คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 564 เสียใจ ห่างชั้นกับอิ๋งจื่อจินเยอะ

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 564 เสียใจ ห่างชั้นกับอิ๋งจื่อจินเยอะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 564 เสียใจ ห่างชั้นกับอิ๋งจื่อจินเยอะ

คนดูแลหันไปมองด้วยความแปลกใจ เห็นหลินชิงจยายังนั่งอยู่ที่เดิมจับถ้วยกาแฟ สีหน้าเหมือนอึ้ง

“เป็นอะไรไปครับคุณหลิน”

“รู้สึกคุ้นหน้าคุณเวินน่ะค่ะ” หลินชิงจยาได้สติกลับมา “เกือบจำผิดแล้ว ขออภัยค่ะ”

เธอยิ้มบาง แววตาสุกใส

ยังคงมีท่าทางสุขุมอ่อนโยน ไม่มีหน้าเสียหรือกระอักกระอ่วนแม้แต่น้อย

หลินชิงจยาอยู่ในตระกูลหลินที่กินคนได้โดยไม่กะพริบตามานานขนาดนี้ ทั้งยังไม่ใช่สมาชิกสายตรง เธอฝึกทำตัวให้ตั้งรับได้ทุกสถานการณ์

“คุ้นเหรอ” อะเดลตามติดเวินทิงหลานมานาน จึงเข้าใจภาษาจีนด้วย “ทิงหลาน รู้จักเธอเหรอ”

เวินทิงหลานตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ไม่รู้จัก”

หลินชิงจยาเม้มริมฝีปาก สีหน้าไม่เปลี่ยน

“คุณเวินต้องไม่รู้จักอยู่แล้วครับ คุณหลินอยู่ในโลกจอมยุทธ์มาตลอด โลกจอมยุทธ์เป็นสถานที่ปิดครับ” คนดูแลยิ้ม “ถ้าพวกคุณอยากไป ให้คุณหลินพาเข้าไปเที่ยวได้นะครับ”

“เธอเป็นถึงคุณหนูใหญ่ของตระกูลหลิน มีสถานะเป็นอันดับต้นๆ ของโลกจอมยุทธ์เลยล่ะครับ”

เวินทิงหลานกลับยังคงนิ่งเฉย “เก่งมากเหรอครับ”

“ไม่เก่งหรอกค่ะ ข่าวลือทั้งนั้น” หลินชิงจยายิ้มพลางพูดขัดจังหวะ “ฉันก็มีความจำเป็นหลายอย่างเหมือนกัน”

“ไม่ได้เตรียมของมีค่าอะไรมาเลย” เธอหยิบกล่องที่ทำจากไม้จันทน์ออกมาสองกล่องแล้วยื่นให้ “นี่เป็นพวกยาที่ฉันทำเอง ถ้าไม่รังเกียจ ทั้งสองท่านรับไว้ด้วยนะคะ”

“ก็ไม่ได้มีค่าอะไรจริงๆ” อะเดลกัดอมยิ้ม เหลือบมองแล้วพูดไปตามตรง “ฉันเคยเห็นยาที่ดีกว่าของคุณเยอะแยะ”

อิ๋งจื่อจินส่งเธอกับเวินทิงหลานไปอยู่โลกจอมยุทธ์ ส่งไปบ้านตระกูลเยี่ย

อะเดลย่อมเคยเห็นยาที่อิ๋งจื่อจินทำ

แพทย์แผนโบราณปรุงยากับวิชาเล่นแร่แปรธาตุมีจุดที่คล้ายกัน แต่กลับไม่ได้เหมือนอย่างสิ้นเชิง รายละเอียดยังต่างกันอยู่มาก

ถึงแม้อะเดลจะเคยคลุกคลีแค่การเล่นแร่แปรธาตุ แต่เธอก็สามารถวินิจฉัยได้ว่ายาไหนดีหรือไม่ดี

ห่างชั้นกับพี่สาวของเธอเยอะ

“ขอโทษด้วยค่ะ” รอยยิ้มบนใบหน้าหลินชิงจยาไม่หายไปแม้แต่น้อย เจือด้วยความรู้สึกขอโทษ “ฉันรีบมา ในบ้านก็ไม่ได้มียาที่ล้ำค่าด้วยค่ะ”

“เอาแบบนี้ ขอที่อยู่ได้ไหมคะ เดี๋ยวฉันจะส่งพวกยาตามไปให้ทีหลัง”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ ไม่ได้ขาดแคลน” อะเดลส่ายมือ “ได้เจอกันแล้ว งั้นพวกเราไปก่อนนะคะ”

ไม่รอให้คนดูแลรั้งไว้ เธอจับมือเวินทิงหลานแล้วเดินออกจากร้านกาแฟ

เวินทิงหลานเงียบไปนาน ในที่สุดก็พูดขึ้น “อะเดล เธอว่าฉันกับคุณหลินคนนั้นหน้าคล้ายกันไหม”

“คล้ายเหรอ” อะเดลมองเขาอยู่นาน “มองไม่ออก”

พึมพำเสียงเบา “ฉันว่าคนเอเชียอย่างพวกนายก็หน้าตาคล้ายกันหมด แน่นอนว่านายเป็นกลุ่มที่หน้าตาดี ฉันตาดีใช่ไหมล่ะ”

เวินทิงหลานมุมปากกระตุก ยิ้มบาง “งั้นก็ดี”

อย่างไรซะอะเดลก็เป็นคนตะวันตก แยกคนเอเชียไม่ค่อยออก

เขาเองก็ไม่ต่าง

จนถึงตอนนี้เขายังคิดว่ารุ่นพี่สองคนหน้าเหมือนกัน แต่เพื่อนๆ บอกว่าไม่เห็นจะเหมือน

ถ้าเขารู้ว่าวันนี้คนที่อะเดลจะมาเจอคือหลินชิงจยา เขาจะไม่มาเด็ดขาด

โลกจอมยุทธ์

ระหว่างทางที่หลินชิงจยากลับบ้านตระกูลหลิน เธอแอบเหม่อลอย

มือของเธอกำแน่น

เวินทิงหลานเป็นออทิสติก หายได้ก็ทำเธอประหลาดใจมากแล้ว นี่ยังเข้ามหาวิทยาลัยนอร์ตันได้อีกเหรอ

นายใหญ่เทเลอร์เล่าความเก่งของมหาวิทยาลัยนอร์ตันให้เธอฟังแล้ว

ทีมทหารรับจ้างระดับเอสก็ยังสู้หน่วยปฏิบัติการของมหาวิทยาลัยนอร์ตันไม่ได้

หลินชิงจยาเม้มริมฝีปาก ถอนหายใจเบาๆ รู้สึกหงุดหงิดใจ อดนึกเสียใจไม่ได้

ผู้อ่อนแอย่อมเป็นเหยื่อของผู้แข็งแกร่งในโลกจอมยุทธ์ได้สอนเธอว่า เส้นสายสำคัญมาก ดังนั้นเธอต้องรักษาภาพลักษณ์ไว้ตลอด

แต่ท่าทางของเวินทิงหลานเมื่อครู่เห็นได้ชัดว่าไม่อยากพูดคุยกับเธอแม้แต่น้อย

น่าเสียดาย

“ชิงจยา” หลินจิ่นอวิ๋นวางหนังสือลง น้ำเสียงใจดี “ได้เจออัจฉริยะมหาวิทยาลัยนอร์ตันที่นายใหญ่เทเลอร์พูดถึงหรือยัง”

หลินชิงจยาพยักหน้าเบาๆ “เจอแล้วค่ะ เป็นอัจฉริยะอายุน้อยจริงๆ ค่ะ”

“เหตุการณ์เป็นไงบ้าง”

“คุณพ่อคะ พวกเขาเรียนวิศวกรรมเครื่องกล ช่วยอะไรพวกเราไม่ได้ หนูไม่ได้เจอคนที่เรียนคณะเล่นแร่แปรธาตุกับคณะดาราศาสตร์”

“เครื่องกลเหรอ” หลินจิ่นอวิ๋นขมวดคิ้ว “ช่างเถอะ รู้จักกันไว้ก่อนก็ไม่เป็นไร”

ระเบิดนิวเคลียร์สามารถทำลายตระกูลหลินให้พังราบเป็นหน้ากลองได้

แต่ถ้าไม่มีจอมยุทธ์พามา คนนอกก็เข้ามาไม่ได้

เข้าโลกจอมยุทธ์ไม่ได้ก็ไม่สามารถทำอันตรายใดๆ ต่อโลกจอมยุทธ์ได้

ตอนนี้นักศึกษาคณะวิศวกรรมเครื่องกลก็ดูจะไม่มีประโยชน์ต่อพวกเขาเท่าไรจริงๆ

หลินชิงจยายิ้ม “คุณพ่อพูดถูกค่ะ เส้นสายสำคัญมาก”

เธอก้มหน้าเล็กน้อย หลุบตาลง

ส่วนเวินเฟิงเหมียน ไม่ว่าอย่างไรก็สู้หลินจิ่นอวิ๋นไม่ได้

ตระกูลจี้เป็นเพียงตระกูลวิจัยวิทยาศาสตร์ในโลกปุถุชน มีเหรอจะเทียบกับตระกูลหลินได้

ถ้าผู้นำตระกูลหลินออกมาก็สามารถทำลายเมืองใหญ่ที่มีประชากรนับสิบล้านคนได้

เธอเลือกถูกแล้ว

“จริงสิ ผู้อาวุโสใหญ่เรียกหาลูกอยู่” หลินจิ่นอวิ๋นพูดต่อ “ลูกไปเจอหน่อยนะ เจอเสร็จพ่อจะไปโลกแพทย์แผนโบราณกับลูกด้วย”

พวกสมุนไพรที่หลินชิงจยาต้องการมีอยู่แค่ที่ฉาเซิ่งเท่านั้น

พวกเขาต้องไปหาฉาเซิ่ง

หลินชิงจยาออกไปหาผู้อาวุโสใหญ่

ผู้อาวุโสใหญ่นั่งขัดสมาธิอยู่บนเบาะ เงยหน้าขึ้น “มาแล้วเหรอชิงจยา ก็เรื่องแม่เธอนั่นแหละ ขนาดอาจารย์หมอกับอาจารย์เธอยังรักษาไม่ได้ รู้ใช่ไหมว่าต้องทำยังไง”

อันโหรวจิ่นเป็นบ้า ไม่เหมาะนักที่จะอยู่ในตระกูลหลินต่อไป

หลินจิ่นอวิ๋นปลดจากตำแหน่งภรรยาแล้ว

หลินชิงจยาพูด “ในตี้ตูมีโรงพยาบาลเฉพาะทาง เรียกว่าโรงพยาบาลประสาท และก็มีผู้เชี่ยวชาญดูแลให้โดยเฉพาะ ส่งคุณแม่ไปอยู่ที่นั่นได้ค่ะ”

เธอก็ทนอันโหรวจิ่นไม่ไหวแล้วเหมือนกัน

อันโหรวจิ่นเป็นบ้า ตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับคนบาดเจ็บ

อันโหรวจิ่นวางแผนเล่นงานคนอื่นมาทั้งชีวิต ไม่เคยคาดคิดว่าตัวเองจะมีจุดจบแบบนี้

“ก็ได้” ผู้อาวุโสใหญ่ส่ายมือ “เดิมทีแม่ของเธอก็เป็นคนธรรมดา ไม่จำเป็นต้องอยู่ในโลกจอมยุทธ์ต่อไปแล้ว ให้คนคุ้มกันไปส่งโรงพยาบาลที่เธอบอก จ่ายเงินให้จนตาย”

“ต่อไปแม่เธอจะเป็นยังไงก็ไม่เกี่ยวกับพวกเราแล้ว”

หลินชิงจยากำมือคารวะ “เรื่องเรียบร้อยแล้ว ชิงจยาขอตัวค่ะ”

ผู้อาวุโสใหญ่มองเธอแล้วก็ขมวดคิ้ว

ถ้าหลินชิงจยาเป็นคนตระกูลหลิน ด้วยความสามารถของเธอจะขึ้นเป็นนายใหญ่ก็ได้ แต่เธอไม่ใช่

นี่ก็เป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดใจ

ต่อให้ผู้อาวุโสใหญ่ชอบหลินชิงจยาขนาดไหนก็รู้สึกว่าสายเลือดสำคัญกว่า

เขาครุ่นคิด ตัดสินใจไปหารือกับผู้อาวุโสคนอื่นๆ ในตระกูลหลิน จัดการให้หลินชิงจยาแต่งงานกับคนในตระกูลหลินดีกว่า

วันที่หกมกราคม หลายคณะในมหาวิทยาลัยตี้ตูสอบเสร็จปิดเทอมแล้ว

คลาสทดลองชีวะเคมีที่จี้หลีอยู่ยังมีสอบอีกหกวิชา

หลังจากเรื่องในตระกูลจี้จบลง เธอก็เรียนหนังสือได้อย่างสบายใจ

อิ๋งจื่อจินถืออาหารที่คุณนายจี้ทำไปส่งให้จี้หลี

ส่งเสร็จเธอก็ไปทักทายเวินเฟิงเหมียนแล้วไปโลกจอมยุทธ์

เธอเตรียมจะใช้ปิดเทอมหน้าหนาวเดือนกว่านี้เริ่มเก็บตัว

แต่ภายในระยะเวลาสั้นๆ เท่านี้ เกรงว่าจะยังไม่พอให้เธอบรรลุเป็นปรมาจารย์จอมยุทธ์

อิ๋งจื่อจินหันไป “คุณว่าฉันไปประลองชี้เป็นชี้ตายดีไหม แบบนี้วรยุทธ์จะได้ขึ้นไว”

พอได้ยินแบบนี้สายตาของฟู่อวิ๋นเซินก็ขรึมลงทันที “เธอเคยรับปากไว้ว่าจะไม่เสี่ยงอันตราย”

“ก็แค่ถามดู” อิ๋งจื่อจินเอามือยันศีรษะ “กำลังคิดว่าทำยังไงวรยุทธ์ถึงจะขึ้นเร็วๆ”

“แพทย์แผนโบราณอย่างพวกเธอมีคำพูดนี้ไม่ใช่เหรอว่าปรับสมดุลหยินหยาง ในตำรายังมีมีคำว่า ‘ฝึกคู่’ ด้วยใช่ไหม” ฟู่อวิ๋นเซินคลายคอเสื้อ ยิ้มชั่วร้าย “ให้ช่วยฝึกไหม”

อิ๋งจื่อจินมองเขา “อ่านนิยายบำเพ็ญเพียรเยอะเกินไปแล้ว”

เรื่องแบบนี้ไม่มีทางมีอยู่บนโลก

แถมที่นี่ก็ไม่มีพลังวิเศษแบบในโลกบำเพ็ญเพียร

ฟู่อวิ๋นเซินเอามือเท้าศีรษะ จนปัญญา “เอาล่ะ แค่ล้อเล่น อย่าคิดจริงจัง”

นับวันจะยิ่งเล่นกับเด็กน้อยได้ยากแล้ว แถมยังชอบอธิบายเหตุผลกับเขา

ฟู่อวิ๋นเซินไปส่งอิ๋งจื่อจินที่สมาพันธ์โอสถเสร็จก็ไปศาลสถิตยุติธรรม

คณะผู้อาวุโสกับเหล่าก้งเฟิ่งของศาลสถิตยุติธรรมต่างก็แปลกใจมากว่าทำไมช่วงนี้เงาถึงมาอยู่ที่ศาลสถิตยุติธรรมนานขนาดนี้ เมื่อก่อนหายไปสองปีเลยยังมี

อิ๋งจื่อจินเอาสมุนไพรที่สมาพันธ์โอสถเสร็จก็กลับบ้านตระกูลเยี่ย

เวลานี้มีคนอื่นอยู่ในบ้านตระกูลเยี่ยด้วย

เท้าของอิ๋งจื่อจินชะงัก รู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวของกำลังภายใน

“คุณอิ๋ง” เยี่ยหลิงรีบเดินเข้ามาหา “พวกเขา…”

“เธอใช่ไหมคือนักปรุงยาคนนั้น อิ๋งจื่อจิน” พอเห็นอิ๋งจื่อจิน ชายวัยกลางคนก็ก้าวขึ้นหน้า “ฉันขอแนะนำตัวหน่อยนะ ฉันเป็นหัวหน้าทีมคุ้มกันของตระกูลสวีในโลกจอมยุทธ์ ผู้นำตระกูลสวีมีวรยุทธ์สองร้อยแปดปี”

ผู้นำตระกูลสวีมีวรยุทธ์เท่านี้ ตระกูลสวีก็ถือเป็นตระกูลขนาดกลางในโลกจอมยุทธ์ สูสีกับตระกูลหลิง

“นายใหญ่ของพวกเราป่วย ต้องการยาชนิดหนึ่ง ยาชนิดนี้มีแค่คุณหนูชิงเสวี่ย คุณชายฝูเฉิน และก็เธอที่ทำออกมาได้” ชายวัยกลางคนพูดต่อ “รบกวนเธอไปที่บ้านตระกูลสวีกับพวกเราหน่อย พวกเราจะเตรียมสมุนไพรให้”

อิ๋งจื่อจินตอบโดยไม่เงยหน้ามอง “ไม่ไป”

“เธออย่าคิดว่าปรุงยาได้ มีชื่อเสียงในสมาพันธ์โอสถ แล้วจะเก่งเสียเต็มประดา เธอรู้หรือเปล่าว่าเธอห่างชั้นกับคุณชิงจยาขนาดไหน” ชายวัยกลางคนหน้านิ่ว “อายุยังน้อยรู้จักถ่อมตัวบ้างก็ดีนะ อย่าทำตัวสูงส่งนักเลย”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด