Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru 59 ผู้กล้าและจอมมาร

Now you are reading Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru Chapter 59 ผู้กล้าและจอมมาร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เนลล์ตื่นขึ้นมาในอีกวันหลังจากนอนพักไป เธอไม่ได้ถูกโดนจู่โจมขณะหลับแต่อย่างใด เตียงที่นอนก็นุ่มสบาย อาหารก็อร่อยจนเธอสวาปามลงไปอย่างรวดเร็วถึงแม้เธอจะไม่เคยเห็นมาก่อนก็ตาม เธอรู้สึกละอายใจที่เผลอลืมวัตถุประสงค์หลักของตนไป แต่เธอก็รู้สึกอย่างนั้นไม่นาน

 

“แล้ว ใครเป็นคนส่งเธอมากันแน่ละ?”

 

จอมมารถามคำถามเธอ แต่เขาดูง่วงมาก สงสัยคงเป็นเพราะโดนเด็กสาวเมื่อวานบ่นเอาตลอดทั้งคืน

 

“อ-อืมมม… ทางโบสท์นะ พวกเขาบอกชั้นว่านายเป็นปีศาจร้ายที่คอยฆ่าคนไปทั่ว และชั้นต้องมาจัดการนายนะ”

“พวกนั้นพูดงั้นจริงหรอ?”

“อ-อือ” เนลล์พยักหน้าตอบ โอ้ให้ตายสิ! ชั้นนี้มันบ้าจริงๆ! ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเผลอบอกเขาไป!

“ฟังนะ การจะเชื่อใจคนนะมันก็ไม่ได้แย่หรอก แต่เธอก็น่าจะรู้ตัวหน่อยนะว่าเธอเชื่อคนง่ายเกินไป…”  

“อ-เอ่อออ.. โทษที ชั้นจะระวังให้มากกว่านี้”  

 

เธอรู้ว่าในดันเจี้ยนมีคนมากกว่านี้ แต่ตอนนี้จอมมารเป็นคนเดียวที่อยู่ ณ ตอนนี้ เธอเห็นแค่จอมมารกับเมดเขาแกะแค่ช่วงเช้าเท่านั้นเอง และคนหลังก็แค่มาเสริฟอาหารให้เท่านั้น

 

คนอื่นคงจะอยู่ที่ไหนซักที่ในปราสาทละมั้ง

 

“เดี๋ยวนะ งั้นเธอก็ไม่ใช่พวกเดียวกับกองทัพหรอ?”

“ไม่ละ ชั้นขึ้นตรงกับโบสท์นะ กัปตันของกองกำลังอัศวินศักดิ์สิทธื์เป็นคนสั่งให้ชั้นมาจัดการนาย แต่ดูเหมือนว่านั้นจะไม่ใช่ความคิดของตัวเธอเองละ…”  

“งั้นหรอ” 

ใบหน้าของกัปตันลอยเข้ามาให้หัวของเนลล์เมื่อพูดถึงเธอ ใบหน้าของเธอจะดูสงบ กล้าหาญ อยู่ตลอดเวลา แต่ตอนเธอให้คำสั่งกับเนลล์มันไม่ใช่อย่างนั้น ดูเหมือนเธอจะโดนกดดันคำสั่งนนี้มาจากทางเบื้องบนให้มอบหมายหน้าที่นี้ให้กับผู้กล้า

 

เดี๋ยวนะ เมื่อกี้ชั้นเผลอพูดเกินจำเป็นอีกแล้วหรอ? เนลล์เพิ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองเพิ่งให้ข้อมูลพรรคพวกของตัวเองให้กับจอมมารที่เป็นศัตรูของตนไป เธอค่อยๆหันหน้าไปถามเขาอย่างเป็นกังวล 

“อ-เอ่ออ… นายคงจะไม่โจมตีโบสท์ สินะ…?”

“ก็ขึ้นอยู่กับพวกนั้น ถ้าไม่มายุ่งกับชั้นก็แล้วไป แค่ถ้าคิดจะมาละก็ ชั้นจะซัดไม่ให้เหลือเลย ไปบอกพวกนั้นให้ชัดเจนด้วยละ”

 

สายตาของจอมมารดูแหลมคมขึ้นเมื่อเขาพูดจบ และปล่อยออร่าออกมาพร้อมกับแรงกดดันจนทำให้เนลล์ยากที่จะพูดกลับ จึงได้แต่พยักหน้ารับ

 

“อ-โอเค”

“แต่ถ้าเป็นไปได้ชั้นก็ไม่อยากจะฆ่าใครหรอก ชั้นไม่ได้ชอบเรื่องอะไรแบบนั้นอยู่แล้วด้วย แต่ชั้นไม่นั่งเฉยหากมีกองทัพติดอาวุธเดินเข้ามาหาหรอกนะ เข้าใจไหม?”

“ก็จริงนะ…”

 

เนลล์ไม่อาจปฏิเสธว่าคำพูดของจอมมารนั้นไร้เหตุผล และก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่าเขาถูก เธอได้ใช้พลังสมองคิดไตร่ตรองทบทวนดูเมื่อคืน เธอเริ่มคิดตั้งแต่เอาตัวลงนอนบนเตียงอันนุ่มสบายจนกระทั้งหลับไป

 

ผู้กล้าใช้เวลาคิดถึงสิ่งที่เธอทำมาถึงตอนนี้และสิ่งที่เธอจะทำเพื่อเดินหน้าต่อไป เธอคิดถึงเรื่องที่ที่เธอได้มาอยู่และจอมมารที่เป็นเจ้าของมัน

 

ถึงเธอจะมาอยู่ในดันเจี้ยนเพียงแค่วันเดียว เนลล์ก็เข้าใจว่าจอมมารเป็นคนที่ผู้อาศัยในดันเจี้ยนคนอื่นเชื่อใจ ความเชื่อใจของพวกเขาเป็นสิ่งที่มองแค่แว่บเดียวก็รู้ได้ด้วยซ้ำ ทำให้เธอรู้ว่าเขาไม่อาจเป็นคนไม่ดีได้ เพราะผู้ที่ปกครองแบบทรราชย์จะได้รับความศรัทธาที่ลดน้อยลง คงไม่มีผู้อาศัยคนไหนจะมีความสุขแบบนี้หากจอมมารปกครองพวกเขาด้วยความไร้เหตุผล

 

และเธอก็เริ่มที่จะได้เห็นด้านนั้นด้วยเช่นกัน ผู้กล้าในตำนานได้ใช้พลังของตนเพื่อผู้อื่น และผลจากการกระทำของพวกเขาจึงได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากผู้คนมา ผู้กล้าที่แท้จริงจะถูกรักโดยผู้คน 

ซึ่งถีงแม้เธอจะไม่เคยเห็นการกระทำของเขา แต่เธอก็คิดได้ว่าเขาคงจะทำอะไรซักอย่างที่ดูเป็นวีรบุรุษพอ จนได้ความเชื่อใจการคนอื่นๆ ในขณะที่เธอได้แต่ทำตามคำขอคำสั่งจากคนอื่น ซึ่งในมุมมองของเธอ เขาดูเป็นผู้กล้ามากกว่าตัวเธอเองซะอีก

 

ความคิดแบบนั้นทำให้เธอตั้งคำถามต่อบทบาทของเขาและเธอ จอมมารนั้นคืออะไรกันแน่? และผู้กล้าละคืออะไร?เธอหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ แต่เธอก็ได้คิดไตร่ตรองเป็นอย่างดี เธอใช้เวลาคิดไปทั้งคืน แต่ก็ไม่อาจจะหาข้อสรุปได้ สิ่งเดียวที่เธอทำได้จึงมีแค่จำแนกความแตกต่างเพียงเท่านั้น

 

“เธอสบายดีหรือเปล่า? เห็นเหม่อลอยมาได้ซักพักแล้วนะ”

“โอ้ เอออ… อือ โทษที” ผู้กล้าลนลานเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าเผลอปล่อยตัวไป 

“ย-ยังไงก็เถอะ นายจะว่าอะไรไหมถ้าชั้นจะถามอะไรที่มันเป็นส่วนตัวซักหน่อย? มันกวนใจชั้นมาได้ซักพักแล้ว”

“ว่ามาสิ” จอมมารหยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบพลางตอบรับคำถามของเธอ

“อืมมม… นายเป็นพวกชอบเด็กหรอ?”

“พร๊วด!?”

 

ดูเหมือนคำถามจะน่าตกใจจนจอมมารพ่นชาออกมาจนเลอะไปทั้งโต๊ะ

 

“อี๋…หยะแหยง”

“เออนะสิ แล้วคิดว่าเป็นความผิดใครกันละ?” เขาหยุดไอไปสองสามที “แล้วทำไมเธอถึงไปคิดว่าชั้นเป็นโลลิค่อนได้ฟ๊ะ!?”

“โลลิค่อน?”

“ก็พวกชอบเด็กที่ชอบยุ่มยามกับเด็กผู้หญิงนั้นแหละ!” จอมมารตะโกนอย่างเกรี๊ยวกราดพลางวางถ้วยชากลับไปบนโต๊ะ 

“ยังไงก็เถอะ คำตอบของคำถามเธอคือ ไม่ใช่เฟ๊ย ชั้นยอมรับนะว่าในนี้มีแต่เด็กผู้หญิงวิ่งเล่นอยู่เต็มไปหมด แต่ชั้นขอสาบานเลยว่าชั้นบริสุทธื์ ชั้นไม่ได้วิ่งไปทั่วเพื่อเก็บพวกเขามาซักหน่อย มันก็แค่กลายมาเป็นแบบนี้ในแบบของมันเท่านั้นเอง ขอพูดอีกครั้งให้เข้าใจตรงกันนะ ชั้น ไม่ใช่ โลลิค่อน”

“หืมมมมมม… ก็นะ ทุกคนก็ดูแตกต่างกันออกไปนินะ งั้นชั้นจะไม่พูดอะไรมากแล้วกัน เด็กสาวผมเงินคนนั้นนะดูอายุแล้วก็โอเคนะ แต่นายอย่าไปแตะต้องกับเด็กสาวอายุราวๆอิลูน่าเชียวละ เข้าใจไหม?”

“โอ๊ย ให้ตายสิโว๊ย! ได้ฟังที่พูดบ้างเปล่าเนี่ย!? ก็บอกแล้วไงว่าชั้นไม่ใช่พวกชอบเด็ก! เลฟี่นะ…เอ่อ โอเค ชั้นยอมรับว่าพูดอะไรมากเกี่ยวกับเธอไม่ได้ แต่อิลูน่านะเป็นเหมือนน้องสาวชั้น! เธอเกินรสนิยมชั้นไปไกลเลยโว๊ย!”

“งั้นนายก็มี Something กับเลฟี่สินะ?”

“ห๊ะ!? ม-มันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น! ชั้นจะบอกว่าเลฟี่กับชั้นนะอยู่ในระดับที่เท่ากัน ชั้นไม่จำเป็นต้องปกป้องเธอเหมือนกับที่ปกป้องอิลูน่า ชั้นเลยไม่ได้คิดกับทั้งคู่ในแบบเดียวกัน”

 

เนลล์หัวเราะเมื่อได้ยินความพยายามในการแก้ตัวของจอมมาร

 

เขาดูเหมือนมนุษย์ไม่ต่างจากชั้นเลย

 

“หัวเราะบ้าอะไรของเธอ…?”

“เปล่านิ” เนลล์ยิ้ม “ชั้นแค่รู้สึกว่ามันตลกดีที่เรามานั่งคุยกันแบบนี้ทั้งที่เมื่อวานเพิ่งจะมาเพื่อฆ่ากันไปแท้ๆ”

“ก็นะ ถ้าจะให้พูดมันก็แปลกจริงๆนั้นแหละ” [TL:ศัตรูในวันนี้ คือเมียน้อยในวันหน้ายังไงละ!!!]

“เป็นเหมือนที่นายพูดเลยนะ เราจะไม่เข้าใจในสิ่งนั้นเลยหากไม่ได้พบเห็นด้วยตัวเอง ชั้นว่าจะเริ่มทำแบบนั้นแล้วละ ชั้นจะพยายามให้ดีที่สุดในการเป็นนายตัวเอง”

“ก็ขอให้เป็นงั้นนะ ชั้นไม่อยากจะสร้างศัตรูเพิ่มเพียงแค่ตัวเองเป็นจอมมารหรอกนะ”

 

การได้เห็นท่าทางยักไหล่สบายๆของจอมมารทำเนลล์ยิ้มออกมาอีกครั้ง

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru 59 ผู้กล้าและจอมมาร

Now you are reading Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru Chapter 59 ผู้กล้าและจอมมาร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เนลล์ตื่นขึ้นมาในอีกวันหลังจากนอนพักไป เธอไม่ได้ถูกโดนจู่โจมขณะหลับแต่อย่างใด เตียงที่นอนก็นุ่มสบาย อาหารก็อร่อยจนเธอสวาปามลงไปอย่างรวดเร็วถึงแม้เธอจะไม่เคยเห็นมาก่อนก็ตาม เธอรู้สึกละอายใจที่เผลอลืมวัตถุประสงค์หลักของตนไป แต่เธอก็รู้สึกอย่างนั้นไม่นาน

 

“แล้ว ใครเป็นคนส่งเธอมากันแน่ละ?”

 

จอมมารถามคำถามเธอ แต่เขาดูง่วงมาก สงสัยคงเป็นเพราะโดนเด็กสาวเมื่อวานบ่นเอาตลอดทั้งคืน

 

“อ-อืมมม… ทางโบสท์นะ พวกเขาบอกชั้นว่านายเป็นปีศาจร้ายที่คอยฆ่าคนไปทั่ว และชั้นต้องมาจัดการนายนะ”

“พวกนั้นพูดงั้นจริงหรอ?”

“อ-อือ” เนลล์พยักหน้าตอบ โอ้ให้ตายสิ! ชั้นนี้มันบ้าจริงๆ! ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเผลอบอกเขาไป!

“ฟังนะ การจะเชื่อใจคนนะมันก็ไม่ได้แย่หรอก แต่เธอก็น่าจะรู้ตัวหน่อยนะว่าเธอเชื่อคนง่ายเกินไป…”  

“อ-เอ่อออ.. โทษที ชั้นจะระวังให้มากกว่านี้”  

 

เธอรู้ว่าในดันเจี้ยนมีคนมากกว่านี้ แต่ตอนนี้จอมมารเป็นคนเดียวที่อยู่ ณ ตอนนี้ เธอเห็นแค่จอมมารกับเมดเขาแกะแค่ช่วงเช้าเท่านั้นเอง และคนหลังก็แค่มาเสริฟอาหารให้เท่านั้น

 

คนอื่นคงจะอยู่ที่ไหนซักที่ในปราสาทละมั้ง

 

“เดี๋ยวนะ งั้นเธอก็ไม่ใช่พวกเดียวกับกองทัพหรอ?”

“ไม่ละ ชั้นขึ้นตรงกับโบสท์นะ กัปตันของกองกำลังอัศวินศักดิ์สิทธื์เป็นคนสั่งให้ชั้นมาจัดการนาย แต่ดูเหมือนว่านั้นจะไม่ใช่ความคิดของตัวเธอเองละ…”  

“งั้นหรอ” 

ใบหน้าของกัปตันลอยเข้ามาให้หัวของเนลล์เมื่อพูดถึงเธอ ใบหน้าของเธอจะดูสงบ กล้าหาญ อยู่ตลอดเวลา แต่ตอนเธอให้คำสั่งกับเนลล์มันไม่ใช่อย่างนั้น ดูเหมือนเธอจะโดนกดดันคำสั่งนนี้มาจากทางเบื้องบนให้มอบหมายหน้าที่นี้ให้กับผู้กล้า

 

เดี๋ยวนะ เมื่อกี้ชั้นเผลอพูดเกินจำเป็นอีกแล้วหรอ? เนลล์เพิ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองเพิ่งให้ข้อมูลพรรคพวกของตัวเองให้กับจอมมารที่เป็นศัตรูของตนไป เธอค่อยๆหันหน้าไปถามเขาอย่างเป็นกังวล 

“อ-เอ่ออ… นายคงจะไม่โจมตีโบสท์ สินะ…?”

“ก็ขึ้นอยู่กับพวกนั้น ถ้าไม่มายุ่งกับชั้นก็แล้วไป แค่ถ้าคิดจะมาละก็ ชั้นจะซัดไม่ให้เหลือเลย ไปบอกพวกนั้นให้ชัดเจนด้วยละ”

 

สายตาของจอมมารดูแหลมคมขึ้นเมื่อเขาพูดจบ และปล่อยออร่าออกมาพร้อมกับแรงกดดันจนทำให้เนลล์ยากที่จะพูดกลับ จึงได้แต่พยักหน้ารับ

 

“อ-โอเค”

“แต่ถ้าเป็นไปได้ชั้นก็ไม่อยากจะฆ่าใครหรอก ชั้นไม่ได้ชอบเรื่องอะไรแบบนั้นอยู่แล้วด้วย แต่ชั้นไม่นั่งเฉยหากมีกองทัพติดอาวุธเดินเข้ามาหาหรอกนะ เข้าใจไหม?”

“ก็จริงนะ…”

 

เนลล์ไม่อาจปฏิเสธว่าคำพูดของจอมมารนั้นไร้เหตุผล และก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่าเขาถูก เธอได้ใช้พลังสมองคิดไตร่ตรองทบทวนดูเมื่อคืน เธอเริ่มคิดตั้งแต่เอาตัวลงนอนบนเตียงอันนุ่มสบายจนกระทั้งหลับไป

 

ผู้กล้าใช้เวลาคิดถึงสิ่งที่เธอทำมาถึงตอนนี้และสิ่งที่เธอจะทำเพื่อเดินหน้าต่อไป เธอคิดถึงเรื่องที่ที่เธอได้มาอยู่และจอมมารที่เป็นเจ้าของมัน

 

ถึงเธอจะมาอยู่ในดันเจี้ยนเพียงแค่วันเดียว เนลล์ก็เข้าใจว่าจอมมารเป็นคนที่ผู้อาศัยในดันเจี้ยนคนอื่นเชื่อใจ ความเชื่อใจของพวกเขาเป็นสิ่งที่มองแค่แว่บเดียวก็รู้ได้ด้วยซ้ำ ทำให้เธอรู้ว่าเขาไม่อาจเป็นคนไม่ดีได้ เพราะผู้ที่ปกครองแบบทรราชย์จะได้รับความศรัทธาที่ลดน้อยลง คงไม่มีผู้อาศัยคนไหนจะมีความสุขแบบนี้หากจอมมารปกครองพวกเขาด้วยความไร้เหตุผล

 

และเธอก็เริ่มที่จะได้เห็นด้านนั้นด้วยเช่นกัน ผู้กล้าในตำนานได้ใช้พลังของตนเพื่อผู้อื่น และผลจากการกระทำของพวกเขาจึงได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากผู้คนมา ผู้กล้าที่แท้จริงจะถูกรักโดยผู้คน 

ซึ่งถีงแม้เธอจะไม่เคยเห็นการกระทำของเขา แต่เธอก็คิดได้ว่าเขาคงจะทำอะไรซักอย่างที่ดูเป็นวีรบุรุษพอ จนได้ความเชื่อใจการคนอื่นๆ ในขณะที่เธอได้แต่ทำตามคำขอคำสั่งจากคนอื่น ซึ่งในมุมมองของเธอ เขาดูเป็นผู้กล้ามากกว่าตัวเธอเองซะอีก

 

ความคิดแบบนั้นทำให้เธอตั้งคำถามต่อบทบาทของเขาและเธอ จอมมารนั้นคืออะไรกันแน่? และผู้กล้าละคืออะไร?เธอหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ แต่เธอก็ได้คิดไตร่ตรองเป็นอย่างดี เธอใช้เวลาคิดไปทั้งคืน แต่ก็ไม่อาจจะหาข้อสรุปได้ สิ่งเดียวที่เธอทำได้จึงมีแค่จำแนกความแตกต่างเพียงเท่านั้น

 

“เธอสบายดีหรือเปล่า? เห็นเหม่อลอยมาได้ซักพักแล้วนะ”

“โอ้ เอออ… อือ โทษที” ผู้กล้าลนลานเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าเผลอปล่อยตัวไป 

“ย-ยังไงก็เถอะ นายจะว่าอะไรไหมถ้าชั้นจะถามอะไรที่มันเป็นส่วนตัวซักหน่อย? มันกวนใจชั้นมาได้ซักพักแล้ว”

“ว่ามาสิ” จอมมารหยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบพลางตอบรับคำถามของเธอ

“อืมมม… นายเป็นพวกชอบเด็กหรอ?”

“พร๊วด!?”

 

ดูเหมือนคำถามจะน่าตกใจจนจอมมารพ่นชาออกมาจนเลอะไปทั้งโต๊ะ

 

“อี๋…หยะแหยง”

“เออนะสิ แล้วคิดว่าเป็นความผิดใครกันละ?” เขาหยุดไอไปสองสามที “แล้วทำไมเธอถึงไปคิดว่าชั้นเป็นโลลิค่อนได้ฟ๊ะ!?”

“โลลิค่อน?”

“ก็พวกชอบเด็กที่ชอบยุ่มยามกับเด็กผู้หญิงนั้นแหละ!” จอมมารตะโกนอย่างเกรี๊ยวกราดพลางวางถ้วยชากลับไปบนโต๊ะ 

“ยังไงก็เถอะ คำตอบของคำถามเธอคือ ไม่ใช่เฟ๊ย ชั้นยอมรับนะว่าในนี้มีแต่เด็กผู้หญิงวิ่งเล่นอยู่เต็มไปหมด แต่ชั้นขอสาบานเลยว่าชั้นบริสุทธื์ ชั้นไม่ได้วิ่งไปทั่วเพื่อเก็บพวกเขามาซักหน่อย มันก็แค่กลายมาเป็นแบบนี้ในแบบของมันเท่านั้นเอง ขอพูดอีกครั้งให้เข้าใจตรงกันนะ ชั้น ไม่ใช่ โลลิค่อน”

“หืมมมมมม… ก็นะ ทุกคนก็ดูแตกต่างกันออกไปนินะ งั้นชั้นจะไม่พูดอะไรมากแล้วกัน เด็กสาวผมเงินคนนั้นนะดูอายุแล้วก็โอเคนะ แต่นายอย่าไปแตะต้องกับเด็กสาวอายุราวๆอิลูน่าเชียวละ เข้าใจไหม?”

“โอ๊ย ให้ตายสิโว๊ย! ได้ฟังที่พูดบ้างเปล่าเนี่ย!? ก็บอกแล้วไงว่าชั้นไม่ใช่พวกชอบเด็ก! เลฟี่นะ…เอ่อ โอเค ชั้นยอมรับว่าพูดอะไรมากเกี่ยวกับเธอไม่ได้ แต่อิลูน่านะเป็นเหมือนน้องสาวชั้น! เธอเกินรสนิยมชั้นไปไกลเลยโว๊ย!”

“งั้นนายก็มี Something กับเลฟี่สินะ?”

“ห๊ะ!? ม-มันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น! ชั้นจะบอกว่าเลฟี่กับชั้นนะอยู่ในระดับที่เท่ากัน ชั้นไม่จำเป็นต้องปกป้องเธอเหมือนกับที่ปกป้องอิลูน่า ชั้นเลยไม่ได้คิดกับทั้งคู่ในแบบเดียวกัน”

 

เนลล์หัวเราะเมื่อได้ยินความพยายามในการแก้ตัวของจอมมาร

 

เขาดูเหมือนมนุษย์ไม่ต่างจากชั้นเลย

 

“หัวเราะบ้าอะไรของเธอ…?”

“เปล่านิ” เนลล์ยิ้ม “ชั้นแค่รู้สึกว่ามันตลกดีที่เรามานั่งคุยกันแบบนี้ทั้งที่เมื่อวานเพิ่งจะมาเพื่อฆ่ากันไปแท้ๆ”

“ก็นะ ถ้าจะให้พูดมันก็แปลกจริงๆนั้นแหละ” [TL:ศัตรูในวันนี้ คือเมียน้อยในวันหน้ายังไงละ!!!]

“เป็นเหมือนที่นายพูดเลยนะ เราจะไม่เข้าใจในสิ่งนั้นเลยหากไม่ได้พบเห็นด้วยตัวเอง ชั้นว่าจะเริ่มทำแบบนั้นแล้วละ ชั้นจะพยายามให้ดีที่สุดในการเป็นนายตัวเอง”

“ก็ขอให้เป็นงั้นนะ ชั้นไม่อยากจะสร้างศัตรูเพิ่มเพียงแค่ตัวเองเป็นจอมมารหรอกนะ”

 

การได้เห็นท่าทางยักไหล่สบายๆของจอมมารทำเนลล์ยิ้มออกมาอีกครั้ง

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+