ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ 32 ท่าทางของคุณดูแย่จริงๆเลย

Now you are reading ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ Chapter 32 ท่าทางของคุณดูแย่จริงๆเลย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เซี่ยอันหรานเห็นโม่เซ่าเหยียนไกลๆ ก็ตกตะลึงอยู่กับที่ ด้านหนึ่งก็กลัวโม่เซ่าเหยียน อีกด้านหนึ่งประหลาดใจเพราะว่าอยู่ที่นี่ แต่ไหนแต่ไรมาวงการบันเทิงก็ไม่เคยขาดผู้ชายหล่อ แต่โม่เซ่าเหยียนคนนี้ สามารถทำให้ดาราชายสูญเสียความเจิดจรัสไปได้ในพริบตา เสน่ห์น่าดึงดูดแบบนั้น ก็ทำให้คนมองเห็นแล้วเกิดความกลัวได้เช่นกัน

เซี่ยอันหรานผ่านความตายมาแล้ว จึงไม่รอคอยเรื่องที่น่าตื่นเต้นหรือความรักอีกต่อไป เธอแค่ต้องการรักษาชีวิตที่มั่นคงในตอนนี้ของเธอไว้ ให้ครอบครัวของเธอปลอดภัย ที่ตลอดชีวิตห่อนหน้านี้เธอไม่เคยคิดไม่เคยฝัน

โอวหยางเชี่ยยหรงกระซิบเร่งเร้าที่ข้างๆหูเธอ : "ถึงแม้ว่าทุกคนจะนิ่งอึ้งไปที่สักเมื่อเห็นประธานมาในครั้งแรก แต่ตอนนี้ไม่เหมาะที่จะบ้าผู้ชายนะ อันหราน รีบเข้าไปเร็ว มิเช่นนั้นคุณจะต้องกลายเป็นหัวข้อข่าวบันเทิงเพราะว่าบ้าผู้ชายอย่างประธารโม่"

เซี่ยอันหรานได้สติกลับมา แต่เธอไม่ได้แสดงอาการตื่นตระหนกต่อหน้าทุกคน จึงหัวเราะเบาๆ หันหลังกลับและเดินตามโอหยางเชี่ยนหรงเข้าไปในห้องจัดเลี้ยง ด้านหลังเซี่ยอันหราน มีดวงตาที่ตกตะลึงอย่างมาก แน่นอนว่าก็ต้องมีสายตาริษยาเพราะท่วงท่าที่สง่างามของเซี่ยอันหรานไปปกปิดออร่าของตนเอง

เมื่อเซี่ยอันหรานเดินเข้าไปในห้องโถง สายตาเหล่านี้ที่แฝงไปด้วยกลิ่นอายความไม่เห็นด้วยยิ่งชัดเจนขึ้น เมื่อชาติก่อนได้แต่หดอยู่ในมุมเท่านั้น ผู้ชมของงานเลี้ยงสวยหรูนี้ ไม่มีสายตาที่จ้องมองด้วยความทึ่ง แน่นอนว่าไม่มีสายตาที่เกลียดชัง ในเวลานี้เซี่ยอันหรานผู้ซึ่งถูกมองด้วยสายตาไม่เห็นด้วยก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ

"เอ๊……ฉันยังคิดว่าคือใคร? ที่แท้คือพี่เชี่ยนหรง……” ถือไวน์แดงแก้วหนึ่ง ผู้หญิงสวมชุดราตรีสีน้ำเงินเข้มเดินเข้ามา การแต่งหน้าของเธอช่างงดงาม สวมใส่เครื่องประดับอัญมณีมากมาย เสียงแหลม ฟังแล้วแสบแก้วหูนิดๆ

แต่เซี่ยอันหรานยังจำได้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร เมื่อชาติเธอก็ได้คบค้าสมาคมกับผู้หญิงคนนี้ ผู้หญิงคนนี้ชื่อว่าเซี่ยอันฉี แล้วก็เป็นนักแสดงสัญญาบริษัทหวาอวี่ ชาติก่อนเซี่ยอันหรานกับเซี่ยอันฉีติดตามผู้จัดคนเดียวกันที่ชื่อว่าหวังหย่วน

