ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ เล่มที่ 6 บทที่ 179 ศพหญิงนิรนาม

Now you are reading ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ Chapter เล่มที่ 6 บทที่ 179 ศพหญิงนิรนาม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  ยังไม่ทันจะย่ำกรายผ่านธรณีประตู กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งโชยออกมาเตะจมูก   ไท่จื่อยกมือหนาผลักประตูบานใหญ่เปิดออก เห็นร่างไร้วิญญาณของคุณหนูหวัง   “นี่คือ…เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”   ไท่จื่อโกรธเกรี้ยว ทั้งที่วางแผนทุกอย่างเป็นอย่างดีแล้ว เหตุใดคุณหนูหวังจึงเหลือเพียงแต่ร่างไร้วิญญาณ   “ตรวจสอบหรือยังว่าศพนิรนามผู้นั้นเป็นใคร?”   บนพื้น นอกจากเลือดของคุณหนูหวังแล้ว ยังมีรอยเลือดสีแดงสดเป็นทางยาวของผู้อื่น   สิ่งที่น่าสยดสยองยิ่งกว่านั้นคือภายในห้องแห่งนี้ยังมีเศษผิวหนังและเส้นผมของใครบางคน   “ในห้องนี้มีเสื้อผ้าที่มิใช่ของคุณหนูหวังอยู่พ่ะย่ะค่ะ หลังจากองครักษ์ได้ตรวจสอบดูแล้ว พบว่า…พบว่าเป็นขององค์หญิงหมิงเยว่แห่งซีฟานพ่ะย่ะค่ะ”   องครักษ์รายงาน ร่างของไท่จื่อสั่นเทิ้ม   ผลปรากฏว่า ศพนิรนามที่นอนตายอยู่ในสระน้ำคือองค์หญิงหมิงเยว่แห่งซีฟาน   หลินเมิ้งหยา…จิตใจอำมหิตยิ่งนัก!   แอบหยิบยาแก้ปวดออกจากล่องเล็ก ก่อนจะใส่ลงในแก้วเหล้าแล้วดื่มลงไป   ก่อนเข้ามา ป๋ายซูทำแผลที่มือให้นางก่อนแล้ว   เมื่อครู่ยังมิมีความรู้สึกอันใด ทว่า ตอนนี้มือของนางกลับปวดร้าวจนแทบจะทนไม่ไหว   “นายหญิง พวกเรากลับกันก่อนเถิดเจ้าค่ะ บาดแผลของท่าน…”   ป๋ายซูรู้สึกปวดใจยิ่งนัก มองดูนายหญิงที่พยายามฝืนทน สีหน้าของนางขาวซีดไร้สีเลือด   “ไม่ได้ หากพวกเรากลับไปตอนนี้จะต้องถูกสงสัยอย่างแน่นอน แต่พวกเขายังไม่มีหลักฐาน ฉะนั้นจึงไม่มีใครรู้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับพวกเรา”   ซุกมือข้างที่บาดเจ็บเข้าไปในแขนเสื้อ หลินเมิ้งหยาพยายามฝืนแสดงสีหน้าเป็นปกติ   โชคดีที่ไม่ถูกแทงลึกจนถึงกระดูก มิเช่นนั้น มือข้างนี้คงใช้การไม่ได้อีก   ไม่นาน ไท่จื่อที่ไปตรวจสอบเหตุการณ์ด้านนอกมาแล้วก็กลับเข้ามา   สบตากับหลินเมิ้งหยา ทว่า หญิงสาวกลับไร้ซึ่งท่าทางน่าสงสัย   หรือนางจะมีคนคอยช่วยเหลือ?   มิเช่นนั้น หมิงเยว่กับคุณหนูหวังจะตายอย่างเอน็จอนาจเช่นนั้นได้อย่างไร?   หรือนางเองก็มีฝีมือเก็บซ่อนไว้เช่นเดียวกับหมิงเยว่?   เป็นครั้งแรกที่ไท่จื่อผู้หยิ่งทะนงรู้สึกหวาดกลัวหญิงสาวรูปร่างหน้าตางดงาม   “ฮวงเอ๋อร์ เป็นอย่างไรบ้าง?”   ฮองเฮายังคงนั่งอยู่บนที่ประทับ ดังนั้นจึงมิอาจแสดงท่าทีตื่นตระหนกได้   มองดูสีหน้าของไท่จื่อ สายตาของฮองเฮาพลันเลื่อนไปทางหลินเมิ้งหยา   แต่เพราะเป็นการปรายหางตาไปเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่มีใครสังเกตเห็น   คนสอดแนมที่อยู่ข้างกายไท่จื่อเล่าให้นางฟังว่าไท่จื่อต้องการเอาชีวิตหลินเมิ้งหยา   ดังนั้น นางจึงแอบช่วยเหลือเขา   ทว่า ดูเหมือนฝ่ายที่ได้รับชัยชนะจะมิใช่ไท่จื่อ   “ทูลหมู่โฮ้ว ที่สระน้ำในสวนดอกไม้พบศพหญิงนิรนามที่ตายอย่างน่าเอน็จอนาจ ตอนนี้ตรวจสอบยังไม่ชัดเจน แต่…ดูเหมือนจะเป็นองค์หญิงหมิงเยว่แห่งซีฟาน”   คำพูดของไท่จื่อทำให้บรรยากาศภายในตำหนักฉุนเอินตกอยู่ในความโกลาหล   สายตาของหลงเทียนหยู๋ตกลงบนร่างบางของหลินเมิ้งหยา   หมิงเยว่มิพึงพอใจหลินเมิ้งหยานานมากแล้ว   ฉะนั้น ทันทีที่ไท่จื่อเอ่ยว่าผู้ตายคือหมิงเยว่ เขาจึงรู้ได้เลยว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับชายาของเขาอย่างแน่นอน   แต่…แล้วอย่างไรเล่า?   หากเขาอยู่ เขาจะปกป้องนางเอง   “ว่าอย่างไรนะ? เยว่เอ๋อร์ของข้าตายแล้ว! ไท่จื่อ ท่านพูดจริงหรือ!”   ฮ่องเต้หมิงหันไปมองทางไท่จื่ออย่างไม่อยากจะเชื่อ เหตุใดหมิงเยว่จึงตาย?   ไท่จื่อแสดงท่าทางลำบากใจ หมิงเยว่มิเหมือนกับหูลู่หนาน นางเปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจของฮ่องเต้หมิง   ยิ่งไปกว่านั้น นางยังตายอย่างเอน็จอนาจ   “ตอนนี้ยังไม่แน่ชัด แต่….แต่ศพของหญิงนิรนามไร้ซึ่งเนื้อหนัง ดังนั้นจึงมิอาจยืนยันตัวตนที่ชัดเจนได้”   ไร้ซึ่งผิวหนัง? เพียงได้ยินประโยคนี้ คนทั้งตำหนักฉุนเอินต่างพากันหวาดผวา   “ใครเป็นคนทำ?”   ฮ่องเต้มหิงสูดลมหายใจ สายตาอำมหิตจ้องไท่จื่อเขม็ง   แม้จะรู้ว่าหมิงเยว่กับไท่จื่อร่วมมือกัน แต่ครอบครัวมังกรเช่นพวกเขาล้วนเข่นฆ่าเป้าหมายได้สำเร็จทุกครั้ง   “ยังไม่รู้เหตุการณ์ที่แน่นอน ข้าสั่งให้ทหารของวังหลวงตรวจสอบแล้ว ส่วนจะใช่องค์หญิงหมิงเยว่หรือไม่ คงต้องรอผลการตรวจสอบ”   สีหน้าของไท่จื่อไม่น่ามองอย่างยิ่ง เขารู้สึกว่าคนที่กระทำการนี้จะต้องไม่ใช่หลินเมิ้งหยา   เมื่อลองไตร่ตรองดูแล้ว หลินเมิ้งหยาเป็นเพียงหญิงสาวตัวเล็ก ๆ เท่านั้น   ยิ่งไปกว่านั้น แม้สาวใช้ข้างกายนางจะเก่งกาจ แต่ก็หาใช่คู่ปรับของหมิงเยว่   อย่าว่าแต่เข้าไปเลาะเนื้อแล่หนังของหมิงเยว่เลย แม้แต่จะหลบหนีคมหอกคมดาบของนางยังยาก   แต่นอกจากนางแล้ว ยังมีใครอื่นที่มีความแค้นกับหมิงเยว่อีกหรือ?   “ดี หากมิใช่เยว่เอ๋อร์ก็มิเป็นไร แต่ถ้าหากเป็นเยว่เอ๋อร์แล้วล่ะก็ เช่นนั้นไท่จื่อกับฮองเฮาจะต้องมอบคำอธิบายให่แก่ข้า”   การมาเยือนในครั้งนี้ ฮ่องเต้หมิงมาด้วยความจริงใจ   แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะต้องสูญเสียลูกชายและลูกสาวไปถึงสองคน   ความโกรธเกรี้ยวแผ่ซ่านออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน คราวนี้ฮองเฮาและไท่จื่อมิอาจรับมือด้วยได้ง่าย ๆ   “ฮ่องเต้หมิงโปรดวางพระทัย หากนางคือหมิงเยว่จริง พวกเราจะจัดการเรื่องนี้แทนพระองค์เอง”   ไท่จื่อทำได้เพียงปลอบโยนฮ่องเต้หมิงเท่านั้น หากหญิงที่ตายเป็นองค์หญิงหมิงเยว่จริง คาดว่าฮ่องเต้หมิงจะต้องระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างแน่นอน   สายตาหันไปสบกับดวงตาของฮองเฮา   แม้จะรู้อยู่แล้วว่าศพนั้นคือหมิงเยว่ แต่ก็มิอาจพูดออกมาได้ตามตรง   หลินเมิ้งหยานั่งเงียบอยู่บนที่นั่งของตนเอง ก่อนจะจิบสุราและลิ้มรสอาหารตรงหน้าอย่างสบายอารมณ์   เหตุที่หมิงเยว่ต้องตายก็เพราะพวกเขาประเมินความสามารถของนางต่ำจนเกินไป   โชคดีที่วิชาแพทย์พิษของนางมิเคยเปิดเผยให้ใครเห็นง่าย ๆ   คนที่รู้ล้วนเป็นคนที่นางเชื่อใจ ฉะนั้น ไท่จื่อกับหมิงเยว่จึงเป็นเพียงคู่ปรับธรรมดาแต่เพียงเท่านั้น   ถัดต่อจากไปนี้จะต้องมีเรื่องสนุกให้ดูอย่างแน่นอน   เหตุเพราะมีศะนิรนามลอยอยู่ในสระน้ำของสวน   ดังนั้น ผู้คนในตำหนักฉุนเอินจึงตื่นตระหนก   สีหน้าหวาดผวา ใครกันที่บังอาจก่อเรื่องในเจตพระราชวังแห่งนี้?   “พระชายา พระสนมเต๋อเฟยเชิญท่านไปนั่งด้วยเพคะ”   หัวใจของมนุษย์ เมื่อเจอกับเรื่องน่ากลัวก็อดไม่ได้ที่จะวิตกกังวล   พระสนมเต๋อเฟยเองก็เช่นเดียวกัน สิ่งเดียวที่นางพอจะทำได้คือปกป้องลูกชายและลูกสะใภ้ของตนเอง   “หย๋าเอ๋อร์ เมื่อครู่เจ้าออกไปข้างนอก ได้พบเจอใครหรือไม่?”   กุมมือหลินเมิ้งหยา ก่อนจะพานางมานั่งยังที่นั่งข้างตนเอง   พระสนมเต๋อเฟยกระวนกระวายยิ่งนัก หลินเมิ้งหยาออกไปหนึ่งรอบ เมื่อลองคิดดูแล้ว นางเกือบจะตกอยู่อันตราย   ครุ่นคิด ส่ายหน้า   “หม่อมฉันไปนั่งพักอยู่ตำหนักทางด้านข้างเพคะ ป๋ายซูเองก็ไปเป็นเพื่อนหม่อมฉัน แต่มิพบเจอผู้ใด”   ทว่า หางตาของพระสนมเต๋อเฟยกลับเหลือบไปเห็นมือที่กำลังซุกอยู่ภายใต้แขนเสื้อของหลินเมิ้งหยา   ไม่ส่งเสียงใด ๆ ดึงมือข้างนั้นของนางขึ้นมา ก่อนจะแหวกแขนเสื้อออก ทว่า นางกลับได้เห็นมือข้างนั้นถูกพันเอาไว้ด้วยผ้าสีขาว   ร่องรอยของความสงสัยปรากฏขึ้นในหัวใจ มองดูนัยน์ตาของหลินเมิ้งหยา ความสงสัยยิ่งทวีคูณ   “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในเขตของวังหลวง ช่วงนี้เหตุการณ์ไม่ปกติเอาเสียเลย”   สีหน้าของพระสนมเต๋อเฟยเผยให้เห็นความตื่นตระหนก คราวก่อนเกิดเรื่องของฮูหยินหวังในจวนก็ว่าน่าตกใจแล้ว   ตอนนี้ยังเกิดเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ขึ้นอีก แม้นางจะเคยผ่านร้อนผ่านหนาวหรือกระทั่งห่าพายุมาก่อนยังอดที่จะรู้สึกประหลาดใจและตื่นกลัวไม่ได้   “เป็นเช่นหมู่เฟยรับสั่งเพคะ”   หลินเมิ้งหยากับพระสนมเต๋อเฟยมิได้แสดงท่าทางดึงดูดความสนใจจากผู้อื่น   มีเพียงหลงเทียนหยู๋ที่สังเกตเห็นความผิดปกติของหลินเมิ้งหยา   แม้ใบหน้าจะถูกแต่งแต้มเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่อาจปกปิดสีหน้าขาวซีดของนางได้   ภายในห้องโถงแห่งนี้มีคนตกใจกลัวจนหน้าขาวซีดมากมาย แต่หลินเมิ้งหยาหาใช่คนขี้ขลาดไม่   ตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?   “จะเป็นองค์หญิงหมิงเยว่หรือไม่นั้น เปิ่นกงจะหาคำอธิบายให้กับฮ่องเต้หมิงเอง ตอนนี้ดึกมากแล้ว แยกย้ายกันเถิด”   ฮองเฮามีคำตอบอยู่ในใจแล้ว   คิดไม่ถึงเลยว่าชีวิตของลูกชายและลูกสาวฮ่องเต้หมิงจะตกอยู่ในกำมือของหลินเมิ้งหยา   เกรงว่า ฮ่องเต้หมิงจะต้องตามราวีหลินเมิ้งหยาไม่ยอมเลิกราอย่างแน่นอน   เป็นครั้งแรกที่นางเริ่มให้ความสำคัญกับหลินเมิ้งหยา   คิดไม่ถึงเลยว่าหลินเมิ้งหยาจะเก่งกาจเช่นนี้ ดูเหมือนนางจะดูถูกบุตรสาวสกุลหลินเกินไป   “หมู่โฮ้ว ตอนนี้ยังหาตัวฆาตกรไม่พบ หากปล่อยทุกคนไปคงไม่ดีอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”   ไท่จื่ออยากจะลากคอคนร้ายออกมาเสียเดี๋ยวนี้ แต่ฮองเฮากับให้ความสำคัญกับคนส่วนใหญ่มากกว่า   หากระหว่างตรวจสอบขังเหล่าราชนิกูลเอาไว้   เกรงว่าความหวาดกลัวจะยิ่งทวีคูณ   “ไม่มีทางเลือก ทว่า เครือญาติทั้งหมดล้วนอาศัยอยู่ในวังหลวง หากมีเรื่องอันใดก็สามารถตามตัวมาได้”   คำพูดของฮองเฮาได้รับความเห็นด้วยจากคนส่วนใหญ่   ไท่จื่อไม่มีทางเลือก สุดท้ายต้องน้อมรับคำสั่งแต่โดยดี   “เต๋อเฟย เจ้าอยู่ที่นี่ก่อนเถิด พวกเรามิได้เจอกันนานแล้ว เจ้าอยู่รำลึกความรักกับเปิ่นกงก่อนเถิด”   อยู่ ๆ ฮองเฮาหันไปทางพระสนมเต๋อเฟย หัวใจของหลินเมิ้งหยาจึงสั่นไหว   สั่งให้พระสนมเต๋อเฟยอยู่ที่นี่ ฮองเฮาวางแผนอะไรไว้กันแน่?   “เพคะ เฉินเซี่ยน้อบรับพระบัญชา”   สีหน้าของพระสนมเต๋อเฟยแสดงให้เห็นความลำบากใจ   ตอนแรก ฮองเฮาเป็นผู้ไล่นางออกจากวัง ทว่า เมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้น ฮองเฮากลับรั้งนางเอาไว้ที่นี่   ทันใดนั้น คนที่ชอบประติดประต่อเรื่องราวพลันฉุกคิดบางอย่างขึ้นมา   หรือเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับพระสนมเต๋อเฟย?   “หย๋าเอ๋อร์ เจ้ากลับไปกับหยู๋เอ๋อร์ก่อนเถิด หลังจากพูดคุยกับฮองเฮาเสร็จแล้ว เปิ่นกงจึงจะกลับไป”   ตบหลังมือหลินเมิ้งหยาเพื่อปลอบโยนให้นางสบายใจ   หลงเทียนหยู๋สาวเท้ายาว ๆ เข้ามาหาหลินเมิ้งหยา ก่อนจะพยักหน้าลงให้กับผู้เป็นแม่   ฮองเฮาจะต้องไม่ประสงค์ดีอย่างแน่นอน แต่หากคิดจะรังแกหมู่เฟยของเขา นางจะต้องข้ามศพเขาไปก่อน   หลินเมิ้งหยาที่หันกลับไปมองอยู่เนือง ๆ เดินออกจากตำหนักฉุนเอินพร้อมกับหลงเทียนหยู๋   คนส่วนใหญ่ต่างพากันกังวล   แม้แต่หลินเมิ้งหยาเองก็แสดงท่าทางตื่นตระหนกเช่นกัน   ขันทีต่างพาแขกเหรื่อนั่งเกี้ยวออกจากประตูวัง   นั่งอยู่บนรถม้าของตนเอง หลินเมิ้งหยารู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก   หรือฮองเฮากับไท่จื่อจะสงสัยว่าใครกำลังบงการนาง?   เช่นนั้นการขังพระสนมเต๋อเฟยเอาไว้ก็แสดงว่าพวกเขากำลังบีบบังคับนาง?   หากเป็นเช่นนั้น ทั้งสองคนก็อ่อนหัดจนเกินไป   ขณะที่นางกำลังปวดหัวจนแทบระเบิด ผ้าม่านของรถม้าพลันถูกแหวกออก

  ยังไม่ทันจะย่ำกรายผ่านธรณีประตู กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งโชยออกมาเตะจมูก

  ไท่จื่อยกมือหนาผลักประตูบานใหญ่เปิดออก เห็นร่างไร้วิญญาณของคุณหนูหวัง

  “นี่คือ…เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”

  ไท่จื่อโกรธเกรี้ยว ทั้งที่วางแผนทุกอย่างเป็นอย่างดีแล้ว เหตุใดคุณหนูหวังจึงเหลือเพียงแต่ร่างไร้วิญญาณ

  “ตรวจสอบหรือยังว่าศพนิรนามผู้นั้นเป็นใคร?”

  บนพื้น นอกจากเลือดของคุณหนูหวังแล้ว ยังมีรอยเลือดสีแดงสดเป็นทางยาวของผู้อื่น

  สิ่งที่น่าสยดสยองยิ่งกว่านั้นคือภายในห้องแห่งนี้ยังมีเศษผิวหนังและเส้นผมของใครบางคน

  “ในห้องนี้มีเสื้อผ้าที่มิใช่ของคุณหนูหวังอยู่พ่ะย่ะค่ะ หลังจากองครักษ์ได้ตรวจสอบดูแล้ว พบว่า…พบว่าเป็นขององค์หญิงหมิงเยว่แห่งซีฟานพ่ะย่ะค่ะ”

  องครักษ์รายงาน ร่างของไท่จื่อสั่นเทิ้ม

  ผลปรากฏว่า ศพนิรนามที่นอนตายอยู่ในสระน้ำคือองค์หญิงหมิงเยว่แห่งซีฟาน

  หลินเมิ้งหยา…จิตใจอำมหิตยิ่งนัก!

  แอบหยิบยาแก้ปวดออกจากล่องเล็ก ก่อนจะใส่ลงในแก้วเหล้าแล้วดื่มลงไป

  ก่อนเข้ามา ป๋ายซูทำแผลที่มือให้นางก่อนแล้ว

  เมื่อครู่ยังมิมีความรู้สึกอันใด ทว่า ตอนนี้มือของนางกลับปวดร้าวจนแทบจะทนไม่ไหว

  “นายหญิง พวกเรากลับกันก่อนเถิดเจ้าค่ะ บาดแผลของท่าน…”

  ป๋ายซูรู้สึกปวดใจยิ่งนัก มองดูนายหญิงที่พยายามฝืนทน สีหน้าของนางขาวซีดไร้สีเลือด

  “ไม่ได้ หากพวกเรากลับไปตอนนี้จะต้องถูกสงสัยอย่างแน่นอน แต่พวกเขายังไม่มีหลักฐาน ฉะนั้นจึงไม่มีใครรู้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับพวกเรา”

  ซุกมือข้างที่บาดเจ็บเข้าไปในแขนเสื้อ หลินเมิ้งหยาพยายามฝืนแสดงสีหน้าเป็นปกติ

  โชคดีที่ไม่ถูกแทงลึกจนถึงกระดูก มิเช่นนั้น มือข้างนี้คงใช้การไม่ได้อีก

  ไม่นาน ไท่จื่อที่ไปตรวจสอบเหตุการณ์ด้านนอกมาแล้วก็กลับเข้ามา

  สบตากับหลินเมิ้งหยา ทว่า หญิงสาวกลับไร้ซึ่งท่าทางน่าสงสัย

  หรือนางจะมีคนคอยช่วยเหลือ?

  มิเช่นนั้น หมิงเยว่กับคุณหนูหวังจะตายอย่างเอน็จอนาจเช่นนั้นได้อย่างไร?

  หรือนางเองก็มีฝีมือเก็บซ่อนไว้เช่นเดียวกับหมิงเยว่?

  เป็นครั้งแรกที่ไท่จื่อผู้หยิ่งทะนงรู้สึกหวาดกลัวหญิงสาวรูปร่างหน้าตางดงาม

  “ฮวงเอ๋อร์ เป็นอย่างไรบ้าง?”

  ฮองเฮายังคงนั่งอยู่บนที่ประทับ ดังนั้นจึงมิอาจแสดงท่าทีตื่นตระหนกได้

  มองดูสีหน้าของไท่จื่อ สายตาของฮองเฮาพลันเลื่อนไปทางหลินเมิ้งหยา

  แต่เพราะเป็นการปรายหางตาไปเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่มีใครสังเกตเห็น

  คนสอดแนมที่อยู่ข้างกายไท่จื่อเล่าให้นางฟังว่าไท่จื่อต้องการเอาชีวิตหลินเมิ้งหยา

  ดังนั้น นางจึงแอบช่วยเหลือเขา

  ทว่า ดูเหมือนฝ่ายที่ได้รับชัยชนะจะมิใช่ไท่จื่อ

  “ทูลหมู่โฮ้ว ที่สระน้ำในสวนดอกไม้พบศพหญิงนิรนามที่ตายอย่างน่าเอน็จอนาจ ตอนนี้ตรวจสอบยังไม่ชัดเจน แต่…ดูเหมือนจะเป็นองค์หญิงหมิงเยว่แห่งซีฟาน”

  คำพูดของไท่จื่อทำให้บรรยากาศภายในตำหนักฉุนเอินตกอยู่ในความโกลาหล

  สายตาของหลงเทียนหยู๋ตกลงบนร่างบางของหลินเมิ้งหยา

  หมิงเยว่มิพึงพอใจหลินเมิ้งหยานานมากแล้ว

  ฉะนั้น ทันทีที่ไท่จื่อเอ่ยว่าผู้ตายคือหมิงเยว่ เขาจึงรู้ได้เลยว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับชายาของเขาอย่างแน่นอน

  แต่…แล้วอย่างไรเล่า?

  หากเขาอยู่ เขาจะปกป้องนางเอง

  “ว่าอย่างไรนะ? เยว่เอ๋อร์ของข้าตายแล้ว! ไท่จื่อ ท่านพูดจริงหรือ!”

  ฮ่องเต้หมิงหันไปมองทางไท่จื่ออย่างไม่อยากจะเชื่อ เหตุใดหมิงเยว่จึงตาย?

  ไท่จื่อแสดงท่าทางลำบากใจ หมิงเยว่มิเหมือนกับหูลู่หนาน นางเปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจของฮ่องเต้หมิง

  ยิ่งไปกว่านั้น นางยังตายอย่างเอน็จอนาจ

  “ตอนนี้ยังไม่แน่ชัด แต่….แต่ศพของหญิงนิรนามไร้ซึ่งเนื้อหนัง ดังนั้นจึงมิอาจยืนยันตัวตนที่ชัดเจนได้”

  ไร้ซึ่งผิวหนัง? เพียงได้ยินประโยคนี้ คนทั้งตำหนักฉุนเอินต่างพากันหวาดผวา

  “ใครเป็นคนทำ?”

  ฮ่องเต้มหิงสูดลมหายใจ สายตาอำมหิตจ้องไท่จื่อเขม็ง

  แม้จะรู้ว่าหมิงเยว่กับไท่จื่อร่วมมือกัน แต่ครอบครัวมังกรเช่นพวกเขาล้วนเข่นฆ่าเป้าหมายได้สำเร็จทุกครั้ง

  “ยังไม่รู้เหตุการณ์ที่แน่นอน ข้าสั่งให้ทหารของวังหลวงตรวจสอบแล้ว ส่วนจะใช่องค์หญิงหมิงเยว่หรือไม่ คงต้องรอผลการตรวจสอบ”

  สีหน้าของไท่จื่อไม่น่ามองอย่างยิ่ง เขารู้สึกว่าคนที่กระทำการนี้จะต้องไม่ใช่หลินเมิ้งหยา

  เมื่อลองไตร่ตรองดูแล้ว หลินเมิ้งหยาเป็นเพียงหญิงสาวตัวเล็ก ๆ เท่านั้น

  ยิ่งไปกว่านั้น แม้สาวใช้ข้างกายนางจะเก่งกาจ แต่ก็หาใช่คู่ปรับของหมิงเยว่

  อย่าว่าแต่เข้าไปเลาะเนื้อแล่หนังของหมิงเยว่เลย แม้แต่จะหลบหนีคมหอกคมดาบของนางยังยาก

  แต่นอกจากนางแล้ว ยังมีใครอื่นที่มีความแค้นกับหมิงเยว่อีกหรือ?

  “ดี หากมิใช่เยว่เอ๋อร์ก็มิเป็นไร แต่ถ้าหากเป็นเยว่เอ๋อร์แล้วล่ะก็ เช่นนั้นไท่จื่อกับฮองเฮาจะต้องมอบคำอธิบายให่แก่ข้า”

  การมาเยือนในครั้งนี้ ฮ่องเต้หมิงมาด้วยความจริงใจ

  แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะต้องสูญเสียลูกชายและลูกสาวไปถึงสองคน

  ความโกรธเกรี้ยวแผ่ซ่านออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน คราวนี้ฮองเฮาและไท่จื่อมิอาจรับมือด้วยได้ง่าย ๆ

  “ฮ่องเต้หมิงโปรดวางพระทัย หากนางคือหมิงเยว่จริง พวกเราจะจัดการเรื่องนี้แทนพระองค์เอง”

  ไท่จื่อทำได้เพียงปลอบโยนฮ่องเต้หมิงเท่านั้น หากหญิงที่ตายเป็นองค์หญิงหมิงเยว่จริง คาดว่าฮ่องเต้หมิงจะต้องระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างแน่นอน

  สายตาหันไปสบกับดวงตาของฮองเฮา

  แม้จะรู้อยู่แล้วว่าศพนั้นคือหมิงเยว่ แต่ก็มิอาจพูดออกมาได้ตามตรง

  หลินเมิ้งหยานั่งเงียบอยู่บนที่นั่งของตนเอง ก่อนจะจิบสุราและลิ้มรสอาหารตรงหน้าอย่างสบายอารมณ์

  เหตุที่หมิงเยว่ต้องตายก็เพราะพวกเขาประเมินความสามารถของนางต่ำจนเกินไป

  โชคดีที่วิชาแพทย์พิษของนางมิเคยเปิดเผยให้ใครเห็นง่าย ๆ

  คนที่รู้ล้วนเป็นคนที่นางเชื่อใจ ฉะนั้น ไท่จื่อกับหมิงเยว่จึงเป็นเพียงคู่ปรับธรรมดาแต่เพียงเท่านั้น

  ถัดต่อจากไปนี้จะต้องมีเรื่องสนุกให้ดูอย่างแน่นอน

  เหตุเพราะมีศะนิรนามลอยอยู่ในสระน้ำของสวน

  ดังนั้น ผู้คนในตำหนักฉุนเอินจึงตื่นตระหนก

  สีหน้าหวาดผวา ใครกันที่บังอาจก่อเรื่องในเจตพระราชวังแห่งนี้?

  “พระชายา พระสนมเต๋อเฟยเชิญท่านไปนั่งด้วยเพคะ”

  หัวใจของมนุษย์ เมื่อเจอกับเรื่องน่ากลัวก็อดไม่ได้ที่จะวิตกกังวล

  พระสนมเต๋อเฟยเองก็เช่นเดียวกัน สิ่งเดียวที่นางพอจะทำได้คือปกป้องลูกชายและลูกสะใภ้ของตนเอง

  “หย๋าเอ๋อร์ เมื่อครู่เจ้าออกไปข้างนอก ได้พบเจอใครหรือไม่?”

  กุมมือหลินเมิ้งหยา ก่อนจะพานางมานั่งยังที่นั่งข้างตนเอง

  พระสนมเต๋อเฟยกระวนกระวายยิ่งนัก หลินเมิ้งหยาออกไปหนึ่งรอบ เมื่อลองคิดดูแล้ว นางเกือบจะตกอยู่อันตราย

  ครุ่นคิด ส่ายหน้า

  “หม่อมฉันไปนั่งพักอยู่ตำหนักทางด้านข้างเพคะ ป๋ายซูเองก็ไปเป็นเพื่อนหม่อมฉัน แต่มิพบเจอผู้ใด”

  ทว่า หางตาของพระสนมเต๋อเฟยกลับเหลือบไปเห็นมือที่กำลังซุกอยู่ภายใต้แขนเสื้อของหลินเมิ้งหยา

  ไม่ส่งเสียงใด ๆ ดึงมือข้างนั้นของนางขึ้นมา ก่อนจะแหวกแขนเสื้อออก ทว่า นางกลับได้เห็นมือข้างนั้นถูกพันเอาไว้ด้วยผ้าสีขาว

  ร่องรอยของความสงสัยปรากฏขึ้นในหัวใจ มองดูนัยน์ตาของหลินเมิ้งหยา ความสงสัยยิ่งทวีคูณ

  “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในเขตของวังหลวง ช่วงนี้เหตุการณ์ไม่ปกติเอาเสียเลย”

  สีหน้าของพระสนมเต๋อเฟยเผยให้เห็นความตื่นตระหนก คราวก่อนเกิดเรื่องของฮูหยินหวังในจวนก็ว่าน่าตกใจแล้ว

  ตอนนี้ยังเกิดเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ขึ้นอีก แม้นางจะเคยผ่านร้อนผ่านหนาวหรือกระทั่งห่าพายุมาก่อนยังอดที่จะรู้สึกประหลาดใจและตื่นกลัวไม่ได้

  “เป็นเช่นหมู่เฟยรับสั่งเพคะ”

  หลินเมิ้งหยากับพระสนมเต๋อเฟยมิได้แสดงท่าทางดึงดูดความสนใจจากผู้อื่น

  มีเพียงหลงเทียนหยู๋ที่สังเกตเห็นความผิดปกติของหลินเมิ้งหยา

  แม้ใบหน้าจะถูกแต่งแต้มเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่อาจปกปิดสีหน้าขาวซีดของนางได้

  ภายในห้องโถงแห่งนี้มีคนตกใจกลัวจนหน้าขาวซีดมากมาย แต่หลินเมิ้งหยาหาใช่คนขี้ขลาดไม่

  ตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?

  “จะเป็นองค์หญิงหมิงเยว่หรือไม่นั้น เปิ่นกงจะหาคำอธิบายให้กับฮ่องเต้หมิงเอง ตอนนี้ดึกมากแล้ว แยกย้ายกันเถิด”

  ฮองเฮามีคำตอบอยู่ในใจแล้ว

  คิดไม่ถึงเลยว่าชีวิตของลูกชายและลูกสาวฮ่องเต้หมิงจะตกอยู่ในกำมือของหลินเมิ้งหยา

  เกรงว่า ฮ่องเต้หมิงจะต้องตามราวีหลินเมิ้งหยาไม่ยอมเลิกราอย่างแน่นอน

  เป็นครั้งแรกที่นางเริ่มให้ความสำคัญกับหลินเมิ้งหยา

  คิดไม่ถึงเลยว่าหลินเมิ้งหยาจะเก่งกาจเช่นนี้ ดูเหมือนนางจะดูถูกบุตรสาวสกุลหลินเกินไป

  “หมู่โฮ้ว ตอนนี้ยังหาตัวฆาตกรไม่พบ หากปล่อยทุกคนไปคงไม่ดีอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”

  ไท่จื่ออยากจะลากคอคนร้ายออกมาเสียเดี๋ยวนี้ แต่ฮองเฮากับให้ความสำคัญกับคนส่วนใหญ่มากกว่า

  หากระหว่างตรวจสอบขังเหล่าราชนิกูลเอาไว้

  เกรงว่าความหวาดกลัวจะยิ่งทวีคูณ

  “ไม่มีทางเลือก ทว่า เครือญาติทั้งหมดล้วนอาศัยอยู่ในวังหลวง หากมีเรื่องอันใดก็สามารถตามตัวมาได้”

  คำพูดของฮองเฮาได้รับความเห็นด้วยจากคนส่วนใหญ่

  ไท่จื่อไม่มีทางเลือก สุดท้ายต้องน้อมรับคำสั่งแต่โดยดี

  “เต๋อเฟย เจ้าอยู่ที่นี่ก่อนเถิด พวกเรามิได้เจอกันนานแล้ว เจ้าอยู่รำลึกความรักกับเปิ่นกงก่อนเถิด”

  อยู่ ๆ ฮองเฮาหันไปทางพระสนมเต๋อเฟย หัวใจของหลินเมิ้งหยาจึงสั่นไหว

  สั่งให้พระสนมเต๋อเฟยอยู่ที่นี่ ฮองเฮาวางแผนอะไรไว้กันแน่?

  “เพคะ เฉินเซี่ยน้อบรับพระบัญชา”

  สีหน้าของพระสนมเต๋อเฟยแสดงให้เห็นความลำบากใจ

  ตอนแรก ฮองเฮาเป็นผู้ไล่นางออกจากวัง ทว่า เมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้น ฮองเฮากลับรั้งนางเอาไว้ที่นี่

  ทันใดนั้น คนที่ชอบประติดประต่อเรื่องราวพลันฉุกคิดบางอย่างขึ้นมา

  หรือเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับพระสนมเต๋อเฟย?

  “หย๋าเอ๋อร์ เจ้ากลับไปกับหยู๋เอ๋อร์ก่อนเถิด หลังจากพูดคุยกับฮองเฮาเสร็จแล้ว เปิ่นกงจึงจะกลับไป”

  ตบหลังมือหลินเมิ้งหยาเพื่อปลอบโยนให้นางสบายใจ

  หลงเทียนหยู๋สาวเท้ายาว ๆ เข้ามาหาหลินเมิ้งหยา ก่อนจะพยักหน้าลงให้กับผู้เป็นแม่

  ฮองเฮาจะต้องไม่ประสงค์ดีอย่างแน่นอน แต่หากคิดจะรังแกหมู่เฟยของเขา นางจะต้องข้ามศพเขาไปก่อน

  หลินเมิ้งหยาที่หันกลับไปมองอยู่เนือง ๆ เดินออกจากตำหนักฉุนเอินพร้อมกับหลงเทียนหยู๋

  คนส่วนใหญ่ต่างพากันกังวล

  แม้แต่หลินเมิ้งหยาเองก็แสดงท่าทางตื่นตระหนกเช่นกัน

  ขันทีต่างพาแขกเหรื่อนั่งเกี้ยวออกจากประตูวัง

  นั่งอยู่บนรถม้าของตนเอง หลินเมิ้งหยารู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก

  หรือฮองเฮากับไท่จื่อจะสงสัยว่าใครกำลังบงการนาง?

  เช่นนั้นการขังพระสนมเต๋อเฟยเอาไว้ก็แสดงว่าพวกเขากำลังบีบบังคับนาง?

  หากเป็นเช่นนั้น ทั้งสองคนก็อ่อนหัดจนเกินไป

  ขณะที่นางกำลังปวดหัวจนแทบระเบิด ผ้าม่านของรถม้าพลันถูกแหวกออก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ เล่มที่ 6 บทที่ 179 ศพหญิงนิรนาม

Now you are reading ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ Chapter เล่มที่ 6 บทที่ 179 ศพหญิงนิรนาม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  ยังไม่ทันจะย่ำกรายผ่านธรณีประตู กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งโชยออกมาเตะจมูก   ไท่จื่อยกมือหนาผลักประตูบานใหญ่เปิดออก เห็นร่างไร้วิญญาณของคุณหนูหวัง   “นี่คือ…เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”   ไท่จื่อโกรธเกรี้ยว ทั้งที่วางแผนทุกอย่างเป็นอย่างดีแล้ว เหตุใดคุณหนูหวังจึงเหลือเพียงแต่ร่างไร้วิญญาณ   “ตรวจสอบหรือยังว่าศพนิรนามผู้นั้นเป็นใคร?”   บนพื้น นอกจากเลือดของคุณหนูหวังแล้ว ยังมีรอยเลือดสีแดงสดเป็นทางยาวของผู้อื่น   สิ่งที่น่าสยดสยองยิ่งกว่านั้นคือภายในห้องแห่งนี้ยังมีเศษผิวหนังและเส้นผมของใครบางคน   “ในห้องนี้มีเสื้อผ้าที่มิใช่ของคุณหนูหวังอยู่พ่ะย่ะค่ะ หลังจากองครักษ์ได้ตรวจสอบดูแล้ว พบว่า…พบว่าเป็นขององค์หญิงหมิงเยว่แห่งซีฟานพ่ะย่ะค่ะ”   องครักษ์รายงาน ร่างของไท่จื่อสั่นเทิ้ม   ผลปรากฏว่า ศพนิรนามที่นอนตายอยู่ในสระน้ำคือองค์หญิงหมิงเยว่แห่งซีฟาน   หลินเมิ้งหยา…จิตใจอำมหิตยิ่งนัก!   แอบหยิบยาแก้ปวดออกจากล่องเล็ก ก่อนจะใส่ลงในแก้วเหล้าแล้วดื่มลงไป   ก่อนเข้ามา ป๋ายซูทำแผลที่มือให้นางก่อนแล้ว   เมื่อครู่ยังมิมีความรู้สึกอันใด ทว่า ตอนนี้มือของนางกลับปวดร้าวจนแทบจะทนไม่ไหว   “นายหญิง พวกเรากลับกันก่อนเถิดเจ้าค่ะ บาดแผลของท่าน…”   ป๋ายซูรู้สึกปวดใจยิ่งนัก มองดูนายหญิงที่พยายามฝืนทน สีหน้าของนางขาวซีดไร้สีเลือด   “ไม่ได้ หากพวกเรากลับไปตอนนี้จะต้องถูกสงสัยอย่างแน่นอน แต่พวกเขายังไม่มีหลักฐาน ฉะนั้นจึงไม่มีใครรู้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับพวกเรา”   ซุกมือข้างที่บาดเจ็บเข้าไปในแขนเสื้อ หลินเมิ้งหยาพยายามฝืนแสดงสีหน้าเป็นปกติ   โชคดีที่ไม่ถูกแทงลึกจนถึงกระดูก มิเช่นนั้น มือข้างนี้คงใช้การไม่ได้อีก   ไม่นาน ไท่จื่อที่ไปตรวจสอบเหตุการณ์ด้านนอกมาแล้วก็กลับเข้ามา   สบตากับหลินเมิ้งหยา ทว่า หญิงสาวกลับไร้ซึ่งท่าทางน่าสงสัย   หรือนางจะมีคนคอยช่วยเหลือ?   มิเช่นนั้น หมิงเยว่กับคุณหนูหวังจะตายอย่างเอน็จอนาจเช่นนั้นได้อย่างไร?   หรือนางเองก็มีฝีมือเก็บซ่อนไว้เช่นเดียวกับหมิงเยว่?   เป็นครั้งแรกที่ไท่จื่อผู้หยิ่งทะนงรู้สึกหวาดกลัวหญิงสาวรูปร่างหน้าตางดงาม   “ฮวงเอ๋อร์ เป็นอย่างไรบ้าง?”   ฮองเฮายังคงนั่งอยู่บนที่ประทับ ดังนั้นจึงมิอาจแสดงท่าทีตื่นตระหนกได้   มองดูสีหน้าของไท่จื่อ สายตาของฮองเฮาพลันเลื่อนไปทางหลินเมิ้งหยา   แต่เพราะเป็นการปรายหางตาไปเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่มีใครสังเกตเห็น   คนสอดแนมที่อยู่ข้างกายไท่จื่อเล่าให้นางฟังว่าไท่จื่อต้องการเอาชีวิตหลินเมิ้งหยา   ดังนั้น นางจึงแอบช่วยเหลือเขา   ทว่า ดูเหมือนฝ่ายที่ได้รับชัยชนะจะมิใช่ไท่จื่อ   “ทูลหมู่โฮ้ว ที่สระน้ำในสวนดอกไม้พบศพหญิงนิรนามที่ตายอย่างน่าเอน็จอนาจ ตอนนี้ตรวจสอบยังไม่ชัดเจน แต่…ดูเหมือนจะเป็นองค์หญิงหมิงเยว่แห่งซีฟาน”   คำพูดของไท่จื่อทำให้บรรยากาศภายในตำหนักฉุนเอินตกอยู่ในความโกลาหล   สายตาของหลงเทียนหยู๋ตกลงบนร่างบางของหลินเมิ้งหยา   หมิงเยว่มิพึงพอใจหลินเมิ้งหยานานมากแล้ว   ฉะนั้น ทันทีที่ไท่จื่อเอ่ยว่าผู้ตายคือหมิงเยว่ เขาจึงรู้ได้เลยว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับชายาของเขาอย่างแน่นอน   แต่…แล้วอย่างไรเล่า?   หากเขาอยู่ เขาจะปกป้องนางเอง   “ว่าอย่างไรนะ? เยว่เอ๋อร์ของข้าตายแล้ว! ไท่จื่อ ท่านพูดจริงหรือ!”   ฮ่องเต้หมิงหันไปมองทางไท่จื่ออย่างไม่อยากจะเชื่อ เหตุใดหมิงเยว่จึงตาย?   ไท่จื่อแสดงท่าทางลำบากใจ หมิงเยว่มิเหมือนกับหูลู่หนาน นางเปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจของฮ่องเต้หมิง   ยิ่งไปกว่านั้น นางยังตายอย่างเอน็จอนาจ   “ตอนนี้ยังไม่แน่ชัด แต่….แต่ศพของหญิงนิรนามไร้ซึ่งเนื้อหนัง ดังนั้นจึงมิอาจยืนยันตัวตนที่ชัดเจนได้”   ไร้ซึ่งผิวหนัง? เพียงได้ยินประโยคนี้ คนทั้งตำหนักฉุนเอินต่างพากันหวาดผวา   “ใครเป็นคนทำ?”   ฮ่องเต้มหิงสูดลมหายใจ สายตาอำมหิตจ้องไท่จื่อเขม็ง   แม้จะรู้ว่าหมิงเยว่กับไท่จื่อร่วมมือกัน แต่ครอบครัวมังกรเช่นพวกเขาล้วนเข่นฆ่าเป้าหมายได้สำเร็จทุกครั้ง   “ยังไม่รู้เหตุการณ์ที่แน่นอน ข้าสั่งให้ทหารของวังหลวงตรวจสอบแล้ว ส่วนจะใช่องค์หญิงหมิงเยว่หรือไม่ คงต้องรอผลการตรวจสอบ”   สีหน้าของไท่จื่อไม่น่ามองอย่างยิ่ง เขารู้สึกว่าคนที่กระทำการนี้จะต้องไม่ใช่หลินเมิ้งหยา   เมื่อลองไตร่ตรองดูแล้ว หลินเมิ้งหยาเป็นเพียงหญิงสาวตัวเล็ก ๆ เท่านั้น   ยิ่งไปกว่านั้น แม้สาวใช้ข้างกายนางจะเก่งกาจ แต่ก็หาใช่คู่ปรับของหมิงเยว่   อย่าว่าแต่เข้าไปเลาะเนื้อแล่หนังของหมิงเยว่เลย แม้แต่จะหลบหนีคมหอกคมดาบของนางยังยาก   แต่นอกจากนางแล้ว ยังมีใครอื่นที่มีความแค้นกับหมิงเยว่อีกหรือ?   “ดี หากมิใช่เยว่เอ๋อร์ก็มิเป็นไร แต่ถ้าหากเป็นเยว่เอ๋อร์แล้วล่ะก็ เช่นนั้นไท่จื่อกับฮองเฮาจะต้องมอบคำอธิบายให่แก่ข้า”   การมาเยือนในครั้งนี้ ฮ่องเต้หมิงมาด้วยความจริงใจ   แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะต้องสูญเสียลูกชายและลูกสาวไปถึงสองคน   ความโกรธเกรี้ยวแผ่ซ่านออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน คราวนี้ฮองเฮาและไท่จื่อมิอาจรับมือด้วยได้ง่าย ๆ   “ฮ่องเต้หมิงโปรดวางพระทัย หากนางคือหมิงเยว่จริง พวกเราจะจัดการเรื่องนี้แทนพระองค์เอง”   ไท่จื่อทำได้เพียงปลอบโยนฮ่องเต้หมิงเท่านั้น หากหญิงที่ตายเป็นองค์หญิงหมิงเยว่จริง คาดว่าฮ่องเต้หมิงจะต้องระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างแน่นอน   สายตาหันไปสบกับดวงตาของฮองเฮา   แม้จะรู้อยู่แล้วว่าศพนั้นคือหมิงเยว่ แต่ก็มิอาจพูดออกมาได้ตามตรง   หลินเมิ้งหยานั่งเงียบอยู่บนที่นั่งของตนเอง ก่อนจะจิบสุราและลิ้มรสอาหารตรงหน้าอย่างสบายอารมณ์   เหตุที่หมิงเยว่ต้องตายก็เพราะพวกเขาประเมินความสามารถของนางต่ำจนเกินไป   โชคดีที่วิชาแพทย์พิษของนางมิเคยเปิดเผยให้ใครเห็นง่าย ๆ   คนที่รู้ล้วนเป็นคนที่นางเชื่อใจ ฉะนั้น ไท่จื่อกับหมิงเยว่จึงเป็นเพียงคู่ปรับธรรมดาแต่เพียงเท่านั้น   ถัดต่อจากไปนี้จะต้องมีเรื่องสนุกให้ดูอย่างแน่นอน   เหตุเพราะมีศะนิรนามลอยอยู่ในสระน้ำของสวน   ดังนั้น ผู้คนในตำหนักฉุนเอินจึงตื่นตระหนก   สีหน้าหวาดผวา ใครกันที่บังอาจก่อเรื่องในเจตพระราชวังแห่งนี้?   “พระชายา พระสนมเต๋อเฟยเชิญท่านไปนั่งด้วยเพคะ”   หัวใจของมนุษย์ เมื่อเจอกับเรื่องน่ากลัวก็อดไม่ได้ที่จะวิตกกังวล   พระสนมเต๋อเฟยเองก็เช่นเดียวกัน สิ่งเดียวที่นางพอจะทำได้คือปกป้องลูกชายและลูกสะใภ้ของตนเอง   “หย๋าเอ๋อร์ เมื่อครู่เจ้าออกไปข้างนอก ได้พบเจอใครหรือไม่?”   กุมมือหลินเมิ้งหยา ก่อนจะพานางมานั่งยังที่นั่งข้างตนเอง   พระสนมเต๋อเฟยกระวนกระวายยิ่งนัก หลินเมิ้งหยาออกไปหนึ่งรอบ เมื่อลองคิดดูแล้ว นางเกือบจะตกอยู่อันตราย   ครุ่นคิด ส่ายหน้า   “หม่อมฉันไปนั่งพักอยู่ตำหนักทางด้านข้างเพคะ ป๋ายซูเองก็ไปเป็นเพื่อนหม่อมฉัน แต่มิพบเจอผู้ใด”   ทว่า หางตาของพระสนมเต๋อเฟยกลับเหลือบไปเห็นมือที่กำลังซุกอยู่ภายใต้แขนเสื้อของหลินเมิ้งหยา   ไม่ส่งเสียงใด ๆ ดึงมือข้างนั้นของนางขึ้นมา ก่อนจะแหวกแขนเสื้อออก ทว่า นางกลับได้เห็นมือข้างนั้นถูกพันเอาไว้ด้วยผ้าสีขาว   ร่องรอยของความสงสัยปรากฏขึ้นในหัวใจ มองดูนัยน์ตาของหลินเมิ้งหยา ความสงสัยยิ่งทวีคูณ   “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในเขตของวังหลวง ช่วงนี้เหตุการณ์ไม่ปกติเอาเสียเลย”   สีหน้าของพระสนมเต๋อเฟยเผยให้เห็นความตื่นตระหนก คราวก่อนเกิดเรื่องของฮูหยินหวังในจวนก็ว่าน่าตกใจแล้ว   ตอนนี้ยังเกิดเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ขึ้นอีก แม้นางจะเคยผ่านร้อนผ่านหนาวหรือกระทั่งห่าพายุมาก่อนยังอดที่จะรู้สึกประหลาดใจและตื่นกลัวไม่ได้   “เป็นเช่นหมู่เฟยรับสั่งเพคะ”   หลินเมิ้งหยากับพระสนมเต๋อเฟยมิได้แสดงท่าทางดึงดูดความสนใจจากผู้อื่น   มีเพียงหลงเทียนหยู๋ที่สังเกตเห็นความผิดปกติของหลินเมิ้งหยา   แม้ใบหน้าจะถูกแต่งแต้มเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่อาจปกปิดสีหน้าขาวซีดของนางได้   ภายในห้องโถงแห่งนี้มีคนตกใจกลัวจนหน้าขาวซีดมากมาย แต่หลินเมิ้งหยาหาใช่คนขี้ขลาดไม่   ตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?   “จะเป็นองค์หญิงหมิงเยว่หรือไม่นั้น เปิ่นกงจะหาคำอธิบายให้กับฮ่องเต้หมิงเอง ตอนนี้ดึกมากแล้ว แยกย้ายกันเถิด”   ฮองเฮามีคำตอบอยู่ในใจแล้ว   คิดไม่ถึงเลยว่าชีวิตของลูกชายและลูกสาวฮ่องเต้หมิงจะตกอยู่ในกำมือของหลินเมิ้งหยา   เกรงว่า ฮ่องเต้หมิงจะต้องตามราวีหลินเมิ้งหยาไม่ยอมเลิกราอย่างแน่นอน   เป็นครั้งแรกที่นางเริ่มให้ความสำคัญกับหลินเมิ้งหยา   คิดไม่ถึงเลยว่าหลินเมิ้งหยาจะเก่งกาจเช่นนี้ ดูเหมือนนางจะดูถูกบุตรสาวสกุลหลินเกินไป   “หมู่โฮ้ว ตอนนี้ยังหาตัวฆาตกรไม่พบ หากปล่อยทุกคนไปคงไม่ดีอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”   ไท่จื่ออยากจะลากคอคนร้ายออกมาเสียเดี๋ยวนี้ แต่ฮองเฮากับให้ความสำคัญกับคนส่วนใหญ่มากกว่า   หากระหว่างตรวจสอบขังเหล่าราชนิกูลเอาไว้   เกรงว่าความหวาดกลัวจะยิ่งทวีคูณ   “ไม่มีทางเลือก ทว่า เครือญาติทั้งหมดล้วนอาศัยอยู่ในวังหลวง หากมีเรื่องอันใดก็สามารถตามตัวมาได้”   คำพูดของฮองเฮาได้รับความเห็นด้วยจากคนส่วนใหญ่   ไท่จื่อไม่มีทางเลือก สุดท้ายต้องน้อมรับคำสั่งแต่โดยดี   “เต๋อเฟย เจ้าอยู่ที่นี่ก่อนเถิด พวกเรามิได้เจอกันนานแล้ว เจ้าอยู่รำลึกความรักกับเปิ่นกงก่อนเถิด”   อยู่ ๆ ฮองเฮาหันไปทางพระสนมเต๋อเฟย หัวใจของหลินเมิ้งหยาจึงสั่นไหว   สั่งให้พระสนมเต๋อเฟยอยู่ที่นี่ ฮองเฮาวางแผนอะไรไว้กันแน่?   “เพคะ เฉินเซี่ยน้อบรับพระบัญชา”   สีหน้าของพระสนมเต๋อเฟยแสดงให้เห็นความลำบากใจ   ตอนแรก ฮองเฮาเป็นผู้ไล่นางออกจากวัง ทว่า เมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้น ฮองเฮากลับรั้งนางเอาไว้ที่นี่   ทันใดนั้น คนที่ชอบประติดประต่อเรื่องราวพลันฉุกคิดบางอย่างขึ้นมา   หรือเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับพระสนมเต๋อเฟย?   “หย๋าเอ๋อร์ เจ้ากลับไปกับหยู๋เอ๋อร์ก่อนเถิด หลังจากพูดคุยกับฮองเฮาเสร็จแล้ว เปิ่นกงจึงจะกลับไป”   ตบหลังมือหลินเมิ้งหยาเพื่อปลอบโยนให้นางสบายใจ   หลงเทียนหยู๋สาวเท้ายาว ๆ เข้ามาหาหลินเมิ้งหยา ก่อนจะพยักหน้าลงให้กับผู้เป็นแม่   ฮองเฮาจะต้องไม่ประสงค์ดีอย่างแน่นอน แต่หากคิดจะรังแกหมู่เฟยของเขา นางจะต้องข้ามศพเขาไปก่อน   หลินเมิ้งหยาที่หันกลับไปมองอยู่เนือง ๆ เดินออกจากตำหนักฉุนเอินพร้อมกับหลงเทียนหยู๋   คนส่วนใหญ่ต่างพากันกังวล   แม้แต่หลินเมิ้งหยาเองก็แสดงท่าทางตื่นตระหนกเช่นกัน   ขันทีต่างพาแขกเหรื่อนั่งเกี้ยวออกจากประตูวัง   นั่งอยู่บนรถม้าของตนเอง หลินเมิ้งหยารู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก   หรือฮองเฮากับไท่จื่อจะสงสัยว่าใครกำลังบงการนาง?   เช่นนั้นการขังพระสนมเต๋อเฟยเอาไว้ก็แสดงว่าพวกเขากำลังบีบบังคับนาง?   หากเป็นเช่นนั้น ทั้งสองคนก็อ่อนหัดจนเกินไป   ขณะที่นางกำลังปวดหัวจนแทบระเบิด ผ้าม่านของรถม้าพลันถูกแหวกออก

  ยังไม่ทันจะย่ำกรายผ่านธรณีประตู กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งโชยออกมาเตะจมูก

  ไท่จื่อยกมือหนาผลักประตูบานใหญ่เปิดออก เห็นร่างไร้วิญญาณของคุณหนูหวัง

  “นี่คือ…เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”

  ไท่จื่อโกรธเกรี้ยว ทั้งที่วางแผนทุกอย่างเป็นอย่างดีแล้ว เหตุใดคุณหนูหวังจึงเหลือเพียงแต่ร่างไร้วิญญาณ

  “ตรวจสอบหรือยังว่าศพนิรนามผู้นั้นเป็นใคร?”

