ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ 12 เปล่งประกายอย่างมาก

Now you are reading ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ Chapter 12 เปล่งประกายอย่างมาก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ความตาย?

หัวข้อนี้แตกต่างจากบททดสอบในชาติที่แล้วนิ? แต่ชาติที่แล้วเซี่ยอันหรานกำลังดื่มด่ำอยู่กับความสุข บางทีอาจจะแสดงไม่ดีเท่ากับสถานะในตอนนี้ก็ได้ แต่ในชาตินี้เซี่ยอันหรานผู้เคยประสบกับชีวิตหลังความตายมาแล้วและรู้ดีว่ามันเป็นอย่างไร

เมื่อผู้สมัครคนอื่นๆเริ่มร้องไห้เสียงดังเพื่อแสดงถึงความเศร้าโศกของความตาย เซี่ยอันหรานค่อยๆลดศีรษะของเธอลงแล้วค่อยๆเดินไปที่มุมกำแพงอย่างช้าๆและค่อยๆขดตัวเป็นวงกลม ร่างกายของเธอสั่นเล็กน้อย เซี่ยอันหรานไม่ได้หลั่งน้ำตาแม้แต่หยดเดียว เพียงแต่จ้องมองไปที่ด้านหน้าด้วยดวงตาที่ว่างเปล่า ราวกับว่าจิตวิญญาณของเธอถูกถอดออกไป

เธอไม่ได้ร้องไห้แต่ความเศร้าโศกของเธอกลับแทรกซึมไปทั่วห้องสัมภาษณ์ ห้องสัมภาษณ์เงียบลงและทุกคนก็มองไปที่เซี่ยอันหราน เมื่อมองไปที่ร่างกายที่สั่นเทาของเธอ ทันใดนั้นเซี่ยอันหรานก็หยุดสั่นและกอดเข่าแน่นราวกับว่าเธอกำลังหมดลมหายใจและค่อยๆเดินไปจากคนที่เธอรัก คนรักในชีวิตของเธอหายไปแล้ว

เหอเฉวียนลุกขึ้นอย่างช้าๆและมองไปที่เซี่ยอันหรานที่อยู่ตรงมุมกำแพงนั้น เขาไม่รู้ว่าเด็กสาวที่สวยงามเช่นนี้จะมีความเข้าใจเกี่ยวกับความตายได้อย่างลึกซึ้งขนาดนี้ เรื่องน่าเศร้าที่สุดไม่มีสิ่งใดเกินจิตใจที่ตายไปและความเจ็บปวดที่เงียบงัน นี้เป็นความรู้สึกของคนที่เคยสัมผัสชีวิตหลังความตายอย่างแท้จริงถึงจะสามารถแสดงมันได้

ทันใดนั้นเซี่ยอันหรานก็ร้องคร่ำครวญออกมาด้วยความเศร้า เสียงคร่ำครวญนั้นดูเหมือนจะไม่ใช่เสียงของเธอ แต่เป็นความเศร้าโศกที่ไหลผ่านร่างของเซี่ยอันหรานและคร่ำคววญออกมาเอง แต่แล้วเซี่ยอันหรานก็อดกลั้นกับเสียงร้องอันน่าเศร้านั้นไว้และเปลี่ยนทุกอย่างกลายเป็นเสียงสะอื้น จากนั้นเซี่ยอันหรานก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับดวงตาสีเทาของเธอที่เปล่งประกายขึ้นมาสดใสอีกครั้งและนั้นคือแสงแห่งการแก้แค้น

แม้ว่าเซี่ยอันหรานจะยืนอยู่ในมุมมืดสลัวๆ แต่ก็ไม่มีใครสามารถเพิกเฉยต่อการจ้องมองของเธอได้ ผู้มาสัมภาษณ์ที่ขี้ขลาดคนหนึ่งตกใจจนก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวและค่อยๆชี้แจ้งถึงความจริงอย่างเงียบๆ : "ไม่ใช่ฉัน … คนในครอบครัวของคุณ ไม่ใช่ฉันที่เป็นคนฆ่าพวกเขา"

หลังจากพูดจบ ผู้สอบสัมภาษณ์ก็ได้สติและมองไปที่เซี่ยอันหรานด้วยความเหลือเชื่อทันที

เซี่ยอันหรานไม่ได้พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว แต่กลับแสดงออกถึงความเศร้าโศกหลังจากครอบครัวถูกฆ่าตาย จนถึงกระบวนการที่กลับมาแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้งและตัดสินใจที่จะกลับมาแก้แค้น

เหอเฉวียนมองไปที่เซี่ยอันหรานแล้วค่อยๆปรบมืออย่างช้าๆ

รูปลักษณ์ของเซี่ยอันหรานนั้นสวยงามเกินไป ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีสำหรับนักแสดงหญิงเท่าไหร่เพราะลักษณะสายตาที่ดูสดใสมากเกินไปจะทำให้ทักษะการแสดงของนักแสดงลดลง อย่างไรก็ตามลักษณะภายนอกไม่ได้ส่งผลกระทบต่อทักษะการแสดงของเธอ ในทางกลับกันทักษะการแสดงของเธอยังดีเกินไปด้วยซ้ำ ซึ่งทำให้ผู้คนมองข้ามรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของเธอและทำให้เซี่ยอันหรานเบิกบานด้วยความงดงามที่แตกต่างออกไป

หลังจบการสัมภาษณ์ ผู้คนในกลุ่มที่สัมภาษณ์พร้อมกับเซี่ยอันหรานต่างก็รู้สึกหมดอาลัยตายอยากเล็กน้อย เดิมทีพวกเขาต่างคิดว่าเซี่ยอันหรานเป็นเพียงแจกันที่ดูสวยงามเท่านั้นและไม่มีทักษะในการแสดงมากนัก พวกเขาไม่คิดว่าทักษะการแสดงของเธอจะดีมากจนทำให้พวกเขากลายเป็นคนที่ทำให้เธอเด่นมากยิ่งขึ้น

เพราะการแสดงของเซี่ยอันหรานดีมากจริงๆ คนเหล่านี้จึงยอมรับแต่โดยดี

แต่เซี่ยอันหรานยังคงรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเพราะเสียงในตอนที่เธอคร่ำครวญ เป็นเพราะเธอไม่ได้รับการฝึกด้านเสียงมามากพอ มันทำให้เสียงของเธอดูเบาบางเล็กน้อยและไม่ได้เข้าถึงอารมณ์ที่เธอต้องการจะแสดงออกมา

เซี่ยอันหรานยืนขมวดคิ้วที่ประตูอยู่สักพัก เหอเฉวียนที่กำลังเดินออกมาจากประตูก็เห็นเข้า เหอเฉวียนรู้สึกประทับใจเซี่ยอันหรานอย่างมาก เมื่อเห็นเธอกำลังขมวดคิ้วและยืนอยู่ที่ประตูอย่างล่องลอย เขาก็อดไม่ได้ที่จะถาม: "คุณคืออันหรานหมายเลข 213?"

ในชาตินี้เซี่ยอันหรานยังคงใช้แค่ชื่อ"อันหราน" ในวงการบันเทิงโดยไม่ได้เอ่ยนามสกุลของเธอ

เมื่อเซี่ยอันหรานเห็นเหอเฉวียนเข้า เธอก็โค้งตัวลงทันที: "ผู้กำกับเหอสวัสดีค่ะ ฉันคือหมายเลข213 อันหรานค่ะ"

เหอเฉวียนมองไปที่ท่าทางที่แสดงความเคารพของเซี่ยอันหรานแล้วยิ้มพร้อมกับโบกมือ: "คุณไม่จำเป็นต้องนอบน้อมขนาดนั้นก็ได้ ในการสัมภาษณ์คุณทำได้ดีมากแล้วทำไมคุณถึงทำหน้าบึ้งแบบนี้ล่ะ?"

เซี่ยอันหรานลังเลอยู่พักหนึ่ง เธอไม่รู้ว่าควรพูดหรือไม่ เพราะเหอเฉวียนก็เป็นหนึ่งในกรรมการตัดสิน หากเธอเป็นฝ่ายเปิดเผยข้อบกพร่องของตัวเองต่อเหอเฉวียน แล้วถ้าการสัมภาษณ์เกิดการล้มเหลวเพราะเหตุผลนี้ขึ้นมาล่ะ?

แต่การที่จะได้ใครสักคนเป็นที่ปรึกษาให้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เซี่ยอันหรานเองก็ไม่สามารถเก็บข้อสงสัยนี้ไว้ในใจ

เซี่ยอันหรานเม้มริมฝีปากของเธอและตัดสินใจว่ายังไงก็ต้องพูดออกไป: "เพราะเมื่อกี้ฉันรู้สึกว่าเสียงของฉันบางเกินไป ฉันเลยไม่สามารถตีความในเรื่องความรู้สึกของตัวเองออกมาได้ดี ไม่รู้ว่าควรจะปรับปรุงอย่างไร"

เหอเฉวียนมองไปที่เซี่ยอันหรานด้วยความรู้สึกทึ่ง ก่อนหน้านี้เขาเคยตกตะลึงกับทักษะการแสดงของเซี่ยอันหรานมาแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เหอเฉวียนรู้สึกตกตะลึงกับจิตวิญญาณของความต้องการในการปรับปรุงสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดีขึ้นไปอีกของเธอ นักแสดงหญิงในตอนนี้จะมีสักกี่คนที่มีสมาธิกับการครุ่นคิดในเรื่องการแสดงเช่นนี้?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด