ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ 104 อดีตที่ผ่านมาแล้ว

Now you are reading ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ Chapter 104 อดีตที่ผ่านมาแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.


ร่างของเซี่ยอันหรานถูกแขวนอยู่ที่นอกหน้าต่าง มีเพียงเชือกปีนเขาที่ผูกไว้ให้เธอสามารถแขวนอยู่นอกหน้าต่างได้ ตอนนี้เธอไม่สามารถปีนขึ้นไปชั้นบนได้ หากเธอขยับแค่เพียงเล็กน้อย เสียงก็จะดังขึ้นและดึงดูดสายตาเก๋อหงหงเอาได้ แต่ถ้ายังคงแขวนอยู่ด้านนอกแบบนี้ เพียงแค่เก๋อหงหงยื่นศีรษะแล้วมองออกมาก็จะเจอเซี่ยอันหรานทันที

เซี่ยอันหรานอดไม่ได้ที่จะกลั้นหายใจและเงยหน้าขึ้น สีหน้าของเฉิงเสี่ยวเถียนเผยให้เห็นท่าทางหวาดกลัว จากนั้นก็ชูนิ้วชี้ขึ้นมาทำท่าทางให้เงียบๆ

“แปลก ตอนที่ฉันออกไปไม่ทันปิดหน้าต่างงั้นหรอ?หรือว่าขโมยเข้ามางั้นเหรอ?” เก๋อหงหงค่อยๆเดินเข้าไปใกล้หน้าต่างอย่างช้าๆ

ในตอนที่เก๋อหงหงเดินไปถึงด้านหน้าของหน้าต่างและเตรียมตัวเอาหัวยื่นออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น

ทันใดนั้นตรงประตูห้องของเก๋อหงหงก็มีคนพูดขึ้นมาว่า: "ธุระของเธอทำเสร็จหรือยัง"

เก๋อหงหงหยุดสะงักและหันศีรษะไป พร้อมกับเห็นจางหมิ่นยืนอยู่ตรงประตู เก๋อหงหงรีบพูดพร้อมกับรอยยิ้มทันทีว่า “โถ่ พี่จางหมิ่น ทำไมพี่ยืนพูดหน้าประตูแบบนั้น ประตูห้องยังไม่ได้ปิดเลย ไม่กลัวคนอื่นได้ยินหรือไง”

หลังจากที่เก๋อหงหงพูดจบ ก็รีบวิ่งไปที่ประตูจากนั้นก็ปิดประตูลง และกระซิบกับจางหมิ่นว่า: “พี่จาง ไม่ต้องกังวล แม้ว่าฉันเก๋อหงหงอายุยังน้อย แต่เรื่องแค่นี้ฉันสามารถจัดการได้"

“ฮ่าๆ…” ทันใดนั้นเก๋อหงหงก็เอามือประกบที่ปากของตัวเองและหัวเราะออกมา

จางหมิ่นยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยและถามด้วยรอยยิ้มว่า “เธอหัวเราะอะไรน่ะ?”

เก๋อหงหงพูดในขณะที่ยังหัวเราะอยู่ว่า "พี่จาง พี่รู้ไหมว่าเฉิงเสี่ยวเถียนโง่แค่ไหน ฉันบอกเธอว่าทำต่างหูของคุณฉู่หายแล้วขอให้เธอช่วยหา เธอเชื่อจริงๆแล้วมาช่วยฉันหาจริงๆด้วยนะ หลอกง่ายจริงๆ จากนั้นฉันก็เอาสร้อยใส่ในกระเป๋าของเฉิงเสี่ยวเถียนได้อย่างราบรื่น"

“อ้อ จริงเหรอ?” จางหมิ่นหลับตาลงอย่างช่วยไม่ได้และคิดในใจว่าเฉิงเสี่ยวเถียนไม่ได้โง่ เธอแค่รู้สึกว่าหัวใจของมนุษย์ไม่ได้เลวร้ายถึงขั้นที่เธอต้องคอยระมัดระวัง

แม้ว่าจางหมิ่นจะไม่ใช่คนที่ลงมือทำร้ายเฉิงเสี่ยวเถียน แต่เธอก็เป็นคนคิดแผนนี้ขึ้นม จางหมิ่นเองก็แอบรู้สึกผิดต่อเฉิงเสี่ยวเถียนเล็กน้อยเหมือนกัน

ในตอนที่จางหมิ่นหลับตาลง เธอก็เห็นว่าฟูกที่นอนของเก๋อหงหงไม่ได้เรียบมากนักและมุมที่ยกขึ้นเล็กน้อยยังคงส่องแสงอยู่

มันคือเพชรที่กำลังส่องแสงและเป็นสร้อยเพชรที่ได้จากฉู่เสี่ยวเสี่ยวด้วย แม้ว่าสร้อยเพชรของฉู่เสี่ยวเสี่ยวจะเคยอยู่ในมือของจางหมิ่นมาเป็นเวลานาน จางหมิ่นมองแค่แวบเดียวก็จำได้ทันที

แต่สร้อยเพชรของฉู่เสี่ยวเสี่ยว ควรถูกเก๋อหงหงใส่ไว้ในกระเป๋าเป้ของเฉิงเสี่ยวเถียนแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมตอนนี้ถึงอยู่ในห้องของเก๋อหงหงล่ะ?

เป็นเพราะเก๋อหงหงยังทำเรื่องนี้ไม่สำเร็จหรือเป็นเพราะเก๋อหงหงไม่ได้ไปทำตั้งแต่แรกแล้วเอาสร้อยเพชรนี้มาแอบซ่อนเอาไว้? แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม การทิ้งสร้อยเพชรนี้ไว้ที่เก๋อหงหงก็ไม่ได้เป็นเรื่องอันตรายต่อจางหมิ่นอยู่แล้ว

สำหรับจางหมิ่นการใส่ร้ายเฉิงเสี่ยวเถียนไม่ใช่เรื่องดีเลยสักนิด ถ้าไม่ใช่เพราะแผนของฉู่เสี่ยวเสี่ยวชั่วร้ายยิ่งกว่า เธอก็คงไม่เสนอแผนนี้ออกมา สำหรับจางหมิ่นการกำจัดเก๋อหงหงยังมีประโยชน์มากกว่า อย่างน้อยคนที่คอยสอดส่องเธอก็น้อยลงอีกคนและทำให้ชีวิตของเธอง่ายขึ้นมาบ้าง

“ถ้าเรื่องนี้ทำสำเร็จแล้ว ก็แสดงว่าเธอทำเรื่องใหญ่สำเร็จไปเรื่องหนึ่งเลยนะ เธอไม่รู้หรอกว่าคุณฉู่เบื่อเซี่ยอันหรานกับเฉิงเสี่ยวเถียนแค่ไหน ดูๆแล้วชาตินี้เธอจะผอมบางเกินไป นอนตอนดึกๆไม่หนาวหรือไง” ในขณะที่จางหมิ่นพูดก็คอยๆเดินไปที่เตียงของเก๋อหงหง เธอยิ้มและเอื้อมมือไปแตะที่นอนของเก๋อหงหง แล้วค่อยๆ คลุมมุมของผ้าห่มที่เพิ่งเปิดออกอย่างเงียบๆและคลุมสร้อยเพชรทั้งหมดเข้าให้เรียบร้อย

เก๋อหงหงไม่ทันสังเกตการเคลื่อนไหวของจางหมิ่น เพราะตอนนี้เธอกำลังรู้สึกภาคภูมิใจอย่างมากและรู้สึกว่าเธอได้ทำเรื่องสำคัญสำเร็จไปแล้ว เธอยังไม่ทันได้รับสิ่งดีๆจากฉู่เสี่ยวเสี่ยว จางหมิ่นก็เข้ามาประจบประแจงเธอซะแล้ว

เก๋อหงหงบิดตัวไปมา เบะปาก และถามอย่างได้ใจ “คุณฉู่จะเริ่มเมื่อไหร่น่ะ?"

หลังจากที่จางหมิ่นปกปิดสร้อยเพชรเสร็จ เขาก็ลุกขึ้นยืนทันทีและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณฉู่พักผ่อนอยู่ รอเธอตื่นก่อนก็น่าจะเริ่มแล้วแหละ เราไปกินข้าวที่ร้านอาหารก่อนเถอะ มื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง "

“ดีเลย เงินเดือนพี่จางได้เยอะขนาดนี้ พี่น่าจะเลี้ยงอะไรอร่อยๆฉันตั้งนานแล้วนะ” เก๋อหงหงได้ยินว่าจางหมิ่นจะเลี้ยงข้าวเธอก็รีบกระโดดขึ้นมาอย่างมีความสุขทันที

จางหมิ่นหัวเราะพร้อมกับพยักหน้า: “ฉันควรเลี้ยงข้าวเธอจริงๆนั้นแหละ ไปกันเถอะ เราไปพร้อมกัน”

หลังจากที่จางหมิ่นพูดจบ เขาก็ก้มศีรษะลงและหันไปมองทิศทางข้างนอกหน้าต่าง แล้วดันเก๋อหงหงออกไป เก๋อหงหงมีความสุขมาก ในขณะที่เดินไปก็พูดเมนูอาหารอย่างมีความสุข แถมยังสั่งแต่อาหารราคาแพงทั้งนั้นเลยด้วย

จางหมิ่นทำได้เพียงพยักหน้าและค่อยๆปิดประตูห้องของเก๋อหงหงลง

เซี่ยอันหรานที่แขวนอยู่ด้านนอกหน้าต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นก็ปีนขึ้นไปชั้นบนด้วยเชือกปีนเขา เฉิงเสี่ยวเถียนที่อยู่ชั้นบนตกใจมากจนร้องไห้ออกมา: "อันหราน ฉันตกใจแทบตาย ฉันนึกว่าเธอจะโดนจับได้แล้วซะอีก"

“กลัวอะไรกัน ฉันก็ขึ้นมาแล้วนี่ไง” เซี่ยอันหรานพูดด้วยรอยยิ้ม

“งั้น… งั้น… เธอใส่สร้อยเพชรไว้ในห้องของเก๋อหงหงแล้วเหรอ” เฉิงเสี่ยวเถียนถามด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ

เซี่ยอันหรานพยักหน้าและหรี่ตาลงเล็กน้อย: "ต่อไปก็รอดูว่าพวกฉู่เสี่ยวเสี่ยวจะทำยังไงต่อ"

“แต่ว่า…” เฉิงเสี่ยวเถียนขมวดคิ้วแล้วพูดด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ: “แต่ถ้าสร้อยอยู่ในมือของเก๋อหงหงแล้วโดนจับได้ จะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ?”

“มันคงจะไม่จบด้วยดีแน่นอน”เซี่ยอันหรานหลับตาลงและพูดด้วยน้ำเสียงโทนลึก: “เหตุผลที่ฉันใส่สร้อยกลับคืนไปที่เก๋อหงหงไม่ใช่เพราะฉู่เสี่ยวเสี่ยว แต่เป็นเพราะถ้าเจอสร้อยอยู่ฝั่งเก๋อหงหง เทียบกับเราเจอลูกไม้ของฉู่เสี่ยวเสี่ยวแล้วใส่สร้อยกลับคืนไป ฉู่เสี่ยวเสี่ยวจะยิ่งสงสัยว่าสร้อยเพชรนี้ถูกเก๋อหงหงซ่อนไว้เป็นการส่วนตัวและไม่ได้ใส่สร้อยลงไปในกระเป๋าเป้ของเธอตั้งแต่แรก"

เซี่ยอันหรานนึกถึงตอนที่เขาสู้กับฉู่เสี่ยวเสี่ยวและอดไม่ได้ที่จะพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย: "เพียงแค่ฉู่เสี่เสี่ยวเชื่อว่าเก๋อหงหงเป็นคนซ่อนสร้อยเพชรไว้เป็นการส่วนตัว เก๋อหงหงก็จะโดนลงโทษอย่างน่าสังเวช จุดจบที่ดีที่สุดของเก๋อหงหงก็อาจจะเป็นการถูกตำรวจจับว่าเป็นขโมย ไม่อย่างนั้นถ้าเธออยู่ในกำมือของฉู่เสี่ยวเสี่ยว เธอคงไม่ได้ใช้ชีวิตดีๆแน่นอน”

แม้ว่าเซี่ยอันหรานจะไม่รู้ว่าอำนาจที่อยู่เบื้องหลังของฉู่เสี่ยวเสี่ยวคือใคร แต่เธอมั่นใจได้เลยว่าคนที่อยู่เบื้องหลังฉู่เสี่ยวเสี่ยวจะต้องมีอำนาจที่แข็งแกร่งอย่างมากแน่นอน อย่างน้อยก็เพียงพอที่จะทำให้ฉู่เสี่ยวเสี่ยวสามารถทำชั่วได้โดยไม่ต้องถูกลงโทษ

ตามนิสัยของฉู่เสี่ยวเสี่ยว อำนาจที่ฉู่เสี่ยวเสี่ยวสามารถใช้ได้ในตอนนี้ ทำไมเธอจะไม่จัดการกับเก๋อหงหงที่ทรยศต่อเธออย่างหนักล่ะ

“ห้ะ?” เฉิงเสี่ยวเถียนขมวดคิ้ว: “งั้น เอาสร้อยเพชรกลับคืนมาได้ไหม? ถึงแม้เก๋อหงหงอยากจะทำร้ายฉัน แต่อาจจะเป็นเพราะเธอคิดผิดไปชั่วขณะ ยังไงเธอก็ยังเด็กอยู่ อาจจะเป็นเพราะคิดผิด ไม่ต้อง ไม่ต้องทำให้เธอโดนลงโทษหนักขนาดนี้หรอกมั้ง… ขอแค่อย่าให้โดนสงสัย และอย่าให้พวกเขาใส่ร้ายฉันได้ ก็พอแล้วแหละ…"

เซี่ยอันหรานหันไปมองเฉิงเสี่ยวเถียนและถอนหายใจเบาๆ แม้ว่าคำพูดของเฉิงเสี่ยวเถียนจะดูเป็นคนดีจนทำให้รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับคนที่ทำร้ายใครไม่เลือกหน้าอย่างฉู่เสี่ยวเสี่ยวกับเก๋อหงหง ทำให้เซี่ยอันหรานรู้สึกว่าเฉิงเสี่ยวเถียนน่ารักซะมากกว่า ยังไงซะเฉิงเสี่ยวเถียนก็ทำร้ายคนอื่นไม่เป็นและไม่ต้องให้เธอเตรียมรับมือกับใคร

“เสี่ยวเถียนเธอลองคิดดูนะ ถ้าฉันไม่เจอสร้อยเพชรในกระเป๋าเป้เธอ จุดจบของเธอจะเป็นยังไง?” เซี่ยอันหรานหรี่ตาลงและพูดด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ: “จะมีใครให้อภัยเธอไหม? เก๋อหงหงแทงข้างเธอพร้อมกับหัวเราะเยาะเธอไปด้วย เขาจะช่วยเธอไหม? เธอทำดีกับคนใจร้ายใจดำแบบนั้น กลับกันพวกเขาจะมาหัวเราะเยาะใส่เธอ พวกเขาไม่มีทางซาบซึ้งในพระคุณของเธอหรอก!”

หลังจากที่เซี่ยอันหรานพูดจบ เฉิงเสี่ยวเถียนก็ก้มหน้าลงและเม้มปาก

เซี่ยอันหรานรู้ว่าสำหรับคนที่เกิดมาใจดีอย่างเฉิงเสี่ยวเถียน เธออาจไม่คุ้นเคยกับการเห็นคนโดนลงโทษอย่างสังเวช เซี่ยอันหรานเข้าใจความรู้สึกของเฉิงเสี่ยวเถียนดี หากเธอไม่เคยถูกถังรั่วกับฉู่เสี่ยวเสี่ยวแทงด้านหลังและเคยตายไปแล้วครั้งหนึ่ง เธอก็คงไม่ใช้วิธีนี้จัดการกับคนอื่นๆแม้ว่าคนเหล่านั้นจะเคยทำร้ายเธอก็ตาม

“ถ้าเธอรู้สึกรับไม่ได้จริงๆ ฉันจะลองคิดวิธีอื่นดู…” เซี่ยอันหรานขมวดคิ้ว “แต่ถ้าฉู่เสี่ยวเสี่ยวรู้ว่าเรารู้ก่อนและแผนของเราไม่สำเร็จ ตามนิสัยของเขาก็จะวางแผนขึ้นมาแก้แค้นเธอใหม่ มันน่าจะดีกว่าหากเปลี่ยนความคับข้องใจของฉู่เสี่ยวเสี่ยวไปลงที่เก๋อหงหง"

หลังจากเฉิงเสี่ยวเถียนได้ยินดังนั้นก็ส่ายหัว: “ไม่ต้องแล้ว ฉันรู้เหตุผลนี้ดีแต่ฉันหันหลังกลับไม่ได้แล้ว ฉันคิดไม่ถึงจริงๆว่าเก๋อหงหงจะทำร้ายฉัน ฉันคิดไม่ถึงจริงๆว่าจะมีคนคิดแผนเพื่อใส่ร้ายคนอื่นได้ขนาดนี้!”

“เธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับฉันต่างหาก” เซี่ยอันหรานขมวดคิ้ว

“ไม่ได้เกี่ยวกับเธอหรอก อันหราน ทั้งหมดเป็นเพราะฉู่เสี่ยวเสี่ยว” เมื่อเฉิงเสี่ยวเถียนนึกถึงฉู่เสี่ยวเสี่ยว เธอก็ขมวดคิ้วและมีเหงื่อท่วมตัว เธอไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนที่น่ากลัวเท่านี้มาก่อนเลย

เฉิงเสี่ยวเถียนอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัย: "อันหราน เธอรู้จักผู้หญิงที่น่ากลัวแบบนี้ได้ยังไงกัน?”

เซี่ยอันหรานยกมุมปากขึ้นแล้วพูดด้วยรอยยิ้มจางๆว่า: “ก็เพราะโชคชะตานั้นแหละ พูดถึง เขาก็เกือบจะกลายเป็นน้องสาวของฉันไปแล้วน่ะ เธอถูกพ่อแม่ของฉันรับมาเลี้ยง ทั้งๆที่พ่อแม่ฉันปฎิบัติต่อฉันและเขาไม่ต่างกันเลย แต่ไม่รู้ว่าทำไมเขามักจะรู้สึกไม่พอสักทีและมักจะรู้สึกว่าครอบครัวของฉันปฏิบัติกับเธอไม่ดีตลอด ไม่ใช่แค่แย่งแฟนฉัน แถมยังวางยาใส่ฉันด้วย อยากให้ฉัน…ฮ่าๆ…"

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เซี่ยอันหรานก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เธอรู้สึกว่าสิ่งต่างๆ ระหว่างเธอกับฉู่เสี่ยวเสี่ยวนั้นตลกมาก นี่เป็นเพียงเรื่องราวในชาตินี้ยังมีเรื่องที่เธอถูกฉู่เสี่ยวเสี่ยวฆ่าในชาติที่แล้วอีก

ในโลกนี้มีคนใจดำและโลภอย่างฉู่เสี่ยวเสี่ยวและมีคนที่ยอมช่วยเหลือคนที่ทำร้ายตัวเองอย่างเธอ

แม้ว่าเซี่ยอันหรานจะพูดไม่จบ แต่ดวงตาของเฉิงเสี่ยวเถียนก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ แม้ว่าเซี่ยอันหรานกับฉู่เสี่ยวเสี่ยวจะไม่ถูกกัน แต่เฉิงเสี่ยวเถียนก็รู้มานานแล้วว่า เป็นเรื่องปกติมากที่นักแสดงหญิงจะขัดใจกัน ยิ่งไปกว่านั้นเซี่ยอันหรานกับฉู่เสี่ยวเสี่ยวยังอยู่ในฐานะนางร้ายกับนางเอกอีกด้วย

แต่เฉิงเสี่ยวเถียนก็ยังไม่รู้จริงๆว่าความขัดแย้งระหว่างเซี่ยอันหรานกับฉู่เสี่ยวเสี่ยวเกิดจากเรื่องนี้ แถมทั้งสองยังมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกันเช่นนี้

ฉู่เสี่ยวเสี่ยวนี่เกินไปแล้ว! เกิดเป็นคนทำไมถึงเนรคุณได้ขนาดนี้?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ 104 อดีตที่ผ่านมาแล้ว

Now you are reading ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ Chapter 104 อดีตที่ผ่านมาแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.


ร่างของเซี่ยอันหรานถูกแขวนอยู่ที่นอกหน้าต่าง มีเพียงเชือกปีนเขาที่ผูกไว้ให้เธอสามารถแขวนอยู่นอกหน้าต่างได้ ตอนนี้เธอไม่สามารถปีนขึ้นไปชั้นบนได้ หากเธอขยับแค่เพียงเล็กน้อย เสียงก็จะดังขึ้นและดึงดูดสายตาเก๋อหงหงเอาได้ แต่ถ้ายังคงแขวนอยู่ด้านนอกแบบนี้ เพียงแค่เก๋อหงหงยื่นศีรษะแล้วมองออกมาก็จะเจอเซี่ยอันหรานทันที

เซี่ยอันหรานอดไม่ได้ที่จะกลั้นหายใจและเงยหน้าขึ้น สีหน้าของเฉิงเสี่ยวเถียนเผยให้เห็นท่าทางหวาดกลัว จากนั้นก็ชูนิ้วชี้ขึ้นมาทำท่าทางให้เงียบๆ

“แปลก ตอนที่ฉันออกไปไม่ทันปิดหน้าต่างงั้นหรอ?หรือว่าขโมยเข้ามางั้นเหรอ?” เก๋อหงหงค่อยๆเดินเข้าไปใกล้หน้าต่างอย่างช้าๆ

ในตอนที่เก๋อหงหงเดินไปถึงด้านหน้าของหน้าต่างและเตรียมตัวเอาหัวยื่นออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น

ทันใดนั้นตรงประตูห้องของเก๋อหงหงก็มีคนพูดขึ้นมาว่า: "ธุระของเธอทำเสร็จหรือยัง"

เก๋อหงหงหยุดสะงักและหันศีรษะไป พร้อมกับเห็นจางหมิ่นยืนอยู่ตรงประตู เก๋อหงหงรีบพูดพร้อมกับรอยยิ้มทันทีว่า “โถ่ พี่จางหมิ่น ทำไมพี่ยืนพูดหน้าประตูแบบนั้น ประตูห้องยังไม่ได้ปิดเลย ไม่กลัวคนอื่นได้ยินหรือไง”

หลังจากที่เก๋อหงหงพูดจบ ก็รีบวิ่งไปที่ประตูจากนั้นก็ปิดประตูลง และกระซิบกับจางหมิ่นว่า: “พี่จาง ไม่ต้องกังวล แม้ว่าฉันเก๋อหงหงอายุยังน้อย แต่เรื่องแค่นี้ฉันสามารถจัดการได้"

“ฮ่าๆ…” ทันใดนั้นเก๋อหงหงก็เอามือประกบที่ปากของตัวเองและหัวเราะออกมา

จางหมิ่นยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยและถามด้วยรอยยิ้มว่า “เธอหัวเราะอะไรน่ะ?”

เก๋อหงหงพูดในขณะที่ยังหัวเราะอยู่ว่า "พี่จาง พี่รู้ไหมว่าเฉิงเสี่ยวเถียนโง่แค่ไหน ฉันบอกเธอว่าทำต่างหูของคุณฉู่หายแล้วขอให้เธอช่วยหา เธอเชื่อจริงๆแล้วมาช่วยฉันหาจริงๆด้วยนะ หลอกง่ายจริงๆ จากนั้นฉันก็เอาสร้อยใส่ในกระเป๋าของเฉิงเสี่ยวเถียนได้อย่างราบรื่น"

“อ้อ จริงเหรอ?” จางหมิ่นหลับตาลงอย่างช่วยไม่ได้และคิดในใจว่าเฉิงเสี่ยวเถียนไม่ได้โง่ เธอแค่รู้สึกว่าหัวใจของมนุษย์ไม่ได้เลวร้ายถึงขั้นที่เธอต้องคอยระมัดระวัง

แม้ว่าจางหมิ่นจะไม่ใช่คนที่ลงมือทำร้ายเฉิงเสี่ยวเถียน แต่เธอก็เป็นคนคิดแผนนี้ขึ้นม จางหมิ่นเองก็แอบรู้สึกผิดต่อเฉิงเสี่ยวเถียนเล็กน้อยเหมือนกัน

ในตอนที่จางหมิ่นหลับตาลง เธอก็เห็นว่าฟูกที่นอนของเก๋อหงหงไม่ได้เรียบมากนักและมุมที่ยกขึ้นเล็กน้อยยังคงส่องแสงอยู่

มันคือเพชรที่กำลังส่องแสงและเป็นสร้อยเพชรที่ได้จากฉู่เสี่ยวเสี่ยวด้วย แม้ว่าสร้อยเพชรของฉู่เสี่ยวเสี่ยวจะเคยอยู่ในมือของจางหมิ่นมาเป็นเวลานาน จางหมิ่นมองแค่แวบเดียวก็จำได้ทันที

แต่สร้อยเพชรของฉู่เสี่ยวเสี่ยว ควรถูกเก๋อหงหงใส่ไว้ในกระเป๋าเป้ของเฉิงเสี่ยวเถียนแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมตอนนี้ถึงอยู่ในห้องของเก๋อหงหงล่ะ?

เป็นเพราะเก๋อหงหงยังทำเรื่องนี้ไม่สำเร็จหรือเป็นเพราะเก๋อหงหงไม่ได้ไปทำตั้งแต่แรกแล้วเอาสร้อยเพชรนี้มาแอบซ่อนเอาไว้? แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม การทิ้งสร้อยเพชรนี้ไว้ที่เก๋อหงหงก็ไม่ได้เป็นเรื่องอันตรายต่อจางหมิ่นอยู่แล้ว

สำหรับจางหมิ่นการใส่ร้ายเฉิงเสี่ยวเถียนไม่ใช่เรื่องดีเลยสักนิด ถ้าไม่ใช่เพราะแผนของฉู่เสี่ยวเสี่ยวชั่วร้ายยิ่งกว่า เธอก็คงไม่เสนอแผนนี้ออกมา สำหรับจางหมิ่นการกำจัดเก๋อหงหงยังมีประโยชน์มากกว่า อย่างน้อยคนที่คอยสอดส่องเธอก็น้อยลงอีกคนและทำให้ชีวิตของเธอง่ายขึ้นมาบ้าง

“ถ้าเรื่องนี้ทำสำเร็จแล้ว ก็แสดงว่าเธอทำเรื่องใหญ่สำเร็จไปเรื่องหนึ่งเลยนะ เธอไม่รู้หรอกว่าคุณฉู่เบื่อเซี่ยอันหรานกับเฉิงเสี่ยวเถียนแค่ไหน ดูๆแล้วชาตินี้เธอจะผอมบางเกินไป นอนตอนดึกๆไม่หนาวหรือไง” ในขณะที่จางหมิ่นพูดก็คอยๆเดินไปที่เตียงของเก๋อหงหง เธอยิ้มและเอื้อมมือไปแตะที่นอนของเก๋อหงหง แล้วค่อยๆ คลุมมุมของผ้าห่มที่เพิ่งเปิดออกอย่างเงียบๆและคลุมสร้อยเพชรทั้งหมดเข้าให้เรียบร้อย

เก๋อหงหงไม่ทันสังเกตการเคลื่อนไหวของจางหมิ่น เพราะตอนนี้เธอกำลังรู้สึกภาคภูมิใจอย่างมากและรู้สึกว่าเธอได้ทำเรื่องสำคัญสำเร็จไปแล้ว เธอยังไม่ทันได้รับสิ่งดีๆจากฉู่เสี่ยวเสี่ยว จางหมิ่นก็เข้ามาประจบประแจงเธอซะแล้ว

เก๋อหงหงบิดตัวไปมา เบะปาก และถามอย่างได้ใจ “คุณฉู่จะเริ่มเมื่อไหร่น่ะ?"

หลังจากที่จางหมิ่นปกปิดสร้อยเพชรเสร็จ เขาก็ลุกขึ้นยืนทันทีและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณฉู่พักผ่อนอยู่ รอเธอตื่นก่อนก็น่าจะเริ่มแล้วแหละ เราไปกินข้าวที่ร้านอาหารก่อนเถอะ มื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง "

“ดีเลย เงินเดือนพี่จางได้เยอะขนาดนี้ พี่น่าจะเลี้ยงอะไรอร่อยๆฉันตั้งนานแล้วนะ” เก๋อหงหงได้ยินว่าจางหมิ่นจะเลี้ยงข้าวเธอก็รีบกระโดดขึ้นมาอย่างมีความสุขทันที

จางหมิ่นหัวเราะพร้อมกับพยักหน้า: “ฉันควรเลี้ยงข้าวเธอจริงๆนั้นแหละ ไปกันเถอะ เราไปพร้อมกัน”

หลังจากที่จางหมิ่นพูดจบ เขาก็ก้มศีรษะลงและหันไปมองทิศทางข้างนอกหน้าต่าง แล้วดันเก๋อหงหงออกไป เก๋อหงหงมีความสุขมาก ในขณะที่เดินไปก็พูดเมนูอาหารอย่างมีความสุข แถมยังสั่งแต่อาหารราคาแพงทั้งนั้นเลยด้วย

จางหมิ่นทำได้เพียงพยักหน้าและค่อยๆปิดประตูห้องของเก๋อหงหงลง

เซี่ยอันหรานที่แขวนอยู่ด้านนอกหน้าต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นก็ปีนขึ้นไปชั้นบนด้วยเชือกปีนเขา เฉิงเสี่ยวเถียนที่อยู่ชั้นบนตกใจมากจนร้องไห้ออกมา: "อันหราน ฉันตกใจแทบตาย ฉันนึกว่าเธอจะโดนจับได้แล้วซะอีก"

“กลัวอะไรกัน ฉันก็ขึ้นมาแล้วนี่ไง” เซี่ยอันหรานพูดด้วยรอยยิ้ม

“งั้น… งั้น… เธอใส่สร้อยเพชรไว้ในห้องของเก๋อหงหงแล้วเหรอ” เฉิงเสี่ยวเถียนถามด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ

เซี่ยอันหรานพยักหน้าและหรี่ตาลงเล็กน้อย: "ต่อไปก็รอดูว่าพวกฉู่เสี่ยวเสี่ยวจะทำยังไงต่อ"

“แต่ว่า…” เฉิงเสี่ยวเถียนขมวดคิ้วแล้วพูดด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ: “แต่ถ้าสร้อยอยู่ในมือของเก๋อหงหงแล้วโดนจับได้ จะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ?”

“มันคงจะไม่จบด้วยดีแน่นอน”เซี่ยอันหรานหลับตาลงและพูดด้วยน้ำเสียงโทนลึก: “เหตุผลที่ฉันใส่สร้อยกลับคืนไปที่เก๋อหงหงไม่ใช่เพราะฉู่เสี่ยวเสี่ยว แต่เป็นเพราะถ้าเจอสร้อยอยู่ฝั่งเก๋อหงหง เทียบกับเราเจอลูกไม้ของฉู่เสี่ยวเสี่ยวแล้วใส่สร้อยกลับคืนไป ฉู่เสี่ยวเสี่ยวจะยิ่งสงสัยว่าสร้อยเพชรนี้ถูกเก๋อหงหงซ่อนไว้เป็นการส่วนตัวและไม่ได้ใส่สร้อยลงไปในกระเป๋าเป้ของเธอตั้งแต่แรก"

เซี่ยอันหรานนึกถึงตอนที่เขาสู้กับฉู่เสี่ยวเสี่ยวและอดไม่ได้ที่จะพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย: "เพียงแค่ฉู่เสี่เสี่ยวเชื่อว่าเก๋อหงหงเป็นคนซ่อนสร้อยเพชรไว้เป็นการส่วนตัว เก๋อหงหงก็จะโดนลงโทษอย่างน่าสังเวช จุดจบที่ดีที่สุดของเก๋อหงหงก็อาจจะเป็นการถูกตำรวจจับว่าเป็นขโมย ไม่อย่างนั้นถ้าเธออยู่ในกำมือของฉู่เสี่ยวเสี่ยว เธอคงไม่ได้ใช้ชีวิตดีๆแน่นอน”

แม้ว่าเซี่ยอันหรานจะไม่รู้ว่าอำนาจที่อยู่เบื้องหลังของฉู่เสี่ยวเสี่ยวคือใคร แต่เธอมั่นใจได้เลยว่าคนที่อยู่เบื้องหลังฉู่เสี่ยวเสี่ยวจะต้องมีอำนาจที่แข็งแกร่งอย่างมากแน่นอน อย่างน้อยก็เพียงพอที่จะทำให้ฉู่เสี่ยวเสี่ยวสามารถทำชั่วได้โดยไม่ต้องถูกลงโทษ

ตามนิสัยของฉู่เสี่ยวเสี่ยว อำนาจที่ฉู่เสี่ยวเสี่ยวสามารถใช้ได้ในตอนนี้ ทำไมเธอจะไม่จัดการกับเก๋อหงหงที่ทรยศต่อเธออย่างหนักล่ะ

“ห้ะ?” เฉิงเสี่ยวเถียนขมวดคิ้ว: “งั้น เอาสร้อยเพชรกลับคืนมาได้ไหม? ถึงแม้เก๋อหงหงอยากจะทำร้ายฉัน แต่อาจจะเป็นเพราะเธอคิดผิดไปชั่วขณะ ยังไงเธอก็ยังเด็กอยู่ อาจจะเป็นเพราะคิดผิด ไม่ต้อง ไม่ต้องทำให้เธอโดนลงโทษหนักขนาดนี้หรอกมั้ง… ขอแค่อย่าให้โดนสงสัย และอย่าให้พวกเขาใส่ร้ายฉันได้ ก็พอแล้วแหละ…"

เซี่ยอันหรานหันไปมองเฉิงเสี่ยวเถียนและถอนหายใจเบาๆ แม้ว่าคำพูดของเฉิงเสี่ยวเถียนจะดูเป็นคนดีจนทำให้รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับคนที่ทำร้ายใครไม่เลือกหน้าอย่างฉู่เสี่ยวเสี่ยวกับเก๋อหงหง ทำให้เซี่ยอันหรานรู้สึกว่าเฉิงเสี่ยวเถียนน่ารักซะมากกว่า ยังไงซะเฉิงเสี่ยวเถียนก็ทำร้ายคนอื่นไม่เป็นและไม่ต้องให้เธอเตรียมรับมือกับใคร

“เสี่ยวเถียนเธอลองคิดดูนะ ถ้าฉันไม่เจอสร้อยเพชรในกระเป๋าเป้เธอ จุดจบของเธอจะเป็นยังไง?” เซี่ยอันหรานหรี่ตาลงและพูดด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ: “จะมีใครให้อภัยเธอไหม? เก๋อหงหงแทงข้างเธอพร้อมกับหัวเราะเยาะเธอไปด้วย เขาจะช่วยเธอไหม? เธอทำดีกับคนใจร้ายใจดำแบบนั้น กลับกันพวกเขาจะมาหัวเราะเยาะใส่เธอ พวกเขาไม่มีทางซาบซึ้งในพระคุณของเธอหรอก!”

