Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน 264 ความคาดหวังของสาธารณชน

Now you are reading Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน Chapter 264 ความคาดหวังของสาธารณชน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ไม่ใช่เพียงเฟ่ยหยางที่ติดตามเซี่ยนอวี๋

ถึงอย่างไรเซี่ยนอวี๋ในปัจจุบันนี้ก็นับว่าเป็นนักประพันธ์เพลงที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวงการ เขาปรากฏตัวในเดือนธันวาคม สำหรับหลายคนแล้วนับว่าไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย

สิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายก็คือ

ในภาพจำของผู้คนในวงการ เซี่ยนอวี๋คือนักประพันธ์เพลงที่ชอบร่วมงานกับนักร้องหน้าใหม่ หรือไม่ก็นักร้องแถวสองแถวสาม

นึกไม่ถึงว่าจะถึงกับเปลี่ยนสาย เริ่มไปมาหาสู่กับนักร้องเบอร์ใหญ่กับเขาบ้างแล้ว

ครั้งก่อนเป็นนักร้องแถวหน้าอย่างเฉินจื้ออวี่ ครั้งนี้เขาเลือกร่วมงานกับราชาเพลงหลานเหยียน!

และเรื่องนี้ก็สมเหตุสมผลตรงที่

เซี่ยนอวี๋ในฐานะนักประพันธ์เพลงที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่ง เดิมทีก็มีคุณสมบัติพอที่จะปรากฏตัวในสนามรบในเดือนธันวาคมอยู่แล้ว

แน่นอนว่า

ก็แค่มีคุณสมบัติเท่านั้น

ตัวตนของเซี่ยนอวี๋ไม่ได้สะดุดตาที่สุดในเดือนธันวาคมปีนี้

ไม่ใช่เพราะเซี่ยนอวี๋ไม่โด่งดัง ในวงการดนตรี เซี่ยนอวี๋กลายเป็นชื่อที่ควรค่าแก่การสนใจอยู่แล้ว

ที่เขาไม่ถูกจับตามองจากสาธารณะ อันที่จริงเป็นเพราะไลน์อัปของเดือนธันวาคมนั้นหรูเลิศเกินไป

พ่อเพลงสองคน!

ราชาราชินีเพลงเจ็ดคน!

ยังไม่ต้องพูดถึงนักร้องแถวหน้าอีกหลายคน

ต่อให้กล่าวถึงไลน์อัปของนักประพันธ์เพลงเพียงอย่างเดียว ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเซี่ยนอวี๋จะต่อหลังพ่อเพลงอีกสองคน

เพราะนักประพันธ์เพลงที่ขึ้นสังเวียนในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นมือทองที่เคยพยายามคว้าสถานะพ่อเพลงมาก่อน!

ถึงแม้ว่าจะพยายามไม่สำเร็จ หรือในตอนนี้กำลังพยายามอยู่ แต่ก็เพียงพอที่จะจำแนกพวกเขาออกจากนักประพันธ์เพลงมือทองทั่วไปได้

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมราชาราชินีเพลงจึงเลือกร่วมงานกับพวกเขา

เพราะฉะนั้นหลินเยวียนขึ้นไปยืนบนสังเวียนเดียวกับคนเหล่านี้ในเดือนธันวาคม ถึงแม้จะไม่ถึงขั้นด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ดูธรรมดาสามัญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

นี่เป็นความรื่นเริงรายการสุดท้ายของช่วงปลายปีนี้ในวงการเพลง!

‘ไลน์อัปก็คือ สมแล้วที่เป็นมหาสงครามของเทพเซียนในวงการเพลง!’

‘พ่อเพลงสองคนคงรวบสองอันดับแรกไว้อย่างไม่ต้องสงสัยเลยล่ะมั้ง’

‘เฟ่ยหยางน่าจะมีโอกาสเป็นแชมป์ของมหาสงครามครั้งนี้ ยังไงซะพ่อเพลงอิ่นก็ไม่ได้ลงมือมานานแล้ว ปรากฏตัวครั้งนี้ไม่ได้แปลกใหม่ตรงไหน’

‘คุณประเมินเยี่ยจือชิวต่ำไปหรือเปล่า เพลงร็อกของคุณปู่น่ะไร้เทียมทานสุดๆ’

พ่อเพลงเยี่ยจือชิว ชอบเรียกตนเองว่าเหล่าเยี่ย ทว่าคนรุ่นหลังในวงการไม่กล้าเรียกแบบนั้น ทุกคนจึงชอบเรียกเขาว่า ‘คุณปู่[1]’

‘ราชินีเพลงที่ร่วมงานกับคุณปู่คือไห่ถัง ไห่ถังเป็นถึงนักร้องเพลงร็อกหญิงที่ยอดเยี่ยมที่สุดในมณฑลฉีเชียวนะ!’

‘พ่อเพลงสองท่านนี้น่ากลัวมากก็จริง แต่จะประเมินนักแต่งเพลงของราชาราชินีเพลงอื่นต่ำก็ไม่ได้นะ ตัวอย่างเช่นนักแต่งเพลงของราชาเพลงถังเจิ้นคืออาจารย์กูตู๋ อาจารย์กูตู๋ถึงแม้จะเป็นพ่อเพลงไม่สำเร็จ แต่ก็เป็นคนที่เป็นแชมป์แปดรายการติดต่อกันนะ หนึ่งในนั้นยังเอาชนะพ่อเพลงได้ด้วย ใครจะกล้ายืนยันล่ะว่าอาจารย์กูตู๋จะไม่มีหวังที่จะชนะในครั้งนี้’

‘คนที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกับอาจารย์กูตู๋ ยังมีอาจารย์โม่โม่อีก’

‘ธรรมดา เดือนธันวาไม่ใช่สถานที่ที่เงาจืดจางควรมาปรากฏตัว’

‘มังกรสู้เสือไปอีก ถึงใจมากแม่!’

‘อย่าเพิ่งมองข้ามเซี่ยนอวี๋ไป ในสตาร์ไลท์เรียกเซี่ยนอวี๋ว่าพ่อเพลงตัวน้อยใช่ไหมล่ะ ฉันว่าเซี่ยนอวี๋เองก็มีหวัง นักประพันธ์เพลงในวงการเพลงช่วงไม่กี่ปีมานี้ คนนี้แหละโหดสุด’

‘ใช่แล้ว เซี่ยนอวี๋ร่วมมือกับนักร้องแถวหน้ายังเคยล้มราชาเพลงมาแล้ว ครั้งนี้ร่วมงานกับราชาเพลง มีแต่จะต้องล้มพ่อเพลงแล้วล่ะมั้ง?’

‘…’

และขณะที่โลกภายนอกพูดคุยกันไปต่างๆ นานา ฝั่งผู้จัดงานเฉลิมฉลองเทศกาลฤดูใบไม้ผลิก็ประกาศกิจกรรมฉลองครบรอบหนึ่งปีฉินฉีผนวกรวมอย่างเป็นทางการ

ราชาเพลงเฟ่ยหยางและราชาเพลงหลานเหยียน จะเป็นตัวแทนจากมณฑลฉิน เข้าร่วมร้องเพลงภาษาฉีในงานเลี้ยงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ เพื่อแสดงออกถึงปฏิสัมพันธ์ด้านดนตรีของทั้งสองมณฑล

เมื่อถึงตอนนั้น บทเพลงที่พวกเขาใช้ในการแสดง ก็คือผลงานที่จะปล่อยในเดือนธันวาคมด้วย

ขณะเดียวกันนั้นเอง

ทางมณฑลฉีก็มีราชินีเพลงสองคน ซึ่งเป็นตัวแทนของมณฑลฉี ร้องเพลงภาษากลางบนเวทีเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ

ในวงการไม่รู้ข่าวนี้มาก่อน

มีเพียงผู้จัดและบริษัทที่เกี่ยวข้องที่ได้รับแจ้งข้อมูล

และเมื่อข่าวกระจายออกไป การสนทนากันในอุตสาหกรรมก็เริ่มหันมาสนใจงานเฉลิมฉลองครบรอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวแทนนักประพันธ์เพลงและนักร้องจากฝั่งมณฑลฉิน

อย่างไรเสียมณฑลฉินก็เป็นมาตุภูมิแห่งดนตรี

“เพลงภาษาฉี?”

“มิน่าล่ะปีนี้ถึงมีพ่อเพลงสองท่านลงสนาม”

“หลังจากนี้มณฑลที่ผนวกเข้ามาก็จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตรายการนี้จะกลายเป็นรายการที่สงวนไว้สำหรับงานฉลองคืนเทศกาลฤดูใบไม้ผลิหรือเปล่านะ”

“ตอนนี้ดูท่า น่าจะใกล้เคียงแล้วล่ะ หลานเหยียนกับเฟ่ยหยางได้รับคัดเลือก นอกจากเพราะทั้งสองเป็นราชาเพลงแล้ว ยังเป็นเพราะทั้งสองล้วนเป็นนักร้องแค่ไม่กี่คนที่เชี่ยวชาญภาษาฉีล่ะมั้ง”

“เดี๋ยวนะ งั้นทางสตาร์ไลท์ ทำไมถึงไม่มีพ่อเพลงออกโรงทำเพลงให้หลานเหยียน แต่กลับเลือกเซี่ยนอวี๋?”

“นี่คือจุดที่ฉันสงสัย ทำไมถึงเป็นเซี่ยนอวี๋”

“เพลงที่สำคัญแบบนี้ จำเป็นต้องให้ราชาเพลงกับพ่อเพลงร่วมมือกัน ถึงจะรับประกันได้หรือเปล่า”

“หรือว่าเพลงครั้งนี้ของเซี่ยนอวี๋ปังมาก”

“มีแค่เหตุผลเดียวเท่านั้น ไม่งั้นก็ไม่มีเหตุผลให้ใช้เซี่ยนอวี๋แต่ไม่ใช้พ่อเพลง”

“…”

ไม่ได้เป็นที่น่าสงสัยอะไร

การแพร่สะพัดออกไป ความคาดหวังของหลายคนที่มีต่อเซี่ยนอวี๋และหลานเหยียนมีแต่จะเพิ่มขึ้น

สรุปแล้ว ทุกคนสงสัยมากยิ่งกว่าว่ามหาสงครามในเดือนธันวาคม ท้ายที่สุดแล้วจะมีจุดจบอย่างไร

บุคลากรในวงการพูดคุยกันด้วยความตื่นเต้น

แฟนคลับของราชาราชินีเพลง รวมไปถึงพ่อเพลงและนักประพันธ์เพลงมือทองล้วนตื่นเต้นกันถ้วนหน้า

เนื่องจากคนที่ติดตามมหาสงครามสนามนี้มีมากมายมหาศาล ถึงขั้นที่มีคนเปิดโต๊ะพนันของศึกส่งท้ายปีของวงการเพลง

มีบางเว็บไซต์ถึงกับแอบเปิดช่องทางการเดิมพัน

โต๊ะพนันประเภทนี้เป็นพื้นที่สีเทาสำหรับบลูสตาร์ ทำตัวเงียบๆ ไม่หวือหวาเข้าไว้ โดยทั่วไปจะไม่มีคนมาสนใจ และไม่มีทางมาสนใจด้วย ถึงอย่างไรนักพนันก็มีอยู่ทั่วทุกที่

มีตลาดก็ย่อมมีคนยอมรับความเสี่ยง

เพียงแต่เมื่อผ่านไป โต๊ะพนันที่คล้ายคลึงกัน ส่วนมากจะเกิดกับการแข่งขันที่เกี่ยวกับร่างกายมากกว่า

ตัวอย่างเช่นกีฬาอย่างฟุตบอล หรือบาสเกตบอล

นี่เป็นสิ่งพบเห็นได้น้อยเหลือเกิน เมื่อเข้าใกล้ฤดูกาลการแข่งขัน ก็จะเกิดโต๊ะพนันในวงการเพลง เห็นได้ชัดว่ามหาสงครามครั้งนี้ได้รับความสนใจมากเพียงใด

แน่นอนว่าหลินเยวียนไม่รู้เรื่องเหล่านี้

เป็นจินมู่ผู้จัดการที่บอกเรื่องนี้กับเขา

ถึงแม้จินมู่จะไม่ได้รับผิดชอบด้านเศรษฐกิจของเซี่ยนอวี๋ แต่เขาก็ยังติดตามการสถานการณ์ของตัวตนของเซี่ยนอวี๋

ถึงอย่างไรเมื่อสรุปแล้ว เขาก็เป็นผู้จัดการของหลินเยวียน และไม่ใช่ตัวตนใดตัวตนหนึ่งของหลินเยวียน

“ที่แท้ก็มีเรื่องพวกนี้ด้วย”

ตอนที่หลินเยวียนฟังจินมู่เอ่ยถึงโต๊ะพนัน ก็รู้สึกประหลาดใจ และจนใจอยู่บ้าง “หรือว่าเรื่องพวกนี้สามารถคาดเดาได้?”

ยังไม่ต้องเอ่ยถึงคนทั่วไป

แม้แต่ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์อย่างหลินเยวียน ก็ยังไม่กล้าบอกเลยว่าตนจะได้อันดับที่เท่าไหร่

อย่างไรเสีย เขาก็สามารถตัดสินใจได้เพียงคุณภาพเพลงของตน ไม่สามารถตัดสินใจในคุณภาพเพลงของคนอื่นได้ เพลงตะวันฉายยอดเยี่ยมมากก็จริง แต่ใครจะรับประกันได้ว่าเดือนธันวาคมจะไม่มีผลงานที่ยอดเยี่ยมกว่านี้ปรากฏขึ้นมา

“ผีพนันไม่มีเหตุผลหรอกครับ”

เมื่อเทียบกันแล้ว ผีสางนางไม้ยังน่ารักกว่าผีพนันซะอีก

จินมู่กล่าวว่า “ตอนนี้คาดการณ์ว่าอันดับของหัวหน้าคืออันดับห้าครับ คนที่ซื้อว่าคุณอยู่อันดับห้ามีมากที่สุด”

หลินเยวียนนึกสงสัย “อาจินซื้อหรือยังครับ”

จินมู่มองหลินเยวียน ก่อนจะบอกเป็นนัยอย่างลนลาน “ผมไม่มีเงินครับ”

หลินเยวียนเงียบงันไปหลายวินาที เอ่ยว่า “เดือนหน้าจะเพิ่มเงินให้คุณเท่าตัว”

จินมู่ปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการได้ดีมาก นับว่าผ่านการทดลองงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้นหลินเยวียนจึงไม่ได้แสร้งเมินเฉย รับปากว่าจะขึ้นเงินเดือนให้อีกฝ่ายทันที

“ขอบคุณครับหัวหน้า”

ความนัยประสบความสำเร็จ จินมู่เอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “ตอนนี้คนซื้อทีมอิ่นตงเฟ่ยหยางเยอะที่สุด อัตราเดิมพันต่ำมาก รองลงมาก็คือทีมเยี่ยจือชิวกับไห่ถัง อัตราเดิมพันของเขาก็ไม่นับว่าสูง”

หลินเยวียนถาม “ไม่มีใครวางว่าผมจะได้แชมป์เลยเหรอครับ”

จินมู่ชะงักไป ก่อนจะเปิดโทรศัพท์ กดเข้าสักเว็บไซต์หนึ่งดู “มีคนสนับสนุนว่าทีมของหัวหน้ากับหน้ากับหลานเหยียนจะได้แชมป์อยู่นะครับ แต่ตอนนี้อัตราเดิมพันคือ 3.5!”

หลินเยวียน “…”

ถึงอย่างไรตนก็ถูกคาดการณ์ว่าจะอยู่อันดับที่ห้า

คนที่กล้าวางว่าตนจะคว้าแชมป์นั้นมีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย

บางทีคนที่วางว่าตนจะคว้าแชมป์ก็คงไม่ได้เชื่อมั่นสักเท่าไหร่ เพียงแต่ลองเสี่ยงดู เพราะถ้าได้ขึ้นมาละก็ จะกอบโกยกันมหาศาลเลยทีเดียว

มักมีคนชอบเสี่ยงอยู่เสมอ

พลอยให้หลินเยวียนแอบรู้สึกประทับใจ

ทว่าท้ายที่สุดแล้วหลินเยวียนก็ยังข่มความอยากกระหายนี้ไว้

การพนันเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม ไม่ควรเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับเยาวชน

……………………………………………….

[1] คุณปู่ ภาษาจีนออกเสียงว่า ‘เหล่าเหยี่ย’ ซึ่งคล้ายกับคำว่า ‘เหล่าเยี่ย’

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด