ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ 7 ไม่เป็นคนโง่ที่มีเงิน

Now you are reading ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ Chapter 7 ไม่เป็นคนโง่ที่มีเงิน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แม้ว่าตระกูลเซี่ยจะช่วยเลี้ยงดูฉู่เสี่ยวเสี่ยว และทุกเดือนก็จะให้เงินฉู่เสี่ยวเสี่ยวหลายหมื่นหยวน ซึ่งนี่เองก็เป็นเงินเดือนจำนวนมากที่พนักงานออฟฟิศระดับสูงยังไม่สามารถหาได้ แต่ว่าสำหรับฉู่เสี่ยวเสี่ยวแล้วเงินจำนวนนี้ไม่เพียงพอให้ใช้เลย

ฉู่เสี่ยวเสี่ยวเคยชินกับการทำตัวร่ำรวยสวมใส่เสื้อผ้าหรูหราเวลาอยู่ข้างนอก เดิมทีเวลาออกไปเที่ยวกับเพื่อนร่วมชั้น เธอก็จะเป็นคนจ่ายเงินทั้งสิ้น

อีกทั้งฉู่เสี่ยวเสี่ยวก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นจำนวนมาก เสื้อผ้าหลายชุดที่เธอเคยสวมใส่แล้วก็จะไม่นำกลับมาใส่ซ้ำอีก กระเป๋าที่เคยใช้เพียงสองครั้งก็จะไม่ใช้อีกแล้ว รายจ่ายเหล่านี้อย่างน้อยที่สุดก็จำเป็นต้องใช้หลายแสนหยวนต่อเดือน ถ้าหากว่าไม่มีเซี่ยอันหราน ยัยโง่กระเป๋าหนักมาคอยจ่ายให้เธอแล้ว ฉู่เสี่ยวเสี่ยวเองก็ไม่รู้ว่าจะสามารถจ่ายรายจ่ายทั้งหมดนี้ได้อย่างไร หรือว่าเธอจะต้องออกไปทำงานอย่างงั้นเหรอ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงจะเสียหน้าแย่

ถ้าหากว่าเข้าทางคุณท่านและคุณนายตระกูลเซี่ยล่ะก็ ฉู่เสี่ยวเสี่ยวเองก็รู้สึกว่าจะเป็นการทำลายภาพลักษณ์เด็กดีของเธอเอาได้ เธอเป็นลูกเลี้ยง จะไปใช้เงินตระกูลเซี่ยซื้อของฟุ่มเฟือยได้อย่างไรกัน เรื่องความเหมาะสมนี้ ฉู่เสี่ยวเสี่ยวเองก็เข้าใจเป็นอย่างดี

ฉู่เสี่ยวเสี่ยวคิดได้ดังนี้ ก็เริ่มรู้สึกเคียดแค้นเซี่ยอันหรานขึ้นมาอีก ทั้งหมดล้วนแต่เป็นเพราะเซี่ยอันหราน ถ้าหากว่าไม่มีเซี่ยอันหราน คุณนายใหญ่แห่งตระกูลเซี่ยก็คงจะให้บัตรเครดิตอีกใบเธอมา และก็คงให้เธอเอามาใช้รูดได้ตามใจชอบไปแล้ว

เพราะว่ามีเซี่ยอันหราน จึงทำให้มีหลายสิ่งที่เธอไม่อาจมีเหนือไปกว่าเซี่ยอันหรานได้ เพราะไม่อย่างนั้นแล้วก็คงจะมีคนถกเถียงซุบซิบนินทาเอาได้ ลูกชายลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเซี่ยเองยังไม่ได้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยหรูหราเลย แล้วฉู่เสี่ยวเสี่ยวที่เป็นลูกเลี้ยงจะกลับมาใช้เงินมือเติบได้อย่างไรกัน

แต่ว่าเงินที่ฉู่เสี่ยวเสี่ยวใช้นั้นสำหรับตระกูลเซี่ยแล้วถือได้ว่าเป็นเพียงเศษเสี้ยวของเงินเท่านั้นเอง ตระกูลเซี่ยร่ำรวยเป็นอย่างมาก และให้เธอใช้สักหน่อยล่ะจะเป็นอะไร

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ฉู่เสี่ยวเสี่ยวก็พูดกับเซี่ยอันหรานด้วยน้ำเสียงที่แข็งขึ้นมาเล็กน้อย "อันหราน ทำไมเธอถึงไม่เข้าใจอะไรเลยล่ะ ตอนนี้หานักแสดงกับหานางงามก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอกนะ"

เซี่ยอันหรานหันหน้าไปมองฉู่เสี่ยวเสี่ยว ทันใดนั้นก็พลันยิ้มขึ้นมา "ดูเหมือนว่าเธออยากจะให้ฉันออกไปให้ได้เลยนะ เอางั้นก็ได้"

ฉู่เสี่ยวเสี่ยวได้ยินว่าเซี่ยอันหรานยอมตกลงไปข้างนอก ก็พลันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกจากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดออกมาว่า "หลังจากที่พาเธอไปซื้อเสื้อผ้าแล้ว ตอนบ่ายฉันก็จะพาเธอไปสัมภาษณ์ด้วย ในอนาคตถ้าเธอกลายมาเป็นดาราดังแล้ว ก็ต้องหาบทเพื่อนนางเอกให้ฉันนะ ทีนี้พวกเราสองคู่ซี้เพื่อนสนิทก็จะได้เดินเข้าวงการบันเทิงแล้วจริงๆ"

"ใช่แล้ว พวกเราสองคนเป็นเพื่อนสนิทกันนี่" เซี่ยอันหรานพูดขึ้นมา พลางเลิกคิ้วขึ้นมาอย่างเป็นธรรมชาติ

ฉู่เสี่ยวเสี่ยวได้ยินเซี่ยอันหราน "ยัยโง่กระเป๋าหนัก" คนนี้ยอมตกลงพาเธอไปเดินซื้อของก็มีความสุขขึ้นมาทันที ดังนั้นเธอจึงไม่ได้สังเกตเห็นถึงนัยที่แฝงเอาไว้ในคำพูดของเซี่ยอันหรานเลย

ตอนที่เซี่ยอันหรานเดินลงมาจากชั้นบนกับฉู่เสี่ยวเสี่ยว เซี่ยจวินและเซี่ยหมิงเซวียนก็ได้ออกไปทำงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีเพียงแต่กู้เหม่ยอวี้ที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟาในห้องรับแขก

เมื่อเห็นว่าเซี่ยอันหรานกับฉู่เสี่ยวเสี่ยวเดินลงมาข้างล่าง กู้เหม่ยอวี้ก็ยิ้มแล้วเอ่ยถามว่า "จะออกไปข้างนอกกันเหรอ"

เซี่ยอันหรานยิ้มแล้วตอบกลับไป "อื้ม เสี่ยวเสี่ยวอยากออกไปซื้อเสื้อผ้า หนูออกไปเป็นเพื่อน"

ฉู่เสี่ยวเสี่ยวรีบเอ่ยปากพูดขึ้นมาในทันทีว่า "หนู……หนูอยากซื้อเสื้อผ้าที่ไหนกัน หนูมีเสื้อผ้าชุดเดียวให้ใส่ก็พอแล้ว จะไปอยากได้เสื้อผ้าใหม่ที่ไหนกัน ฉันออกไปเป็นเพื่อนเธอซื้อเสื้อผ้าต่างหาก ไม่ใช่ว่าตอนบ่ายเธอมีสัมภาษณ์งั้นเหรอ"

เซี่ยอันหรานมองดูฉู่เสี่ยวเสี่ยวที่ยังคงแสร้งทำตัวเป็นเด็กดีต่อหน้าคุณแม่ ก็เผลอยิ้มเย็นออกมา เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าฉู่เสี่ยวเสี่ยวเป็นคนที่อยากออกไปซื้อเสื้อผ้า แล้วนี่ฉู่เสี่ยวเสี่ยวจู่ๆ จะมาพลิกลิ้นเปลี่ยนดำให้กลายเป็นขาวแบบนี้ได้อย่างไรกัน

ได้เลย ในเมื่อฉู่เสี่ยวเสี่ยวแสดงละครมาแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะให้ฉู่เสี่ยวเสี่ยวได้เล่นละครไปจนถึงที่สุดเอง

เซี่ยอันหรานก็พลันยิ้มจนตาหยี "เสี่ยวเสี่ยว ที่แท้เธอก็ไม่อยากออกไปอย่างงั้นเหรอ งั้นก็พอดีเลย ความจริงแล้วฉันก็ไม่อยากออกไปซื้อเสื้อผ้า เสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้าเองก็มากพอที่จะให้ฉันใส่แล้ว ถ้าอย่างงั้นพวกเราก็ไม่ต้องออกไปแล้วกัน พวกเรามาอยู่ที่บ้าน…….."

เซี่ยอันหรานก็วิ่งไปอยู่ที่ด้านข้างของกู้เหม่ยอวี้ แล้วสวมกอดกู้เหม่ยอวี้เข้าเต็มรัก "พวกเรามาอยู่ที่บ้านเป็นเพื่อนคุณแม่กัน หนูคิดถึงแม่มากๆ เลย……"

เซี่ยอันหรานพูดพลางกอดกู้เหม่ยอวี้ไปพลาง ทำตัวงอแงอยู่ในอ้อมกอดของกู้เหม่ยอวี้ราวกับเป็นเด็กตัวเล็กๆ เซี่ยอันหรานพูดออกมาจากใจจริง เธอคิดถึงแม่มากจริงๆ คิดถึงเป็นอย่างมาก

เดิมทีกู้เหม่ยอวี้คิดที่จะหยอกล้อเซี่ยอันหรานที่โตเสียขนาดนี้แล้วแต่ยังคงทำตัวงอแงเป็นเด็กๆ อยู่แต่ว่าเธอก็ไม่ได้เอ่ยมันออกมา ทันใดนั้นหัวใจของเธอก็พลันรู้สึกปวดแปลบออกมา ราวกับว่าเธอไม่ได้พบเจอกับเซี่ยอันหรานมานานมากแล้วจริงๆ

กู้เหม่ยอวี้ก็พลันยิ้มจนดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย ยกมือขึ้นมาตบไปที่ตูดของเซี่ยอันหรานเบาๆ พูดออกมาอย่างแผ่วเบาว่า "เด็กดื้อของแม่ ไม่ซื้อเสื้อผ้าก็ไม่เป็นไร ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีของลูก ใส่อะไรก็ออกมาสวยอยู่แล้ว เสื้อผ้าแบรนด์ดังก็มีแต่จะบดบังประกายของลูก"

เซี่ยอันหรานนั่งพูดคุยหัวเราะคิกคักกับกู้เหม่ยอวี้สองคน แต่ฉู่เสี่ยวเสี่ยวกลับรู้สึกราวกับว่าตนได้นั่งอยู่บนเข็มจำนวนมาก เธอไม่เข้าใจว่าเซี่ยอันหรานที่พูดออกมาอย่างชัดเจนแล้วว่าจะออกไปซื้อเสื้อผ้า แต่ทำไมถึงกลับพูดออกมาอีกว่าไม่ไปแล้ว?

เพราะว่าฉู่เสี่ยวเสี่ยวไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ วันนี้ก็เลยไม่ได้เข้าเรียน ถ้าหากว่าวันพรุ่งนี้ยังไม่มีอะไรให้ใส่ล่ะก็ ไม่รู้ว่าจะมีคนสงสัยถึงตัวตนลูกคุณหนูผู้ร่ำรวยของเธอไหม

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด