ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ เล่มที่ 10 บทที่ 275 แผนล้างแค้น

Now you are reading ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ Chapter เล่มที่ 10 บทที่ 275 แผนล้างแค้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หากจู่ๆ ลูกน้องของป๋ายหลี่อู๋เฉินคิดแก้แค้นขึ้นมา เช่นนั้นป๋ายจีและป๋ายซ่าวจะต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน!

“ทุกคนจงตามข้ามา!”

หลินเมิ้งหยารีบมุ่งหน้าไปที่สวนดอกไม้พร้อมทั้งเรียกเหล่าองครักษ์ที่พบเห็นมาด้วย

วันนี้ป๋ายจีและป๋ายซ่าวไปที่จวนของพระญาติเพื่อส่งมอบอาหารและเสื้อผ้า แม้ระยะทางไม่ไกลมากนัก แต่เพราะหลินเมิ้งหยาเป็นห่วงพวกนาง ดังนั้นจึงสั่งให้คนแบกเกี้ยวไปส่ง

แม้สาวใช้ทั้งสองจะมีไหวพริบ แต่ก็ไร้ซึ่งวิทยายุทธ หากถูกจับตัวได้แล้วล่ะก็ เกรงว่าจะต้องถูกข่มขู่อย่างแน่นอน

หัวใจของหลินเมิ้งหยาเป็นกังวล เร่งฝีเท้าก้าวเร็วขึ้นกว่าเดิม เพียงไม่กี่อึดใจก็เดินมาถึงประตูด้านหน้าจวน

“นายหญิง มิทราบว่าท่านตามพวกเรามาเพราะมีเหตุอันใดเกิดขึ้นหรือขอรับ?”

หลินขุยได้ยินเรื่องการรวมพลที่หน้าจวน เขาจึงรีบวิ่งมาในทันที ก่อนนั้นท่านอ๋องสั่งเอาไว้แล้วว่านายหญิงของจวนคือหลินเมิ้งหยา ไม่ว่านางออกคำสั่งเช่นไร พวกเขาจะต้องปฏิบัติตาม

“ท่านพี่หลิน ป๋ายจีและป๋ายซ่าวอาจตกอยู่ในอันตราย เจ้ารีบส่งคนไปรับพวกนางเถิด”

แม้หลินเมิ้งหยาจะไม่มั่นใจเต็มร้อย แต่สาวใช้ทั้งสองยังไม่กลับมา หากเกิดเรื่องอันใดขึ้นมา นั่นอาจเป็นฝีมือของลูกน้องป๋ายหลี่อู๋เฉินก็เป็นได้

“ขอรับ ข้าจะรีบส่งคนไปรับพวกนางเดี๋ยวนี้”

ทุกคนในจวนไม่มีใครไม่รู้จักป๋ายจีและป๋ายซ่าว หลินขุยไม่ปล่อยให้เสียเวลาแม้เพียงเสี้ยววินาที เขารีบส่งคนไปรับพวกนางทันที

ด้านหน้าประตูจวน หลินเมิ้งหยาเดินกลับไปกลับมาอยู่หลายรอบ นางรู้สึกร้อนใจเหลือเกิน ยิ่งคิดก็ยิ่งกังวล ขณะที่หลินเมิ้งหยาใกล้จะย่ำพื้นดินหน้าประตูจวนจนทรุดลงนั้น องครักษ์สองคนพลันปรากฏขึ้นที่มุมถนนไกลๆ

ยิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งเห็นหน้าได้ชัดเจนยิ่งขึ้น พวกเขาสวมชุดองครักษ์ของจวนอวี้ไม่ผิดแน่ ซ้ำเกี้ยวด้านหลังทั้งสองยังเป็นเกี้ยวที่พาสาวใช้ไปส่งเมื่อเช้า

ในที่สุดหัวใจของหลินเมิ้งหยาก็สงบลง โชคดีที่นางไหวตัวทัน มิเช่นนั้นหัวใจของนางคงเสมือนถูกกรีดเป็นชิ้นๆ

“ทูลพระชายา แม่นางทั้งสองถูกรับกลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว พระชายาได้โปรดวางพระทัย”

องครักษ์วัยกลางคนซึ่งมีท่าทางเคร่งขรึมคุกเข่าลงต่อหน้าหลินเมิ้งหยา ก่อนจะกล่าวรายงาน

หลินเมิ้งหยาพยักหน้า ทว่านางกลับไม่รู้สึกคุ้นหน้าองครักษ์คนนี้เลยแม้แต่น้อย อันที่จริงนางไม่รู้จักเหล่าองครักษ์หมดทุกคน แต่ถึงกระนั้นก็พอจะเห็นผ่านตามาบ้าง

เหตุใดองครักษ์สองคนนี้จึงไม่คุ้นหน้าเลยนะ?

“ทุกคนเหนื่อยมากแล้ว ข้าสั่งให้พ่อบ้านเติ้งเตรียมอาหารแกล้มเหล้าเอาไว้เพื่อขอบคุณที่ทุกคนทำงานหนักเสมอมา ไม่ทราบว่าพี่ชายท่านนี้ไปรับพวกนางทั้งสองมาจากที่ใดหรือ? พบเจอปัญหาระหว่างทางหรือไม่?”

ชายผู้นั้นหยักยิ้ม ก่อนจะเอ่ยตอบ

“จะว่าไปก็แปลก ขณะที่แม่นางทั้งสองออกห่างจากจวนไปได้ไม่ไกลก็มีพวกอันธพาลเข้ามาหาเรื่องอยู่พักใหญ่ ดังนั้นเวลากลับจึงคลาดเคลื่อนไปค่อนข้างมาก แต่ถึงกระนั้นก็มิได้ลำบากแต่อย่างใด พระชายากังวลเกินไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

หัวใจยังคงกระสับกระส่าย เหลือบมองไปทางเกี้ยว ทั้งที่ยังเป็นเกี้ยวอันเดิม ทว่านัยน์ตาของหลินเมิ้งหยากลับสั่นไหว

“ลำบากพวกท่านแล้ว ไม่ทราบว่าสาวใช้ทั้งสองได้รับบาดเจ็บหรือไม่? เหตุใดพวกนางจึงยังไม่ลงจากเกี้ยวเล่า?”

ชายคนนั้นหันไปมองทางเกี้ยว ก่อนจะเอ่ย

“บางทีอาจเพราะอันธพาลเหล่านั้นทำให้พวกนางตกใจหวาดผวา พวกนางทั้งสองเป็นหญิงสาวที่อยู่แต่ในจวน คงมิเคยเจอเรื่องอันตรายใดๆ มาก่อน ดังนั้นอาจจะรู้สึกหวาดกลัวพ่ะย่ะค่ะ”

ทั้งหมดดูสมเหตุสมผล หลินเมิ้งหยามิอาจจับผิดอะไรได้ ชำเลืองมององครักษ์ทั้งสองด้วยความสงสัย ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดนางจึงยังรู้สึกกังวล

“เช่นนั้นทุกคนเข้ามาในจวนเถิด รบกวนพวกเจ้ายกเกี้ยวเข้ามาในจวนด้วย”

หลินเมิ้งหยาเบี่ยงตัวไปอีกทางเพื่อหลีกทางให้

หัวหน้าองครักษ์โบกมือ คนเหล่านั้นรีบยกเกี้ยวเดินผ่านประตูจวน แต่ไม่รู้ว่าเกิดเหตุอันใดขึ้น จู่ๆ เกี้ยวทางด้านขวาก็เอนเอียงขึ้นมา

“ไอหยา…” เสียงร้องด้วยความตื่นตระหนกดังขึ้นจากภายใน หลินเมิ้งหยารีบก้าวไปทางด้านนั้นทันที

“ทุกคนระวังหน่อย อย่าทำให้สาวใช้ของข้าได้รับบาดเจ็บ”

ขณะที่พูด นางคิดจะเดินเข้าไปทางผ้าม่านหน้าเกี้ยว

ทว่าเพียงยื่นมือเข้าไปสัมผัสผ้าม่าน ร่างของหลินเมิ้งหยาพลันหมุนกลับไปอีกทาง ครู่ต่อมานางกระโดดไปยืนประชิดด้านหลังประตูทางเข้า

“พรึบ” ชายชุดดำจำนวนมากพลันโผล่เข้ามายืนด้านหลังหลินเมิ้งหยา ยังไม่ทันที่หัวหน้าองครักษ์จะรู้สึกตัว ร่างของเขาก็ถูกเสียบด้วยลูกธนูจนกลายเป็นเม่นไปในทันที

ลูกธนูจำนวนมากฝังลงบนร่างของเขา

ดวงตาถลึงโตราวกับไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหลินเมิ้งหยาจะหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้ง่ายๆ เช่นนี้

“แย่แล้ว! มีมือลอบสังหาร! ปกป้องพระชายาเร็วเข้า!”

เหล่าองครักษ์ที่มีไหวพริบล้วนเลียนแบบการกระทำของหลินเมิ้งหยา พวกเขาซ่อนตัวอยู่ด้านหลังประตู แต่เพราะเสียงของเขา ดังนั้นองครักษ์ทั้งจวนจึงตกอยู่ในอาการตื่นตระหนก

จังหวะนี้เอง เหล่าองครักษ์ของจวนจำนวนมากปรี่เข้ามาที่หน้าประตูพร้อมกับดาบยาววาววับในมือ ซ้ำองครักษ์ที่ปลอมตัวมายังถูกเหล่าองครักษ์ทุบตี

หลินเมิ้งหยาแนบตัวกับกำแพง หัวใจสั่นระรัว

หากมิใช่เพราะนางสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของคนเหล่านี้ เกรงว่านางคงถูกพวกเขาจัดการไปแล้ว

คนที่เข้ามายืนด้านหลังนางเมื่อสักครู่คงเตรียมพร้อมที่จะลงดาบกับนางอีกครั้งหากนางยังไม่ตายเพราะลูกธนู

แผนการโหดร้ายอำมหิตยิ่งนัก พวกเขาคงอยากเอาชีวิตนางเหลือเกิน

ครุ่นคิด คนเหล่านี้จะต้องเป็นลูกน้องของป๋ายหลี่อู๋เฉินอย่างแน่นอน แต่นางคิดไม่ถึงเลยว่าป๋ายหลี่อู๋เฉินจะวางแผนแก้แค้นนางเอาไว้อย่างละเอียดรอบคอบเช่นนี้

แม้ตัวเขาจะไม่อยู่แล้ว แต่เขาก็จะพานางลงนรกไปด้วย

คุณชายอู๋เฉินตัวดี!

ด้านนอก เสียงฟาดฟันของดาบดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดพวกเขาก็ถูกไล่ต้อนจนหนีเตลิดออกไป

แต่ถึงกระนั้นหลินเมิ้งหยาก็ยังมิอาจนิ่งนอนใจ นางกังวลว่าพวกเขาจะสบโอกาสเข้ามาทำร้ายตนเอง

ในที่สุดเสียงกระทบกันของดาบก็หายไป หลินเมิ้งหยาแอบโผล่หน้าออกไปมอง

พื้นที่หน้าประตูจวนอวี้มิต่างอันใดจากสนามรบ เกี้ยวทั้งสองเอนเอียงเกือบคว่ำอยู่ตรงหน้า

ผ้าม่านของเกี้ยวถูกตัดจนขาดไปแล้ว ดังนั้นนางจึงได้เห็นหน้าไม้สองอันที่ถูกออกแบบมาอย่างดีภายในเกี้ยว

หลินเมิ้งหยาเข้าใจแล้วว่าเพราะเหตุใดพวกเขาจึงอยากนำเกี้ยวเข้ามาในจวนนัก

บนพื้นในเวลานี้มีศพนอนเกลื่อนกลาดอยู่เป็นจำนวนมาก หลินเมิ้งหยาพินิจพิจารณาก่อนจะพบว่าเป็นใบหน้าที่นางไม่รู้จักทั้งสิ้น

“พระชายาไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

หลินขุยที่ถือดาบเอาไว้ในมือรีบเข้ามายืนตรงหน้าหลินเมิ้งหยา สายตาเปี่ยมไปด้วยความกังวล

“ข้าไม่เป็นไร บอกทุกคนว่าไม่ต้องตามแล้ว คนพวกนี้ล้วนเป็นตัวล่อของป๋ายหลี่อู๋เฉิน หากตามไปแล้วล่ะก็ อาจจะต้องตายเปล่า”

หลินขุยไม่เสียเวลาพูดมาก เมื่อได้ยินคำสั่งของหลินเมิ้งหยา เขารีบตะโกนเรียกทุกคนกลับมา

องครักษ์ที่เพิ่งจะออกไปไล่ล่ารีบเข้ามาห้อมล้อมตัวหลินเมิ้งหยาเอาไว้ พวกเขาล้วนระแวดระวังเพื่อนข้างกายของตนเอง

ครุ่นคิด บางทีพวกเขาอาจคุ้นเคยกับพวกคนเมื่อครู่ก็เป็นได้

ช่างเป็นแผนการที่ชั่วช้ายิ่งนัก! แม้เขาจะฆ่านางไม่ได้ แต่ถึงกระนั้นก็สามารถทำให้พวกองครักษ์ขาดความเชื่อใจซึ่งกันและกัน

ความหวาดระแวงสงสัยมิต่างอะไรจากระเบิดที่รอวันปลดสลักออก

“ข้าคิดว่าพวกคนทรยศถูกทุกคนไล่ต้อนไปจนหมดแล้ว คนที่เหลือล้วนเป็นองครักษ์ที่ภักดีกับท่านอ๋องทั้งสิ้น ป๋ายหลี่อู๋เฉินคิดอยากเอาชีวิตของข้า แต่องครักษ์ที่อยู่ที่นี่ล้วนเคยเจอข้ามาแล้ว หากทุกคนมิประสงค์ดีกับข้า เช่นนั้นเหตุการณ์เมื่อครู่ย่อมเป็นโอกาสอันดี ฉะนั้นทุกคนอย่าได้สงสัยในตัวมิตรสหายของพวกเจ้าอีกเลย หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เจ้าคนทรยศป๋ายหลี่อู๋เฉินจะยิ่งได้ใจ!”

หลินเมิ้งหยารีบเอ่ยชี้นำเหล่าองครักษ์ทันที ดังนั้นความสงสัยหวาดระแวงของพวกเขาจึงมลายหายไป

หากความเชื่อใจถูกทำลายจริงๆ แล้วล่ะก็ เช่นนั้นปัญหาใหญ่จะตามมา

เมื่อเห็นว่าพวกเขากลับมาเป็นปกติดั่งเดิมแล้ว หลินเมิ้งหยาจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก

เพราะเหตุนี้หลงเทียนอวี้จึงยุ่งมากจนนางแทบไม่ได้เห็นหน้า

คิดไม่ถึงเลยว่าการทรยศหักหลังของป๋ายหลี่อู๋เฉินจะนำมาซึ่งความยุ่งยากเช่นนี้

“พวกเขากลับมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ พระชายา ป๋ายจี ป๋ายซ่าวและคนที่ข้าน้อยส่งไปกลับมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

หลินขุยตะโกนเสียงดังเพื่อเรียกความสนใจของทุกคน

เหล่าองครักษ์ล้วนเข้ามาล้อมตัวหลินเมิ้งหยาไว้ตรงกลาง แม้จะเห็นร่างของสาวใช้ทั้งสองแล้ว แต่เหล่าองครักษ์ยังคงประกบหลินเมิ้งหยาไม่ยอมห่าง

ราวกับยกภูเขาออกจากอก บางทีคนเหล่านั้นอาจทำเพียงขโมยเกี้ยว แต่มิได้ทำอันตรายอันใดพวกนาง

“นายหญิง! หนาวขนาดนี้แท้ๆ เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่เล่าเจ้าคะ?”

ป๋ายจีร้องออกมาด้วยความเป็นห่วง ร่างกายของนายหญิงมิอาจสัมผัสกับอากาศหนาวเย็นได้ แต่คิดไม่ถึงเลยว่านางจะมายืนอยู่หน้าประตูจวน

“ข้าไม่เป็นไร ข้าเพียงแค่ออกมารับพวกเจ้าเท่านั้น พวกเจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”

เห็นได้ชัดว่าองครักษ์เหล่านั้นสงสัยเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นลูกธนูบนพื้น สีหน้าของพวกเขาพลันเคร่งขรึมขึ้นมา

คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาออกไปรับแม่นางทั้งสองเพียงครู่เดียวจะเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้

สาวใช้ทั้งสองรีบประคองหลินเมิ้งหยากลับไปยังตำหนักหลิวซิน

ระหว่างทางเดินกลับ พวกนางได้รู้เรื่องที่ป๋ายหลี่อู๋เฉินส่งคนมาลอบสังหารเจ้านายของตนเอง ทันใดนั้นปากของพวกนางก็เริ่มคันยุกยิก ในที่สุดก็อดสบถด่าสาปแช่งป๋ายหลี่อู๋เฉินไม่ได้

ทว่าหลินเมิ้งหยาสั่งให้พวกนางเก็บเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับ โชคดีที่ตอนนี้เป็นฤดูหนาว อีกทั้งยังเป็นช่วงสิ้นปี ดังนั้นจึงไม่มีใครออกมายืนอยู่นอกบ้าน มิเช่นนั้น นางคงต้องปวดหัวอีกอย่างแน่นอน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ เล่มที่ 10 บทที่ 275 แผนล้างแค้น

Now you are reading ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ Chapter เล่มที่ 10 บทที่ 275 แผนล้างแค้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หากจู่ๆ ลูกน้องของป๋ายหลี่อู๋เฉินคิดแก้แค้นขึ้นมา เช่นนั้นป๋ายจีและป๋ายซ่าวจะต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน!

“ทุกคนจงตามข้ามา!”

หลินเมิ้งหยารีบมุ่งหน้าไปที่สวนดอกไม้พร้อมทั้งเรียกเหล่าองครักษ์ที่พบเห็นมาด้วย

วันนี้ป๋ายจีและป๋ายซ่าวไปที่จวนของพระญาติเพื่อส่งมอบอาหารและเสื้อผ้า แม้ระยะทางไม่ไกลมากนัก แต่เพราะหลินเมิ้งหยาเป็นห่วงพวกนาง ดังนั้นจึงสั่งให้คนแบกเกี้ยวไปส่ง

แม้สาวใช้ทั้งสองจะมีไหวพริบ แต่ก็ไร้ซึ่งวิทยายุทธ หากถูกจับตัวได้แล้วล่ะก็ เกรงว่าจะต้องถูกข่มขู่อย่างแน่นอน

หัวใจของหลินเมิ้งหยาเป็นกังวล เร่งฝีเท้าก้าวเร็วขึ้นกว่าเดิม เพียงไม่กี่อึดใจก็เดินมาถึงประตูด้านหน้าจวน

“นายหญิง มิทราบว่าท่านตามพวกเรามาเพราะมีเหตุอันใดเกิดขึ้นหรือขอรับ?”

หลินขุยได้ยินเรื่องการรวมพลที่หน้าจวน เขาจึงรีบวิ่งมาในทันที ก่อนนั้นท่านอ๋องสั่งเอาไว้แล้วว่านายหญิงของจวนคือหลินเมิ้งหยา ไม่ว่านางออกคำสั่งเช่นไร พวกเขาจะต้องปฏิบัติตาม

“ท่านพี่หลิน ป๋ายจีและป๋ายซ่าวอาจตกอยู่ในอันตราย เจ้ารีบส่งคนไปรับพวกนางเถิด”

แม้หลินเมิ้งหยาจะไม่มั่นใจเต็มร้อย แต่สาวใช้ทั้งสองยังไม่กลับมา หากเกิดเรื่องอันใดขึ้นมา นั่นอาจเป็นฝีมือของลูกน้องป๋ายหลี่อู๋เฉินก็เป็นได้

“ขอรับ ข้าจะรีบส่งคนไปรับพวกนางเดี๋ยวนี้”

ทุกคนในจวนไม่มีใครไม่รู้จักป๋ายจีและป๋ายซ่าว หลินขุยไม่ปล่อยให้เสียเวลาแม้เพียงเสี้ยววินาที เขารีบส่งคนไปรับพวกนางทันที

ด้านหน้าประตูจวน หลินเมิ้งหยาเดินกลับไปกลับมาอยู่หลายรอบ นางรู้สึกร้อนใจเหลือเกิน ยิ่งคิดก็ยิ่งกังวล ขณะที่หลินเมิ้งหยาใกล้จะย่ำพื้นดินหน้าประตูจวนจนทรุดลงนั้น องครักษ์สองคนพลันปรากฏขึ้นที่มุมถนนไกลๆ

ยิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งเห็นหน้าได้ชัดเจนยิ่งขึ้น พวกเขาสวมชุดองครักษ์ของจวนอวี้ไม่ผิดแน่ ซ้ำเกี้ยวด้านหลังทั้งสองยังเป็นเกี้ยวที่พาสาวใช้ไปส่งเมื่อเช้า

ในที่สุดหัวใจของหลินเมิ้งหยาก็สงบลง โชคดีที่นางไหวตัวทัน มิเช่นนั้นหัวใจของนางคงเสมือนถูกกรีดเป็นชิ้นๆ

“ทูลพระชายา แม่นางทั้งสองถูกรับกลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว พระชายาได้โปรดวางพระทัย”

องครักษ์วัยกลางคนซึ่งมีท่าทางเคร่งขรึมคุกเข่าลงต่อหน้าหลินเมิ้งหยา ก่อนจะกล่าวรายงาน

หลินเมิ้งหยาพยักหน้า ทว่านางกลับไม่รู้สึกคุ้นหน้าองครักษ์คนนี้เลยแม้แต่น้อย อันที่จริงนางไม่รู้จักเหล่าองครักษ์หมดทุกคน แต่ถึงกระนั้นก็พอจะเห็นผ่านตามาบ้าง

เหตุใดองครักษ์สองคนนี้จึงไม่คุ้นหน้าเลยนะ?

“ทุกคนเหนื่อยมากแล้ว ข้าสั่งให้พ่อบ้านเติ้งเตรียมอาหารแกล้มเหล้าเอาไว้เพื่อขอบคุณที่ทุกคนทำงานหนักเสมอมา ไม่ทราบว่าพี่ชายท่านนี้ไปรับพวกนางทั้งสองมาจากที่ใดหรือ? พบเจอปัญหาระหว่างทางหรือไม่?”

ชายผู้นั้นหยักยิ้ม ก่อนจะเอ่ยตอบ

“จะว่าไปก็แปลก ขณะที่แม่นางทั้งสองออกห่างจากจวนไปได้ไม่ไกลก็มีพวกอันธพาลเข้ามาหาเรื่องอยู่พักใหญ่ ดังนั้นเวลากลับจึงคลาดเคลื่อนไปค่อนข้างมาก แต่ถึงกระนั้นก็มิได้ลำบากแต่อย่างใด พระชายากังวลเกินไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

หัวใจยังคงกระสับกระส่าย เหลือบมองไปทางเกี้ยว ทั้งที่ยังเป็นเกี้ยวอันเดิม ทว่านัยน์ตาของหลินเมิ้งหยากลับสั่นไหว

“ลำบากพวกท่านแล้ว ไม่ทราบว่าสาวใช้ทั้งสองได้รับบาดเจ็บหรือไม่? เหตุใดพวกนางจึงยังไม่ลงจากเกี้ยวเล่า?”

ชายคนนั้นหันไปมองทางเกี้ยว ก่อนจะเอ่ย

“บางทีอาจเพราะอันธพาลเหล่านั้นทำให้พวกนางตกใจหวาดผวา พวกนางทั้งสองเป็นหญิงสาวที่อยู่แต่ในจวน คงมิเคยเจอเรื่องอันตรายใดๆ มาก่อน ดังนั้นอาจจะรู้สึกหวาดกลัวพ่ะย่ะค่ะ”

ทั้งหมดดูสมเหตุสมผล หลินเมิ้งหยามิอาจจับผิดอะไรได้ ชำเลืองมององครักษ์ทั้งสองด้วยความสงสัย ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดนางจึงยังรู้สึกกังวล

“เช่นนั้นทุกคนเข้ามาในจวนเถิด รบกวนพวกเจ้ายกเกี้ยวเข้ามาในจวนด้วย”

หลินเมิ้งหยาเบี่ยงตัวไปอีกทางเพื่อหลีกทางให้

หัวหน้าองครักษ์โบกมือ คนเหล่านั้นรีบยกเกี้ยวเดินผ่านประตูจวน แต่ไม่รู้ว่าเกิดเหตุอันใดขึ้น จู่ๆ เกี้ยวทางด้านขวาก็เอนเอียงขึ้นมา

“ไอหยา…” เสียงร้องด้วยความตื่นตระหนกดังขึ้นจากภายใน หลินเมิ้งหยารีบก้าวไปทางด้านนั้นทันที

“ทุกคนระวังหน่อย อย่าทำให้สาวใช้ของข้าได้รับบาดเจ็บ”

ขณะที่พูด นางคิดจะเดินเข้าไปทางผ้าม่านหน้าเกี้ยว

ทว่าเพียงยื่นมือเข้าไปสัมผัสผ้าม่าน ร่างของหลินเมิ้งหยาพลันหมุนกลับไปอีกทาง ครู่ต่อมานางกระโดดไปยืนประชิดด้านหลังประตูทางเข้า

“พรึบ” ชายชุดดำจำนวนมากพลันโผล่เข้ามายืนด้านหลังหลินเมิ้งหยา ยังไม่ทันที่หัวหน้าองครักษ์จะรู้สึกตัว ร่างของเขาก็ถูกเสียบด้วยลูกธนูจนกลายเป็นเม่นไปในทันที

ลูกธนูจำนวนมากฝังลงบนร่างของเขา

ดวงตาถลึงโตราวกับไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหลินเมิ้งหยาจะหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้ง่ายๆ เช่นนี้

“แย่แล้ว! มีมือลอบสังหาร! ปกป้องพระชายาเร็วเข้า!”

เหล่าองครักษ์ที่มีไหวพริบล้วนเลียนแบบการกระทำของหลินเมิ้งหยา พวกเขาซ่อนตัวอยู่ด้านหลังประตู แต่เพราะเสียงของเขา ดังนั้นองครักษ์ทั้งจวนจึงตกอยู่ในอาการตื่นตระหนก

จังหวะนี้เอง เหล่าองครักษ์ของจวนจำนวนมากปรี่เข้ามาที่หน้าประตูพร้อมกับดาบยาววาววับในมือ ซ้ำองครักษ์ที่ปลอมตัวมายังถูกเหล่าองครักษ์ทุบตี

หลินเมิ้งหยาแนบตัวกับกำแพง หัวใจสั่นระรัว

หากมิใช่เพราะนางสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของคนเหล่านี้ เกรงว่านางคงถูกพวกเขาจัดการไปแล้ว

คนที่เข้ามายืนด้านหลังนางเมื่อสักครู่คงเตรียมพร้อมที่จะลงดาบกับนางอีกครั้งหากนางยังไม่ตายเพราะลูกธนู

แผนการโหดร้ายอำมหิตยิ่งนัก พวกเขาคงอยากเอาชีวิตนางเหลือเกิน

ครุ่นคิด คนเหล่านี้จะต้องเป็นลูกน้องของป๋ายหลี่อู๋เฉินอย่างแน่นอน แต่นางคิดไม่ถึงเลยว่าป๋ายหลี่อู๋เฉินจะวางแผนแก้แค้นนางเอาไว้อย่างละเอียดรอบคอบเช่นนี้

แม้ตัวเขาจะไม่อยู่แล้ว แต่เขาก็จะพานางลงนรกไปด้วย

คุณชายอู๋เฉินตัวดี!

ด้านนอก เสียงฟาดฟันของดาบดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดพวกเขาก็ถูกไล่ต้อนจนหนีเตลิดออกไป

แต่ถึงกระนั้นหลินเมิ้งหยาก็ยังมิอาจนิ่งนอนใจ นางกังวลว่าพวกเขาจะสบโอกาสเข้ามาทำร้ายตนเอง

ในที่สุดเสียงกระทบกันของดาบก็หายไป หลินเมิ้งหยาแอบโผล่หน้าออกไปมอง

พื้นที่หน้าประตูจวนอวี้มิต่างอันใดจากสนามรบ เกี้ยวทั้งสองเอนเอียงเกือบคว่ำอยู่ตรงหน้า

ผ้าม่านของเกี้ยวถูกตัดจนขาดไปแล้ว ดังนั้นนางจึงได้เห็นหน้าไม้สองอันที่ถูกออกแบบมาอย่างดีภายในเกี้ยว

หลินเมิ้งหยาเข้าใจแล้วว่าเพราะเหตุใดพวกเขาจึงอยากนำเกี้ยวเข้ามาในจวนนัก

บนพื้นในเวลานี้มีศพนอนเกลื่อนกลาดอยู่เป็นจำนวนมาก หลินเมิ้งหยาพินิจพิจารณาก่อนจะพบว่าเป็นใบหน้าที่นางไม่รู้จักทั้งสิ้น

“พระชายาไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

หลินขุยที่ถือดาบเอาไว้ในมือรีบเข้ามายืนตรงหน้าหลินเมิ้งหยา สายตาเปี่ยมไปด้วยความกังวล

“ข้าไม่เป็นไร บอกทุกคนว่าไม่ต้องตามแล้ว คนพวกนี้ล้วนเป็นตัวล่อของป๋ายหลี่อู๋เฉิน หากตามไปแล้วล่ะก็ อาจจะต้องตายเปล่า”

หลินขุยไม่เสียเวลาพูดมาก เมื่อได้ยินคำสั่งของหลินเมิ้งหยา เขารีบตะโกนเรียกทุกคนกลับมา

องครักษ์ที่เพิ่งจะออกไปไล่ล่ารีบเข้ามาห้อมล้อมตัวหลินเมิ้งหยาเอาไว้ พวกเขาล้วนระแวดระวังเพื่อนข้างกายของตนเอง

ครุ่นคิด บางทีพวกเขาอาจคุ้นเคยกับพวกคนเมื่อครู่ก็เป็นได้

ช่างเป็นแผนการที่ชั่วช้ายิ่งนัก! แม้เขาจะฆ่านางไม่ได้ แต่ถึงกระนั้นก็สามารถทำให้พวกองครักษ์ขาดความเชื่อใจซึ่งกันและกัน

ความหวาดระแวงสงสัยมิต่างอะไรจากระเบิดที่รอวันปลดสลักออก

“ข้าคิดว่าพวกคนทรยศถูกทุกคนไล่ต้อนไปจนหมดแล้ว คนที่เหลือล้วนเป็นองครักษ์ที่ภักดีกับท่านอ๋องทั้งสิ้น ป๋ายหลี่อู๋เฉินคิดอยากเอาชีวิตของข้า แต่องครักษ์ที่อยู่ที่นี่ล้วนเคยเจอข้ามาแล้ว หากทุกคนมิประสงค์ดีกับข้า เช่นนั้นเหตุการณ์เมื่อครู่ย่อมเป็นโอกาสอันดี ฉะนั้นทุกคนอย่าได้สงสัยในตัวมิตรสหายของพวกเจ้าอีกเลย หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เจ้าคนทรยศป๋ายหลี่อู๋เฉินจะยิ่งได้ใจ!”

หลินเมิ้งหยารีบเอ่ยชี้นำเหล่าองครักษ์ทันที ดังนั้นความสงสัยหวาดระแวงของพวกเขาจึงมลายหายไป

หากความเชื่อใจถูกทำลายจริงๆ แล้วล่ะก็ เช่นนั้นปัญหาใหญ่จะตามมา

เมื่อเห็นว่าพวกเขากลับมาเป็นปกติดั่งเดิมแล้ว หลินเมิ้งหยาจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก

เพราะเหตุนี้หลงเทียนอวี้จึงยุ่งมากจนนางแทบไม่ได้เห็นหน้า

คิดไม่ถึงเลยว่าการทรยศหักหลังของป๋ายหลี่อู๋เฉินจะนำมาซึ่งความยุ่งยากเช่นนี้

“พวกเขากลับมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ พระชายา ป๋ายจี ป๋ายซ่าวและคนที่ข้าน้อยส่งไปกลับมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

หลินขุยตะโกนเสียงดังเพื่อเรียกความสนใจของทุกคน

เหล่าองครักษ์ล้วนเข้ามาล้อมตัวหลินเมิ้งหยาไว้ตรงกลาง แม้จะเห็นร่างของสาวใช้ทั้งสองแล้ว แต่เหล่าองครักษ์ยังคงประกบหลินเมิ้งหยาไม่ยอมห่าง

ราวกับยกภูเขาออกจากอก บางทีคนเหล่านั้นอาจทำเพียงขโมยเกี้ยว แต่มิได้ทำอันตรายอันใดพวกนาง

“นายหญิง! หนาวขนาดนี้แท้ๆ เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่เล่าเจ้าคะ?”

ป๋ายจีร้องออกมาด้วยความเป็นห่วง ร่างกายของนายหญิงมิอาจสัมผัสกับอากาศหนาวเย็นได้ แต่คิดไม่ถึงเลยว่านางจะมายืนอยู่หน้าประตูจวน

“ข้าไม่เป็นไร ข้าเพียงแค่ออกมารับพวกเจ้าเท่านั้น พวกเจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”

เห็นได้ชัดว่าองครักษ์เหล่านั้นสงสัยเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นลูกธนูบนพื้น สีหน้าของพวกเขาพลันเคร่งขรึมขึ้นมา

คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาออกไปรับแม่นางทั้งสองเพียงครู่เดียวจะเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้

สาวใช้ทั้งสองรีบประคองหลินเมิ้งหยากลับไปยังตำหนักหลิวซิน

ระหว่างทางเดินกลับ พวกนางได้รู้เรื่องที่ป๋ายหลี่อู๋เฉินส่งคนมาลอบสังหารเจ้านายของตนเอง ทันใดนั้นปากของพวกนางก็เริ่มคันยุกยิก ในที่สุดก็อดสบถด่าสาปแช่งป๋ายหลี่อู๋เฉินไม่ได้

ทว่าหลินเมิ้งหยาสั่งให้พวกนางเก็บเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับ โชคดีที่ตอนนี้เป็นฤดูหนาว อีกทั้งยังเป็นช่วงสิ้นปี ดังนั้นจึงไม่มีใครออกมายืนอยู่นอกบ้าน มิเช่นนั้น นางคงต้องปวดหัวอีกอย่างแน่นอน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+