Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน 131 ผู้ชนะ

Now you are reading Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน Chapter 131 ผู้ชนะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 131 ผู้ชนะ

เมื่อถังเยวี่ยร้องเพลงจบ ผู้ชมคิดว่าผู้ชนะของปีนี้ไม่จำเป็นต้องสงสัยแล้ว

เมื่อซย่าฝานร้องเพลงเสร็จ ผู้ชมก็คิดว่าผู้ชนะของปีนี้ไม่จำเป็นต้องสงสัยแล้ว

เอาเถอะ

แม้ว่าภาษาจีนจะกว้างและลึกซึ้ง ทว่าครั้งที่สองนั้นไม่จำเป็นต้องสงสัยจริงๆ เพราะผู้ชมทั่วทั้งห้องส่งตะโกนร้องชื่อหนึ่งออกมา

“ซย่าฝาน!”

“ซย่าฝาน!”

ผู้ชมด้านล่างเวทีมีความเป็นกลาง และข้อดีที่สุดของผู้ชมที่เป็นกลางก็คือถ้าใครร้องดีกว่าก็เป็นแฟนคลับของคนนั้น ก่อนหน้านี้พวกเขาเป็นแฟนคลับของถังเยวี่ย ตอนนี้เป็นแฟนคลับของซย่าฝาน

ราวกับว่ากำลังกระโดดสลับไปมา

พิธีกรชายรีบสาวเท้าขึ้นเวที เอ่ยด้วยเสียงดังกังวาน “เป็นโชว์ที่ยอดเยี่ยมมากเลยครับ ในตอนนี้ผมเชื่อว่า ผู้ชมทั้งในห้องส่งและผู้ชมทางบ้านน่าจะตื่นเต้นเหมือนกันใช่ไหมล่ะครับ แต่ว่าพวกเรายังต้องใจเย็นกันก่อนนะครับ”

“ใช่แล้วค่ะ”

พิธีกรหญิงก็ยืนกล่าวบนเวทีเช่นเดียวกัน “นึกไม่ถึงเลยนะคะว่าในศึกชิงแชมป์ครั้งนี้จะมีเพลงใหม่ปรากฏถึงสองเพลง แถมทั้งสองเพลงยังทำให้พวกเราตื่นเต้นไม่หายเลยล่ะค่ะ ขอถามคณะกรรมการทั้งสี่ท่านว่ามีความเห็นว่าอย่างไรบ้างคะ”

กล้องฉายไปยังคณะกรรมการ

คณะกรรมการเองก็ตื่นเต้นเช่นเดียวกัน แต่ละคนท่าทางเหมือนกินขนมล่าเถียว ใช้เวลานานโขกว่าจะสงบสติอารมณ์ได้ และตามมาด้วยเสียงหัวเราะอย่างอิ่มเอิบ

“ฉันคิดว่าฉันใจเย็นลงแล้วนะคะ”

กรรมการคนแรกกล่าวกลั้วหัวเราะ “แต่ที่จริงฉันก็ไม่รู้ว่าควรคอมเมนต์เพลงนี้ว่ายังไง บอกได้แค่ว่าคนที่เขียนเพลงระดับนี้ออกมาได้ ต้องไม่ใช่คนที่ไร้ชื่อเสียงอย่างแน่นอนค่ะ ทำนองดี ร้องก็ดี ถ้าให้ฉันคอมเมนต์ก็พูดได้แค่ว่าสำหรับฉันแล้ว เพลงนี้ของซย่าฝานเป็นเพลงที่ฉันชอบที่สุดในการประกวดซีซันนี้เลยค่ะ!”

“โชว์สมบูรณ์แบบมากครับ!”

กรรมการคนที่สองเองก็ให้คำชื่นชมในระดับที่สูงมาก จากนั้นจึงมองไปยังซย่าฝาน “ซย่าฝานคุณกระซิบหน่อยได้ไหมครับว่าอาจารย์นักแต่งเพลงท่านไหนที่อยู่เบื้องหลังเพลงนี้”

ขวับๆๆ!

สายตาของทุกคนมองไปยังซย่าฝาน ขณะที่ทุกคนยังคงดื่มด่ำกับพลังของบทเพลง ก็นึกสงสัยเช่นกันว่านี่เป็นผลงานของใคร

ซย่าฝานมองไปยังด้านข้าง

จ้าวเจวี๋ยพยักหน้าเบาๆ ให้เธอ

ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องเก็บเป็นความลับอีกต่อไป เพราะซย่าฝานได้มีเจตจำนงจะเซ็นสัญญากับสตาร์ไลท์แล้ว

ซย่าฝานสูดลมหายใจเข้าลึก ยิ้มบางตอบ “เพลงนี้มีชื่อว่าความฝันแรก และผู้ประพันธ์ผลงานชิ้นนี้ก็คือ…”

“เซี่ยนอวี๋ค่ะ”

เฮ้ๆๆ เพียงคำพูดเดียวก็นำพามาซึ่งเสียงเชียร์ดังสนั่น ดุจหินก้อนเดียวก่อกำเนิดเกลียวคลื่น!

เซี่ยนอวี๋!

เป็นเซี่ยนอวี๋จริงด้วย!

ชั่วขณะนั้นสีเหม่ยอยากล้มลงไปตรงนั้นให้รู้แล้วรู้รอด!

ก่อนหน้านี้เธอไปปั่นประสาทซย่าฝานไว้ หนำซ้ำยังจงใจเสียดสีจ้าวเจวี๋ยไปว่าให้ปลาตัวนั้นมากู้สถานการณ์

ผลเป็นยังไงล่ะ!

เป็นอย่างที่ฉันพูดเลยใช่ไหม

ฉันนี่มันปากพาซวยจริงๆ!

ถังเยวี่ยยิ้มขื่นเอ่ยว่า “ถึงกับเป็นเซี่ยนอวี๋ ฉันชอบเพลงของเซี่ยนอวี๋มาก เลยตั้งใจเลือกร้องเพลงปลายักษ์ในรอบสี่คนสุดท้ายเลยนะคะ”

“ไม่เป็นไรหรอก”

สีเหม่ยกัดฟันกรอด แค่นเสียงหึ “เซวี่ยนล่านอิ๋นกวงของเราเองก็มีนักแต่งเพลงเก่งๆ อีกมาก ฝีมือของพวกเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าเซี่ยนอวี๋เลย!”

ถังเยวี่ย “…”

แต่ฉันชอบเซี่ยนอวี๋นี่นา

ก่อนหน้านี้ถังเยวี่ยเคยวาดฝันไว้ ว่าเข้ามาในวงการแล้ว หลังจากนี้จะได้โคจรมาพบกับอาจารย์เซี่ยนอวี๋บ้างไหมนะ

ผลคือตนได้โคจรมาพบกับเซี่ยนอวี๋จริงๆ เพียงแต่วิธีที่โคจรมาเจอนั้นออกจะพูดยากอยู่สักหน่อย

แน่นอนว่าความคิดเช่นนี้ถังเยวี่ยไม่กล้าพูดออกมา ตอนนี้เธอเป็นนักร้องของเซวี่ยนล่านอิ๋นกวงแล้ว และทุกคนก็รู้โดยทั่วกันเซวี่ยนล่านอิ๋นกวงกับสตาร์ไลท์ก็เป็นคู่แข่งกัน

“ฉันไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลย”

หลังจากช่วงเวลาแห่งความตื่นอกตกใจผ่านพ้นไป กรรมการท่านที่สามก็ทอดถอนใจ “ผู้ชมบางคนอาจไม่คุ้นเคยกับอาจารย์เซี่ยนอวี๋ ถึงขั้นที่มีคนไม่รู้ว่าเซี่ยนอวี๋เป็นใคร แต่ทุกคนคงจะรู้จักเพลงกุหลาบแดงใช่ไหมครับ ซิงเกิลที่ออกมาในเดือนมิถุนายนและโด่งดังเป็นพลุแตกนี้เป็นผลงานของเซี่ยนอวี๋ เขาเป็นนักแต่งเพลงมือทองของวงการเพลงเรา”

ทันทีที่คำพูดนี้จบลง

ด้านล่างเวทีก็ลุกฮือขึ้นมา

คณะกรรมการคนที่สามตกใจจนสะดุ้งโหยง เกิดอะไรขึ้น ฉันพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า ทำไมปฏิกิริยาของผู้ชมถึงรุนแรงขนาดนี้

เขามองไปยังเพื่อนทั้งสาม

เพื่อนอีกสามคนก็แบมือยักไหล่

คณะกรรมการทั้งสี่ทำได้เพียงหันไปมองผู้ชม เพื่อฟังเสียงตะโกนของฝูงชน และได้ยินพวกเขาตะโกนกันว่า

“พวกเรารู้จักเซี่ยนอวี๋!”

“ผมเคยฟังเพลงของเขา!”

“ฉันเป็นแฟนเพลงของเซี่ยนอวี๋!”

“ขอโทษนะคะ แต่พวกเรารู้จักเขาดีเลยละ!”

คณะกรรมการพลันแค่นหัวเราะ พิธีกรเองก็อดมีความสุขท่ามกลางความวุ่นวายนี้ไม่ได้ “ดูท่าแล้วคณะกรรมการทั้งสี่ท่านจะประเมินผู้ชมของเราต่ำไปนะครับ ชื่อเสียงของเซี่ยนอวี๋ต่อให้เป็นนอกวงการก็นับว่าไม่ธรรมดาเลยครับ”

นี่เป็นเรื่องธรรมดามาก

คนทั่วไปที่ติดตามเพลงในช่วงนี้ ไม่มีทางไม่คุ้นชื่อเซี่ยนอวี๋ เพลงกุหลาบแดงได้ครองแชมป์ในเดือนมิถุนายนไม่ใช่หรืออย่างไร ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้ผลงานของเซี่ยนอวี๋จะไม่มาก แต่ความฮ็อตฮิตของแต่ละเพลงก็ไม่ใช่ย่อยเลย “ถูกต้องมั้ยครับทุกคน!”

“ถูกต้อง!”

ฝูงชนกู่ร้อง

การถกเถียงของผู้ชมในตอนนี้ไม่ใช่ ‘เซี่ยนอวี๋คือใคร’ อีกต่อไป ต่อให้ไม่รู้จักจริงๆ ว่าเซี่ยนอวี๋เป็นใคร ก็ต้องแสร้งทำเป็นรู้จักไปก่อน ไม่อย่างนั้นจะเห็นได้ชัดว่าตนตามกระแสไม่ทัน และผู้ชมที่รู้จักเซี่ยนอวี๋จริงๆ ก็ยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่

“เซี่ยนอวี๋โหดไปแล้ว!”

“นักแต่งเพลงมือทองของแท้แน่นอน!”

“คณะกรรมการคิดจริงๆ เหรอว่าพวกเราไม่รู้จักเซี่ยนอวี๋ ก่อนหน้านี้เพลงปลายักษ์ที่ถังเยวี่ยร้องก็เป็นผลงานของเซี่ยนอวี๋ไม่ใช่เหรอ ฉันเป็นแฟนคลับตัวยงของเซี่ยนอวี๋เลยนะ ที่นั่งอยู่ตรงนี้ไม่มีใครรู้จักเซี่ยนอวี๋ดีเท่าฉันแล้ว!”

“เพ้อเจ้อน่ะ ฉันรู้เยอะกว่าแกอีก!”

“ในฐานะแฟนคลับที่ติดตามเซี่ยนอวี๋มาตั้งแต่ช่วงเพลงชีวิตดุจมวลผกายามคิมหันต์ ฉันยังต้องแนะนำเซี่ยนอวี๋ให้พวกเธอฟังอีกมั้ย!”

“…”

ผู้ชมครึกครื้นกันมาก

คณะกรรมการผุดยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เซี่ยนอวี๋ในฐานะนักประพันธ์เพลง เขาจัดอยู่ในกลุ่มเบื้องหลังของวงการเพลง คนที่อยู่เบื้องหลังแต่ผู้คนกลับคุ้นเคยเป็นอย่างดีในความจริงแล้วเป็นเรื่องที่พบเจอได้ยาก โดยทั่วไปมีเพียงบุคลากรระดับพ่อเพลงขึ้นไปเท่านั้น ถึงจะได้รับความสนใจจากผู้คนเช่นนี้!

“ว่ากันว่ากระบี่มีไว้สำหรับวีรบุรุษ[1]”

หัวเราะกันจนหอมปากหอมคอ คณะกรรมการคนที่สี่ก็เอ่ยขึ้น พร้อมทั้งยกนิ้วโป้ง “บทเพลงที่ยอดเยี่ยมย่อมต้องการนักร้องที่เยี่ยมยอดมารับมือ ถึงจะแสดงศักยภาพของเพลงออกมาได้อย่างเต็มที่ ฉันคิดว่าวันนี้ซย่าฝานทำโชว์ออกมาได้ทรงพลังที่สุดเลยค่ะ คุณได้ใช้ความสามารถพิสูจน์แล้วว่าเซี่ยนอวี๋ทำถูกต้องที่มอบเพลงนี้ให้คุณ คุณไม่ทำให้เราผิดหวังเลย”

“…”

หลังจากทุกคนให้คำวิจารณ์ไปแล้ว

พิธีกรกล่าวว่า “ต่อจากนี้จะเข้าสู่การโหวตแล้วนะคะ พวกเราต้องเลือกผู้ชนะในวันนี้ แม้ว่าผู้เข้าประกวดซย่าฝานจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ผู้เข้าแข่งขันถังเยวี่ยเองก็มอบการแสดงอันตื่นตาตื่นใจให้กับทุกคนมาก่อนเช่นกัน”

ทุกคนต่างก็รู้ดี

ว่านี่เป็นบทพูดบนเวที

ผลงานของถังเยวี่ยแม้จะอลังการตระการตา แต่เมื่อเทียบกับซย่าฝานแล้ว กลับเห็นได้ชัดว่าขาดความน่าสนใจไปสักหน่อย ถึงขั้นที่ไม่ต้องวิจารณ์มาก ปฏิกิริยาของผู้ชมและคณะกรรมการก็เป็นประจักษ์แล้ว ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นรายการประกวดรอบตัดสินที่ยุติธรรม

กระนั้นแล้วกระบวนการของการแข่งขันก็ต้องดำเนินต่อไป

ขณะที่ผู้ชมโหวตกันเข้ามาเรื่อยๆ ท้ายที่สุดแล้ว ซย่าฝานก็ได้รางวัลชนะเลิศมาครองจากบทเพลงความฝันแรก

เปล่งประกายเจิดจรัสดุจแสงดาว!

ถังเยวี่ยเจ้าของรางวัลรองชนะเลิศขึ้นไปบนเวที ยืนด้านข้างของซย่าฝาน ในมือถือถ้วยรางวัลรองชนะเลิศด้วยรอยยิ้มขื่น

“ยินดีด้วยนะคะ”

ขณะที่สวมกอดกับซย่าฝานตามมารยาท จู่ๆ ถังเยวี่ยก็ขยับเข้าไปกระซิบข้างหูซย่าฝาน “ไพ่ของคุณเหนือกว่าฉันอีกค่ะ”

เธอรู้สึกอิจฉาระคนไม่ยินดีอยู่บ้าง

แน่นอนว่าซย่าฝานฟังความนัยของถังเยวี่ยออก

ดังนั้นซย่าฝานจึงขยับเข้าไปข้างหู เอ่ยอย่างมีเลศนัย “แต่พวกคุณลงมือก่อนนะคะ”

แน่นอนว่าซย่าฝานเข้าใจ

เพื่อที่จะแสดงให้เห็นถึงความสามารถของตนเป็นประจักษ์ เธอถึงขั้นให้สัญญากับตนเอง

ซย่าฝานสัญญาว่า

ขอเพียงศัตรูไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ ฝั่งตนก็จะไม่ส่งเซี่ยนอวี๋ร่วมรบ

แพ้ก็แพ้ไป

ถ้าความสามารถสู้ไม่ได้ก็ไม่มีอะไรต้องพูด

แต่ถึงอย่างนั้นอีกฝ่ายกลับหยิบอาวุธนิวเคลียร์ออกมา

งั้นตนก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นสีเหม่ยก็ไม่ควรมากวนประสาทตน และยิ่งไม่ควรพูดจาล้อเลียนเซี่ยนอวี๋ ถ้าหากไม่มีเหตุผลข้อนี้ โชว์สุดท้ายซย่าฝานก็ไม่มีทางทำได้ดีถึงขนาดนี้!

อย่างไรซะผลงานของถังเยวี่ยก็ไม่เลวเลยจริงๆ

สถานการณ์ในตอนนั้นเองก็สุดจะเหลือรับ

สีเหม่ยนั่นแหละที่ทำให้ซย่าฝานมีเหตุผลให้แพ้ไม่ได้

“…”

ถังเยวี่ยขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ไม่พูดไม่จากับเธออีก

หลังจากการประกวดจบลง สีเหม่ยก็ลากถังเยวี่ยออกไปอย่างรวดเร็ว แม้แต่นักข่าวตามไปสัมภาษณ์ พวกเธอก็ตอบอย่างรีบร้อนเพียงไม่กี่ประโยค อยู่ที่นี่ต่อไปก็เจ็บใจเปล่าๆ หนำซ้ำเดินทางมาเหน็ดเหนื่อย เธอไม่น่าสวมรองเท้าที่ส้นสูงขนาดนี้มาเลย

รีบไปก่อนดีกว่า

จ้าวเจวี๋ยยังไม่รีบกลับอย่างแน่นอน เธอตั้งใจว่าจะพาซย่าฝานไปให้นักข่าวเห็นหน้าค่าตา พร้อมทั้งแถลงข่าวเรื่องหนึ่งต่อสาธารณะ ขณะที่กำลังแถลงข่าวเรื่องนี้ เธอก็เห็นสีเหม่ยซึ่งกำลังรีบร้อนเดินออกไป “สตาร์ไลท์เราได้เซ็นสัญญากับซย่าฝานไปแล้วค่ะ อีกเรื่องหนึ่งก็คือ ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะให้ซย่าฝานลงชิงชัยในชาร์ตเพลงใหม่ของเดือนนี้!”

แชะๆๆ!

นักข่าวกระหน่ำรัวชัตเตอร์ในทันใด คำถามแล้วคำถามเล่าถาโถมเข้ามารอบตัวของผู้ชนะในค่ำคืนนี้ และซย่าฝานก็รับผิดชอบตอบทีละคำถาม

ไม่รู้ว่าทำไม

เมื่อแข่งขันเวทีสุดท้ายเสร็จ ซย่าฝานก็รู้สึกประหนึ่งเกิดใหม่ ความกระวนกระวายอันตรธานหายไปแล้ว

ถ้าหากเป็นก่อนหน้านี้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำถามของนักข่าวที่ประเดประดังเข้ามามากมาย น่ากลัวว่าในสมองของตนคงคิดเพียงแต่ว่าห้องน้ำอยู่ไหนล่ะมั้ง

……

และในเมืองซู

เขตสวนอู๋ถง

ระหว่างการถ่ายทอดสดการคว้าแชมป์ของซย่าฝาน หลินเซวียนซึ่งอยู่หน้าจอโทรทัศน์ก็กระโดดตัวลอย โดยเฉพาะยามที่ซย่าฝานประกาศว่าบทเพลงสุดท้ายนั้นเป็นผลงานของน้องชาย เธอก็ยิ่งดีอกดีใจกว่าเดิม

“ชนะแล้ว น้องชายนายทำได้ดีมาก!”

หลินเยวียนพูด “ซย่าฝานเก่งที่สุดแล้ว”

ก่อนหน้านี้ซย่าฝานเคยอัดเพลงความฝันแรก

แต่ไม่ว่าเธอจะอัดเพลงเวอร์ชันซึ่งใช้ในการประเมินประจำปีการศึกษาของหลินเยวียน หรือเวอร์ชันเดโมซึ่งอัดไปไม่รู้กี่ครั้ง ก็เทียบกับการขับร้องบนเวทีในค่ำคืนนี้ของซย่าฝานไม่ได้เลย

นี่เป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดของเพลงความฝันแรก ดีเสียจนทำให้หลินเยวียนตกตะลึง ซย่าฝานปรับคีย์สูงกว่าเดิมด้วย

ไม่เพียงเสียงสูงทรงพลัง

แต่นี่เป็นการแสดงที่สมบูรณ์แบบครั้งหนึ่งเลยก็ว่าได้!

ครั้งนี้ยิ่งทำให้หลินเยวียนตระหนักได้ว่า แท้จริงแล้วศักยภาพของคนเรานั้นไม่มีวันหมด!

‘ยอดเยี่ยมยิ่งใหญ่!’

ในกลุ่มแช็ต เจี่ยนอี้ส่งข้อความมาเป็นคนแรก เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็ดูการแข่งขันรายการสะพรั่งอยู่เหมือนกัน

เพื่อที่จะแสดงออกว่าตนรู้สึกปลื้มปริ่มมากแค่ไหน

เจี่ยนอี้ถึงขั้นลงทุนส่งอั่งเปามูลค่าหนึ่งหยวนมาในกลุ่มเลยทีเดียว

………………………………………………….

[1] กระบี่มีไว้สำหรับวีรบุรุษ มาจากคำกล่าวว่า ‘กระบี่มีไว้สำหรับวีรบุรุษ แป้งชาดมีไว้สำหรับโฉมงาม’ เปรียบเปรยว่าแต่ละคนต่างก็มีสิ่งที่เหมาะสมกับตนเอง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน 131 ผู้ชนะ

Now you are reading Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน Chapter 131 ผู้ชนะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 131 ผู้ชนะ

เมื่อถังเยวี่ยร้องเพลงจบ ผู้ชมคิดว่าผู้ชนะของปีนี้ไม่จำเป็นต้องสงสัยแล้ว

เมื่อซย่าฝานร้องเพลงเสร็จ ผู้ชมก็คิดว่าผู้ชนะของปีนี้ไม่จำเป็นต้องสงสัยแล้ว

เอาเถอะ

แม้ว่าภาษาจีนจะกว้างและลึกซึ้ง ทว่าครั้งที่สองนั้นไม่จำเป็นต้องสงสัยจริงๆ เพราะผู้ชมทั่วทั้งห้องส่งตะโกนร้องชื่อหนึ่งออกมา

“ซย่าฝาน!”

“ซย่าฝาน!”

ผู้ชมด้านล่างเวทีมีความเป็นกลาง และข้อดีที่สุดของผู้ชมที่เป็นกลางก็คือถ้าใครร้องดีกว่าก็เป็นแฟนคลับของคนนั้น ก่อนหน้านี้พวกเขาเป็นแฟนคลับของถังเยวี่ย ตอนนี้เป็นแฟนคลับของซย่าฝาน

ราวกับว่ากำลังกระโดดสลับไปมา

พิธีกรชายรีบสาวเท้าขึ้นเวที เอ่ยด้วยเสียงดังกังวาน “เป็นโชว์ที่ยอดเยี่ยมมากเลยครับ ในตอนนี้ผมเชื่อว่า ผู้ชมทั้งในห้องส่งและผู้ชมทางบ้านน่าจะตื่นเต้นเหมือนกันใช่ไหมล่ะครับ แต่ว่าพวกเรายังต้องใจเย็นกันก่อนนะครับ”

“ใช่แล้วค่ะ”

พิธีกรหญิงก็ยืนกล่าวบนเวทีเช่นเดียวกัน “นึกไม่ถึงเลยนะคะว่าในศึกชิงแชมป์ครั้งนี้จะมีเพลงใหม่ปรากฏถึงสองเพลง แถมทั้งสองเพลงยังทำให้พวกเราตื่นเต้นไม่หายเลยล่ะค่ะ ขอถามคณะกรรมการทั้งสี่ท่านว่ามีความเห็นว่าอย่างไรบ้างคะ”

กล้องฉายไปยังคณะกรรมการ

คณะกรรมการเองก็ตื่นเต้นเช่นเดียวกัน แต่ละคนท่าทางเหมือนกินขนมล่าเถียว ใช้เวลานานโขกว่าจะสงบสติอารมณ์ได้ และตามมาด้วยเสียงหัวเราะอย่างอิ่มเอิบ

“ฉันคิดว่าฉันใจเย็นลงแล้วนะคะ”

กรรมการคนแรกกล่าวกลั้วหัวเราะ “แต่ที่จริงฉันก็ไม่รู้ว่าควรคอมเมนต์เพลงนี้ว่ายังไง บอกได้แค่ว่าคนที่เขียนเพลงระดับนี้ออกมาได้ ต้องไม่ใช่คนที่ไร้ชื่อเสียงอย่างแน่นอนค่ะ ทำนองดี ร้องก็ดี ถ้าให้ฉันคอมเมนต์ก็พูดได้แค่ว่าสำหรับฉันแล้ว เพลงนี้ของซย่าฝานเป็นเพลงที่ฉันชอบที่สุดในการประกวดซีซันนี้เลยค่ะ!”

“โชว์สมบูรณ์แบบมากครับ!”

กรรมการคนที่สองเองก็ให้คำชื่นชมในระดับที่สูงมาก จากนั้นจึงมองไปยังซย่าฝาน “ซย่าฝานคุณกระซิบหน่อยได้ไหมครับว่าอาจารย์นักแต่งเพลงท่านไหนที่อยู่เบื้องหลังเพลงนี้”

ขวับๆๆ!

สายตาของทุกคนมองไปยังซย่าฝาน ขณะที่ทุกคนยังคงดื่มด่ำกับพลังของบทเพลง ก็นึกสงสัยเช่นกันว่านี่เป็นผลงานของใคร

ซย่าฝานมองไปยังด้านข้าง

จ้าวเจวี๋ยพยักหน้าเบาๆ ให้เธอ

ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องเก็บเป็นความลับอีกต่อไป เพราะซย่าฝานได้มีเจตจำนงจะเซ็นสัญญากับสตาร์ไลท์แล้ว

ซย่าฝานสูดลมหายใจเข้าลึก ยิ้มบางตอบ “เพลงนี้มีชื่อว่าความฝันแรก และผู้ประพันธ์ผลงานชิ้นนี้ก็คือ…”

“เซี่ยนอวี๋ค่ะ”

เฮ้ๆๆ เพียงคำพูดเดียวก็นำพามาซึ่งเสียงเชียร์ดังสนั่น ดุจหินก้อนเดียวก่อกำเนิดเกลียวคลื่น!

เซี่ยนอวี๋!

เป็นเซี่ยนอวี๋จริงด้วย!

ชั่วขณะนั้นสีเหม่ยอยากล้มลงไปตรงนั้นให้รู้แล้วรู้รอด!

ก่อนหน้านี้เธอไปปั่นประสาทซย่าฝานไว้ หนำซ้ำยังจงใจเสียดสีจ้าวเจวี๋ยไปว่าให้ปลาตัวนั้นมากู้สถานการณ์

ผลเป็นยังไงล่ะ!

เป็นอย่างที่ฉันพูดเลยใช่ไหม

ฉันนี่มันปากพาซวยจริงๆ!

ถังเยวี่ยยิ้มขื่นเอ่ยว่า “ถึงกับเป็นเซี่ยนอวี๋ ฉันชอบเพลงของเซี่ยนอวี๋มาก เลยตั้งใจเลือกร้องเพลงปลายักษ์ในรอบสี่คนสุดท้ายเลยนะคะ”

“ไม่เป็นไรหรอก”

สีเหม่ยกัดฟันกรอด แค่นเสียงหึ “เซวี่ยนล่านอิ๋นกวงของเราเองก็มีนักแต่งเพลงเก่งๆ อีกมาก ฝีมือของพวกเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าเซี่ยนอวี๋เลย!”

ถังเยวี่ย “…”

แต่ฉันชอบเซี่ยนอวี๋นี่นา

ก่อนหน้านี้ถังเยวี่ยเคยวาดฝันไว้ ว่าเข้ามาในวงการแล้ว หลังจากนี้จะได้โคจรมาพบกับอาจารย์เซี่ยนอวี๋บ้างไหมนะ

ผลคือตนได้โคจรมาพบกับเซี่ยนอวี๋จริงๆ เพียงแต่วิธีที่โคจรมาเจอนั้นออกจะพูดยากอยู่สักหน่อย

แน่นอนว่าความคิดเช่นนี้ถังเยวี่ยไม่กล้าพูดออกมา ตอนนี้เธอเป็นนักร้องของเซวี่ยนล่านอิ๋นกวงแล้ว และทุกคนก็รู้โดยทั่วกันเซวี่ยนล่านอิ๋นกวงกับสตาร์ไลท์ก็เป็นคู่แข่งกัน

“ฉันไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลย”

หลังจากช่วงเวลาแห่งความตื่นอกตกใจผ่านพ้นไป กรรมการท่านที่สามก็ทอดถอนใจ “ผู้ชมบางคนอาจไม่คุ้นเคยกับอาจารย์เซี่ยนอวี๋ ถึงขั้นที่มีคนไม่รู้ว่าเซี่ยนอวี๋เป็นใคร แต่ทุกคนคงจะรู้จักเพลงกุหลาบแดงใช่ไหมครับ ซิงเกิลที่ออกมาในเดือนมิถุนายนและโด่งดังเป็นพลุแตกนี้เป็นผลงานของเซี่ยนอวี๋ เขาเป็นนักแต่งเพลงมือทองของวงการเพลงเรา”

ทันทีที่คำพูดนี้จบลง

ด้านล่างเวทีก็ลุกฮือขึ้นมา

คณะกรรมการคนที่สามตกใจจนสะดุ้งโหยง เกิดอะไรขึ้น ฉันพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า ทำไมปฏิกิริยาของผู้ชมถึงรุนแรงขนาดนี้

เขามองไปยังเพื่อนทั้งสาม

เพื่อนอีกสามคนก็แบมือยักไหล่

คณะกรรมการทั้งสี่ทำได้เพียงหันไปมองผู้ชม เพื่อฟังเสียงตะโกนของฝูงชน และได้ยินพวกเขาตะโกนกันว่า

“พวกเรารู้จักเซี่ยนอวี๋!”

“ผมเคยฟังเพลงของเขา!”

“ฉันเป็นแฟนเพลงของเซี่ยนอวี๋!”

“ขอโทษนะคะ แต่พวกเรารู้จักเขาดีเลยละ!”

คณะกรรมการพลันแค่นหัวเราะ พิธีกรเองก็อดมีความสุขท่ามกลางความวุ่นวายนี้ไม่ได้ “ดูท่าแล้วคณะกรรมการทั้งสี่ท่านจะประเมินผู้ชมของเราต่ำไปนะครับ ชื่อเสียงของเซี่ยนอวี๋ต่อให้เป็นนอกวงการก็นับว่าไม่ธรรมดาเลยครับ”

นี่เป็นเรื่องธรรมดามาก

คนทั่วไปที่ติดตามเพลงในช่วงนี้ ไม่มีทางไม่คุ้นชื่อเซี่ยนอวี๋ เพลงกุหลาบแดงได้ครองแชมป์ในเดือนมิถุนายนไม่ใช่หรืออย่างไร ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้ผลงานของเซี่ยนอวี๋จะไม่มาก แต่ความฮ็อตฮิตของแต่ละเพลงก็ไม่ใช่ย่อยเลย “ถูกต้องมั้ยครับทุกคน!”

“ถูกต้อง!”

ฝูงชนกู่ร้อง

การถกเถียงของผู้ชมในตอนนี้ไม่ใช่ ‘เซี่ยนอวี๋คือใคร’ อีกต่อไป ต่อให้ไม่รู้จักจริงๆ ว่าเซี่ยนอวี๋เป็นใคร ก็ต้องแสร้งทำเป็นรู้จักไปก่อน ไม่อย่างนั้นจะเห็นได้ชัดว่าตนตามกระแสไม่ทัน และผู้ชมที่รู้จักเซี่ยนอวี๋จริงๆ ก็ยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่

“เซี่ยนอวี๋โหดไปแล้ว!”

“นักแต่งเพลงมือทองของแท้แน่นอน!”

“คณะกรรมการคิดจริงๆ เหรอว่าพวกเราไม่รู้จักเซี่ยนอวี๋ ก่อนหน้านี้เพลงปลายักษ์ที่ถังเยวี่ยร้องก็เป็นผลงานของเซี่ยนอวี๋ไม่ใช่เหรอ ฉันเป็นแฟนคลับตัวยงของเซี่ยนอวี๋เลยนะ ที่นั่งอยู่ตรงนี้ไม่มีใครรู้จักเซี่ยนอวี๋ดีเท่าฉันแล้ว!”

“เพ้อเจ้อน่ะ ฉันรู้เยอะกว่าแกอีก!”

“ในฐานะแฟนคลับที่ติดตามเซี่ยนอวี๋มาตั้งแต่ช่วงเพลงชีวิตดุจมวลผกายามคิมหันต์ ฉันยังต้องแนะนำเซี่ยนอวี๋ให้พวกเธอฟังอีกมั้ย!”

“…”

ผู้ชมครึกครื้นกันมาก

คณะกรรมการผุดยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เซี่ยนอวี๋ในฐานะนักประพันธ์เพลง เขาจัดอยู่ในกลุ่มเบื้องหลังของวงการเพลง คนที่อยู่เบื้องหลังแต่ผู้คนกลับคุ้นเคยเป็นอย่างดีในความจริงแล้วเป็นเรื่องที่พบเจอได้ยาก โดยทั่วไปมีเพียงบุคลากรระดับพ่อเพลงขึ้นไปเท่านั้น ถึงจะได้รับความสนใจจากผู้คนเช่นนี้!

“ว่ากันว่ากระบี่มีไว้สำหรับวีรบุรุษ[1]”

หัวเราะกันจนหอมปากหอมคอ คณะกรรมการคนที่สี่ก็เอ่ยขึ้น พร้อมทั้งยกนิ้วโป้ง “บทเพลงที่ยอดเยี่ยมย่อมต้องการนักร้องที่เยี่ยมยอดมารับมือ ถึงจะแสดงศักยภาพของเพลงออกมาได้อย่างเต็มที่ ฉันคิดว่าวันนี้ซย่าฝานทำโชว์ออกมาได้ทรงพลังที่สุดเลยค่ะ คุณได้ใช้ความสามารถพิสูจน์แล้วว่าเซี่ยนอวี๋ทำถูกต้องที่มอบเพลงนี้ให้คุณ คุณไม่ทำให้เราผิดหวังเลย”

“…”

หลังจากทุกคนให้คำวิจารณ์ไปแล้ว

พิธีกรกล่าวว่า “ต่อจากนี้จะเข้าสู่การโหวตแล้วนะคะ พวกเราต้องเลือกผู้ชนะในวันนี้ แม้ว่าผู้เข้าประกวดซย่าฝานจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ผู้เข้าแข่งขันถังเยวี่ยเองก็มอบการแสดงอันตื่นตาตื่นใจให้กับทุกคนมาก่อนเช่นกัน”

ทุกคนต่างก็รู้ดี

ว่านี่เป็นบทพูดบนเวที

ผลงานของถังเยวี่ยแม้จะอลังการตระการตา แต่เมื่อเทียบกับซย่าฝานแล้ว กลับเห็นได้ชัดว่าขาดความน่าสนใจไปสักหน่อย ถึงขั้นที่ไม่ต้องวิจารณ์มาก ปฏิกิริยาของผู้ชมและคณะกรรมการก็เป็นประจักษ์แล้ว ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นรายการประกวดรอบตัดสินที่ยุติธรรม

กระนั้นแล้วกระบวนการของการแข่งขันก็ต้องดำเนินต่อไป

ขณะที่ผู้ชมโหวตกันเข้ามาเรื่อยๆ ท้ายที่สุดแล้ว ซย่าฝานก็ได้รางวัลชนะเลิศมาครองจากบทเพลงความฝันแรก

เปล่งประกายเจิดจรัสดุจแสงดาว!

ถังเยวี่ยเจ้าของรางวัลรองชนะเลิศขึ้นไปบนเวที ยืนด้านข้างของซย่าฝาน ในมือถือถ้วยรางวัลรองชนะเลิศด้วยรอยยิ้มขื่น

“ยินดีด้วยนะคะ”

ขณะที่สวมกอดกับซย่าฝานตามมารยาท จู่ๆ ถังเยวี่ยก็ขยับเข้าไปกระซิบข้างหูซย่าฝาน “ไพ่ของคุณเหนือกว่าฉันอีกค่ะ”

เธอรู้สึกอิจฉาระคนไม่ยินดีอยู่บ้าง

แน่นอนว่าซย่าฝานฟังความนัยของถังเยวี่ยออก

ดังนั้นซย่าฝานจึงขยับเข้าไปข้างหู เอ่ยอย่างมีเลศนัย “แต่พวกคุณลงมือก่อนนะคะ”

แน่นอนว่าซย่าฝานเข้าใจ

เพื่อที่จะแสดงให้เห็นถึงความสามารถของตนเป็นประจักษ์ เธอถึงขั้นให้สัญญากับตนเอง

ซย่าฝานสัญญาว่า

ขอเพียงศัตรูไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ ฝั่งตนก็จะไม่ส่งเซี่ยนอวี๋ร่วมรบ

แพ้ก็แพ้ไป

ถ้าความสามารถสู้ไม่ได้ก็ไม่มีอะไรต้องพูด

แต่ถึงอย่างนั้นอีกฝ่ายกลับหยิบอาวุธนิวเคลียร์ออกมา

งั้นตนก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นสีเหม่ยก็ไม่ควรมากวนประสาทตน และยิ่งไม่ควรพูดจาล้อเลียนเซี่ยนอวี๋ ถ้าหากไม่มีเหตุผลข้อนี้ โชว์สุดท้ายซย่าฝานก็ไม่มีทางทำได้ดีถึงขนาดนี้!

อย่างไรซะผลงานของถังเยวี่ยก็ไม่เลวเลยจริงๆ

สถานการณ์ในตอนนั้นเองก็สุดจะเหลือรับ

สีเหม่ยนั่นแหละที่ทำให้ซย่าฝานมีเหตุผลให้แพ้ไม่ได้

“…”

ถังเยวี่ยขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ไม่พูดไม่จากับเธออีก

หลังจากการประกวดจบลง สีเหม่ยก็ลากถังเยวี่ยออกไปอย่างรวดเร็ว แม้แต่นักข่าวตามไปสัมภาษณ์ พวกเธอก็ตอบอย่างรีบร้อนเพียงไม่กี่ประโยค อยู่ที่นี่ต่อไปก็เจ็บใจเปล่าๆ หนำซ้ำเดินทางมาเหน็ดเหนื่อย เธอไม่น่าสวมรองเท้าที่ส้นสูงขนาดนี้มาเลย

รีบไปก่อนดีกว่า

จ้าวเจวี๋ยยังไม่รีบกลับอย่างแน่นอน เธอตั้งใจว่าจะพาซย่าฝานไปให้นักข่าวเห็นหน้าค่าตา พร้อมทั้งแถลงข่าวเรื่องหนึ่งต่อสาธารณะ ขณะที่กำลังแถลงข่าวเรื่องนี้ เธอก็เห็นสีเหม่ยซึ่งกำลังรีบร้อนเดินออกไป “สตาร์ไลท์เราได้เซ็นสัญญากับซย่าฝานไปแล้วค่ะ อีกเรื่องหนึ่งก็คือ ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะให้ซย่าฝานลงชิงชัยในชาร์ตเพลงใหม่ของเดือนนี้!”

แชะๆๆ!

นักข่าวกระหน่ำรัวชัตเตอร์ในทันใด คำถามแล้วคำถามเล่าถาโถมเข้ามารอบตัวของผู้ชนะในค่ำคืนนี้ และซย่าฝานก็รับผิดชอบตอบทีละคำถาม

ไม่รู้ว่าทำไม

เมื่อแข่งขันเวทีสุดท้ายเสร็จ ซย่าฝานก็รู้สึกประหนึ่งเกิดใหม่ ความกระวนกระวายอันตรธานหายไปแล้ว

ถ้าหากเป็นก่อนหน้านี้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำถามของนักข่าวที่ประเดประดังเข้ามามากมาย น่ากลัวว่าในสมองของตนคงคิดเพียงแต่ว่าห้องน้ำอยู่ไหนล่ะมั้ง

……

และในเมืองซู

เขตสวนอู๋ถง

ระหว่างการถ่ายทอดสดการคว้าแชมป์ของซย่าฝาน หลินเซวียนซึ่งอยู่หน้าจอโทรทัศน์ก็กระโดดตัวลอย โดยเฉพาะยามที่ซย่าฝานประกาศว่าบทเพลงสุดท้ายนั้นเป็นผลงานของน้องชาย เธอก็ยิ่งดีอกดีใจกว่าเดิม

“ชนะแล้ว น้องชายนายทำได้ดีมาก!”

หลินเยวียนพูด “ซย่าฝานเก่งที่สุดแล้ว”

ก่อนหน้านี้ซย่าฝานเคยอัดเพลงความฝันแรก

แต่ไม่ว่าเธอจะอัดเพลงเวอร์ชันซึ่งใช้ในการประเมินประจำปีการศึกษาของหลินเยวียน หรือเวอร์ชันเดโมซึ่งอัดไปไม่รู้กี่ครั้ง ก็เทียบกับการขับร้องบนเวทีในค่ำคืนนี้ของซย่าฝานไม่ได้เลย

นี่เป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดของเพลงความฝันแรก ดีเสียจนทำให้หลินเยวียนตกตะลึง ซย่าฝานปรับคีย์สูงกว่าเดิมด้วย

ไม่เพียงเสียงสูงทรงพลัง

แต่นี่เป็นการแสดงที่สมบูรณ์แบบครั้งหนึ่งเลยก็ว่าได้!

ครั้งนี้ยิ่งทำให้หลินเยวียนตระหนักได้ว่า แท้จริงแล้วศักยภาพของคนเรานั้นไม่มีวันหมด!

‘ยอดเยี่ยมยิ่งใหญ่!’

ในกลุ่มแช็ต เจี่ยนอี้ส่งข้อความมาเป็นคนแรก เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็ดูการแข่งขันรายการสะพรั่งอยู่เหมือนกัน

เพื่อที่จะแสดงออกว่าตนรู้สึกปลื้มปริ่มมากแค่ไหน

เจี่ยนอี้ถึงขั้นลงทุนส่งอั่งเปามูลค่าหนึ่งหยวนมาในกลุ่มเลยทีเดียว

………………………………………………….

[1] กระบี่มีไว้สำหรับวีรบุรุษ มาจากคำกล่าวว่า ‘กระบี่มีไว้สำหรับวีรบุรุษ แป้งชาดมีไว้สำหรับโฉมงาม’ เปรียบเปรยว่าแต่ละคนต่างก็มีสิ่งที่เหมาะสมกับตนเอง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+