ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ 96 นางร้ายตัวจริง

Now you are reading ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ Chapter 96 นางร้ายตัวจริง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ในที่สุดรายการวาไรตี้ของเซี่ยอันหรานและหมิงเยี่ยนเฟยก็มาถึงตอนสุดท้าย บาดแผลที่อยู่บนมือเธอเองก็ดีขึ้นมากแล้ว เธอจึงรีบเข้าร่วมการถ่ายละครในทันที

แต่ว่าสำหรับผลของรายการวาไรตี้ในสัปดาห์นี้จะทำการประกาศลงบนอินเทอร์เน็ต ทุกคนต่างก็สงสัยเป็นอย่างมากว่าดาราหญิงที่จะมาถ่ายรายการวาไรตี้กับหมิงเยี่ยนเฟยเป็นใครกัน ชื่อของเซี่ยอันหรานจึงขึ้นบนหัวข้อการค้นหายอดฮิตบนเว็บไซต์ชื่อดังนานติดต่อกันถึงหนึ่งสัปดาห์

และทีมงานรายการก็ยิ่งเติมเชื้อเพลิงเข้าไปอีกด้วยการลงคลิปวิดีโอสัมภาษณ์ของเซี่ยอันหรานและหมิงเยี่ยนเฟย จึงยิ่งทำให้ชื่อ "อันหราน" ชื่อนี้นั้นเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง

สำหรับกลุ่มคนที่ติดตามเรื่องนี้ แฟนคลับของหมิงเยี่ยนเฟยเป็นกลุ่มคนที่จะมีความรู้สึกสับสนมากที่สุด การที่หมิงเยี่ยนเฟยได้เข้าร่วมรายการนี้นั้น ได้ทำให้พวกเธอเข้าใจชีวิตส่วนตัวของหมิงเยี่ยนเฟยมากขึ้นจึงทำให้ดีใจเป็นธรรมดา แต่ว่าก็กลัวว่าหมิงเยี่ยนเฟยและเซี่ยอันหรานจะพัฒนาความสัมพันธ์จนกลายเป็นความรักขึ้นมา นี่จึงทำให้พวกเธอรู้สึกเป็นกังวล

ในเมื่อเซี่ยอันหรานพึ่งจะเข้าวงการ และไม่ว่าอย่างไรก็รู้สึกว่าไม่ใช่ดาราที่จะมาถ่ายทำร่วมกับหมิงเยี่ยนเฟยได้ ตอนนี้กลับมาถ่ายรายการวาไรตี้กับหมิงเยี่ยนเฟย นี่จะต้องมีปัญหาอะไรแน่ๆ

เพราะฉะนั้นแล้วตามที่ชื่อเสียงของเซี่ยอันหรานมีมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ได้เป็นการเพิ่มจำนวนคนที่เกลียดเธอมากขึ้นด้วยเช่นกัน คนเหล่านี้ไม่เพียงแต่ด่าว่าเซี่ยอันหรานไม่เหมาะสมกับหมิงเยี่ยนเฟย แต่บอกด้วยว่าเธอจงใจทำให้หมิงเยี่ยนเฟยได้รับบาดเจ็บ เลยด่าว่าเธอวางแผนเอาไว้ทั้งหมด คิดที่จะตกผู้ชาย ถึงขนาดที่คิดที่จะขุดหาเบาะแสหรือร่องรอยเรื่องเสียๆ หายๆ ระหว่างเซี่ยอันหรานกับผู้ชาย ซ้ำยังมีคนบอกว่าเซี่ยอันหรานมีคนอยู่เบื้องหลังคอยสนับสนุนเรื่องการเงินให้

"อะไรนะ? หมิงเยี่ยนเฟยได้ฉายาว่า 'คู่สามีภรรยาผ้าพันแผล' น่ารักจังเลย แต่คงจะดีกว่านี้ถ้าไม่ได้เป็นฉายาร่วมกับอันหราน ทำไมหมิงเยี่ยนเฟยไม่ถ่ายรายการกับไป๋อวี่ซินกัน ไป๋อวี่ซินดังกว่ายัยคนที่ชื่ออันหรานนี่ตั้งเยอะ รายการคงน่าสนุกกว่าเยอะเลย…….."

เฉิงเสี่ยวเถียนเลื่อนดูความคิดเห็นที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต โกรธเสียจนทำดวงตาเบิกโต และอดที่อ่านความคิดเห็นเหล่านั้นออกมาดังๆ ไม่ได้ "ได้ยินมาว่าคนที่ชื่ออันหรานเนี่ย เพื่อที่จะได้ดังเลยยอมไปมีความสัมพันธ์กับผู้ชายตั้งหลายคน หมิงเยี่ยนเฟยได้มาถ่ายรายการวาไรตี้กับเธอ คงจะถูกคนที่สนับสนุนเธออยู่เบื้องหลังบังคับมาน่ะสิ………."

"นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน?" เฉิงเสี่ยวเถียนส่งเสียงฮึมฮัมด้วยความโกรธออกมา "พวกชาวเน็ตพวกนี้ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยสักนิด เอาเรื่องอะไรมาพูดจาสั่วๆ แบบนี้ นี่มันจริงๆ เลย!"

"แหะแหะ………." เซี่ยอันหรานหัวเราะแห้งๆ ออกมา แล้วจึงยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า "เสี่ยวเถียน เธอไม่ต้องไปโกรธหรอกนะ"

เฉิงเสี่ยวเถียนขมวดคิ้วแน่น "อันหราน เธอยังยิ้มออกมาได้อย่างไรกัน เจอเรื่องแบบนี้เข้าไป ทำไมถึงไม่โกรธเลย เห็นๆ กันอยู่ว่าพวกเขาไม่รู้อะไรเลย แล้วก็มาพูดจามั่วๆ ฉันก็นึกว่าถ่ายรายการวาไรตี้กับหมิงเยี่ยนเฟยจะเป็นเรื่องดีซะอีก ไม่ได้คิดที่อยากจะให้เป็นแบบนี้เลย ถ้ารู้อย่างงี้แต่แรก……..ถ้ารู้ก่อนนะว่าจะเป็นแบบนี้………."

เซี่ยอันหรานได้ยินความโกรธของเฉิงเสี่ยวเถียนที่ระเบิดออกมา ก็ส่งยิ้มไปให้เฉิงเสี่ยวเถียน "รู้ก่อนแล้วจะเป็นอย่างไรเหรอ"

เฉิงเสี่ยวเถียนพูดอย่างโกรธๆ ว่า "ถ้ารู้แต่แรก ฉันก็จะต้องเอาตัวเข้าไปห้ามเรื่องนี้อย่างสุดชีวิตน่ะสิ ตอนนี้ผลลัพธ์ออกมาไม่ดีเลย"

"มีอะไรไม่ดีล่ะ อย่างน้อยที่สุดทุกคนก็รู้แล้วว่าฉันชื่อว่าอะไร เห็นไหม ดังเสียยิ่งกว่าละครที่ฉันถ่ายในตอนนี้อีก เรื่องพวกการตกเป็นข่าวดังเป็นสิ่งที่ดาราหญิงหลายคนไม่อาจที่จะหลีกเลี่ยงได้เลย………" เซี่ยอันหรานที่สวมชุดสำหรับถ่ายละครอยู่ก็หรี่ตาลงมองฉู่เสี่ยวเสี่ยวที่กำลังถ่ายละคร เธอยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า "เมื่อเปรียบเทียบกับตอนก่อนหน้าที่หมิงเยี่ยนเฟยจะได้รับบาดเจ็บเพราะช่วยฉันเอาไว้แล้ว ตอนนี้ความคิดเห็นบนเน็ตก็ไม่ใช่ว่าดีขึ้นเยอะแล้วเหรอ?"

เมื่อเฉิงเสี่ยวเถียนได้ยินดังว่า ก็พยักหน้าลงเบาๆ "นั่นมันก็ไม่ผิด……..แต่ว่า…….."

"งั้นก็ดีแล้วนี่……..ฉันรู้สึกพอใจมากแล้ว ฉันเป็นแค่ดาราคนหนึ่งเอง ไม่ได้เป็นเงินตราที่จะได้ทำให้ทุกคนมารู้สึกชอบได้ แล้วถ้าหากว่าเป็นเงินทองจริง ก็จะยังมีคนบอกว่าฉันสกปรกแล้วก็เหม็น บอกว่าเป็นแหล่งกำเนิดเชื้อโรค การที่ฉันถูกด่า มันก็เป็นเรื่องปกติ" เซี่ยอันหรานยิ้มพลางพูดออกมา

เฉิงเสี่ยวเถียนได้ยินเซี่ยอันหรานพูดแบบนี้ขึ้นมา ใบหน้าที่โมโหจนยับย่นของเธอในตอนแรกเนื่องจากเซี่ยอันหรานถูกด่า ก็ผ่อนคลายลงมามากเลยทีเดียว "ฮ่ะฮ่ะ" หัวเราะออกมาหนึ่งเสียง "อันหราน เธอนี่มันจริงๆ เลย การที่เธอมีจิตใจที่เข้มแข็งแบบนี้ ช่างเป็นพรสวรรค์ที่เหมาะกับการเป็นดาราเสียจริง ถ้าไม่เป็นดารา ก็คงจะรู้สึกผิดต่อหัวใจอันแข็งแกร่งดวงนี้ของเธอแล้วแหละ"

เซี่ยอันหรานเม้มปากแล้วเงยหน้ามองฉู่เสี่ยวเสี่ยวที่ถ่ายฉากของเธอจบลงแล้ว เซี่ยอันหรานก็ค่อยๆ ยกมุมปากขึ้นยิ้มอย่างช้าๆ มองไปที่ฉู่เสี่ยวเสี่ยวที่ไม่รู้ว่าเพราะเรื่องอะไรถึงได้ดูหงุดหงิดบูดบึ้งขึ้นมา และด้วยเหตุนี้เธอจึงยิ้มออกมา

ในฉากถัดไปนั้น เป็นฉากแรกที่เธอจะได้ประมือกับฉู่เสี่ยวเสี่ยวเป็นครั้งแรก เซี่ยอันหรานได้รอวันนี้มาเป็นเวลานานมากแล้ว ฉู่เสี่ยวเสี่ยวไม่คิดว่าเธอเป็นนางเอกของละครเรื่องนี้อย่างงั้นเหรอ งั้นเซี่ยอันหรานก็ต้องทำให้ฉู่เสี่ยวเสี่ยวเห็น ว่าไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะสามารถรับบทนางเอกได้ และก็ต้องทำให้ฉู่เสี่ยวเสี่ยวได้รู้ว่า ยังไม่ถึงชะตาที่จะได้รับบทนำ ก็อย่าคิดที่จะมาแย่งบทละครไป ไม่อย่างนั้นแล้ว เมื่อถูกคนกดดันในการแสดง ก็จะกลายเป็นยิ่งแย่จนน่าอดสู

ละครฉากนี้เป็นหลังจากตอนที่ตัวละครเฟิ่งรุ่ยฮวาของเซี่ยอันหรานได้กลายเป็นฮองเฮา และได้บังเอิญไปเจอเข้ากับซ่างกวนหลิงที่กำลังดูแลนางในหลินสุ่ยเซียวที่วังหลัง ทั้งสองคนจึงมีเรื่องขัดแย้งต่อกัน

เซี่ยอันหรานกำลังสวมชุดสำหรับถ่ายทำ จากนั้นก็ได้ยินผู้กำกับจินมาเรียกเธอ จึงเรียบสวมใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วมาหยุดยืนอยู่หน้ากล้อง

ฉู่เสี่ยวเสี่ยวเห็นเซี่ยอันหราน ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มและพูดขึ้นว่า "เป็นยังไงบ้าง? ฉันบอกแล้วว่าเธอก็เป็นได้แค่นักแสดงสมทบของฉัน ดูสภาพของเธอในตอนนี้สิ ดูเหมือนกับนางร้ายไม่มีผิด ผู้ชายที่เธอรักในละคร ตอนนี้ก็มารักฉันแล้ว………"

"ก็เป็นเพียงแค่ตัวละครเท่านั้นแหละ ไม่รู้ว่ากลับทำให้เธอรู้สึกชนะฉันด้วย" เซี่ยอันหรานหรี่ตาลงเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มแล้วเอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า "ดูเหมือนว่าคุณหนูฉู่เสี่ยวเสี่ยวในชีวิตความเป็นจริงแล้ว จะแพ้อย่างหมดรูปเสียน่าเวทนาเลยนะคะ ความจริงแล้วฉันก็คิดมาโดยตลอด นิสัยแบบเธอแล้ว ทำไมถึงได้ยอมให้ฉันไปถ่ายรายการวาไรตี้อย่างราบรื่นแบบนั้นกัน สงสัยมากเลยว่าสุดท้ายแล้วเธอไปเจออุปสรรคที่ตรงไหนกัน เพราะแม้แต่รายการวาไรตี้เล็กๆ ของฉันก็ยังขโมยไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นแล้ว ตอนนี้คนที่จะถูกทุกคนจดจำชื่อ ก็จะกลายเป็นเธอ ฉู่เสี่ยวเสี่ยว แต่ว่าเธอในตอนนี้ก็ยังเงียบๆ ไม่ถามอะไร ฉันล่ะปวดใจกับเงินที่เธอเอาไปละลายจ้างนักเขียนมาก่อนหน้านี้จริงๆ เลย………. คงจะพอให้เธอซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมได้หลายใบอยู่นะ ตอนแรกที่ตระกูลเซี่ยนั่น เพียงเพื่อกระเป๋าหนังไม่กี่ใบนั้นเธอก็พยายามใช้คำพูดหว่านล้อมฉันเสียแทบตายเลยเนอะ"

เซี่ยอันหรานรู้ว่าคำพูดที่เธอพูดออกไปนั้นโหดร้ายมาก ถ้าหากว่าเป็นคนอื่น ต่อให้เป็นไป๋อวี่ซินที่เคยทำร้ายเธอให้ตกอยู่ในสระน้ำอันเย็นจัดแบบนั้น เซี่ยอันหรานก็จะไม่ใช้คำพูดที่รุนแรงแบบนี้ออกไป แต่ว่าฉู่เสี่ยวเสี่ยวที่เมื่อภพที่แล้วได้ทำร้ายเธอ และในภพนี้ก็ยังคงแสดงตัวอย่างเลวร้ายทำร้ายเธออีกครั้ง เซี่ยอันหรานไม่อาจที่จะยอมเมตตาให้ได้แม้แต่นิดเดียวเลยจริงๆ

และเซี่ยอันหรานก็ตั้งใจยั่วโมโหฉู่เสี่ยวเสี่ยว ทีนี้ก็จะส่งผลกับการถ่ายละครในฉากนี้ของฉู่เสี่ยวเสี่ยว แม้ว่าการแสดงของฉู่เสี่ยวเสี่ยวจะแย่มากอยู่แล้วก็ตาม แต่ว่าเซี่ยอันหรานก็อยากจะทำให้ฉู่เสี่ยวเสี่ยวแย่ลงไปให้ถึงที่สุดเพื่อที่ตัวเธอจะได้เหยียบลงไป ทำให้ชื่อเสียงการแสดงของฉู่เสี่ยวเสี่ยวมันเน่าเฟะ แล้วดูว่าฉู่เสี่ยวเสี่ยวจะดิ้นรนอย่างไรต่อ

มีนักแสดงหญิงหลายคนที่แม้ว่าทักษะการแสดงจะไม่ดีนัก แต่ก็ยังแย่งบทดีๆ มาได้ แต่ทั้งหมดนั่นก็เป็นละครที่ไม่ได้ดีเท่าไหร่นัก ถ้าอยากจะแสดงในละครที่มีคุณภาพขึ้นมา ทักษะการแสดงก็เป็นสิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยทีเดียว

เมื่อฉู่เสี่ยวเสี่ยวถูกเซี่ยอันหรานเย้าแหย่ ก็ทำดวงตาเบิกโตตามคาด โกรธจนหายใจไม่ทันแล้วเอานิ้วชี้มาที่เซี่ยอันหรานก่อนจะพูดขึ้นว่า "แก……..ฉันจะต้องทำให้แกเสียใจที่ยังมีชีวิตอยู่!"

มองดูฉู่เสี่ยวเสี่ยวในตอนนี้ เซี่ยอันหรานก็ยิ้มออกมาช้าๆ ฉู่เสี่ยวเสี่ยวในตอนนี้มีตรงไหนบ้างที่เหมือนกับตัวละครหลักหลินสุ่ยเซียวที่น่าสงสารและน่ารักกัน ความรู้สึกที่ไร้เดียงสาและมีเมตตา ฉู่เสี่ยวเสี่ยวเหมือนกับนางร้ายอย่างสมบูรณ์แบบเสียมากกว่า ดูเหมาะสมกับบทตัวร้ายเสียยิ่งกว่าเฟิ่งรุ่ยฮวา

แม้ว่าเฟิ่งรุ่ยฮวาในละครจะเป็นนางร้าย แต่ก็เป็นความร้ายกาจที่ใจกว้างตรงไปตรงมา แต่ว่าภายใต้การแสดงของฉู่เสี่ยวเสี่ยวนั้น หลินสุ่ยเซียวกลับกลายเป็นคนปากไม่ตรงกับใจ เสแสร้งทำเป็นอ่อนแอ แต่ในใจกลับชั่วร้ายเป็นนางมารยาร้อยหน้า

เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับนางร้ายที่เปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาแบบนี้แล้ว ก็มักจะเป็นนางมารยาร้อยหน้าที่เชิญชวนให้คนรู้สึกเกลียดเสียมากกว่า

"แกยิ้มอะไร" ฉู่เสี่ยวเสี่ยวเห็นว่าเซี่ยอันหรานยิ้มก็เอ่ยถามกลับไปด้วยเสียงที่เบาลง

เซี่ยอันหรานเอียงหัวมองไปที่ฉู่เสี่ยวเสี่ยว "ฉันก็แค่ยิ้ม แล้วตอนที่เธอถ่ายฉากนี้กับฉัน เธอกล้าที่จะถ่ายเทคเดียวจบโดยที่ไม่ต้องให้ถ่ายใหม่อีกรอบไหม?"

ฉู่เสี่ยวเสี่ยวหลุบตาลงต่ำเพื่อครุ่นคิดอยู่สักครู่ เพราะว่าเธอรู้อยู่ก่อนแล้วว่าตนจะต้องได้ถ่ายละครที่ต้องมีการประมือกับเซี่ยอันหราน จึงเป็นการยากที่จะไม่อ่านบทละครล่วงหน้าก่อน รู้ว่าละครนี้ เป็นเฟิ่งรุ่ยฮวาที่ทำตัวไร้เหตุผลทำให้หลินสุ่ยเซียวตกที่นั่งลำบาก ในละครนี้เฟิ่งรุ่ยฮวานั้นใช้ความร้ายกาจและพลังอำนาจที่มีอยู่ทำให้คนรู้สึกเกลียดชัง ฉู่เสี่ยวเสี่ยวจึงรู้สึกว่าตนจะต้องแสดงให้หลินสุ่ยเซียวดูน่าสงสารสักเล็กน้อยแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว

แค่นี้ก็เพียงพอที่จะให้หลังจากถ่ายทำออกมาเสร็จ ทำให้คนพาไปด่าทอเซี่ยอันหรานที่เป็นเฟิ่งรุ่ยฮวา

ฉู่เสี่ยวเสี่ยวส่งเสียงฮึมฮัมอย่างเย็นๆ ออกมาหนึ่งที "ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนี่ เธอคิดว่ามีแค่เธอคนเดียวที่แสดงเป็นงั้นเหรอ"

"โอเค เตรียมตัว แอ็กชัน!" ผู้กำกับจินที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนักตะโกนออกมาหนึ่งเสียง

เซี่ยอันหรานหรี่ตาลงทันที ร่างของเธอปกคลุมไปด้วยบรรยากาศความรู้สึกอันสูงส่งที่องอาจ มองไปที่ฉู่เสี่ยวเสี่ยวอย่างเย็นชาและเหนือกว่า "เจ้าหรือ คือหลินสุ่ยเซียว"

ฉู่เสี่ยวเสี่ยวที่สวมใส่ชุดที่ห่างชั้นกันกับเฟิ่งรุ่ยฮวาของเซี่ยอันหรานเป็นอย่างมาก เธอจึงมองไปที่เซี่ยอันหรานตาเขม็ง ย่อกายคุกเข่าลงข้างหนึ่งอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจเท่าไหร่นัก พูดด้วยเสียงที่อ่อนระทวย "หลินสุ่ยเซียวผู้ต่ำต้อย คำนับต่อฮองเฮาเพคะ!"

"หึหึ!" เซี่ยอันหรานยิ้มเย็นๆ ออกมาก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า "เจ้าก็รู้ดีนี่ ว่าที่นี่คือวังหลวง และข้าก็เป็นฮองเฮา เจ้าที่เป็นเพียงสามัญชน รู้หรือไม่ว่าที่วังแห่งนี้ ไม่ใช่ที่ที่เจ้าจะพำนักอยู่ได้?"

"อา………." ฉู่เสี่ยวเสี่ยวถอยหลังไปสองก้าว กะพริบตาปริบๆ แม้ว่าจะรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมอยู่ข้างในลึกๆ แต่ก็เก็บซ่อนมันเอาไว้แล้วพูดออกไปว่า "ฮองเฮา ข้าไม่ทราบเจ้าค่ะ ฮ่องเต้เป็นคนทูลให้หม่อมฉันพำนักเพคะ……."

“นี่เจ้าเอาฮ่องเต้มากดดันข้าอย่างงั้นหรือ” เซี่ยอันหรานขมวดคิ้ว และทันทีที่กล่าวจบก็สะบัดมือลงไปบนใบหน้าของฉู่เสี่ยวเสี่ยวหนึ่งที

ฉู่เสี่ยวเสี่ยวชะงักนิ่งค้างไป ฉากนี้เฟิ่งรุ่ยฮวาจะต้องตบหลินสุ่ยเซียวหนึ่งที แต่ฉู่เสี่ยวเสี่ยวไม่คาดคิดเลยว่า เซี่ยอันหรานจะตบเธอเสียแรงขนาดนี้!

ฉู่เสี่ยวเสี่ยวที่พึ่งจะถูกเซี่ยอันหรานยั่วยุอารมณ์มาเมื่อสักครู่ จึงทำให้อารมณ์ของเธอพุ่งสูงขึ้นในทันที เธอเอานิ้วชี้เซี่ยอันหราน กัดฟันแน่นจนกรามขึ้นเป็นสันแล้วเอ่ยว่า “ท่านมันก็เป็นเพียงแค่ฮองเฮา เหตุใดจึงมาตบข้า ฮ่องเต้จักต้องแก้แค้นให้ข้าแน่ ฆ่าล้างชั่วโคตรตระกูลท่านทั้งตระกูลเป็นแน่!”

คำพูดนี้ของฉู่เสี่ยวเสี่ยวเป็นคำพูดในบทละครจริง ผู้กำกับจินที่นั่งฟังอยู่ก็นิ่งค้างไปด้วยความตกใจ ภายในใจของเขาส่งเสียงร้องอย่างตื่นตระหนก “พระเจ้า นี่หลินสุ่ยเซียวถูกเล่นจนกลายเป็นอะไรไปแล้วเนี่ย ทำไมถึงดูแล้วเหมือนว่าหลินสุ่ยเซียวเป็นชู้รักที่หน้าด้านไร้ยางอายกันล่ะเนี่ย”

แต่ว่าเป็นเพราะคอยให้ฉู่เสี่ยวเสี่ยวได้ถ่ายละครอยู่ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เพื่อให้บทของฉู่เสี่ยวเสี่ยวได้ถ่ายให้จบโดยไว ผู้กำกับจินจึงจะส่งเสียงออกมาอย่างยากเย็นว่า “คัท” ด้วยความเคยชิน แต่ในช่วงขณะที่เขากำลังลังเลนั้น ก็ประจวบเหมาะพอดีกับที่เป็นการให้โอกาสเซี่ยอันหรานไป

“ข้าเชื่อมั่น” เซี่ยอันหรานหรี่ตาเล็กลง แววตาส่องประกายเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา พูดด้วยเสียงอันแหบพร่าว่า “ข้าเชื่อมั่นว่าเขาจะทำเช่นนั้นเพื่อเจ้า แต่ว่าเจ้าไม่มีทางที่จะมีชีวิตอยู่จนกระทั่งได้เห็นวันที่เขาแก้แค้นเพื่อเจ้าหรอก!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ 96 นางร้ายตัวจริง

Now you are reading ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ Chapter 96 นางร้ายตัวจริง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ในที่สุดรายการวาไรตี้ของเซี่ยอันหรานและหมิงเยี่ยนเฟยก็มาถึงตอนสุดท้าย บาดแผลที่อยู่บนมือเธอเองก็ดีขึ้นมากแล้ว เธอจึงรีบเข้าร่วมการถ่ายละครในทันที

แต่ว่าสำหรับผลของรายการวาไรตี้ในสัปดาห์นี้จะทำการประกาศลงบนอินเทอร์เน็ต ทุกคนต่างก็สงสัยเป็นอย่างมากว่าดาราหญิงที่จะมาถ่ายรายการวาไรตี้กับหมิงเยี่ยนเฟยเป็นใครกัน ชื่อของเซี่ยอันหรานจึงขึ้นบนหัวข้อการค้นหายอดฮิตบนเว็บไซต์ชื่อดังนานติดต่อกันถึงหนึ่งสัปดาห์

และทีมงานรายการก็ยิ่งเติมเชื้อเพลิงเข้าไปอีกด้วยการลงคลิปวิดีโอสัมภาษณ์ของเซี่ยอันหรานและหมิงเยี่ยนเฟย จึงยิ่งทำให้ชื่อ "อันหราน" ชื่อนี้นั้นเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง

สำหรับกลุ่มคนที่ติดตามเรื่องนี้ แฟนคลับของหมิงเยี่ยนเฟยเป็นกลุ่มคนที่จะมีความรู้สึกสับสนมากที่สุด การที่หมิงเยี่ยนเฟยได้เข้าร่วมรายการนี้นั้น ได้ทำให้พวกเธอเข้าใจชีวิตส่วนตัวของหมิงเยี่ยนเฟยมากขึ้นจึงทำให้ดีใจเป็นธรรมดา แต่ว่าก็กลัวว่าหมิงเยี่ยนเฟยและเซี่ยอันหรานจะพัฒนาความสัมพันธ์จนกลายเป็นความรักขึ้นมา นี่จึงทำให้พวกเธอรู้สึกเป็นกังวล

ในเมื่อเซี่ยอันหรานพึ่งจะเข้าวงการ และไม่ว่าอย่างไรก็รู้สึกว่าไม่ใช่ดาราที่จะมาถ่ายทำร่วมกับหมิงเยี่ยนเฟยได้ ตอนนี้กลับมาถ่ายรายการวาไรตี้กับหมิงเยี่ยนเฟย นี่จะต้องมีปัญหาอะไรแน่ๆ

เพราะฉะนั้นแล้วตามที่ชื่อเสียงของเซี่ยอันหรานมีมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ได้เป็นการเพิ่มจำนวนคนที่เกลียดเธอมากขึ้นด้วยเช่นกัน คนเหล่านี้ไม่เพียงแต่ด่าว่าเซี่ยอันหรานไม่เหมาะสมกับหมิงเยี่ยนเฟย แต่บอกด้วยว่าเธอจงใจทำให้หมิงเยี่ยนเฟยได้รับบาดเจ็บ เลยด่าว่าเธอวางแผนเอาไว้ทั้งหมด คิดที่จะตกผู้ชาย ถึงขนาดที่คิดที่จะขุดหาเบาะแสหรือร่องรอยเรื่องเสียๆ หายๆ ระหว่างเซี่ยอันหรานกับผู้ชาย ซ้ำยังมีคนบอกว่าเซี่ยอันหรานมีคนอยู่เบื้องหลังคอยสนับสนุนเรื่องการเงินให้

"อะไรนะ? หมิงเยี่ยนเฟยได้ฉายาว่า 'คู่สามีภรรยาผ้าพันแผล' น่ารักจังเลย แต่คงจะดีกว่านี้ถ้าไม่ได้เป็นฉายาร่วมกับอันหราน ทำไมหมิงเยี่ยนเฟยไม่ถ่ายรายการกับไป๋อวี่ซินกัน ไป๋อวี่ซินดังกว่ายัยคนที่ชื่ออันหรานนี่ตั้งเยอะ รายการคงน่าสนุกกว่าเยอะเลย…….."

เฉิงเสี่ยวเถียนเลื่อนดูความคิดเห็นที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต โกรธเสียจนทำดวงตาเบิกโต และอดที่อ่านความคิดเห็นเหล่านั้นออกมาดังๆ ไม่ได้ "ได้ยินมาว่าคนที่ชื่ออันหรานเนี่ย เพื่อที่จะได้ดังเลยยอมไปมีความสัมพันธ์กับผู้ชายตั้งหลายคน หมิงเยี่ยนเฟยได้มาถ่ายรายการวาไรตี้กับเธอ คงจะถูกคนที่สนับสนุนเธออยู่เบื้องหลังบังคับมาน่ะสิ………."

"นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน?" เฉิงเสี่ยวเถียนส่งเสียงฮึมฮัมด้วยความโกรธออกมา "พวกชาวเน็ตพวกนี้ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยสักนิด เอาเรื่องอะไรมาพูดจาสั่วๆ แบบนี้ นี่มันจริงๆ เลย!"

"แหะแหะ………." เซี่ยอันหรานหัวเราะแห้งๆ ออกมา แล้วจึงยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า "เสี่ยวเถียน เธอไม่ต้องไปโกรธหรอกนะ"

เฉิงเสี่ยวเถียนขมวดคิ้วแน่น "อันหราน เธอยังยิ้มออกมาได้อย่างไรกัน เจอเรื่องแบบนี้เข้าไป ทำไมถึงไม่โกรธเลย เห็นๆ กันอยู่ว่าพวกเขาไม่รู้อะไรเลย แล้วก็มาพูดจามั่วๆ ฉันก็นึกว่าถ่ายรายการวาไรตี้กับหมิงเยี่ยนเฟยจะเป็นเรื่องดีซะอีก ไม่ได้คิดที่อยากจะให้เป็นแบบนี้เลย ถ้ารู้อย่างงี้แต่แรก……..ถ้ารู้ก่อนนะว่าจะเป็นแบบนี้………."

เซี่ยอันหรานได้ยินความโกรธของเฉิงเสี่ยวเถียนที่ระเบิดออกมา ก็ส่งยิ้มไปให้เฉิงเสี่ยวเถียน "รู้ก่อนแล้วจะเป็นอย่างไรเหรอ"

เฉิงเสี่ยวเถียนพูดอย่างโกรธๆ ว่า "ถ้ารู้แต่แรก ฉันก็จะต้องเอาตัวเข้าไปห้ามเรื่องนี้อย่างสุดชีวิตน่ะสิ ตอนนี้ผลลัพธ์ออกมาไม่ดีเลย"

"มีอะไรไม่ดีล่ะ อย่างน้อยที่สุดทุกคนก็รู้แล้วว่าฉันชื่อว่าอะไร เห็นไหม ดังเสียยิ่งกว่าละครที่ฉันถ่ายในตอนนี้อีก เรื่องพวกการตกเป็นข่าวดังเป็นสิ่งที่ดาราหญิงหลายคนไม่อาจที่จะหลีกเลี่ยงได้เลย………" เซี่ยอันหรานที่สวมชุดสำหรับถ่ายละครอยู่ก็หรี่ตาลงมองฉู่เสี่ยวเสี่ยวที่กำลังถ่ายละคร เธอยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า "เมื่อเปรียบเทียบกับตอนก่อนหน้าที่หมิงเยี่ยนเฟยจะได้รับบาดเจ็บเพราะช่วยฉันเอาไว้แล้ว ตอนนี้ความคิดเห็นบนเน็ตก็ไม่ใช่ว่าดีขึ้นเยอะแล้วเหรอ?"

เมื่อเฉิงเสี่ยวเถียนได้ยินดังว่า ก็พยักหน้าลงเบาๆ "นั่นมันก็ไม่ผิด……..แต่ว่า…….."

"งั้นก็ดีแล้วนี่……..ฉันรู้สึกพอใจมากแล้ว ฉันเป็นแค่ดาราคนหนึ่งเอง ไม่ได้เป็นเงินตราที่จะได้ทำให้ทุกคนมารู้สึกชอบได้ แล้วถ้าหากว่าเป็นเงินทองจริง ก็จะยังมีคนบอกว่าฉันสกปรกแล้วก็เหม็น บอกว่าเป็นแหล่งกำเนิดเชื้อโรค การที่ฉันถูกด่า มันก็เป็นเรื่องปกติ" เซี่ยอันหรานยิ้มพลางพูดออกมา

เฉิงเสี่ยวเถียนได้ยินเซี่ยอันหรานพูดแบบนี้ขึ้นมา ใบหน้าที่โมโหจนยับย่นของเธอในตอนแรกเนื่องจากเซี่ยอันหรานถูกด่า ก็ผ่อนคลายลงมามากเลยทีเดียว "ฮ่ะฮ่ะ" หัวเราะออกมาหนึ่งเสียง "อันหราน เธอนี่มันจริงๆ เลย การที่เธอมีจิตใจที่เข้มแข็งแบบนี้ ช่างเป็นพรสวรรค์ที่เหมาะกับการเป็นดาราเสียจริง ถ้าไม่เป็นดารา ก็คงจะรู้สึกผิดต่อหัวใจอันแข็งแกร่งดวงนี้ของเธอแล้วแหละ"

เซี่ยอันหรานเม้มปากแล้วเงยหน้ามองฉู่เสี่ยวเสี่ยวที่ถ่ายฉากของเธอจบลงแล้ว เซี่ยอันหรานก็ค่อยๆ ยกมุมปากขึ้นยิ้มอย่างช้าๆ มองไปที่ฉู่เสี่ยวเสี่ยวที่ไม่รู้ว่าเพราะเรื่องอะไรถึงได้ดูหงุดหงิดบูดบึ้งขึ้นมา และด้วยเหตุนี้เธอจึงยิ้มออกมา

ในฉากถัดไปนั้น เป็นฉากแรกที่เธอจะได้ประมือกับฉู่เสี่ยวเสี่ยวเป็นครั้งแรก เซี่ยอันหรานได้รอวันนี้มาเป็นเวลานานมากแล้ว ฉู่เสี่ยวเสี่ยวไม่คิดว่าเธอเป็นนางเอกของละครเรื่องนี้อย่างงั้นเหรอ งั้นเซี่ยอันหรานก็ต้องทำให้ฉู่เสี่ยวเสี่ยวเห็น ว่าไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะสามารถรับบทนางเอกได้ และก็ต้องทำให้ฉู่เสี่ยวเสี่ยวได้รู้ว่า ยังไม่ถึงชะตาที่จะได้รับบทนำ ก็อย่าคิดที่จะมาแย่งบทละครไป ไม่อย่างนั้นแล้ว เมื่อถูกคนกดดันในการแสดง ก็จะกลายเป็นยิ่งแย่จนน่าอดสู

ละครฉากนี้เป็นหลังจากตอนที่ตัวละครเฟิ่งรุ่ยฮวาของเซี่ยอันหรานได้กลายเป็นฮองเฮา และได้บังเอิญไปเจอเข้ากับซ่างกวนหลิงที่กำลังดูแลนางในหลินสุ่ยเซียวที่วังหลัง ทั้งสองคนจึงมีเรื่องขัดแย้งต่อกัน

เซี่ยอันหรานกำลังสวมชุดสำหรับถ่ายทำ จากนั้นก็ได้ยินผู้กำกับจินมาเรียกเธอ จึงเรียบสวมใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วมาหยุดยืนอยู่หน้ากล้อง

ฉู่เสี่ยวเสี่ยวเห็นเซี่ยอันหราน ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มและพูดขึ้นว่า "เป็นยังไงบ้าง? ฉันบอกแล้วว่าเธอก็เป็นได้แค่นักแสดงสมทบของฉัน ดูสภาพของเธอในตอนนี้สิ ดูเหมือนกับนางร้ายไม่มีผิด ผู้ชายที่เธอรักในละคร ตอนนี้ก็มารักฉันแล้ว………"

"ก็เป็นเพียงแค่ตัวละครเท่านั้นแหละ ไม่รู้ว่ากลับทำให้เธอรู้สึกชนะฉันด้วย" เซี่ยอันหรานหรี่ตาลงเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มแล้วเอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า "ดูเหมือนว่าคุณหนูฉู่เสี่ยวเสี่ยวในชีวิตความเป็นจริงแล้ว จะแพ้อย่างหมดรูปเสียน่าเวทนาเลยนะคะ ความจริงแล้วฉันก็คิดมาโดยตลอด นิสัยแบบเธอแล้ว ทำไมถึงได้ยอมให้ฉันไปถ่ายรายการวาไรตี้อย่างราบรื่นแบบนั้นกัน สงสัยมากเลยว่าสุดท้ายแล้วเธอไปเจออุปสรรคที่ตรงไหนกัน เพราะแม้แต่รายการวาไรตี้เล็กๆ ของฉันก็ยังขโมยไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นแล้ว ตอนนี้คนที่จะถูกทุกคนจดจำชื่อ ก็จะกลายเป็นเธอ ฉู่เสี่ยวเสี่ยว แต่ว่าเธอในตอนนี้ก็ยังเงียบๆ ไม่ถามอะไร ฉันล่ะปวดใจกับเงินที่เธอเอาไปละลายจ้างนักเขียนมาก่อนหน้านี้จริงๆ เลย………. คงจะพอให้เธอซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมได้หลายใบอยู่นะ ตอนแรกที่ตระกูลเซี่ยนั่น เพียงเพื่อกระเป๋าหนังไม่กี่ใบนั้นเธอก็พยายามใช้คำพูดหว่านล้อมฉันเสียแทบตายเลยเนอะ"

เซี่ยอันหรานรู้ว่าคำพูดที่เธอพูดออกไปนั้นโหดร้ายมาก ถ้าหากว่าเป็นคนอื่น ต่อให้เป็นไป๋อวี่ซินที่เคยทำร้ายเธอให้ตกอยู่ในสระน้ำอันเย็นจัดแบบนั้น เซี่ยอันหรานก็จะไม่ใช้คำพูดที่รุนแรงแบบนี้ออกไป แต่ว่าฉู่เสี่ยวเสี่ยวที่เมื่อภพที่แล้วได้ทำร้ายเธอ และในภพนี้ก็ยังคงแสดงตัวอย่างเลวร้ายทำร้ายเธออีกครั้ง เซี่ยอันหรานไม่อาจที่จะยอมเมตตาให้ได้แม้แต่นิดเดียวเลยจริงๆ

และเซี่ยอันหรานก็ตั้งใจยั่วโมโหฉู่เสี่ยวเสี่ยว ทีนี้ก็จะส่งผลกับการถ่ายละครในฉากนี้ของฉู่เสี่ยวเสี่ยว แม้ว่าการแสดงของฉู่เสี่ยวเสี่ยวจะแย่มากอยู่แล้วก็ตาม แต่ว่าเซี่ยอันหรานก็อยากจะทำให้ฉู่เสี่ยวเสี่ยวแย่ลงไปให้ถึงที่สุดเพื่อที่ตัวเธอจะได้เหยียบลงไป ทำให้ชื่อเสียงการแสดงของฉู่เสี่ยวเสี่ยวมันเน่าเฟะ แล้วดูว่าฉู่เสี่ยวเสี่ยวจะดิ้นรนอย่างไรต่อ

มีนักแสดงหญิงหลายคนที่แม้ว่าทักษะการแสดงจะไม่ดีนัก แต่ก็ยังแย่งบทดีๆ มาได้ แต่ทั้งหมดนั่นก็เป็นละครที่ไม่ได้ดีเท่าไหร่นัก ถ้าอยากจะแสดงในละครที่มีคุณภาพขึ้นมา ทักษะการแสดงก็เป็นสิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยทีเดียว

เมื่อฉู่เสี่ยวเสี่ยวถูกเซี่ยอันหรานเย้าแหย่ ก็ทำดวงตาเบิกโตตามคาด โกรธจนหายใจไม่ทันแล้วเอานิ้วชี้มาที่เซี่ยอันหรานก่อนจะพูดขึ้นว่า "แก……..ฉันจะต้องทำให้แกเสียใจที่ยังมีชีวิตอยู่!"

มองดูฉู่เสี่ยวเสี่ยวในตอนนี้ เซี่ยอันหรานก็ยิ้มออกมาช้าๆ ฉู่เสี่ยวเสี่ยวในตอนนี้มีตรงไหนบ้างที่เหมือนกับตัวละครหลักหลินสุ่ยเซียวที่น่าสงสารและน่ารักกัน ความรู้สึกที่ไร้เดียงสาและมีเมตตา ฉู่เสี่ยวเสี่ยวเหมือนกับนางร้ายอย่างสมบูรณ์แบบเสียมากกว่า ดูเหมาะสมกับบทตัวร้ายเสียยิ่งกว่าเฟิ่งรุ่ยฮวา

แม้ว่าเฟิ่งรุ่ยฮวาในละครจะเป็นนางร้าย แต่ก็เป็นความร้ายกาจที่ใจกว้างตรงไปตรงมา แต่ว่าภายใต้การแสดงของฉู่เสี่ยวเสี่ยวนั้น หลินสุ่ยเซียวกลับกลายเป็นคนปากไม่ตรงกับใจ เสแสร้งทำเป็นอ่อนแอ แต่ในใจกลับชั่วร้ายเป็นนางมารยาร้อยหน้า

เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับนางร้ายที่เปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาแบบนี้แล้ว ก็มักจะเป็นนางมารยาร้อยหน้าที่เชิญชวนให้คนรู้สึกเกลียดเสียมากกว่า

"แกยิ้มอะไร" ฉู่เสี่ยวเสี่ยวเห็นว่าเซี่ยอันหรานยิ้มก็เอ่ยถามกลับไปด้วยเสียงที่เบาลง

เซี่ยอันหรานเอียงหัวมองไปที่ฉู่เสี่ยวเสี่ยว "ฉันก็แค่ยิ้ม แล้วตอนที่เธอถ่ายฉากนี้กับฉัน เธอกล้าที่จะถ่ายเทคเดียวจบโดยที่ไม่ต้องให้ถ่ายใหม่อีกรอบไหม?"

ฉู่เสี่ยวเสี่ยวหลุบตาลงต่ำเพื่อครุ่นคิดอยู่สักครู่ เพราะว่าเธอรู้อยู่ก่อนแล้วว่าตนจะต้องได้ถ่ายละครที่ต้องมีการประมือกับเซี่ยอันหราน จึงเป็นการยากที่จะไม่อ่านบทละครล่วงหน้าก่อน รู้ว่าละครนี้ เป็นเฟิ่งรุ่ยฮวาที่ทำตัวไร้เหตุผลทำให้หลินสุ่ยเซียวตกที่นั่งลำบาก ในละครนี้เฟิ่งรุ่ยฮวานั้นใช้ความร้ายกาจและพลังอำนาจที่มีอยู่ทำให้คนรู้สึกเกลียดชัง ฉู่เสี่ยวเสี่ยวจึงรู้สึกว่าตนจะต้องแสดงให้หลินสุ่ยเซียวดูน่าสงสารสักเล็กน้อยแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว

แค่นี้ก็เพียงพอที่จะให้หลังจากถ่ายทำออกมาเสร็จ ทำให้คนพาไปด่าทอเซี่ยอันหรานที่เป็นเฟิ่งรุ่ยฮวา

ฉู่เสี่ยวเสี่ยวส่งเสียงฮึมฮัมอย่างเย็นๆ ออกมาหนึ่งที "ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนี่ เธอคิดว่ามีแค่เธอคนเดียวที่แสดงเป็นงั้นเหรอ"

"โอเค เตรียมตัว แอ็กชัน!" ผู้กำกับจินที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนักตะโกนออกมาหนึ่งเสียง

เซี่ยอันหรานหรี่ตาลงทันที ร่างของเธอปกคลุมไปด้วยบรรยากาศความรู้สึกอันสูงส่งที่องอาจ มองไปที่ฉู่เสี่ยวเสี่ยวอย่างเย็นชาและเหนือกว่า "เจ้าหรือ คือหลินสุ่ยเซียว"

ฉู่เสี่ยวเสี่ยวที่สวมใส่ชุดที่ห่างชั้นกันกับเฟิ่งรุ่ยฮวาของเซี่ยอันหรานเป็นอย่างมาก เธอจึงมองไปที่เซี่ยอันหรานตาเขม็ง ย่อกายคุกเข่าลงข้างหนึ่งอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจเท่าไหร่นัก พูดด้วยเสียงที่อ่อนระทวย "หลินสุ่ยเซียวผู้ต่ำต้อย คำนับต่อฮองเฮาเพคะ!"

"หึหึ!" เซี่ยอันหรานยิ้มเย็นๆ ออกมาก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า "เจ้าก็รู้ดีนี่ ว่าที่นี่คือวังหลวง และข้าก็เป็นฮองเฮา เจ้าที่เป็นเพียงสามัญชน รู้หรือไม่ว่าที่วังแห่งนี้ ไม่ใช่ที่ที่เจ้าจะพำนักอยู่ได้?"

"อา………." ฉู่เสี่ยวเสี่ยวถอยหลังไปสองก้าว กะพริบตาปริบๆ แม้ว่าจะรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมอยู่ข้างในลึกๆ แต่ก็เก็บซ่อนมันเอาไว้แล้วพูดออกไปว่า "ฮองเฮา ข้าไม่ทราบเจ้าค่ะ ฮ่องเต้เป็นคนทูลให้หม่อมฉันพำนักเพคะ……."

“นี่เจ้าเอาฮ่องเต้มากดดันข้าอย่างงั้นหรือ” เซี่ยอันหรานขมวดคิ้ว และทันทีที่กล่าวจบก็สะบัดมือลงไปบนใบหน้าของฉู่เสี่ยวเสี่ยวหนึ่งที

ฉู่เสี่ยวเสี่ยวชะงักนิ่งค้างไป ฉากนี้เฟิ่งรุ่ยฮวาจะต้องตบหลินสุ่ยเซียวหนึ่งที แต่ฉู่เสี่ยวเสี่ยวไม่คาดคิดเลยว่า เซี่ยอันหรานจะตบเธอเสียแรงขนาดนี้!

ฉู่เสี่ยวเสี่ยวที่พึ่งจะถูกเซี่ยอันหรานยั่วยุอารมณ์มาเมื่อสักครู่ จึงทำให้อารมณ์ของเธอพุ่งสูงขึ้นในทันที เธอเอานิ้วชี้เซี่ยอันหราน กัดฟันแน่นจนกรามขึ้นเป็นสันแล้วเอ่ยว่า “ท่านมันก็เป็นเพียงแค่ฮองเฮา เหตุใดจึงมาตบข้า ฮ่องเต้จักต้องแก้แค้นให้ข้าแน่ ฆ่าล้างชั่วโคตรตระกูลท่านทั้งตระกูลเป็นแน่!”

คำพูดนี้ของฉู่เสี่ยวเสี่ยวเป็นคำพูดในบทละครจริง ผู้กำกับจินที่นั่งฟังอยู่ก็นิ่งค้างไปด้วยความตกใจ ภายในใจของเขาส่งเสียงร้องอย่างตื่นตระหนก “พระเจ้า นี่หลินสุ่ยเซียวถูกเล่นจนกลายเป็นอะไรไปแล้วเนี่ย ทำไมถึงดูแล้วเหมือนว่าหลินสุ่ยเซียวเป็นชู้รักที่หน้าด้านไร้ยางอายกันล่ะเนี่ย”

แต่ว่าเป็นเพราะคอยให้ฉู่เสี่ยวเสี่ยวได้ถ่ายละครอยู่ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เพื่อให้บทของฉู่เสี่ยวเสี่ยวได้ถ่ายให้จบโดยไว ผู้กำกับจินจึงจะส่งเสียงออกมาอย่างยากเย็นว่า “คัท” ด้วยความเคยชิน แต่ในช่วงขณะที่เขากำลังลังเลนั้น ก็ประจวบเหมาะพอดีกับที่เป็นการให้โอกาสเซี่ยอันหรานไป

“ข้าเชื่อมั่น” เซี่ยอันหรานหรี่ตาเล็กลง แววตาส่องประกายเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา พูดด้วยเสียงอันแหบพร่าว่า “ข้าเชื่อมั่นว่าเขาจะทำเช่นนั้นเพื่อเจ้า แต่ว่าเจ้าไม่มีทางที่จะมีชีวิตอยู่จนกระทั่งได้เห็นวันที่เขาแก้แค้นเพื่อเจ้าหรอก!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+