“จริงเหรอ ?” เซี่ยอันหรานก้มหน้าและยิ้มอย่างยากลำบาก：“ เหมือน เหมือนคู่รักงั้นเหรอ ?”

“โอ้……..แล้วหมิงเยี่ยนเฟยเล่าเรื่องอันหราน………ไม่สิ ความประใจของเสี่ยวหรานหน่อย ”ผู้กำกับจางหรานถามหมิงเยี่ยนเฟยด้วยรอยยิ้ม

หมิงเยี่ยนเฟยยืนอยู่ข้างๆเซี่ยอันหราน ยิ้มและพูดว่า：“เสี่ยวหรานมีนิสัยดื้อรั้น เจ้าระเบียบมาก เงอะงะและซุ่มซ่ามบ้างเล็กน้อย”

ดวงตาของเซี่ยอันหรานเบิกกว้าง เธออธิบายหมิงเยี่ยนเฟยต่อหน้ากล้องอย่างดี แต่ทำไมหมิงเยี่ยนเฟยถึงทำร้ายเธอต่อหน้ากล้องขนาดนี้ ? หมิงเยี่ยนเฟยนี่มันหมายความว่ายังไง ?

เซี่ยอันหรานอดไม่ได้ที่จะพึมพำเบาๆ：“ ฉันไม่ได้เงอะงะนะ ?”

หมิงเยี่ยนเฟยยิ้มเยาะ：“นั่นคือความไร้สติของคุณ”

ด้วยเหตุนี้ ทันใดนั้นหมิงเยี่ยนเฟยก็เหมือนจะจำเรื่องอะไรขึ้นมาได้ เขายกมือข้างที่ไม่ได้บาดเจ็บขึ้นมา และตบไปที่ศีรษะของตัวเอง：“โอ้ ใช่แล้ว พวกคุณไม่อยากตั้งฉายาให้กับดาราชายหญิงของรายการเหรอ ผมจำได้ว่าดาราก่อนหน้านีถูกตั้งชื่อว่า Diamond Couple ผมกับเซี่ยอันหรานบาดเจ็บทั้งคู่ ดังนั้นเรียกว่า คู่รักผ้าพันแผลเถอะ ”

เมื่อได้ยินหมิงเยี่ยนเฟยพูดแบบนี้พร้อมยิ้มเยาะ ผู้กำกับจางหรานก็ยิ้มตามขึ้นมา：“คู่รักผ้าพันแผลเหรอ ? ดี ฉายานี้ดีมาก น่าสนใจมาก ！”

ในฐานะผู้กำกับรายการ แน่นอนว่าเขาหวังว่าดาราในรายการของเขาจะแสดงได้ดีเพียงพอและดีที่สุด และที่ดีที่สุดคือต้องมีภาพลักษณ์ที่แตกต่างจากเดิมไปโดยสิ้นเชิง แบบนี้ก็มีจุดเด่นแล้ว เมื่อได้ยินว่าหมิงเยี่ยนเฟยตัดสินใจจะมาร่วมรายการ จางหรานก็กลัวมาตลอดว่าหมิงเยี่ยนเฟยจะไม่สามารถปล่อยวางได้ แต่ไม่คิดเลยว่าหมิงเยี่ยนเฟยจะเป็นคนตรงไปตรงมาแบบนี้

ตอนนี้ความขัดแย้งระหว่างหมิงเยี่ยนเฟยและเซี่ยอันหรานได้เปิดเผยแล้ว จากที่ไม่เข้าใจกันไปจนถึงการชอบกัน รายการนั้นก็จะขึ้นๆลงๆ และเต็มไปด้วยความร้อนแรง

เซี่ยอันหรานไม่ได้แสดงความไม่พอใจต่อหมิงเยี่ยนเฟยออกมา เธอพยายามกดริมฝีปากล่างของเธอ และระงับคำพูดที่อยากจะบ่นภายในใจของเธอ เธอกลัวว่าถ้าพูดเยอะและผิดพลาดเยอะ รอให้รายการออนแอร์ก่อน แล้วจะมีคนมาด่าเอง

เป้าหมายหลักของผู้กำกับจางหรานก็คือหมิงเยี่ยนเฟย สำหรับดาราดังอย่างหมิงเยี่ยนเฟย แค่พูดในรายการ ก็ทำเอาฮือฮาแล้ว ถึงแม้เซี่ยอันหรานที่อยู่ข้างๆจะไม่เต็มใจพูดอะไรมาก แต่จางหรานก็ยังคงถามอย่างกระตือรือร้นว่า ：“งั้นอะไรถึงทำให้ทั้งสองคนต้องการใช้ชื่อพิการในการแสดงในรายการนี้？”

หมิงเยี่ยนเฟยยกมือที่บาดเจ็บขึ้น ยิ้มและพูดว่า：“ เพราะว่าผมกับอันหรานบาดเจ็บด้วยกัน ดังนั้นจึงคิดมันเป็นโชคชะตา เมื่อได้ยินรายการนี้ต้องการให้ผมและเซี่ยอันหรานมาถ่ายรายการด้วยกัน ผมก็เลยตกลงมา”

“ได้รับบาดเจ็บด้วยกัน ?”จางหรานหันศีรษะไปมองเซี่ยอันหราน และถามด้วยความสงสัย

เซี่ยอันหรานเม้มริมฝีปากของเธอ คิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า：“ เป็นฉันที่เกิดอุบัติเหตุระหว่างถ่ายทำ คุณหมิงช่วยฉัน ถึงได้บาดเจ็บ ไม่คิดเลยว่าคุณหมิงจะยังเต็มใจที่จะถ่ายรายการกับฉัน ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกประหลาดใจมากและรู้สึกเป็นเกียรติมาก”

“โอ้….แบบนี้นี่เอง………”จางหรานเพิ่งเห็นอาการบาดเจ็บบนมือของเซี่ยอันหราน：“ ที่แท้อันหรานก็บาดเจ็บ เป็นคู่รักผ้าพันแผลจริงๆ สินะ แบบนี้ก็หมายความว่า คุณหมิงเป็นผู้ช่วยชีวิตของเซี่ยอันหราน…….”

“ใช่ ！”เซี่ยอันหรานเห็นด้วยอย่างยิ่ง：“ฉันจะต้องตอบแทนคุณหมิงอย่างดีแน่นอน”

เซี่ยอันหรานพูดประโยคนี้ด้วยความจริงใจและตรงไปตรงมาจนทำให้ทีมงานรอบข้างหัวเราะ

งั้นก็ดี ตอนนี้การสัมภาษณ์ของพวกเราจะสูงขึ้นบ้างแล้ว จางหรานยิ้ม และยื่นกระดาษสองแผ่นให้เซี่ยอันหรานและหมิงเยี่ยนเฟย：“นี่เป็นแผนการเดินทางง่ายๆของพวกคุณสองคนในช่วงสองวันนี้ ทั้งสองดูตอนนี้เลย ถ้าหากมีตรงไหนที่ไม่เหมาะสม ก็สามารถพูดขึ้นมาได้ จะได้ปรับเปลี่ยน”

หมิงเยี่ยนเฟยและเซี่ยอันหรานหยิบเอกสารสองแผ่นที่เต็มไปด้วยกำหนดการเดินทางมา เซี่ยอันหรานพยักหน้า：“ต้องไปตั้งแคมป์ ?”

“ใช่แล้ว ทั้งสองจะได้รับอุปกรณ์การตั้งแคมป์ในโปรแกรมถัดไป ทั้งสองสามารถใช้คนเดียวหรือใช่ร่วมกันได้” จางหรานพูดด้วยรอยยิ้มว่า：“นี่เป็นรายการ ต้องมีความบันเทิงอะไรบ้าง หวังว่าทั้งสองคนจะเห็นอกเห็นใจกันด้วย”

เซี่ยอันหรานพยักหน้า：“ฉันเข้าใจค่ะ”

เซี่ยอันหรานออกมาข้างนอกสองวันแล้ว และจัดตารางการเดินทางกับกองถ่ายเรียบร้อย เซี่ยอันหรานไม่ได้กังวลเรื่องออกไปตั้งแคมป์เลย ตอนเด็กเธอชอบไปท่องเที่ยว เธอยังเคยประสบอุบัติเหตุตอนไปตั้งแคมป์คนเดียวเมื่อตอนเด็กเลย

“โอ้ งั้นคุณหมิงเยี่ยนเฟยมีความคิดเห็นอื่นๆอีกไหม ? จางหรานพูดพลางมองไปที่หมิงเยี่ยนเฟย

หมิงเยี่ยนเฟยยิ้มและส่ายหัว ยกแขนที่ดามไว้ขึ้นมาและพูดว่า：“ บาดแผลของผมยังไม่หาย เกรงว่ายากที่จะเข้าร่วมการแข่งขันที่ซับซ้อน”

“อ่า อันนี้เหรอ หมิงเยี่ยนเฟยคุณไม่ต้องกังวล พวกเราพิจารณาระยะเวลาและเงื่อนไขของคุณแล้ว และทั้งหมดมันก็เป็นกิจกรรมง่ายๆ” จางหรานยิ้มทันทีและพูดว่า：“ งั้นก็ดี ทั้งสองคนเชิญขึ้นรถ”

หมิงเยี่ยนเฟยและเซี่ยอันหรานเข้าไปในรถ ตากล้องรายการถ่ายภาพความไม่คุ้นเคยและความเขินอายของทั้งสองคนในรถก่อน จากนั้นก็ลงรถไป เซี่ยอันหรานกับหมิงเยี่ยนเฟยยังนั่งอยู่บนรถ โดยมีผู้ช่วยของหมิงเยี่ยนเฟยขับต่อไป หลังจากตากล้องลงจากรถไป เมื่อมองไม่เห็นคนตามถ่ายแล้ว ในรถก็เหลือเพียงหมิงเยี่ยนเฟยและเซี่ยอันหรานสองคน เซี่ยอันหรานรีบลุกขึ้นและย้ายไปที่นั่งว่างข้างๆทันที เพื่อเปิดระยะห่างระหว่างเธอกับหมิงเยี่ยนเฟย

หมิงเยี่ยนเฟยเอนเบาะลงและหันไปมองเซี่ยอันหราน：“ทำไมถึงรีบหลบหลีกเร็วขนาดนี้ ? เมื่อครู่ยังชมเชยผมอยู่เลย ? ชมว่าผมอ่อนโยนและมีน้ำใจ ทำไมตอนนี้ถึงอยู่ห่างจากผมล่ะ ?”

เซี่ยอันหรานขมวดคิ้วและพูดว่า：“ นั่นเป็นการถ่ายรายการ ไม่ใช่ชีวิตจริง ！”

“โอ้……..ปรากฎว่าอันหรานแสดงเพื่อหลอกลวงผู้ชม ? มันน่าเศร้าจริงๆ” หมิงเยี่ยนเฟยเอนอยู่บนเบาะ และหันศีรษะไปมองเซี่ยอันหรานยิ้มและพูดว่า：“แล้วคุณอยากเล่นบทบาทไหนในรายการนี้ เป็นผู้หญิงที่อ่อนโยน หรือว่าน้องสาวที่เอาใจใส่”

“โดยปกติแล้วก็ต้องการเล่นบทบาทที่ถูกใจตัวละครเรียลลิตี้ รายการเรียลลิตี้คือการแสดงโดยไม่มีคัท ”เซี่ยอันหรานเลิกคิ้ว：“ ไม่สามารถเล่นบทบาทที่ตรงกันข้ามได้”

หมิงเยี่ยนเฟยหัวเราะเบาๆ ส่ายหัวแล้วพูดว่า：“ทุกวันนี้ชาวเน็ตฉลาดมาก คุณคิดว่าทักษะการแสดงของคุณจะสามารถกลบชาวเน็ตที่กลั่นกลองดูได้เหรอ ? ผมแนะนำให้คุณแสดงเป็นตัวของตัวเอง ไม่น่านักแสดงจะเก่งแค่ไหนก็ไม่มีวันหลอกลวงฉากที่เขาถ่ายทำ 24 ชั่วโมง ในความเป็นจริงผู้หญิงและเด็กตัวเล็กๆข้างบ้านอาจจะไม่น่ารัก แต่เมื่อคิดคำนวนเล็กๆน้อยๆ แต่อันหรานที่เงอะงะก็น่าจะทำให้คนชอบเหมือนกัน ！ผลงานในการสัมภาษณ์ตอนนี้ของคุณก็ดีเหมือนกัน”

