Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน 257 บทเพลงสำหรับคืนฉลองเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ

Now you are reading Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน Chapter 257 บทเพลงสำหรับคืนฉลองเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ช่วงเวลาหลังจากนั้น กองถ่ายยังคงทำงานกันตามปกติ

ฝีมือด้านการแสดงของหลิ่วเจิ้งเหวินดีงามสมคำร่ำลือ เขาทั้งสามารถแสดงท่าทางของตัวเอกชายซึ่งแสร้งตาบอดได้ ทั้งยังแสดงท่าทางของตัวเอกชายเมื่อตาบอดจริงๆ ได้เช่นกัน…

อี้เฉิงกงในฐานะผู้กำกับ ยังคงถ่ายทำไปตามมาตรฐานของภาพยนตร์ของหลินเยวียนอย่างเคร่งครัด

ทุกอย่างดำเนินไปตามขั้นตอน

แต่ถึงอย่างไรหลินเยวียนก็ยังรับผิดชอบตำแหน่งตัวแทนของแผนกประพันธ์เพลงชั้นเก้าด้วย จึงมีงานที่ต้องสะสางอยู่บ้าง

ปลายเดือนตุลาคม

วันที่ 23 หลินเยวียนไม่ได้ไปกองถ่าย แต่มายังแผนกประพันธ์เพลงของบริษัท เพื่อร่วมการประชุมของชั้นเก้า

อู๋หย่งเป็นประธานในการประชุม

เดิมทีหลินเยวียนก็ควรจะเป็นประธาน แต่ความเข้าใจเกี่ยวกับรายละเอียดของงานนั้น อู๋หย่งทำได้ดีกว่า เพราะฉะนั้นหลินเยวียนจึงให้อู๋หย่งเป็นประธาน

ไม่เพียงชั้นเก้าเท่านั้น

แผนกประพันธ์เพลงชั้นบนก็จัดประชุมเช่นกัน

ถึงอย่างไรนอกจากหลินเยวียนแล้ว ตัวแทนของแผนกประพันธ์เพลงชั้นอื่นๆ ก็เป็นพ่อเพลง มีพ่อเพลงบางคนถึงขั้นขี้เกียจออกหน้าในการประชุมครั้งสำคัญด้วยซ้ำไป

หลินเยวียนยินดีปรากฏตัวเช่นนี้ นับว่าให้เกียรติมากแล้ว

เนื้อหาของการประชุมในวันนี้ เกี่ยวข้องกับเรื่องสำคัญของแผนกในช่วงปลายปี

นอกจากนั้นแล้ว

บลูสตาร์ยังมีนโยบายใหม่ซึ่งจะแจ้งให้ทราบในการประชุมครั้งนี้

รัฐบาลสูงสุดตัดสินใจ ว่าหลังจากนี้ ในเดือนกุมภาพันธ์จะไม่ใช่เทศกาลฤดูใบไม้ผลิตามกฎหมายของทวีปใดอีกต่อไป

วันที่ 1 มกราคมของทุกปี จึงจะเป็นเทศกาลฤดูใบไม้ผลิตามกฎหมายของบลูสตาร์

ช่วงเวลาของฤดูใบไม้ผลิของแต่ละทวีปจะแตกต่างกันเล็กน้อย

เทศกาลฤดูใบไม้ผลิของฉินและฉี โดยทั่วไปล้วนจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์

ตอนนี้บลูสตาร์นับว่าได้บังคับเส้นเวลาของทวีปให้เป็นหนึ่งเดียว

“เรื่องนี้มีความสำคัญกับเรามาก เพราะมันหมายความว่าต่อจากนี้เวลาในการประกาศรางวัลของวงการเพลงจะถูกปรับเปลี่ยนตามไปด้วย หลังจากนี้การแข่งขันของวงการเพลงในเดือนมกราคมและธันวาคมจะดุเดือดที่สุด เพราะเดือนมกราคมเป็นต้นปี เดือนธันวาคมเป็นปลายปี”

“นอกจากนั้นยังมีข้อมูลสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง”

“ฉินฉีผนวกรวมกันมาจนถึงตอนนี้ นับเป็นเวลาเกือบหนึ่งปีแล้ว การตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์นี้ แต่ละอุตสาหกรรมต่างพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้นในทุกด้านนั้นเป็นประจักษ์แก่สายตา ดังนั้นเบื้องบนจึงตัดสินใจที่จะขยายขอบเขตของโครงการนำร่องต่อไป และคาดว่าฉู่โจวจะเข้าร่วมการผนวกรวมของฉินกับฉีตั้งแต่เดือนมกราคมปีหน้า”

“ตอนนี้จัดการครอบคลุมไปถึงการจราจรแล้ว”

“กำแพงทางวัฒนธรรมอีกหนึ่งด้านกำลังจะถูกทำลาย ทุกคนที่เคยผ่านการผนวกรวมของฉินกับฉีคงรู้ว่านี่หมายความว่าอะไร เบื้องหน้าคืออนาคตที่กว้างไกลกว่านี้กำลังรอพวกเราอยู่!”

“…”

ฉินฉีผนวกรวม ตอนนี้ยังมีฉู่โจวเพิ่มมาอีก นโยบายทำนองนี้ยังไม่ได้เกี่ยวข้องกับชีวิตของผู้คนทั่วไปมากนัก แต่มันสำคัญอย่างยิ่งสำหรับบริษัทบันเทิงอย่างสตาร์ไลท์

เพราะนั่นหมายความว่าการแข่งขันของแต่ละอุตสาหกรรมก็จะยิ่งดุเดือดขึ้นไปอีก!

แม้แต่หลินเยวียนเองก็ยังขบคิด

ปีหน้าจะมีการผนวกรวมอีกหนึ่งทวีป นั่นหมายความว่าในอนาคตข้างหน้า ตนก็จะหาเงินได้มากขึ้นไม่ใช่หรือ

“…”

หลังจากการประชุมจบลง

หลินเยวียนกลับไปยังห้องทำงาน

อู๋หย่งเดินตามเข้ามา กล่าวกลั้วหัวเราะ “การประชุมเมื่อกี้มีเรื่องหนึ่งที่ผมยังไม่ได้พูดถึง เพราะผมรู้สึกว่าเรื่องนี้ให้มือทองทั่วไปจัดการไม่ไหว ตัวแทนหลินต้องลงมือเอง”

หลินเยวียนถาม “เรื่องอะไรครับ”

อู๋หย่งเอ่ย “เพื่อที่จะเฉลิมฉลองครบรอบหนึ่งปีที่ฉินฉีผนวกรวมกัน ฉินฉีทั้งสองมณฑลเตรียมจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนร่วมกัน พอถึงตอนนั้นก็เชิญราชาราชินีเพลงของทั้งสองพื้นที่มาเพื่อร้องเพลงที่เป็นเอกลักษณ์ของอีกพื้นที่หนึ่ง พูดง่ายๆ ก็คือราชาราชินีเพลงของมณฑลฉินจะต้องร้องเพลงภาษาฉี และราชาราชินีเพลงของมณฑลฉี จะต้องร้องเพลงภาษากลาง เรื่องนี้ไม่ได้ยากสำหรับราชาราชินีเพลงจากมณฑลฉี ยังไงพวกเขาก็แค่ร้องเพลงภาษาทางการ สำหรับราชาราชินีเพลงของมณฑลฉินเรานั้นยุ่งยากมาก ราชาราชินีเพลงฝั่งเราคงไม่ได้ถนัดภาษาฉีสักเท่าไหร่”

หลินเยวียนเลิกคิ้ว “บริษัทเรามีราชาราชินีเพลงที่ได้รับคัดเลือกหรือยังครับ”

อู๋หย่งพยักหน้า “อาจารย์หลานเหยียน ราชาเพลงตัวท็อปของบริษัทเราได้รับการคัดเลือกครับ นี่ไม่ใช่แค่เพราะฐานะในวงการของอาจารย์หลานเหยียน แต่เพราะว่าอาจารย์หลานเหยียนเป็นหนึ่งในนักร้องระดับราชาเพลงเพียงไม่กี่คนที่คุ้นเคยกับภาษาฉี เพราะฉะนั้นบริษัทจึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ตอนนี้นักแต่งเพลงของบริษัทกำลังพยายามผลิตเพลงให้อาจารย์หลานเหยียนกันอยู่ ผมกำลังคิดว่าตัวแทนหลินมีประสบการณ์ในการผลิตเพลงภาษาฉี ก็เลย…”

“อ้อ”

หลินเยวียนไม่ได้ให้คำตอบ

โปรเจ็กต์ที่ทางการโปรโมตเช่นนี้หาได้ยากยิ่ง แม้แต่กับนักร้องระดับราชาและราชินี

เพราะฉะนั้นเพลงนี้จึงมีความสำคัญมาก

อู๋หย่งหวังว่าตัวแทนแผนกประพันธ์เพลงชั้นเก้าของตนจะหยิบออกมาสักเพลง พยายามสักตั้ง ลองดูว่าจะคว้าโอกาสพิเศษครั้งนี้มาได้หรือไม่

“…”

เมื่อเห็นท่าทางราวกับสนอกสนใจของหลินเยวียน อู๋หย่งจึงพูดอย่างกระวนกระวาย “ถ้าพวกเราได้โอกาสนี้ จะเป็นประโยชน์กับตัวแทนหลินมากเลยนะครับ และเพราะว่าเกณฑ์ในการสร้างสรรค์ผลงานครั้งนี้สูงมาก ดังนั้นบริษัทเลยประกาศว่า ถ้าเพลงไหนได้รับการคัดเลือกในขั้นสุดท้ายละก็ เบื้องบนจะให้เงินรางวัลเพิ่มอีกสามล้าน ถึงเงินจะไม่เยอะ…”

“ผมจะลองดูครับ”

หลินเยวียนตอบทันควัน

อู๋หย่งชะงักไป เดิมทีเขากำลังเตรียมคำพูดเพิ่มเติม เพื่อหว่านล้อมให้หลินเยวียนลองดู นึกไม่ถึงว่าพูดถึงแค่ตรงนี้ หลินเยวียนก็ตอบตกลงซะแล้ว

เขาตะลึงงันไปชั่วขณะ “ดีมากครับที่ตัวแทนหลินเข้าร่วม!”

หลินเยวียนเอ่ยถาม “มีรายละเอียดไหมครับ”

อู๋หย่งรีบอธิบายทันที “อันที่จริงก็ไม่ได้มีรายละเอียดอะไรมากครับ ประเด็นสำคัญคือให้เป็นเมนสตรีมสักหน่อย ติดหูสักนิด เนื้อเพลงไปทางบวก ชวนให้มุ่งมั่นพยายาม ตัวอย่างเช่นสร้างแรงบันดาลใจ เพียงแต่การคัดเลือกโดยละเอียด ทางอาจารย์หลานเหยียนจะเป็นคนพิจารณา ที่สำคัญก็คือพยายามทำให้ผู้ฟังฝั่งมณฑลฉีชื่นชอบ”

“ครับ”

หลินเยวียนพยักหน้า

ดูจากภาพรวมแล้ว ข้อกำหนดในระดับนี้ไม่ได้ยากเย็นสำหรับหลินเยวียน

แต่หลินเยวียนเองก็เข้าใจดี ในบางครั้ง สิ่งที่ง่ายที่สุดก็คือสิ่งที่ยากที่สุด

เพราะนั่นหมายถึงการแข่งขันที่ดุเดือดขึ้น

ที่บอกว่าสร้างแรงบันดาลใจสักหน่อย เนื้อเพลงไปในทางบวกสักหน่อยอะไรนั่น…

เพลงแนวนี้มีตั้งเยอะแยะ!

และเพราะเพลงประเภทนี้มีเยอะแยะ จึงทำให้การผลิตเพลงมาให้โดดเด่นกลายเป็นเรื่องที่ยากมาก!

“จริงสิ”

อู๋หย่งพูด “ถ้าเพลงนี้ได้รับการคัดเลือกละก็ นอกจากจะได้เข้าไปบนชาร์ตแล้ว อาจได้ขึ้นไปร้องในงานเลี้ยงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิหลังจากที่ฉินฉีรวมกันด้วยนะครับ ผมหมายถึงกิจกรรมวันที่ 31 ธันวาน่ะ ก็เลยมีคนคาดการณ์ว่ายอดคนดูถ่ายทอดสดงานนี้เยอะมาก ถึงยังไงคนจากทั้งสองพื้นที่ก็ดูกัน”

อู๋หย่งกำลังเตือนอย่างอ้อมๆ ว่าเพลงนี้สำคัญมากแค่ไหน

หลินเยวียนพยักหน้า

อู๋หย่งคุยกับหลินเยวียนอีกเล็กน้อยก็ออกไป

หลังจากที่อู๋หย่งออกไป หลินเยวียนก็เอ่ยเรียกระบบ

ในบริบทของการผนวกรวมของฉินและฉี ความสำคัญของงานเฉลิมฉลองเทศกาลฤดูใบไม้ผลิครั้งแรกนั้นไม่ต้องบอกก็รู้ นี่อาจเป็นโอกาสในการทำเงินจำนวนมาก ดังนั้นเขาจึงเริ่มผลิตเพลง

“ภาษาฉี…”

“สร้างแรงบันดาลใจ…”

“เชิงบวก…”

“มุ่งมั่นพยายาม…”

บางทีอาจลองใช้เพลงนั้นได้?

…………………………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด