[นิยายแปล] Game of the World Tree 102 ไซบีเรียนฮัสกี

Now you are reading [นิยายแปล] Game of the World Tree Chapter 102 ไซบีเรียนฮัสกี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

      # trigger warning # ตอนนี้มีเกี่ยวกับอาหาร

      # ความเดิม # ไมเรลกินเนื้อย่าง

 

 

 

      เวลานี้ ภายในสมองน้อย ๆ ของมังกรดำไมเรล กำลังเต็มไปด้วยความสับสน

      มันไม่เข้าใจสถานการณ์ในปัจจุบันเลยแม้แต่น้อย

      สภาพจิตใจของมังกรดำตัวน้อย เพิ่งพ้นจากสภาวะวิกฤติ หลังจากทำใจได้ว่าชีวิตต่อจากนี้ของมันจะถูกกดขี่และริดรอนเสรีภาพ และอาจต้องอยู่ในรัศมีเพียงแค่ 3 กิโลเมตรตลอดไป

      แต่นั่นคือก่อนที่…

      มันจะ…

      พบว่า…

      3 กิโลเมตรของยัยเทพมารนั่น…

      มัน – ไม่มี – อาหาร!

      กระทั่งกวางป่าสักตัวก็ยังไม่มี!!

      “บ้าไปแล้ว! หรือท่านไมเรลผู้สูงศักดิ์ จะต้องมาอดตายอยู่ตรงนี้ !”

      ไมเรลเป็นมังกรดำวัยเยาว์ ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงเจริญเติบโต ร่างกายของมันจึงต้องการอาหารจำนวนมาก

      และตลอดช่วงเวลาที่อาศัยอยู่ในซากปรักหักพังของปราสาทบนเทือกเขาทมิฬ มันก็แทบไม่เคยได้สัมผัสกับความยากลำบากในการทำให้ตนได้อิ่มท้อง…

      ภาพวันวานอันแสนสุขพลันฉายขึ้นมาในดวงใจที่หมองหม่นของไมเรล

      ภาพของออร์คหนุ่มร่างกายกำยำที่ช่วยกันเข็นอาหารมาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

      ออร์ควัยกลางคนท่าทางเฉลียวฉลาดที่คอยบริการโบกพัดด้วยความกระตือรือร้น

      ออร์คชราหน้าตาอ่อนโยนในชุดคลุม และเหล่าลูกสมุนที่ปรนนิบัติรับใช้มันด้วยความเต็มใจ

      เหนือสิ่งอื่นใด บนใบหน้าของออร์คทุกตัวนั้น… ล้วนมีรอยยิ้มประดับอยู่เสมอ

      …

      ทันใดนั้น สัตว์ประหลาดหูยาวพลันปรากฎตัวขึ้นในภาพวันวานแสนสงบสุขของมังกรดำ

      พวกมันชูมือวิ่งเข้าใส่เหล่าออร์คที่กำลังรับใช้ไมเรล!

      เสียงตะโกนของพวกมันดังกึกก้อง! 

      ‘ค่าประสบการณ์! แต้มผลงาน!!’

      “เจ้าออร์ค! หนีไป!”

      เฮือก

      ไมเรลสะดุ้ง จนเกือบจะหลุดออกจากภวังค์ ภาพวันวานของมันเริ่มพังทลายลง และถูกแทนที่ด้วยโลกอันหมองหม่นที่ไร้สีสัน

      แต่แล้ว….

      ‘ไม่เป็นไรแล้วล่ะ! ทำไมน่ะรึ?!’

      สีสันพลันปรากฏขึ้นมาในโลกอันหมองหม่น

      เนื้อแน่นสุดแสนกำยำ…

      กลิ่นหอมรัญจวนอันเป็นเอกลักษณ์…

      ผิวสัมผัสอันอ่อนละมุนที่เป็นดั่งความหวังให้มีชีวิตต่อไป…

      ‘เพราะว่าฉันมาแล้วไง!!’

      เฮือก!! (2)

      ไมเรลรีบสะบัดหัวเรียกสติของตนจากรสชาติของเนื้อย่าง

      “ไม่มีวัน! ไม่มีทาง!! ท่านไมเรลจะไม่ยอมก้มหัวให้กับความชั่วร้าย!”

      แน่นอนว่ามันลืมเรื่องที่ตนเพิ่งจะก้มหัวให้เทพธิดาบางองค์ไปเรียบร้อยแล้ว

      ในเวลาเดียวกัน กลิ่นเนื้อย่างไฟร้อนแสนหอมกรุ่น ที่หอมยิ่งกว่าเนื้อที่มันเพิ่งกินเข้าไป ก็โชยเข้ามาทางปากถ้ำ

      กระเพาะของไมเรลที่สูดกลิ่นเนื้อย่างเข้าไป พลันทำงานหนักขึ้นมาโดยสัญชาตญาณ 

      ขณะนี้ มังกรดำตัวน้อยไม่อาจต้านทานความหิวได้อีกต่อไป น้ำลายของมันไหลออกมาเจิ่งนองเต็มพื้น

      “หอม… หอมมาก…”

      มันเคลื่อนกายเข้าหาต้นตอของกลิ่นโดยไม่รู้ตัว 

      ขาของมันส่งร่างหิวโซของมังกรดำออกมาจากถ้ำ ข้ามผ่านเนินเขาขนาดเล็ก 

      และ ณ ชายขอบบริเวณเมืองของพวกชั่วร้าย ต้นตอของกลิ่นอันหอมหวนก็ปรากฏขึ้น…

      เด็กสาวลูกเมี้ยวเค็มที่ไมเรลคุ้นหน้าคุ้นตา กำลังก้มหน้าก้มตาทำบางสิ่ง 

      เธอและเผ่าหูยาวเพศชายอีกสองตนกำลังย่างเนื้อชิ้นมหึมาบนกองไฟขนาดย่อม

      ดวงตาใสแจ๋วของไมเรลผู้จวนเจียนจะพ่ายแพ้ต่อความหิวเป็นครั้งที่สองของวัน จับจ้องไปที่เนื้อย่างชิ้นนั้นราวกับน้องหมาหิวโซที่เห็นอาหารเปียก…

      เนื้อย่างชิ้นยักษ์ ที่ผิวนอกดูชุ่มฉ่ำจากการย่างด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสม…

      เสียง เปรี๊ยะ ที่ดังแว่วมาเป็นระยะ ของไขมันที่กำลังสัมผัสกับเปลวไฟ บ่งชี้ถึงสภาพของเนื้อย่าง ที่มีอัตราส่วนระหว่างเนื้อกับไขมันที่สมบูรณ์แบบ…

      เมื่อประกอบกับกลิ่นหอมรัญจวนอันเป็นเอกลักษณ์ ของเนื้อที่แต่งแต้มด้วยเครื่องเทศ และคลุกเคล้าไปด้วยน้ำผึ้งแสนชุ่มฉ่ำ… 

      สติของไมเรลก็แทบจะขาดผึงทันที

      เจ้ามังกรน้อยที่ยังพอประคองสติของตนเอาไว้ได้ รีบเบนสายตาออกไปจากก้อนเนื้อย่าง

      ทว่า สายตาของมันก็หยุดชะงักลงทันที ราวกับมีแขนอันกำยำเอื้อมมาล็อกคอของมันไว้

      ที่มาของแขนในจินตนาการของไมเรลนั้น… คือเนื้อสัตว์อสูรที่กองอยู่เป็นภูเขาขนาดย่อม ที่กองอยู่ใกล้ ๆ เหล่าหูยาวผู้ย่างเนื้อ!