แม้ว่าทักษะการแสดงและการร้องเพลงของเซี่ยอันฉีจะไม่ได้โดดเด่น แต่เธอได้รับความสนใจจากผู้จัดการหวังหย่วนเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะมีโอกาสในการแสดงดีๆอะไร หวังหย่วนก็จะให้เซี่ยอันฉีก่อน ในเวลานั้นมีข่าวลือตลอดว่าหวังหย่วนกับเซี่ยอันฉีมีความสัมพันธ์ลับๆต่อกัน ฉะนั้นหสังหย่วนจึงได้อุ้มชูเซี่ยอันฉีตลอด

เซี่ยอันหรานก็เคยได้ยินข่าวลือนี้ เพราะเธอไม่เคยเห็นเซี่ยอันฉีกับหวังหย่วนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทสนมกัน ดังนั้นจึงไม่สามารถบอกได้ว่าข่าวลือนี้จริงเท็จแค่ไหน

แต่จริงๆแล้วหวังหย่วนก็เคยบอกเซี่ยอันหรานเป็นนัยๆ ถ้ามีความสัมพันธ์เกิดขึ้น เขาจะแนะนำเซี่ยอันหรานให้มีโอกาสในการแสดงมากขึ้นได้ แต่ข้อเสนอของหวังหย่วน ก็ถูกเซี่ยอันหรานปฏิเสธ หวังหย่วนก็เริ่มไม่จริงจังที่จะจัดงานให้เซี่ยอันหราน การแสดงต่างๆที่ให้เซี่ยอันหราน ทั้งหมดก็เป็นของนักแสดงคนอื่นๆที่เหลือ

ในตอนแรกที่เซี่ยอันหรานออกจากวงการบันเทิง ถึงแม้ว่าหลักๆจะเป็นเพราะถังรั่วชิวไม่ต้องการให้เธอทำงานหนักในวงการบันเทิงต่อไป แต่เซี่ยอันหรานเห็นว่าในวงการบันเทิงมีกฏเกณฑ์ที่ซ่อนเร้นอยู่มากมาย เป็นสาเหตุที่เธอไม่สามารถยอมรับได้อีกต่อไป

แต่เซี่ยอันหรานตอนนี้ สำหรับการเฝ้ารอในการแสดง รวมทั้งและความเสียใจที่พลาดเส้นทางการแสดงในชาติที่แล้ว ทำให้เธอมีความเข้มแข็งเพียงพอที่จะเผชิญกับเรื่องทั้งหมดนี้ สีหน้าท่าทางเซี่ยอันหรานมองไปที่เซี่ยอันฉีอย่างไม่สะทกสะท้าน แล้วก็ยังมองไปที่ผู้จัดการที่น่ารังเกียจหวังหย่วนที่อยู่ด้านหลังเซี่ยอันฉีด้วย

ในเวลานี้หวังหย่วนไม่มีความหยิ่งผยองและมีอำนาจเหนือกว่าเมื่อเผชิญหน้ากับเธอ เขาโค้งตัวเล็กน้อย เช็ดเหงื่อออกจากใบหน้าไม่หยุด มองแล้วก็เหมือนทาสรับใช้ที่ต่ำต้อย

"พี่เชี่ยนหรง ช่วงนี้นักแสดงที่คุณพามาไม่เลยเลย ทำศัลยกรรมความงามมาจากไหนล่ะ ดูเป็นธรรมชาติอย่างมาก" เซี่ยอันฉีกวาดสายตามองอย่างไม่หวังดี ราวกับว่าพิจารณาสินค้าชิ้นหนึ่ง

โอวหยางเชี่ยนหรงยิ้มพูดว่า : "อันหรานไม่ได้ทำศัลยกรรม เธอสวยอย่างธรรมชาติ"

เซี่ยอันฉีหัวเราะ พาให้จมูกปลอมของเธอนั้นเห็นได้อย่างชัดเจน แล้วทำเสียงเย้ยหยันออกมา : "พี่เชี่ยนหรงใจแคบจจริงๆเลย ไม่บอกก็ไม่บอก ถึงอย่างไรตอนนี้ไม่ว่าศัลกรรมจะเก่งแค่ไหน แต่จะบอกว่าตนเองสวยอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ได้ทำศัลยกรรมแต่อย่างใด ก็ยังคงมองออกได้อย่างง่ายดายมาก"

เมื่อเซี่ยอันฉีพูดจบ ก็ทำให้คนจำนวนมากมองเข้ามา แต่ไม่มีใครเดินเข้ามาพูดคล้อยตาม โอวหยางเชี่ยนหรงเป็นผู้จัดการมือทองในวงการบันเทิง ในระหว่างการต่อสู้เธอ ยังทำให้หลายคนไม่พอใจ และเมื่อไม่นานมานี้เซี่ยอันฉีได้เปลี่ยนสปอนเซอร์ที่มีอำนาจมีอิทธิพล ทำหน้าที่ด้วยความทะเยอทะยานอย่างมาก คนจำนวนมากก็ชอบที่เห็นเธอรื่นเริง

นกกับหอยทะเลาะกัน แต่คนจับปลาได้รับผลประโยชน์ ชาติที่แล้วเซี่ยอันหรานยังอายุน้อย มีเรื่องราวมากมายที่มองไม่ออก แค่รู้สึกว่าการเป็นผู้ชมอยู่ข้างๆมันเย็นชาเกินไป แต่ช่วงชีวิตหนึ่งผ่านไป เซี่ยอันหรานได้เห็นแล้วว่าการต่อสู้ในวงการบันเทิงนั้นโหดร้ายเพียงใด ก็รู้ด้วยว่าทัศนคติในการเฝ้าดูอย่างนิ่งๆและดูแลตัวเองให้ดีนี้ถือเป็นบรรทัดฐานในวงการบันเทิง

ดังนั้นรอยยิ้มบนใบหน้าเซี่ยอันหราน ก็ไม่ได้รับผลกระทบติ่คำพูดที่ไม่มีมารยาทของเซี่ยอันฉีเลยแม้แต่น้อย

โอวหยางเชี่ยนหรงก็ไม่ได้โกรธเพราะความหยาบคายของเซี่ยอันฉี กลับกันยังยิ้มพูดว่า : "ถ้าการผ่าตัดศัลยกรรมประสบความสำเร็จขนาดนี้ ฉันจะไปทำอย่างแน่นอน จะปิดบังคนไปได้อย่างไรล่ะ? เอ๊ะ? นั่นซือถูเจวี้ยนไม่ใช่หรอ?"

เซี่ยอันฉีหันกลับไปทันที ก็เห็นชายหนุ่มรูปหล่ออีกด้านหนึ่ง ชายคนดังกล่าวกำลังยืนอยู่ท่ามกลางผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง ไม่รู้ว่าพูดเรื่องตลกอะไรกัน เย้าแหย่ให้ผู้หญิงกลุ่มนั้นหัวเราะขึ้นมา ดวงตาเจ้าชู้คู่นั้นของเขา ริมฝีปากบางๆ ดูเหมือนหนุ่มโรแมนติกเจ้าชู้ไปเรื่อยคนหนึ่ง

เซี่ยอันหรานรู้จักว่าผู้ชายคนนี้คือซือถูเจวี้ยน เขาคือคุณชายจอมเจ้าชู้ที่มีชื่อเสียง ผู้หญิงนับไม่ถ้วนที่อยู่ข้างกาย และก็ยังเป็นขาประจำของข่าวซุบซิบอีกด้วย

เซี่ยอันฉีเห็นซือถูเจวี้ยน ดวงตาของเธอก็เป็นประกายขึ้นมา ยิ้มแล้วเดินโยกย้ายเอวเข้าไปยังผู้ชายคนนั้น

หลังจากที่โอวหยางเชี่ยนหรงเดินไปจากเซี่ยอันฉี ก็พูดกระซิบกับเซี่ยอันหรานว่า: "ผู้หญิงที่วางเล่ห์เหลี่ยมไว้ภายนอกอย่างเซี่ยอันฉีนี้ คุณไม่ต้องกังวล ต้องกังวลกับคนเหล่านั้นที่ใช้อุบายทรยศหักหลัง……คนประเภทนี้อาจเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ คนหน้าใหม่หลายคนที่ถูกวงการบันเทิงสกัดกั้น ต่างก็ไม่รู้ว่ามือมืดที่อยู่เบื้องหลังเป็นใคร"

เห็นเซี่ยอันหรานกำลังมองซือถูเจวี้ยนอยู่ โอวหยางเชี่ยนหรงก็ยิ้มขึ้นมา: "คนนั้นชื่อว่าซือถูเจวี้ยน เป็นคุณชายที่มีชื่อเสียงเรื่องความเจ้าชู้คนหนึ่ง แต่ก็นับว่าวางตัวต่อผู้อื่นอย่างอ่อนโยน แค่เล่นๆกับเขาน่ะได้ แต่อย่าจริงจังเกินไป อ้อ ใช่แล้ว…..เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับประธานโม่……"

โอวหยางเชี่ยนหรงพูดพลาง ก็ก้าวเท้าไปยังด้านหน้าสองก้าว: "ลี่ลี่มาแล้ว ฉันไปก่อนนะ"

กู้ลี่คือนักแสดงอีกคนหนึ่งที่โอวหยางเชี่ยนหรงพามา กู้ลี่เป็นดาราหญิงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้ ถึงแม้ว่าจะแต่งงานแล้ว แต่ยังคงเป็นสาวในฝันอันดับหนึ่งของผู้ชายหลายๆคน มีโฆษณาอย่างต่อเนื่อง รับรางวัลจนมือไม้อ่อนไปหมด กู้ลี่สวมชุดราตรีสีดำ มองดูเป็นบุคลิกที่มั่นคง แต่ท่วงท่าอันสง่างามได้หายไปเล็กน้อย ทำให้คนดูไม่มีชีวิตชีวาอย่างชัดเจน นี่ก็ทำให้เซี่ยอันหรานอดไม่ได้ข่าวการหย่าร้างของกู้ลี่และสวี่จวินก่อนหน้านี้

กู้ลี่และสวี่จวินเป็นคู่สามีภรรยาตัวอย่างที่หาได้ยากในวงการบันเทิง กิจการของคนทั้งสองพัฒนาไปอย่างดีมาก วันรุ่งขึ้นหลังจากพวกเขาทั้งคู่ได้รับรางวัลมังกรทอง ก็ประกาศข่าวการแต่งงาน กลายเป็นข่าวฮือฮาที่สุดในวงการบันเทิงในปีนั้น และช่วงวันเวลาสั้นๆพวกเขาก็ได้แถลงข่าวการหย่าร้าง และตามมาด้วยข่าวการฆ่าตัวตายของกู้ลี่ กลายเป็นข่าวใหญ่ที่สุดในวงการบันเทิงในรอบทศวรรษที่ผ่านมา

เห็นสภาพของกู้ลี่ไม่ค่อยดีนัก โอวหยางเชี่ยนหรงก็ไม่สามารถไม่ดูแลเธอได้ ทำได้เพียงเดินไปดูกู้ลี่ก่อน ก่อนหน้าที่โอวหยางเชี่ยนหรงจะเดินไป ก็กระซิบข้างหูเซี่ยอันหรานว่า: "อยู่ตรงนี้ พยายามอย่าปฏิเสธใคร"

เซี่ยอันหรานได้ยินคำพูดของโอวหยางเชี่ยนหรง จึงพยักหน้าเบาๆ ขณะที่เซี่ยอันหรานหันตัว กำลังเตรียมจะไปหยิบอาหารว่าง ไม่รู้ว่าใครผลักเธอเล็กน้อย เซี่ยอันหรานจึงเดินโอนเอน เกือบจะล้มลง

"ระวัง……" มือหนึ่งที่อบอุ่นประคองเธอเอาไว้

เซี่ยอันหรานจึงยืนได้มั่นคง เงยหน้ามองไป ก็เป็นใบหน้าที่หล่อเหลาอ่อนโยน คือหมิงเยี่ยนเฟย!

หมิงเยี่ยนเฟยไม่ใช่นักแสดงของบริษัทหวาอวี่ ทำไมเขาถึงมาเข้าร่วมงานเลี้ยงประจำปีของบริษัทหวาอวี่ได้? หลังจากนั้นเซี่ยอันหรานก็นึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เหมินกับว่าหมิงเยี่ยนเฟยจะหมดสัญญากับบริษัทนายหน้าไปแล้ว เขากำลังมองหาบริษัทนายหน้าอื่นๆ

ก่อนหน้านี้ หมิงเยี่ยนเฟยก็น่าจะเคยมางานเลี้ยงนี้แล้ว แต่เป็นเพราะเซี่ยอันหรานเข้าร่วมงานเลี้ยงเกินครึ่ง จึงถูกถังรั่วชิวโทรเรียกไป ดังนั้นความประทับใจของเซี่ยอันหรานต่อการปรากฏตัวของหมิงเยี่ยนเฟยในงานเลี้ยงนั้นไม่ได้ลึกซึ้ง

เซี่ยอันหรานรีบลุกขึ้นทันที: "ขอบคุณค่ะ"

หมิงเยี่ยนเฟยยิ้มอย่างสง่าผ่าเผย เสียงที่นุ่มทุ้มสง่างาม: "ไม่เป็นไรครับ"

พูดจบ หมิงเยี่ยนเฟยจึงยิ้มแล้วเดินผ่านเซี่ยอันหรานไป ก่อนที่จะเดินไปทักทายกับโอวหยางเชี่ยนหรง

แล้วหมิงเยี่ยนเฟยจึงจากไป เซี่ยอันหรานก็รู้สึกว่าข้างตัวเธอเงียบสงบลง ความเยือกเย็นค่อยๆเอ่อล้นเข้ามา เซี่ยอันหรานใช้กำลังสูดลมหายใจเข้าสองสามที แล้วจึงหันกลับไปอย่างระมัดระวัง เห็นโม่เซ่าเหยียนยืนอยู่ด้านหลังของเธอ

โม่เซ่าเหยียนจ้องมองเซี่ยอันหราน ใบหน้าที่เยือกเย็น ราวกับนั่งอยู่ในที่นั่งที่แกะสลักจากน้ำแข็ง แต่เซี่ยอันหรานรู้สึกได้อย่างชัดเจน โม่เซ่าเหยียนในตอนนี้ยิ่งเยือกเย็นกว่าเมื่อกี้นี้ ความเยือกเย็นนี้ทำให้เธอสั่นไปทั้งตัว ฟันก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านขึ้นมา

เซี่ยอันหรานถอยหลังก้าวหนึ่ง แต่ยังไม่ทันให้เธอได้ถอยหลัง โม่เซ่าเหยียนก็เดินไปคว้าข้อมือของเซี่ยอันหรานเอาไว้ ก็ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือไม่ โม่เซ่าเหยียนคว้าข้อมือของเซี่ยอันหราน บังเอิญเป็นข้อมือของเซี่ยอันหรานที่หมิงเยี่ยนเฟยเคยประคองเมื่อกี้นี้

เซี่ยอันหรานตื่นตกใจ: "ประ…..ประธานโม่….."

โม่เซ่าเหยียนก้มลง ย่นใบหน้ามองเซี่ยอันหราน ทันใดก็เข้าใกล้ใบหน้าของเซี่ยอันหราน สูดลมหายใจเข้าลึก เขาขมวดคิ้วแน่น แล้วขยับริมฝีปากเล็กน้อย: "กลิ่นบนร่างกายของคุณผิดปกติ……."

พูดพลาง โม่เซ่าเหยียนก็ก้มหน้าลง พิจารณาเซี่ยอันหรานจากบนลงล่าง กล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า: "อีกอย่างท่าทางนี้ของคุณก็ไม่น่าดูอย่างมาก……"

เซี่ยอันหรานไม่เข้าใจว่าคำพูดของโม่เซ่าเหยียนหมาถึงอะไร แต่ตามที่คนจำนวนมากสังเกตเห็นพวกเขา กระทั่งซือถูเจวี้ยนและหมิงเยี่ยนเฟยที่อยู่ไกลออกไปก็หันมามอง เซี่อันหรานก็เริ่มตื่นตระหนกขึ้นมา

เซี่ยอันหรานพยายามดิ้นจากมือใหญ่ๆของโม่เซ่าเหยียนที่คว้าข้อมือของเธอเอาไว้ แต่ยังไงก็ดิ้นไม่หลุด แต่ยิ่งดึงดูดให้ใช้กำลังในการบีบบังคับ

ช่วงเวลาหนึ่ง ก็ไม่มีใครกล้าเปล่งเสียงออกมาอีก มีเพียงเสียงดนตรีที่ว่างเปล่าเท่านั้นที่ยังคงดังอยู่ในงานเลี้ยง คนทั้งหมดหันไปมองโม่เซ่าเหยียนและเซี่อันหราน การพัวพันกันของโม่เซ่าเหยียนและเซี่ยอันหรานกลายเป็นจุดโฟกัสในงานเลี้ยง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด