กุนซือหญิงยอดอัจฉริยะ 248 อวัยวะพ่อเจ้าสิ!

Now you are reading กุนซือหญิงยอดอัจฉริยะ Chapter 248 อวัยวะพ่อเจ้าสิ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เร็วเข้า เร็วเข้า” หลี่ว์เต๋อเฉิงรบเร้าเขา ตัวเองกลับถือจอกสุราไม่วาง “สุราดอกบ๊วยของซ่งจื่อเป็นสุราชั้นดีจริงๆ ท่านกลับไปแล้วข้าจะต้องดื่มหลายจอกหน่อย”

“สุราจะเสียเปล่ามิได้ วันหน้าข้าจะจับตัวท่านมาช่วยบ่มสุรา” ซ่งชูอียิ้มเอ่ย

“เยี่ยม! จะใช้งานเมื่อใด ซ่งจื่อเพียงบอกกล่าวสักคำเป็นพอ” หลี่ว์เต๋อเฉิงกล่าวอย่างมีความสุข

อาศัยที่ชูหลี่จี๋ให้ความสำคัญต่อหลี่ว์เต๋อเฉิงเพียงนี้ ซ่งชูอีก็สามารถมั่นใจได้ว่าเขาเป็นคนที่คบค้าได้ ดังนั้นจึงกระตือรือร้นที่จะพูดคุยเรื่องกฎหมายกับเขาเพื่อทำความเข้าใจนิสัยใจคอและความคิดเห็นของเขา

หลี่ว์เต๋อเฉิงเป็นบัณฑิตสำนักนิติธรรม กฎหมายที่เขาสนับสนุน คือการกวาดล้างเจ้าหน้าที่บนพื้นฐานของกฎหมายเดิม ประการที่สองคือการจำกัดและควบคุมระเบียบของบ้านเมือง นี่เป็นแนวทางปฏิบัติมากกว่าความคิดของนักนิติธรรมเพ้อฝันเช่นจีเหมียนเสียอีก และยังเหมาะสมกับสถานการณ์รัฐฉินยิ่งกว่า

“ซ่งจื่อคิดว่าข้าทะเยอทะยานมากไปหรือเปล่า” หลี่ว์เต๋อเฉิงคิดไม่ถึงว่าซ่งชูอีเคยอ่านหลักคำสอนของสำนักนิติธรรมมาก่อน ครั้นหารือถึงหลักคำสอนของสำนักนิติธรรมก็กล่าวได้อย่างชัดเจนและมีเหตุผล คำบางคำค่อนข้างให้ความกระจ่างแก่เขา แอบชื่นชมในใจว่าซ่งจื่อนี้สมคำเล่าลือจริงๆ ในทางตรงกันข้ามเขากลับดูธรรมดามาก

ซ่งชูอีส่ายหน้า “ข้ากลับชอบความคิดของท่านเสียอีก เจ็ดมหานครรัฐผ่านการปฏิรูปกฎหมายแล้ว ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรมันก็เป็นอดีตไปแล้ว บัดนี้แต่ละรัฐต่างกำลังจับตามองกัน ต่างคนต่างคิดเคลื่อนไหวเมื่อมีโอกาส สถานการณ์ตึงเครียดเช่นนี้ องค์จวินรัฐใดบ้างที่ยังจะกล้าแตะต้องรากฐาน?”

การปฏิรูปจำเป็นต้องปฏิรูประบบรัฐ ต้องแตะต้องรากฐานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เหมือนกับที่ซางจวินปฏิรูปรัฐฉิน หากไม่ใช่เพราะมีอิ๋งซื่อหลังจากเซี่ยวกง ลำพังเพียงปัญหาตระกูลเก่าแก่ทิ้งไว้ก็เพียงพอที่จะทำให้รัฐฉินวุ่นวายหลายสิบปีแล้ว

การปรากฏตัวของการปฏิรูปเป็นโอกาสทางประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังเป็นผลลัพธ์ของการพัฒนาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ใช่ว่าการปฏิรูปนั้นจะเหมาะสมในทุกช่วงเวลา

ยุคสมัยชุนชิวร้อยรัฐล้วนยืดหยัด ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ปลาเล็กกินกุ้ง ไม่ละเว้นความพยายามในการขยายอาณาเขต ครั้นมาถึงยุคสมัยจั้นกั๋ว ไม่กี่รัฐใหญ่อันทรงพลังก็ได้ถือกำเนิดขึ้น

แม้ว่าดินแดนของรัฐเหล่านี้จะมีขนาดใหญ่มาก แต่หลังจากสงครามผนวกดินแดนอันยาวนานแล้วก็เข้าสู่ช่วงเวลาสั้น ๆ ของความเหนื่อยล้า องค์จวินที่มีแผนการอันยิ่งใหญ่เหล่านั้นได้ตระหนักดีว่าการจัดการกับรัฐใหญ่ที่มีกำลังมากนั้นไม่ง่ายเหมือนการผนวกรัฐเล็กๆ ดังนั้นนอกเหนือจากการผนวกรัฐเล็กๆ แล้ว ทุกรัฐต่างพยายามหาแนวทางในการพัฒนาความเข้มแข็งของตนเอง

ดังนั้น การเสริมสร้างความแข็งแกร่งของรัฐต่างหากจึงมีความสำคัญสูงสุด แต่ละรัฐต่างกลัวว่าตัวเองจะล้าหลังแล้วจะกลายเป็นส่วนที่ถูกทิ้งให้โดดเดี่ยว จึงยุ่งวุ่นวายอยู่กับความเละเทะตัวเอง แม้จะเกิดความขัดแย้งกันเป็นครั้งคราว แต่ก็ไม่กล้าสู้ตายกันจริงๆ ดังนั้น “การปฏิรูปและเสริมสร้างความแข็งแกร่ง” จึงเกิดขึ้น

บัดนี้ไม่เหมือนกัน การปฏิรูปมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว ความแข็งแกร่งของแต่ละรัฐได้เกิดช่องว่างขึ้นแล้ว สงครามโค่นรัฐอาจระเบิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ทันทีที่รัฐใดรัฐหนึ่งเกิดความวุ่ยวายภายใน ก็จะถูกวาฬโดยรอบกลืนกิน

ในเวลาเช่นนี้ ใครกล้าแตะต้องรากฐานก็จะพบจุดจบเช่นปาสู่

ทั้งสองคนพูดคุนกันอย่างมีความสุข ครั้นมีความเห็นที่ตรงกันก็ดื่มจอกหนึ่ง ผ่านไปไม่นาน สุราไหที่สองก็ใกล้จะหมดแล้ว

ซ่งชูอีนั้นสามารถดื่มได้มาก และคุ้นเคยกับการดื่มสุราที่ตัวเองบ่ม บัดนี้ต่อให้ดื่มหมดสองไหก็ไม่แน่ว่าเมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นจึงดื่มเป็นเพื่อนหลี่ว์เต๋อเฉิงจอกแล้วจอกเล่า

หลังจากนั้นไม่นาน ซือหม่าหวยอี้ก็ยกหม้อหนึ่งกลับมา

ซือหม่าหวยอี้เปิดฝาหม้อออก กลิ่นหอมของเนื้อลอยฟุ้ง ไป๋เริ่นกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันใด โน้มตัวไปข้างหม้อ สายตาจับจ้องอยู่ที่เนื้อ น้ำลายแทบจะไหลออกมาแล้ว

“มาลองชิม” ซือหม่าหวยอี้ใช้กริชขนาดเล็กหั่นเนื้อใส่จานแล้วแบ่งไปให้ซ่งชูอีกับหลี่ว์เต๋อเฉิง

หลี่ว์เต๋อเฉิงเมามายไปแล้วหกถึงเจ็ดส่วน คีบเนื้อยัดเข้าปากโดยไม่คำนึงถึงมารยาทเลย เอ่ยอย่างคลุมเครือ “สุราชั้นดีเนื้ออร่อย ในชีวิตนี้จะต้องการอะไรอีก!”

ซ่งชูอีคีบเนื้อเข้าปาก เนื้อนั้นมีไขมันพอเหมาะ ถูกตุ๋นกำลังดี เคี้ยวง่าย แต่เนื้อยังคงมีความเรียบเนียนและยืดหยุ่น สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมของความเป็นป่าที่แตกต่างจากสัตว์เลี้ยงระหว่างริมฝีปากและไรฟัน

“ไม่ด้อยไปกว่าเนื้อกวางเฝิงเจ๋อ[1]เลย” ซ่งชูอีเอ่ย ป้อนชิ้นใหญ่ให้ไป๋เริ่น

สุราบ๊วยนั้นเข้ากับเนื้อกวางได้เป็นอย่างดี สามคนหนึ่งหมาป่ากินอย่างมีความสุขมาก

น้ำแกงและเศษกากที่เหลืออยู่ในหม้อถูกไป๋เริ่นกวาดออกไปจนว่างเปล่า ยังไม่พอ ยังอุ้มหม้อว่างเปล่าพร้อมเลียอย่างเอร็ดอร่อย

ซ่งชูอีกินจนรู้สึกแน่นเล็กน้อย เดินเล่นไปมาอยู่ในบ้าน อีกสองคนนอนแผ่หลาอยู่บนพื้น หลี่ว์เต๋อเฉิงส่งเสียงกรนแล้ว

“ซ่งจื่อ” ซือหม่าหวยอี้ลุกขึ้น “ขอบังอาจถามอย่างหนึ่ง ซ่งจื่อไม่มีพี่น้องจริงหรือ?”

ซ่งชูอีหยุดเดินแล้วมองไป ซือหม่าหวยอี้ดูเหมือนยังไม่สร่างเมา ใบหน้าหล่อเหลายังมีแดงระเรื่อ แววตาเลื่อนลอยไปไกล

“ไม่มี” ซ่งชูอีพูดพลางดึงๆ คอเสื้อ ในใจสงสัยว่าเตาไฟในบ้านของหลี่ว์เต๋อเฉิงนี้เผาไหม้จนร้อนเกินไปแล้ว ฟืนไม่ต้องใช้เงินหรืออย่างไรกัน!

“คู่หมั้นของข้าผู้นั้น เหมือนกับซ่งจื่อแปดถึงเก้าส่วนจริงๆ พวกข้าเป็นเพื่อนกันตั้งแต่วัยเยาว์ หมั้นหมายตั้งแต่เล็ก คิดไม่ถึงว่านางจะตายขณะที่ส่งเข้าพิธี” ซือหม่าหวยอี้พูดพลางลั่งน้ำตาด้วยความเศร้าโศกและสิ้นหวัง

การแต่งงานที่ยาวไกล ครอบครัวเจ้าสาวคุ้มกันขบวนเจ้าสาวเพื่อไปส่งที่บ้านเจ้าบ่าว และครอบครัวของเจ้าบ่าวก็จะขบวนมาต้อนรับ ในเมื่อส่งตัวกันแล้วก็ไม่นับว่าเป็นคู่หมั้นอีกต่อไป ซ่งชูอีเต็มไปด้วยความสงสัย อย่างไรก็ดีตามประสบการณ์ของนาง ความโศกเศร้าของซือหม่าหวยอี้ก็ดูไม่เหมือนเสแสร้ง

ซ่งชูอีรู้สึกร้อนมาก แต่เนื่องจากผู้อื่นกำลังเสียใจ นางก็ไม่อาจเสียมารยาทได้ ข่มความอดทนฟังเขาร้องไห้อยู่ครู่หนึ่ง เอ่ยปลอบใจแห้งๆ “คนก็ตายไปแล้ว สหายซือหม่าได้โปรดหักห้ามใจเถิด!”

“ข้าขอกอดท่านหน่อยได้ไหม?” ซือหม่าหวยอี้พูดพลางไม่รอให้ซ่งชูอีตอบสนอง ก็ลุกขึ้นเดินเข้ามายื่นมือกอดนางแล้ว

ทั้งสองคนอยู่ห่างกันไม่ถึงสี่ฉื่อ เขามีแขนขายาว ไม่ได้ให้เวลาซ่งชูอีได้เตรียมตัวเลย

ครั้นสัมผัสได้ถึงความเป็นชายจากร่างกายของซือหม่าหวยอี้ เลือดภายในตัวของซ่งชูอีก็ราวกับกำลังเผาไหม้  มันพุ่งตรงไปที่หน้าผาก ดวงตามืดลงฉับพลัน ใช้เวลาสักพักจึงค่อยๆ เห็นแสงสว่าง แต่สิ่งที่มองเห็นกลับมัวหมองมากขึ้น

ครั้งนี้มีอะไรที่ซ่งชูอีไม่เข้าใจอีก? นางกำลังบำรุงรากฐานปลูกฝังความแข็งแรง สูตรยาที่เปี่ยนเชวี่ยให้นางล้วนเป็นยาสำหรับผู้หญิง อีกทั้งก่อนที่จะจากไปยังกำชับนางเป็นพิเศษว่าห้ามกินของแสลง อาการของนางในตอนนี้ จะต้องเป็นเพราะของจำพวกอวัยวะเพศของกวางที่อยู่ในหม้อตุ๋นนั้นเป็นแน่ อีกทั้งมิได้มีเพียงอันสองอันเท่านั้น!

“ท่านเป็นผู้หญิงสินะ!” ซือหม่าหวยอี้กล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “อวัยวะเพศของกวางนั่นเป็นของบำรุงผู้ชาย ผู้หญิงทนไม่ไหวหรอก…ท่านจะยอมรับเอง หรือว่าจะให้ข้าพิสูจน์ด้วยมือของข้าเอง?”

คนทั่วไปมักคิดว่า ของจำพวกอวัยวะเพศของกวางมีเพียงผู้ชายที่สามารถกินได้ ที่จริงแล้วไม่ใช่ ผู้หญิงก็สามารถกินตามอาการได้เช่นกัน ทว่าประจวบกับร่างกายของซ่งชูอีอ่อนแอเกินไป ทนของแสลงไม่ได้ อีกทั้งสิ่งนี้เป็นสิ่งต้องห้ามที่สุดสำหรับผู้ที่ขาดหยินและธาตุไฟ

ระวังร้อยครั้งไม่สู้ประมาทแค่ครั้งเดียว!

นางมาแวะคารวะอย่างเปิดเผย หากเป็นอะไรไปที่นี่ หลี่ว์เต๋อเฉิงกับซือหม่าหวยอี้ไม่สามารถหลีกหนีความพัวพันได้ ต่อให้ซือหม่าหวยอี้สงสัยก็ไม่อาจมั่นใจ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะวางยาหรือใช้ไม้แข็ง คิดไม่ถึงว่าเขาจะคิดใช้วิธีสกปรกเช่นนี้!

เขาตั้งใจทำให้อวัยวะเพศกวางอยู่ในสภาพที่มองไม่ออกแล้วใส่รวมลงกับเนื้อกวาง จากนั้นก็ให้บริการอย่างเอาใจใส่ แม้แต่ส่วนของไป๋เริ่นก็หั่นให้อย่างดี เพื่อที่จะไม่ให้ซ่งชูอีเอาเนื้อที่อยู่ในจานของตัวเองป้อนให้กับไป๋เริ่น

บางทีเขาอาจให้นางกินส่วนของอวัยวะเพศกวางที่อยู่ข้างในทั้งหมด

เพลิงโทสะของซ่งชูอีพลุ่งพล่าน รู้สึกว่ามีของเหลวร้อนสองเส้นไหลลงใต้จมูก ทันใดนั้นก็ใช้พลังงานทั้งหมดที่มีเตะไปที่เป้ากางเกาของซือหม่าหวยอี้อย่างแม่นยำ

ซือหม่าหวยอี้เจ็บจนแทบหมดสติไป ไม่สามารถแม้แต่จะกรีดร้อง

ซ่งชูอีระเบิดลง มือหนึ่งเช็ดเลือดกำเดา มือหนึ่งชี้หน้าตะคอกใส่เขา “อวัยวะพ่อเจ้าสิ บัดซบสิ้นดี! บาดแผลใหญ่ของข้ายังไม่หาย สภาพร่างกายย่ำแย่ มารดาเจ้าไม่บอกสักคำแต่ให้ข้ากินของพรรค์นี้! แช่งบรรพบุรุษเจ้า! ข้ามีโชคร้ายนิดหน่อยที่สามารถบีบให้ของเล่นในเป้าของเจ้ากลายเป็นดวงตามืดบอด — และกลายเป็นเพียงเครื่องประดับเท่านั้น!”

[1] เฝิงเจ๋อ พื้นที่ของหูหนานในปัจจุบัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

กุนซือหญิงยอดอัจฉริยะ 248 อวัยวะพ่อเจ้าสิ!

Now you are reading กุนซือหญิงยอดอัจฉริยะ Chapter 248 อวัยวะพ่อเจ้าสิ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เร็วเข้า เร็วเข้า” หลี่ว์เต๋อเฉิงรบเร้าเขา ตัวเองกลับถือจอกสุราไม่วาง “สุราดอกบ๊วยของซ่งจื่อเป็นสุราชั้นดีจริงๆ ท่านกลับไปแล้วข้าจะต้องดื่มหลายจอกหน่อย”

“สุราจะเสียเปล่ามิได้ วันหน้าข้าจะจับตัวท่านมาช่วยบ่มสุรา” ซ่งชูอียิ้มเอ่ย

“เยี่ยม! จะใช้งานเมื่อใด ซ่งจื่อเพียงบอกกล่าวสักคำเป็นพอ” หลี่ว์เต๋อเฉิงกล่าวอย่างมีความสุข

อาศัยที่ชูหลี่จี๋ให้ความสำคัญต่อหลี่ว์เต๋อเฉิงเพียงนี้ ซ่งชูอีก็สามารถมั่นใจได้ว่าเขาเป็นคนที่คบค้าได้ ดังนั้นจึงกระตือรือร้นที่จะพูดคุยเรื่องกฎหมายกับเขาเพื่อทำความเข้าใจนิสัยใจคอและความคิดเห็นของเขา

หลี่ว์เต๋อเฉิงเป็นบัณฑิตสำนักนิติธรรม กฎหมายที่เขาสนับสนุน คือการกวาดล้างเจ้าหน้าที่บนพื้นฐานของกฎหมายเดิม ประการที่สองคือการจำกัดและควบคุมระเบียบของบ้านเมือง นี่เป็นแนวทางปฏิบัติมากกว่าความคิดของนักนิติธรรมเพ้อฝันเช่นจีเหมียนเสียอีก และยังเหมาะสมกับสถานการณ์รัฐฉินยิ่งกว่า

“ซ่งจื่อคิดว่าข้าทะเยอทะยานมากไปหรือเปล่า” หลี่ว์เต๋อเฉิงคิดไม่ถึงว่าซ่งชูอีเคยอ่านหลักคำสอนของสำนักนิติธรรมมาก่อน ครั้นหารือถึงหลักคำสอนของสำนักนิติธรรมก็กล่าวได้อย่างชัดเจนและมีเหตุผล คำบางคำค่อนข้างให้ความกระจ่างแก่เขา แอบชื่นชมในใจว่าซ่งจื่อนี้สมคำเล่าลือจริงๆ ในทางตรงกันข้ามเขากลับดูธรรมดามาก

ซ่งชูอีส่ายหน้า “ข้ากลับชอบความคิดของท่านเสียอีก เจ็ดมหานครรัฐผ่านการปฏิรูปกฎหมายแล้ว ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรมันก็เป็นอดีตไปแล้ว บัดนี้แต่ละรัฐต่างกำลังจับตามองกัน ต่างคนต่างคิดเคลื่อนไหวเมื่อมีโอกาส สถานการณ์ตึงเครียดเช่นนี้ องค์จวินรัฐใดบ้างที่ยังจะกล้าแตะต้องรากฐาน?”

การปฏิรูปจำเป็นต้องปฏิรูประบบรัฐ ต้องแตะต้องรากฐานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เหมือนกับที่ซางจวินปฏิรูปรัฐฉิน หากไม่ใช่เพราะมีอิ๋งซื่อหลังจากเซี่ยวกง ลำพังเพียงปัญหาตระกูลเก่าแก่ทิ้งไว้ก็เพียงพอที่จะทำให้รัฐฉินวุ่นวายหลายสิบปีแล้ว

การปรากฏตัวของการปฏิรูปเป็นโอกาสทางประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังเป็นผลลัพธ์ของการพัฒนาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ใช่ว่าการปฏิรูปนั้นจะเหมาะสมในทุกช่วงเวลา

ยุคสมัยชุนชิวร้อยรัฐล้วนยืดหยัด ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ปลาเล็กกินกุ้ง ไม่ละเว้นความพยายามในการขยายอาณาเขต ครั้นมาถึงยุคสมัยจั้นกั๋ว ไม่กี่รัฐใหญ่อันทรงพลังก็ได้ถือกำเนิดขึ้น

แม้ว่าดินแดนของรัฐเหล่านี้จะมีขนาดใหญ่มาก แต่หลังจากสงครามผนวกดินแดนอันยาวนานแล้วก็เข้าสู่ช่วงเวลาสั้น ๆ ของความเหนื่อยล้า องค์จวินที่มีแผนการอันยิ่งใหญ่เหล่านั้นได้ตระหนักดีว่าการจัดการกับรัฐใหญ่ที่มีกำลังมากนั้นไม่ง่ายเหมือนการผนวกรัฐเล็กๆ ดังนั้นนอกเหนือจากการผนวกรัฐเล็กๆ แล้ว ทุกรัฐต่างพยายามหาแนวทางในการพัฒนาความเข้มแข็งของตนเอง

ดังนั้น การเสริมสร้างความแข็งแกร่งของรัฐต่างหากจึงมีความสำคัญสูงสุด แต่ละรัฐต่างกลัวว่าตัวเองจะล้าหลังแล้วจะกลายเป็นส่วนที่ถูกทิ้งให้โดดเดี่ยว จึงยุ่งวุ่นวายอยู่กับความเละเทะตัวเอง แม้จะเกิดความขัดแย้งกันเป็นครั้งคราว แต่ก็ไม่กล้าสู้ตายกันจริงๆ ดังนั้น “การปฏิรูปและเสริมสร้างความแข็งแกร่ง” จึงเกิดขึ้น

บัดนี้ไม่เหมือนกัน การปฏิรูปมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว ความแข็งแกร่งของแต่ละรัฐได้เกิดช่องว่างขึ้นแล้ว สงครามโค่นรัฐอาจระเบิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ทันทีที่รัฐใดรัฐหนึ่งเกิดความวุ่ยวายภายใน ก็จะถูกวาฬโดยรอบกลืนกิน

ในเวลาเช่นนี้ ใครกล้าแตะต้องรากฐานก็จะพบจุดจบเช่นปาสู่

ทั้งสองคนพูดคุนกันอย่างมีความสุข ครั้นมีความเห็นที่ตรงกันก็ดื่มจอกหนึ่ง ผ่านไปไม่นาน สุราไหที่สองก็ใกล้จะหมดแล้ว

ซ่งชูอีนั้นสามารถดื่มได้มาก และคุ้นเคยกับการดื่มสุราที่ตัวเองบ่ม บัดนี้ต่อให้ดื่มหมดสองไหก็ไม่แน่ว่าเมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นจึงดื่มเป็นเพื่อนหลี่ว์เต๋อเฉิงจอกแล้วจอกเล่า

หลังจากนั้นไม่นาน ซือหม่าหวยอี้ก็ยกหม้อหนึ่งกลับมา

ซือหม่าหวยอี้เปิดฝาหม้อออก กลิ่นหอมของเนื้อลอยฟุ้ง ไป๋เริ่นกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันใด โน้มตัวไปข้างหม้อ สายตาจับจ้องอยู่ที่เนื้อ น้ำลายแทบจะไหลออกมาแล้ว

“มาลองชิม” ซือหม่าหวยอี้ใช้กริชขนาดเล็กหั่นเนื้อใส่จานแล้วแบ่งไปให้ซ่งชูอีกับหลี่ว์เต๋อเฉิง

หลี่ว์เต๋อเฉิงเมามายไปแล้วหกถึงเจ็ดส่วน คีบเนื้อยัดเข้าปากโดยไม่คำนึงถึงมารยาทเลย เอ่ยอย่างคลุมเครือ “สุราชั้นดีเนื้ออร่อย ในชีวิตนี้จะต้องการอะไรอีก!”

ซ่งชูอีคีบเนื้อเข้าปาก เนื้อนั้นมีไขมันพอเหมาะ ถูกตุ๋นกำลังดี เคี้ยวง่าย แต่เนื้อยังคงมีความเรียบเนียนและยืดหยุ่น สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมของความเป็นป่าที่แตกต่างจากสัตว์เลี้ยงระหว่างริมฝีปากและไรฟัน

“ไม่ด้อยไปกว่าเนื้อกวางเฝิงเจ๋อ[1]เลย” ซ่งชูอีเอ่ย ป้อนชิ้นใหญ่ให้ไป๋เริ่น

สุราบ๊วยนั้นเข้ากับเนื้อกวางได้เป็นอย่างดี สามคนหนึ่งหมาป่ากินอย่างมีความสุขมาก

น้ำแกงและเศษกากที่เหลืออยู่ในหม้อถูกไป๋เริ่นกวาดออกไปจนว่างเปล่า ยังไม่พอ ยังอุ้มหม้อว่างเปล่าพร้อมเลียอย่างเอร็ดอร่อย

ซ่งชูอีกินจนรู้สึกแน่นเล็กน้อย เดินเล่นไปมาอยู่ในบ้าน อีกสองคนนอนแผ่หลาอยู่บนพื้น หลี่ว์เต๋อเฉิงส่งเสียงกรนแล้ว

“ซ่งจื่อ” ซือหม่าหวยอี้ลุกขึ้น “ขอบังอาจถามอย่างหนึ่ง ซ่งจื่อไม่มีพี่น้องจริงหรือ?”

ซ่งชูอีหยุดเดินแล้วมองไป ซือหม่าหวยอี้ดูเหมือนยังไม่สร่างเมา ใบหน้าหล่อเหลายังมีแดงระเรื่อ แววตาเลื่อนลอยไปไกล

“ไม่มี” ซ่งชูอีพูดพลางดึงๆ คอเสื้อ ในใจสงสัยว่าเตาไฟในบ้านของหลี่ว์เต๋อเฉิงนี้เผาไหม้จนร้อนเกินไปแล้ว ฟืนไม่ต้องใช้เงินหรืออย่างไรกัน!

“คู่หมั้นของข้าผู้นั้น เหมือนกับซ่งจื่อแปดถึงเก้าส่วนจริงๆ พวกข้าเป็นเพื่อนกันตั้งแต่วัยเยาว์ หมั้นหมายตั้งแต่เล็ก คิดไม่ถึงว่านางจะตายขณะที่ส่งเข้าพิธี” ซือหม่าหวยอี้พูดพลางลั่งน้ำตาด้วยความเศร้าโศกและสิ้นหวัง

การแต่งงานที่ยาวไกล ครอบครัวเจ้าสาวคุ้มกันขบวนเจ้าสาวเพื่อไปส่งที่บ้านเจ้าบ่าว และครอบครัวของเจ้าบ่าวก็จะขบวนมาต้อนรับ ในเมื่อส่งตัวกันแล้วก็ไม่นับว่าเป็นคู่หมั้นอีกต่อไป ซ่งชูอีเต็มไปด้วยความสงสัย อย่างไรก็ดีตามประสบการณ์ของนาง ความโศกเศร้าของซือหม่าหวยอี้ก็ดูไม่เหมือนเสแสร้ง

ซ่งชูอีรู้สึกร้อนมาก แต่เนื่องจากผู้อื่นกำลังเสียใจ นางก็ไม่อาจเสียมารยาทได้ ข่มความอดทนฟังเขาร้องไห้อยู่ครู่หนึ่ง เอ่ยปลอบใจแห้งๆ “คนก็ตายไปแล้ว สหายซือหม่าได้โปรดหักห้ามใจเถิด!”

“ข้าขอกอดท่านหน่อยได้ไหม?” ซือหม่าหวยอี้พูดพลางไม่รอให้ซ่งชูอีตอบสนอง ก็ลุกขึ้นเดินเข้ามายื่นมือกอดนางแล้ว

ทั้งสองคนอยู่ห่างกันไม่ถึงสี่ฉื่อ เขามีแขนขายาว ไม่ได้ให้เวลาซ่งชูอีได้เตรียมตัวเลย

ครั้นสัมผัสได้ถึงความเป็นชายจากร่างกายของซือหม่าหวยอี้ เลือดภายในตัวของซ่งชูอีก็ราวกับกำลังเผาไหม้  มันพุ่งตรงไปที่หน้าผาก ดวงตามืดลงฉับพลัน ใช้เวลาสักพักจึงค่อยๆ เห็นแสงสว่าง แต่สิ่งที่มองเห็นกลับมัวหมองมากขึ้น

ครั้งนี้มีอะไรที่ซ่งชูอีไม่เข้าใจอีก? นางกำลังบำรุงรากฐานปลูกฝังความแข็งแรง สูตรยาที่เปี่ยนเชวี่ยให้นางล้วนเป็นยาสำหรับผู้หญิง อีกทั้งก่อนที่จะจากไปยังกำชับนางเป็นพิเศษว่าห้ามกินของแสลง อาการของนางในตอนนี้ จะต้องเป็นเพราะของจำพวกอวัยวะเพศของกวางที่อยู่ในหม้อตุ๋นนั้นเป็นแน่ อีกทั้งมิได้มีเพียงอันสองอันเท่านั้น!

“ท่านเป็นผู้หญิงสินะ!” ซือหม่าหวยอี้กล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “อวัยวะเพศของกวางนั่นเป็นของบำรุงผู้ชาย ผู้หญิงทนไม่ไหวหรอก…ท่านจะยอมรับเอง หรือว่าจะให้ข้าพิสูจน์ด้วยมือของข้าเอง?”

คนทั่วไปมักคิดว่า ของจำพวกอวัยวะเพศของกวางมีเพียงผู้ชายที่สามารถกินได้ ที่จริงแล้วไม่ใช่ ผู้หญิงก็สามารถกินตามอาการได้เช่นกัน ทว่าประจวบกับร่างกายของซ่งชูอีอ่อนแอเกินไป ทนของแสลงไม่ได้ อีกทั้งสิ่งนี้เป็นสิ่งต้องห้ามที่สุดสำหรับผู้ที่ขาดหยินและธาตุไฟ

ระวังร้อยครั้งไม่สู้ประมาทแค่ครั้งเดียว!

นางมาแวะคารวะอย่างเปิดเผย หากเป็นอะไรไปที่นี่ หลี่ว์เต๋อเฉิงกับซือหม่าหวยอี้ไม่สามารถหลีกหนีความพัวพันได้ ต่อให้ซือหม่าหวยอี้สงสัยก็ไม่อาจมั่นใจ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะวางยาหรือใช้ไม้แข็ง คิดไม่ถึงว่าเขาจะคิดใช้วิธีสกปรกเช่นนี้!

เขาตั้งใจทำให้อวัยวะเพศกวางอยู่ในสภาพที่มองไม่ออกแล้วใส่รวมลงกับเนื้อกวาง จากนั้นก็ให้บริการอย่างเอาใจใส่ แม้แต่ส่วนของไป๋เริ่นก็หั่นให้อย่างดี เพื่อที่จะไม่ให้ซ่งชูอีเอาเนื้อที่อยู่ในจานของตัวเองป้อนให้กับไป๋เริ่น

บางทีเขาอาจให้นางกินส่วนของอวัยวะเพศกวางที่อยู่ข้างในทั้งหมด

เพลิงโทสะของซ่งชูอีพลุ่งพล่าน รู้สึกว่ามีของเหลวร้อนสองเส้นไหลลงใต้จมูก ทันใดนั้นก็ใช้พลังงานทั้งหมดที่มีเตะไปที่เป้ากางเกาของซือหม่าหวยอี้อย่างแม่นยำ

ซือหม่าหวยอี้เจ็บจนแทบหมดสติไป ไม่สามารถแม้แต่จะกรีดร้อง

ซ่งชูอีระเบิดลง มือหนึ่งเช็ดเลือดกำเดา มือหนึ่งชี้หน้าตะคอกใส่เขา “อวัยวะพ่อเจ้าสิ บัดซบสิ้นดี! บาดแผลใหญ่ของข้ายังไม่หาย สภาพร่างกายย่ำแย่ มารดาเจ้าไม่บอกสักคำแต่ให้ข้ากินของพรรค์นี้! แช่งบรรพบุรุษเจ้า! ข้ามีโชคร้ายนิดหน่อยที่สามารถบีบให้ของเล่นในเป้าของเจ้ากลายเป็นดวงตามืดบอด — และกลายเป็นเพียงเครื่องประดับเท่านั้น!”

[1] เฝิงเจ๋อ พื้นที่ของหูหนานในปัจจุบัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+