      ~ ❀ ~

      เด็กสาวผู้กำลังย่างเนื้อชิ้นยักษ์ เหลือบมองไปที่ศีรษะขนาดใหญ่ที่โผล่ขึ้นมาจากหลังเนินเขาในบริเวณใกล้เคียง 

      ดวงตาใสแจ๋วราวกับเม็ดลำไยของมังกรดำราวกับมี ๑ หมุนวนไปมา เหมือนเครื่องซักผ้าฝาหน้าที่กำลังทำงานอย่างเต็มกำลัง…

      ลูกเมี้ยวเค็มชำเลืองมองมังกรดำอย่างพึงพอใจ เธอยิ้มจนดวงตาคู่งามหรี่ลงราวกับจันทร์เสี้ยว ก่อนจะคว้าเอาเนื้อเสียบไม้ย่างควันฉุยจากกองไฟขึ้นมา แล้วอ้าปากกัดลงไปเต็มคำ

      หงับ…

      รสชาติอันเข้มข้นพวยพุ่งออกมาจากเนื้อที่ย่างด้วยฝีมือยอดกุ๊กแดนอีสาน 

      “เนื้อย่างไม้นี้ มีผิวสัมผัสแสนนุ่มลิ้น อัดแน่นไปด้วยรสชาติมาก ชูรสด้วยความเค็มเล็กน้อย ช่วยให้เนื้อย่างอร่อยขึ้นได้อย่างเหลือเชื่อค่ะ!”

      “การกัดเพียงคำเล็ก ๆ ก็ทำให้ไขมันที่แทรกในเนื้อซึ่งถูกย่างจนหอมกรุ่น ละลายออกมาเสริมกับรสชาติภายในปาก!”

      “องค์ประกอบแสนอัศจรรย์ต่างคลุกเคล้ารวมกันจนกลายเป็นสุดยอดรสชาติตั้งแต่คำแรกที่กัดเข้าไป กลายเป็นความอร่อยที่เมี้ยวไม่สามารถหาสิ่งใดมาเปรียบได้เลยค่ะ!!” 

      “ไม่ผิดหวังค่ะ สมชื่อเนื้อย่างอีสานแท้ รสชาติต้นตำรับพี่น้องชาวอีสาน!”

      “หลังจากนี้จะให้ทุกคนมาชิมกันค่ะ แล้วต่อไปจะเป็นโจทย์ของวันนี้–”

      ประสบการณ์สุดล้ำเลิศนี้ ส่งผ่านออกมาทางดวงตาของเด็กสาว ที่เปล่งประกายขึ้นมาราวกับแสงดาว

      ดวงตาของไมเรลเปล่งประกายขึ้นมาเมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของเด็กสาว น้ำลายของมันหกทะลักออกมานอกปาก 

      ฟุ่บ!

      ลูกเมี้ยวเค็มเหลือบตาไปทางมังกรดำ ส่งผลให้มันรีบเก็บซ่อนความรู้สึก (และน้ำลาย) ของตนอย่างรวดเร็ว

      มันเชิดศีรษะของตนอย่างหยิ่งผยอง เม้มริมฝีปากจนแก้มป่องด้วยความโกรธ พลางหายใจเข้าออกจนตัวโยน ราวกับสุนัขไซบีเรียนฮัสกีขนาดใหญ่ 

      …โดยที่สายตาของมันยังคงชำเลืองมองมาทางเด็กสาว

      ลูกเมี้ยวเค็มที่เห็นว่าแผนของตนได้ผล ก็ค่อย ๆ เผยรอยยิ้มอันเป็นมิตรออกมา 

      สองมือของเธอคว้าเอากิ่งไม้อันเขื่องที่เสียบเนื้อย่างชิ้นใหญ่พิเศษขึ้นมา เธอยกมันขึ้นในระดับจมูก ก่อนจะบรรจงสูดเข้าไปเต็มปอด…

      หวา… หอมจังเลย!

      สีหน้าของเด็กสาวดูเคลิบเคลิ้มราวกับกำลังจมลงสู่ห้วงอารมณ์แห่งความสุข 

      เธอยกเนื้อย่างไม้ยักษ์ขึ้น ก่อนจะกล่าวชักชวนมังกรดำน้อย

      “กินปะ?”

      ไมเรล: “…”

      สีหน้าของมังกรดำตัวน้อยดูกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

      มันพยายามเก็บงำความอยากของตนไว้

      โครก…

      เสียงท้องร้องดังลั่นออกมาจากท้องของมันอีกครั้ง

      ไมเรล: “…”

      มันสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ พลางเริ่มสะกดจิตตัวเอง

      นี่ไม่ใช่การยอมจำนน! เป็นแค่การสงบศึกชั่วคราว! นี่ไม่ใช่การยอมรับ! แต่เป็นแค่การสะสมพลังเพื่ออิสระภาพในอนาคต!

      เป็นอีกครั้งที่ไมเรลพ่ายแพ้ให้แก่ความหิวโหย มังกรดำก้าวขาออกมาด้วยใบหน้าที่ดูเหม่อลอยราวกับต้องมนตร์ มันเดินมาข้างกายลูกเมี้ยวเค็ม ก่อนจะค้อมศีรษะลงต่ำ และกินเนื้อย่างทั้งไม้หมดเกลี้ยงในคำเดียว

      “หงับ หงับ…”

      ไขมันจากเนื้อย่างที่อัดแน่นไปด้วยรสชาติแสนเข้มข้น ส่วนผสมอันกลมกล่อมระหว่างเส้นเอ็นเคี้ยวหยุ่นและมัดกล้ามเนื้อหนานุ่มที่ย่างจนได้ที่ ตามมาด้วยความหอมตลบอบอวลอันเป็นเอกลักษณ์ของเนื้อย่างหมักเครื่องเทศ กำลังกระจายไปทั่วทุกสารทิศภายในปากของมัน

      หอม… หอมเกินไปแล้ว!

      ดวงตามังกรของไมเรลเบิกกว้าง 

      แม้ว่าเนื้อย่างไม้ยักษ์จะอันตรธานไปแล้ว มันก็ยังคงแลบลิ้นเลียริมฝีปากของตัวเองไม่หยุดหย่อน

      สิ่งนี้… คืออาหารที่อร่อยที่สุดในชีวิตของท่านไมเรล!

      อาจจะเพราะความหิวคือเครื่องปรุงรสที่ดีที่สุด ไมเรลจึงรู้สึกว่าเนื้อย่างไม้นี้อร่อยยิ่งกว่าอาหารจานใดในแดนมนุษย์!

      อาหารของพวกมนุษย์คือเพชรยอดมงกุฏของวงการอาหาร และมังกรผู้สูงศักดิ์ผู้เป็นพ่อบุญธรรมของไมเรลก็ชื่นชอบอาหารเหล่านั้นอย่างมาก แต่ถึงกระนั้น อาหารทุกจานที่ไมเรลเคยได้ลิ้มลองตลอดระยะเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่กับพ่อบุญธรรม กลับไม่มีอาหารจานใดอร่อยเท่าเนื้อเสียบไม้ย่างไม้นี้แม้แต่จานเดียว!

      ลูกเมี้ยวเค็มจ้องไปที่ดวงตาอันเป็นประกายของไมเรล พลางคลี่ยิ้มอย่างสุขใจ

      “มีเนื้ออีกเยอะเลยล่ะ …แต่ต้องใช้เวลาย่างหน่อยนะ”

      หัวใจของลูกเมี้ยวเค็มเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามแผน เอลฟ์สาวรอจังหวะครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวต่อ

      “คงใช้เวลาอีกพักนึงถึงจะย่างเสร็จ ระหว่างที่รอ… นายสนใจลองฟังนิทานสักเรื่องไหม?

      “นิทาน?”

      ไมเรลชะงักไปครู่หนึ่ง

      มังกรดำชำเลืองมองสาวหูยาวผู้ชั่วร้ายด้วยท่าทีหยิ่งยโส ทว่าความสงสัยทำให้มันเผลอพลั้งปากออกมา

      “นิทานอะไร?”

      รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของลูกเมี้ยวเค็ม

      “นิทานเกี่ยวกับเผ่าพันธุ์แสนดีผู้รักสงบน่ะ…”

      เผ่าพันธุ์แสนดี…

      ไมเรลปั้นหน้านิ่ว มันลอบเย้ยหยันอยู่ในใจ

      แสนดีเรอะ?

