นไวน์ในมือให้เฉินยู่ซาน

เฉินยู่ซานจิบไวน์ให้ปากชุ่มชื้น เธอรู้สึกมึนเล็กน้อยจากปลายลิ้น เมื่อเธอมองดูเงาสะท้อนจากไวน์แดงในแก้ว เฉินยู่ซานมีรอยยิ้มบนใบหน้า

“นายไม่ไปเต้นรำงั้นเหรอ?”

“มีเพียงสาวที่งดงามที่สุดที่คู่ควรกับอัศวินที่รูปหล่อที่สุด”

เฉินยู่ซานเกือบขำเสียงดังออกมาแล้วเธอมองดูลู่โจวด้วยสีหน้าจริงจัง จากนั้นเธอถามว่า “นายรู้จักเอ่ยปากชมผู้หญิงตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“เอาจริง ฉันไม่รู้หรอก” ลู่โจวยักไหล่แบบขอไปที เขามองดูไวน์ในมือแล้วถอนหายใจ จากนั้นเขาพูดว่า “เด็กหญิงอายุหกขวบพึ่งสอนฉันมา”

“จะว่าไปแล้ว นายก็เนื้อหอมกับเด็กๆ นะ”

“ข้อสรุปนี้มาจากการคำนวณจากตัวอย่างเดียวนี่นะ?”

“นายทำมันอีกแล้ว…”

“โอ้ ขอโท—”

ก่อนที่เขาพูดจบ มีนิ้วชี้มาปิดปากไม่ให้เขาพูดต่อ

“หยุดพูดขอโทษพร่ำเพรื่อ” เฉินยู่ซานพูดพร้อมกับรอยยิ้มมีความสุข จากนั้นเธอพูดเสริม “ฉันชอบแบบที่นายเคยเป็นนะ”

แบบที่ฉันเคยเป็น?

มันคืออะไรล่ะ?

ลู่โจวคิดถี่ถ้วนแต่เฉินยู่ซานดึงแขนเสื้อของเขา

“ตรงนี้เสียงดังไป เราไปนั่งข้างนอกดีไหม?”

“โอเค ได้ครับได้” ลู่โจวมองดูชุดราตรีของเธอและถามว่า “แต่ว่าเธอจะไม่หนาวเหรอ?”

“โง่จริง” เฉินยู่ซานกลอกตาแล้วพูดต่อ “ฉันมีโค้ทมาด้วย นี่นายคิดว่าฉันมาที่นี่ยังไงล่ะ?”

“งั้น…ฉันจะรอคุณอยู่ตรงนี้”

“ไม่น่าเกินห้านาที! อย่าทิ้งฉันล่ะ”

เฉินยู่ซานเดินย่ำรองเท้าส้นสูงไปที่ประตูข้างของงานปาร์ตี้ ลู่โจวอยากเตือนให้เธอเดินช้าๆ แล้วระวังล้ม แต่หญิงสาวหน้าตาสวยงามเดินหายไปจากฝูงชนแล้ว

ลู่ปังกั๋วที่ยืนอยู่ข้างโต๊ะบุฟเฟ่ต์พูดพึมพำระหว่างที่หันมองไปรอบๆ “ลูกฉันอยู่ไหนน่ะ?”

จู่ๆ เขาเห็นร่างคุ้นเคยยืนอยู่ตรงที่นั่งพักแถวทางเข้างาน ลู่โจวในชุดสูทยืนอยู่ตรงนั้น ดูเหมือนว่าเขากำลังรอใครบางคน

ตาของลู่ปังกั๋วเป็นประกาย เขากำลังจะเดินไปเรียกลูกชายแต่ฟางเหมยชิงพูดขึ้นก่อน

“โง่เอ๊ย! ดูลูกแกสิ เขากำลังรอคนอื่นอยู่”

ลู่ปังกั๋วถาม “เขาไม่ได้รอเราอยู่เหรอ?”

“เพื่ออะไรล่ะ? เราเจอลูกที่โรงแรม? แล้วก็ในรถ? ถ้าคุณติดอยู่กับลูกตลอด เมื่อเราจะได้อุ้มหลานกันล่ะ?”

“ใช่! จริงด้วย!” ลู่ปังกั๋วพยักหน้าอยู่หลายครั้งและเขายิ้มมุมปากแล้วพูดว่า “ฉันอยากมีหลาน!”

ถึงเขาเตรียมใจแล้วว่าลูกชายจะทำให้สายเลือดจบสิ้น เขาก็หวังว่าจะได้เห็นหลานที่น่ารักสักวัน

มันแทบเป็นความปรารถนาของพ่อทุกคน

โดยเฉพาะครอบครัวหัวโบราณ การที่แค่บรรลุนิติภาวะตามกฎหมายไม่ได้ทำให้ได้เป็นผู้ชายเต็มตัว เมื่อลูกชายมีครอบครัวต่างหากเขาก็จะถือว่าเติบโตเป็นผู้ชาย

ฟางเหมยยิ้มและปล่อยมือจากผู้เฒ่าลู่

“งั้นอยู่ที่นี่

อย่าไปยุ่งกับกงการของคนอื่นเขา!”

หิมะข้างนอกหยุดตกแล้ว ลมเหนือที่พัดปลิวตรงป่าสนยังนำความหนาวเย็นมาอยู่บ้าง แต่เมื่อเดินไปตามทะเลสาบ ลู่โจวไม่ได้รู้สึกหนาวเย็นด้วยเหตุผลบางประการ

แต่เขากลับรู้สึกอบอุ่น?

มันเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกแบบนี้

ไม่สิ ไม่ใช่ครั้งแรก

เขาเคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนแล้ว มันเคยเกิดขึ้นก่อนเที่ยวบิน…แต่ความรู้สึกมันบางเบาเขาจึงไม่ได้ใส่ใจมัน

อย่างไรก็ตามมันเป็นเพียงความรู้สึกเล็กน้อย

นี่เป็นสาเหตุที่ผู้คนต่างมีปัญหา อัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจถูกควบคุมโดยฮอร์โมนและสัญญาณประสาท ในระหว่างที่อารมณ์ถูกควบคุมโดยอัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจ

เขาพยายามหาว่าความว้าวุ่นในใจมาจากไหน แล้วเขารู้สึกถึงมืออุ่นแทรกเข้ามาจับมือเขาในกระเป๋ากางเกง

ไหล่ของลู่โจวสั่นโดยที่เขาไม่รู้ตัวแต่เขาไม่ได้หดมือกลับ เขากลับปล่อยให้อารมณ์ชักนำตามความคิดที่ไม่เป็นเหตุเป็นผล

บางทีโดปามีนอาจจะมีอำนาจเหนือกว่า

หรือว่ามันเป็นพลังลึกลับของจักรวาล…

อย่างไรเสียเขาไม่ได้เกลียดความรู้สึกนี้

เขาเกือบจะ…

ชอบมัน

เธอถามว่า “นายกำลังคิดอะไรอยู่?”

“ฉันไม่รู้ เธอบอกมาสิ”

“ฉันอ่านสายตานายออกนะ”

ลู่โจวขยับลำคอเล็กน้อย เขากำลังจะพูดออกมา แต่เฉินยู่ซานเงยหน้ามองท้องฟ้าแล้วพูดขึ้นก่อน

“ดูนั่นสิ” เธอชี้นิ้วไปที่ท้องฟ้าและพูดว่า “ออโรร่า”

ลู่โจวมองไปตามที่นิ้วชี้ของเธอชี้อยู่ หัวใจเขาเต้นโครมคราม

“…”

สายธารของอนุภาคที่ปลิดปลิวจากดวงอาทิตย์สัมผัสกับสนามแม่เหล็กของโลก ทำให้รังสีอันตรายเปลี่ยนเป็นแสงสีอ่อนแล้วกระจายไปทั่วท้องฟ้ายามค่ำคืนเหมือนรุ้งจากแสงไฟ

ความคิดของทั้งสองล่องลอยออกไปจากจักรวาลด้วยแสงออโรร่าสีงดงาม ทั้งสองยืนเงยหน้ามองท้องฟ้าที่ริมทะเลสาบเป็นเวลานาน

เกล็ดหิมะปลิวไปตามสายลมและสัมผัสที่ปลายจมูกของลู่โจวอย่างแผ่วเบา ในที่สุด ลู่โจวพูดขึ้นว่า “พวกมันเดินทางมา 152 ล้านกิโลเมตร”

“เพื่อนำความงดงามมาที่โลก?”

“ฉันคิดว่ามันไม่ได้มีเป้าหมายอะไร”

หมอกละลายเกล็ดหิมะที่ปลายจมูกของเขา

มีหิมะตกลงมามากขึ้น

มีเสียงกระซิบแผ่วเบาดังเข้าหูเขา

“จำได้ไหมที่นายเคยสัญญาฉันไว้?”

เฉินยู่ซานผู้ที่หัวใจกระวนกระวายไม่หยุด รีบพูดขึ้นว่า “นายสัญญาว่า—”

“ถ้าฉันได้รางวัลอีก ลืมเรื่องพาเธอไปงานเลี้ยงได้เลย เธอจะทำอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ…” ลู่โจวมองไปทางทะเลสาบและพูดเสียงอ่อน “ฉันจำที่ตัวเองพูดได้”

ถึงแม้ว่าตอนนั้นจะพูดโพล่งออกไปโดยไม่ได้คิดอะไร…

เฉินยู่ซานก้มหน้าลงและพูดกระซิบ “งั้น…ฉันขอพรนะ?”

“บอกฉันมา”

“ฉันอยากมีแฟน”

บรรยากาศเงียบกริบ

ความเงียบระหว่างสองคนนี้เหมือนกับหิมะบนต้นไม้

ความนิ่งเงียบกินเวลาไป 10 วินาที แต่ 10 วินาที ช่างยาวนานเหมือนหนึ่งศตวรรษ

สีหน้ากังวลของเธอค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความโดดเดี่ยว เธอฝืนยิ้มขึ้นช้าๆ

“ช่างมันเถอะ ฉันแค่พูดเล่น—”

“ฉันไม่ได้จะไปแนะนำเธอให้กับใคร”

ลู่โจวหันกลับมาจ้องตากับเธอ

ถึงแม้ว่าไม่มีแสงออโรร่าในตาของเธอ…

ในที่สุดเขาก็พบแล้วว่าทำไมหัวใจเขาถึงเต้นเร็วขึ้น

“แล้วถ้าเป็นฉันล่ะ?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Scholar’s Advanced Technological System 1265 เทพีแห่งทะเลสาบจะให้พรคุณ

Now you are reading Scholar’s Advanced Technological System Chapter 1265 เทพีแห่งทะเลสาบจะให้พรคุณ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ไม่มีหญิงคนไหนอาจจะต้านความโรแมนติกนี้ได้…”

ลู่โจวพยายามอย่างดีที่สุดที่จะไม่มองหญิงสาวที่ลานเต้นรำเพื่อให้เขาดูโรคจิตน้อยลง เขาโฟกัสที่จะมองหาคนพิเศษในกลุ่มฝูงชน

อยู่ดีๆ เขารู้สึกว่ามีใครบางคนกระตุกแขนเสื้อ เขามองไปทางที่มีแรงดึงแต่กลับไม่เห็นใคร

“สวัสดี อยู่ข้างล่างนี่ค่ะ”

มีเสียงเบาดังมาจากด้านล่าง ลู่โจวก้มมองลงและเห็นเด็กหญิงในชุดเดรส อายุคงราวๆ หกหรือเจ็ดปี เธอมองเขาด้วยตาเบิกกว้างใหญ่

จู่ๆ เหมือนว่าเธอนึกอะไรออก เธอหดมือมาปิดปากตัวเองและพึมพำช้าๆ “โอ้ ศาสตราจารย์ปราด้าบอกหนูว่าผู้หญิงต้องสุภาพกว่านี้”

ลู่โจวอดไม่ได้ที่จะยิ้มให้เจ้าหญิงตัวน้อย เขามองดูเธอและพูดอย่างสุภาพ “เจ้าหญิงผู้น่ารัก เธอหลงกับพ่อแม่เหรอ?”

“เปล่าค่ะ” เจ้าหญิงลิเลียจ้องมองลู่โจวตรงๆ และพูดว่า “ลิเลียมาที่นี่เพื่อเต้น”

“เต้น?”

“ใช่ค่ะ…คุณนักวิชาการ” เจ้าหญิงตัวน้อยถอนสายบัวและพูดว่า “ขอหนูเต้นรำกับคุณได้ไหม?”

เธอลืมชื่อเขาไปแล้วแน่เลย

ลู่โจวกลั้นยิ้มและตอบว่า “แต่ผู้ปกครองของเจ้าหญิงอาจจะเป็นห่วงนะ รีบตามหาพวกท่านน่าจะดีกว่า ผมช่วยถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้ได้นะครับ”

“ไม่ ไม่เป็นไรเลย หญิงสาวสวีเดนทุกคนชอบเต้นรำ หนูอยากเลือกคู่เต้นด้วยตัวเอง”

“แต่…ทำไมเป็นผมล่ะ?”

“ก็ต้องเป็นคุณ” เจ้าหญิงลิเลียพูดว่า “ลิเลียรู้ว่าคุณเป็นตัวละครหลัก ทุกคนจับตามองคุณอยู่ หนูเป็นสาวที่งดงามที่สุดที่ลานเต้นรำแห่งนี้ และหนูต้องเลือกคู่เต้นรำที่หล่อเหลาที่สุด”

ไม่ได้จริงๆ

มันน่าเอ็นดูเกินไป

ลู่โจวอดกลั้นขำไม่ได้ในที่สุด เขารีบไอกลบเกลื่อนด้วยความรวดเร็ว

ลิเลียที่ยังไม่เคยได้เข้าสังคมกลับคิดว่าเขาเป็นหวัด เธอกะพริบตาแล้วพูดด้วยความกังวล “คุณนักวิชาการต้องการหมอไหมคะ?”

“ไม่ครับ…เจ้าหญิงผู้น่ารัก ผมไม่ต้องการหมอ แต่ผมคิดว่าเจ้าหญิงควรจะเลือกคู่เต้นที่มีอายุรุ่นคราวเดียวกัน”

“แต่เด็กผู้ชายรุ่นเดียวกันซนทุกคนเลย พวกนั้นชอบยุ่งกับผมเปียเพื่อเรียกร้องความสนใจ” เจ้าหญิงตัวเล็กเบะปากและพูดว่า “พวกผู้ชายมันโง่”

ลู่โจว “…”

ลู่โจวกังวลเกี่ยวกับการศึกษาของราชวงศ์และเริ่มมองหาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ล็อบบี้ เขาได้ยินเสียงที่คุ้นเคย

“ขอโทษที ฉันมาสาย”

เมื่อลู่โจวหันไปมองต้นเสียง เขาเห็นสาวในชุดราตรีสีดำเดินฝ่าฝูงชนเข้ามาหา

ผมยาวสีดำของเธอถูกมัดไว้เป็นมวย ด้านหลังของกระโปรงสีดำประกายเหมือนหินออบซิเดียนส่องสว่าง มีทั้งความหรูหราและงดงามรวมเป็นหนึ่ง ลู่โจวอดไม่ได้ที่จะจ้องมองเธออยู่นาน เขานึกไม่ออกเลยว่าเธอเป็นใคร

เฉินยู่ซานรู้สึกว่าใบหน้าเริ่มร้อนผ่าว เธอเสมองและรีบก้าวมาหาเขา เธอยื่นมือไปจับแขนเขา

“ตามฉันมา ไปคุยกันนอกลานเต้นรำ”

ก่อนที่ลู่โจวจะได้พูดตอบ เด็กหญิงตัวเล็กชิงพูดขึ้นก่อน

“นี่ เขาเป็นคู่เต้นของหนูนะ มันหยาบคายที่จะแย่งคู่เต้นของคนอื่น”

เฉินยู่ซานมองดูเด็กหญิงที่ไม่พอใจ เธอสังเกตดูเจ้าหญิงตัวเล็กที่เธอเคยเห็นที่สนามบินมาก่อน

เธอดูค่อนข้างตื่นตระหนกและหันไปที่ลู่โจว ลู่โจวตอบเธอด้วยท่าทีอย่างเสียไม่ได้ จากนั้นเขาถอนหายใจแล้วคุกเข่าลง เขามองดูเด็กหญิงและพูดว่า “ขอโทษครับ ผมต้องขอตัวสักพัก”

“นานไหมอะ?”

“ผม…ไม่ทราบครับ”

“รีบกลับมานะ คุณต้องมาเต้นรำกับหนู”

“เมื่อเจ้าหญิงโตขึ้น ผมจะเต้นรำด้วยครับ”

เมื่อสลัดเด็กสาวที่ก่อกวนใจไปได้ในที่สุด ลู่โจวเดินตามเฉินยู่ซานออกจากลานเต้นรำไป และเดินไปบริเวณนั่งพักใกล้กับทางเข้า

หลังจากหยิบไวน์แดงสองแก้วมาจากถาดเครื่องดื่ม เขายื่นไวน์ในมือให้เฉินยู่ซาน

เฉินยู่ซานจิบไวน์ให้ปากชุ่มชื้น เธอรู้สึกมึนเล็กน้อยจากปลายลิ้น เมื่อเธอมองดูเงาสะท้อนจากไวน์แดงในแก้ว เฉินยู่ซานมีรอยยิ้มบนใบหน้า

“นายไม่ไปเต้นรำงั้นเหรอ?”

“มีเพียงสาวที่งดงามที่สุดที่คู่ควรกับอัศวินที่รูปหล่อที่สุด”

เฉินยู่ซานเกือบขำเสียงดังออกมาแล้วเธอมองดูลู่โจวด้วยสีหน้าจริงจัง จากนั้นเธอถามว่า “นายรู้จักเอ่ยปากชมผู้หญิงตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“เอาจริง ฉันไม่รู้หรอก” ลู่โจวยักไหล่แบบขอไปที เขามองดูไวน์ในมือแล้วถอนหายใจ จากนั้นเขาพูดว่า “เด็กหญิงอายุหกขวบพึ่งสอนฉันมา”

“จะว่าไปแล้ว นายก็เนื้อหอมกับเด็กๆ นะ”

“ข้อสรุปนี้มาจากการคำนวณจากตัวอย่างเดียวนี่นะ?”

“นายทำมันอีกแล้ว…”

“โอ้ ขอโท—”

ก่อนที่เขาพูดจบ มีนิ้วชี้มาปิดปากไม่ให้เขาพูดต่อ

“หยุดพูดขอโทษพร่ำเพรื่อ” เฉินยู่ซานพูดพร้อมกับรอยยิ้มมีความสุข จากนั้นเธอพูดเสริม “ฉันชอบแบบที่นายเคยเป็นนะ”

แบบที่ฉันเคยเป็น?

มันคืออะไรล่ะ?

ลู่โจวคิดถี่ถ้วนแต่เฉินยู่ซานดึงแขนเสื้อของเขา

“ตรงนี้เสียงดังไป เราไปนั่งข้างนอกดีไหม?”

“โอเค ได้ครับได้” ลู่โจวมองดูชุดราตรีของเธอและถามว่า “แต่ว่าเธอจะไม่หนาวเหรอ?”

“โง่จริง” เฉินยู่ซานกลอกตาแล้วพูดต่อ “ฉันมีโค้ทมาด้วย นี่นายคิดว่าฉันมาที่นี่ยังไงล่ะ?”

“งั้น…ฉันจะรอคุณอยู่ตรงนี้”

“ไม่น่าเกินห้านาที! อย่าทิ้งฉันล่ะ”

เฉินยู่ซานเดินย่ำรองเท้าส้นสูงไปที่ประตูข้างของงานปาร์ตี้ ลู่โจวอยากเตือนให้เธอเดินช้าๆ แล้วระวังล้ม แต่หญิงสาวหน้าตาสวยงามเดินหายไปจากฝูงชนแล้ว

ลู่ปังกั๋วที่ยืนอยู่ข้างโต๊ะบุฟเฟ่ต์พูดพึมพำระหว่างที่หันมองไปรอบๆ “ลูกฉันอยู่ไหนน่ะ?”

จู่ๆ เขาเห็นร่างคุ้นเคยยืนอยู่ตรงที่นั่งพักแถวทางเข้างาน ลู่โจวในชุดสูทยืนอยู่ตรงนั้น ดูเหมือนว่าเขากำลังรอใครบางคน

ตาของลู่ปังกั๋วเป็นประกาย เขากำลังจะเดินไปเรียกลูกชายแต่ฟางเหมยชิงพูดขึ้นก่อน

“โง่เอ๊ย! ดูลูกแกสิ เขากำลังรอคนอื่นอยู่”

ลู่ปังกั๋วถาม “เขาไม่ได้รอเราอยู่เหรอ?”

“เพื่ออะไรล่ะ? เราเจอลูกที่โรงแรม? แล้วก็ในรถ? ถ้าคุณติดอยู่กับลูกตลอด เมื่อเราจะได้อุ้มหลานกันล่ะ?”

“ใช่! จริงด้วย!” ลู่ปังกั๋วพยักหน้าอยู่หลายครั้งและเขายิ้มมุมปากแล้วพูดว่า “ฉันอยากมีหลาน!”

ถึงเขาเตรียมใจแล้วว่าลูกชายจะทำให้สายเลือดจบสิ้น เขาก็หวังว่าจะได้เห็นหลานที่น่ารักสักวัน

มันแทบเป็นความปรารถนาของพ่อทุกคน

โดยเฉพาะครอบครัวหัวโบราณ การที่แค่บรรลุนิติภาวะตามกฎหมายไม่ได้ทำให้ได้เป็นผู้ชายเต็มตัว เมื่อลูกชายมีครอบครัวต่างหากเขาก็จะถือว่าเติบโตเป็นผู้ชาย

ฟางเหมยยิ้มและปล่อยมือจากผู้เฒ่าลู่

“งั้นอยู่ที่นี่

อย่าไปยุ่งกับกงการของคนอื่นเขา!”

หิมะข้างนอกหยุดตกแล้ว ลมเหนือที่พัดปลิวตรงป่าสนยังนำความหนาวเย็นมาอยู่บ้าง แต่เมื่อเดินไปตามทะเลสาบ ลู่โจวไม่ได้รู้สึกหนาวเย็นด้วยเหตุผลบางประการ

แต่เขากลับรู้สึกอบอุ่น?

มันเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกแบบนี้

ไม่สิ ไม่ใช่ครั้งแรก

เขาเคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนแล้ว มันเคยเกิดขึ้นก่อนเที่ยวบิน…แต่ความรู้สึกมันบางเบาเขาจึงไม่ได้ใส่ใจมัน

อย่างไรก็ตามมันเป็นเพียงความรู้สึกเล็กน้อย

นี่เป็นสาเหตุที่ผู้คนต่างมีปัญหา อัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจถูกควบคุมโดยฮอร์โมนและสัญญาณประสาท ในระหว่างที่อารมณ์ถูกควบคุมโดยอัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจ

เขาพยายามหาว่าความว้าวุ่นในใจมาจากไหน แล้วเขารู้สึกถึงมืออุ่นแทรกเข้ามาจับมือเขาในกระเป๋ากางเกง

ไหล่ของลู่โจวสั่นโดยที่เขาไม่รู้ตัวแต่เขาไม่ได้หดมือกลับ เขากลับปล่อยให้อารมณ์ชักนำตามความคิดที่ไม่เป็นเหตุเป็นผล

บางทีโดปามีนอาจจะมีอำนาจเหนือกว่า

หรือว่ามันเป็นพลังลึกลับของจักรวาล…

อย่างไรเสียเขาไม่ได้เกลียดความรู้สึกนี้

เขาเกือบจะ…

ชอบมัน

เธอถามว่า “นายกำลังคิดอะไรอยู่?”

“ฉันไม่รู้ เธอบอกมาสิ”

“ฉันอ่านสายตานายออกนะ”

ลู่โจวขยับลำคอเล็กน้อย เขากำลังจะพูดออกมา แต่เฉินยู่ซานเงยหน้ามองท้องฟ้าแล้วพูดขึ้นก่อน

“ดูนั่นสิ” เธอชี้นิ้วไปที่ท้องฟ้าและพูดว่า “ออโรร่า”

ลู่โจวมองไปตามที่นิ้วชี้ของเธอชี้อยู่ หัวใจเขาเต้นโครมคราม

“…”

สายธารของอนุภาคที่ปลิดปลิวจากดวงอาทิตย์สัมผัสกับสนามแม่เหล็กของโลก ทำให้รังสีอันตรายเปลี่ยนเป็นแสงสีอ่อนแล้วกระจายไปทั่วท้องฟ้ายามค่ำคืนเหมือนรุ้งจากแสงไฟ

ความคิดของทั้งสองล่องลอยออกไปจากจักรวาลด้วยแสงออโรร่าสีงดงาม ทั้งสองยืนเงยหน้ามองท้องฟ้าที่ริมทะเลสาบเป็นเวลานาน

เกล็ดหิมะปลิวไปตามสายลมและสัมผัสที่ปลายจมูกของลู่โจวอย่างแผ่วเบา ในที่สุด ลู่โจวพูดขึ้นว่า “พวกมันเดินทางมา 152 ล้านกิโลเมตร”

“เพื่อนำความงดงามมาที่โลก?”

“ฉันคิดว่ามันไม่ได้มีเป้าหมายอะไร”

หมอกละลายเกล็ดหิมะที่ปลายจมูกของเขา

มีหิมะตกลงมามากขึ้น

มีเสียงกระซิบแผ่วเบาดังเข้าหูเขา

“จำได้ไหมที่นายเคยสัญญาฉันไว้?”

เฉินยู่ซานผู้ที่หัวใจกระวนกระวายไม่หยุด รีบพูดขึ้นว่า “นายสัญญาว่า—”

“ถ้าฉันได้รางวัลอีก ลืมเรื่องพาเธอไปงานเลี้ยงได้เลย เธอจะทำอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ…” ลู่โจวมองไปทางทะเลสาบและพูดเสียงอ่อน “ฉันจำที่ตัวเองพูดได้”

ถึงแม้ว่าตอนนั้นจะพูดโพล่งออกไปโดยไม่ได้คิดอะไร…

เฉินยู่ซานก้มหน้าลงและพูดกระซิบ “งั้น…ฉันขอพรนะ?”

“บอกฉันมา”

“ฉันอยากมีแฟน”

บรรยากาศเงียบกริบ

ความเงียบระหว่างสองคนนี้เหมือนกับหิมะบนต้นไม้

ความนิ่งเงียบกินเวลาไป 10 วินาที แต่ 10 วินาที ช่างยาวนานเหมือนหนึ่งศตวรรษ

สีหน้ากังวลของเธอค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความโดดเดี่ยว เธอฝืนยิ้มขึ้นช้าๆ

“ช่างมันเถอะ ฉันแค่พูดเล่น—”

“ฉันไม่ได้จะไปแนะนำเธอให้กับใคร”

ลู่โจวหันกลับมาจ้องตากับเธอ

ถึงแม้ว่าไม่มีแสงออโรร่าในตาของเธอ…

ในที่สุดเขาก็พบแล้วว่าทำไมหัวใจเขาถึงเต้นเร็วขึ้น

“แล้วถ้าเป็นฉันล่ะ?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+