  บนพื้น นอกจากเลือดของคุณหนูหวังแล้ว ยังมีรอยเลือดสีแดงสดเป็นทางยาวของผู้อื่น

  สิ่งที่น่าสยดสยองยิ่งกว่านั้นคือภายในห้องแห่งนี้ยังมีเศษผิวหนังและเส้นผมของใครบางคน

  “ในห้องนี้มีเสื้อผ้าที่มิใช่ของคุณหนูหวังอยู่พ่ะย่ะค่ะ หลังจากองครักษ์ได้ตรวจสอบดูแล้ว พบว่า…พบว่าเป็นขององค์หญิงหมิงเยว่แห่งซีฟานพ่ะย่ะค่ะ”

  องครักษ์รายงาน ร่างของไท่จื่อสั่นเทิ้ม

  ผลปรากฏว่า ศพนิรนามที่นอนตายอยู่ในสระน้ำคือองค์หญิงหมิงเยว่แห่งซีฟาน

  หลินเมิ้งหยา…จิตใจอำมหิตยิ่งนัก!

  แอบหยิบยาแก้ปวดออกจากล่องเล็ก ก่อนจะใส่ลงในแก้วเหล้าแล้วดื่มลงไป

  ก่อนเข้ามา ป๋ายซูทำแผลที่มือให้นางก่อนแล้ว

  เมื่อครู่ยังมิมีความรู้สึกอันใด ทว่า ตอนนี้มือของนางกลับปวดร้าวจนแทบจะทนไม่ไหว

  “นายหญิง พวกเรากลับกันก่อนเถิดเจ้าค่ะ บาดแผลของท่าน…”

  ป๋ายซูรู้สึกปวดใจยิ่งนัก มองดูนายหญิงที่พยายามฝืนทน สีหน้าของนางขาวซีดไร้สีเลือด

  “ไม่ได้ หากพวกเรากลับไปตอนนี้จะต้องถูกสงสัยอย่างแน่นอน แต่พวกเขายังไม่มีหลักฐาน ฉะนั้นจึงไม่มีใครรู้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับพวกเรา”

  ซุกมือข้างที่บาดเจ็บเข้าไปในแขนเสื้อ หลินเมิ้งหยาพยายามฝืนแสดงสีหน้าเป็นปกติ

  โชคดีที่ไม่ถูกแทงลึกจนถึงกระดูก มิเช่นนั้น มือข้างนี้คงใช้การไม่ได้อีก

  ไม่นาน ไท่จื่อที่ไปตรวจสอบเหตุการณ์ด้านนอกมาแล้วก็กลับเข้ามา

  สบตากับหลินเมิ้งหยา ทว่า หญิงสาวกลับไร้ซึ่งท่าทางน่าสงสัย

  หรือนางจะมีคนคอยช่วยเหลือ?

  มิเช่นนั้น หมิงเยว่กับคุณหนูหวังจะตายอย่างเอน็จอนาจเช่นนั้นได้อย่างไร?

  หรือนางเองก็มีฝีมือเก็บซ่อนไว้เช่นเดียวกับหมิงเยว่?

  เป็นครั้งแรกที่ไท่จื่อผู้หยิ่งทะนงรู้สึกหวาดกลัวหญิงสาวรูปร่างหน้าตางดงาม

  “ฮวงเอ๋อร์ เป็นอย่างไรบ้าง?”

  ฮองเฮายังคงนั่งอยู่บนที่ประทับ ดังนั้นจึงมิอาจแสดงท่าทีตื่นตระหนกได้

  มองดูสีหน้าของไท่จื่อ สายตาของฮองเฮาพลันเลื่อนไปทางหลินเมิ้งหยา

  แต่เพราะเป็นการปรายหางตาไปเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่มีใครสังเกตเห็น

  คนสอดแนมที่อยู่ข้างกายไท่จื่อเล่าให้นางฟังว่าไท่จื่อต้องการเอาชีวิตหลินเมิ้งหยา

  ดังนั้น นางจึงแอบช่วยเหลือเขา

  ทว่า ดูเหมือนฝ่ายที่ได้รับชัยชนะจะมิใช่ไท่จื่อ

  “ทูลหมู่โฮ้ว ที่สระน้ำในสวนดอกไม้พบศพหญิงนิรนามที่ตายอย่างน่าเอน็จอนาจ ตอนนี้ตรวจสอบยังไม่ชัดเจน แต่…ดูเหมือนจะเป็นองค์หญิงหมิงเยว่แห่งซีฟาน”

  คำพูดของไท่จื่อทำให้บรรยากาศภายในตำหนักฉุนเอินตกอยู่ในความโกลาหล

  สายตาของหลงเทียนหยู๋ตกลงบนร่างบางของหลินเมิ้งหยา

  หมิงเยว่มิพึงพอใจหลินเมิ้งหยานานมากแล้ว

  ฉะนั้น ทันทีที่ไท่จื่อเอ่ยว่าผู้ตายคือหมิงเยว่ เขาจึงรู้ได้เลยว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับชายาของเขาอย่างแน่นอน

  แต่…แล้วอย่างไรเล่า?

  หากเขาอยู่ เขาจะปกป้องนางเอง

  “ว่าอย่างไรนะ? เยว่เอ๋อร์ของข้าตายแล้ว! ไท่จื่อ ท่านพูดจริงหรือ!”

  ฮ่องเต้หมิงหันไปมองทางไท่จื่ออย่างไม่อยากจะเชื่อ เหตุใดหมิงเยว่จึงตาย?

  ไท่จื่อแสดงท่าทางลำบากใจ หมิงเยว่มิเหมือนกับหูลู่หนาน นางเปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจของฮ่องเต้หมิง

  ยิ่งไปกว่านั้น นางยังตายอย่างเอน็จอนาจ

  “ตอนนี้ยังไม่แน่ชัด แต่….แต่ศพของหญิงนิรนามไร้ซึ่งเนื้อหนัง ดังนั้นจึงมิอาจยืนยันตัวตนที่ชัดเจนได้”

  ไร้ซึ่งผิวหนัง? เพียงได้ยินประโยคนี้ คนทั้งตำหนักฉุนเอินต่างพากันหวาดผวา

  “ใครเป็นคนทำ?”

  ฮ่องเต้มหิงสูดลมหายใจ สายตาอำมหิตจ้องไท่จื่อเขม็ง

  แม้จะรู้ว่าหมิงเยว่กับไท่จื่อร่วมมือกัน แต่ครอบครัวมังกรเช่นพวกเขาล้วนเข่นฆ่าเป้าหมายได้สำเร็จทุกครั้ง

  “ยังไม่รู้เหตุการณ์ที่แน่นอน ข้าสั่งให้ทหารของวังหลวงตรวจสอบแล้ว ส่วนจะใช่องค์หญิงหมิงเยว่หรือไม่ คงต้องรอผลการตรวจสอบ”

  สีหน้าของไท่จื่อไม่น่ามองอย่างยิ่ง เขารู้สึกว่าคนที่กระทำการนี้จะต้องไม่ใช่หลินเมิ้งหยา

  เมื่อลองไตร่ตรองดูแล้ว หลินเมิ้งหยาเป็นเพียงหญิงสาวตัวเล็ก ๆ เท่านั้น

  ยิ่งไปกว่านั้น แม้สาวใช้ข้างกายนางจะเก่งกาจ แต่ก็หาใช่คู่ปรับของหมิงเยว่

  อย่าว่าแต่เข้าไปเลาะเนื้อแล่หนังของหมิงเยว่เลย แม้แต่จะหลบหนีคมหอกคมดาบของนางยังยาก

  แต่นอกจากนางแล้ว ยังมีใครอื่นที่มีความแค้นกับหมิงเยว่อีกหรือ?

  “ดี หากมิใช่เยว่เอ๋อร์ก็มิเป็นไร แต่ถ้าหากเป็นเยว่เอ๋อร์แล้วล่ะก็ เช่นนั้นไท่จื่อกับฮองเฮาจะต้องมอบคำอธิบายให่แก่ข้า”

  การมาเยือนในครั้งนี้ ฮ่องเต้หมิงมาด้วยความจริงใจ

  แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะต้องสูญเสียลูกชายและลูกสาวไปถึงสองคน

  ความโกรธเกรี้ยวแผ่ซ่านออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน คราวนี้ฮองเฮาและไท่จื่อมิอาจรับมือด้วยได้ง่าย ๆ

  “ฮ่องเต้หมิงโปรดวางพระทัย หากนางคือหมิงเยว่จริง พวกเราจะจัดการเรื่องนี้แทนพระองค์เอง”

  ไท่จื่อทำได้เพียงปลอบโยนฮ่องเต้หมิงเท่านั้น หากหญิงที่ตายเป็นองค์หญิงหมิงเยว่จริง คาดว่าฮ่องเต้หมิงจะต้องระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างแน่นอน

  สายตาหันไปสบกับดวงตาของฮองเฮา

  แม้จะรู้อยู่แล้วว่าศพนั้นคือหมิงเยว่ แต่ก็มิอาจพูดออกมาได้ตามตรง

  หลินเมิ้งหยานั่งเงียบอยู่บนที่นั่งของตนเอง ก่อนจะจิบสุราและลิ้มรสอาหารตรงหน้าอย่างสบายอารมณ์

  เหตุที่หมิงเยว่ต้องตายก็เพราะพวกเขาประเมินความสามารถของนางต่ำจนเกินไป

  โชคดีที่วิชาแพทย์พิษของนางมิเคยเปิดเผยให้ใครเห็นง่าย ๆ

  คนที่รู้ล้วนเป็นคนที่นางเชื่อใจ ฉะนั้น ไท่จื่อกับหมิงเยว่จึงเป็นเพียงคู่ปรับธรรมดาแต่เพียงเท่านั้น

  ถัดต่อจากไปนี้จะต้องมีเรื่องสนุกให้ดูอย่างแน่นอน

  เหตุเพราะมีศะนิรนามลอยอยู่ในสระน้ำของสวน

  ดังนั้น ผู้คนในตำหนักฉุนเอินจึงตื่นตระหนก

  สีหน้าหวาดผวา ใครกันที่บังอาจก่อเรื่องในเจตพระราชวังแห่งนี้?

  “พระชายา พระสนมเต๋อเฟยเชิญท่านไปนั่งด้วยเพคะ”

  หัวใจของมนุษย์ เมื่อเจอกับเรื่องน่ากลัวก็อดไม่ได้ที่จะวิตกกังวล

  พระสนมเต๋อเฟยเองก็เช่นเดียวกัน สิ่งเดียวที่นางพอจะทำได้คือปกป้องลูกชายและลูกสะใภ้ของตนเอง

  “หย๋าเอ๋อร์ เมื่อครู่เจ้าออกไปข้างนอก ได้พบเจอใครหรือไม่?”

  กุมมือหลินเมิ้งหยา ก่อนจะพานางมานั่งยังที่นั่งข้างตนเอง

  พระสนมเต๋อเฟยกระวนกระวายยิ่งนัก หลินเมิ้งหยาออกไปหนึ่งรอบ เมื่อลองคิดดูแล้ว นางเกือบจะตกอยู่อันตราย

  ครุ่นคิด ส่ายหน้า

  “หม่อมฉันไปนั่งพักอยู่ตำหนักทางด้านข้างเพคะ ป๋ายซูเองก็ไปเป็นเพื่อนหม่อมฉัน แต่มิพบเจอผู้ใด”

  ทว่า หางตาของพระสนมเต๋อเฟยกลับเหลือบไปเห็นมือที่กำลังซุกอยู่ภายใต้แขนเสื้อของหลินเมิ้งหยา

  ไม่ส่งเสียงใด ๆ ดึงมือข้างนั้นของนางขึ้นมา ก่อนจะแหวกแขนเสื้อออก ทว่า นางกลับได้เห็นมือข้างนั้นถูกพันเอาไว้ด้วยผ้าสีขาว

  ร่องรอยของความสงสัยปรากฏขึ้นในหัวใจ มองดูนัยน์ตาของหลินเมิ้งหยา ความสงสัยยิ่งทวีคูณ

  “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในเขตของวังหลวง ช่วงนี้เหตุการณ์ไม่ปกติเอาเสียเลย”

  สีหน้าของพระสนมเต๋อเฟยเผยให้เห็นความตื่นตระหนก คราวก่อนเกิดเรื่องของฮูหยินหวังในจวนก็ว่าน่าตกใจแล้ว

  ตอนนี้ยังเกิดเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ขึ้นอีก แม้นางจะเคยผ่านร้อนผ่านหนาวหรือกระทั่งห่าพายุมาก่อนยังอดที่จะรู้สึกประหลาดใจและตื่นกลัวไม่ได้

  “เป็นเช่นหมู่เฟยรับสั่งเพคะ”

  หลินเมิ้งหยากับพระสนมเต๋อเฟยมิได้แสดงท่าทางดึงดูดความสนใจจากผู้อื่น

  มีเพียงหลงเทียนหยู๋ที่สังเกตเห็นความผิดปกติของหลินเมิ้งหยา

  แม้ใบหน้าจะถูกแต่งแต้มเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่อาจปกปิดสีหน้าขาวซีดของนางได้

  ภายในห้องโถงแห่งนี้มีคนตกใจกลัวจนหน้าขาวซีดมากมาย แต่หลินเมิ้งหยาหาใช่คนขี้ขลาดไม่

  ตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?

  “จะเป็นองค์หญิงหมิงเยว่หรือไม่นั้น เปิ่นกงจะหาคำอธิบายให้กับฮ่องเต้หมิงเอง ตอนนี้ดึกมากแล้ว แยกย้ายกันเถิด”

  ฮองเฮามีคำตอบอยู่ในใจแล้ว

  คิดไม่ถึงเลยว่าชีวิตของลูกชายและลูกสาวฮ่องเต้หมิงจะตกอยู่ในกำมือของหลินเมิ้งหยา

  เกรงว่า ฮ่องเต้หมิงจะต้องตามราวีหลินเมิ้งหยาไม่ยอมเลิกราอย่างแน่นอน

  เป็นครั้งแรกที่นางเริ่มให้ความสำคัญกับหลินเมิ้งหยา

  คิดไม่ถึงเลยว่าหลินเมิ้งหยาจะเก่งกาจเช่นนี้ ดูเหมือนนางจะดูถูกบุตรสาวสกุลหลินเกินไป

  “หมู่โฮ้ว ตอนนี้ยังหาตัวฆาตกรไม่พบ หากปล่อยทุกคนไปคงไม่ดีอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”

  ไท่จื่ออยากจะลากคอคนร้ายออกมาเสียเดี๋ยวนี้ แต่ฮองเฮากับให้ความสำคัญกับคนส่วนใหญ่มากกว่า

  หากระหว่างตรวจสอบขังเหล่าราชนิกูลเอาไว้

  เกรงว่าความหวาดกลัวจะยิ่งทวีคูณ

  “ไม่มีทางเลือก ทว่า เครือญาติทั้งหมดล้วนอาศัยอยู่ในวังหลวง หากมีเรื่องอันใดก็สามารถตามตัวมาได้”

  คำพูดของฮองเฮาได้รับความเห็นด้วยจากคนส่วนใหญ่

  ไท่จื่อไม่มีทางเลือก สุดท้ายต้องน้อมรับคำสั่งแต่โดยดี

  “เต๋อเฟย เจ้าอยู่ที่นี่ก่อนเถิด พวกเรามิได้เจอกันนานแล้ว เจ้าอยู่รำลึกความรักกับเปิ่นกงก่อนเถิด”

  อยู่ ๆ ฮองเฮาหันไปทางพระสนมเต๋อเฟย หัวใจของหลินเมิ้งหยาจึงสั่นไหว

  สั่งให้พระสนมเต๋อเฟยอยู่ที่นี่ ฮองเฮาวางแผนอะไรไว้กันแน่?

  “เพคะ เฉินเซี่ยน้อบรับพระบัญชา”

  สีหน้าของพระสนมเต๋อเฟยแสดงให้เห็นความลำบากใจ

  ตอนแรก ฮองเฮาเป็นผู้ไล่นางออกจากวัง ทว่า เมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้น ฮองเฮากลับรั้งนางเอาไว้ที่นี่

  ทันใดนั้น คนที่ชอบประติดประต่อเรื่องราวพลันฉุกคิดบางอย่างขึ้นมา

  หรือเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับพระสนมเต๋อเฟย?

  “หย๋าเอ๋อร์ เจ้ากลับไปกับหยู๋เอ๋อร์ก่อนเถิด หลังจากพูดคุยกับฮองเฮาเสร็จแล้ว เปิ่นกงจึงจะกลับไป”

  ตบหลังมือหลินเมิ้งหยาเพื่อปลอบโยนให้นางสบายใจ

  หลงเทียนหยู๋สาวเท้ายาว ๆ เข้ามาหาหลินเมิ้งหยา ก่อนจะพยักหน้าลงให้กับผู้เป็นแม่

  ฮองเฮาจะต้องไม่ประสงค์ดีอย่างแน่นอน แต่หากคิดจะรังแกหมู่เฟยของเขา นางจะต้องข้ามศพเขาไปก่อน

  หลินเมิ้งหยาที่หันกลับไปมองอยู่เนือง ๆ เดินออกจากตำหนักฉุนเอินพร้อมกับหลงเทียนหยู๋

  คนส่วนใหญ่ต่างพากันกังวล

  แม้แต่หลินเมิ้งหยาเองก็แสดงท่าทางตื่นตระหนกเช่นกัน

  ขันทีต่างพาแขกเหรื่อนั่งเกี้ยวออกจากประตูวัง

  นั่งอยู่บนรถม้าของตนเอง หลินเมิ้งหยารู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก

  หรือฮองเฮากับไท่จื่อจะสงสัยว่าใครกำลังบงการนาง?

  เช่นนั้นการขังพระสนมเต๋อเฟยเอาไว้ก็แสดงว่าพวกเขากำลังบีบบังคับนาง?

  หากเป็นเช่นนั้น ทั้งสองคนก็อ่อนหัดจนเกินไป

  ขณะที่นางกำลังปวดหัวจนแทบระเบิด ผ้าม่านของรถม้าพลันถูกแหวกออก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+