หลังจากที่เซี่ยอันหรานพูดจบ เฉิงเสี่ยวเถียนก็ก้มหน้าลงและเม้มปาก

เซี่ยอันหรานรู้ว่าสำหรับคนที่เกิดมาใจดีอย่างเฉิงเสี่ยวเถียน เธออาจไม่คุ้นเคยกับการเห็นคนโดนลงโทษอย่างสังเวช เซี่ยอันหรานเข้าใจความรู้สึกของเฉิงเสี่ยวเถียนดี หากเธอไม่เคยถูกถังรั่วกับฉู่เสี่ยวเสี่ยวแทงด้านหลังและเคยตายไปแล้วครั้งหนึ่ง เธอก็คงไม่ใช้วิธีนี้จัดการกับคนอื่นๆแม้ว่าคนเหล่านั้นจะเคยทำร้ายเธอก็ตาม

“ถ้าเธอรู้สึกรับไม่ได้จริงๆ ฉันจะลองคิดวิธีอื่นดู…” เซี่ยอันหรานขมวดคิ้ว “แต่ถ้าฉู่เสี่ยวเสี่ยวรู้ว่าเรารู้ก่อนและแผนของเราไม่สำเร็จ ตามนิสัยของเขาก็จะวางแผนขึ้นมาแก้แค้นเธอใหม่ มันน่าจะดีกว่าหากเปลี่ยนความคับข้องใจของฉู่เสี่ยวเสี่ยวไปลงที่เก๋อหงหง"

หลังจากเฉิงเสี่ยวเถียนได้ยินดังนั้นก็ส่ายหัว: “ไม่ต้องแล้ว ฉันรู้เหตุผลนี้ดีแต่ฉันหันหลังกลับไม่ได้แล้ว ฉันคิดไม่ถึงจริงๆว่าเก๋อหงหงจะทำร้ายฉัน ฉันคิดไม่ถึงจริงๆว่าจะมีคนคิดแผนเพื่อใส่ร้ายคนอื่นได้ขนาดนี้!”

“เธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับฉันต่างหาก” เซี่ยอันหรานขมวดคิ้ว

“ไม่ได้เกี่ยวกับเธอหรอก อันหราน ทั้งหมดเป็นเพราะฉู่เสี่ยวเสี่ยว” เมื่อเฉิงเสี่ยวเถียนนึกถึงฉู่เสี่ยวเสี่ยว เธอก็ขมวดคิ้วและมีเหงื่อท่วมตัว เธอไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนที่น่ากลัวเท่านี้มาก่อนเลย

เฉิงเสี่ยวเถียนอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัย: "อันหราน เธอรู้จักผู้หญิงที่น่ากลัวแบบนี้ได้ยังไงกัน?”

เซี่ยอันหรานยกมุมปากขึ้นแล้วพูดด้วยรอยยิ้มจางๆว่า: “ก็เพราะโชคชะตานั้นแหละ พูดถึง เขาก็เกือบจะกลายเป็นน้องสาวของฉันไปแล้วน่ะ เธอถูกพ่อแม่ของฉันรับมาเลี้ยง ทั้งๆที่พ่อแม่ฉันปฎิบัติต่อฉันและเขาไม่ต่างกันเลย แต่ไม่รู้ว่าทำไมเขามักจะรู้สึกไม่พอสักทีและมักจะรู้สึกว่าครอบครัวของฉันปฏิบัติกับเธอไม่ดีตลอด ไม่ใช่แค่แย่งแฟนฉัน แถมยังวางยาใส่ฉันด้วย อยากให้ฉัน…ฮ่าๆ…"

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เซี่ยอันหรานก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เธอรู้สึกว่าสิ่งต่างๆ ระหว่างเธอกับฉู่เสี่ยวเสี่ยวนั้นตลกมาก นี่เป็นเพียงเรื่องราวในชาตินี้ยังมีเรื่องที่เธอถูกฉู่เสี่ยวเสี่ยวฆ่าในชาติที่แล้วอีก

ในโลกนี้มีคนใจดำและโลภอย่างฉู่เสี่ยวเสี่ยวและมีคนที่ยอมช่วยเหลือคนที่ทำร้ายตัวเองอย่างเธอ

แม้ว่าเซี่ยอันหรานจะพูดไม่จบ แต่ดวงตาของเฉิงเสี่ยวเถียนก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ แม้ว่าเซี่ยอันหรานกับฉู่เสี่ยวเสี่ยวจะไม่ถูกกัน แต่เฉิงเสี่ยวเถียนก็รู้มานานแล้วว่า เป็นเรื่องปกติมากที่นักแสดงหญิงจะขัดใจกัน ยิ่งไปกว่านั้นเซี่ยอันหรานกับฉู่เสี่ยวเสี่ยวยังอยู่ในฐานะนางร้ายกับนางเอกอีกด้วย

แต่เฉิงเสี่ยวเถียนก็ยังไม่รู้จริงๆว่าความขัดแย้งระหว่างเซี่ยอันหรานกับฉู่เสี่ยวเสี่ยวเกิดจากเรื่องนี้ แถมทั้งสองยังมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกันเช่นนี้

ฉู่เสี่ยวเสี่ยวนี่เกินไปแล้ว! เกิดเป็นคนทำไมถึงเนรคุณได้ขนาดนี้?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+