เซี่ยอันหรานได้ยินหมิงเยี่ยนเฟยพูดแบบนี้ ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ที่จริงแล้วสิ่งที่หมิงเยี่ยนเฟยพูดแบบนั้น ก็มีเหตุผลอยู่มาก หากผลงานภาพยนตร์และละครทีวีไม่ดี ยังสามารถมีโอกาสคัทได้ แต่ถ้าถ่ายรายการเรียลลิตี้ มันก็จะเป็นกระจกด้านเดียวที่อยู่ข้างในสุดแทนที่จะเป็นคนสองหน้า ทำให้คนอื่นจับจุดเธอได้ เธอเป็นตัวของตัวเองจะยังซะดีกว่า

อย่างน้อยที่สุดก็ไม่สามารถพูดได้ว่าเธอแสดงในรายการ หรือบอกว่าเธอเป็นคนเจ้าเล่ห์

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เซี่ยอันหรานก็กระแอมออกมา เธอก้มศีรษะลง มองไปที่แขนที่ดามของหมิงเยี่ยนเฟยและพูดว่า：“แผลของคุณเป็นอย่างไรบ้าง ? สามารถร่วมถ่ายทำได้ไหม ?”

“ก็พอโอเค ไม่แตะโดนก็โอเคแล้ว”หมิงเยี่ยนเฟยก้มศีรษะลงมองแขนที่บาดเจ็บของตัวเอง และกระพริบตาไปหาเซี่ยอันหราน：“อันหรานเป็นห่วงฉันขนาดนี้ ดูเหมือนว่ารายการนี้ไม่เสียเปล่าแล้ว มือของคุณก็ต้องระวัง อย่าให้โดนน้ำ”

เซี่ยอันหรานขมวดคิ้วมองไปที่หมิงเยี่ยนเฟย จากนั้นก็รีบก้มศีรษะลงและพูดเสียงเบาว่า：“เอ่อ……หมิงเยี่ยนเฟยฉันขอบคุณคุณมาก ขอบคุณที่คุณช่วยฉัน และขอบคุณคุณที่ปกป้องฉันการจากถูกโจมตี และเข้าร่วมรายการนี้ร่วมกับฉัน เพื่อพิสูจน์ว่าคุณกับฉันมีความสัมพันธ์ที่ดีมาก ดังนั้นฉันจึงคิดว่าต้องพูดกับคุณให้ชัดเจน……….”

เซี่ยอันหรานพูดพลางกัดริมฝีปาก：“ฉันมีคนที่ชอบแล้ว ฉันชอบเขามาก ไม่รู้ว่าจะชอบไปนานเท่าไหร่ ดังนั้น ฉันไม่อยาก……….”

“ต้องการจำกัดความสัมพันธ์กับผม ?”หมิงเยี่ยนเฟยลดเสียงลงและพูดด้วยรอยยิ้ม：ตอนนี้คุณกับผมคือ“คู่รักผ้าพันแผล”แล้ว สถานีโทรทัศน์จะต้องล้อเลียนพวกเราในฐานะคู่รักแน่ คุณคิดว่าคุณกับฉันจะพูดชัดเจนได้เหรอ ?”

ปัญหาที่หมิงเยี่ยนเฟยพูดเหล่านี้ ก็คือสิ่งที่เซี่ยอันหรานกังวลมาตลอด ดังนั้นเธอจึงปฎิเสธที่จะเข้าร่วมในรายการนี้ตั้งแต่แรก เซี่ยอันหรานขมวดคิ้วและกัดริมฝีปาก：“ฉันคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว หลังจากถ่ายทำรายการนี้แล้ว ฉันจะคุยกับพี่เชี่ยนหรง และสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาวออกมา รับรองไม่ส่งผลกระทบกับคุณหมิงแน่นอน……….”

“แต่คุณส่งผลกระทบกับผมแล้ว ！”หมิงเยี่ยนเฟยค่อยๆคลี่ยิ้มและหันศีรษะไปมองเซี่ยอันหราน และมองไปที่เซี่ยอันหรานด้วยสีหน้าที่จริงจัง：“คุณส่งผลกระทบกับผมแล้ว เซี่ยอันหราน ผมรู้ดีว่าคุณจะเข้าร่วมรายการนี้ และคนอื่นจะคาดเดาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคุณและผม เป็นเพราะว่าผมรู้ ผมจึงเข้าร่วม ถ้ายังไงพวกเรามาทำรายการนี้ให้ดี และทำในความเป็นจริงด้วย ผมไม่เคยมีเรื่องอื้อฉาว และก็ไม่ได้เจอเรื่องดีอะไร หลายคนล้วนบอกว่าผมอยู่สูงเกินไป สูงเกินไปมาก ตอนนี้คนดังที่สมบูณณ์แบบไม่เป็นที่นิยมแล้ว ทุกคนต่างแย่งชิงกันเกรี้ยวกราด และผมต้องตกลงมาข้างล่างบ้าง จะขึ้นไปอยู่ข้างบนอีกไม่ได้แล้ว ！ถ้างั้นทำไมพวกเราไม่มีปฎิสัมพันธ์ซึ่งกันและกันล่ะ ? คุณเป็นผู้มาใหม่ และไม่มีข่าวด้านลบอื่นๆ เมื่อเทียบกับดาราหญิงคนอื่นๆที่ตกเป็นข่าวอื้อฉาวแล้ว คุณได้รับการยอมรับจากแฟนคลับได้ง่ายกว่าเยอะ และความนิยมของผมก็จะทำให้คุณได้รับประโยชน์เช่นกัน”

เซี่ยอันหรานขมวดคิ้วแน่น：“หมิง หมิงเยี่ยนเฟย คุณกำลังล้อเล่นอะไรอยู่ ?”

หมิงเยี่ยนเฟยมองไปที่เซี่ยอันหราน ขมวดคิ้วและถามว่า：“ คุณคิดว่าผมเหมือนคนที่ล้อเล่นเหรอ ?”

เซี่ยอันหรานขมวดคิ้ว และจ้องไปที่หมิงเยี่ยนเฟย เธอไม่สามารถบอกได้ว่าหมิงเยี่ยนเฟยล้อเล่น แต่เธอรู้ว่าเธอกับหมิงเยี่ยนเฟยไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ เธอไม่ต้องการลากหมิงเยี่ยนเฟยเข้ามาระหว่างเธอ

เซี่ยอันหรานพูดด้วยเสียงเบาๆว่า：“ไม่ว่าจะล้อเล่นหรือไม่ ฉันก็……….”

“ใช่ ผมกำลังล้อเล่นอยู่” หมิงเยี่ยนเฟยมองไปที่เซี่ยอันหรานและยิ้มออกมา เขายิ้มและชี้ไปที่เซี่ยอันหรานด้วยมือข้างซ้ายที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ：“อันหราน ท่าทางจริงจังของคุณมันช่างตลกจริงๆ ！”

“คุณ ！”เซี่ยอันหรานขมวดคิ้ว และมองไปที่หมิงเยี่ยนเฟย และพูดด้วยน้ำเสียงที่ทำอะไรไม่ถูกและคับแค้นใจว่า：“คุณอย่ายั่วโมโหฉันได้ไหม เลิกรังแกฉันสักทีได้ไหม ?”

หมิงเยี่ยนเฟยเช็ดน้ำตาออกจากมุมตา หันศีรษะไปมองเซี่ยอันหรานและพูดเสียงต่ำด้วยรอยยิ้มว่า：“ระหว่างพวกเราทั้งสองคน ใครรังแกใคร ยังไม่แน่หรอกนะ”