คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 723 จัดการคนเลว เผยสถานะ!

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 723 จัดการคนเลว เผยสถานะ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 723 จัดการคนเลว เผยสถานะ!

มั่วเฟิงถึงได้สังเกตเห็นว่าบัตรของชิงจิ่วไม่เหมือนบัตรของเขา

เขาขมวดคิ้ว “ทำไมบัตรของคุณเป็นสีทอง คงไม่ได้เป็น…”

‘ของปลอม’ ติดอยู่ที่ปาก เขากลับไม่พูดออกมา

ชาวเมืองแห่งโลกต่างรู้ว่าลอเรนท์กรุ๊ปเห็นแก่เงินมาก ได้ยินว่าตระกูลลอเรนท์ที่อยู่นอกเมืองก็เป็นตระกูลใหญ่ระดับโลก

มีความเกี่ยวข้องกับเงินๆ ทองๆ

ด้วยอำนาจเงินของนามสกุลลอเรนท์ มีเหรอจะปล่อยให้บัตรปลอมปะปนเข้ามาได้

“เมื่อสองวันก่อนฉันเป็นตัวแทนคณะเอาบัตรไปให้พวกนักศึกษาอิ๋งใช่ไหมล่ะ” ชิงจิ่วถอนหายใจ “แต่กลับนึกไม่ถึงว่านักศึกษาอิ๋งจะเอาบัตรใบนี้ยัดใส่มือฉันมา”

“ตอนนั้นฉันยังบอกเลยว่าจะให้ของตอบแทนอาจารย์ทำไม อาจารย์ควรทำให้อยู่แล้ว แต่พอดูกลับเห็นบัตรเบอร์หนึ่งโซนเอ”

ตอนแรกชิงจิ่วก็กลัวว่าอิ๋งจื่อจินจะถูกหลอกมาหรือเปล่า ยังได้เอาบัตรมาตรวจสอบที่ตลาดประมูลโดยเฉพาะด้วย

ยืนยันว่าเป็นตั๋วของจริง ถึงได้เข้ามา

ก่อนหน้านี้เธอก็ได้ใช้สิทธิ์ประมูลฟรีของเบอร์หนึ่งโซนเอเอาอาวุธมาหนึ่งชิ้น

มั่วเฟิงไม่ได้ยินแล้วว่าคำพูดส่วนหลังของชิงจิ่วพูดอะไรบ้าง

สมองของเขามีแค่คำว่า ‘นักศึกษาอิ๋ง’ วนเวียนไม่หยุด

คนในเมืองแห่งโลกมีสีผิวและสีผมสารพัด แต่ไหนแต่ไรมาไม่มีการพูดเรื่องนามสกุลเท่าไร

นามสกุลของตระกูลสูงศักดิ์ก็ได้มาจากสำนักผู้วิเศษประทานให้ แสดงถึงเกียรติและบารมีที่เหนือใคร

และยังมีกลุ่มคนรุ่นหลังของอัจฉริยะจากเจ็ดทวีปสี่มหาสมุทรที่สำนักผู้วิเศษรับตัวเข้ามา

ทั่วทั้งสำนักวิจัยมีแค่อิ๋งจื่อจินคนเดียวที่แซ่อิ๋ง

อิ๋งจื่อจินเป็นคนให้บัตรในมือชิงจิ่วมางั้นเหรอ

จะเป็นไปได้ยังไง!

ริมฝีปากของมั่วเฟิงขยับ พูดอย่างยากลำบาก “แต่ทำไมบัตรไม่เหมือนกัน”

ชิงจิ่วก็ไม่รู้ “อาจเป็นที่ฝ่ายจัดงานแก้รูปแบบกับสีหรือเปล่า”

คำพูดนี้กลับทำให้มั่วเฟิงยิ่งรับไม่ได้เข้าไปใหญ่

นี่ก็หมายความว่ามีความเป็นไปได้ที่บัตรที่อิ๋งจื่อจินได้มาจะเป็นบัตรภายในที่ทำขึ้นใหม่!

นี่ต้องใกล้ชิดกับลอเรนท์กรุ๊ปขนาดไหน

สมองของมั่วเฟิงตื้อไปหมด

ตอนนั้นหลังจากที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ประกาศอันดับออกมา เขาเองก็เคยอ่านข้อมูลของอิ๋งจื่อจิน

เป็นพลเมืองธรรมดาอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่คนธรรมดาจะมีบัตรโซนเอได้ยังไง

มั่วเฟิงไม่รู้ว่าตัวเองเดินกลับมาที่นั่งได้ยังไง จนกระทั่งบิลเรียกเขา “อาจารย์คะ?”

“ไม่เป็นไร” มั่วเฟิงมองสีหน้าสงสัยของบิล ทันใดนั้นใจก็สงบลง

ไม่ว่าอย่างไรบิลก็เป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลเรนเกล

ยังไงอิ๋งจื่อจินก็เอาชนะเรื่องชาติกำเนิดไม่ได้

อย่างน้อยข้างที่เขาเดิมพันก็ถูกต้องแล้ว

เขาเลือกไม่ผิดหรอก

แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนี้มั่วเฟิงก็ยังแอบนึกเสียใจ

ถ้าตอนนั้นเขาไม่อคติกับอิ๋งจื่อจินมากเกินไป หรือรับเธอเป็นศิษย์ บางทีคนที่ถือบัตรเบอร์หนึ่งโซนเอในวันนี้อาจเป็นเขาไปแล้ว

มั่วเฟิงรู้สึกแย่มากในงานประมูลครึ่งหลัง

งานประมูลสิ้นสุดลงในตอนสี่ทุ่มครึ่ง

สุดท้ายคณบดีคณะพันธุศาสตร์ประมูลไปได้แค่ของมีตำหนิไม่กี่ชิ้น โมโหเดินหน้าบึ้งออกไป

คณบดีนอร์แมนไม่เคยอารมณ์ดีเท่านี้มาก่อน

เขาเอาของประมูลทั้งหมดมาวางเรียงแล้วถ่ายรูปส่งไปอวดซีนาย

[ดูสิ ศิษย์น้องของเธอกตัญญูต่ออาจารย์ขนาดไหน]

[ซีนาย : อาจารย์ ทำอวดเหรอคะ ไว้วันหลังหนูจะเอาปืนใหญ่ไปถล่มอาจารย์]

คณบดีนอร์แมน “…”

นิสัยของลูกศิษย์เขานับวันจะยิ่งประหลาด

ภายในห้องส่วนตัวชั้นบนสุด ซีนายเก็บโทรศัพท์มือถือเข้ากระเป๋า “อาอิ๋ง ฉันกลับแล้วนะ”

อิ๋งจื่อจินโน้มตัว เอาขวดยาให้ซีนาย “กลับดีๆ นะ”

นอร์ตันที่อยู่ข้างหน้ายื่นมือออกมา หันไปด้วยสีหน้ารำคาญเล็กน้อย “ยังไม่มาอีก”

ซีนายลังเล สุดท้ายก็วางมือลงไป

“จึ๊ เด็กน้อย ดูทำหน้าเข้า” นอร์ตันหิ้วเธอขึ้นมาอย่างสบายๆ “ถ้าฉันไม่จับเธอไว้เดี๋ยวเธอก็สะดุดล้ม”

ซีนาย “…”

เธอได้แต่บอกตัวเองว่าอย่าโมโห

ทั้งสองคนออกจากห้อง ขณะเดินลงก็เจอคณบดีนอร์แมนที่ออกจากตลาดประมูลพอดี

หน้าตาของนอร์ตันโดดเด่นมาก อีกทั้งต่างหูสีดำสองเม็ดบนหูขวาก็สะท้อนแสงนิดหน่อย

คณบดีนอร์แมนหันกลับไปมองทันที สุดท้ายก็เห็นเพียงด้านหลัง

เมื่อกี้เด็กคนนั้นเหมือนลูกศิษย์คนแรกของเขามาก

แต่ไม่ใช่แน่นอน

ตอนซีนายอยู่สำนักวิจัยเคยมีฉายาว่า ราชินีภูเขาน้ำแข็ง

ไม่มีใครอยู่กับเธอได้

คณบดีนอร์แมนไม่สนใจอีก โทรหาอิ๋งจื่อจินด้วยความดีใจ “ลูกศิษย์ คืนนี้จะฝึกตอนไหนดีล่ะ”

เขาอยากเหาะแล้ว

เช้าวันต่อมา

โรงพยาบาลศูนย์กลาง

จูซาตื่นขึ้นมา เบื้องหน้ามืดไปชั่วขณะ

แต่สักพักก็กลับมาเป็นปกติ

เร็วจนเธอคิดว่าเธอคิดมากไปเอง

จูซาขมวดคิ้ว

ดูท่าจะพักผ่อนนานเกินไปแล้ว เลิกแกล้งป่วยดีกว่า พรุ่งนี้ออกจากโรงพยาบาล

“ซาเอ๋อร์ อย่าลุกขึ้นสิ” มีเสียงพูดด้วยความร้อนใจดังขึ้น

“เธอเจ็บหนักขนาดนี้ต้องพักผ่อนให้มากๆ นะ”

คุณนายผู้เฒ่าอวี้เดินเข้ามาประคองจูซา “แม่เอาอาหารเช้ามาให้ กินตอนร้อนๆ นะ”

“คุณแม่คะ ช่วงนี้หนูก็ไม่ได้อยู่ว่าง” จูซาไอเล็กน้อยแล้วยิ้มพลางพูด “ช่วงหลายวันมานี้หนูติดต่อตระกูลน้อยใหญ่ในเมืองไปมากมาย นี่เป็นข้อมูลของสาวๆ ไฮโซที่หนูรวบรวมได้ค่ะ”

คุณนายผู้เฒ่าอวี้แอบประหลาดใจ “ทำไมเหรอ เซ่าอิ่งเพิ่งเป็นผู้ใหญ่ก็จะรีบให้เขาแต่งงานแล้วเหรอ”

“ไม่ใช่เซ่าอิ่งค่ะ” จูซาเอามือบังริมฝีปาก “แต่เป็นคุณชายใหญ่”

“คุณชายใหญ่งั้นก็…” คุณนายผู้เฒ่าอวี้ตอบสนองรุนแรงทันที สีหน้าขรึมลง “แม่ไม่ยอมรับ!”

“คุณแม่คะ อาอวิ๋นต่างหากที่เป็นหัวหน้าตระกูล พวกเราต้องเคารพการตัดสินใจของเขานะคะ” จูซายิ้ม “คุณแม่ดูพวกสาวไฮโซที่หนูเลือกมาสิคะ อายุพอๆ กับเขาพอดี ชาติตระกูลก็ไม่แย่”

คุณนายผู้เฒ่าอวี้หน้าบึ้ง ไล่ดูทีละใบ

ตอนเห็นใบสุดท้ายเธอก็สีหน้าเปลี่ยน “ผู้ดูแลเว็บดับบลิวเหรอ”

“ค่ะ พี่ชายของคุณหนูคนนี้เป็นผู้ดูแลเว็บดับบลิวค่ะ” จูซาตอบ “หนูคิดว่าเป็นคนที่เหมาะสมที่สุด คุณแม่คะ ผู้ดูแลเว็บดับบลิวอยู่ระดับเดียวกับผู้บัญชาการหน่วยอัศวินเลยนะคะ”

ขึ้นตรงกับผู้วิเศษ

ใครต่างก็รู้ว่าเว็บดับบลิวก่อตั้งโดยผู้วิเศษนักพรต

คุณนายผู้เฒ่าอวี้ตั้งใจอ่านประวัติอย่างละเอียดอีกรอบ ผ่านไปสักพักก็พูดขึ้น “เอาล่ะ เธอไม่ต้องกลุ้มใจเรื่องนี้แล้ว พักผ่อนให้ดี พรุ่งนี้แม่จะมาเยี่ยมใหม่”

จูซาค่อยๆ จิบชา ยิ้มพลางมองส่งคุณนายผู้เฒ่าอวี้ออกไป

จากนั้นก็หลุบตาลง ปิดบังเงามืดในดวงตา

อีกด้านหนึ่ง

ภายในห้องลับใต้ดิน

ฉางซานสลบอยู่ด้านข้าง

“เหล่าฟู่ ให้มันกินยาของบอสสักเม็ดก่อนดีไหม” ฉินหลิงเยี่ยนพูด “ไอ้แก่นี่กับนังป้านั่นเป็นพวกเดียวกัน สารเลวทั้งคู่”

“ไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลือง ช่วงนี้ฉันขาดแคลนสมุนไพร” อิ๋งจื่อจินส่ายหน้าเบาๆ “นายอาจไม่รู้ว่าสมุนไพรทั้งหมดของเมืองแห่งโลกถูกผูกขาดไว้ ของที่ฉันวานให้คนซื้อยังมาไม่ถึง”

นักมายากลกับนักบวชหญิงเป็นผู้วิเศษจากยี่สิบสองคนที่ปรุงยาเป็น

สมุนไพรชั้นยอดทั้งหมดอยู่ในมือพวกเขา ส่วนที่เหลือก็ให้คณะชีววิทยาและพันธุศาสตร์

ชาวบ้านอยากซื้อสมุนไพรแทบหาไม่ได้

ฟู่อวิ๋นเซินได้ฟังก็หยิบพวกถุงมหัศจรรย์ออกมา “สองวันก่อนตอนออกมาจากสำนักผู้วิเศษได้แอบจิ๊กมาให้เธอหน่อย”

ฉินหลิงเยี่ยนที่มองถุงมหัศจรรย์ที่บรรจุได้หนึ่งร้อยลูกบาศก์เมตร “…”

นายขโมยมาทั้งคลังสมุนไพรล่ะไม่ว่า

อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้ว แอบประหลาดใจนิดหน่อย “เก่งมากผู้บัญชาการ”

ฟู่อวิ๋นเซินลูบศีรษะเธอเบาๆ “ควรพูดว่าไง”

“อ่อ” อิ๋งจื่อจินเก็บถุงนั้นไว้ให้ดีแล้วพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอบคุณค่ะพี่ชาย”

ฉินหลิงเยี่ยน “…”

หมาโสดอย่างเขาชอกช้ำระกำใจ

ไม่อยากยิ้มแล้ว

มีเสียงร้องแผ่วเบา

ฉางซานสะบัดหน้า ศีรษะยังคงปวดอย่างรุนแรง

ผ่านไปสักพักเขาถึงพอมองทุกอย่างรอบตัวได้ชัดเจน

ใบหน้าสมบูรณ์แบบของฟู่อวิ๋นเซินผสมผสานจุดเด่นดีๆ ทุกอย่างของอวี้เซ่าอวิ๋นกับฟู่หลิวอิ๋งเอาไว้ทั้งหมด ปรากฏเข้ามาในสายตาของเขา

ฟู่อวิ๋นเซินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฟื้นแล้วเหรอ”

“แกกล้าจับฉันเลยเหรอ” ฉางซานทนความเจ็บ แสยะยิ้ม “ไอ้เด็กแซ่ฟู่ แกรู้หรือเปล่าว่าฉันเป็นใคร”

ไม่รอให้ตอบเขาก็ตะโกนขึ้น “รองผู้บัญชาการหน่วยอัศวินดาบอาญาสิทธิ์!”

ฉินหลิงเยี่ยนพึมพำ “หมอนี่คงไม่ได้เพี้ยนไปแล้วใช่ไหม”

“ต่อให้เป็นหัวหน้าตระกูลอวี้กับตระกูลเรนเกล พอเจอฉันก็ยังต้องให้เกียรติอยู่บ้าง” ฉางซานสีหน้าบิดเบี้ยว “แล้วแกคิดว่าตัวเองเป็นใคร หา!”

“ไอ้เด็กแซ่ฟู่ ฉันจะบอกแกให้นะ อย่าคิดว่าแกโชคดีได้มาเมืองแห่งโลกก็จะทำตัวอวดดีได้”

“ฉันขอบอกแกตามตรง แกมันก็เหมือนแม่ของแก อีกไม่นานก็ต้องถูกไล่ออกจากเมือง!”

สีหน้าของฟู่อวิ๋นเซินกึ่งยิ้ม ไม่สนใจ “เอาปืนอ่านความทรงจำมา”

พอได้ยินแบบนี้ทันใดนั้นฉางซานก็มีสีหน้าตื่นตระหนก “แกคิดจะทำอะไร!”

คิดจะอ่านความทรงจำของเขาเหรอ

ไม่ได้เด็ดขาด

โดยเฉพาะเมื่อหลายปีก่อน!

ฟู่อวิ๋นเซินรับปืนอ่านความทรงจำมา ยิ้มพลางพูด “มา เล่นเกมกันหน่อย”

ฟู่อวิ๋นเซินยกมือขึ้น เผยให้เห็นตราผู้บัญชาการหน่วยอัศวินดาบอาญาสิทธิ์

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด