ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ 56 เรื่องราวในชีวิตของโม่เซ่าเหยียนที่ได้ประสบ

Now you are reading ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ Chapter 56 เรื่องราวในชีวิตของโม่เซ่าเหยียนที่ได้ประสบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เซี่ยอันหรานเบิกตากว้างและมองไปที่โม่เซ่าเหยียน เห็นได้ว่าหูของโม่เซ่าเหยียนเริ่มแดงขึ้น เขามีเพียงการแสดงออกที่เย็นชาบนใบหน้าของเขา หันศีรษะไปเล็กน้อย มือข้างหนึ่งกำจนกลายเป็นหมัดอยู่ที่ริมฝีปากของเขา กระแอมสองที แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า : "ฉันลงไปข้างล่างก่อนนะ"

"อืม……” เซี่ยอันหรานยังไม่ได้สติกลับมาจากโม่เซ่าเหยียนสามารถทำอาหารได้ สักพัก จึงมีเสียงตอบกลับ

โม่เซ่าเหยียนกวักๆมือ เซี่ยอันหรานเข้าใจท่าทางของโม่เซ่าเหยียนว่าให้เธอเข้าไป แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องให้เธอเข้าไป เซี่ยอันหรานขมวดคิ้วอย่างสงสัย ค่อยๆเข้าไปใกล้ๆ

เซี่ยอันหรานเข้าไปใกล้ๆโม่เซ่าเหยียน ก็ถูกโม่เซ่าเหยียนบีบคางไว้ เขาจูบเบาๆลงบนหน้าผากของเธอ เพียงแค่แตะๆแล้วก็จากไป โม่เซ่าเหยียนจูบเซี่ยอันหรานแล้ว ก็ก้มหน้าลงอย่างรวดเร็ว นำแขนเสื้อม้วนขึ้นสองสามที จึงลุกขึ้น

เมื่อโม่เซ่าเหยียนลุกขึ้นยืน เหลือบไปที่หน้าคอมพิวเตอร์ที่เซี่ยอันหรานเปิดขึ้น เห็นว่าเว็บเพจดังกล่าวกำลังแสดงหน้าข่าวที่เกี่ยวข้องของเซี่ยเหมยกรุ๊ป โม่เซ่าเหยียนขมวดคิ้ว เม้มๆปาก หันกลับไปมองเซี่ยอันหราน ทว่าไม่ได้ถามอะไรมาก แค่หันกลับลงไปข้างล่าง

เซี่ยอันหรานแปลกใจกับเรื่องที่โม่เซ่าเหยียนทำกับข้าวได้จริงๆ อยากเห็นท่าทางการทำกับข้าวของโม่เซ่าเหยียน เซี่ยอันหรานเลยตามโม่เซ่าเหยียนลงไปชั้นล่าง มาถึงชั้นหนึ่ง เมื่อเห็นโม่เซ่าเหยียนเดินเข้าไปในครัวอย่างใจเย็นมาก เซี่ยอันหรานนั่งบนโซฟา เห็นลูกกวาดบนโต๊ะน้ำชา โม่เซ่าเหยียนน่าจะซื้อกลับมา ชั่วขณะเซี่ยอันหรานก็อยากกิน หยิบอมยิ้มจากบนโต๊ะน้ำชา ใส่เข้าไปในปาก เลิกคิ้วมองไปที่โม่เซ่าเหยียน

โม่เซ่าเหยียนหยิบผักออกมาจากตู้เย็นอย่างคล่องแคล่ว จากนั้นก็เติมน้ำลงในหม้อและวางไว้บนเตาแก๊ส แล้วเปิดแก๊ส ขั้นตอนเหล่านี้ไม่มีผิดพลาด ทำให้เซี่ยอันหรานประหลาดใจมาก คาดไม่ถึงว่าจะสามารถต้มน้ำได้

แต่เมื่อเซี่ยอันหรานเห็นโม่เซ่าเหยียนหยิบเทอร์โมมิเตอร์ออกมา เมื่อเตรียมวัดอุณหภูมิของน้ำ ท้ายที่สุดเซี่ยอันหรานก็อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ จากนั้น เซี่ยอันหรานเห็นโม่เซ่าเหยียนใส่มันฝรั่งลงในน้ำเดือดโดยตรง ในที่สุดเซี่ยอันหรานก็กระโดดขึ้นมาจากโซฟา : "คุณทำอะไรอยู่?"

โม่เซ่าเหยียนขมวดคิ้ว : "ฉันกำลังต้มมันฝรั่ง"

เซี่ยอันหรานตาโตอย่างไม่อยากจะเชื่อ : "แม้ว่าคุณจะต้มมันฝรั่งโดยไม่ปอกเปลือก แต่อย่างน้อยคุณก็น่าจะล้างมันหน่อยนะ! ไม่มีใครไม่ล้างมันฝรั่ง ก็โยนลงไปต้มในหม้อโดยตรง คุณดูโคลนในหม้อนั่นสิ! จะกินยังไงเนี่ย?"

เพราะไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า น้ำเสียงเซี่ยอันหรานเลยสูงขึ้นเล็กน้อย

โม่เซ่าเหยียนขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจความหมายของคำพูดของเซี่ยอันหราน : "ต้องล้างด้วยหรอ?"

เซี่ยอันหรานสูดหายใจเข้าลึกๆ : "แน่นอนว่าต้องล้าง!"

โม่เซ่าเหยียนกระพริบตาช้าๆ : "ข้อมูลของฉันไม่ได้ระบุชัดเจน ดูเหมือนว่าหลิวเฟยจะไม่ได้ทำข้อมูลมาให้อย่างละเอียด"

"นี่ไม่ได้คำถามโดยละเอียด นี่เป็นความรู้ทั่วไป!" เซี่ยอันหรานอยากจะบ้าจริงๆ โม่เซ่าเหยียนไม่มีความรู้พื้นฐานถึงขนาดนี้ได้อย่างไร? ใช้เทอร์โมมิเตอร์เพื่อดูว่าน้ำเดือดหรือเปล่า ทำอาหารก็ไม่รู้ว่าต้องล้างผัก คืนนี้ เธอยังจะกินข้าวได้ไหม?

ความปรารถนาของชีวิตออกมา เซี่ยอันหรานลูบๆท้องที่แห้งแฟบของตนเอง แย่งมันฝรั่งจากในมือโม่เซ่าเหยียนอย่างกล้าหาญ : "มาฉันทำอาหารเอง"

แม้ว่าเซี่ยอันหรานในชาตินี้ยังคงเป็นคุณหนูของตระกูลเซี่ย แต่ว่าชาติที่แล้วหลังจากเธอแต่งงานกับถังรั่วชิว ก็เป็นแม่บ้านอยู่หลายปี แม่ของถังรั่วชิวเป็นคนจู้จี้จุกจิกมาก บังคับให้เธอฝึกฝนทักษะการทำอาหารที่ดี

เซี่ยอันหรานหันไปเปิดตู้เย็น มองดูวัตถุดิบในตู้เย็น : "ฉันดูก่อน ว่าจะทำอาหารอะไรดี"

เซี่ยอันหรานมองผักในตู้เย็น เอียงศีรษะไปพลางคิดไปพลาง : "ฉันทำซุปปลาจี้ได้ คะน้าผัดน้ำมันหอย เห็ดหูหนูผัดไข่ กุ้งอบน้ำมัน อาหารเหล่านี้น่าจะเพียงพอสำหรับเรา ว่าไหม? คุณแพ้อาหารอะไรหรือเปล่า?"

โม่เซ่าเหยียนขมวดคิ้ว มองไปที่เซี่ยอันหรานด้วยความสงสัย ดูเหมือนจะฟังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อเซี่ยอันหรานสงสัยว่าโม่เซ่าเหยียนอาจไม่เข้าใจชื่ออาหารเหล่านี้ จู่ๆโม่เซ่าเหยียนก็พยักๆหน้า

เซี่ยอันหรานก็หัวเราะขึ้นมา : "งั้นก็ดี ฉันจะจัดเตรียมอาหารมื้อค่ำอันโอชะให้คุณ"

พูดจบ เซี่ยอันหรานก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้เธอประหลาดใจมากเกินไป ก็เลยพูดเสียงดังไปหน่อย ก็ไม่รู้ว่าทำให้โม่เซ่าเหยียนโกรธหรือเปล่า เพียงแค่เอนเข้าไปใกล้ๆอย่างระวังๆ ถามด้วยเสียงเบาๆว่า : "ขอโทษนะ เมื่อกี้ฉันพูดดังไปหน่อย เพื่อเป็นการแสดงความรู้สึกผิด……”

"ให้ฉันกินอันนี้เถอะ" โม่เซ่าเหยียนชี้ไปที่อมยิ้มในปากของเซี่ยอันหราน

เซี่ยนอันหรานขมวดคิ้ว : "แต่ฉันกินไปครึ่งหนึ่งแล้ว สกปรกแล้ว……”

เซี่ยอันหรานพูดจบ เห็นโม่เซ่าเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอก็กลัวว่าโม่เซ่าเหยียนจะโกรธ รีบนำอมยิ้มในปากส่งไปที่ปากของโม่เซ่าเหยียน ก็เห็นโม่เซ่าเหยียนคลายคิ้วออก เอาอมยิ้มเข้าปาก เซี่ยอันหรานก็โล่งอก

โม่เซ่าเหยียนอมอมยิ้มไว้ในปาก หรี่ตาลงเล็กน้อย: "หวาน?"

เซี่ยอันหรานยิ้มขึ้นมา: "ก็อมยิ้มจะไม่หวานได้ยังไงล่ะ? อมยิ้มบนโต๊ะน้ำชาคุณซื้อมาไม่ใช่หรอ?"

"ผู้ช่วยฉันเป็นคนซื้อ ฉันเพียงแค่สั่งเขา ให้เขาเตรียมขนมที่เด็กผู้หญิงชอบ" โม่เซ่าเหยียนดูดอมยิ้ม แล้วคลายคิ้วออก: "ไม่นึกเลยว่าจะหวานขนาดนี้"

โม่เซ่าเหยียนคาบอมยิ้ม ใบหน้าแข็งทื่อ เพราะอมยิ้มที่อยู่ในปาก จึงดูอ่อนโยนขึ้นมา ดูแล้วไม่เหมือนการใช้อำนาจคุกคามอีก ร่างของเขาที่ดูขาวสะอาดเรียบร้อยอย่างที่สุด แต่กำลังคาบอมยิ้มอยู่ในปากอันหนึ่ง ทั้งดูขัดตาทั้งน่ารัก

ทำให้เซี่ยอันหรานอดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นมา ถามด้วยเสียงเบาๆว่า: "หรือว่าคุณไม่รู้ว่าอมยิ้มมันหวาน? ไม่เคยกินมาก่อนเลยหรอ?"

โม่เซ่าเหยียนพยักหน้าอย่างจริงจัง: "แต่ไหนแต่ไรฉันไม่เคยอยากต้องการของแบบนี้เลย คนรับใช้ที่บ้านและพนักงานบริษัทของฉันไม่กล้าให้อะไรนอกจากที่ฉันเรียกร้อง ดังนั้น จึงไม่เคยกินมาก่อน แน่นอน ฉันรู้ว่าบนโลกนี้มีของแบบนี้อยู่ แต่ไม่รู้ว่ามันจะหวานขนาดนี้"

"ของแบบนี้ แน่นอนว่าไม่ใช่คนรับใช้ในบ้านและพนักงานบริษัทให้คุณ ตอนเด็กๆที่คุณงอแง พ่อแม่ของคุณก็หยอกล้อเล่นกับคุณ" เซี่ยอันหรานมองท่าทางโม่เซ่าเหยียนที่คาบอมยิ้ม ยิ่งมองก็ยิ่งน่ารัก มันเหมือนกับการได้เห็นสิงโตตัวผู้ที่มีทรงพลัง แต่ทันใดนั้นก็กลายเป็นแมวตัวใหญ่ที่ขดงออยู่ในอ้อมแขนของผู้คน

"พ่อกับแม่ของฉันตายไปตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ตอนฉันห้าขวบ พ่อฉันฆ่าแม่ตายขณะที่กำลังคบชู้อยู่กับคนรัก หลังจากนั้นเขาก็กระโดดตึกฆ่าตัวตายต่อหน้าฉัน แต่เรื่องก่อนหน้าที่ฉันจะอายุห้าขวบ ไม่มีความทรงจำใดๆ ดังนั้นจึงจำเรื่องนี้ไม่ได้" โม่เซ่าเหยียนผ่อนคลายคิ้ว พูดเรื่องราวในชีวิตที่ประสบมาของเขาอย่างเย็นชา ใช้น้ำเสียงที่เรียบเฉย ราวกับว่ากำลังพูดถึงเรื่องของคนอื่น

เซี่ยอันหรานขมวดคิ้วแน่น มือสั่นเล็กน้อย ผักที่อยู่ในมือของเธอตกลงบนพื้นโดยตรง เธอถูกคำพูดของโม่เซ่าเหยียน ทำให้ตกใจจนนิ่งอึ้งอยู่กับที่ เธอคาดไม่ถึงว่าโม่เซ่าเหยียนจะประสบกับชีวิตแบบนี้ อย่างนั้นนิสัยที่เยือกเย็นของโม่เซ่าเหยียนในตอนนี้ มันก็สมเหตุสมผลแล้ว กระทั่งเซี่ยอันหรานคิดว่าโม่เซ่าเหยียนแสดงออกได้ดีมากแล้ว ถ้าเป็นเธอพบเจอเรื่องเหล่านี้ ไม่รู้ว่าจะต้องมีเงามืดในจิตใจเหลืออยู่มากขนาดไหน

โม่เซ่าเหยียนรู้สึกคาดไม่ถึงกับการตอบสนองที่มากขนาดนี้ของเซี่ยอันหราน เขาโน้มตัวลงเล็กน้อย นำอาหารที่เซี่ยอันหรานทำตกพื้น หยิบขึ้นมา ถามด้วยเสียงเบาๆว่า: "ฉันสามารถล้างผักได้ไหม? ฉันต้องการเรียนรู้"

เพราะโม่เซ่าเหยียนนั่งยองๆลงเก็บผักที่พื้น ยากที่เซี่ยนอันหรานจะได้มองลงไปยังโม่เซี่ยเหยียน เธอมองโม่เซ่าเหยียนที่เดิมทีเธอหวาดกลัวที่คาบอมยิ้มที่เขาไม่เคยกินมาก่อนกำลังเก็บใบผัก จู่ๆในใจของเซี่ยอันหรานก็เป็นทุกข์อย่างมาก คนคนนี้ที่เธอหวาดกลัวมาโดยตลอดคาดไม่ถึงว่าจะผ่านเรื่องราวที่โหดร้ายขนาดนี้มา กระทั่งเธอรู้สึกเสียใจกับที่ผ่านมาเคยหวาดกลัวโม่เซ่าเหยียน

ชาติที่แล้วตอนที่เซี่ยอันหรานตั้งครรภ์ เพื่อให้เลี้ยงดูลูกของเธอได้ดียิ่งขึ้น เธอได้เรียนรู้จิตวิทยาเด็กมาบ้าง ตอนที่โม่เซ่าเหยียนเผชิญกับเรื่องราวของพ่อแม่ การแสดงออกสงบนิ่งอย่างมาก กลับกลายเป็นผิดปกติ อีกทั้งยังสูญเสียความทรงจำ อาจจะเป็นอาการที่เป็นบาดแผลหลังจากการได้รับความกดดันทางจิตใจ แม้กระทั่งนิสัยที่เย็นชาของเขาอาจจะเป็นเงามืดที่สะท้อนในวัยเด็ก

ประสบการณ์ในวัยเด็กของโม่เซ่าเหยียนกระทบกระเทือนจิตใจเซี่ยอันหรานอย่างมาก ช่วงเวลาหนึ่งเซี่ยอันหรานก็ไม่รู้ว่าควรจะเผชิญหน้ากับโม่เซ่าเหยียนที่เป็นแบบนี้ยังไง หลังจากที่เซี่ยอันหรานเห็นโม่เซ่าเหยียนเก็นผักขึ้นมาแล้ว ก็หันตัวออกทันที พูดด้วยเสียงเบาๆว่า: "อ้อ งั้นคุณก็ล้างผักเถอะ ผักต้องล้างทีละใบทีละใบอย่างตั้งใจ ฉัน ฉันไปทำอาหารอื่นๆก่อน"

เซี่ยอันหรานพูด ทันทีก็หันไปหยิบปลาออกมาจากตู้เย็น จัดการนำปลาขึ้นมา พอเธอนำปลาไปนึ่งเสร็จ ก็หันกลับไปดูโม่เซ่าเหยียน เห็นโม่เซ่าเหยียนดึงแขนเสื้อขึ้นสูง มุมปากคาบอมยิ้มอันเล็กๆ เขายืนอยู่ในแสงสลัวและเงาของพระอาทิตย์ตก เงาของคนถูกส่องด้วยแสงสีทองจางๆ ไม่ใช่แค่สีดำและสีขาวอีกต่อไป

เซี่ยอันหรานหรี่ตาลงเล็กน้อย พยายามจะไม่นำเรื่องราวชีวิตของโม่เซ่าเหยียนมาใส่ใจ เพราะจะยิ่งทำร้ายเขา จึงแสร้งทำเป็นยิ้มเข้าไปใกล้โม่เซ่าเหยียนแล้วพูดว่า: "ล้างผักเสร็จแล้วหรือยัง?"

โม่เซ่าเหยียนพยักหน้า ใช้นิ้วที่ถูกน้ำเย็นจนเป็นสีแดงหยิบใบผักขึ้นมาแล้วส่งให้เซี่ยอันหราน ใบผักนั้นถูกโม่เซ่าเหยียนล้างจนสะท้องแสงได้

แต่เซี่ยอันหรานจ้องมองนิ้วมือที่แดงของโม่เซ่าเหยียนอยู่ตลอด อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เปลี่ยนทิศทางของหัวก๊อกน้ำ: "ทำไมไม่ใช้น้ำอุ่น?"

โม่เซ่าเหยียนยื่นมือออกมา สัมผัสน้ำอุ่นที่ออกมาจากก๊อกน้ำ ใบหูแดงเล็กน้อย หลังจากนั้นจู่ๆเขาก็เม้มริมฝีปากแน่น หันไปพูดอย่างเด็ดขาดว่า: "ฉันชอบใช้น้ำเย็น"

ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เซี่ยอันหรานจะคิดว่าโมรเซ่าเหยียนแปลกประหลาดจริงๆ มือถูกแช่แข็งจนแดงขนาดนั้นแล้ว ยังจะมาบอกว่าชอบน้ำเย็นอีก แต่ตอนนี้เซี่ยอันหรานคล้ายกับจริงจังกับโม่เซ่าเหยียนเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเธอจะสามารถมองเห็นความลำบากใจเล็กน้อยภายใต้ท่าทางที่เย็นชาและแข็งกระด้างของโม่เซ่าเหยียน เพราะความอึดอัดใจจริงๆเลยทำให้ตนเองกล่าวว่ามีนิสัยที่ชอบใช้น้ำเย็น

เซี่ยอันหรานหน้าตาอ่อนโยน ก็ไม่รู้ว่าเพราะการโต้แย้งของโม่เซ้าเหยียนหรือเปล่า จึงยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วกล่าวว่า: "คนโง่ ใช้น้ำอุ่นสบายกว่า แบบนี้คุณก็แช่มือลงไปไม่ได้สิ"

โม่เซ่าเหยียนมองเซี่ยอันหรานอยู่นาน จู่ๆก็เอื้อมมือไปกอดเซี่ยอันหราน จูบที่ริมฝีปากเซี่ยอันหราน จูบของโม่เซ่าเหยียนเข้ามาอย่างกะทันหัน ทำให้เซี่ยอันหรานไม่ทันได้ตอบโต้ ทันทีเธอก็ได้ลิ้มรสหวานจางๆที่ยังไม่ทันได้หายไปในปากของโม่เซ่าเหยียน ความหอมหวานที่แฝงไปด้วยกลิ่นผลไม้นั้นถึงแม้จะเบาบาง แต่เพราะความเบาบางที่ชัดเจนเป็นการเติมเต็มที่ล้ำค่า

ดูเหมือนจะเพียงพอที่จะเติมเต็มให้จิตใจที่เยือกเย็นมาเป็นเวลานานได้อบอุ่นขึ้น

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ 56 เรื่องราวในชีวิตของโม่เซ่าเหยียนที่ได้ประสบ

Now you are reading ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ Chapter 56 เรื่องราวในชีวิตของโม่เซ่าเหยียนที่ได้ประสบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เซี่ยอันหรานเบิกตากว้างและมองไปที่โม่เซ่าเหยียน เห็นได้ว่าหูของโม่เซ่าเหยียนเริ่มแดงขึ้น เขามีเพียงการแสดงออกที่เย็นชาบนใบหน้าของเขา หันศีรษะไปเล็กน้อย มือข้างหนึ่งกำจนกลายเป็นหมัดอยู่ที่ริมฝีปากของเขา กระแอมสองที แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า : "ฉันลงไปข้างล่างก่อนนะ"

"อืม……” เซี่ยอันหรานยังไม่ได้สติกลับมาจากโม่เซ่าเหยียนสามารถทำอาหารได้ สักพัก จึงมีเสียงตอบกลับ

โม่เซ่าเหยียนกวักๆมือ เซี่ยอันหรานเข้าใจท่าทางของโม่เซ่าเหยียนว่าให้เธอเข้าไป แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องให้เธอเข้าไป เซี่ยอันหรานขมวดคิ้วอย่างสงสัย ค่อยๆเข้าไปใกล้ๆ

เซี่ยอันหรานเข้าไปใกล้ๆโม่เซ่าเหยียน ก็ถูกโม่เซ่าเหยียนบีบคางไว้ เขาจูบเบาๆลงบนหน้าผากของเธอ เพียงแค่แตะๆแล้วก็จากไป โม่เซ่าเหยียนจูบเซี่ยอันหรานแล้ว ก็ก้มหน้าลงอย่างรวดเร็ว นำแขนเสื้อม้วนขึ้นสองสามที จึงลุกขึ้น

เมื่อโม่เซ่าเหยียนลุกขึ้นยืน เหลือบไปที่หน้าคอมพิวเตอร์ที่เซี่ยอันหรานเปิดขึ้น เห็นว่าเว็บเพจดังกล่าวกำลังแสดงหน้าข่าวที่เกี่ยวข้องของเซี่ยเหมยกรุ๊ป โม่เซ่าเหยียนขมวดคิ้ว เม้มๆปาก หันกลับไปมองเซี่ยอันหราน ทว่าไม่ได้ถามอะไรมาก แค่หันกลับลงไปข้างล่าง

เซี่ยอันหรานแปลกใจกับเรื่องที่โม่เซ่าเหยียนทำกับข้าวได้จริงๆ อยากเห็นท่าทางการทำกับข้าวของโม่เซ่าเหยียน เซี่ยอันหรานเลยตามโม่เซ่าเหยียนลงไปชั้นล่าง มาถึงชั้นหนึ่ง เมื่อเห็นโม่เซ่าเหยียนเดินเข้าไปในครัวอย่างใจเย็นมาก เซี่ยอันหรานนั่งบนโซฟา เห็นลูกกวาดบนโต๊ะน้ำชา โม่เซ่าเหยียนน่าจะซื้อกลับมา ชั่วขณะเซี่ยอันหรานก็อยากกิน หยิบอมยิ้มจากบนโต๊ะน้ำชา ใส่เข้าไปในปาก เลิกคิ้วมองไปที่โม่เซ่าเหยียน

โม่เซ่าเหยียนหยิบผักออกมาจากตู้เย็นอย่างคล่องแคล่ว จากนั้นก็เติมน้ำลงในหม้อและวางไว้บนเตาแก๊ส แล้วเปิดแก๊ส ขั้นตอนเหล่านี้ไม่มีผิดพลาด ทำให้เซี่ยอันหรานประหลาดใจมาก คาดไม่ถึงว่าจะสามารถต้มน้ำได้

แต่เมื่อเซี่ยอันหรานเห็นโม่เซ่าเหยียนหยิบเทอร์โมมิเตอร์ออกมา เมื่อเตรียมวัดอุณหภูมิของน้ำ ท้ายที่สุดเซี่ยอันหรานก็อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ จากนั้น เซี่ยอันหรานเห็นโม่เซ่าเหยียนใส่มันฝรั่งลงในน้ำเดือดโดยตรง ในที่สุดเซี่ยอันหรานก็กระโดดขึ้นมาจากโซฟา : "คุณทำอะไรอยู่?"

โม่เซ่าเหยียนขมวดคิ้ว : "ฉันกำลังต้มมันฝรั่ง"

เซี่ยอันหรานตาโตอย่างไม่อยากจะเชื่อ : "แม้ว่าคุณจะต้มมันฝรั่งโดยไม่ปอกเปลือก แต่อย่างน้อยคุณก็น่าจะล้างมันหน่อยนะ! ไม่มีใครไม่ล้างมันฝรั่ง ก็โยนลงไปต้มในหม้อโดยตรง คุณดูโคลนในหม้อนั่นสิ! จะกินยังไงเนี่ย?"

เพราะไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า น้ำเสียงเซี่ยอันหรานเลยสูงขึ้นเล็กน้อย

โม่เซ่าเหยียนขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจความหมายของคำพูดของเซี่ยอันหราน : "ต้องล้างด้วยหรอ?"

เซี่ยอันหรานสูดหายใจเข้าลึกๆ : "แน่นอนว่าต้องล้าง!"

โม่เซ่าเหยียนกระพริบตาช้าๆ : "ข้อมูลของฉันไม่ได้ระบุชัดเจน ดูเหมือนว่าหลิวเฟยจะไม่ได้ทำข้อมูลมาให้อย่างละเอียด"

"นี่ไม่ได้คำถามโดยละเอียด นี่เป็นความรู้ทั่วไป!" เซี่ยอันหรานอยากจะบ้าจริงๆ โม่เซ่าเหยียนไม่มีความรู้พื้นฐานถึงขนาดนี้ได้อย่างไร? ใช้เทอร์โมมิเตอร์เพื่อดูว่าน้ำเดือดหรือเปล่า ทำอาหารก็ไม่รู้ว่าต้องล้างผัก คืนนี้ เธอยังจะกินข้าวได้ไหม?

ความปรารถนาของชีวิตออกมา เซี่ยอันหรานลูบๆท้องที่แห้งแฟบของตนเอง แย่งมันฝรั่งจากในมือโม่เซ่าเหยียนอย่างกล้าหาญ : "มาฉันทำอาหารเอง"

แม้ว่าเซี่ยอันหรานในชาตินี้ยังคงเป็นคุณหนูของตระกูลเซี่ย แต่ว่าชาติที่แล้วหลังจากเธอแต่งงานกับถังรั่วชิว ก็เป็นแม่บ้านอยู่หลายปี แม่ของถังรั่วชิวเป็นคนจู้จี้จุกจิกมาก บังคับให้เธอฝึกฝนทักษะการทำอาหารที่ดี

เซี่ยอันหรานหันไปเปิดตู้เย็น มองดูวัตถุดิบในตู้เย็น : "ฉันดูก่อน ว่าจะทำอาหารอะไรดี"

เซี่ยอันหรานมองผักในตู้เย็น เอียงศีรษะไปพลางคิดไปพลาง : "ฉันทำซุปปลาจี้ได้ คะน้าผัดน้ำมันหอย เห็ดหูหนูผัดไข่ กุ้งอบน้ำมัน อาหารเหล่านี้น่าจะเพียงพอสำหรับเรา ว่าไหม? คุณแพ้อาหารอะไรหรือเปล่า?"

โม่เซ่าเหยียนขมวดคิ้ว มองไปที่เซี่ยอันหรานด้วยความสงสัย ดูเหมือนจะฟังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อเซี่ยอันหรานสงสัยว่าโม่เซ่าเหยียนอาจไม่เข้าใจชื่ออาหารเหล่านี้ จู่ๆโม่เซ่าเหยียนก็พยักๆหน้า

เซี่ยอันหรานก็หัวเราะขึ้นมา : "งั้นก็ดี ฉันจะจัดเตรียมอาหารมื้อค่ำอันโอชะให้คุณ"

พูดจบ เซี่ยอันหรานก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้เธอประหลาดใจมากเกินไป ก็เลยพูดเสียงดังไปหน่อย ก็ไม่รู้ว่าทำให้โม่เซ่าเหยียนโกรธหรือเปล่า เพียงแค่เอนเข้าไปใกล้ๆอย่างระวังๆ ถามด้วยเสียงเบาๆว่า : "ขอโทษนะ เมื่อกี้ฉันพูดดังไปหน่อย เพื่อเป็นการแสดงความรู้สึกผิด……”

"ให้ฉันกินอันนี้เถอะ" โม่เซ่าเหยียนชี้ไปที่อมยิ้มในปากของเซี่ยอันหราน

เซี่ยนอันหรานขมวดคิ้ว : "แต่ฉันกินไปครึ่งหนึ่งแล้ว สกปรกแล้ว……”

เซี่ยอันหรานพูดจบ เห็นโม่เซ่าเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอก็กลัวว่าโม่เซ่าเหยียนจะโกรธ รีบนำอมยิ้มในปากส่งไปที่ปากของโม่เซ่าเหยียน ก็เห็นโม่เซ่าเหยียนคลายคิ้วออก เอาอมยิ้มเข้าปาก เซี่ยอันหรานก็โล่งอก

โม่เซ่าเหยียนอมอมยิ้มไว้ในปาก หรี่ตาลงเล็กน้อย: "หวาน?"

เซี่ยอันหรานยิ้มขึ้นมา: "ก็อมยิ้มจะไม่หวานได้ยังไงล่ะ? อมยิ้มบนโต๊ะน้ำชาคุณซื้อมาไม่ใช่หรอ?"

"ผู้ช่วยฉันเป็นคนซื้อ ฉันเพียงแค่สั่งเขา ให้เขาเตรียมขนมที่เด็กผู้หญิงชอบ" โม่เซ่าเหยียนดูดอมยิ้ม แล้วคลายคิ้วออก: "ไม่นึกเลยว่าจะหวานขนาดนี้"

โม่เซ่าเหยียนคาบอมยิ้ม ใบหน้าแข็งทื่อ เพราะอมยิ้มที่อยู่ในปาก จึงดูอ่อนโยนขึ้นมา ดูแล้วไม่เหมือนการใช้อำนาจคุกคามอีก ร่างของเขาที่ดูขาวสะอาดเรียบร้อยอย่างที่สุด แต่กำลังคาบอมยิ้มอยู่ในปากอันหนึ่ง ทั้งดูขัดตาทั้งน่ารัก

ทำให้เซี่ยอันหรานอดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นมา ถามด้วยเสียงเบาๆว่า: "หรือว่าคุณไม่รู้ว่าอมยิ้มมันหวาน? ไม่เคยกินมาก่อนเลยหรอ?"

โม่เซ่าเหยียนพยักหน้าอย่างจริงจัง: "แต่ไหนแต่ไรฉันไม่เคยอยากต้องการของแบบนี้เลย คนรับใช้ที่บ้านและพนักงานบริษัทของฉันไม่กล้าให้อะไรนอกจากที่ฉันเรียกร้อง ดังนั้น จึงไม่เคยกินมาก่อน แน่นอน ฉันรู้ว่าบนโลกนี้มีของแบบนี้อยู่ แต่ไม่รู้ว่ามันจะหวานขนาดนี้"

"ของแบบนี้ แน่นอนว่าไม่ใช่คนรับใช้ในบ้านและพนักงานบริษัทให้คุณ ตอนเด็กๆที่คุณงอแง พ่อแม่ของคุณก็หยอกล้อเล่นกับคุณ" เซี่ยอันหรานมองท่าทางโม่เซ่าเหยียนที่คาบอมยิ้ม ยิ่งมองก็ยิ่งน่ารัก มันเหมือนกับการได้เห็นสิงโตตัวผู้ที่มีทรงพลัง แต่ทันใดนั้นก็กลายเป็นแมวตัวใหญ่ที่ขดงออยู่ในอ้อมแขนของผู้คน

"พ่อกับแม่ของฉันตายไปตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ตอนฉันห้าขวบ พ่อฉันฆ่าแม่ตายขณะที่กำลังคบชู้อยู่กับคนรัก หลังจากนั้นเขาก็กระโดดตึกฆ่าตัวตายต่อหน้าฉัน แต่เรื่องก่อนหน้าที่ฉันจะอายุห้าขวบ ไม่มีความทรงจำใดๆ ดังนั้นจึงจำเรื่องนี้ไม่ได้" โม่เซ่าเหยียนผ่อนคลายคิ้ว พูดเรื่องราวในชีวิตที่ประสบมาของเขาอย่างเย็นชา ใช้น้ำเสียงที่เรียบเฉย ราวกับว่ากำลังพูดถึงเรื่องของคนอื่น

เซี่ยอันหรานขมวดคิ้วแน่น มือสั่นเล็กน้อย ผักที่อยู่ในมือของเธอตกลงบนพื้นโดยตรง เธอถูกคำพูดของโม่เซ่าเหยียน ทำให้ตกใจจนนิ่งอึ้งอยู่กับที่ เธอคาดไม่ถึงว่าโม่เซ่าเหยียนจะประสบกับชีวิตแบบนี้ อย่างนั้นนิสัยที่เยือกเย็นของโม่เซ่าเหยียนในตอนนี้ มันก็สมเหตุสมผลแล้ว กระทั่งเซี่ยอันหรานคิดว่าโม่เซ่าเหยียนแสดงออกได้ดีมากแล้ว ถ้าเป็นเธอพบเจอเรื่องเหล่านี้ ไม่รู้ว่าจะต้องมีเงามืดในจิตใจเหลืออยู่มากขนาดไหน

โม่เซ่าเหยียนรู้สึกคาดไม่ถึงกับการตอบสนองที่มากขนาดนี้ของเซี่ยอันหราน เขาโน้มตัวลงเล็กน้อย นำอาหารที่เซี่ยอันหรานทำตกพื้น หยิบขึ้นมา ถามด้วยเสียงเบาๆว่า: "ฉันสามารถล้างผักได้ไหม? ฉันต้องการเรียนรู้"

เพราะโม่เซ่าเหยียนนั่งยองๆลงเก็บผักที่พื้น ยากที่เซี่ยนอันหรานจะได้มองลงไปยังโม่เซี่ยเหยียน เธอมองโม่เซ่าเหยียนที่เดิมทีเธอหวาดกลัวที่คาบอมยิ้มที่เขาไม่เคยกินมาก่อนกำลังเก็บใบผัก จู่ๆในใจของเซี่ยอันหรานก็เป็นทุกข์อย่างมาก คนคนนี้ที่เธอหวาดกลัวมาโดยตลอดคาดไม่ถึงว่าจะผ่านเรื่องราวที่โหดร้ายขนาดนี้มา กระทั่งเธอรู้สึกเสียใจกับที่ผ่านมาเคยหวาดกลัวโม่เซ่าเหยียน

ชาติที่แล้วตอนที่เซี่ยอันหรานตั้งครรภ์ เพื่อให้เลี้ยงดูลูกของเธอได้ดียิ่งขึ้น เธอได้เรียนรู้จิตวิทยาเด็กมาบ้าง ตอนที่โม่เซ่าเหยียนเผชิญกับเรื่องราวของพ่อแม่ การแสดงออกสงบนิ่งอย่างมาก กลับกลายเป็นผิดปกติ อีกทั้งยังสูญเสียความทรงจำ อาจจะเป็นอาการที่เป็นบาดแผลหลังจากการได้รับความกดดันทางจิตใจ แม้กระทั่งนิสัยที่เย็นชาของเขาอาจจะเป็นเงามืดที่สะท้อนในวัยเด็ก

ประสบการณ์ในวัยเด็กของโม่เซ่าเหยียนกระทบกระเทือนจิตใจเซี่ยอันหรานอย่างมาก ช่วงเวลาหนึ่งเซี่ยอันหรานก็ไม่รู้ว่าควรจะเผชิญหน้ากับโม่เซ่าเหยียนที่เป็นแบบนี้ยังไง หลังจากที่เซี่ยอันหรานเห็นโม่เซ่าเหยียนเก็นผักขึ้นมาแล้ว ก็หันตัวออกทันที พูดด้วยเสียงเบาๆว่า: "อ้อ งั้นคุณก็ล้างผักเถอะ ผักต้องล้างทีละใบทีละใบอย่างตั้งใจ ฉัน ฉันไปทำอาหารอื่นๆก่อน"

เซี่ยอันหรานพูด ทันทีก็หันไปหยิบปลาออกมาจากตู้เย็น จัดการนำปลาขึ้นมา พอเธอนำปลาไปนึ่งเสร็จ ก็หันกลับไปดูโม่เซ่าเหยียน เห็นโม่เซ่าเหยียนดึงแขนเสื้อขึ้นสูง มุมปากคาบอมยิ้มอันเล็กๆ เขายืนอยู่ในแสงสลัวและเงาของพระอาทิตย์ตก เงาของคนถูกส่องด้วยแสงสีทองจางๆ ไม่ใช่แค่สีดำและสีขาวอีกต่อไป

เซี่ยอันหรานหรี่ตาลงเล็กน้อย พยายามจะไม่นำเรื่องราวชีวิตของโม่เซ่าเหยียนมาใส่ใจ เพราะจะยิ่งทำร้ายเขา จึงแสร้งทำเป็นยิ้มเข้าไปใกล้โม่เซ่าเหยียนแล้วพูดว่า: "ล้างผักเสร็จแล้วหรือยัง?"

โม่เซ่าเหยียนพยักหน้า ใช้นิ้วที่ถูกน้ำเย็นจนเป็นสีแดงหยิบใบผักขึ้นมาแล้วส่งให้เซี่ยอันหราน ใบผักนั้นถูกโม่เซ่าเหยียนล้างจนสะท้องแสงได้

แต่เซี่ยอันหรานจ้องมองนิ้วมือที่แดงของโม่เซ่าเหยียนอยู่ตลอด อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เปลี่ยนทิศทางของหัวก๊อกน้ำ: "ทำไมไม่ใช้น้ำอุ่น?"

โม่เซ่าเหยียนยื่นมือออกมา สัมผัสน้ำอุ่นที่ออกมาจากก๊อกน้ำ ใบหูแดงเล็กน้อย หลังจากนั้นจู่ๆเขาก็เม้มริมฝีปากแน่น หันไปพูดอย่างเด็ดขาดว่า: "ฉันชอบใช้น้ำเย็น"

ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เซี่ยอันหรานจะคิดว่าโมรเซ่าเหยียนแปลกประหลาดจริงๆ มือถูกแช่แข็งจนแดงขนาดนั้นแล้ว ยังจะมาบอกว่าชอบน้ำเย็นอีก แต่ตอนนี้เซี่ยอันหรานคล้ายกับจริงจังกับโม่เซ่าเหยียนเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเธอจะสามารถมองเห็นความลำบากใจเล็กน้อยภายใต้ท่าทางที่เย็นชาและแข็งกระด้างของโม่เซ่าเหยียน เพราะความอึดอัดใจจริงๆเลยทำให้ตนเองกล่าวว่ามีนิสัยที่ชอบใช้น้ำเย็น

เซี่ยอันหรานหน้าตาอ่อนโยน ก็ไม่รู้ว่าเพราะการโต้แย้งของโม่เซ้าเหยียนหรือเปล่า จึงยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วกล่าวว่า: "คนโง่ ใช้น้ำอุ่นสบายกว่า แบบนี้คุณก็แช่มือลงไปไม่ได้สิ"

โม่เซ่าเหยียนมองเซี่ยอันหรานอยู่นาน จู่ๆก็เอื้อมมือไปกอดเซี่ยอันหราน จูบที่ริมฝีปากเซี่ยอันหราน จูบของโม่เซ่าเหยียนเข้ามาอย่างกะทันหัน ทำให้เซี่ยอันหรานไม่ทันได้ตอบโต้ ทันทีเธอก็ได้ลิ้มรสหวานจางๆที่ยังไม่ทันได้หายไปในปากของโม่เซ่าเหยียน ความหอมหวานที่แฝงไปด้วยกลิ่นผลไม้นั้นถึงแม้จะเบาบาง แต่เพราะความเบาบางที่ชัดเจนเป็นการเติมเต็มที่ล้ำค่า

ดูเหมือนจะเพียงพอที่จะเติมเต็มให้จิตใจที่เยือกเย็นมาเป็นเวลานานได้อบอุ่นขึ้น

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+