Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru 25 ภายในกรง

Now you are reading Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru Chapter 25 ภายในกรง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มันรู้สึกหนาวและ… แข็ง?

 

บางอย่างมันแปลกๆ

 

ปกติฉันจะถูกโอบล้อมด้วยความนุ่มนิ่มและอบอุ่นทำให้หลับสบาย… แต่วันนี้ฉันถูกปลุกให้ตื่นโดยความหนาวที่ไม่ค่อยรู้สึกดีเท่าไหร่

 

ขยี้ตาหน่อยๆ ฉันค่อยๆลุกขึ้นมา

 

ตาอันงัวเงียของฉันค่อยๆจับภาพรอบๆตัว มันมีช่องของลูกกรงเหล็กและเพดานที่ไม่น่าจะยืนขึ้นได้…!

 

ฉันตื่นอย่างเต็มตัว

 

ตรงคอรู้สึกไม่ค่อยสบาย มันมีปลอกคอที่มีโซ่ล่ามไปถึงพื้นอยู่ ตรงจุดยึดก็มีพลังเวอยู่ด้วย นี้คงจะเป็นอุปกรณ์เวมนต์

 

ฉันติดอยู่ในกรง
ฉันหายใจเข้าลึกๆแล้วนึกถึงสิ่งที่จำได้ล่าสุด

 

ตอนที่ฉันกำลังเล่นอยู่ใกล้ๆกับถ้ำ ก็มีชายแปลกๆโผล่ขึ้นมาแล้วเอาของเหลวแปลกๆยัดเข้าปาก ทำให้ฉันสลบไป 

 

ฉันเช็ครอบๆโดยพึ่งแสงสลัวๆอย่างกระสับกระส่าย ก็เห็นว่ามีกรงอื่นๆอยู่รอบๆเช่นกัน มันผู้หญิงคนหนึ่งที่มีหูสัตว์ ส่วนอีกคนก็มีหูเหมือนแกะ บ้างก็ดูเหมือนมอนเตอร์… แล้วก็มีแต่ผู้หญิง ไม่มีผู้ชายเลย

 

ถึงแม้จะต่างเผ่ากัน แต่ทุกคนก็มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันในตอนนี้ คือความสิ้นหวังและความยอมแพ้ ที่แสดงอยู่ในดวงตาของพวกเขา ถึงฉันจะเป็นเด็กแต่ก็ยังรับรู้ได้

 

ทันใดนั้น ก็มีเสียงเท้าของคนสองคนเดินเข้ามาใกล้ที่ที่ฉันอยู่อย่างรวดเร็ว ฉันมองไปที่พวกเขาอย่างสงสัยว่าเป็นใคร

 

“พวกเรานี้โชคดีชะมัด นึกว่าหล่อนจะตายไปแล้วซักอีก”

 

“ใช่ไหมล่ะ? เราเกือบกลายเป็นอาหารของมอนเตอร์แถวนั้นไปแล้ว”

 

ชายสองคนที่มาจากด้านหลังกำลังคุยกันอยู่… ฉันจำพวกเขาได้ พวกนี้เป็นคนเดียวกับที่จับฉันมาระหว่างที่เล่นอยู่ และเป็นคนที่ทำลายบ้านเกิดฉันด้วย

 

“ตื่นได้แล้วยัยเด็กเปรต! ชอบหางานมาให้จริงๆนะแกนะ!”

 

มีชายคนหนึ่งตีเข้าที่หน้าฉันจากนอกกรง ฉันกระเด็นไปอีกทาง หลังกับหัวกระแทกกับลูกกรงเหล็กแล้วก็ส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด น้ำตาเริ่มปรากฏขึ้นที่ดวงตาพลางมองไปที่พวกนั้น

 

“เฮ้ย หยุดเลย ข้ารู้ว่าแกรู้สึกยังไง แต่เราจะซวยถ้าไปลดคุณภาพราคาสินค้าเข้า เจ้าเด็กนี้นะจะถูกส่งให้กับขุนนางโรคจิต ดังนั้นก็อดทนหน่อย” ชายอีกคนพูดอย่างดูถูก

 

ชายคนแรกถอนหายใจแล้วก็ก้มลงมาอยู่ในระดับสายตาฉัน “ฟังนะยัยเด็กแสบ อีกเดียวแกก็จะได้ไปเป็นของเล่นให้พวกขุนนางแล้ว ร่างกายของแกจะกลายเป็นของเล่นของพวกนั้น และแกจะเจอกับนรกที่แย่ยิ่งกว่าความตายทุกวันผ่านทางเซ็ก เยี่ยมไปเลยใช่ไหมล่ะ?” เขายิ้มอย่างน่าขยะแขยงพร้อมกับพูดคำน่ากลัวๆออกมา

 

ร่างกายฉันเริ่มสั่นและน้ำตาก็เริ่มไหลออกมา แต่ไม่ใช่จากความเจ็บปวด… แต่ฉันก็ยังปิดปากแน่น

 

มันจะต้องไม่เป็นไร… เพราะว่าฉันมีพี่ชาย เขาใจดี รักผู้คน และให้ความรู้สึกอบอุ่น ถึงตอนแรกฉันจะกลัวเขา แต่ตอนนี้ไม่แล้ว

 

พี่เขาต้องมาช่วยแน่นอน

 

ครั้งก่อนฉันได้แต่สิ้นหวัง บ้านเกิดถูกทำลาย ครอบครัวถูกฆ่า หัวใจฉันแตกสลาย… แต่ครั้งนี้ไม่ ฉันมีความหวัง มีคนที่พึ่งได้

 

แล้วถึงสถานการณ์จะแย่ขึ้น พี่สาวก็ต้องแกทุกปัญหาได้แน่นอน พวกเขาทั้งคู่นั้นแข็งแกร่งขนาดที่จัดการมอนเตอร์น่ากลัวได้สบายๆเลย… ดังนั้นมันจะไม่เป็นอะไร

 

ชายคนแรกถอนหายใจอีกครั้ง “ยัยเด็กเปรตนี้…” เบื่อหน่ายกับการที่ฉันไม่ตอบสนองอะไร เขาเดาะลิ้นและบอกอีกคนว่า “ไปกัน” และออกไป

 

* * *

 

พอพวกนั้นออกไปแล้ว ฉันก็ขยี้ตาแล้วคิดหาวิธี การนั่งรอเฉยๆไม่ได้ช่วยอะไร

 

ร้องไห้หรือกรีดร้องก็ไม่ช่วยอะไรเช่นกัน เฝ้าหวังไปก็ไม่ใช่ ฉันต้องสร้างโอกาศในการหลบหนีเพื่อที่การช่วยเหลือจะง่ายขึ้น

 

ตอนนี้ฉันต้องการเวลา มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหนีเพราะฉันไม่รู้ว่าที่นี้มันที่ไหน แต่ฉันสามารถหลบซ่อนเพื่อรอการช่วยเหลือจากสองคนนั้นได้

 

เมื่อได้ข้อสรุป ฉันก็เริ่มพึมพำบางอย่าง

 

“คุณภูติแห่งดินคะ ขอยืมพลังหน่อยคะ” จากนั้น ก็มีก้อนแสงสีน้ำตาลลอยออกมาจากพื้น มันไม่ค่อยสว่างและแทบจะกลมกลืนไปกับความมืด แต่มันก็มีตัวตนอยู่ตรงนั้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

‘การปกป้องจากราชาแห่งภูติ’ เป็นฉายาลับของฉัน เลฟี่ก็ไม่อาจจะรับรู้ได้ ยูกิก็ไม่มีทางแน่นอน

 

ฉายาทำให้ฉันมองเข้าไปในจิตใจของคนว่าเป็นคนดีหรือไม่ดี และได้รับการป้องกันศักดิ์สิทธิ์ และใช้เวทภูติได้ และทั้งฉายาและสกิลนั้นผู้อื่นจะไม่สามารถมองเห็นได้เลย

 

นี้เป็นสิ่งที่ทำให้ฉันหนีออกมาได้ในครั้งแรก แล้วรอดไปในป่าต้องห้าม จนถูกช่วยโดยยูกิ

 

“ได้โปรด คุณภูติแห่งดิน หนูอย่างให้คุณเปิดลูกกรงแล้วเอาโซ่ที่ล่ามหนูอยู่ออกไปทีค่ะ” แสงขยับขึ้นลงราวกับพยักหน้า แล้วก็เข้าไปในปลอกคอ จากนั้นปลอกคอก็หลุดออก

 

พวกนั้นคงไม่คิดกังวลอะไรเพราะปลอกคอนี้มันเป็นอุปกรณ์เวทมนต์ แต่กับพวกภูตินั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย ภูตินั้นถูกสร้างมาจากพลังเวทและพวกเขาก็กินและควบคุมพลังเวท 

 

นั้นก็หมายความว่า สิ่งมีชีวิตไม่อาจหยุดพวกเขาได้

 

อุปกรณ์เวทมนต์จะไม่ทำงานถ้าไม่มีพลังเวท การดูดพลังเวททั้งหมดจากสิ่งของเป็นเรื่องที่ง่ายมากสำหรับภูติ

 

พอถอดปลอกคอเสร็จ เขาก็ลอยไปจัดการกับกรงต่อ

 

ฉันขอบคุณภูติแห่งดินและเรียกภูคิแห่งความมืดออกมา

 

นอกจาก 4 ธาตุพื้นฐาน คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ภูติพวกนี้ยังสามารถเป็นธาตุแสงและความมืดได้ด้วย

 

ธาตุดินจะเก่งในเรื่องแร่ธาตุและเหล็ก ส่วนภูติแห่งความมืดจะสามารถกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อม และหลอกสายตาผู้คนได้

 

… ฉันก็อยากจะช่วยคนอื่นๆที่ติดอยู่ในกรงเหมือนกัน แต่ยังทำตอนนี้ไม่ได้ ถ้าปล่อยทุกคนตอนนี้มันจะอลหม่านเกินไป

 

ช่วยรออีกซักนิดนะ พี่ชายจะต้องมาช่วยทุกคนแน่

 

“… ขอบคุณนะค่ะ คุณภูติแห่งความมืด” แล้วฉันก็หนีออกมาอย่างปลอดภัยโดนไม่โดนจับได้

 

 

 

ดีจิ นี้เป็นตอนสุดท้ายของวันนี้แล้วจิ พลังงานหมดล่ะจิ ที่จริงก็พอจะต่อได้อีก 2 ตอนล่ะนะ แต่เอาไปพรุ่งนี้ดีกว่า ขี้เกียจล่ะ บายจิ ขอไปเพิ่มพลังงานให้ตัวเองก่อนจิ ZZZzzzzzzZZZzzzzzzzzz

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru 25 ภายในกรง

Now you are reading Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru Chapter 25 ภายในกรง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มันรู้สึกหนาวและ… แข็ง?

 

บางอย่างมันแปลกๆ

 

ปกติฉันจะถูกโอบล้อมด้วยความนุ่มนิ่มและอบอุ่นทำให้หลับสบาย… แต่วันนี้ฉันถูกปลุกให้ตื่นโดยความหนาวที่ไม่ค่อยรู้สึกดีเท่าไหร่

 

ขยี้ตาหน่อยๆ ฉันค่อยๆลุกขึ้นมา

 

ตาอันงัวเงียของฉันค่อยๆจับภาพรอบๆตัว มันมีช่องของลูกกรงเหล็กและเพดานที่ไม่น่าจะยืนขึ้นได้…!

 

ฉันตื่นอย่างเต็มตัว

 

ตรงคอรู้สึกไม่ค่อยสบาย มันมีปลอกคอที่มีโซ่ล่ามไปถึงพื้นอยู่ ตรงจุดยึดก็มีพลังเวอยู่ด้วย นี้คงจะเป็นอุปกรณ์เวมนต์

 

ฉันติดอยู่ในกรง
ฉันหายใจเข้าลึกๆแล้วนึกถึงสิ่งที่จำได้ล่าสุด

 

ตอนที่ฉันกำลังเล่นอยู่ใกล้ๆกับถ้ำ ก็มีชายแปลกๆโผล่ขึ้นมาแล้วเอาของเหลวแปลกๆยัดเข้าปาก ทำให้ฉันสลบไป 

 

ฉันเช็ครอบๆโดยพึ่งแสงสลัวๆอย่างกระสับกระส่าย ก็เห็นว่ามีกรงอื่นๆอยู่รอบๆเช่นกัน มันผู้หญิงคนหนึ่งที่มีหูสัตว์ ส่วนอีกคนก็มีหูเหมือนแกะ บ้างก็ดูเหมือนมอนเตอร์… แล้วก็มีแต่ผู้หญิง ไม่มีผู้ชายเลย

 

ถึงแม้จะต่างเผ่ากัน แต่ทุกคนก็มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันในตอนนี้ คือความสิ้นหวังและความยอมแพ้ ที่แสดงอยู่ในดวงตาของพวกเขา ถึงฉันจะเป็นเด็กแต่ก็ยังรับรู้ได้

 

ทันใดนั้น ก็มีเสียงเท้าของคนสองคนเดินเข้ามาใกล้ที่ที่ฉันอยู่อย่างรวดเร็ว ฉันมองไปที่พวกเขาอย่างสงสัยว่าเป็นใคร

 

“พวกเรานี้โชคดีชะมัด นึกว่าหล่อนจะตายไปแล้วซักอีก”

 

“ใช่ไหมล่ะ? เราเกือบกลายเป็นอาหารของมอนเตอร์แถวนั้นไปแล้ว”

 

ชายสองคนที่มาจากด้านหลังกำลังคุยกันอยู่… ฉันจำพวกเขาได้ พวกนี้เป็นคนเดียวกับที่จับฉันมาระหว่างที่เล่นอยู่ และเป็นคนที่ทำลายบ้านเกิดฉันด้วย

 

“ตื่นได้แล้วยัยเด็กเปรต! ชอบหางานมาให้จริงๆนะแกนะ!”

 

มีชายคนหนึ่งตีเข้าที่หน้าฉันจากนอกกรง ฉันกระเด็นไปอีกทาง หลังกับหัวกระแทกกับลูกกรงเหล็กแล้วก็ส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด น้ำตาเริ่มปรากฏขึ้นที่ดวงตาพลางมองไปที่พวกนั้น

 

“เฮ้ย หยุดเลย ข้ารู้ว่าแกรู้สึกยังไง แต่เราจะซวยถ้าไปลดคุณภาพราคาสินค้าเข้า เจ้าเด็กนี้นะจะถูกส่งให้กับขุนนางโรคจิต ดังนั้นก็อดทนหน่อย” ชายอีกคนพูดอย่างดูถูก

 

ชายคนแรกถอนหายใจแล้วก็ก้มลงมาอยู่ในระดับสายตาฉัน “ฟังนะยัยเด็กแสบ อีกเดียวแกก็จะได้ไปเป็นของเล่นให้พวกขุนนางแล้ว ร่างกายของแกจะกลายเป็นของเล่นของพวกนั้น และแกจะเจอกับนรกที่แย่ยิ่งกว่าความตายทุกวันผ่านทางเซ็ก เยี่ยมไปเลยใช่ไหมล่ะ?” เขายิ้มอย่างน่าขยะแขยงพร้อมกับพูดคำน่ากลัวๆออกมา

 

ร่างกายฉันเริ่มสั่นและน้ำตาก็เริ่มไหลออกมา แต่ไม่ใช่จากความเจ็บปวด… แต่ฉันก็ยังปิดปากแน่น

 

มันจะต้องไม่เป็นไร… เพราะว่าฉันมีพี่ชาย เขาใจดี รักผู้คน และให้ความรู้สึกอบอุ่น ถึงตอนแรกฉันจะกลัวเขา แต่ตอนนี้ไม่แล้ว

 

พี่เขาต้องมาช่วยแน่นอน

 

ครั้งก่อนฉันได้แต่สิ้นหวัง บ้านเกิดถูกทำลาย ครอบครัวถูกฆ่า หัวใจฉันแตกสลาย… แต่ครั้งนี้ไม่ ฉันมีความหวัง มีคนที่พึ่งได้

 

แล้วถึงสถานการณ์จะแย่ขึ้น พี่สาวก็ต้องแกทุกปัญหาได้แน่นอน พวกเขาทั้งคู่นั้นแข็งแกร่งขนาดที่จัดการมอนเตอร์น่ากลัวได้สบายๆเลย… ดังนั้นมันจะไม่เป็นอะไร

 

ชายคนแรกถอนหายใจอีกครั้ง “ยัยเด็กเปรตนี้…” เบื่อหน่ายกับการที่ฉันไม่ตอบสนองอะไร เขาเดาะลิ้นและบอกอีกคนว่า “ไปกัน” และออกไป

 

* * *

 

พอพวกนั้นออกไปแล้ว ฉันก็ขยี้ตาแล้วคิดหาวิธี การนั่งรอเฉยๆไม่ได้ช่วยอะไร

 

ร้องไห้หรือกรีดร้องก็ไม่ช่วยอะไรเช่นกัน เฝ้าหวังไปก็ไม่ใช่ ฉันต้องสร้างโอกาศในการหลบหนีเพื่อที่การช่วยเหลือจะง่ายขึ้น

 

ตอนนี้ฉันต้องการเวลา มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหนีเพราะฉันไม่รู้ว่าที่นี้มันที่ไหน แต่ฉันสามารถหลบซ่อนเพื่อรอการช่วยเหลือจากสองคนนั้นได้

 

เมื่อได้ข้อสรุป ฉันก็เริ่มพึมพำบางอย่าง

 

“คุณภูติแห่งดินคะ ขอยืมพลังหน่อยคะ” จากนั้น ก็มีก้อนแสงสีน้ำตาลลอยออกมาจากพื้น มันไม่ค่อยสว่างและแทบจะกลมกลืนไปกับความมืด แต่มันก็มีตัวตนอยู่ตรงนั้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

‘การปกป้องจากราชาแห่งภูติ’ เป็นฉายาลับของฉัน เลฟี่ก็ไม่อาจจะรับรู้ได้ ยูกิก็ไม่มีทางแน่นอน

 

ฉายาทำให้ฉันมองเข้าไปในจิตใจของคนว่าเป็นคนดีหรือไม่ดี และได้รับการป้องกันศักดิ์สิทธิ์ และใช้เวทภูติได้ และทั้งฉายาและสกิลนั้นผู้อื่นจะไม่สามารถมองเห็นได้เลย

 

นี้เป็นสิ่งที่ทำให้ฉันหนีออกมาได้ในครั้งแรก แล้วรอดไปในป่าต้องห้าม จนถูกช่วยโดยยูกิ

 

“ได้โปรด คุณภูติแห่งดิน หนูอย่างให้คุณเปิดลูกกรงแล้วเอาโซ่ที่ล่ามหนูอยู่ออกไปทีค่ะ” แสงขยับขึ้นลงราวกับพยักหน้า แล้วก็เข้าไปในปลอกคอ จากนั้นปลอกคอก็หลุดออก

 

พวกนั้นคงไม่คิดกังวลอะไรเพราะปลอกคอนี้มันเป็นอุปกรณ์เวทมนต์ แต่กับพวกภูตินั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย ภูตินั้นถูกสร้างมาจากพลังเวทและพวกเขาก็กินและควบคุมพลังเวท 

 

นั้นก็หมายความว่า สิ่งมีชีวิตไม่อาจหยุดพวกเขาได้

 

อุปกรณ์เวทมนต์จะไม่ทำงานถ้าไม่มีพลังเวท การดูดพลังเวททั้งหมดจากสิ่งของเป็นเรื่องที่ง่ายมากสำหรับภูติ

 

พอถอดปลอกคอเสร็จ เขาก็ลอยไปจัดการกับกรงต่อ

 

ฉันขอบคุณภูติแห่งดินและเรียกภูคิแห่งความมืดออกมา

 

นอกจาก 4 ธาตุพื้นฐาน คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ภูติพวกนี้ยังสามารถเป็นธาตุแสงและความมืดได้ด้วย

 

ธาตุดินจะเก่งในเรื่องแร่ธาตุและเหล็ก ส่วนภูติแห่งความมืดจะสามารถกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อม และหลอกสายตาผู้คนได้

 

… ฉันก็อยากจะช่วยคนอื่นๆที่ติดอยู่ในกรงเหมือนกัน แต่ยังทำตอนนี้ไม่ได้ ถ้าปล่อยทุกคนตอนนี้มันจะอลหม่านเกินไป

 

ช่วยรออีกซักนิดนะ พี่ชายจะต้องมาช่วยทุกคนแน่

 

“… ขอบคุณนะค่ะ คุณภูติแห่งความมืด” แล้วฉันก็หนีออกมาอย่างปลอดภัยโดนไม่โดนจับได้

 

 

 

ดีจิ นี้เป็นตอนสุดท้ายของวันนี้แล้วจิ พลังงานหมดล่ะจิ ที่จริงก็พอจะต่อได้อีก 2 ตอนล่ะนะ แต่เอาไปพรุ่งนี้ดีกว่า ขี้เกียจล่ะ บายจิ ขอไปเพิ่มพลังงานให้ตัวเองก่อนจิ ZZZzzzzzzZZZzzzzzzzzz

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+