คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 590 โมโหเอาจริง! ล้างบางตระกูลแพชช์

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 590 โมโหเอาจริง! ล้างบางตระกูลแพชช์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 590 โมโหเอาจริง! ล้างบางตระกูลแพชช์

ตระกูลแพชช์มีอิทธิพลในยุโรปมานานขนาดนี้ เป็นผู้นำของสี่ตระกูลมหาเศรษฐีแห่งยุโรป เคยผ่านเรื่องสกปรกดำมืดมามาก

อิทธิพลแผ่ขยายไปในวงกว้าง

โลกใต้ดินมีทหารรับจ้างครึ่งหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับตระกูลแพชช์

มีสมาชิกสายตรงคนไหนบ้างที่มือไม่เคยเปื้อนเลือด

ตระกูลแพชช์เจริญก้าวหน้ามาตั้งแต่ศตวรรษที่สิบห้าจนถึงปัจจุบัน อยู่มาได้ด้วยกำลังอาวุธและอำนาจ

เมื่อสองปีก่อนตระกูลแพชช์ต้องการซื้อกิจการบริษัทอิเล็กทรอนิกส์แห่งหนึ่ง พวกเขาได้ทำการลักพาตัวผู้บริหารระดับสูงทั้งหมดของบริษัทนั้น

กักขังไว้ถึงแปดเดือนเต็มๆ

ไม่อยากขายกิจการก็ถูกบังคับให้ต้องขาย

สุดท้ายตระกูลแพชช์ก็ยึดครองบริษัทนี้ได้สำเร็จ กลายเป็นกิจการส่วนตัวของตระกูล

ช่วงหลายศตวรรษยุครุ่งเรืองที่สุดของฟลอเรนซ์ ตระกูลแพชช์ก็เป็นเพียงตระกูลเดียวที่ต่อกรกับตระกูลลอเรนท์ได้

ถึงขั้นที่มีอำนาจและอิทธิพลมากกว่าตระกูลลอเรนท์ด้วยซ้ำ เพราะเบื้องหลังตระกูลแพชช์มีพระสันตะปาปาและคริสตจักร มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ไปกดขี่ตระกูลลอเรนท์

จนกระทั่งซีซาร์ ลอเรนท์ ขึ้นมามีอำนาจ

กอปรกับมีเทพพยากรณ์ ทำให้ตระกูลลอเรนท์กลายเป็นผู้ปกครองฟลอเรนซ์

ถึงแม้ช่วงนี้จะมีข่าวลือว่าผู้กุมอำนาจคนปัจจุบันของตระกูลลอเรนท์จะออกมาแล้ว ตระกูลแพชช์ก็แค่เรียกประชุมใหญ่ตระกูลไม่กี่ครั้ง แต่ไม่ได้มองว่ากำลังเผชิญกับศัตรูที่น่ากลัว

ตระกูลลอเรนท์ที่ไร้เทพพยากรณ์ ย่อมไร้ความสามารถที่จะกลืนกินตระกูลแพชช์ได้

ลุคก็ขี้เกียจจะเล่าประวัติศาสตร์อันรุ่งเรืองของตระกูลแพชช์ให้พวกคนจีนเหล่านี้ฟัง พูดไปพวกเขาก็ไม่เข้าใจ

เขามองสีหน้าของทุกคน ชักเริ่มหมดความอดทน “เร็วเข้า ฉันให้เวลาพวกแกห้านาที”

เลขาสาวหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างใจเย็นแล้วกดโทรออก

หลังจากงานรางวัลตุ๊กตาทองไอเอฟเอฟสิ้นสุดลง อิ๋งจื่อจินก็บอกเธอไว้หลายครั้ง

หากตระกูลแพชช์มาหาเรื่องจริงก็ให้ติดต่อเธอได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องรอให้เกิดการบาดเจ็บหรือความเสียหาย

เธอย่อมต้องเชื่อฟังบอส

เลขาสาวก็เชื่อในความสามารถของอิ๋งจื่อจิน

ถึงแม้พวกซังเย่าจือ ผู้จัดการส่วนตัว และผู้กำกับต่างก็รู้สึกเครียด แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

พอเห็นแบบนี้ลุคกลับยิ้มเยาะ

เขาก็คิดว่าคนจีนพวกนี้จะแน่สักแค่ไหน เขายังไม่ทันพูดอะไรก็หงอแล้ว

ลุครับสาย ฟังจบก็พยักหน้า “ครับนายใหญ่”

หลังคุยเสร็จเขาก็ชูโทรศัพท์ “ถือว่าพวกแกดวงดี นายใหญ่บอกว่า แค่ให้บอสของพวกแกไปก็พอแล้ว”

เลขาสาวยังคงใจเย็น “งั้นพวกแกก็ต้องมีฝีมือด้วย”

“เอาล่ะ อย่าคิดว่าตระกูลลอเรนท์ร่วมลงทุนแล้วพวกแกก็คิดว่าตัวเองก็เป็นคู่ค้าของตระกูลลอเรนท์แล้ว” ลุคแสยะยิ้มอีกครั้ง “ขนาดวีนัสกรุ๊ปยังทำให้ตระกูลลอเรนท์ยอมรับออกมาเองไม่ได้เลยว่าเป็นคู่ค้ากัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงบริษัทอื่น”

ยังไม่ถึงยี่สิบนาทีอิ๋งจื่อจินก็มาถึง

เธอมองพวกทหารรับจ้างที่อยู่ที่นี่ จากนั้นสายตาก็ไปหยุดที่ลุค “ปล่อยคนอื่นไป ฉันจะไปกับพวกคุณ”

“คุณอิ๋งช่างรู้งานดีจริงๆ” ลุคยิ้ม ตบมือ “คุณรู้งานแบบนี้ ตระกูลแพชช์ก็ไม่มีทางทำอะไรคุณ พวกเราก็แค่อยากคุยข้อตกลงร่วมงานกันหน่อย”

ในสนามบินมีคนอยู่เยอะ ลุคเองก็ไม่อยากลงมือ

เขาตวัดมือเพื่อบอกให้ทหารรับจ้างแยกย้าย

จากนั้นก็โทรติดต่อทางสนามบินเพื่อให้จัดเที่ยวบินขึ้นบิน แล้วถึงพาอิ๋งจื่อจินออกไป

“คุณอิ๋งจะไม่เป็นไรใช่ไหม” ผู้จัดการส่วนตัวยังคงเป็นห่วง “เมื่อกี้เธอกำลังวางแผนจะพลีชีพตัวเองเพื่อปกป้องพวกเราหรือเปล่า”

“ไม่ใช่หรอก” เลขาสาวมองเขาด้วยสายตาแปลกประหลาด พูดจริงจัง “สายตาแบบนั้นของบอสเหมือนกำลังบอกว่า พวกโง่ ดีนะที่ทหารรับจ้างพวกนี้ยังไม่ลงมือ ไม่อย่างนั้นใครก็อย่าหวังจะมีชีวิตรอดกลับไป”

พูดจบก็เอามือปิดปาก “ไม่สิ บอสไม่เคยพูดหยาบ ฉันผิดไปแล้ว”

ผู้จัดการส่วนตัว “…”

ในเวลาเดียวกัน ในเมืองหลวงระดับโลกแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างจากฟลอเรนซ์ไปไกลเกือบหนึ่งพันกิโลเมตร

สำนักงานใหญ่วีนัสกรุ๊ปตั้งอยู่ที่นี่

ฟู่อวิ๋นเซินแปลงโฉมเป็นใบหน้าของคนตะวันตก กำลังจัดการงานในบริษัท

จนกระทั่งมีเสียงพูดเร่งด่วนดังขึ้น

“คุณชายครับ” อวิ๋นอู้ยังคงมีสีหน้าไร้ความรู้สึก แต่น้ำเสียงร้อนรนอย่างยากที่จะปิดบัง “คุณอิ๋งถูกพาตัวไปที่คฤหาสน์ตระกูลแพชช์แล้วครับ รอบตัวเธอมีทหารรับจ้างระดับเอสห้าสิบคนครับ”

เท่ากับจอมยุทธ์ที่วรยุทธ์ห้าสิบปีจำนวนห้าสิบคน

แววตาของฟู่อวิ๋นเซินขรึมลง “ตระกูลแพชช์เหรอ”

“พวกเขาไม่รู้ว่าคุณอิ๋งมีวรยุทธ์ กำลังจะเป็นปรมาจารย์จอมยุทธ์” อวิ๋นอู้พูด “ต้องการร่วมงานกับเธอ แต่ดูจากท่าทางเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ครับ”

ฟู่อวิ๋นเซินยิ้ม “ดีมาก ไม่ได้ใช้กำลังนานแล้ว กำลังหงุดหงิด”

เขากดเปลี่ยนหน้าเว็บ

เป็นพื้นที่ปิดของเว็บบอร์ดเอ็นโอเค

หน้านั้นล็อกอินด้วยแอ๊กเคานท์ระดับเอไว้

มือของฟู่อวิ๋นเซินหยุดชะงัก ล็อกเอ้าต์แอ๊กเคานท์ระดับเอออกแล้วใส่อีกไอดีกับรหัสผ่านเข้าไปใหม่

เขากดเอนเทอร์ เข้าสู่ระบบ

และในเวลานี้เอง พวกบอสที่สิงอยู่ในเว็บบอร์ดต่างได้ยินเสียงแจ้งเตือน

[ติ๊ง]

ในเวลาเดียวกันมีหน้าต่างสีดำลอยขึ้นมา

[เดวิลออนไลน์]

ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกเก่าหรือใหม่ของสมาพันธ์ลับ ต่างคุ้นเคยกับชื่อนี้ดี

การผงาดขึ้นมาของเดวิลเรียกได้ว่าน่าสะพรึงมาก ไม่มีอันดับหนึ่งคนไหนของชาร์ตนักล่าที่เลื่อนอันดับได้เร็วเท่าเขาอีกแล้ว

นี่เป็นครั้งแรกในรอบสามปีที่เขามาปรากฏตัวบนเว็บบอร์ดเอ็นโอเค

เกิดความฮือฮาขึ้นในเว็บบอร์ด

แต่ยังไม่ทันได้มีกระทู้ใหม่ขึ้นมาก็เกิดเสียงแจ้งเตือนอีกครั้ง

ครั้งนี้ดังต่อเนื่อง

[ติ๊ง เดวิลกดรับงานที่เก้าสิบแปด]

[ติ๊ง เดวิลกดรับงานที่หนึ่งร้อยยี่สิบสี่]

[ติ๊ง เดวิลกดรับงานที่หนึ่งร้อยสามสิบสอง]

[ติ๊ง…]

พอได้ยินเสียงแจ้งเตือนต่อเนื่องแบบนี้ พวกบอสที่สิงอยู่ในเว็บบอร์ดต่างก็ตะลึง

นักล่าระดับเดวิลปรากฏตัว โซนภารกิจก็คึกคักขึ้นมาทันที

อีกทั้งพวกภารกิจที่เขารับก็เป็นคนของตระกูลแพชช์ทั้งหมด

พวกคนมีอำนาจในสี่ตระกูลมหาเศรษฐีส่วนใหญ่จะตั้งภารกิจไว้ ล้วนเป็นปรปักษ์กับตระกูล แต่ก็มีนักล่าไม่กี่คนที่กล้ารับ

อย่างไรเสียอิทธิพลของสี่ตระกูลมหาเศรษฐีก็ล้นฟ้า หากรับภารกิจแล้วจะรอดกลับมาได้หรือไม่ก็คือปัญหา

ต่อให้เป็นมูนนักฆ่าอันดับห้าก็ยังเจ็บหนักกลับไปด้วยฝีมือของตระกูลแมนสัน

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตระกูลแพชช์เลย

คนทั้งเว็บบอร์ดต่างฮือฮา ครั้งล่าสุดที่ฮือฮาแบบนี้ก็ตอนที่เทพพยากรณ์ปรากฏตัว

[โอ้โห! พอเดวิลปรากฏตัวทีก็บ้าไปแล้วเหรอ รับภารกิจขนาดนี้ ใครก็ได้ช่วยนับหน่อย ฉันตาลายไปหมดแล้ว]

[เก้า! แปดภารกิจเป็นผู้อาวุโสของตระกูลแพชช์ หนึ่งนายใหญ่แพชช์ อื้อหือ นี่กะล้างตระกูลเลยนะ]

[ครั้งล่าสุดทำไมเดวิลต้องจับจ้องตระกูลแพชช์ อ๋อ ดูเหมือนจะเป็นเพราะเกิดเรื่องขึ้นกับเพื่อนหรือเปล่า

แต่ครั้งที่แล้วก็ฆ่าผู้อาวุโสไปแค่คนเดียว ครั้งนี้คณะผู้อาวุโสทั้งหมดอยู่ในรายชื่อลอบสังหารของเขา พวกคนตระกูลแพชช์ไปทำอะไรเดวิลเข้า ฆ่าพ่อหรือชิงเมีย]

[วางชาม แทะเม็ดแตงรอ ก่อนหน้านี้ลงพนันข้างเดวิลไปหมดตัว หวังว่าเขาจะทำภารกิจสำเร็จ ฉันไม่มีเงินแล้ว]

ทางด้านฟู่อวิ๋นเซินเพิ่งกดรับภารกิจที่เกี่ยวข้องกับตระกูลแพชช์เสร็จ บาร์เทนเดอร์ก็โทรหาเขา

“ทำไมอยู่ๆ นายก็รับภารกิจล่ะ ร้อนเงินเหรอ นายจะเข้าไปฆ่าตระกูลแพชช์ตอนไหนก็ได้ไม่ใช่เหรอ”

ฟู่อวิ๋นเซินปิดคอมพิวเตอร์ “มีเงินรางวัลทำไมจะไม่อยากได้ล่ะ”

บาร์เทนเดอร์ที่อยู่ปลายสาย “…”

เขารู้สึกเหลือเชื่อ “เมื่อก่อนนายไม่ได้พูดแบบนี้ นายเคยบอกว่าเงินไม่มีความหมาย น่าเบื่อ ก็แค่เศษกระดาษที่วางกองอยู่ตรงนั้น”

หลายคนคิดว่าเดวิลรับภารกิจเพราะเงิน แท้จริงแล้วไม่ใช่

บาร์เทนเดอร์รู้ดีว่านอกจากกำจัดคนชั่วคุ้มครองคนดีแล้ว ฟู่อวิ๋นเซินก็แค่ต้องการฝึกฝนตัวเอง

แต่ไหนแต่ไรมาเงินไม่ได้สำคัญสำหรับเขาเท่าไร

“อืม…” ฟู่อวิ๋นเซินหยิบเสื้อคลุมมาพาดบ่าขวา ตอบเสียงเนือย “เพราะมุมมองที่มีต่อเงินเปลี่ยนไป”

ได้อิทธิพลมาจากแฟน

บาร์เทนเดอร์ “?”

ภาษาจีนของเขาไม่ค่อยดี ไม่ค่อยเข้าใจความหมายนี้

อีกด้านหนึ่ง

อาณาจักรของตระกูลแพชช์

ลุคพาอิ๋งจื่อจินเข้าไปในคฤหาสน์

คฤหาสน์ของตระกูลแพชช์ก็สืบทอดความเป็นยุคกลาง อาคารเป็นสไตล์โรมัน

ลุคพาอิ๋งจื่อจินเข้าไปหาชายวัยกลางคน เขาพูดอย่างนอบน้อม “นายใหญ่ครับ”

“นั่งสิคุณอิ๋ง” ชายวัยกลางคนพยักหน้าเพื่อบอกให้ลุคถอยออกไป “ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวเองก่อน ผมเป็นนายใหญ่คนที่หนึ่งร้อยสามสิบสองของตระกูลแพชช์ เจอร์แมน แพชช์ครับ”

คนที่หนึ่งร้อยสามสิบสอง ถือว่าสืบทอดกันมานานมาก

อิ๋งจื่อจินไม่ได้มองเขา แต่มองไปด้านหลัง “นั่นใครคะ”

เจอร์แมนขมวดคิ้ว

แต่เขาก็ยังคงหันไปมองภาพที่แขวนเหนือเตาผิง

คนในภาพนั้นเป็นผู้ชายสวมชุดอัศวินพร้อมถือดาบอยู่ในมือ

เจอร์แมนอดพูดด้วยความภูมิใจไม่ได้ “คนนั้นคือนายใหญ่คนที่เจ็ดสิบเจ็ด ท่านวินเซนต์”

เขาทำเสียงจึ๊ “คุณอิ๋งเป็นคนจีน อาจไม่เข้าใจประวัติศาสตร์ของพวกเรา ช่วงกลางศตวรรษที่สิบแปด บรรพบุรุษของพวกเราเป็นคนที่พระสันตะปาปาถึงขั้นเรียกเป็นพี่เป็นน้องเลยทีเดียว”

“เขาเป็นหนึ่งในนายใหญ่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ตระกูลเรา ควรค่าแก่การระลึกถึงครับ”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้าช้าๆ เธอยิ้ม “รู้ไหมคะว่าตอนนั้นเขาตายยังไง”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด