ย้อนชีวิตพิชิตเซียน 45 : งานปาร์ตี้สําคัญ

Now you are reading ย้อนชีวิตพิชิตเซียน Chapter 45 : งานปาร์ตี้สําคัญ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 45 : งานปาร์ตี้สําคัญ

 

ครั้งนี้ชั่วว่านว่านโกรธจนหูอื้อตาลาย เมื่อเห็นซูอานก้าวเดินออกไปหลังจากที่พูดจาดูถูกตนเองเช่นนั้น เธอจึง วิ่งกลับไปที่รถเฟอรารี่ 458 สีแดงของตนเองและเหยียบคันเร่งอย่างแรง

 

เวลานี้ ฮั่วว่านว่านโกรธจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ หัวสมองของเธอคิดเพียงแค่ว่าต้องการฆ่าซูอานทิ้ง ปัญหาต่างๆ จะได้จบลงไปพร้อมกับเขาด้วย!

 

เธอไม่สนใจว่าซูอานจะเคยเป็นผู้มีพระคุณของเธอแม้แต่ น้อย. และมนุษย์เราก็มักเป็นเช่นนี้ ที่มักจะจดจําแต่ความเคียดแค้น มากกว่าความเมตตาของอีกฝ่าย

 

รถเฟอรารี่ 458 เป็นรถที่มีเครื่องยนต์แรงและมีอัตราเร่ง สูงถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลา 3.4 วินาที โดยมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว และ เมื่อฮั่วว่านว่านเหยียบคันเร่งจนมิดพุ่งเข้าใส่ร่างของซูอานเช่น นี้ร่างของเขาจึงลอยขึ้นไปกลางอากาศก่อนจะตกลงสู่ พื้นและกลิ้งไปตามถนนอย่างรวดเร็ว

 

ฮัวว่านว่านถึงกับตกใจจนนิ่งไป และเมื่อสติของเธอกลับคืนมา เธอจึงเพิ่งรู้ตัวว่าตนเองได้ขับรถชนใครบางคนอย่างแรงและเวลานี้เธอก็กําลังหวาดกลัวจนร่างกายสั่นเพิ่ม

 

“ไม่นะ! เขาต้องไม่เป็นอะไร เขาต้องไม่ตาย!”

 

รถเฟอรารี่ 458 สีแดงที่หรูหราได้รับความเสียหายอย่างมาก จนด้านหน้ารถถึงกับยุบเข้าไป แต่ฮั่วว่านว่านไม่มีก ระจิตกระใจจะมาสนใจความเสียหายของรถเธอรีบเปิดประตู ลงมาจากรถและถอดรองเท้าส้นสูงออก แล้วรีบวิ่งตรงไปที่ถนนด้านหน้าทันที

 

ฮัวว่านว่านรู้เพียงว่าหากซูอานตายขึ้นมาจริงๆ ปูของเธอจะต้องโกรธมาก และเมื่อถึงตอนนั้นไม่รู้ว่าปูของเธอจะ ทําอะไรกับเธอบ้าง?

 

แม้จะวิ่งเท้าเปล่าไปตั้งไกลจนเป็นแผลถลอกเต็มฝ่าเท้าฮัวว่านว่านก็ไม่ได้สนใจหรือรู้สึกเจ็บปวดแม้แต่น้อย และ เมื่อเธอวิ่งออกไปไกลจนเห็นร่างร่างหนึ่งยืนอยู่ข้างถนน เธอก็ถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

 

ระหว่างที่ซูอานถูกรถของฮัวว่านว่านพุ่งเข้าชนอย่างแรงนั้นเขาได้เดินลมปราณไว้ทั่วร่างกาย จากนั้นจึงได้กลิ้งตัวลงไปตามพื้นพื้นถนน แม้เสื้อผ้าของเขาจะฉีกขาดบ้าง และตามเนื้อตัวจะมีรอยฟกช้ําอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอะไรนัก

 

เพราะในจังหวะที่รถพุ่งเข้าปะทะกับร่างของเขานั้น เขาได้เดินลมปราณปกป้องไว้ทั่วร่างแล้ว หากเขาเดินลมปราณปกป้องไว้ได้ไม่ทัน เขาอาจต้อง ถูกฮัวว่านว่านขับรถชนตายไปแล้วจริงๆก็เป็นได้

 

หลังจากที่ยืนจ้องมองร่างกายที่มีรอยฟกช้ําเต็มตัวของซูอาน และเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นของเขาฮัวว่านว่านก็ได้แต่เอ่ยขอโทษด้วยความรู้สึกผิด

 

“ฉัน.. ฉันขอโทษ!”

 

ซูอานจ้องมองฮัวว่านว่านด้วยแววตาเย็นชาสายตาของเขา เวลานี้ไม่บ่งบอกถึงความเป็นมิตรเลยแม้แต่น้อย 

 

“ที่เข้าช่วยชีวิตของเจ้าไว้แต่เจ้ากลับจะเอาชีวิตของข้า! เจ้าคิดว่าข้าสมควรที่จะฆ่าเจ้าทิ้งหรือไม่?”

 

ซูอานเดินเข้าไปคว้าแขนเรียวงามของฮั่วว่านว่านไว้แน่นเขาบีบแขนของเธอแน่นพร้อมกับจ้องมองด้วยแววตาโม โหเกรี้ยวกราด

 

ฮั่วว่านว่านตกใจจนแทบหายใจไม่ออกเธอพยายามดิ้นรนเพื่อที่จะให้หลุดพ้นจากฝ่ามือของซูอานแต่สุดท้ายก็ไม่เป็นผล

 

หลังจากพูดตะโกนใส่หน้าฮั่วว่านว่านด้วยความเดือดดาลแล้วเขาก็ผลักร่างของเธอจนล้มลงไปกองกับพื้นทันทีพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ําเสียงเย็นชา

 

“ทั้งหมดล้วนเป็นความต้องการของเหล่าฮั่วทั้งสิ้น! และที่ข้ายอมก็เพราะเห็นแก่เหล่าฮั่ว แต่นับจากนี้ไป.. ข้าไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกับตระกูลฮัวของเจ้าอีก!”

 

หลังจากพูดจบ. ซูอานก็เดินหันหลังกลับออกไปอย่างสงบและไม่สนใจฮัวว่านว่านอีกเลยแม้แต่น้อย ตรงข้ามกลับชั่วว่านว่านที่กลับรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างบอกไม่ถูก

 

เวลานี้ฮัวว่านว่านรู้สึกราวกับว่า หัวใจของเธอถูกของมีคมกรีดซ้ําแล้วซ้ําเล่า จนรู้สึกเจ็บปวดอย่างที่สุด ในขณะเดียวกันความรู้สึกหวาดกลัวก็ปรากฏขึ้นอยู่ภายในใจ

 

หลังจากที่ซูอานจากไปแล้วฮั่วว่านว่านจึงได้ขับรถไป ที่คอนโดของหยวนจิ๋วชื่อทันที

 

เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางที่ตระหนกตกใจของฮัวว่านว่านหยวนจิ๋วชื่อก็ร้องตะโกนถามด้วยความแปลกใจ

 

“ว่านว่าน เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”

ฮัวว่านว่านเอาแต่ร้องห่มร้องไห้ด้วยความเสียอกเสียใจอย่างมาก และทันทีที่เห็นหน้าหยวนจิ๋วชื่อ เธอก็โถมตัว เข้าไปในอ้อมอกของเขาทันที พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่แบบนั้น

หลังจากร้องไห้อยู่นานจนเหนื่อย และหน้าอก ของหยวนจิ๋วชื่อก็เปียกชื้นไปด้วยน้ําตาของเธอ ในที่สุดฮั่วว่านว่านก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นว่า

 

“พี่จิ๋วชื่อ.. พวกเราหนีไปด้วยกันดีมั้ย?”

 

หยวนจิวซื้อได้ฟังก็ได้แต่งุนงงและประหลาดใจ แต่การที่ฮัวว่านว่านพูดออกมาเช่นนี้ ย่อมต้องมีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น เป็นแน่!

 

“ว่านว่าน คุณบอกผมมาก่อนว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกัน แน่?”

 

ฮัวว่านว่านไม่อยากจะบอก แต่เมื่อเห็นสีหน้าแววตาอยากรู้อยากเห็นของหยวนจิ๋วชื่อ เธอก็ได้แต่หลบสายตาพร้อมกับตอบไปว่า

 

“ปูนะสิ! ปูจะให้ฉันแต่งงานกับคนที่ฉันไม่ได้รัก!”

 

เมื่อได้ยินคําตอบของฮัวว่านว่าน สีหน้าของหยวนจิ๋วชื่อจึงได้เปลี่ยนเป็นเย็นชาและเคร่งเครียดขึ้นมา ทันที เขาได้แต่คิดอยู่ในใจว่า ฮั่วว่านว่านกําลังจะเข้ามาอยู่ในกํามือของเขาแล้ว เขาจะไม่มีทางปล่อยให้คนอื่นมาฉกฉวยไปได้ง่ายๆเช่นนี้แน่

“ผู้เฒ่าฮัวคงจะสับสนอะไรแน่ๆ ท่านก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าพวกเราสองคนต่างก็โตมาด้วยกัน และรู้ดีว่าเราสองคนรู้สึกต่อกันอย่างไร?”

 

“แต่คนที่ปูจะให้ฉันแต่งงานด้วย เป็นคนที่ช่วยชีวิตของฉัน ไว้น่ะสิ!”

 

หยวนจิวชื่อเข้าใจได้ในทันที เพราะเขาเองก็รู้เรื่องที่ฮัวว่านว่านเข้าโรงพยาบาล และเขาเองก็ได้ไปเยี่ยมเยียนเธอ ที่โรงพยาบาลหลายต่อหลายครั้ง

 

หลังจากที่ชั่วว่านว่านปลอดภัย เขาเองก็รู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณผู้ที่ช่วยยั่วว่านว่านไว้ในคราวนั้น แต่กลับคิด ไม่ถึงว่าเหตุการณ์จะกลับกลายมาเป็นเช่นนี้!

 

“ว่านว่าน คุณไม่ต้องกังวลใจไป ยังมีผมอยู่ทั้งคน!”

 

หยวนจิ๋วชื่อกอดฮั่วว่านว่านไว้แน่น ราวกับว่าไม่ต้อง การแยกจากกันอีกและหลังจากปลอบโย นฮั่วว่านว่านให้คลายอาการเศร้าโศกได้แล้ว เขา ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครบางคนทันที

 

“ไปสืบมาให้ฉันทีว่ามันเป็นใคร?”

 

หยวนจิ๋วชื่อออกคําสั่งด้วยน้ําเสียงเคร่งเครียด เขาต้องสืบรู้ภูมิหลังของผู้ที่ช่วยชั่วว่านว่านไว้ให้ได้ว่าเป็นผู้ใดมาจาก ไหนกันแน่?

 

“ไม่ว่าแกจะเป็นใครก็ตาม กล้ามาแย่งผู้หญิงของฉันไป แบบนี้ฉันจะไม่มีทางปล่อยแกไว้แน่!”

 

ใบหน้าของหยวนจิ๋วชื่อเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด รังสีสังหารรุนแรงพวยพุ่งออกมา และเรื่องนี้ก็ทําให้เขาโมโหอย่างที่สุด!

 

หลังจากนั้นหยวนจิ๋วซื่อก็ได้โทรหาพ่อของเขา และ ขอให้พ่อของเขาไปพูดคุยเรื่องการหมั้นหมายกับตระกูลฮั่ว 

 

หยวนจื่อซิ่วจําเป็นต้องดําเนินการไปพร้อมๆกันทั้งสองเรื่องเขาจะต้องได้ชั่วว่านว่านมาเป็นภรรยาให้ได้ เพราะนั่นห มายถึงผลประโยชน์อันมหาศาล..

 

อํานาจอิทธิพลของตระกูลยั่วนั้นทั้งแข็งแกร่งและกว้างไกลเขาต้องทําให้ตระกูลหยวนได้ดองกับตระกูลฮั่วให้ได้

 

หยวนจิ๋วชื่อจ้องมองฮัวว่านว่านที่นอนหลับไหลอยู่บนเตียงของเขาด้วยความเหนื่อยล้า และความเจ็บปวดใจก็ปรากฏขึ้นในแววตาของเขา เขาเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าง ดงามของฮั่วว่านว่าน แล้วความคิดบางอย่างก็วูบขึ้นมาในหัวของเขา นิ้วมือที่ลูบไล้ไปตามเรือนร่างของเธอนั้นสั่นระริก

 

แต่ในที่สุดเขาก็หยุดความคิดชั่วร้ายของตนเองไว้เพียงเท่านั้น แล้วนอนลงข้างกายของเธอนิ่งๆแทน

 

เพราภายในใจของเขาเองก็ชื่นชอบชั่วว่านว่านไม่น้อย เพราะเธอเป็นหญิงสาวที่งดงามมากเท่าที่เขาเคยพบเจอผู้หญิงมา และที่สําคัญยั่วว่านว่านนั้นเป็นเด็กสาวที่แสนซื่อและบริสุทธิ์ เธอเปรียบเสมือนกระดาษขาวหญิงสาวที่เพียบพร้อมเช่นนี้ ใครบ้างที่จะอดใจไม่หลงรักเธอได้เล่า?

 

หากเขาชิงสุกก่อนห่าม ล่วงเลยฮั่วว่านว่านไปในตอนนี้ แน่นอนว่าตระกูลฮั่วคงไม่อาจปฏิเสธที่จะรับเขาเป็นเขยได้ก็จริง แต่นั่นจะทําให้ทั้งผู้เฒ่าฮัว และพ่อของฮั่วว่านว่าน ไม่พอใจในตัวเขา และนั่นเป็นสิ่งที่เขาไม่ต้องการให้เกิดขึ้น!

 

เขาจําเป็นต้องสร้างความประทับใจให้กับพ่อ ของฮัวว่านว่าน และปูของเธอ เพื่อที่ทั้งคู่จะได้สนับสนุนเขา ต่อไปในวันข้างหน้า

 

ผู้เฒ่าฮั่วรู้จักคนใหญ่คนโตในกองทัพมากมายหลายคน แม้กระทั่งผู้บัญชาการของเขาคนปัจจุบันยังต้องฟังผู้เฒ่าชั่ว และ ไปเยี่ยมเยียนตระกูลฮั่วอยู่บ่อยครั้ง

 

เมื่อคิดได้เช่นนี้ หยวนจิ๋วชื่อจึงได้แต่นอนมองฝ้าเพดานและดับไฟปรารถนาแห่งชายชาตรีในตัวลง และครุ่นคิดถึงเรื่องที่ควรต้องทําในเวลานี้ซึ่งมีอยู่สองเรื่องคือ รีบหาทางแต่ งงานกับฮัวว่านว่านให้ได้โดยเร็ว และกําจัดขวากหนามออกจากทางเดินของตน

 

ความจริงแล้ว ทั้งสองเรื่องนั้นก็คือเรื่องเดียวกันนั่นเอง เขาจะต้องคิดหาวิธีมัดใจผู้เฒ่าชั่วให้ได้ เพื่อให้ผู้เฒ่าฮั่วสนับสนุน เขา หากได้ผู้เฒ่าฮัวสนับสนุนเช่นนี้ การที่เขาจะได้เลื่อ นตําแหน่งในหน่วยรบพิเศษเจี้ยนเตานี้เป็นพันเอกก็เป็นเรื่อง ไม่ยาก

 

เขาไม่ได้ขาดแคลนเงินทอง ไม่ได้ขาดแคลนทรัพย์สมบัติและไม่ได้ขาดแคลนผู้หญิง แต่สิ่งที่เขาขาดแคลนก็คืออํานาจ ที่ตระกูลฮั่วมีอยู่ในตอนนี้

 

และสิ่งที่มนุษยเราปรารถนามากที่สุด ก็คือสิ่งที่ตนเองขาดแคลนที่สุดนั่นเอง มนุษย์เรามักจะดิ้นรนหาสิ่งที่ตนขาดแคลน และนี่คือธรรมชาติของมนุษย์!

 

……

 

สองสามวันต่อมา ซูอานเองก็ได้ลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นในบ้าน ของเหล่าฮั่ววันนั้นไปจนหมดสิ้นแล้ว และเขาเองก็ไม่ได้รู้สึก ซาบซึ้งในบุญคุณของเหล่าฮัวอีกแล้วเช่นกัน เพราะเขาได้ตอบ แทนไปด้วยการช่วยชีวิตชั่วว่านว่านแล้ว

 

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ และหลังจากปฏิเสธที่ จะไปปิคนิคกับเจียงเหวินเหวินไปแล้ว เวลานี้เขาก็ไม่รู้ว่าจะ ทําอะไรดีหลังจากที่ออกกําลังกายเสร็จแล้ว

ในระหว่างนั้นโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นพอดี และซูอานก็ เห็นว่าเป็นสายเรียกเข้าจากเหล่าฮั่ว หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่ห นึ่ง ซูอานก็ตัดสินใจกดรับสาย

 

“เหล่าฮั่ว เจ้าว่างมากงั้นรึ?” ซูอานถามขึ้นด้วยน้ําเสียงที่ ไม่ดังนักแต่ใบหน้าของเขาไม่มีรอยยิ้มเช่นเคย 

 

ผู้เฒ่าชั่วฟังจากน้ําเสียงก็รู้ว่าซูอานยังคงขุ่นเคืองใจอยู่จึง ได้แต่ถามออกไปว่า “ซูอาน เธอยังโกรธฉันอยู่เหรอนี่? อย่า โกรธฉันเลยนะ ฉันแค่คิดถึงความสุขของเธอกับว่านว่านก็เท่า นั้นเอง!”

 

“พอที! เจ้าไม่ต้องคิดแทนข้าอีกแล้ว โทรมาหาข้าวันนี้มี เรื่องอะไรงั้นรึ?”

 

“ฉันอยากให้เธอมาร่วมงานปาร์ตี้สําคัญที่บ้าน ของฉันหน่อย!”

 

“ข้าไม่ว่าง!”

“นี่เธอไม่อยากรู้เรื่องดินแดนพลังชีวิตแล้วเรอะ?” เหล่าฮั่วมั่นใจอย่างมากว่าซูอานได้ยินจะต้องรีบมาหาเขาทันที เหมือนเช่นวันนั้นอีก

 

แต่ครั้งนี้ซูอานตอบกลับไปด้วยน้ําเสียงที่ห้วน “เหล่าชั่ว อย่าได้ล้อเล่นกับข้าเช่นนี้อีก ไม่เช่นนั้นข้าเองก็ไม่อาจรับ รองได้ว่าจะทําอะไรลงไปได้บ้าง?”

 

“ครั้งนี้ฉันพูดจริงๆ แล้วฉันก็วางแผนไว้ว่าจะไปดูสถานที่นั้นด้วยตัวเอง!” น้ําเสียงของเหล่าฮั่วนิ่งเรียบเคร่งขรึม ปราศ จากอารมณ์ขัน

 

ซูอานเองก็สัมผัสได้ถึงความจริงจังในน้ําเสียงนั้น จึงได้ตอบเหล่าฮั่วไปด้วยน้ําเสียงจริงจังเช่นกัน “ได้! ข้าจะไป หาเจ้าเดี๋ยวนี้!”

 

หลังจากวางสายไปแล้ว ซูอานก็ทําสีหน้าครุ่นคิด เขาไม่รู้ว่าดินแดนพลังชีวิตที่เหล่าฮั่วพูดถึงนั้นจะเป็นเรื่องจริงหรือว่า ไม่จริงกันแน่ แต่เขาก็ยังไม่คิดที่จะล้มเลิกความตั้งใจในการ เสาะหา ต่อให้มีโอกาสแม้แต่น้อยนิด เขาก็จะคว้าไว้..

 

ซูอานไม่คิดอะไรอีก เขาคว้าเสื้อโค้ทมาใส่และรีบเดินลงบันไดไป แล้วออกไปเรียกแท็กซี่ตรงไปที่บ้านของเหล่าฮั่วทันที

 

และทันทีที่รถแท็กซี่แล่นเข้าไปภายในหมู่บ้านหรูหราแห่งนั้น ตามถนนทั้งสองข้างทาง ต่างก็มีรถหรูจอดอยู่มากมาย ไม่ ว่าจะเป็น Mercedes-Benz BMW และอื่นๆ

 

แม้แต่คนขับแท็กซี่ยังหันไปมองหน้าซูอานอย่างงุนงงสงสัยว่า คนแต่งตัวอย่างเขาจะมาที่นี่ทําไมกัน เพราะที่นี่คือหมู่ บ้านของคนร่ํารวยทั้งนั้น จากนั้นคนขับแท็กซี่ก็ปล่อยเขาลงตร งระหว่างทางขึ้นเขา ซึ่งหลิงหยุนก็ไม่ได้ติดใจอะไร หลังจากจ่ายเงินค่าแท็กซี่แล้วจึงค่อยๆเดินขึ้นเขามาอย่างส บายใจ

 

แต่ในระหว่างที่เขาเดินขึ้นไประยะหนึ่งนั้น ก็มีชายสูงอายุเดินเข้ามาถามว่า “ขอโทษนะครับ ไม่ทราบมี บัตรเชิญมั้ยครับ?”

 

ซูอานชะงักไปเล็กน้อย แล้วจึงส่ายหน้าไปมาพร้อมตอบกลับไปว่า “ไม่มี! เหล่าฮัวโทรไปเรียกให้ข้ามาพบเขาที่ นี่!”

 

“ในเมื่อไม่มีบัตรเชิญ เราก็ให้คุณเข้าไปไม่ได้ครับ!”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ย้อนชีวิตพิชิตเซียน 45 : งานปาร์ตี้สําคัญ

Now you are reading ย้อนชีวิตพิชิตเซียน Chapter 45 : งานปาร์ตี้สําคัญ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 45 : งานปาร์ตี้สําคัญ

 

ครั้งนี้ชั่วว่านว่านโกรธจนหูอื้อตาลาย เมื่อเห็นซูอานก้าวเดินออกไปหลังจากที่พูดจาดูถูกตนเองเช่นนั้น เธอจึง วิ่งกลับไปที่รถเฟอรารี่ 458 สีแดงของตนเองและเหยียบคันเร่งอย่างแรง

 

เวลานี้ ฮั่วว่านว่านโกรธจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ หัวสมองของเธอคิดเพียงแค่ว่าต้องการฆ่าซูอานทิ้ง ปัญหาต่างๆ จะได้จบลงไปพร้อมกับเขาด้วย!

 

เธอไม่สนใจว่าซูอานจะเคยเป็นผู้มีพระคุณของเธอแม้แต่ น้อย. และมนุษย์เราก็มักเป็นเช่นนี้ ที่มักจะจดจําแต่ความเคียดแค้น มากกว่าความเมตตาของอีกฝ่าย

 

รถเฟอรารี่ 458 เป็นรถที่มีเครื่องยนต์แรงและมีอัตราเร่ง สูงถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลา 3.4 วินาที โดยมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว และ เมื่อฮั่วว่านว่านเหยียบคันเร่งจนมิดพุ่งเข้าใส่ร่างของซูอานเช่น นี้ร่างของเขาจึงลอยขึ้นไปกลางอากาศก่อนจะตกลงสู่ พื้นและกลิ้งไปตามถนนอย่างรวดเร็ว

 

ฮัวว่านว่านถึงกับตกใจจนนิ่งไป และเมื่อสติของเธอกลับคืนมา เธอจึงเพิ่งรู้ตัวว่าตนเองได้ขับรถชนใครบางคนอย่างแรงและเวลานี้เธอก็กําลังหวาดกลัวจนร่างกายสั่นเพิ่ม

 

“ไม่นะ! เขาต้องไม่เป็นอะไร เขาต้องไม่ตาย!”

 

รถเฟอรารี่ 458 สีแดงที่หรูหราได้รับความเสียหายอย่างมาก จนด้านหน้ารถถึงกับยุบเข้าไป แต่ฮั่วว่านว่านไม่มีก ระจิตกระใจจะมาสนใจความเสียหายของรถเธอรีบเปิดประตู ลงมาจากรถและถอดรองเท้าส้นสูงออก แล้วรีบวิ่งตรงไปที่ถนนด้านหน้าทันที

 

ฮัวว่านว่านรู้เพียงว่าหากซูอานตายขึ้นมาจริงๆ ปูของเธอจะต้องโกรธมาก และเมื่อถึงตอนนั้นไม่รู้ว่าปูของเธอจะ ทําอะไรกับเธอบ้าง?

 

แม้จะวิ่งเท้าเปล่าไปตั้งไกลจนเป็นแผลถลอกเต็มฝ่าเท้าฮัวว่านว่านก็ไม่ได้สนใจหรือรู้สึกเจ็บปวดแม้แต่น้อย และ เมื่อเธอวิ่งออกไปไกลจนเห็นร่างร่างหนึ่งยืนอยู่ข้างถนน เธอก็ถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

 

ระหว่างที่ซูอานถูกรถของฮัวว่านว่านพุ่งเข้าชนอย่างแรงนั้นเขาได้เดินลมปราณไว้ทั่วร่างกาย จากนั้นจึงได้กลิ้งตัวลงไปตามพื้นพื้นถนน แม้เสื้อผ้าของเขาจะฉีกขาดบ้าง และตามเนื้อตัวจะมีรอยฟกช้ําอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอะไรนัก

 

เพราะในจังหวะที่รถพุ่งเข้าปะทะกับร่างของเขานั้น เขาได้เดินลมปราณปกป้องไว้ทั่วร่างแล้ว หากเขาเดินลมปราณปกป้องไว้ได้ไม่ทัน เขาอาจต้อง ถูกฮัวว่านว่านขับรถชนตายไปแล้วจริงๆก็เป็นได้

 

หลังจากที่ยืนจ้องมองร่างกายที่มีรอยฟกช้ําเต็มตัวของซูอาน และเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นของเขาฮัวว่านว่านก็ได้แต่เอ่ยขอโทษด้วยความรู้สึกผิด

 

“ฉัน.. ฉันขอโทษ!”

 

ซูอานจ้องมองฮัวว่านว่านด้วยแววตาเย็นชาสายตาของเขา เวลานี้ไม่บ่งบอกถึงความเป็นมิตรเลยแม้แต่น้อย 

 

“ที่เข้าช่วยชีวิตของเจ้าไว้แต่เจ้ากลับจะเอาชีวิตของข้า! เจ้าคิดว่าข้าสมควรที่จะฆ่าเจ้าทิ้งหรือไม่?”

 

ซูอานเดินเข้าไปคว้าแขนเรียวงามของฮั่วว่านว่านไว้แน่นเขาบีบแขนของเธอแน่นพร้อมกับจ้องมองด้วยแววตาโม โหเกรี้ยวกราด

 

ฮั่วว่านว่านตกใจจนแทบหายใจไม่ออกเธอพยายามดิ้นรนเพื่อที่จะให้หลุดพ้นจากฝ่ามือของซูอานแต่สุดท้ายก็ไม่เป็นผล

 

หลังจากพูดตะโกนใส่หน้าฮั่วว่านว่านด้วยความเดือดดาลแล้วเขาก็ผลักร่างของเธอจนล้มลงไปกองกับพื้นทันทีพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ําเสียงเย็นชา

 

“ทั้งหมดล้วนเป็นความต้องการของเหล่าฮั่วทั้งสิ้น! และที่ข้ายอมก็เพราะเห็นแก่เหล่าฮั่ว แต่นับจากนี้ไป.. ข้าไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกับตระกูลฮัวของเจ้าอีก!”

 

หลังจากพูดจบ. ซูอานก็เดินหันหลังกลับออกไปอย่างสงบและไม่สนใจฮัวว่านว่านอีกเลยแม้แต่น้อย ตรงข้ามกลับชั่วว่านว่านที่กลับรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างบอกไม่ถูก

 

เวลานี้ฮัวว่านว่านรู้สึกราวกับว่า หัวใจของเธอถูกของมีคมกรีดซ้ําแล้วซ้ําเล่า จนรู้สึกเจ็บปวดอย่างที่สุด ในขณะเดียวกันความรู้สึกหวาดกลัวก็ปรากฏขึ้นอยู่ภายในใจ

 

หลังจากที่ซูอานจากไปแล้วฮั่วว่านว่านจึงได้ขับรถไป ที่คอนโดของหยวนจิ๋วชื่อทันที

 

เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางที่ตระหนกตกใจของฮัวว่านว่านหยวนจิ๋วชื่อก็ร้องตะโกนถามด้วยความแปลกใจ

 

“ว่านว่าน เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”

ฮัวว่านว่านเอาแต่ร้องห่มร้องไห้ด้วยความเสียอกเสียใจอย่างมาก และทันทีที่เห็นหน้าหยวนจิ๋วชื่อ เธอก็โถมตัว เข้าไปในอ้อมอกของเขาทันที พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่แบบนั้น

หลังจากร้องไห้อยู่นานจนเหนื่อย และหน้าอก ของหยวนจิ๋วชื่อก็เปียกชื้นไปด้วยน้ําตาของเธอ ในที่สุดฮั่วว่านว่านก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นว่า

 

“พี่จิ๋วชื่อ.. พวกเราหนีไปด้วยกันดีมั้ย?”

 

หยวนจิวซื้อได้ฟังก็ได้แต่งุนงงและประหลาดใจ แต่การที่ฮัวว่านว่านพูดออกมาเช่นนี้ ย่อมต้องมีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น เป็นแน่!

 

“ว่านว่าน คุณบอกผมมาก่อนว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกัน แน่?”

 

ฮัวว่านว่านไม่อยากจะบอก แต่เมื่อเห็นสีหน้าแววตาอยากรู้อยากเห็นของหยวนจิ๋วชื่อ เธอก็ได้แต่หลบสายตาพร้อมกับตอบไปว่า

 

“ปูนะสิ! ปูจะให้ฉันแต่งงานกับคนที่ฉันไม่ได้รัก!”

 

เมื่อได้ยินคําตอบของฮัวว่านว่าน สีหน้าของหยวนจิ๋วชื่อจึงได้เปลี่ยนเป็นเย็นชาและเคร่งเครียดขึ้นมา ทันที เขาได้แต่คิดอยู่ในใจว่า ฮั่วว่านว่านกําลังจะเข้ามาอยู่ในกํามือของเขาแล้ว เขาจะไม่มีทางปล่อยให้คนอื่นมาฉกฉวยไปได้ง่ายๆเช่นนี้แน่

“ผู้เฒ่าฮัวคงจะสับสนอะไรแน่ๆ ท่านก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าพวกเราสองคนต่างก็โตมาด้วยกัน และรู้ดีว่าเราสองคนรู้สึกต่อกันอย่างไร?”

 

“แต่คนที่ปูจะให้ฉันแต่งงานด้วย เป็นคนที่ช่วยชีวิตของฉัน ไว้น่ะสิ!”

 

หยวนจิวชื่อเข้าใจได้ในทันที เพราะเขาเองก็รู้เรื่องที่ฮัวว่านว่านเข้าโรงพยาบาล และเขาเองก็ได้ไปเยี่ยมเยียนเธอ ที่โรงพยาบาลหลายต่อหลายครั้ง

 

หลังจากที่ชั่วว่านว่านปลอดภัย เขาเองก็รู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณผู้ที่ช่วยยั่วว่านว่านไว้ในคราวนั้น แต่กลับคิด ไม่ถึงว่าเหตุการณ์จะกลับกลายมาเป็นเช่นนี้!

 

“ว่านว่าน คุณไม่ต้องกังวลใจไป ยังมีผมอยู่ทั้งคน!”

 

หยวนจิ๋วชื่อกอดฮั่วว่านว่านไว้แน่น ราวกับว่าไม่ต้อง การแยกจากกันอีกและหลังจากปลอบโย นฮั่วว่านว่านให้คลายอาการเศร้าโศกได้แล้ว เขา ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครบางคนทันที

 

“ไปสืบมาให้ฉันทีว่ามันเป็นใคร?”

 

หยวนจิ๋วชื่อออกคําสั่งด้วยน้ําเสียงเคร่งเครียด เขาต้องสืบรู้ภูมิหลังของผู้ที่ช่วยชั่วว่านว่านไว้ให้ได้ว่าเป็นผู้ใดมาจาก ไหนกันแน่?

 

“ไม่ว่าแกจะเป็นใครก็ตาม กล้ามาแย่งผู้หญิงของฉันไป แบบนี้ฉันจะไม่มีทางปล่อยแกไว้แน่!”

 

ใบหน้าของหยวนจิ๋วชื่อเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด รังสีสังหารรุนแรงพวยพุ่งออกมา และเรื่องนี้ก็ทําให้เขาโมโหอย่างที่สุด!

 

หลังจากนั้นหยวนจิ๋วซื่อก็ได้โทรหาพ่อของเขา และ ขอให้พ่อของเขาไปพูดคุยเรื่องการหมั้นหมายกับตระกูลฮั่ว 

 

หยวนจื่อซิ่วจําเป็นต้องดําเนินการไปพร้อมๆกันทั้งสองเรื่องเขาจะต้องได้ชั่วว่านว่านมาเป็นภรรยาให้ได้ เพราะนั่นห มายถึงผลประโยชน์อันมหาศาล..

 

อํานาจอิทธิพลของตระกูลยั่วนั้นทั้งแข็งแกร่งและกว้างไกลเขาต้องทําให้ตระกูลหยวนได้ดองกับตระกูลฮั่วให้ได้

 

หยวนจิ๋วชื่อจ้องมองฮัวว่านว่านที่นอนหลับไหลอยู่บนเตียงของเขาด้วยความเหนื่อยล้า และความเจ็บปวดใจก็ปรากฏขึ้นในแววตาของเขา เขาเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าง ดงามของฮั่วว่านว่าน แล้วความคิดบางอย่างก็วูบขึ้นมาในหัวของเขา นิ้วมือที่ลูบไล้ไปตามเรือนร่างของเธอนั้นสั่นระริก

 

แต่ในที่สุดเขาก็หยุดความคิดชั่วร้ายของตนเองไว้เพียงเท่านั้น แล้วนอนลงข้างกายของเธอนิ่งๆแทน

 

เพราภายในใจของเขาเองก็ชื่นชอบชั่วว่านว่านไม่น้อย เพราะเธอเป็นหญิงสาวที่งดงามมากเท่าที่เขาเคยพบเจอผู้หญิงมา และที่สําคัญยั่วว่านว่านนั้นเป็นเด็กสาวที่แสนซื่อและบริสุทธิ์ เธอเปรียบเสมือนกระดาษขาวหญิงสาวที่เพียบพร้อมเช่นนี้ ใครบ้างที่จะอดใจไม่หลงรักเธอได้เล่า?

 

หากเขาชิงสุกก่อนห่าม ล่วงเลยฮั่วว่านว่านไปในตอนนี้ แน่นอนว่าตระกูลฮั่วคงไม่อาจปฏิเสธที่จะรับเขาเป็นเขยได้ก็จริง แต่นั่นจะทําให้ทั้งผู้เฒ่าฮัว และพ่อของฮั่วว่านว่าน ไม่พอใจในตัวเขา และนั่นเป็นสิ่งที่เขาไม่ต้องการให้เกิดขึ้น!

 

เขาจําเป็นต้องสร้างความประทับใจให้กับพ่อ ของฮัวว่านว่าน และปูของเธอ เพื่อที่ทั้งคู่จะได้สนับสนุนเขา ต่อไปในวันข้างหน้า

 

ผู้เฒ่าฮั่วรู้จักคนใหญ่คนโตในกองทัพมากมายหลายคน แม้กระทั่งผู้บัญชาการของเขาคนปัจจุบันยังต้องฟังผู้เฒ่าชั่ว และ ไปเยี่ยมเยียนตระกูลฮั่วอยู่บ่อยครั้ง

 

เมื่อคิดได้เช่นนี้ หยวนจิ๋วชื่อจึงได้แต่นอนมองฝ้าเพดานและดับไฟปรารถนาแห่งชายชาตรีในตัวลง และครุ่นคิดถึงเรื่องที่ควรต้องทําในเวลานี้ซึ่งมีอยู่สองเรื่องคือ รีบหาทางแต่ งงานกับฮัวว่านว่านให้ได้โดยเร็ว และกําจัดขวากหนามออกจากทางเดินของตน

 

ความจริงแล้ว ทั้งสองเรื่องนั้นก็คือเรื่องเดียวกันนั่นเอง เขาจะต้องคิดหาวิธีมัดใจผู้เฒ่าชั่วให้ได้ เพื่อให้ผู้เฒ่าฮั่วสนับสนุน เขา หากได้ผู้เฒ่าฮัวสนับสนุนเช่นนี้ การที่เขาจะได้เลื่อ นตําแหน่งในหน่วยรบพิเศษเจี้ยนเตานี้เป็นพันเอกก็เป็นเรื่อง ไม่ยาก

 

เขาไม่ได้ขาดแคลนเงินทอง ไม่ได้ขาดแคลนทรัพย์สมบัติและไม่ได้ขาดแคลนผู้หญิง แต่สิ่งที่เขาขาดแคลนก็คืออํานาจ ที่ตระกูลฮั่วมีอยู่ในตอนนี้

 

และสิ่งที่มนุษยเราปรารถนามากที่สุด ก็คือสิ่งที่ตนเองขาดแคลนที่สุดนั่นเอง มนุษย์เรามักจะดิ้นรนหาสิ่งที่ตนขาดแคลน และนี่คือธรรมชาติของมนุษย์!

 

……

 

สองสามวันต่อมา ซูอานเองก็ได้ลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นในบ้าน ของเหล่าฮั่ววันนั้นไปจนหมดสิ้นแล้ว และเขาเองก็ไม่ได้รู้สึก ซาบซึ้งในบุญคุณของเหล่าฮัวอีกแล้วเช่นกัน เพราะเขาได้ตอบ แทนไปด้วยการช่วยชีวิตชั่วว่านว่านแล้ว

 

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ และหลังจากปฏิเสธที่ จะไปปิคนิคกับเจียงเหวินเหวินไปแล้ว เวลานี้เขาก็ไม่รู้ว่าจะ ทําอะไรดีหลังจากที่ออกกําลังกายเสร็จแล้ว

ในระหว่างนั้นโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นพอดี และซูอานก็ เห็นว่าเป็นสายเรียกเข้าจากเหล่าฮั่ว หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่ห นึ่ง ซูอานก็ตัดสินใจกดรับสาย

 

“เหล่าฮั่ว เจ้าว่างมากงั้นรึ?” ซูอานถามขึ้นด้วยน้ําเสียงที่ ไม่ดังนักแต่ใบหน้าของเขาไม่มีรอยยิ้มเช่นเคย 

 

ผู้เฒ่าชั่วฟังจากน้ําเสียงก็รู้ว่าซูอานยังคงขุ่นเคืองใจอยู่จึง ได้แต่ถามออกไปว่า “ซูอาน เธอยังโกรธฉันอยู่เหรอนี่? อย่า โกรธฉันเลยนะ ฉันแค่คิดถึงความสุขของเธอกับว่านว่านก็เท่า นั้นเอง!”

 

“พอที! เจ้าไม่ต้องคิดแทนข้าอีกแล้ว โทรมาหาข้าวันนี้มี เรื่องอะไรงั้นรึ?”

 

“ฉันอยากให้เธอมาร่วมงานปาร์ตี้สําคัญที่บ้าน ของฉันหน่อย!”

 

“ข้าไม่ว่าง!”

“นี่เธอไม่อยากรู้เรื่องดินแดนพลังชีวิตแล้วเรอะ?” เหล่าฮั่วมั่นใจอย่างมากว่าซูอานได้ยินจะต้องรีบมาหาเขาทันที เหมือนเช่นวันนั้นอีก

 

แต่ครั้งนี้ซูอานตอบกลับไปด้วยน้ําเสียงที่ห้วน “เหล่าชั่ว อย่าได้ล้อเล่นกับข้าเช่นนี้อีก ไม่เช่นนั้นข้าเองก็ไม่อาจรับ รองได้ว่าจะทําอะไรลงไปได้บ้าง?”

 

“ครั้งนี้ฉันพูดจริงๆ แล้วฉันก็วางแผนไว้ว่าจะไปดูสถานที่นั้นด้วยตัวเอง!” น้ําเสียงของเหล่าฮั่วนิ่งเรียบเคร่งขรึม ปราศ จากอารมณ์ขัน

 

ซูอานเองก็สัมผัสได้ถึงความจริงจังในน้ําเสียงนั้น จึงได้ตอบเหล่าฮั่วไปด้วยน้ําเสียงจริงจังเช่นกัน “ได้! ข้าจะไป หาเจ้าเดี๋ยวนี้!”

 

หลังจากวางสายไปแล้ว ซูอานก็ทําสีหน้าครุ่นคิด เขาไม่รู้ว่าดินแดนพลังชีวิตที่เหล่าฮั่วพูดถึงนั้นจะเป็นเรื่องจริงหรือว่า ไม่จริงกันแน่ แต่เขาก็ยังไม่คิดที่จะล้มเลิกความตั้งใจในการ เสาะหา ต่อให้มีโอกาสแม้แต่น้อยนิด เขาก็จะคว้าไว้..

 

ซูอานไม่คิดอะไรอีก เขาคว้าเสื้อโค้ทมาใส่และรีบเดินลงบันไดไป แล้วออกไปเรียกแท็กซี่ตรงไปที่บ้านของเหล่าฮั่วทันที

 

และทันทีที่รถแท็กซี่แล่นเข้าไปภายในหมู่บ้านหรูหราแห่งนั้น ตามถนนทั้งสองข้างทาง ต่างก็มีรถหรูจอดอยู่มากมาย ไม่ ว่าจะเป็น Mercedes-Benz BMW และอื่นๆ

 

แม้แต่คนขับแท็กซี่ยังหันไปมองหน้าซูอานอย่างงุนงงสงสัยว่า คนแต่งตัวอย่างเขาจะมาที่นี่ทําไมกัน เพราะที่นี่คือหมู่ บ้านของคนร่ํารวยทั้งนั้น จากนั้นคนขับแท็กซี่ก็ปล่อยเขาลงตร งระหว่างทางขึ้นเขา ซึ่งหลิงหยุนก็ไม่ได้ติดใจอะไร หลังจากจ่ายเงินค่าแท็กซี่แล้วจึงค่อยๆเดินขึ้นเขามาอย่างส บายใจ

 

แต่ในระหว่างที่เขาเดินขึ้นไประยะหนึ่งนั้น ก็มีชายสูงอายุเดินเข้ามาถามว่า “ขอโทษนะครับ ไม่ทราบมี บัตรเชิญมั้ยครับ?”

 

ซูอานชะงักไปเล็กน้อย แล้วจึงส่ายหน้าไปมาพร้อมตอบกลับไปว่า “ไม่มี! เหล่าฮัวโทรไปเรียกให้ข้ามาพบเขาที่ นี่!”

 

“ในเมื่อไม่มีบัตรเชิญ เราก็ให้คุณเข้าไปไม่ได้ครับ!”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+