Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru 69 วันหยุดพักผ่อนในต่างโลก 2: ร้านอาวุธ

Now you are reading Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru Chapter 69 วันหยุดพักผ่อนในต่างโลก 2: ร้านอาวุธ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ATTENTION: จากนี้ไปผมจะเปลี่ยนชื่อสกิลของพระเอก คือ ปรับเปลี่ยนอาวุธ หรืออะไรซักอย่างนี้แหละจิ ผมก็จำมิได้ ขี้เกียจย้อนกลับไปอ่านตอนเก่าดูด้วยว่าตัวเองแปลว่าอะไรไว้

เป็น ดัดแปลงอาวุธ นะจิ เพราะผมรู้สึกว่าชื่อนี้มันอ่านแล้วเข้าใจถึงตัวสกิลได้ง่ายกว่าชื่อเก่านะจิ แค่นี้แหละจิ Enjoy 😀

 

“เอ่ออ… ถึงจะถามช้าไปหน่อย แต่การที่เธอมาอยู่กับพวกเราจะไม่เป็นอะไรหรอ?” ผมหันไปถามผู้กล้าที่เดินอยู่ข้างๆด้วยความกังวล “พวกหัวหน้าเธอจะไม่โกรธเอาหรอถ้ารู้เข้า? ในเมื่อถ้านับทางเทคนิคเราควรจะเป็นศัตรูกันแท้ๆ”

 

เราสองคนเดินฝ่าฝูงคนที่อัดแน่นเต็มถนน ส่วนทางเลฟี่ เพื่อป้องกันไม่ให้เธอโดนคลื่นมวลชนพัดหายไป จึงได้กลับมานั่งบนไหล่ของผมอีกครั้ง

 

“จะรู้สึกขอบคุณมากเลยถ้านายถามก่อนหน้านี้…” คุณเพื่อนจากทางโบสท์ของผมถอนหายใจอย่างโกรธเคือง “ฉันคิดว่าเป็นอย่างนี้มันจะดีกว่า ถ้าปล่อยให้พวกเธอวิ่งเล่นไปทั่วโดยไม่คอยจับตาดูมีแต่จะสร้างปัญหาให้มากขึ้นซะเปล่า ฉันเลยคิดว่าจะอยู่กับพวกเธอจนกว่าพวกนายจะกลับบ้านดูเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว”

 

ว้าว พูดแรงซะมัด ไม่ใช่ว่าชั้นจะไปหาคนอื่นเขาไปทั่วซะหน่อย ตราบใดที่ไม่มีใครมายุ่งกับชั้นก่อนนะ

 

“อ้อ เพื่อว่านายยังไม่รู้” ผู้กล้าพูดต่อ “ฉันไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี้หรอกนะ ดังนั้นอย่าหวังว่าฉันจะรู้เรื่องอะไรมากล่ะ เข้าใจนะ?”

“เข้าใจ แต่ยังไงเธอก็รู้มากกว่าพวกเราอยู่ดี ใช่ไหมล่ะ?”

“นั้นก็… ใช่แหละ” เธอพูดพลางพยักหน้า “แล้ว มีอะไรที่พวกเธออย่างเห็นเป็นพิเศษไหมล่ะ?”

“ทางชั้นอยากจะไปดูร้านอาวุธกับร้านหนังสือนะ แล้วเธอล่ะเลฟี่?” ผมยกคอขึ้นเพื่อถามคนที่อยู่บนไหล่

“เราต้องการสถานที่ที่มีอาหารคุณภาพ และเสริฟของหวานเป็นหลัก” เลฟี่กอดอกพร้อมผงกหัวระหว่างพูด แหม่ ดูนั่งสบายดีจังนะ

“ไม่ใช่ว่าเมื่อเช้าเธอเพิ่งจะกินไปเป็นตันไม่ใช่เรอะ?”

“ฮ่ะ! เจ้าดูถูกเราเกินไปนะยูกิ ปริมาณอาหารเพียงเท่านั้นไม่พอที่จะดับความหิวของเราหรอกนะ”

 

ตามที่ต้องการเลยครับองค์หญิง ผมหันกลับไปทางผู้กล้า “ก็ตามนี้แหละ อาหาร,อาวุธ,หนังสือ นำทางไปเลย”

“อืมมมม…โอเค งั้นไปร้านอาวุธก่อน และตามด้วยหนังสือกับอาหารนะ”

“แล้วแต่สะดวกเลย”

 

***

 

จากนั้นไม่นานเราก็มาอยู่ในร้านที่เน้นขายอาวุธยุทโธปกรณ์เป็นหลัก ของส่วนใหญ่จะวางเรียงเอาไว้ ไม่ก็แขวนไว้บนกำแพง แต่ก็ยังมีถังที่เต็มไปดวยเศษขยะราคาถูก ที่เคาน์เตอร์มีตาลุงที่ดูท่าทางหัวดื้อนั่งอยู่ เขามองมาที่พวกเราอยู่แปปนึงก่อนจะหมดความสนใจและหันไปขัดอาวุธในมือต่อ  

 

เหตุผลที่ผมอยากมาที่ร้านอาวุธ ถึงแม้ว่าผมจะใช้ดาบไม่เป็น เป็นเพราะผมอยากจะเห็นความแตกต่างของงานฝีมือที่ผมทำกับของมืออาชีพ และก็หาแรงบันดาลใจด้วย ถ้าผมไม่ได้เห็นตัวอย่างของที่มีคุณภาพ ผมก็จะพัฒนาต่อไปไม่ได้ โดยเฉพาะอันที่ผมไม่ได้ทำเองกับมือ ผมต้องรู้จุดผิดพลาดของตัวเองถ้าจะลงงานใหม่อีกรอบให้มีความหมาย ซึ่งในฐานะจอมมารแห่งการสร้างสรรค์ ผู้มีความรับผิดชอบในการสร้างให้อาวุธให้ตนเอง ผมต้องมาดูว่ามนุษย์มีอาวุธอะไรขายบ้าง

 

“ที่นี้มีของหลากหลายใช้ได้เลยนะ” ผมพูด

“ที่นี้ค่อนข้างมีชื่อเสียงเลยนะ”เนลล์ตอบกลับ เธอเองก็กำลังมองดูอาวุธที่แขวนอยู่บนผนังเช่นกัน “มีครั้งนึงที่อัศวินศักดิ์สิทธฺ์พาฉันมาที่เอลฟีโร่เพื่อการลงสำรวจ ร้านนี้ก็เป็นร้านที่เรามาเพื่อหารือเรื่องอาวุธนี้แหละ”

 

ในฐานะช่างฝีมือหน้าใหม่ ผมไม่สามารถแยกคุณภาพของอาวุธโดยการมองอย่างเดียวได้ แต่ด้วยการช่วยเหลือของวิเคราะห์ ทำให้ผมทราบว่าบรรดาของที่ติดอย่างบนผนัง ที่มีระดับต่ำสุดอยู่ที่ B และดีที่สุดอยู่ที่ A+ ส่วนของในถังนั้นจะมีระดับราวๆ C+ และ E

 

มีอาวุธชิ้นนึงที่มีความเสียหายหนักบนใบดาบ ด้วยความสงสัยผมจึงหยิบขึ้นมาตรวจสอบดู ตัวมันนั้นขึ้นสนิมและมีแต่รอยบิ่น ที่กั้นและด้ามจับก็หยาบด้าน ไร้ซึ่งการขัดเกลาและการดูแล ถ้ามองผ่านๆมันก็ไม่ต่างไปจากซากขยะ เป็นอาวุธไร้ค่าที่ถูกทิ้ง ซึ่งถ้าเป็นคนที่ขาดสกิลวิเคราะห์ก็คงจะคิดอย่างนี้กันทั้งนั้น

 

***

 

ดาบวีรบุรุษโบราณ: ดาบที่ครั้งนึงเคยถูกกวัดแกร่งโดยวีรบุรุษนิรนามในอดีตอันห่างไกล เป็นอาวุธอันทรงพลังที่ได้ล้มศัตรูอันร้ายกาจมามากมาย อย่างไรก็ตาม มันได้สูญเสียพลังส่วนใหญ่ไปนานแล้ว 

คุณภาพ: ไม่อาจวัดได้

 

***

 

สุดยอด นี้มันเหมือนอุปกรณ์โบราณในมอนฮั* ที่จะแข็งแกร่งสุดๆถ้าเอาไปทำให้กลับเป็นสภาพเดิมได้แล้วอัพเกรดเลย

 

“โอ้?” เลฟี่ที่กำลังเดินดูของในร้านเล่นๆ ได้เพ่งความสนใจมาที่อาวุธในมือผม น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความสนใจ “ดูเหมือนเจ้าจะพบของดีใช้ได้เลยนะ”

“ใช่ไหมล่ะ?”

 

นี้แหละเพอร์เฟคเลย กำลังคิดเลยว่าตัวขวานมันมีขนาดไม่พอที่จะเปลี่ยนเป็นดาบใหญ่ได้ ดังนั้นถ้าเอาเจ้านี้ไปผสมด้วยล่ะก็ บู้มม สมบูรณ์แบบ ดัดแปลงอาวุธเป็นสกิลที่ค่อนข้างหลากหลายอยู่แล้ว มันไม่ได้จำกัดว่าผมจะใช้ของได้แค่ชิ้นเดียว ผมจะผสมเข้ากันกี่อย่างก็ได้ ขอแค่ตัววัตถุดิบมับรับพลังเวทที่ผมส่งไปได้ก็พอ

ผมยังรู้สึกขาดวัตถุดิบอยู่อีกนิดหน่อย เลยจะหาเพิ่มอีกซักหน่อย แต่ให้ตายเถอะ ผมแทบจะรอผลลัพธ์ไม่ไหวแล้ว ต้องออกมาเป็นอะไรที่สุดยอดมากแน่ๆถ้าผมไม่พลาดเข้าละนะ

 

“เอาล่ะ ชั้นเอาเจ้านี้ล่ะกัน แล้วทางเธอล่ะเลฟี่? มีอะไรที่อยากให้ชั้นซื้อให้ไหม?”

“ก็ไม่เชิง เรายอมรับว่ามีอาวุธบางส่วนที่กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของเรา แต่ก็ไม่มีสิ่งใดที่ต้องตาเรา เราอยากให้เจ้าหาของกินมาให้เรามากกว่า”

“ครับ รับออร์เดอร์เรียบร้อยแล้วครับคุณผู้หญิง” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายก่อนจะหันไปทางผู้กล้า “แล้วเธอล่ะเนลล์? พร้อมจะไปกันต่อหรือยัง?”

 

เธอไม่ตอบอะไรกลับมา เพราะกำลงัจ้องมองดาบยาวเล่มหนึ่งที่แขวนอยู่บนผนัง ดวงตาที่จับจ้องนั้นเต็มไปด้วยความต้องการ เป็นที่ชัดเจนว่าเธอเข้าโลกส่วนตัวไปแล้ว ผมเลยเดินไปใกล้ๆก่อนจะเรียกเธออีกครั้ง

 

“ไม่ใช่ว่าเธอมีดาบอยู่แล้วหรอ? และก็เป็นของดีอยู่แล้วด้วยนิ?”

 

อาวุธของเธอคือดาบศักดิ์สิทธิ์ ถูกเสริมพลังด้วยเวทมนต์ที่แข็งแกร่งมากพอที่จะขัดขวางสกิลวิเคราะห์ของผม ดาบที่ทรงพลังขนาดนี้มีจำนวนไม่มากแน่นอน หืมมมมม เดี๋ยวก่อนนะ นั้นมันเป็นวิธีคิดในแบบของโลกเก่านี้น่า แต่ที่นี้อาจไม่เป็นแบบนั้นก็ได้ ดาบศักดิ์สิทธิ์ในโลกนี้อาจจะมีเต็มไปหมดก็ได้ ก็แบบ ทำไมพวกนั้นต้องให้ของสำคัญขนาดนี้กับยัยผู้กล้าที่ไม่ค่อยจะสมกับฐานะที่เป็นด้วยกันล่ะ?

 

“เอ่อ… ก็นะ สิ่งนี้กับสิ่งนั้นมันต่างกัน อะไรแบบนั้นนะ?” ผู้กล้าพูดขึ้น

 

ก็พอจะเข้าใจสิ่งที่เธอจะสื่อนะ ถ้าผมอยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็คงจะคิดแบบนั้นเหมือนกัน

 

“ชั้นก็ไม่ว่าอะไรหรอกถ้าเธออยากจะอยู่ดูต่ออีกหน่อย แต่รีบๆหน่อยล่ะ เรายังมีที่ต้องไปกันอีก”

“ข-เข้าใจแล้ว ข-ขอเวลาอีกไม่กี่นาทีนะ” 

 

ไม่ใช่ว่าอาวุธมันเป็นรสนิยมของผู้ชายเท่านั้นหรอ? คิดว่าผู้หญิงจะเบือนหน้าหนีเวลาเห็นของแบบนี้ซะอีก… ช่างเถอะ ตราบใดที่เธอดูสนุกก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรนินะ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru 69 วันหยุดพักผ่อนในต่างโลก 2: ร้านอาวุธ

Now you are reading Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru Chapter 69 วันหยุดพักผ่อนในต่างโลก 2: ร้านอาวุธ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ATTENTION: จากนี้ไปผมจะเปลี่ยนชื่อสกิลของพระเอก คือ ปรับเปลี่ยนอาวุธ หรืออะไรซักอย่างนี้แหละจิ ผมก็จำมิได้ ขี้เกียจย้อนกลับไปอ่านตอนเก่าดูด้วยว่าตัวเองแปลว่าอะไรไว้

เป็น ดัดแปลงอาวุธ นะจิ เพราะผมรู้สึกว่าชื่อนี้มันอ่านแล้วเข้าใจถึงตัวสกิลได้ง่ายกว่าชื่อเก่านะจิ แค่นี้แหละจิ Enjoy 😀

 

“เอ่ออ… ถึงจะถามช้าไปหน่อย แต่การที่เธอมาอยู่กับพวกเราจะไม่เป็นอะไรหรอ?” ผมหันไปถามผู้กล้าที่เดินอยู่ข้างๆด้วยความกังวล “พวกหัวหน้าเธอจะไม่โกรธเอาหรอถ้ารู้เข้า? ในเมื่อถ้านับทางเทคนิคเราควรจะเป็นศัตรูกันแท้ๆ”

 

เราสองคนเดินฝ่าฝูงคนที่อัดแน่นเต็มถนน ส่วนทางเลฟี่ เพื่อป้องกันไม่ให้เธอโดนคลื่นมวลชนพัดหายไป จึงได้กลับมานั่งบนไหล่ของผมอีกครั้ง

 

“จะรู้สึกขอบคุณมากเลยถ้านายถามก่อนหน้านี้…” คุณเพื่อนจากทางโบสท์ของผมถอนหายใจอย่างโกรธเคือง “ฉันคิดว่าเป็นอย่างนี้มันจะดีกว่า ถ้าปล่อยให้พวกเธอวิ่งเล่นไปทั่วโดยไม่คอยจับตาดูมีแต่จะสร้างปัญหาให้มากขึ้นซะเปล่า ฉันเลยคิดว่าจะอยู่กับพวกเธอจนกว่าพวกนายจะกลับบ้านดูเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว”

 

ว้าว พูดแรงซะมัด ไม่ใช่ว่าชั้นจะไปหาคนอื่นเขาไปทั่วซะหน่อย ตราบใดที่ไม่มีใครมายุ่งกับชั้นก่อนนะ

 

“อ้อ เพื่อว่านายยังไม่รู้” ผู้กล้าพูดต่อ “ฉันไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี้หรอกนะ ดังนั้นอย่าหวังว่าฉันจะรู้เรื่องอะไรมากล่ะ เข้าใจนะ?”

“เข้าใจ แต่ยังไงเธอก็รู้มากกว่าพวกเราอยู่ดี ใช่ไหมล่ะ?”

“นั้นก็… ใช่แหละ” เธอพูดพลางพยักหน้า “แล้ว มีอะไรที่พวกเธออย่างเห็นเป็นพิเศษไหมล่ะ?”

“ทางชั้นอยากจะไปดูร้านอาวุธกับร้านหนังสือนะ แล้วเธอล่ะเลฟี่?” ผมยกคอขึ้นเพื่อถามคนที่อยู่บนไหล่

“เราต้องการสถานที่ที่มีอาหารคุณภาพ และเสริฟของหวานเป็นหลัก” เลฟี่กอดอกพร้อมผงกหัวระหว่างพูด แหม่ ดูนั่งสบายดีจังนะ

“ไม่ใช่ว่าเมื่อเช้าเธอเพิ่งจะกินไปเป็นตันไม่ใช่เรอะ?”

“ฮ่ะ! เจ้าดูถูกเราเกินไปนะยูกิ ปริมาณอาหารเพียงเท่านั้นไม่พอที่จะดับความหิวของเราหรอกนะ”

 

ตามที่ต้องการเลยครับองค์หญิง ผมหันกลับไปทางผู้กล้า “ก็ตามนี้แหละ อาหาร,อาวุธ,หนังสือ นำทางไปเลย”

“อืมมมม…โอเค งั้นไปร้านอาวุธก่อน และตามด้วยหนังสือกับอาหารนะ”

“แล้วแต่สะดวกเลย”

 

***

 

จากนั้นไม่นานเราก็มาอยู่ในร้านที่เน้นขายอาวุธยุทโธปกรณ์เป็นหลัก ของส่วนใหญ่จะวางเรียงเอาไว้ ไม่ก็แขวนไว้บนกำแพง แต่ก็ยังมีถังที่เต็มไปดวยเศษขยะราคาถูก ที่เคาน์เตอร์มีตาลุงที่ดูท่าทางหัวดื้อนั่งอยู่ เขามองมาที่พวกเราอยู่แปปนึงก่อนจะหมดความสนใจและหันไปขัดอาวุธในมือต่อ  

 

เหตุผลที่ผมอยากมาที่ร้านอาวุธ ถึงแม้ว่าผมจะใช้ดาบไม่เป็น เป็นเพราะผมอยากจะเห็นความแตกต่างของงานฝีมือที่ผมทำกับของมืออาชีพ และก็หาแรงบันดาลใจด้วย ถ้าผมไม่ได้เห็นตัวอย่างของที่มีคุณภาพ ผมก็จะพัฒนาต่อไปไม่ได้ โดยเฉพาะอันที่ผมไม่ได้ทำเองกับมือ ผมต้องรู้จุดผิดพลาดของตัวเองถ้าจะลงงานใหม่อีกรอบให้มีความหมาย ซึ่งในฐานะจอมมารแห่งการสร้างสรรค์ ผู้มีความรับผิดชอบในการสร้างให้อาวุธให้ตนเอง ผมต้องมาดูว่ามนุษย์มีอาวุธอะไรขายบ้าง

 

“ที่นี้มีของหลากหลายใช้ได้เลยนะ” ผมพูด

“ที่นี้ค่อนข้างมีชื่อเสียงเลยนะ”เนลล์ตอบกลับ เธอเองก็กำลังมองดูอาวุธที่แขวนอยู่บนผนังเช่นกัน “มีครั้งนึงที่อัศวินศักดิ์สิทธฺ์พาฉันมาที่เอลฟีโร่เพื่อการลงสำรวจ ร้านนี้ก็เป็นร้านที่เรามาเพื่อหารือเรื่องอาวุธนี้แหละ”

 

ในฐานะช่างฝีมือหน้าใหม่ ผมไม่สามารถแยกคุณภาพของอาวุธโดยการมองอย่างเดียวได้ แต่ด้วยการช่วยเหลือของวิเคราะห์ ทำให้ผมทราบว่าบรรดาของที่ติดอย่างบนผนัง ที่มีระดับต่ำสุดอยู่ที่ B และดีที่สุดอยู่ที่ A+ ส่วนของในถังนั้นจะมีระดับราวๆ C+ และ E

 

มีอาวุธชิ้นนึงที่มีความเสียหายหนักบนใบดาบ ด้วยความสงสัยผมจึงหยิบขึ้นมาตรวจสอบดู ตัวมันนั้นขึ้นสนิมและมีแต่รอยบิ่น ที่กั้นและด้ามจับก็หยาบด้าน ไร้ซึ่งการขัดเกลาและการดูแล ถ้ามองผ่านๆมันก็ไม่ต่างไปจากซากขยะ เป็นอาวุธไร้ค่าที่ถูกทิ้ง ซึ่งถ้าเป็นคนที่ขาดสกิลวิเคราะห์ก็คงจะคิดอย่างนี้กันทั้งนั้น

 

***

 

ดาบวีรบุรุษโบราณ: ดาบที่ครั้งนึงเคยถูกกวัดแกร่งโดยวีรบุรุษนิรนามในอดีตอันห่างไกล เป็นอาวุธอันทรงพลังที่ได้ล้มศัตรูอันร้ายกาจมามากมาย อย่างไรก็ตาม มันได้สูญเสียพลังส่วนใหญ่ไปนานแล้ว 

คุณภาพ: ไม่อาจวัดได้

 

***

 

สุดยอด นี้มันเหมือนอุปกรณ์โบราณในมอนฮั* ที่จะแข็งแกร่งสุดๆถ้าเอาไปทำให้กลับเป็นสภาพเดิมได้แล้วอัพเกรดเลย

 

“โอ้?” เลฟี่ที่กำลังเดินดูของในร้านเล่นๆ ได้เพ่งความสนใจมาที่อาวุธในมือผม น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความสนใจ “ดูเหมือนเจ้าจะพบของดีใช้ได้เลยนะ”

“ใช่ไหมล่ะ?”

 

นี้แหละเพอร์เฟคเลย กำลังคิดเลยว่าตัวขวานมันมีขนาดไม่พอที่จะเปลี่ยนเป็นดาบใหญ่ได้ ดังนั้นถ้าเอาเจ้านี้ไปผสมด้วยล่ะก็ บู้มม สมบูรณ์แบบ ดัดแปลงอาวุธเป็นสกิลที่ค่อนข้างหลากหลายอยู่แล้ว มันไม่ได้จำกัดว่าผมจะใช้ของได้แค่ชิ้นเดียว ผมจะผสมเข้ากันกี่อย่างก็ได้ ขอแค่ตัววัตถุดิบมับรับพลังเวทที่ผมส่งไปได้ก็พอ

ผมยังรู้สึกขาดวัตถุดิบอยู่อีกนิดหน่อย เลยจะหาเพิ่มอีกซักหน่อย แต่ให้ตายเถอะ ผมแทบจะรอผลลัพธ์ไม่ไหวแล้ว ต้องออกมาเป็นอะไรที่สุดยอดมากแน่ๆถ้าผมไม่พลาดเข้าละนะ

 

“เอาล่ะ ชั้นเอาเจ้านี้ล่ะกัน แล้วทางเธอล่ะเลฟี่? มีอะไรที่อยากให้ชั้นซื้อให้ไหม?”

“ก็ไม่เชิง เรายอมรับว่ามีอาวุธบางส่วนที่กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของเรา แต่ก็ไม่มีสิ่งใดที่ต้องตาเรา เราอยากให้เจ้าหาของกินมาให้เรามากกว่า”

“ครับ รับออร์เดอร์เรียบร้อยแล้วครับคุณผู้หญิง” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายก่อนจะหันไปทางผู้กล้า “แล้วเธอล่ะเนลล์? พร้อมจะไปกันต่อหรือยัง?”

 

เธอไม่ตอบอะไรกลับมา เพราะกำลงัจ้องมองดาบยาวเล่มหนึ่งที่แขวนอยู่บนผนัง ดวงตาที่จับจ้องนั้นเต็มไปด้วยความต้องการ เป็นที่ชัดเจนว่าเธอเข้าโลกส่วนตัวไปแล้ว ผมเลยเดินไปใกล้ๆก่อนจะเรียกเธออีกครั้ง

 

“ไม่ใช่ว่าเธอมีดาบอยู่แล้วหรอ? และก็เป็นของดีอยู่แล้วด้วยนิ?”

 

อาวุธของเธอคือดาบศักดิ์สิทธิ์ ถูกเสริมพลังด้วยเวทมนต์ที่แข็งแกร่งมากพอที่จะขัดขวางสกิลวิเคราะห์ของผม ดาบที่ทรงพลังขนาดนี้มีจำนวนไม่มากแน่นอน หืมมมมม เดี๋ยวก่อนนะ นั้นมันเป็นวิธีคิดในแบบของโลกเก่านี้น่า แต่ที่นี้อาจไม่เป็นแบบนั้นก็ได้ ดาบศักดิ์สิทธิ์ในโลกนี้อาจจะมีเต็มไปหมดก็ได้ ก็แบบ ทำไมพวกนั้นต้องให้ของสำคัญขนาดนี้กับยัยผู้กล้าที่ไม่ค่อยจะสมกับฐานะที่เป็นด้วยกันล่ะ?

 

“เอ่อ… ก็นะ สิ่งนี้กับสิ่งนั้นมันต่างกัน อะไรแบบนั้นนะ?” ผู้กล้าพูดขึ้น

 

ก็พอจะเข้าใจสิ่งที่เธอจะสื่อนะ ถ้าผมอยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็คงจะคิดแบบนั้นเหมือนกัน

 

“ชั้นก็ไม่ว่าอะไรหรอกถ้าเธออยากจะอยู่ดูต่ออีกหน่อย แต่รีบๆหน่อยล่ะ เรายังมีที่ต้องไปกันอีก”

“ข-เข้าใจแล้ว ข-ขอเวลาอีกไม่กี่นาทีนะ” 

 

ไม่ใช่ว่าอาวุธมันเป็นรสนิยมของผู้ชายเท่านั้นหรอ? คิดว่าผู้หญิงจะเบือนหน้าหนีเวลาเห็นของแบบนี้ซะอีก… ช่างเถอะ ตราบใดที่เธอดูสนุกก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรนินะ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+