Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru 9 มาใช้เวทมนต์กัน 2

Now you are reading Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru Chapter 9 มาใช้เวทมนต์กัน 2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“อืมมมมม…”

ผมนั่งจ้องหน้าต่างเมนูบนบัลลังก์ี่เริ่มจะชินแล้ว

“เป็นอะไรรึ? ถึงมองพื้นที่ว่างเปล่าด้วยใบหน้ากระตือรือร้นอย่างงั้นนะ”

เรฟี่ ผู้ที่กำลังส่งเสียงประมาณ ‘โอ้อออ โอ้อออ… เราก็ไม่เคยมาดูสไลม์ใกล้ๆแบบนี้มาก่อน แต่… เจ้านี้น่ารักใช้ได้เลยนะ…’ เมื่อกี้นี้ ก็มาถามผมด้วยใบหน้าสงสัย

“ไม่อะ ไม่—-หืม? ว่างเปล่าหรอ?”

เธอไม่เห็นหน้าต่างเมนูหรอ?

“ใช่ เราเห็นเจ้าจ้องแต่กับอะไรก็ไม่– อ่อเข้าใจละ เจ้าดูสเตตัสตัวเองอยู่ใช่ไหม? ถ้าเราจำไม่ผิด เจ้ามีสกิลวิเคราะห์อยู่ด้วยนี้นา” 

“เธอก็มีเหมือนกันหรอ เรฟี่?”

“อา สะดวกใช้ได้เลยล่ะ แค่เจ้าเลเวลอัพสกิลนั้น เจ้าจะมองดูอะไรก็ได้ แต่ก็มีไม่กี่คนละนะที่จะอัพมันถึงสุด”

“….แล้ว เมื่อวานนี้นะ เธอไม่รู้หรอว่าชั้นเป็นจอมมารตอนมาที่นี้นะ? ถ้าเธอมีวิเคราห์เธอก็น่าจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วสิ?”

“ไม่ละ ตอนแรก เราคิดว่าเจ้าเป็นแค่ปีศาจไร้ค่าที่เข้ามาในอาณาเขตเราโดยไม่คิด เลยไม่คิดที่จะใช้วิเคราะห์นะ หลังจากนั้นในหัวเราก็มีแต่ช็อคโกแล็ดนะ อ๊ะ ยูกิ อยากกินช็อคโกแล็ตอ่ะ”

“เดี่ยวก็ฟันผุหรอกนะ”

“พูดอะไรของเจ้านะ? เราเป็นถึงมังกรโบราณเลยนะ รู้ไหม? มันไม่มีความผิดปกตินั้นบนสถานะเราหรอก”

สำหรับเธอฟันผุก็เป็นแค่สถานะผิดปกติสินะ

ผมเปิดแค็ตตาล็อก DP แล้วก็โยนให้เรฟี่

“หืม? อะไรละเนี่ย?”

“คุกกี้”

“ไหนดูสิ… Wafuuu! เจ้านี้ก็อร่อยอ่ะ! อย่างที่คิดเลย เราคิดถูกจริงๆที่มาอยู่ที่นี้! ฟูกก็นุ่มนอนสบายแล้วเราก็ไม่รู้เลยว่าร่างมนุษย์จะรู้สึกดีขนาดนี้”

Wafuu…?

ผมได้แต่ยิ้มขมๆกับ เรฟี่ที่ทำตัวเป็นเด็ก ที่กำลังเคี้ยวคุกกี้อยู่

ช่างเถอะ เธอชอบก็ดีแล้ว ราคาถูกกว่าช็อคโกแล็ตด้วย

“แล้ว? เจ้าจะจ้องสเตตัสเพื่ออะไรรึ?”

“แค่อยากจะลองใช้เวทมนต์ดูนะ จำนวนพลังเวทของชั้นมันก็ค่อนข้างสูง ชั้นก็น่าจะใช้ได้นะ แต่ว่า….”

ผมเริ่มมาคิดเรื่องพวกนี้หลังจากที่ได้สู้กับหมาตัวเมื่อวาน

ในโลกก่อน ผมก็ไม่เคยสู้อะไรกับใครมาก่อนด้วย

ถึงพลังกายของผมจะสูงก็เถอะ แต่ถ้าผมเจอศัตรูที่แข็งแกร่งกว่า แล้วทางนั้นมีทักษะการต่อสู้ด้วยล่ะก็ ผมไม่มีทางชนะหรอก

ถึงในกลุ่มนั้น อาจจะมีพวกปีศาจที่อาจจะเป็นพรรคพวกของผมก็เถอะ แต่นั้นก็ไม่แน่เสมอไป

ถึงจะมีมังกรชั้นสูงนี้อยู่ด้วย แต่ถ้าผมหวังพึ่งแต่เธอ ผมก็จะไม่ไปไหนเช่นกัน

แล้วโลกนี้มันก็ไม่ปลอดภัยด้วย มีพลังเอาไว้ก็ไม่เสียหายอะไร แล้วในเมื่อมาต่างโลกทั้งที ก็อยากจะลองใช้เวทมนต์ดูละนะ

แล้วในสเตตัสผม หลังเวทก็เป็นอันที่ดูเยอะสุดด้วย

ที่จริงผมแค่อัญเชิญลูกน้องเก่งๆมาก็ได้เหมือนกัน.

แต่ก็นะ อยากใช้เวทมนต์บ้าง มันก็แค่นั้นแหละ

แต่ผมไม่รู้วิธีใช้นี้สิ

ผมลอง ‘Kame*ameha!’ กับ ‘The Wor*d’ ดู แต่ก็ล้มเหลวทั้งคู่ [TL:อันแรกล้อดราก้อนบอล อันสองมิรุ้]

พอผมได้สกิลทักษะการต่อสู้จากการเตะหมา ก็เลยอยากจะลองดูเล่นๆละนะว่าทางเวทจะได้บ้างหรือเปล่า….

แต่ก่อนอื่นเลย พลังเวทคืออะไรกันแน่นะ?

ตอนที่ผมสัมผัสได้ถึงพลังเวทในดันเจี้ยน ผมลองที่จะจับสัมผัสพลังเวทในตัวเองดู แต่ก็ไม่รู้สึกอะไรเลย

ผมลองนั่งสมาธิดู แต่ที่ได้ยินก็มีแต่เสียงเรฟี่กับชิอิเล่นกัน ทำผิดวิธีตรงไหนรึเปล่าน้า

“หืมมมม ก็จริงนะที่พลังของเจ้านั้นสูงกว่ามาตราฐาน โอ้? เจ้าเลเวลอัพนี่ ไปจัดการมอนเตอร์หรืออะไรพวกนี้ในช่วงที่เราหลับหรือ?”

“ประมาณนั้นแหละ… นี้ สเตตัสชั้นมันดูเป็นยังไงหรอ?”

“ก็ดูมีความหลากหลายดีนะ แต่ก็ใช่ เราคิดว่าเจ้าน่าจะเท่ากันไม่ก็แข็งแกร่งกว่ามอนเตอร์ที่อาศัยอยู่แถวนี้ละนะ แต่ก็มีตัวที่แข็งแกร่งกว่าเจ้าอยู่เยอะเหมือนกันนะ แต่ก็ไม่ได้ซัก 100 เท่าของเราหรอกนะ!” เรฟี่พูดพร้อมหัวเราะ

ไม่ได้ซัก 100 เท่าหรอ….?

ระหว่างที่ผมกำลังมึนงงในความต่างของพลัง หลังจากกินคุกกี้ที่ผมให้ไปเสร็จก็ทำหน้าเศร้านิดๆ แล้วเรฟี่ก็มองมาที่ผม

 “ก็นะ ถ้าเป็นแค่เวทมนต์ละก็ เราก็สอนให้เจ้าได้ แต่ไม่ฟรี—”

ผมหยิบคุกกี้ออกมาอีกอันแล้วก็โยนให้

 “อืมมม! ดีมาก! เราจะทำให้เจ้ากลายเป็นจอมเวทที่เก่งกาจที่สุดในยุดสมัยนี้เอง!”

 
ดีจริงๆที่เธอล่อง่าย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru 9 มาใช้เวทมนต์กัน 2

Now you are reading Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru Chapter 9 มาใช้เวทมนต์กัน 2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“อืมมมมม…”

ผมนั่งจ้องหน้าต่างเมนูบนบัลลังก์ี่เริ่มจะชินแล้ว

“เป็นอะไรรึ? ถึงมองพื้นที่ว่างเปล่าด้วยใบหน้ากระตือรือร้นอย่างงั้นนะ”

เรฟี่ ผู้ที่กำลังส่งเสียงประมาณ ‘โอ้อออ โอ้อออ… เราก็ไม่เคยมาดูสไลม์ใกล้ๆแบบนี้มาก่อน แต่… เจ้านี้น่ารักใช้ได้เลยนะ…’ เมื่อกี้นี้ ก็มาถามผมด้วยใบหน้าสงสัย

“ไม่อะ ไม่—-หืม? ว่างเปล่าหรอ?”

เธอไม่เห็นหน้าต่างเมนูหรอ?

“ใช่ เราเห็นเจ้าจ้องแต่กับอะไรก็ไม่– อ่อเข้าใจละ เจ้าดูสเตตัสตัวเองอยู่ใช่ไหม? ถ้าเราจำไม่ผิด เจ้ามีสกิลวิเคราะห์อยู่ด้วยนี้นา” 

“เธอก็มีเหมือนกันหรอ เรฟี่?”

“อา สะดวกใช้ได้เลยล่ะ แค่เจ้าเลเวลอัพสกิลนั้น เจ้าจะมองดูอะไรก็ได้ แต่ก็มีไม่กี่คนละนะที่จะอัพมันถึงสุด”

“….แล้ว เมื่อวานนี้นะ เธอไม่รู้หรอว่าชั้นเป็นจอมมารตอนมาที่นี้นะ? ถ้าเธอมีวิเคราห์เธอก็น่าจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วสิ?”

“ไม่ละ ตอนแรก เราคิดว่าเจ้าเป็นแค่ปีศาจไร้ค่าที่เข้ามาในอาณาเขตเราโดยไม่คิด เลยไม่คิดที่จะใช้วิเคราะห์นะ หลังจากนั้นในหัวเราก็มีแต่ช็อคโกแล็ดนะ อ๊ะ ยูกิ อยากกินช็อคโกแล็ตอ่ะ”

“เดี่ยวก็ฟันผุหรอกนะ”

“พูดอะไรของเจ้านะ? เราเป็นถึงมังกรโบราณเลยนะ รู้ไหม? มันไม่มีความผิดปกตินั้นบนสถานะเราหรอก”

สำหรับเธอฟันผุก็เป็นแค่สถานะผิดปกติสินะ

ผมเปิดแค็ตตาล็อก DP แล้วก็โยนให้เรฟี่

“หืม? อะไรละเนี่ย?”

“คุกกี้”

“ไหนดูสิ… Wafuuu! เจ้านี้ก็อร่อยอ่ะ! อย่างที่คิดเลย เราคิดถูกจริงๆที่มาอยู่ที่นี้! ฟูกก็นุ่มนอนสบายแล้วเราก็ไม่รู้เลยว่าร่างมนุษย์จะรู้สึกดีขนาดนี้”

Wafuu…?

ผมได้แต่ยิ้มขมๆกับ เรฟี่ที่ทำตัวเป็นเด็ก ที่กำลังเคี้ยวคุกกี้อยู่

ช่างเถอะ เธอชอบก็ดีแล้ว ราคาถูกกว่าช็อคโกแล็ตด้วย

“แล้ว? เจ้าจะจ้องสเตตัสเพื่ออะไรรึ?”

“แค่อยากจะลองใช้เวทมนต์ดูนะ จำนวนพลังเวทของชั้นมันก็ค่อนข้างสูง ชั้นก็น่าจะใช้ได้นะ แต่ว่า….”

ผมเริ่มมาคิดเรื่องพวกนี้หลังจากที่ได้สู้กับหมาตัวเมื่อวาน

ในโลกก่อน ผมก็ไม่เคยสู้อะไรกับใครมาก่อนด้วย

ถึงพลังกายของผมจะสูงก็เถอะ แต่ถ้าผมเจอศัตรูที่แข็งแกร่งกว่า แล้วทางนั้นมีทักษะการต่อสู้ด้วยล่ะก็ ผมไม่มีทางชนะหรอก

ถึงในกลุ่มนั้น อาจจะมีพวกปีศาจที่อาจจะเป็นพรรคพวกของผมก็เถอะ แต่นั้นก็ไม่แน่เสมอไป

ถึงจะมีมังกรชั้นสูงนี้อยู่ด้วย แต่ถ้าผมหวังพึ่งแต่เธอ ผมก็จะไม่ไปไหนเช่นกัน

แล้วโลกนี้มันก็ไม่ปลอดภัยด้วย มีพลังเอาไว้ก็ไม่เสียหายอะไร แล้วในเมื่อมาต่างโลกทั้งที ก็อยากจะลองใช้เวทมนต์ดูละนะ

แล้วในสเตตัสผม หลังเวทก็เป็นอันที่ดูเยอะสุดด้วย

ที่จริงผมแค่อัญเชิญลูกน้องเก่งๆมาก็ได้เหมือนกัน.

แต่ก็นะ อยากใช้เวทมนต์บ้าง มันก็แค่นั้นแหละ

แต่ผมไม่รู้วิธีใช้นี้สิ

ผมลอง ‘Kame*ameha!’ กับ ‘The Wor*d’ ดู แต่ก็ล้มเหลวทั้งคู่ [TL:อันแรกล้อดราก้อนบอล อันสองมิรุ้]

พอผมได้สกิลทักษะการต่อสู้จากการเตะหมา ก็เลยอยากจะลองดูเล่นๆละนะว่าทางเวทจะได้บ้างหรือเปล่า….

แต่ก่อนอื่นเลย พลังเวทคืออะไรกันแน่นะ?

ตอนที่ผมสัมผัสได้ถึงพลังเวทในดันเจี้ยน ผมลองที่จะจับสัมผัสพลังเวทในตัวเองดู แต่ก็ไม่รู้สึกอะไรเลย

ผมลองนั่งสมาธิดู แต่ที่ได้ยินก็มีแต่เสียงเรฟี่กับชิอิเล่นกัน ทำผิดวิธีตรงไหนรึเปล่าน้า

“หืมมมม ก็จริงนะที่พลังของเจ้านั้นสูงกว่ามาตราฐาน โอ้? เจ้าเลเวลอัพนี่ ไปจัดการมอนเตอร์หรืออะไรพวกนี้ในช่วงที่เราหลับหรือ?”

“ประมาณนั้นแหละ… นี้ สเตตัสชั้นมันดูเป็นยังไงหรอ?”

“ก็ดูมีความหลากหลายดีนะ แต่ก็ใช่ เราคิดว่าเจ้าน่าจะเท่ากันไม่ก็แข็งแกร่งกว่ามอนเตอร์ที่อาศัยอยู่แถวนี้ละนะ แต่ก็มีตัวที่แข็งแกร่งกว่าเจ้าอยู่เยอะเหมือนกันนะ แต่ก็ไม่ได้ซัก 100 เท่าของเราหรอกนะ!” เรฟี่พูดพร้อมหัวเราะ

ไม่ได้ซัก 100 เท่าหรอ….?

ระหว่างที่ผมกำลังมึนงงในความต่างของพลัง หลังจากกินคุกกี้ที่ผมให้ไปเสร็จก็ทำหน้าเศร้านิดๆ แล้วเรฟี่ก็มองมาที่ผม

 “ก็นะ ถ้าเป็นแค่เวทมนต์ละก็ เราก็สอนให้เจ้าได้ แต่ไม่ฟรี—”

ผมหยิบคุกกี้ออกมาอีกอันแล้วก็โยนให้

 “อืมมม! ดีมาก! เราจะทำให้เจ้ากลายเป็นจอมเวทที่เก่งกาจที่สุดในยุดสมัยนี้เอง!”

 
ดีจริงๆที่เธอล่อง่าย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+