ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ 61 ความงดงามของความรัก

Now you are reading ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ Chapter 61 ความงดงามของความรัก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“จริงๆ ฉันก็ชอบคุณมานานแล้ว…” ในตอนที่หมิงเยี่ยนเฟยเอ็นตัวไปพูดประโยคนี้ที่ข้างหูเซี่ยอันหรานอีกครั้ง

เซี่ยอันหรานกัดริมฝีปากล่างของเธอด้วยความเขินและมองไปที่โม่เซ่าเหยียนด้วยรอยยิ้มเขินๆ

เมื่อทีมงานคนอื่นๆเห็นฉากนี้ผ่านเลนส์กล้อง พวกเขาก็เอามือประกบปากและถอนหายใจเบาๆ ฉากนี้เหมือนกำลังเกิดขึ้นในชีวิตจริงอย่างนั้น อีกทั้งเซี่ยอันหรานกับโม่เซ่าเหยียนเหมือนชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งที่กำลังสารภาพรักกันจริงๆ พวกเขาแสดงได้ธรรมชาติมาก ทำให้ผู้คนรู้สึกใจเต้นขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะคิดถึงความรู้สึกในตอนที่ตัวเองกำลังมีความรัก

“โอเค คัท!" ผู้กำกับโฆษณามองไปที่ภาพในกล้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าและอดไม่ได้ที่จะชื่นชม: “ทักษะการแสดงของหมิงเยี่ยนเฟยนี้ดีจริงๆ ดูๆแล้วอย่างกับว่าเขาชอบเซี่ยอันหรานจริงๆอย่างนั้น”

เมื่อได้ยินเสียงการถ่ายทำโฆษณาหยุดลง หมิงเยี่ยนเฟยก็เอนตัวมาข้างหูของเซี่ยอันหรานทันทีพร้อมกับพูดเบา ๆ ว่า "อย่าลืมไปกินข้าวกับผมนะ"

เซี่ยอันหรานขมวดคิ้ว“โอ้ แต่เดี๋ยวฉันยังมีธุระ … ”

หมิงเยี่ยนเฟยพยักหน้า: “โอเค งั้นเดี๋ยวเราไปกินปิ้งย่างกันเถอะ เป็นร้านปิ้งย่างแถวๆนี้"

พูดเองเออเองทั้งนั้น ไม่เปิดโอกาสให้เซี่ยอันหรานได้ปฏิเสธเลย เซี่ยอันหรานมวดคิ้วและมองไปที่หมิงเยี่ยนเฟยด้วยความสงสัย เธอไม่คาดคิดเลยว่าภายใต้ท่าทางที่อ่อนโยนอย่างกับคุณชายของหมิงเยี่ยนเฟย จะมีด้านที่เอาแต่ใจและนิสัยไม่ดีเช่นนี้

“ ไม่ใช่สิ ฉัน … ” เซี่ยอันหรานกะว่าจะปฏิเสธ

หมิงเยี่ยนเฟยก้มศีรษะลงแล้วลูบขมับ: “อ๊า กินข้าวเสร็จยังต้องนั่งเครื่องบินไปถ่ายละครอีก เป็นดารานี้ไม่ง่ายเลยจริงๆ"

หมิงเยี่ยนเฟยพูดพลางถูขมับจากนั้นก็หันหลังเดินจากไป

เซี่ยอันหรานมองไปที่ด้านหลังของหมิงเยี่ยนเฟยอย่างจนปัญญาจากนั้นก็ถอนหายใจเบาๆ และอดไม่ได้ที่จะลูบไปที่ขมับ เมื่อคืนเธอนอนไม่ค่อยหลับทั้งคืน วันนี้ยังต้องมาถ่ายโฆษณาทั้งวันอีก ตอนนี้เธอทั้งง่วงทั้งเหนื่อยและอยากกลับไปนอนแล้ว

“อันหราน แล้วเราจะไปกินข้าวกับหมิงเยี่ยนเฟยอยู่ไหม?” เฉิงเสี่ยวเถียนถามเบาๆ

เซี่ยอันหรานถอนหายใจและพูดด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ“ไปเถอะ เขาพูดมาขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่ไปคงทำเขาเสียหน้ามาก”

เฉิงเสี่ยวเถียนพยักหน้า: "งั้นฉันจะส่งข้อความไปรายงานพี่เชี่ยนหรงแป๊บนึง"

เซี่ยอันหรานนั่งอยู่ในรถของพี่เลี้ยงและพยักหน้าเบาๆจากนั้นก็หลับตาลง เพราะเธอเหนื่อยเกินไปจึงทำให้รู้สึกปวดหัวอย่างมาก เธอได้นอนพักสักแป๊บแต่ก็ไม่ได้หลับไป เมื่อมาถึงร้านปิ้งย่าง เซี่ยอันหรานก็ขมวดคิ้ว เธอพยายามลืมตาขึ้น พร้อมกับหายใจเข้าลึกๆแล้วยิ้มออกมาและลงจากรถไป

เมื่อเซี่ยอันหรานและเฉิงเสี่ยวเถียนเดินไปถึงที่นั่งชั้นพิเศษตามที่จองไว้ ทันทีที่เปิดประตูออก เซี่ยอันหรานก็ตะลึง ในชั้นพิเศษนี้ไม่ได้มีเพียงหมิงเยี่ยนเฟยเท่านั้น แต่ยังมีสมาชิกหลักทั้งหมดที่เข้าร่วมการถ่ายทำโฆษณาอยู่ในนั้นราวๆยี่สิบคนและนั่งอยู่ด้านข้างโต๊ะสองโต๊ะ

หลายคนเริ่มดื่มเหล้าพร้อมกับย่างเนื้อกันแล้ว จนกระทั่งนักวางแผนโฆษณาหันหน้ามาเห็นเซี่ยอันหราน เขาก็กวักมือเรียกและพูดว่า “อันหราน เสี่ยวเถียน มานั่งฝั่งนี้ จองที่นั่งไว้ให้แล้ว"

เซี่ยอันหรานหันศีรษะไปมองเฉิงเสี่ยวเถียน ฉากนี้ค่อนข้างเกินส่ิงที่เฉิงเสี่ยวเถียนคาดการณ์ไว้ เฉิงเสี่ยวเถียนโน้มตัวเข้าไปใกล้ๆหูของเซี่ยอันหรานและกระซิบว่า: "ที่แท้ก็ไม่ได้มีแค่เรากับหมิงเยี่ยนเฟย"

เซี่ยอันหรานถอนหายใจเบาๆ ทั้งรู้สึกผ่อนคลายและรู้สึกอายเล็กน้อยที่ "เข้าข้างตัวเอง" เธออดไม่ได้ที่จะหัวเราะและเดินไปยังที่นั่งที่จองไว้สำหรับเธอและเฉิงเสี่ยวเถียน

ที่นั่งของเซี่ยอันหรานอยู่ตรงข้ามกับหมิงเยี่ยนเฟย ซึ่งแตกต่างจากโม่เซ่าเหยียนที่สวมชุดสีดำทั้งตัว หมิงเยี่ยนเฟยที่มักสวมชุดสีเบจ วันนี้เขาเองก็สวมเสื้อสเวตเตอร์สีเบจตัวบาง แขนเสื้องอขึ้นเล็กน้อยเผยให้เห็นแขนที่เรียบเนียนและแข็งแรงของเขา พอมองๆแล้วรู้สึกผ่อนคลายและอ่อนโยนอย่างมาก ดูใจดีเหมือนพี่ชายสุดหล่อที่น่าเข้าหา

คนอย่างหมิงเยี่ยนเฟยอาจจะไม่ได้ทำให้คนอื่นๆชอบ แต่ก็ไม่ทำให้คนอื่นเกลียดเขาเช่นกัน แม้ว่าชาวเน็ตที่เลวทรามที่สุดจะหยิบยกข้อบกพร่องของหมิงเยี่ยนเฟยออกมานั้นก็คงเป็นเพราะเขาสมบูรณ์แบบเกินไปและไม่เหมือนคนจริงๆ

ทันทีที่เซี่ยอันหรานนั่งลง หมิงเยี่ยนเฟยที่ยังคงดื่มชาเมื่อกี้ก็ยิ้มและพูดเสียงต่ำว่า: “ตอนที่คุณพึ่งเข้ามา ทำไมคุณถึงตกใจมากขนาดนั้น ไม่คิดว่าจะมีคนเยอะขนาดนี้หรือคุณคิดว่าผมชวนคุณแค่คนเดียว?”

ความคิดของเซี่ยอันหรานที่ถูกเปิดเผยจะยอมรับความอับอายเช่นนี้ได้อย่างไร? ที่แท้หมิงเยี่ยนเฟยก็เชิญคนในกองถ่ายทั้งหมดมากินข้าวนี้เอง เธอคิดว่าหมิงเยี่ยนเฟยชวนเธอไปกินข้าวแค่คนเดียวซะอีก เอาแต่กังวลไปมาอยู่คนเดียว ถ้าคนอื่นรู้เข้าคงจะพูดกันว่าเธอเป็นโรคเจ้าหญิงหลงตัวเองอย่างแน่นอน

เซี่ยอันหรานรีบส่ายหัวเพื่อปฏิเสธทันที: “เปล่านิ ฉันแค่ไม่เคยเห็นที่นั่งชั้นพิเศษที่ดูหรูขนาดนี้ แถมยังมีเครื่องกดเพลง ใครจะกินข้าวกับปิงย่างไปด้วยล่ะ … "

"ผมไง" หมิงเยี่ยนเฟยยกมุมปากขึ้นและยิ้มออกมาอย่างไร้พิษภัย หลังจากพึ่งพูดจบ หมิงเยี่ยนเฟยก็เพิ่มระดับเสียงและพูดกับทุกคนด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นว่า: "วันนี้ลำบากทุกคนมากแล้ว ผมกับเซี่ยอันหรานร้องเพลงให้พวกคุณสักเพลง “ความงดงามของความรัก” เป็นยังไง?"

"โอเค!" เมื่อได้ยินว่าหมิงเยี่ยนเฟยจะร้องเพลงก็มีหญิงสาวหลายคนลุกขึ้นปรบมือให้เขา

“เยี่ยมไปเลย! ได้ฟังหมิงเยี่ยนเฟยร้องเพลงด้วย!” แม้แต่ผู้กำกับยังร้องโห่

หมิงเยี่ยนเฟยศึกษาด้านการแสดงมาโดยเฉพาะและไม่ค่อยได้ร้องเพลง แต่ด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะของเขา แม้ว่าจะออกไปแล้วเพียงซิงเกิ้ลเดียวแต่ก็ได้รับความนิยมไปทั่วประเทศ และ เพลง"ความงดงามของความรัก" ก็เป็นซิงเกิ้ลนั้นที่ออกโดยหมิงเยี่ยนเฟย

เซี่ยอันหรานไม่คิดเลยว่าหมิงเยี่ยนเฟยจะไม่ขอความคิดเห็นจากเธอก็พูดออกไปว่าจะร้องเพลงคู่กับเธอ นี้มันเอาแต่ใจมากเกินไปแล้ว!

ยิ่งไปกว่านั้นเซี่ยอันหรานยังร้องเพลงไม่เก่งเลยจริงๆ เธอเกิดมาพร้อมกับความไม่สมบูรณ์ในเรื่องเสียง สิ่งที่ทำให้เธอไม่มั่นใจมากที่สุดก็คือการร้องเพลงในที่สาธารณะ แต่หมิงเยี่ยนเฟยกลับให้เธอทำเรื่องเช่นนี้!

แม้ว่าในใจเซี่ยอันหรานจะรู้สึกไม่เต็มใจอยู่บ้าง แต่นี้ก็ไม่ใช่เวลาที่เธอจะมาอารมณ์เสีย แม้ว่าจะร้องได้ไม่ดี ส่วนมากก็แค่โดนคนอื่นหัวเราะสักพักแล้วทุกอย่างก็ผ่านไป แต่ถ้าเธอปฏิเสธหมิงเยี่ยนเฟยต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้ก็จะทำให้ทุกคนหมดสนุก บางทีพรุ่งนี้อาจจะมีข่าวลือที่ว่าเธอเย่อหยิ่งไม่ให้เกียรติอีกฝ่าย

เซี่ยอันหรานลุกขึ้นยืนด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็ไปยืนอยู่ข้างๆหมิงเยี่ยนเฟยและรับไมโครโฟนจากเขา แต่เพราะเธอไม่มีความมั่นใจเซี่ยอันหราก็เลยยังคงกำไมโครโฟนไว้แน่นด้วยความกังวล เมื่อหมิงเยี่ยนเฟยเห็นท่าทางที่กังวลของเธอจึงกระซิบด้วยน้ำเสียงที่มีเพียงเซี่ยอันหรานเท่านั้นที่ได้ยิน: “ไม่เป็นไร ผมจะช่วยคุณเอง"

เซี่ยอันหรานหันหน้าไปมองดวงตาที่อ่อนโยนและสง่างามของหมิงเยี่ยนเฟย รูปลักษณ์ภายนอกที่หล่อเหลาของเขา เธอพยายามฝืนยิ้มออกมาแต่กลับตะโกนในใจว่า: คุณจะช่วยฉัน? เห็นกันอยู่ชัดๆว่าคุณกำลังทำร้ายฉัน!

ตอนนี้เสียงเพลงดังขึ้นซึ่งเป็นเพลงที่ผ่อนคลายมาก หมิงเยี่ยนเฟยหยิบไมโครโฟนขึ้นมาและร้องเพลงออกมาเบาๆด้วยน้ำเสียงที่สง่างามของเขา:

“ความรักเป็นสิ่งที่ฟุ่มเฟือยสำหรับฉัน ไม่กล้าคิด ไม่กล้ามอง ไม่กล้าสัมผัส จนกระทั่งในปีนั้นเดือนนั้นวินาทีนั้นที่ฉันได้พบคุณและตกหลุมรักคุณ … "

ต่อไปน่าจะเป็นเนื้อร้องของเซี่ยอันหราน แต่ในตอนที่เซี่ยอันหรานรวบรวมความกล้าและกำลังจะเริ่มร้องเพลงเธอก็ร้องผิดคีย์อย่างเห็นได้ชัดเจน ทันใดนั้นหมิงเยี่ยนเฟยก็ร้องต่อทันที: "เธอบอกว่าความรักมักจะทำให้เธอเสียใจเสมอ แต่ทำไมความรักของฉันไม่เคยอยู่ในสายตาคุณเลย … "

“สำหรับคุณ ฉันยอมทุ่มเทให้ทุกอย่าง เพื่อคุณ ฉันกล้าที่จะเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก ฉันไม่โทษคุณ แต่เป็นเพราะความรักของฉันยังไม่มากพอ ฉันไม่เกลียดคุณ แม้ว่าจะได้รับความคับแค้นใจมากมาย ฉันก็ยอม … "

แม้ว่าตอนร้องเพลงนี้จะเป็นเสียงของหมิงเยี่ยนเฟยซะส่วนใหญ่ แต่เซี่ยอันหรานก็ร้องคลอตามเบาๆ ในที่สุดก็มีเสียงร้องที่พร้อมเพรียงกันทั้งชายและหญิง นี้ทำให้เซี่ยอันหรานรู้สึกตกใจเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ร้องออกมาด้วยความกล้าหาญและไม่คิดว่าจะร้องได้ดีขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อร้องจบเพลงก็มีคนยืนขึ้นและปรบมือให้ทันที: “ไม่คิดเลยว่าอันหรานและหมิงเยี่ยนเฟยไม่เพียงแต่มีความเข้าใจในการแสดงโดยปริยายเท่านั้น ขนาดร้องเพลงยังดูเข้ากันขนาดนี้อ่ะ”

แต่หลังจากที่คนๆนี้พูดจบ ก็ไม่มีใครคล้อยตามคำพูดของเขา หมิงเยี่ยนเฟยคือใครล่ะ? ดาราชายที่โด่งดังที่สุดในวงการบันเทิง ศิลปินสุดเพอร์เฟกต์ที่ไม่มีข้อบกพร่องใดๆ แล้วตอนนี้อันหรานคือใคร? เป็นน้องใหม่ที่เพิ่งเดบิวต์และไม่ได้ออกอากาศเลยแม้แต่งานเดียว ช่องว่างระหว่างสถานะของพวกเขามากเกินไป หากล้อเล่นกับพวกเขาหลายคนคิดว่ามันอาจจะทำให้หมิงเยี่ยนเฟยไม่พอใจก็ได้

แต่แทนที่หมิงเยี่ยนเฟยจะไม่พอใจ เขากลับพูดด้วยรอยยิ้ม: “ใช่แล้ว การร่วมงานระหว่างฉันกับอันหรานเข้ากันโดยที่ไม่ต้องอธิบายอะไรกันมาก พูดถึงนี้ก็คงเป็นโชคชะตาที่หายากจริงๆ"

หลังจากที่เซี่ยอันหรานร้องเพลงจบ ก็เช็ดเหงื่อบนหน้าผากของเธอพร้อมกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อได้ยินหมิงเยี่ยนเฟยพูดคำว่า "โชคชะตา" เหงื่อบนหน้าผากของเซี่ยอันหรานก็ไหลออกมาอีกครั้ง แม้ว่าโอกาสที่ได้ร่วมงานกับหมิงเยี่ยนเฟยจะเป็นสิ่งที่ดีมาก แต่ทำไมเธอถึงเอาแต่รู้สึกว่าหมิงเยี่ยนเฟยกำลังล้อเล่นและดูคิดร้ายกับเธอเสมอเลย? ทำให้เซี่ยอันหรานรู้สึกไม่กล้าร่วมงานกับหมิงเยี่ยนเฟยเล็กน้อย

“ไหนๆก็มีโชคชะตาต่อกัน ถ้างั้นก็ต้องดื่มสักแก้ว" ทันใดนั้นก็มีใครบางคนยืนขึ้นทันทีและยกแก้วขึ้นดื่ม

หมิงเยี่ยนเฟยหยิบแก้วขึ้นช้าๆและดื่มมันจนหมด เซี่ยอันหรานที่ไม่ได้พักผ่อนดีๆ ในหัวของเธอก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย เมื่อเห็นหมิงเยี่ยนเฟยกำลังดื่มเหล้า เธอก็ยกแก้วขึ้นมาดื่มจนหมดแก้วตามอย่างโง่เขลา

ที่โต๊ะเหล้าถ้าไม่ปฏิเสธตั้งแต่แรก เมื่อดื่มไปแล้วก็จะไม่สามารถปฏิเสธการชนแก้วของคนอื่นได้ เมื่อเห็นว่าเซี่ยอันหรานดื่มเหล้าด้วยความสับสนมึนงง คนเหล่านี้ต่างก็ยกแก้วขึ้นเพื่อชนกับเซี่ยอันหรานทีละแก้ว เซี่ยอันหรานไม่สามารถปฏิเสธคนอื่นได้และเมื่องานเลี้ยงจบลง เซี่ยอันหรานก็เมาจนฟุบลงบนโต๊ะ

“ทำยังไงดี? คนขับหาที่อยู่ไม่เจอ ฉันต้องลงไปบอกทางคนขับที่ชั้นล่าง” ในขณะที่เฉิงเสี่ยวเถียนพยุงเซี่ยอันหรานที่กำลังจะล้มลงกับพื้น ก็มองไปที่โทรศัพท์และพูดอย่างเร่งรีบ

“ไม่เป็นไร ผมช่วยคุณดูอยู่ที่นี้เอง" แม้ว่าหมิงเยี่ยนเฟยจะช่วยเซี่ยอันหรานดื่มแทนไปมากมาย แต่เขาก็ไม่ได้เมาเลย

เฉิงเสี่ยวเถียนเห็นว่าทุกคนเริ่มกลับกันแล้ว มีเพียงหมิงเยี่ยนเฟยที่เหลืออยู่ เธอจึงพยักหน้า: "รบกวนคุณหมิงด้วยนะคะ ฉันจะรีบกลับมา"

หลังจากที่เฉิงเสี่ยวเถียนพูดจบ เธอก็รีบวิ่งออกจากที่นั่งชั้นพิเศษทันที เซี่ยอันหรานสูญเสียการพยุงของเฉิงเสี่ยวเถียน เธอก็เอียงศีรษะและกำลังจะล้มลงกับพื้น ในขณะที่เธอกำลังจะล้มลงหมิงเยี่ยนเฟยก็ยื่นมือออกไปแล้วกอดเซี่ยอันหรานไว้

เซี่ยอันหรานเมามากแล้วจริงๆ แก้มของเธอแดงไปหมด แถมยังเหมือนเด็กน้อยที่กำลังทำหน้ามุ่ยเล็กน้อย หัวของเธอถูไปที่บนตัวของหมิงเยี่ยนเฟยเเบาๆและพูดด้วยความเมาว่า: "คุณมันน่ารำคาญจริงๆ!"

ดูเหมือนสาวน้อยเอาแต่ใจที่กำลังอ้อนตรงหน้าคนที่เธอรัก

หมิงเยี่ยนเฟยยื่นมือออกไปและจัดทรงผมที่กระจัดกระจายของเซี่ยอันหรานแล้วทัดไว้ข้างหลังหูของเธอ จากนั้นก็ลูบแก้มของเซี่ยอันหรานเบาๆ ทันใดนั้นเขาก็นึกเพลง "ความงดงามของความรัก" ที่เขาร้องกับเซี่ยอันหรานขึ้น

"จนกระทั่งในปีนั้นเดือนนั้นวินาทีนั้นที่ฉันได้พบคุณและตกหลุมรักคุณ … "

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ 61 ความงดงามของความรัก

Now you are reading ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ Chapter 61 ความงดงามของความรัก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“จริงๆ ฉันก็ชอบคุณมานานแล้ว…” ในตอนที่หมิงเยี่ยนเฟยเอ็นตัวไปพูดประโยคนี้ที่ข้างหูเซี่ยอันหรานอีกครั้ง

เซี่ยอันหรานกัดริมฝีปากล่างของเธอด้วยความเขินและมองไปที่โม่เซ่าเหยียนด้วยรอยยิ้มเขินๆ

เมื่อทีมงานคนอื่นๆเห็นฉากนี้ผ่านเลนส์กล้อง พวกเขาก็เอามือประกบปากและถอนหายใจเบาๆ ฉากนี้เหมือนกำลังเกิดขึ้นในชีวิตจริงอย่างนั้น อีกทั้งเซี่ยอันหรานกับโม่เซ่าเหยียนเหมือนชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งที่กำลังสารภาพรักกันจริงๆ พวกเขาแสดงได้ธรรมชาติมาก ทำให้ผู้คนรู้สึกใจเต้นขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะคิดถึงความรู้สึกในตอนที่ตัวเองกำลังมีความรัก

“โอเค คัท!" ผู้กำกับโฆษณามองไปที่ภาพในกล้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าและอดไม่ได้ที่จะชื่นชม: “ทักษะการแสดงของหมิงเยี่ยนเฟยนี้ดีจริงๆ ดูๆแล้วอย่างกับว่าเขาชอบเซี่ยอันหรานจริงๆอย่างนั้น”

เมื่อได้ยินเสียงการถ่ายทำโฆษณาหยุดลง หมิงเยี่ยนเฟยก็เอนตัวมาข้างหูของเซี่ยอันหรานทันทีพร้อมกับพูดเบา ๆ ว่า "อย่าลืมไปกินข้าวกับผมนะ"

เซี่ยอันหรานขมวดคิ้ว“โอ้ แต่เดี๋ยวฉันยังมีธุระ … ”

หมิงเยี่ยนเฟยพยักหน้า: “โอเค งั้นเดี๋ยวเราไปกินปิ้งย่างกันเถอะ เป็นร้านปิ้งย่างแถวๆนี้"

พูดเองเออเองทั้งนั้น ไม่เปิดโอกาสให้เซี่ยอันหรานได้ปฏิเสธเลย เซี่ยอันหรานมวดคิ้วและมองไปที่หมิงเยี่ยนเฟยด้วยความสงสัย เธอไม่คาดคิดเลยว่าภายใต้ท่าทางที่อ่อนโยนอย่างกับคุณชายของหมิงเยี่ยนเฟย จะมีด้านที่เอาแต่ใจและนิสัยไม่ดีเช่นนี้

“ ไม่ใช่สิ ฉัน … ” เซี่ยอันหรานกะว่าจะปฏิเสธ

หมิงเยี่ยนเฟยก้มศีรษะลงแล้วลูบขมับ: “อ๊า กินข้าวเสร็จยังต้องนั่งเครื่องบินไปถ่ายละครอีก เป็นดารานี้ไม่ง่ายเลยจริงๆ"

หมิงเยี่ยนเฟยพูดพลางถูขมับจากนั้นก็หันหลังเดินจากไป

เซี่ยอันหรานมองไปที่ด้านหลังของหมิงเยี่ยนเฟยอย่างจนปัญญาจากนั้นก็ถอนหายใจเบาๆ และอดไม่ได้ที่จะลูบไปที่ขมับ เมื่อคืนเธอนอนไม่ค่อยหลับทั้งคืน วันนี้ยังต้องมาถ่ายโฆษณาทั้งวันอีก ตอนนี้เธอทั้งง่วงทั้งเหนื่อยและอยากกลับไปนอนแล้ว

“อันหราน แล้วเราจะไปกินข้าวกับหมิงเยี่ยนเฟยอยู่ไหม?” เฉิงเสี่ยวเถียนถามเบาๆ

เซี่ยอันหรานถอนหายใจและพูดด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ“ไปเถอะ เขาพูดมาขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่ไปคงทำเขาเสียหน้ามาก”

เฉิงเสี่ยวเถียนพยักหน้า: "งั้นฉันจะส่งข้อความไปรายงานพี่เชี่ยนหรงแป๊บนึง"

เซี่ยอันหรานนั่งอยู่ในรถของพี่เลี้ยงและพยักหน้าเบาๆจากนั้นก็หลับตาลง เพราะเธอเหนื่อยเกินไปจึงทำให้รู้สึกปวดหัวอย่างมาก เธอได้นอนพักสักแป๊บแต่ก็ไม่ได้หลับไป เมื่อมาถึงร้านปิ้งย่าง เซี่ยอันหรานก็ขมวดคิ้ว เธอพยายามลืมตาขึ้น พร้อมกับหายใจเข้าลึกๆแล้วยิ้มออกมาและลงจากรถไป

เมื่อเซี่ยอันหรานและเฉิงเสี่ยวเถียนเดินไปถึงที่นั่งชั้นพิเศษตามที่จองไว้ ทันทีที่เปิดประตูออก เซี่ยอันหรานก็ตะลึง ในชั้นพิเศษนี้ไม่ได้มีเพียงหมิงเยี่ยนเฟยเท่านั้น แต่ยังมีสมาชิกหลักทั้งหมดที่เข้าร่วมการถ่ายทำโฆษณาอยู่ในนั้นราวๆยี่สิบคนและนั่งอยู่ด้านข้างโต๊ะสองโต๊ะ

หลายคนเริ่มดื่มเหล้าพร้อมกับย่างเนื้อกันแล้ว จนกระทั่งนักวางแผนโฆษณาหันหน้ามาเห็นเซี่ยอันหราน เขาก็กวักมือเรียกและพูดว่า “อันหราน เสี่ยวเถียน มานั่งฝั่งนี้ จองที่นั่งไว้ให้แล้ว"

เซี่ยอันหรานหันศีรษะไปมองเฉิงเสี่ยวเถียน ฉากนี้ค่อนข้างเกินส่ิงที่เฉิงเสี่ยวเถียนคาดการณ์ไว้ เฉิงเสี่ยวเถียนโน้มตัวเข้าไปใกล้ๆหูของเซี่ยอันหรานและกระซิบว่า: "ที่แท้ก็ไม่ได้มีแค่เรากับหมิงเยี่ยนเฟย"

เซี่ยอันหรานถอนหายใจเบาๆ ทั้งรู้สึกผ่อนคลายและรู้สึกอายเล็กน้อยที่ "เข้าข้างตัวเอง" เธออดไม่ได้ที่จะหัวเราะและเดินไปยังที่นั่งที่จองไว้สำหรับเธอและเฉิงเสี่ยวเถียน

ที่นั่งของเซี่ยอันหรานอยู่ตรงข้ามกับหมิงเยี่ยนเฟย ซึ่งแตกต่างจากโม่เซ่าเหยียนที่สวมชุดสีดำทั้งตัว หมิงเยี่ยนเฟยที่มักสวมชุดสีเบจ วันนี้เขาเองก็สวมเสื้อสเวตเตอร์สีเบจตัวบาง แขนเสื้องอขึ้นเล็กน้อยเผยให้เห็นแขนที่เรียบเนียนและแข็งแรงของเขา พอมองๆแล้วรู้สึกผ่อนคลายและอ่อนโยนอย่างมาก ดูใจดีเหมือนพี่ชายสุดหล่อที่น่าเข้าหา

คนอย่างหมิงเยี่ยนเฟยอาจจะไม่ได้ทำให้คนอื่นๆชอบ แต่ก็ไม่ทำให้คนอื่นเกลียดเขาเช่นกัน แม้ว่าชาวเน็ตที่เลวทรามที่สุดจะหยิบยกข้อบกพร่องของหมิงเยี่ยนเฟยออกมานั้นก็คงเป็นเพราะเขาสมบูรณ์แบบเกินไปและไม่เหมือนคนจริงๆ

ทันทีที่เซี่ยอันหรานนั่งลง หมิงเยี่ยนเฟยที่ยังคงดื่มชาเมื่อกี้ก็ยิ้มและพูดเสียงต่ำว่า: “ตอนที่คุณพึ่งเข้ามา ทำไมคุณถึงตกใจมากขนาดนั้น ไม่คิดว่าจะมีคนเยอะขนาดนี้หรือคุณคิดว่าผมชวนคุณแค่คนเดียว?”

ความคิดของเซี่ยอันหรานที่ถูกเปิดเผยจะยอมรับความอับอายเช่นนี้ได้อย่างไร? ที่แท้หมิงเยี่ยนเฟยก็เชิญคนในกองถ่ายทั้งหมดมากินข้าวนี้เอง เธอคิดว่าหมิงเยี่ยนเฟยชวนเธอไปกินข้าวแค่คนเดียวซะอีก เอาแต่กังวลไปมาอยู่คนเดียว ถ้าคนอื่นรู้เข้าคงจะพูดกันว่าเธอเป็นโรคเจ้าหญิงหลงตัวเองอย่างแน่นอน

เซี่ยอันหรานรีบส่ายหัวเพื่อปฏิเสธทันที: “เปล่านิ ฉันแค่ไม่เคยเห็นที่นั่งชั้นพิเศษที่ดูหรูขนาดนี้ แถมยังมีเครื่องกดเพลง ใครจะกินข้าวกับปิงย่างไปด้วยล่ะ … "

"ผมไง" หมิงเยี่ยนเฟยยกมุมปากขึ้นและยิ้มออกมาอย่างไร้พิษภัย หลังจากพึ่งพูดจบ หมิงเยี่ยนเฟยก็เพิ่มระดับเสียงและพูดกับทุกคนด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นว่า: "วันนี้ลำบากทุกคนมากแล้ว ผมกับเซี่ยอันหรานร้องเพลงให้พวกคุณสักเพลง “ความงดงามของความรัก” เป็นยังไง?"

"โอเค!" เมื่อได้ยินว่าหมิงเยี่ยนเฟยจะร้องเพลงก็มีหญิงสาวหลายคนลุกขึ้นปรบมือให้เขา

“เยี่ยมไปเลย! ได้ฟังหมิงเยี่ยนเฟยร้องเพลงด้วย!” แม้แต่ผู้กำกับยังร้องโห่

หมิงเยี่ยนเฟยศึกษาด้านการแสดงมาโดยเฉพาะและไม่ค่อยได้ร้องเพลง แต่ด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะของเขา แม้ว่าจะออกไปแล้วเพียงซิงเกิ้ลเดียวแต่ก็ได้รับความนิยมไปทั่วประเทศ และ เพลง"ความงดงามของความรัก" ก็เป็นซิงเกิ้ลนั้นที่ออกโดยหมิงเยี่ยนเฟย

เซี่ยอันหรานไม่คิดเลยว่าหมิงเยี่ยนเฟยจะไม่ขอความคิดเห็นจากเธอก็พูดออกไปว่าจะร้องเพลงคู่กับเธอ นี้มันเอาแต่ใจมากเกินไปแล้ว!

ยิ่งไปกว่านั้นเซี่ยอันหรานยังร้องเพลงไม่เก่งเลยจริงๆ เธอเกิดมาพร้อมกับความไม่สมบูรณ์ในเรื่องเสียง สิ่งที่ทำให้เธอไม่มั่นใจมากที่สุดก็คือการร้องเพลงในที่สาธารณะ แต่หมิงเยี่ยนเฟยกลับให้เธอทำเรื่องเช่นนี้!

แม้ว่าในใจเซี่ยอันหรานจะรู้สึกไม่เต็มใจอยู่บ้าง แต่นี้ก็ไม่ใช่เวลาที่เธอจะมาอารมณ์เสีย แม้ว่าจะร้องได้ไม่ดี ส่วนมากก็แค่โดนคนอื่นหัวเราะสักพักแล้วทุกอย่างก็ผ่านไป แต่ถ้าเธอปฏิเสธหมิงเยี่ยนเฟยต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้ก็จะทำให้ทุกคนหมดสนุก บางทีพรุ่งนี้อาจจะมีข่าวลือที่ว่าเธอเย่อหยิ่งไม่ให้เกียรติอีกฝ่าย

เซี่ยอันหรานลุกขึ้นยืนด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็ไปยืนอยู่ข้างๆหมิงเยี่ยนเฟยและรับไมโครโฟนจากเขา แต่เพราะเธอไม่มีความมั่นใจเซี่ยอันหราก็เลยยังคงกำไมโครโฟนไว้แน่นด้วยความกังวล เมื่อหมิงเยี่ยนเฟยเห็นท่าทางที่กังวลของเธอจึงกระซิบด้วยน้ำเสียงที่มีเพียงเซี่ยอันหรานเท่านั้นที่ได้ยิน: “ไม่เป็นไร ผมจะช่วยคุณเอง"

เซี่ยอันหรานหันหน้าไปมองดวงตาที่อ่อนโยนและสง่างามของหมิงเยี่ยนเฟย รูปลักษณ์ภายนอกที่หล่อเหลาของเขา เธอพยายามฝืนยิ้มออกมาแต่กลับตะโกนในใจว่า: คุณจะช่วยฉัน? เห็นกันอยู่ชัดๆว่าคุณกำลังทำร้ายฉัน!

ตอนนี้เสียงเพลงดังขึ้นซึ่งเป็นเพลงที่ผ่อนคลายมาก หมิงเยี่ยนเฟยหยิบไมโครโฟนขึ้นมาและร้องเพลงออกมาเบาๆด้วยน้ำเสียงที่สง่างามของเขา:

“ความรักเป็นสิ่งที่ฟุ่มเฟือยสำหรับฉัน ไม่กล้าคิด ไม่กล้ามอง ไม่กล้าสัมผัส จนกระทั่งในปีนั้นเดือนนั้นวินาทีนั้นที่ฉันได้พบคุณและตกหลุมรักคุณ … "

ต่อไปน่าจะเป็นเนื้อร้องของเซี่ยอันหราน แต่ในตอนที่เซี่ยอันหรานรวบรวมความกล้าและกำลังจะเริ่มร้องเพลงเธอก็ร้องผิดคีย์อย่างเห็นได้ชัดเจน ทันใดนั้นหมิงเยี่ยนเฟยก็ร้องต่อทันที: "เธอบอกว่าความรักมักจะทำให้เธอเสียใจเสมอ แต่ทำไมความรักของฉันไม่เคยอยู่ในสายตาคุณเลย … "

“สำหรับคุณ ฉันยอมทุ่มเทให้ทุกอย่าง เพื่อคุณ ฉันกล้าที่จะเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก ฉันไม่โทษคุณ แต่เป็นเพราะความรักของฉันยังไม่มากพอ ฉันไม่เกลียดคุณ แม้ว่าจะได้รับความคับแค้นใจมากมาย ฉันก็ยอม … "

แม้ว่าตอนร้องเพลงนี้จะเป็นเสียงของหมิงเยี่ยนเฟยซะส่วนใหญ่ แต่เซี่ยอันหรานก็ร้องคลอตามเบาๆ ในที่สุดก็มีเสียงร้องที่พร้อมเพรียงกันทั้งชายและหญิง นี้ทำให้เซี่ยอันหรานรู้สึกตกใจเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ร้องออกมาด้วยความกล้าหาญและไม่คิดว่าจะร้องได้ดีขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อร้องจบเพลงก็มีคนยืนขึ้นและปรบมือให้ทันที: “ไม่คิดเลยว่าอันหรานและหมิงเยี่ยนเฟยไม่เพียงแต่มีความเข้าใจในการแสดงโดยปริยายเท่านั้น ขนาดร้องเพลงยังดูเข้ากันขนาดนี้อ่ะ”

แต่หลังจากที่คนๆนี้พูดจบ ก็ไม่มีใครคล้อยตามคำพูดของเขา หมิงเยี่ยนเฟยคือใครล่ะ? ดาราชายที่โด่งดังที่สุดในวงการบันเทิง ศิลปินสุดเพอร์เฟกต์ที่ไม่มีข้อบกพร่องใดๆ แล้วตอนนี้อันหรานคือใคร? เป็นน้องใหม่ที่เพิ่งเดบิวต์และไม่ได้ออกอากาศเลยแม้แต่งานเดียว ช่องว่างระหว่างสถานะของพวกเขามากเกินไป หากล้อเล่นกับพวกเขาหลายคนคิดว่ามันอาจจะทำให้หมิงเยี่ยนเฟยไม่พอใจก็ได้

แต่แทนที่หมิงเยี่ยนเฟยจะไม่พอใจ เขากลับพูดด้วยรอยยิ้ม: “ใช่แล้ว การร่วมงานระหว่างฉันกับอันหรานเข้ากันโดยที่ไม่ต้องอธิบายอะไรกันมาก พูดถึงนี้ก็คงเป็นโชคชะตาที่หายากจริงๆ"

หลังจากที่เซี่ยอันหรานร้องเพลงจบ ก็เช็ดเหงื่อบนหน้าผากของเธอพร้อมกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อได้ยินหมิงเยี่ยนเฟยพูดคำว่า "โชคชะตา" เหงื่อบนหน้าผากของเซี่ยอันหรานก็ไหลออกมาอีกครั้ง แม้ว่าโอกาสที่ได้ร่วมงานกับหมิงเยี่ยนเฟยจะเป็นสิ่งที่ดีมาก แต่ทำไมเธอถึงเอาแต่รู้สึกว่าหมิงเยี่ยนเฟยกำลังล้อเล่นและดูคิดร้ายกับเธอเสมอเลย? ทำให้เซี่ยอันหรานรู้สึกไม่กล้าร่วมงานกับหมิงเยี่ยนเฟยเล็กน้อย

“ไหนๆก็มีโชคชะตาต่อกัน ถ้างั้นก็ต้องดื่มสักแก้ว" ทันใดนั้นก็มีใครบางคนยืนขึ้นทันทีและยกแก้วขึ้นดื่ม

หมิงเยี่ยนเฟยหยิบแก้วขึ้นช้าๆและดื่มมันจนหมด เซี่ยอันหรานที่ไม่ได้พักผ่อนดีๆ ในหัวของเธอก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย เมื่อเห็นหมิงเยี่ยนเฟยกำลังดื่มเหล้า เธอก็ยกแก้วขึ้นมาดื่มจนหมดแก้วตามอย่างโง่เขลา

ที่โต๊ะเหล้าถ้าไม่ปฏิเสธตั้งแต่แรก เมื่อดื่มไปแล้วก็จะไม่สามารถปฏิเสธการชนแก้วของคนอื่นได้ เมื่อเห็นว่าเซี่ยอันหรานดื่มเหล้าด้วยความสับสนมึนงง คนเหล่านี้ต่างก็ยกแก้วขึ้นเพื่อชนกับเซี่ยอันหรานทีละแก้ว เซี่ยอันหรานไม่สามารถปฏิเสธคนอื่นได้และเมื่องานเลี้ยงจบลง เซี่ยอันหรานก็เมาจนฟุบลงบนโต๊ะ

“ทำยังไงดี? คนขับหาที่อยู่ไม่เจอ ฉันต้องลงไปบอกทางคนขับที่ชั้นล่าง” ในขณะที่เฉิงเสี่ยวเถียนพยุงเซี่ยอันหรานที่กำลังจะล้มลงกับพื้น ก็มองไปที่โทรศัพท์และพูดอย่างเร่งรีบ

“ไม่เป็นไร ผมช่วยคุณดูอยู่ที่นี้เอง" แม้ว่าหมิงเยี่ยนเฟยจะช่วยเซี่ยอันหรานดื่มแทนไปมากมาย แต่เขาก็ไม่ได้เมาเลย

เฉิงเสี่ยวเถียนเห็นว่าทุกคนเริ่มกลับกันแล้ว มีเพียงหมิงเยี่ยนเฟยที่เหลืออยู่ เธอจึงพยักหน้า: "รบกวนคุณหมิงด้วยนะคะ ฉันจะรีบกลับมา"

หลังจากที่เฉิงเสี่ยวเถียนพูดจบ เธอก็รีบวิ่งออกจากที่นั่งชั้นพิเศษทันที เซี่ยอันหรานสูญเสียการพยุงของเฉิงเสี่ยวเถียน เธอก็เอียงศีรษะและกำลังจะล้มลงกับพื้น ในขณะที่เธอกำลังจะล้มลงหมิงเยี่ยนเฟยก็ยื่นมือออกไปแล้วกอดเซี่ยอันหรานไว้

เซี่ยอันหรานเมามากแล้วจริงๆ แก้มของเธอแดงไปหมด แถมยังเหมือนเด็กน้อยที่กำลังทำหน้ามุ่ยเล็กน้อย หัวของเธอถูไปที่บนตัวของหมิงเยี่ยนเฟยเเบาๆและพูดด้วยความเมาว่า: "คุณมันน่ารำคาญจริงๆ!"

ดูเหมือนสาวน้อยเอาแต่ใจที่กำลังอ้อนตรงหน้าคนที่เธอรัก

หมิงเยี่ยนเฟยยื่นมือออกไปและจัดทรงผมที่กระจัดกระจายของเซี่ยอันหรานแล้วทัดไว้ข้างหลังหูของเธอ จากนั้นก็ลูบแก้มของเซี่ยอันหรานเบาๆ ทันใดนั้นเขาก็นึกเพลง "ความงดงามของความรัก" ที่เขาร้องกับเซี่ยอันหรานขึ้น

"จนกระทั่งในปีนั้นเดือนนั้นวินาทีนั้นที่ฉันได้พบคุณและตกหลุมรักคุณ … "

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+