ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ 62 แฟนของหมิงเยี่ยนเฟย

Now you are reading ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ Chapter 62 แฟนของหมิงเยี่ยนเฟย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เฉิงเสี่ยวเถียนรีบกลับมาจากข้างนอกอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เธอกลับมาที่นั่งชั้นพิเศษ เธอก็รีบขอบคุณหมิงเยี่ยนเฟยแล้วพยุงเซี่ยอันหรานที่เมาฟุบอยู่ข้างโต๊ะและออกจากที่นั่งชั้นพิเศษโดยไม่ทันสังเกตตอนที่หมิงเยี่ยนเฟยกำลังพยุงเซี่ยอันหรานเขาเกือบจะกอดเซี่ยอันหรานไว้ในอ้อมแขนของเขา

บนใบหน้าของหมิงเยี่ยนเฟยเผยให้เห็นรอยยิ้มที่อ่อนโยน เมื่อเห็นเฉิงเสี่ยวเถียนกำลังพยุงเซี่ยอันหราน เขาก็ลุกขึ้นตามหลังไปทันทีและช่วยพยุงเซี่ยอันหรานอีกแรง เมื่อเห็นเซี่ยอันหรานและเฉิงเสี่ยวเถียนขึ้นรถและออกไปแล้ว หมิงเยี่ยนเฟยก็หันหลังกลับและขึ้นรถเพื่อไปที่สนามบิน

ในตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว หมิงเยี่ยนเฟยมองผ่านกระจกหน้าต่างรถ มองไปที่แสงระยิบระยับพร่างพราวแต่กลับเงียบเหงาและน่าเวทนาด้านนอก พร้อมกับฮัมเพลงที่เขาและเซี่ยอันหรานเพิ่งร้องด้วยกันเบา ๆ

ผู้จัดการที่นั่งอยู่ด้านหน้าได้ยินหมิงเยี่ยนเฟยกำลังร้องเพลง ในขณะที่เขาหาวเขาก็มองกลับไปที่หมิงเยี่ยนเฟย และถามด้วยรอยยิ้ม “วันนี้อารมณ์ดีใช้ได้เลยนะ แถมยังร้องเพลงด้วย?นายไม่ชอบร้องเพลงที่สุดแล้วไม่ใช่หรอ?”

"เอ่อ?" หมิงเยี่ยนเฟยยกมุมปากขึ้นและถามด้วยรอยยิ้มจางๆ “เมื่อกี้ผมร้องเพลงเหรอ?"

“แน่นอนสิ เอาแต่ร้องเพลงตลอดทาง" ผู้จัดการหันหน้าไปมองหมิงเยี่ยนเฟย จากนั้นดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง: “เยี่ยนเฟยอย่าทำฉันตกใจนะ ถึงแม้ตอนนี้นายจะมีแรงกดดันในหน้าที่การงานอย่างหนัก แต่ไม่ใช่ว่าตัวเองทำอะไรมาแล้วแต่จำไม่ได้นะ”

"ผมแค่ไม่ทันสังเกต … " หมิงเยี่ยนเฟยหลี่ตาเล็กน้อยแล้วหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างพลางยิ้มเบาๆ : “ที่แท้ เมื่อกี้ผมก็ร้องเพลงนิเอง"

ในตอนกลางคืน ใบหน้าของหมิงเยี่ยนเฟยสะท้อนกระจกหน้าต่างของรถที่แล่นไปด้วยความเร็ว ในขณะนี้มุมปากของเขาค่อยๆยกขึ้นเล็กน้อยและยิ้มเบาๆ มันเหมือนรอยยิ้มที่เขาต้องเผชิญหน้ากับสื่อและแฟนคลับในทุกๆครั้ง แต่ดูๆแล้วมันมีบางอย่างที่ดูแตกต่างออกไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง มันเหมือนกับว่ารอยยิ้มนี้ดูจริงใจมากกว่าก่อนหน้านี้

เซี่ยอันหรานผงกหัวตลอดทางกลับคฤหาสน์ที่เธออาศัยอยู่ แม้ว่าเธอจะเมาหนักมาก แต่เธอก็ยังมีสติอยู่เล็กน้อย เธอรู้ว่าถ้าหมิงเยี่ยนเฟยได้รับอนุญาตให้เข้าไปในคฤหาสน์ เธออาจจะได้เจอโม่เซ่าเหยียนซึ่งอาจจะอยู่ในคฤหาสน์นั้น

เซี่ยอันหรานเดินไปถึงประตูและยื่นมือออกไปเพื่อหยุดเฉิงเสี่ยวเถียนไว้: "เสี่ยวเถียน เธอกลับไปก่อนเถอะ"

เฉิงเสี่ยวเถียนขมวดคิ้วเมื่อเซี่ยอันหรานพูดเช่นนี้ “แต่ แต่ว่าคุณเมาหนักขนาดนี้ ฉันจะส่งเธอเข้าไปเอง”

เซี่ยอันหรานส่ายหัว: "ฉันไม่เป็นไร"

ในขณะที่พูดอย่างนั้น เซี่ยอันหรานก็เปิดประตูเข้าไปในคฤหาสน์และพูดด้วยจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งว่า: “ดูสิ ฉันไม่เป็นไรแล้ว พอแล้ว พอแล้ว ฉันจะไปนอนแล้ว เธอก็กลับไปพักผ่อนเถอะ กลับดีๆล่ะ”

หลังจากที่เซี่ยอันหรานพูดจบเธอก็ปิดประตู ทันทีที่ประตูปิด เซี่ยอันหรานก็พิงไปที่ประตูและค่อยๆเลื้อยไปนั่ง เมื่อสัมผัสลงบนพื้นที่เย็นเฉียบ เซี่ยอันหรานก็กัดฟันแล้วลุกขึ้นยืนอีกครั้ง จากนั้นก็เดินจับราวบันไดเซไปเซมาและขึ้นชั้นบนไป

เมื่อถึงห้องนอนบนชั้นสอง พอเซี่ยอันหรานแตะไปที่เตียงก็ล้มตัวลงนอนทันที เซี่ยอันหรานที่ไม่ได้พักผ่อนดีๆตั้งแต่เมื่อวานแถมยังดื่มเหล้าหนักมาก แต่พอเธอหลับตาลงด้วยความมึนเธอกลับนอนไม่หลับเลย

เธอยกมือและยืดขึ้นบนอากาศแล้วร่างโครงร่างของโม่เซ่าเหยียนจางๆ จากนั้นก็หัวเราะด้วยเสียงต่ำ: "โม่เซ่าเหยียคุณมันเลว ฉันผิดเองที่ไปชอบคุณมาก ทำไมไม่ทำให้ฉันเกลียดคุณล่ะ เดิมทีฉันควรจะเกลียดคุณด้วยซ้ำ ฉันควรเกลียดคุณ … "

"ฉันเกลียดคุณ……"

เซี่ยอันหรานพึมพำในขณะที่ม้วนตัวเป็นวงกลมเล็กๆในคืนที่หนาวเหน็บ คืนที่วุ่นวายปกคลุมร่างกายของเซี่ยอันหราน เธอกำลังพูดส่งเดชในขณะที่กึ่งหลับกึ่งตื่น เธอไม่ได้กินอะไรมาสองวันแล้วและเพิ่งดื่มเหล้าไปเยอะมากซึ่งทำให้เธอปวดกระเพาะ แต่เธอไม่มีแรงที่จะลืมตาขึ้นมาจึงทำได้เพียงฟุบอยู่บนเตียงและต้องทนกับความเจ็บปวดพร้อมกับพูดว่าว่าเกลียดโม่เซ่าเหยียนด้วยความโกรธ

คำเหล่านี้เธอไม่สามารถพูดออกไปได้ แม้แต่แม่ของเธอก็ไม่กล้าเอ่ยถึงมัน เธอจึงทำได้เพียงอาศัยเวลาที่ตัวเองเมาแล้วพูดให้ตัวเองฟัง เธอเกลียดโม่เซ่าเหยียนเพราะเธอควรเกลียดเขา เดิมทีเธอมีชีวิตการเป็นอยู่อย่างดี แต่เพราะการบังคับของโม่เซ่าเหยียน เธอจึงโดนหลอกทุกหนทาง

แต่เซี่ยอันหรานกลับยิ่งเกลียดตัวเองมากขึ้น เกลียดที่จู่ๆเธอก็ตกหลุมรักโม่เซ่าเหยียนและเกลียดสถานการณ์ปัจจุบันที่ต่อไม่ได้ตัดไม่ขาด!

ในช่วงคลับคลายคลับคาก็มีมือเย็นๆแตะไปที่ใบหน้าของเธอ ดูเหมือนจะเช็ดน้ำตาให้เธอ เซี่ยอันหรานทนปวดกระเพาะจึงคว้ามือนั้นไว้ แม้ว่ามือนั้นจะเย็นแต่เธอกลับรู้สึกดีมาก เซี่ยอันหรานรู้สึกคุ้นเคยแต่สมองที่ยุ่งเหยิงของเธอจำไม่ได้ว่าเคยสัมผัสมือนั้นที่ไหนมาก่อน

เธอกุมมือนั้นแน่นแล้วพูดด้วยถ้อยคำที่ซ่อนอยู่ในใจของเธอด้วยอาการมึนเมา: “ไม่ง่ายเลยที่ฉันจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ไม่ง่ายเลยที่จะกลับมารวมตัวกับครอบครัวอีกครั้ง ทำไมคุณต้องทำให้ทุกอย่างวุ่นวายไปหมด โม่เซ่าเหยียน ฉันเกลียดคุณจริงๆ!"

ฉันควรจะเกลียดคุณ แต่ทำไมฉันกลับชอบคุณแทน?

ไม่รู้ว่าคำพูดของเซี่ยอันหรานไปสะกิดอะไรเจ้าของมือเข้า ทันใดนั้นมือนั้นก็สั่นอย่างรุนแรงและดึงมือออกจากมือเซี่ยอันหรานทันที เซี่ยอันหรานที่กึ่งหลับกึ่งตื่นก็เอื้อมมือออกไปเพื่อพยายามคว้ามือนั้นที่กำลังหลบ แต่มือนั้นไวมากและปิดกั้นเซี่ยอันหรานไว้ จากนั้นเขาก็ถอยกลับไปในความมืดอย่างรวดเร็ว

อาการปวดท้องอย่างรุนแรง ทำให้เซี่ยอันหรานเลิกสนใจสิ่งอื่นและรีบกุมกระเพาะของเธอไว้และร้องออกมาว่า "เจ็บ … "

มันเจ็บมากจริงๆ ร่างกายที่เจ็บปวดและหัวใจที่เจ็บมากกว่า ความสัมพันธ์ของเธอกับโม่เซ่าเหยียนและอนาคตของตระกูลเซี่ยยุ่งเหยิงเข้าด้วยกัน ทำให้เซี่ยอันหรานรู้สึกเจ็บปวดไปหมด

ในที่สุดก็มีคนกอดเธอไว้ คนนั้นไม่กล้าออกแรงราวกับว่าเขากลัวจะไปทำร้ายเธอ แต่เซี่ยอันหรานกลับกำคนๆนั้นไว้แน่นและขอร้องด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ“กอดฉันไว้ … ”

หลังจากนั้นไม่นาน คนๆนั้นก็กอดเซี่ยอันหรานไว้แน่น เซี่ยอันหรานเหมือนคนที่กำลังจะจมน้ำและในที่สุดก็คว้าท่อนไม้ที่ลอยอยู่บนน้ำไว้ได้ เธอถอนหายใจยาวและในที่สุดก็หลับตาลงด้วยความสบายใจ แม้ว่าความเจ็บปวดบนร่างกายของเธอจะไม่บรรเทาลง แต่จิตวิญญาณของเธอที่เอาแต่ดิ้นรนอย่างกระวนกระวาย เพราะได้รับการพักพิงจากอ้อมกอดนี้ทำให้เธอนอนหลับได้อย่างสงบ

เช้าวันรุ่งขึ้น อาการปวดแสบปวดร้อนในท้องปลุกเซี่ยอันหรานตื่นขึ้น เธอกุมท้องไว้และลูบไปที่ขมับ จากนั้นก็ค่อยๆลุกขึ้นนั่งบนเตียงและเห็นโจ๊กวางอยู่บนตู้ข้างเตียง

โจ๊กยังร้อนเล็กน้อย แม้ว่ายังไม่ได้กินแต่ดูเหมือนว่าเซี่ยอันหรานจะได้ลิ้มรสผ่านกลิ่นหอมหวานอันเป็นเอกลักษณ์ของโจ๊กแล้ว

โจ๊กนี้ใครเป็นคนทำอ่ะ? หรือว่าโม่เซ่าเหยียนกลับมาแล้วงั้นหรอ? โม่เซ่าเหยียนเป็นคนทำ?

ถ้าโม่เซ่าเหยียนกลับมาแล้ว งั้นคำพูดที่สับสนมึนงงที่เธอไม่ควรพูดเมื่อคืนนี้ โม่เซ่าเหยียนก็ได้ยินทั้งหมดแล้วนะสิ?

หัวใจของเซี่ยอันหรานบีบแน่น หนังศีรษะของเธอก็เริ่มกระวนกระวายจนเริ่มชา แต่ความกังวลในใจเธอก็สู้ความต้องการทางร่างกายของเธอไม่ได้ เมื่อได้กลิ่นโจ๊กที่โชยมาอีกครั้ง เซี่ยอันหรานออกแรงเม้มที่มุมปากของเธอแล้วกลืนน้ำลายลง จากนั้นก็รีบหยิบชามโจ๊กขึ้นมากินทันที

ในความเป็นจริงรสชาติของโจ๊กไม่ได้ดีอย่างที่เซี่ยอันหรานจินตนาการเอาไว้ ถึงแม้จะมีกลิ่นเล็กน้อยแต่เนื่องจากเซี่ยอันหรานหิวมาก โจ๊กชามอุ่นๆนี้พอกินเข้าไปแล้วรู้สึกสบายมาก เพียงไม่กี่คำเซี่ยอันหรานก็กินโจ๊กชามเล็กๆจนหมด

"โธ่ คุณหนูของฉัน พอเธอตื่นขึ้นมาแล้วเธอก็ไม่ควรนึกถึงแต่เรื่องกินเป็นอย่างแรกมั้ง" โอวหยางเชี่ยนหรงปรากฏตัวขึ้นในห้องของเซี่ยอันหราน โดยยืนพิงประตูพร้อมกับส่ายหัวไปมาและถอนหายใจ

เซี่ยอันหรานไม่คาดคิดว่าโอวหยางเชี่ยนหรงจะปรากฏตัวในคฤหาสน์ที่เธออาศัยอยู่ เธอตกใจกับการปรากฏตัวของโอวหยางเชี่ยนหรงมากจนลืมตัวแล้วกัดไปที่โจ๊กร้อนๆเข้าไปในปาก ทำให้เธอร้อนจนต้องรีบเอามือสะบัดที่ด้านนอกปากทันที

หลังจากนั้นไม่นานเซี่ยอันหรานก็พูดว่า "พี่เชี่ยนหรง พี่มาที่นี้ได้ยังไง?"

“ฉันก็ไม่อยากอยู่ที่นี้หรอก” โอวหยางเชี่ยนหรงกลอกตาและถอนหายใจยาวๆ พร้อมกับทำท่าทางถูกบังคับอย่างไม่มีทางเลือก

เมื่อเห็นเซี่ยอันหรานขมวดคิ้วอย่างสงสัย โอวหยางเชี่ยนหรงก็นั่งลงข้างเตียงและรีบอธิบายด้วยรอยยิ้ม: "อืม … คือฉันได้ยินมาว่าเฉิงเสี่ยวเถียนมาส่งเธอที่นี้ก็ไปเลย ไม่วางใจเธอก็เลยแวะมาดู ปรากฏว่าบังเอิญรู้เข้าว่าเธอไม่สบาย ฉันก็เลยอยู่ดูแลเธอ"

เซี่ยอันหรานขมวดคิ้วและมองลงไปที่ชามโจ๊กในมือ“ พี่เชี่ยนหรงเป็นคนทำโจ๊กนี้?”

โอวหยางเชี่ยนหรงหยุดชะงักชั่วคราวและพยักหน้า: “แน่นอนว่าฉันเป็นคนทำ ไม่งั้นจะใครล่ะ?ประธานโม่?”

สีหน้าหวาดกลัวปรากฏขึ้นบนใบหน้าของโอวหยางเชี่ยนหรง จากนั้นเธอก็ส่ายหัวช้าๆ: “ประธานโม่ทำโจ๊ก นั่นคงเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา"

“ถ้างั้นเมื่อคืนพี่เชี่ยนหรงก็อยู่ข้างๆฉันงั้นเหรอ?” เซี่ยอันหรานยังคงกังวลและอดไม่ได้ที่จะถามอีกครั้ง

โอวหยางเชี่ยนหรงพยักหน้า: “ไม่งั้นจะมีใครอีกล่ะ?เมื่อคืนฉันก็กังวลว่าประธานโม่จะกลับมา แต่หลังจากรอมาทั้งคืนประธานโม่ก็ไม่ได้กลับมาเลย"

ทันใดนั้นสีหน้าของโอหยางเฉียนหรงก็ดิ่งลงและพูดเสียงเบาว่า: “อันหราน ถ้าเธอดื่มเหล้าไม่ได้ต่อไปก็อย่าดื่มเยอะแบบนี้ เรื่องแบบนี้เลี่ยงได้ก็เลี่ยง ห้ามดื้อ คนอื่นแค่ชวนเธอก็ดื่มล่ะ"

อันที่จริงเซี่ยอันหรานไม่รู้ว่าเธอไม่สามารถดื่มแอลกอฮอล์ได้มากขนาดนั้น เธอน่าจะดื่มพอประมาณก็พอ อีกอย่างสถานการณ์เมื่อวานก็ไม่ใช่ว่าจำเป็นต้องดื่ม แต่เป็นเพราะเมื่อวานนี้เธอคิดว่าความเย็นชาของโม่เซ่าเหยียนทำให้รู้สึกอึดอัด จากนั้นไม่ทันไรเธอก็ดื่มมากเกินไปโดยไม่รู้ตัว

พอตอนนี้ลองคิดๆดูแล้วเธอก็รู้สึกตลกตัวเอง ทำไมเธอถึงกลายเป็นผู้หญิงที่โกรธง่ายเช่นนี้ เพราะสายตาที่เย็นชาหรือความเฉยเมยของโม่เซ่าเหยียน ก็ทำให้เธอต้องตกตะลึงพรึงเพริดขนาดนี้

ตลกจริงๆ!

เพราะเธอรู้สึกตลกเกินไป เซี่ยอันหรานจึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

เธอยิ้มพร้อมกับส่ายหัวไปมา: "ต่อไปฉันจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว"

“ไม่มีต่อไปแล้ว เธอไม่รู้หรอว่าครั้งนี้ทำเฉิงเสี่ยวเถียนตกใจขนาดไหน? เอาแต่ร้องไห้และบอกว่าเสียใจที่ไม่ได้เข้ามากับเธอ … ” ในขณะที่โอวหยางเชี่ยนหรงกำลังพูด ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น

โอวหยางเชี่ยนหรงรีบรับสายทันที: "ฮัลโหล่ … อืม อะไรนะ?โอเค ฉันเข้าใจแล้ว เธอส่งรายงานที่เกี่ยวข้องมาให้ฉัน ฉันดูสถานการณ์ก่อนค่อยจัดการ”

เมื่อโอวหยางเชี่ยนหรงพูดจบเธอก็รีบวางสายทันที จากนั้นก็หันหน้าจ้องไปที่เซี่ยอันหราน

เซี่ยอันหรานหดตัวกลับอย่างระมัดระวังและถามเบา ๆ “พี่เชี่ยนหรง สายตาพี่น่ากลัวมาก เกิดอะไรขึ้น?"

โอวหยางเชี่ยนหรงหายใจเข้าลึกๆ และพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า "หัวข้อพาดหัวข่าวของวันนี้คือหมิงเยี่ยนเฟยมีแฟนแล้ว"

"โอ้?" เซี่ยอันหรานพยักหน้าและจิบโจ๊กในชาม: “ไม่คิดเลยว่าจู่ๆราชาแห่งวงการบันเทิงจะมีแฟนแล้ว ถ้างั้นก็มีแฟนคลับสาวๆต้องใจสลายเยอะเลยนะสิ แต่แฟนของหมิงเยี่ยนเฟยคือใครหรอ? ทำไมพี่เชี่ยนหรงถึงดูเครียดขนาดนี้ "

"เพราะแฟนของ หมิงเยี่ยนเฟยคือเธอ!" โอวหยางเชี่ยนหรงหลี่ตามองเซี่ยอันหรานพร้อมกับพูดด้วยเสียงทุ้ม

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ 62 แฟนของหมิงเยี่ยนเฟย

Now you are reading ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ Chapter 62 แฟนของหมิงเยี่ยนเฟย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เฉิงเสี่ยวเถียนรีบกลับมาจากข้างนอกอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เธอกลับมาที่นั่งชั้นพิเศษ เธอก็รีบขอบคุณหมิงเยี่ยนเฟยแล้วพยุงเซี่ยอันหรานที่เมาฟุบอยู่ข้างโต๊ะและออกจากที่นั่งชั้นพิเศษโดยไม่ทันสังเกตตอนที่หมิงเยี่ยนเฟยกำลังพยุงเซี่ยอันหรานเขาเกือบจะกอดเซี่ยอันหรานไว้ในอ้อมแขนของเขา

บนใบหน้าของหมิงเยี่ยนเฟยเผยให้เห็นรอยยิ้มที่อ่อนโยน เมื่อเห็นเฉิงเสี่ยวเถียนกำลังพยุงเซี่ยอันหราน เขาก็ลุกขึ้นตามหลังไปทันทีและช่วยพยุงเซี่ยอันหรานอีกแรง เมื่อเห็นเซี่ยอันหรานและเฉิงเสี่ยวเถียนขึ้นรถและออกไปแล้ว หมิงเยี่ยนเฟยก็หันหลังกลับและขึ้นรถเพื่อไปที่สนามบิน

ในตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว หมิงเยี่ยนเฟยมองผ่านกระจกหน้าต่างรถ มองไปที่แสงระยิบระยับพร่างพราวแต่กลับเงียบเหงาและน่าเวทนาด้านนอก พร้อมกับฮัมเพลงที่เขาและเซี่ยอันหรานเพิ่งร้องด้วยกันเบา ๆ

ผู้จัดการที่นั่งอยู่ด้านหน้าได้ยินหมิงเยี่ยนเฟยกำลังร้องเพลง ในขณะที่เขาหาวเขาก็มองกลับไปที่หมิงเยี่ยนเฟย และถามด้วยรอยยิ้ม “วันนี้อารมณ์ดีใช้ได้เลยนะ แถมยังร้องเพลงด้วย?นายไม่ชอบร้องเพลงที่สุดแล้วไม่ใช่หรอ?”

"เอ่อ?" หมิงเยี่ยนเฟยยกมุมปากขึ้นและถามด้วยรอยยิ้มจางๆ “เมื่อกี้ผมร้องเพลงเหรอ?"

“แน่นอนสิ เอาแต่ร้องเพลงตลอดทาง" ผู้จัดการหันหน้าไปมองหมิงเยี่ยนเฟย จากนั้นดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง: “เยี่ยนเฟยอย่าทำฉันตกใจนะ ถึงแม้ตอนนี้นายจะมีแรงกดดันในหน้าที่การงานอย่างหนัก แต่ไม่ใช่ว่าตัวเองทำอะไรมาแล้วแต่จำไม่ได้นะ”

"ผมแค่ไม่ทันสังเกต … " หมิงเยี่ยนเฟยหลี่ตาเล็กน้อยแล้วหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างพลางยิ้มเบาๆ : “ที่แท้ เมื่อกี้ผมก็ร้องเพลงนิเอง"

ในตอนกลางคืน ใบหน้าของหมิงเยี่ยนเฟยสะท้อนกระจกหน้าต่างของรถที่แล่นไปด้วยความเร็ว ในขณะนี้มุมปากของเขาค่อยๆยกขึ้นเล็กน้อยและยิ้มเบาๆ มันเหมือนรอยยิ้มที่เขาต้องเผชิญหน้ากับสื่อและแฟนคลับในทุกๆครั้ง แต่ดูๆแล้วมันมีบางอย่างที่ดูแตกต่างออกไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง มันเหมือนกับว่ารอยยิ้มนี้ดูจริงใจมากกว่าก่อนหน้านี้

เซี่ยอันหรานผงกหัวตลอดทางกลับคฤหาสน์ที่เธออาศัยอยู่ แม้ว่าเธอจะเมาหนักมาก แต่เธอก็ยังมีสติอยู่เล็กน้อย เธอรู้ว่าถ้าหมิงเยี่ยนเฟยได้รับอนุญาตให้เข้าไปในคฤหาสน์ เธออาจจะได้เจอโม่เซ่าเหยียนซึ่งอาจจะอยู่ในคฤหาสน์นั้น

เซี่ยอันหรานเดินไปถึงประตูและยื่นมือออกไปเพื่อหยุดเฉิงเสี่ยวเถียนไว้: "เสี่ยวเถียน เธอกลับไปก่อนเถอะ"

เฉิงเสี่ยวเถียนขมวดคิ้วเมื่อเซี่ยอันหรานพูดเช่นนี้ “แต่ แต่ว่าคุณเมาหนักขนาดนี้ ฉันจะส่งเธอเข้าไปเอง”

เซี่ยอันหรานส่ายหัว: "ฉันไม่เป็นไร"

ในขณะที่พูดอย่างนั้น เซี่ยอันหรานก็เปิดประตูเข้าไปในคฤหาสน์และพูดด้วยจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งว่า: “ดูสิ ฉันไม่เป็นไรแล้ว พอแล้ว พอแล้ว ฉันจะไปนอนแล้ว เธอก็กลับไปพักผ่อนเถอะ กลับดีๆล่ะ”

หลังจากที่เซี่ยอันหรานพูดจบเธอก็ปิดประตู ทันทีที่ประตูปิด เซี่ยอันหรานก็พิงไปที่ประตูและค่อยๆเลื้อยไปนั่ง เมื่อสัมผัสลงบนพื้นที่เย็นเฉียบ เซี่ยอันหรานก็กัดฟันแล้วลุกขึ้นยืนอีกครั้ง จากนั้นก็เดินจับราวบันไดเซไปเซมาและขึ้นชั้นบนไป

เมื่อถึงห้องนอนบนชั้นสอง พอเซี่ยอันหรานแตะไปที่เตียงก็ล้มตัวลงนอนทันที เซี่ยอันหรานที่ไม่ได้พักผ่อนดีๆตั้งแต่เมื่อวานแถมยังดื่มเหล้าหนักมาก แต่พอเธอหลับตาลงด้วยความมึนเธอกลับนอนไม่หลับเลย

เธอยกมือและยืดขึ้นบนอากาศแล้วร่างโครงร่างของโม่เซ่าเหยียนจางๆ จากนั้นก็หัวเราะด้วยเสียงต่ำ: "โม่เซ่าเหยียคุณมันเลว ฉันผิดเองที่ไปชอบคุณมาก ทำไมไม่ทำให้ฉันเกลียดคุณล่ะ เดิมทีฉันควรจะเกลียดคุณด้วยซ้ำ ฉันควรเกลียดคุณ … "

"ฉันเกลียดคุณ……"

เซี่ยอันหรานพึมพำในขณะที่ม้วนตัวเป็นวงกลมเล็กๆในคืนที่หนาวเหน็บ คืนที่วุ่นวายปกคลุมร่างกายของเซี่ยอันหราน เธอกำลังพูดส่งเดชในขณะที่กึ่งหลับกึ่งตื่น เธอไม่ได้กินอะไรมาสองวันแล้วและเพิ่งดื่มเหล้าไปเยอะมากซึ่งทำให้เธอปวดกระเพาะ แต่เธอไม่มีแรงที่จะลืมตาขึ้นมาจึงทำได้เพียงฟุบอยู่บนเตียงและต้องทนกับความเจ็บปวดพร้อมกับพูดว่าว่าเกลียดโม่เซ่าเหยียนด้วยความโกรธ

คำเหล่านี้เธอไม่สามารถพูดออกไปได้ แม้แต่แม่ของเธอก็ไม่กล้าเอ่ยถึงมัน เธอจึงทำได้เพียงอาศัยเวลาที่ตัวเองเมาแล้วพูดให้ตัวเองฟัง เธอเกลียดโม่เซ่าเหยียนเพราะเธอควรเกลียดเขา เดิมทีเธอมีชีวิตการเป็นอยู่อย่างดี แต่เพราะการบังคับของโม่เซ่าเหยียน เธอจึงโดนหลอกทุกหนทาง

แต่เซี่ยอันหรานกลับยิ่งเกลียดตัวเองมากขึ้น เกลียดที่จู่ๆเธอก็ตกหลุมรักโม่เซ่าเหยียนและเกลียดสถานการณ์ปัจจุบันที่ต่อไม่ได้ตัดไม่ขาด!

ในช่วงคลับคลายคลับคาก็มีมือเย็นๆแตะไปที่ใบหน้าของเธอ ดูเหมือนจะเช็ดน้ำตาให้เธอ เซี่ยอันหรานทนปวดกระเพาะจึงคว้ามือนั้นไว้ แม้ว่ามือนั้นจะเย็นแต่เธอกลับรู้สึกดีมาก เซี่ยอันหรานรู้สึกคุ้นเคยแต่สมองที่ยุ่งเหยิงของเธอจำไม่ได้ว่าเคยสัมผัสมือนั้นที่ไหนมาก่อน

เธอกุมมือนั้นแน่นแล้วพูดด้วยถ้อยคำที่ซ่อนอยู่ในใจของเธอด้วยอาการมึนเมา: “ไม่ง่ายเลยที่ฉันจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ไม่ง่ายเลยที่จะกลับมารวมตัวกับครอบครัวอีกครั้ง ทำไมคุณต้องทำให้ทุกอย่างวุ่นวายไปหมด โม่เซ่าเหยียน ฉันเกลียดคุณจริงๆ!"

ฉันควรจะเกลียดคุณ แต่ทำไมฉันกลับชอบคุณแทน?

ไม่รู้ว่าคำพูดของเซี่ยอันหรานไปสะกิดอะไรเจ้าของมือเข้า ทันใดนั้นมือนั้นก็สั่นอย่างรุนแรงและดึงมือออกจากมือเซี่ยอันหรานทันที เซี่ยอันหรานที่กึ่งหลับกึ่งตื่นก็เอื้อมมือออกไปเพื่อพยายามคว้ามือนั้นที่กำลังหลบ แต่มือนั้นไวมากและปิดกั้นเซี่ยอันหรานไว้ จากนั้นเขาก็ถอยกลับไปในความมืดอย่างรวดเร็ว

อาการปวดท้องอย่างรุนแรง ทำให้เซี่ยอันหรานเลิกสนใจสิ่งอื่นและรีบกุมกระเพาะของเธอไว้และร้องออกมาว่า "เจ็บ … "

มันเจ็บมากจริงๆ ร่างกายที่เจ็บปวดและหัวใจที่เจ็บมากกว่า ความสัมพันธ์ของเธอกับโม่เซ่าเหยียนและอนาคตของตระกูลเซี่ยยุ่งเหยิงเข้าด้วยกัน ทำให้เซี่ยอันหรานรู้สึกเจ็บปวดไปหมด

ในที่สุดก็มีคนกอดเธอไว้ คนนั้นไม่กล้าออกแรงราวกับว่าเขากลัวจะไปทำร้ายเธอ แต่เซี่ยอันหรานกลับกำคนๆนั้นไว้แน่นและขอร้องด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ“กอดฉันไว้ … ”

หลังจากนั้นไม่นาน คนๆนั้นก็กอดเซี่ยอันหรานไว้แน่น เซี่ยอันหรานเหมือนคนที่กำลังจะจมน้ำและในที่สุดก็คว้าท่อนไม้ที่ลอยอยู่บนน้ำไว้ได้ เธอถอนหายใจยาวและในที่สุดก็หลับตาลงด้วยความสบายใจ แม้ว่าความเจ็บปวดบนร่างกายของเธอจะไม่บรรเทาลง แต่จิตวิญญาณของเธอที่เอาแต่ดิ้นรนอย่างกระวนกระวาย เพราะได้รับการพักพิงจากอ้อมกอดนี้ทำให้เธอนอนหลับได้อย่างสงบ

เช้าวันรุ่งขึ้น อาการปวดแสบปวดร้อนในท้องปลุกเซี่ยอันหรานตื่นขึ้น เธอกุมท้องไว้และลูบไปที่ขมับ จากนั้นก็ค่อยๆลุกขึ้นนั่งบนเตียงและเห็นโจ๊กวางอยู่บนตู้ข้างเตียง

โจ๊กยังร้อนเล็กน้อย แม้ว่ายังไม่ได้กินแต่ดูเหมือนว่าเซี่ยอันหรานจะได้ลิ้มรสผ่านกลิ่นหอมหวานอันเป็นเอกลักษณ์ของโจ๊กแล้ว

โจ๊กนี้ใครเป็นคนทำอ่ะ? หรือว่าโม่เซ่าเหยียนกลับมาแล้วงั้นหรอ? โม่เซ่าเหยียนเป็นคนทำ?

ถ้าโม่เซ่าเหยียนกลับมาแล้ว งั้นคำพูดที่สับสนมึนงงที่เธอไม่ควรพูดเมื่อคืนนี้ โม่เซ่าเหยียนก็ได้ยินทั้งหมดแล้วนะสิ?

หัวใจของเซี่ยอันหรานบีบแน่น หนังศีรษะของเธอก็เริ่มกระวนกระวายจนเริ่มชา แต่ความกังวลในใจเธอก็สู้ความต้องการทางร่างกายของเธอไม่ได้ เมื่อได้กลิ่นโจ๊กที่โชยมาอีกครั้ง เซี่ยอันหรานออกแรงเม้มที่มุมปากของเธอแล้วกลืนน้ำลายลง จากนั้นก็รีบหยิบชามโจ๊กขึ้นมากินทันที

ในความเป็นจริงรสชาติของโจ๊กไม่ได้ดีอย่างที่เซี่ยอันหรานจินตนาการเอาไว้ ถึงแม้จะมีกลิ่นเล็กน้อยแต่เนื่องจากเซี่ยอันหรานหิวมาก โจ๊กชามอุ่นๆนี้พอกินเข้าไปแล้วรู้สึกสบายมาก เพียงไม่กี่คำเซี่ยอันหรานก็กินโจ๊กชามเล็กๆจนหมด

"โธ่ คุณหนูของฉัน พอเธอตื่นขึ้นมาแล้วเธอก็ไม่ควรนึกถึงแต่เรื่องกินเป็นอย่างแรกมั้ง" โอวหยางเชี่ยนหรงปรากฏตัวขึ้นในห้องของเซี่ยอันหราน โดยยืนพิงประตูพร้อมกับส่ายหัวไปมาและถอนหายใจ

เซี่ยอันหรานไม่คาดคิดว่าโอวหยางเชี่ยนหรงจะปรากฏตัวในคฤหาสน์ที่เธออาศัยอยู่ เธอตกใจกับการปรากฏตัวของโอวหยางเชี่ยนหรงมากจนลืมตัวแล้วกัดไปที่โจ๊กร้อนๆเข้าไปในปาก ทำให้เธอร้อนจนต้องรีบเอามือสะบัดที่ด้านนอกปากทันที

หลังจากนั้นไม่นานเซี่ยอันหรานก็พูดว่า "พี่เชี่ยนหรง พี่มาที่นี้ได้ยังไง?"

“ฉันก็ไม่อยากอยู่ที่นี้หรอก” โอวหยางเชี่ยนหรงกลอกตาและถอนหายใจยาวๆ พร้อมกับทำท่าทางถูกบังคับอย่างไม่มีทางเลือก

เมื่อเห็นเซี่ยอันหรานขมวดคิ้วอย่างสงสัย โอวหยางเชี่ยนหรงก็นั่งลงข้างเตียงและรีบอธิบายด้วยรอยยิ้ม: "อืม … คือฉันได้ยินมาว่าเฉิงเสี่ยวเถียนมาส่งเธอที่นี้ก็ไปเลย ไม่วางใจเธอก็เลยแวะมาดู ปรากฏว่าบังเอิญรู้เข้าว่าเธอไม่สบาย ฉันก็เลยอยู่ดูแลเธอ"

เซี่ยอันหรานขมวดคิ้วและมองลงไปที่ชามโจ๊กในมือ“ พี่เชี่ยนหรงเป็นคนทำโจ๊กนี้?”

โอวหยางเชี่ยนหรงหยุดชะงักชั่วคราวและพยักหน้า: “แน่นอนว่าฉันเป็นคนทำ ไม่งั้นจะใครล่ะ?ประธานโม่?”

สีหน้าหวาดกลัวปรากฏขึ้นบนใบหน้าของโอวหยางเชี่ยนหรง จากนั้นเธอก็ส่ายหัวช้าๆ: “ประธานโม่ทำโจ๊ก นั่นคงเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา"

“ถ้างั้นเมื่อคืนพี่เชี่ยนหรงก็อยู่ข้างๆฉันงั้นเหรอ?” เซี่ยอันหรานยังคงกังวลและอดไม่ได้ที่จะถามอีกครั้ง

โอวหยางเชี่ยนหรงพยักหน้า: “ไม่งั้นจะมีใครอีกล่ะ?เมื่อคืนฉันก็กังวลว่าประธานโม่จะกลับมา แต่หลังจากรอมาทั้งคืนประธานโม่ก็ไม่ได้กลับมาเลย"

ทันใดนั้นสีหน้าของโอหยางเฉียนหรงก็ดิ่งลงและพูดเสียงเบาว่า: “อันหราน ถ้าเธอดื่มเหล้าไม่ได้ต่อไปก็อย่าดื่มเยอะแบบนี้ เรื่องแบบนี้เลี่ยงได้ก็เลี่ยง ห้ามดื้อ คนอื่นแค่ชวนเธอก็ดื่มล่ะ"

อันที่จริงเซี่ยอันหรานไม่รู้ว่าเธอไม่สามารถดื่มแอลกอฮอล์ได้มากขนาดนั้น เธอน่าจะดื่มพอประมาณก็พอ อีกอย่างสถานการณ์เมื่อวานก็ไม่ใช่ว่าจำเป็นต้องดื่ม แต่เป็นเพราะเมื่อวานนี้เธอคิดว่าความเย็นชาของโม่เซ่าเหยียนทำให้รู้สึกอึดอัด จากนั้นไม่ทันไรเธอก็ดื่มมากเกินไปโดยไม่รู้ตัว

พอตอนนี้ลองคิดๆดูแล้วเธอก็รู้สึกตลกตัวเอง ทำไมเธอถึงกลายเป็นผู้หญิงที่โกรธง่ายเช่นนี้ เพราะสายตาที่เย็นชาหรือความเฉยเมยของโม่เซ่าเหยียน ก็ทำให้เธอต้องตกตะลึงพรึงเพริดขนาดนี้

ตลกจริงๆ!

เพราะเธอรู้สึกตลกเกินไป เซี่ยอันหรานจึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

เธอยิ้มพร้อมกับส่ายหัวไปมา: "ต่อไปฉันจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว"

“ไม่มีต่อไปแล้ว เธอไม่รู้หรอว่าครั้งนี้ทำเฉิงเสี่ยวเถียนตกใจขนาดไหน? เอาแต่ร้องไห้และบอกว่าเสียใจที่ไม่ได้เข้ามากับเธอ … ” ในขณะที่โอวหยางเชี่ยนหรงกำลังพูด ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น

โอวหยางเชี่ยนหรงรีบรับสายทันที: "ฮัลโหล่ … อืม อะไรนะ?โอเค ฉันเข้าใจแล้ว เธอส่งรายงานที่เกี่ยวข้องมาให้ฉัน ฉันดูสถานการณ์ก่อนค่อยจัดการ”

เมื่อโอวหยางเชี่ยนหรงพูดจบเธอก็รีบวางสายทันที จากนั้นก็หันหน้าจ้องไปที่เซี่ยอันหราน

เซี่ยอันหรานหดตัวกลับอย่างระมัดระวังและถามเบา ๆ “พี่เชี่ยนหรง สายตาพี่น่ากลัวมาก เกิดอะไรขึ้น?"

โอวหยางเชี่ยนหรงหายใจเข้าลึกๆ และพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า "หัวข้อพาดหัวข่าวของวันนี้คือหมิงเยี่ยนเฟยมีแฟนแล้ว"

"โอ้?" เซี่ยอันหรานพยักหน้าและจิบโจ๊กในชาม: “ไม่คิดเลยว่าจู่ๆราชาแห่งวงการบันเทิงจะมีแฟนแล้ว ถ้างั้นก็มีแฟนคลับสาวๆต้องใจสลายเยอะเลยนะสิ แต่แฟนของหมิงเยี่ยนเฟยคือใครหรอ? ทำไมพี่เชี่ยนหรงถึงดูเครียดขนาดนี้ "

"เพราะแฟนของ หมิงเยี่ยนเฟยคือเธอ!" โอวหยางเชี่ยนหรงหลี่ตามองเซี่ยอันหรานพร้อมกับพูดด้วยเสียงทุ้ม

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+