Scholar’s Advanced Technological System 1384 การค้นพบครั้งสำคัญ

Now you are reading Scholar’s Advanced Technological System Chapter 1384 การค้นพบครั้งสำคัญ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

โฮชิ ยูอิชิโร่ ยามะชิตะ และคนอื่นๆ ในออฟฟิศต่างก็อึ้งไป

ไม่เพียงแค่นั้น แต่ไม่นานหลังจากที่วิดีโอถูกอัปโหลดผ่านบล็อกส่วนตัวของเขา วงการวิชาการญี่ปุ่นเกิดความวุ่นวายขึ้นทันที

เป็นอย่างที่ทุกคนคาดคิด ชินอิจิ โมจิซูกิยืนขึ้นและตอบโต้ต่อเรื่องที่บทความของเขาถูกลบจากบล็อกส่วนตัวและเว็บไซต์ของแผนกคณิตศาสตร์

แต่คำตอบที่ได้ไม่ใช่สิ่งที่คนอยากได้ยิน

ในแง่หนึ่งวงการวิชาการญี่ปุ่นค่อนข้างที่จะปิดกั้นเมื่อเทียบกับวงการวิชาการนานาชาติ

มันไม่เพียงแค่สะท้อนให้เห็นถึงแค่การแลกเปลี่ยนทางวิชาการเท่านั้น แต่วงการวิชาการญี่ปุ่นทั้งวงการถูกแทรกซึมด้วยบรรยากาศที่เกลียดชังชาติพันธุ์ที่ต่างจากตนเองที่ครอบงำโดยความมั่นใจสูงสุด

พูดง่ายๆ ก็คือพวกเขาไม่ได้พุ่งเป้าที่ใครทั้งนั้น แต่พวกเขารู้สึกว่านักวิชาการต่างชาติทั้งหมดคือขยะ และไม่มีประเทศไหนที่พิเศษ

วัฒนธรรมที่เกลียดชังชาวต่างชาติที่ฝังแน่นอย่างไม่รู้ตัวทำให้นักวิชาการต่างชาติเข้าถึงพวกเขาได้ยาก นักวิชาการญี่ปุ่นแทบจะไม่ยินดีที่จะปรับตัวเข้ากับโลก ผู้ชนะรางวัลโนเบลญี่ปุ่นทั้ง 22 คนในสาขาวัสดุศาสตร์ เคมีและฟิสิกส์ ไม่มีใครที่ทำงานต่างประเทศเลย

ถ้านักวิชาการต่างชาติเกิดสงสัยในตัวนักวิชาการญี่ปุ่น เว้นเสียแต่ว่าจะมีหลักฐานที่แน่ชัดอยู่ตรงหน้า ในสายตาของวงการวิชาการญี่ปุ่นแล้วคนทั้งโลกคือฝ่ายที่ผิด

พวกเขาแทบจะไม่เคยขอโทษเลย

เพราะแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เรื่องการฉ้อฉลทางวิชาการหรือเรื่องอื้อฉาว วงการวิชาการญี่ปุ่นจะรู้สึกเสียเกียรติเพราะความผิดพลาดที่ถูกพบในตอนแรก

เห็นได้ชัดจากรายชื่อสิบอันดับต้นๆ ในที่ลงในบล็อก Retraction Watch

จากนักวิชาการทั้งหมดสิบคน มีสี่คนที่เป็นนักวิชาการญี่ปุ่น

โดยเฉพาะโยชิทากะ ฟูจิอิที่ถูกจัดให้เป็นอันดับที่หนึ่ง เขามีชื่อเสียงที่เสื่อมเสียในโลกวิชาการตั้งแต่ใบปริญญาเอกของเขาในปี 1991 ไปจนถึงเหตุการณ์ที่ตงชวนในปี 2012 เขาตีพิมพ์บทความทั้งหมด 212 บทความ และ 183 บทความในนั้นประกอบไปด้วยข้อมูลที่บิดเบือน

ซึ่งหมายความว่าเฉพาะบทความของเขาที่ถูกถอดถอนตั้งแต่ปี 1980 จนถึงปี 2011 ก็ปาเข้าไป 7% แล้ว ซึ่งเหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดความวุ่นวายในตอนนั้น

แม้แต่คณะกรรมการสืบสวนของกระทรวงศึกษาธิการที่ทำหน้าที่ตรวจสอบเขาก็ยังรับไม่ได้ พวกเขาเขียนในรายงานฉบับย่อว่า ‘มันเทียบเท่ากับการนั่งแต่งนิยายไซไฟอยู่ที่โต๊ะ’

แน่นอนว่างานของโมจิซูกิไม่ใช่ของปลอม

นักวิชาการยอมรับกับความผิดพลาดที่บริสุทธิ์ นอกจากถูกตีพิมพ์ในเว็บไซต์ของแผนกคณิตศาสตร์มหาวิทยาลัยเกียวโตและบล็อกส่วนตัวของเขา บทความ 500 หน้านี้ก็ไม่เคยได้ตีพิมพ์ในวารสารไหนอีกเลย ดังนั้นจึงไม่มีอะไรให้ถอดถอน

แต่ทางแผนกคณิตศาสตร์มหาวิทยาลัยเกียวโตจะรับภาระทั้งหมด

ตั้งแต่ที่นักวิชาการคนนี้อ้างว่าตนได้พิสูจน์ข้อคาดการณ์ ABC แผนกคณิตศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเกียวโตได้เผยแพร่บทความของเขาลงในเว็บไซต์หลักราวกับเป็นรางวัล พวกเขาอ้างอยู่ฝ่ายเดียวว่าข้อคาดการณ์ได้รับการพิสูจน์แล้ว

แต่เนื่องจากจู่ๆ ชินอิจิ โมจิซูกิก็เปลี่ยนความคิด ทำให้เขาไม่ใช่คนที่เสียหน้าที่สุด แต่เป็นคนที่สนับสนุนเขาต่างหาก…

ไม่ใช่แค่โฮชิ ยูอิชิโร่ และยามะชิตะเท่านั้นที่อึ้งกับเรื่องนี้ แต่นักศึกษาทุกคนและผู้ช่วยที่อยู่ในออฟฟิศของเขาก็ยอมรับความจริงของเรื่องนี้ไม่ได้

จากคนทั้งหมดที่รู้จักเขา มีเพียงแค่ที่ปรึกษาของเขาคนเดียวเท่านั้นนั่นก็คือฟาลติ้งส์ที่อยู่ไกลถึงประเทศเยอรมันและไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับเรื่องนี้ขนาดนั้น

ณ เมืองอัมสเตอร์ดัม

ศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์ที่เข้าร่วมประชุมสมาคมนักคณิตศาสตร์แห่งยุโรปกำลังพูดคุยกับศาสตราจารย์ชิเงะฟุมิ โมริเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นในโลกคณิตศาสตร์ หัวข้อในการสนทนาของพวกเขามีตั้งแต่ข้อคาดการณ์ ABC ไปจนถึงกลุ่มวิจัยที่เรียกว่า LSPM

ศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์ยิ้มเบาๆ และพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ประหลาดใจเลย

“คู่แข่งของเขาคือลู่โจว แน่นอนอยู่แล้วว่าเขาต้องเป็นฝ่ายแพ้ โมจิซูกิเป็นนักวิชาการที่ซื่อตรง คนที่ซื่อตรงจะทำเรื่องผิดพลาดที่บริสุทธิ์เท่านั้น ไหนๆ เขาก็ยอมรับความผิดพลาดของตัวเองแล้ว เขาก็คงเข้าใจแล้วว่าเขาผิดตรงไหน เรื่องนี้นับเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเขาและเรขาคณิตอนาบีเลียน”

การที่จมอยู่ในโลกของตัวเองเป็นเวลานานเกินไปจะทำให้คนคนนั้นขาดการติดต่อกับโลกภายนอกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าเกิดมีปัญหาเล็กๆ ที่ไม่มีใครสังเกตเห็น มันก็เป็นเรื่องง่ายที่จะก่อให้เกิดปัญหาที่ใหญ่ขึ้นและติดอยู่กับปัญหานั้น

นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่ทำไมคนเราจึงจัดลำดับความสำคัญในการสื่อสารและการโต้แย้งเวลาที่แก้ไขประพจน์ทางคณิตศาสตร์ใหญ่ๆ …

แม้ว่ามุมมองของศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์แทบจะไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับปัญหานี้ แต่ศาสตราจารย์ชิเงะฟุมิ โมริก็ยังขมวดคิ้วเล็กน้อยและแก้ไขคำพูดของเขาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ

“ผมไม่ชอบคำว่าแพ้ ในความคิดของผมมันไม่มีคำว่าแพ้หรือชนะ มันมีแค่ความเป็นจริง”

“ดูเหมือนว่าคุณยังไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่เลยนะครับ” ศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์พูดพลางยิ้มมุมปาก

ศาสตราจารย์ชิเงะฟุมิ โมริยักไหล่และทิ้งคำตอบที่คลุมเครือไว้

“ผมไม่ได้ไม่มั่นใจ ผมก็แค่คิดว่ามันน่าจะมีอะไรอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้…โอเค พอแค่นี้เถอะ มาคุยเรื่องที่สนุกกว่านี้กันดีกว่า”

ตั้งแต่มีการก่อตั้ง LSPM และการประกาศข้อคาดการณ์ ABC ในฐานะเป้าหมาย มหาวิทยาลัยจินหลิงก็กลายเป็นจุดสนใจของนักคณิตศาสตร์จากทั่วทุกมุมโลก

ไม่ใช่แค่เพราะรายชื่อของนักคณิตศาสตร์ที่ต่อคิวเข้ามา แต่ยังเป็นเพราะข้อความที่ชินอิจิ โมจิซูกิได้โพสต์ในบล็อกส่วนตัวของเขา

ไม่มีใครคิดว่านักวิชาการคนนี้ที่จมอยู่แค่ในโลกของตัวเองจะเลือกที่จะก้าวออกมาจากพื้นที่ปลอดภัยของตัวเอง

และสิ่งที่เหนือความคาดหมายยิ่งไปกว่านั้นก็คือความขัดแย้งนี้ที่ยาวนานกว่าสิบปี ในที่สุดก็จบลงเสียที

บรรยากาศในวงจรคณิตศาสตร์ญี่ปุ่นค่อนข้างหดหู่และเศร้าหมอง

ชาวเน็ตยังแสดงความประหลาดใจและเสียใจกับผลลัพธ์นี้ นอกเหนือจากนี้ คนมากมายถือว่าชินอิจิ โมจิซูกิและความสำเร็จของเขาคือความภาคภูมิใจ พวกเขาไม่คาดคิดว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามที่พวกเขาหวังไว้

คนบางคนที่มีความเห็นรุนแรงยังเชื่อว่าชูลทซ์และลู่โจวลักพาตัวโมจิซูกิของพวกเขาและบังคับให้เขาพูดอะไรแบบนั้นออกไป

ชินอิจิ โมจิซูกิทำเป็นหูทวนลมต่อการถกเถียงกันในอินเทอร์เน็ต เขาเก็บตัวเงียบๆ และแยกตัวออกจากวงการคณิตศาสตร์ เวลาเกือบทั้งหมดของเขาถูกใช้ไปกับการศึกษาข้อคาดการณ์ ABC

มหาวิทยาลัยจินหลิงยังหยุดนักข่าวที่พยายามจะสัมภาษณ์เขาอีกด้วย

ลู่โจวรู้สึกว่าชายคนนี้กำลังใช้มหาวิทยาลัยจินหลิงเป็นหลุมหลบภัยชั่วคราว

เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าชายคนนี้อาจจะจงใจหาสถานที่ที่ไม่มีใครรู้จักและใช้ลู่โจวเป็นพื้นที่ในการซ่อนตัว

แน่นอนว่าไม่ใช่ลู่โจวคนเดียวที่คิดแบบนี้ คนอื่นๆ ในโปรเจกต์งานวิจัยก็คิดเหมือนกัน

ในระหว่างการประชุม โมจิซูกิมองไปที่ชินอิจิผ่านโต๊ะประชุมและจู่ๆ ก็ถามขึ้น

“เอาตรงๆ นะ คุณตั้งใจให้เป็นแบบนี้ใช่ไหม”

ชินอิจิ โมจิซูกิดันแว่นขึ้นและถาม “เรื่องอะไร”

“ก็หาสถานที่ที่ไม่มีใครรู้จักคุณ หลังจากนั้นก็รอจนกว่าความสนใจจะซาลงแล้วค่อยกลับเข้าสู่วงการใหม่…ตอนที่คุณพบว่าวิธีการพิสูจน์ของคุณไม่ได้ผล”

ชินอิจิ โมจิซูกิอึ้งไปสักพัก หลังจากนั้นเขาเงยหน้าขึ้นมองชูลทซ์

“มันสำคัญสำหรับผมด้วยเหรอ”

“อย่าท้อไปเลยพวก ผมก็แค่เป็นห่วงคุณ” ชูลทซ์พูดพร้อมรอยยิ้ม “ผมอยากเลี้ยงเครื่องดื่มคุณ คุณจะได้…”

หลังจากที่เห็นว่าคนสองคนที่เลิกทะเลาะกันแล้วกำลังจะทะเลาะกันอีกรอบ ลู่โจวกระแอมและพูดทันที

“พอแล้ว มาคุยกันเรื่องธุรกิจดีกว่า…กลับมาคุยกันถึงปัญหาที่เราเพิ่งปรึกษากันดีกว่า”

ลู่โจวมองสีหน้าที่จริงจังของเพื่อนร่วมทีมอีกสามคน หลังจากนั้นเขากระแอมและพูดต่อ “ความคืบหน้าของวิจัยในช่วงนี้ค่อนข้างราบรื่นดี เมื่อเทียบกับสถานการณ์ยากลำบากที่เราเผชิญตอนที่เริ่มโปรเจกต์ เราได้ผลลัพธ์ที่สำคัญเกี่ยวกับปัญหาของกุญแจ”

“เริ่มจากขัดเกลาทฤษฎีบทของเบเกอร์ ไอเดียที่เข้าใกล้ข้อคาดการณ์ ABC ขึ้นเรื่อยๆ ถูกต้อง”

“กุญแจสำคัญของปัญหาตอนนี้ก็คือเราจะต้องหาวิธีในการหาผลลัพธ์ที่แม่นยำกว่านี้เพื่อขอบเขตบนของ L(a, b, c) และ…”

ลู่โจวเลื่อนเก้าอี้ไปทางไวท์บอร์ด เขาหยิบปากกาและเขียนการคำนวณ

[C

เขาเคาะไวท์บอร์ด้วยฝาปากกาและพูดต่อ

“และเราจะขยายผลลัพธ์ต่อไปได้อย่างไร…

“ในส่วนนี้ของการวิจัยจะไม่มีทางลัด เราสามารถหาคำตอบได้จากความพยายามอย่างต่อเนื่อง”

ลู่โจวนิ่งไปสักพัก เขาเหลือบไปมองเพื่อนร่วมทีมอีกสามคนและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ในช่วงสองสามวันต่อจากนี้ ความตึงเครียดของงานเราจะสูงขึ้นมากๆ ผมหวังว่าเราทุกคนจะอดทนกับมัน”

“ต่อไปผมจะเป็นคนมอบหมายงานให้แต่ละคน”

“เดี๋ยวนะ” จู่ๆ ชูลทซ์ก็แสดงความสนใจและตื่นเต้นบนใบหน้า เขายกมือขวาขึ้นและพูด “เรากำลังจะพักผ่อนกันเหรอ”

ลู่โจวพยักหน้า

“ทำนองนั้น”

แม้ว่ามันจะเป็นเพียงนิสัยของเขาเวลาที่ทำวิจัย แต่เขาก็ไม่แนะนำให้คนอื่นทำตาม

แต่สีหน้าของชูลทซ์เปลี่ยนเป็นความประหลาดใจแทน เขาดีดนิ้วและพูดขึ้น

“เยี่ยม ผมอยากจะถามคุณมานานแล้วเกี่ยวกับเทคนิควิจัยที่ลึกลับนั่น!”

ชินอิจิ โมจิซูกิและเพเรลมานมองหน้ากัน ดูเหมือนพวกเขาจะสนใจมากเหมือนกัน นักศึกษาคนอื่นที่นั่งอยู่ในออฟฟิศยกมือขึ้นเบาๆ และเหลือบไปมองศาสตราจารย์ที่มีชื่อเสียงด้วยสายตาแปลกๆ

ไปพักผ่อนกับศาสตราจารย์ลู่…

คนพวกนี้บ้าหรือเปล่า

ส่วนลู่โจว เขายิ้มเจื่อนๆ

“ไม่มีปัญหา”

“แต่กระบวนการนี้อาจจะยากหน่อย”

“ถ้าคุณรับไม่ได้ก็บอกผมด้วย”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Scholar’s Advanced Technological System 1384 การค้นพบครั้งสำคัญ

Now you are reading Scholar’s Advanced Technological System Chapter 1384 การค้นพบครั้งสำคัญ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

โฮชิ ยูอิชิโร่ ยามะชิตะ และคนอื่นๆ ในออฟฟิศต่างก็อึ้งไป

ไม่เพียงแค่นั้น แต่ไม่นานหลังจากที่วิดีโอถูกอัปโหลดผ่านบล็อกส่วนตัวของเขา วงการวิชาการญี่ปุ่นเกิดความวุ่นวายขึ้นทันที

เป็นอย่างที่ทุกคนคาดคิด ชินอิจิ โมจิซูกิยืนขึ้นและตอบโต้ต่อเรื่องที่บทความของเขาถูกลบจากบล็อกส่วนตัวและเว็บไซต์ของแผนกคณิตศาสตร์

แต่คำตอบที่ได้ไม่ใช่สิ่งที่คนอยากได้ยิน

ในแง่หนึ่งวงการวิชาการญี่ปุ่นค่อนข้างที่จะปิดกั้นเมื่อเทียบกับวงการวิชาการนานาชาติ

มันไม่เพียงแค่สะท้อนให้เห็นถึงแค่การแลกเปลี่ยนทางวิชาการเท่านั้น แต่วงการวิชาการญี่ปุ่นทั้งวงการถูกแทรกซึมด้วยบรรยากาศที่เกลียดชังชาติพันธุ์ที่ต่างจากตนเองที่ครอบงำโดยความมั่นใจสูงสุด

พูดง่ายๆ ก็คือพวกเขาไม่ได้พุ่งเป้าที่ใครทั้งนั้น แต่พวกเขารู้สึกว่านักวิชาการต่างชาติทั้งหมดคือขยะ และไม่มีประเทศไหนที่พิเศษ

วัฒนธรรมที่เกลียดชังชาวต่างชาติที่ฝังแน่นอย่างไม่รู้ตัวทำให้นักวิชาการต่างชาติเข้าถึงพวกเขาได้ยาก นักวิชาการญี่ปุ่นแทบจะไม่ยินดีที่จะปรับตัวเข้ากับโลก ผู้ชนะรางวัลโนเบลญี่ปุ่นทั้ง 22 คนในสาขาวัสดุศาสตร์ เคมีและฟิสิกส์ ไม่มีใครที่ทำงานต่างประเทศเลย

ถ้านักวิชาการต่างชาติเกิดสงสัยในตัวนักวิชาการญี่ปุ่น เว้นเสียแต่ว่าจะมีหลักฐานที่แน่ชัดอยู่ตรงหน้า ในสายตาของวงการวิชาการญี่ปุ่นแล้วคนทั้งโลกคือฝ่ายที่ผิด

พวกเขาแทบจะไม่เคยขอโทษเลย

เพราะแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เรื่องการฉ้อฉลทางวิชาการหรือเรื่องอื้อฉาว วงการวิชาการญี่ปุ่นจะรู้สึกเสียเกียรติเพราะความผิดพลาดที่ถูกพบในตอนแรก

เห็นได้ชัดจากรายชื่อสิบอันดับต้นๆ ในที่ลงในบล็อก Retraction Watch

จากนักวิชาการทั้งหมดสิบคน มีสี่คนที่เป็นนักวิชาการญี่ปุ่น

โดยเฉพาะโยชิทากะ ฟูจิอิที่ถูกจัดให้เป็นอันดับที่หนึ่ง เขามีชื่อเสียงที่เสื่อมเสียในโลกวิชาการตั้งแต่ใบปริญญาเอกของเขาในปี 1991 ไปจนถึงเหตุการณ์ที่ตงชวนในปี 2012 เขาตีพิมพ์บทความทั้งหมด 212 บทความ และ 183 บทความในนั้นประกอบไปด้วยข้อมูลที่บิดเบือน

ซึ่งหมายความว่าเฉพาะบทความของเขาที่ถูกถอดถอนตั้งแต่ปี 1980 จนถึงปี 2011 ก็ปาเข้าไป 7% แล้ว ซึ่งเหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดความวุ่นวายในตอนนั้น

แม้แต่คณะกรรมการสืบสวนของกระทรวงศึกษาธิการที่ทำหน้าที่ตรวจสอบเขาก็ยังรับไม่ได้ พวกเขาเขียนในรายงานฉบับย่อว่า ‘มันเทียบเท่ากับการนั่งแต่งนิยายไซไฟอยู่ที่โต๊ะ’

แน่นอนว่างานของโมจิซูกิไม่ใช่ของปลอม

นักวิชาการยอมรับกับความผิดพลาดที่บริสุทธิ์ นอกจากถูกตีพิมพ์ในเว็บไซต์ของแผนกคณิตศาสตร์มหาวิทยาลัยเกียวโตและบล็อกส่วนตัวของเขา บทความ 500 หน้านี้ก็ไม่เคยได้ตีพิมพ์ในวารสารไหนอีกเลย ดังนั้นจึงไม่มีอะไรให้ถอดถอน

แต่ทางแผนกคณิตศาสตร์มหาวิทยาลัยเกียวโตจะรับภาระทั้งหมด

ตั้งแต่ที่นักวิชาการคนนี้อ้างว่าตนได้พิสูจน์ข้อคาดการณ์ ABC แผนกคณิตศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเกียวโตได้เผยแพร่บทความของเขาลงในเว็บไซต์หลักราวกับเป็นรางวัล พวกเขาอ้างอยู่ฝ่ายเดียวว่าข้อคาดการณ์ได้รับการพิสูจน์แล้ว

แต่เนื่องจากจู่ๆ ชินอิจิ โมจิซูกิก็เปลี่ยนความคิด ทำให้เขาไม่ใช่คนที่เสียหน้าที่สุด แต่เป็นคนที่สนับสนุนเขาต่างหาก…

ไม่ใช่แค่โฮชิ ยูอิชิโร่ และยามะชิตะเท่านั้นที่อึ้งกับเรื่องนี้ แต่นักศึกษาทุกคนและผู้ช่วยที่อยู่ในออฟฟิศของเขาก็ยอมรับความจริงของเรื่องนี้ไม่ได้

จากคนทั้งหมดที่รู้จักเขา มีเพียงแค่ที่ปรึกษาของเขาคนเดียวเท่านั้นนั่นก็คือฟาลติ้งส์ที่อยู่ไกลถึงประเทศเยอรมันและไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับเรื่องนี้ขนาดนั้น

ณ เมืองอัมสเตอร์ดัม

ศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์ที่เข้าร่วมประชุมสมาคมนักคณิตศาสตร์แห่งยุโรปกำลังพูดคุยกับศาสตราจารย์ชิเงะฟุมิ โมริเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นในโลกคณิตศาสตร์ หัวข้อในการสนทนาของพวกเขามีตั้งแต่ข้อคาดการณ์ ABC ไปจนถึงกลุ่มวิจัยที่เรียกว่า LSPM

ศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์ยิ้มเบาๆ และพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ประหลาดใจเลย

“คู่แข่งของเขาคือลู่โจว แน่นอนอยู่แล้วว่าเขาต้องเป็นฝ่ายแพ้ โมจิซูกิเป็นนักวิชาการที่ซื่อตรง คนที่ซื่อตรงจะทำเรื่องผิดพลาดที่บริสุทธิ์เท่านั้น ไหนๆ เขาก็ยอมรับความผิดพลาดของตัวเองแล้ว เขาก็คงเข้าใจแล้วว่าเขาผิดตรงไหน เรื่องนี้นับเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเขาและเรขาคณิตอนาบีเลียน”

การที่จมอยู่ในโลกของตัวเองเป็นเวลานานเกินไปจะทำให้คนคนนั้นขาดการติดต่อกับโลกภายนอกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าเกิดมีปัญหาเล็กๆ ที่ไม่มีใครสังเกตเห็น มันก็เป็นเรื่องง่ายที่จะก่อให้เกิดปัญหาที่ใหญ่ขึ้นและติดอยู่กับปัญหานั้น

นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่ทำไมคนเราจึงจัดลำดับความสำคัญในการสื่อสารและการโต้แย้งเวลาที่แก้ไขประพจน์ทางคณิตศาสตร์ใหญ่ๆ …

แม้ว่ามุมมองของศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์แทบจะไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับปัญหานี้ แต่ศาสตราจารย์ชิเงะฟุมิ โมริก็ยังขมวดคิ้วเล็กน้อยและแก้ไขคำพูดของเขาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ

“ผมไม่ชอบคำว่าแพ้ ในความคิดของผมมันไม่มีคำว่าแพ้หรือชนะ มันมีแค่ความเป็นจริง”

“ดูเหมือนว่าคุณยังไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่เลยนะครับ” ศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์พูดพลางยิ้มมุมปาก

ศาสตราจารย์ชิเงะฟุมิ โมริยักไหล่และทิ้งคำตอบที่คลุมเครือไว้

“ผมไม่ได้ไม่มั่นใจ ผมก็แค่คิดว่ามันน่าจะมีอะไรอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้…โอเค พอแค่นี้เถอะ มาคุยเรื่องที่สนุกกว่านี้กันดีกว่า”

ตั้งแต่มีการก่อตั้ง LSPM และการประกาศข้อคาดการณ์ ABC ในฐานะเป้าหมาย มหาวิทยาลัยจินหลิงก็กลายเป็นจุดสนใจของนักคณิตศาสตร์จากทั่วทุกมุมโลก

ไม่ใช่แค่เพราะรายชื่อของนักคณิตศาสตร์ที่ต่อคิวเข้ามา แต่ยังเป็นเพราะข้อความที่ชินอิจิ โมจิซูกิได้โพสต์ในบล็อกส่วนตัวของเขา

ไม่มีใครคิดว่านักวิชาการคนนี้ที่จมอยู่แค่ในโลกของตัวเองจะเลือกที่จะก้าวออกมาจากพื้นที่ปลอดภัยของตัวเอง

และสิ่งที่เหนือความคาดหมายยิ่งไปกว่านั้นก็คือความขัดแย้งนี้ที่ยาวนานกว่าสิบปี ในที่สุดก็จบลงเสียที

บรรยากาศในวงจรคณิตศาสตร์ญี่ปุ่นค่อนข้างหดหู่และเศร้าหมอง

ชาวเน็ตยังแสดงความประหลาดใจและเสียใจกับผลลัพธ์นี้ นอกเหนือจากนี้ คนมากมายถือว่าชินอิจิ โมจิซูกิและความสำเร็จของเขาคือความภาคภูมิใจ พวกเขาไม่คาดคิดว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามที่พวกเขาหวังไว้

คนบางคนที่มีความเห็นรุนแรงยังเชื่อว่าชูลทซ์และลู่โจวลักพาตัวโมจิซูกิของพวกเขาและบังคับให้เขาพูดอะไรแบบนั้นออกไป

ชินอิจิ โมจิซูกิทำเป็นหูทวนลมต่อการถกเถียงกันในอินเทอร์เน็ต เขาเก็บตัวเงียบๆ และแยกตัวออกจากวงการคณิตศาสตร์ เวลาเกือบทั้งหมดของเขาถูกใช้ไปกับการศึกษาข้อคาดการณ์ ABC

มหาวิทยาลัยจินหลิงยังหยุดนักข่าวที่พยายามจะสัมภาษณ์เขาอีกด้วย

ลู่โจวรู้สึกว่าชายคนนี้กำลังใช้มหาวิทยาลัยจินหลิงเป็นหลุมหลบภัยชั่วคราว

เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าชายคนนี้อาจจะจงใจหาสถานที่ที่ไม่มีใครรู้จักและใช้ลู่โจวเป็นพื้นที่ในการซ่อนตัว

แน่นอนว่าไม่ใช่ลู่โจวคนเดียวที่คิดแบบนี้ คนอื่นๆ ในโปรเจกต์งานวิจัยก็คิดเหมือนกัน

ในระหว่างการประชุม โมจิซูกิมองไปที่ชินอิจิผ่านโต๊ะประชุมและจู่ๆ ก็ถามขึ้น

“เอาตรงๆ นะ คุณตั้งใจให้เป็นแบบนี้ใช่ไหม”

ชินอิจิ โมจิซูกิดันแว่นขึ้นและถาม “เรื่องอะไร”

“ก็หาสถานที่ที่ไม่มีใครรู้จักคุณ หลังจากนั้นก็รอจนกว่าความสนใจจะซาลงแล้วค่อยกลับเข้าสู่วงการใหม่…ตอนที่คุณพบว่าวิธีการพิสูจน์ของคุณไม่ได้ผล”

ชินอิจิ โมจิซูกิอึ้งไปสักพัก หลังจากนั้นเขาเงยหน้าขึ้นมองชูลทซ์

“มันสำคัญสำหรับผมด้วยเหรอ”

“อย่าท้อไปเลยพวก ผมก็แค่เป็นห่วงคุณ” ชูลทซ์พูดพร้อมรอยยิ้ม “ผมอยากเลี้ยงเครื่องดื่มคุณ คุณจะได้…”

หลังจากที่เห็นว่าคนสองคนที่เลิกทะเลาะกันแล้วกำลังจะทะเลาะกันอีกรอบ ลู่โจวกระแอมและพูดทันที

“พอแล้ว มาคุยกันเรื่องธุรกิจดีกว่า…กลับมาคุยกันถึงปัญหาที่เราเพิ่งปรึกษากันดีกว่า”

ลู่โจวมองสีหน้าที่จริงจังของเพื่อนร่วมทีมอีกสามคน หลังจากนั้นเขากระแอมและพูดต่อ “ความคืบหน้าของวิจัยในช่วงนี้ค่อนข้างราบรื่นดี เมื่อเทียบกับสถานการณ์ยากลำบากที่เราเผชิญตอนที่เริ่มโปรเจกต์ เราได้ผลลัพธ์ที่สำคัญเกี่ยวกับปัญหาของกุญแจ”

“เริ่มจากขัดเกลาทฤษฎีบทของเบเกอร์ ไอเดียที่เข้าใกล้ข้อคาดการณ์ ABC ขึ้นเรื่อยๆ ถูกต้อง”

“กุญแจสำคัญของปัญหาตอนนี้ก็คือเราจะต้องหาวิธีในการหาผลลัพธ์ที่แม่นยำกว่านี้เพื่อขอบเขตบนของ L(a, b, c) และ…”

ลู่โจวเลื่อนเก้าอี้ไปทางไวท์บอร์ด เขาหยิบปากกาและเขียนการคำนวณ

[C

เขาเคาะไวท์บอร์ด้วยฝาปากกาและพูดต่อ

“และเราจะขยายผลลัพธ์ต่อไปได้อย่างไร…

“ในส่วนนี้ของการวิจัยจะไม่มีทางลัด เราสามารถหาคำตอบได้จากความพยายามอย่างต่อเนื่อง”

ลู่โจวนิ่งไปสักพัก เขาเหลือบไปมองเพื่อนร่วมทีมอีกสามคนและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ในช่วงสองสามวันต่อจากนี้ ความตึงเครียดของงานเราจะสูงขึ้นมากๆ ผมหวังว่าเราทุกคนจะอดทนกับมัน”

“ต่อไปผมจะเป็นคนมอบหมายงานให้แต่ละคน”

“เดี๋ยวนะ” จู่ๆ ชูลทซ์ก็แสดงความสนใจและตื่นเต้นบนใบหน้า เขายกมือขวาขึ้นและพูด “เรากำลังจะพักผ่อนกันเหรอ”

ลู่โจวพยักหน้า

“ทำนองนั้น”

แม้ว่ามันจะเป็นเพียงนิสัยของเขาเวลาที่ทำวิจัย แต่เขาก็ไม่แนะนำให้คนอื่นทำตาม

แต่สีหน้าของชูลทซ์เปลี่ยนเป็นความประหลาดใจแทน เขาดีดนิ้วและพูดขึ้น

“เยี่ยม ผมอยากจะถามคุณมานานแล้วเกี่ยวกับเทคนิควิจัยที่ลึกลับนั่น!”

ชินอิจิ โมจิซูกิและเพเรลมานมองหน้ากัน ดูเหมือนพวกเขาจะสนใจมากเหมือนกัน นักศึกษาคนอื่นที่นั่งอยู่ในออฟฟิศยกมือขึ้นเบาๆ และเหลือบไปมองศาสตราจารย์ที่มีชื่อเสียงด้วยสายตาแปลกๆ

ไปพักผ่อนกับศาสตราจารย์ลู่…

คนพวกนี้บ้าหรือเปล่า

ส่วนลู่โจว เขายิ้มเจื่อนๆ

“ไม่มีปัญหา”

“แต่กระบวนการนี้อาจจะยากหน่อย”

“ถ้าคุณรับไม่ได้ก็บอกผมด้วย”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+