      หึหึ

      เจ้าพวกชั่วร้ายจะรู้จักความดีได้ไง?

      “ฮึ ก็ได้ ท่านไมเรลจะมอบโอกาสให้เจ้าสักครั้ง”

      ไมเรลตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่มันคิดว่าเย็นชาที่สุด

      เอาเถอะ

      ท่านไมเรลกินอาหารของเจ้าหูยาวชั่วร้ายเข้าไป ท่านไมเรลก็ควรจะรับฟังเรื่องเล่าของเจ้าปีศาจตัวน้อยสักหน่อย!

      ยัยปีศาจตนนี้ดูจะยังมีสติเหลืออยู่บ้าง คงเป็นเรื่องดีถ้าท่านไมเรลจะรับเธอมาเป็นผู้ติดตาม เพื่อชี้นำให้ประพฤติตัวตามครรลองคลองธรรม

      ยังไงซะ …เนื้อย่างของพวกหูยาวก็อร่อยใช้ได้

      ไม่! ท่านไมเรลไม่ได้เห็นแก่กินนะ!

      ~ ❀ ~

      สูงขึ้นไปบนฟ้า เทพธิดาผู้เฝ้ามองสถานการณ์เบื้องล่างกำลังรู้สึกพึงใจอย่างยิ่ง เพราะภาพที่เธอได้เห็นคือไมเรลที่ตกหลุมพรางของลูกเมี้ยวเค็ม โดยไม่มีวี่แววว่าจะปีนกลับขึ้นมาได้

      “ดูเหมือนว่ามังกรไซบีเรียนฮัสกีตัวนี้ จะไม่รอดแน่ ๆ แล้ว”

      เธอคลี่ยิ้ม ก่อนจะมุ่งความสนใจมาที่สถานการณ์ทางฝั่งตัวเอง

      เผ่าเฟลมได้กลับมาสู่ป่าเอลฟ์เรียบร้อยแล้ว และจำนวนผู้เล่นก็กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

      อีฟคิดว่าถ้าปล่อยไว้เช่นนี้ การที่จะมีใครสักคนสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในป่าเอลฟ์ ก็คงขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น

      เมื่อเวลานั้นมาถึง ต่อให้เธอจะโยนความผิดให้กับเฮลาอีกครั้ง อูลร์ก็คงจะไม่ยอมปล่อยผ่านไปง่าย ๆ อย่างแน่นอน เพราะดินแดนแห่งนี้ไม่ใช่พื้นที่ในอาณัติของเฮลาอย่างโลกใต้พิภพ

      แถมการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของอูลร์ จะต้องรอบคอบกว่าเดิมแน่นอน

      ดีไม่ดี… อูลร์อาจจะส่งบุตรแห่งเทพของตนมาตรวจสอบด้วยตัวเอง

      พลังของเธอที่เพิ่มขึ้นมาจากการกำเนิดของอาณาจักรแห่งเทพ ส่งผลโดยตรงกับขนาดของอาณาเขตคุ้มกันที่อีฟสร้างไว้รอบต้นไม้โลก ทำให้รัศมีของมันขยายออกไปโดยอัตโนมัติ ครอบคลุมพื้นที่ในรัศมี 30 กิโลเมตรจากต้นไม้โลก

      กล่าวอีกนัยหนึ่ง รูปลักษณ์ของต้นไม้โลกที่มองเห็นได้เมื่อออกจากรัศมี 30 กิโลเมตรนี้ไป จะเป็นเพียงภาพต้นไม้แห้งเฉาขนาดมหึมาต้นหนึ่งเท่านั้น

      ในขณะเดียวกัน ถ้าสามารถลอบแฝงตัวเข้ามาได้ ก็จะเห็นสภาพที่แท้จริงของร่างที่ฟื้นฟูของเธอ

      แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีรับมือกับเรื่องดังกล่าว หลังจากที่อาณาจักรแห่งเทพของเธอถือกำเนิด อีฟก็พบว่าตนสามารถควบคุมพลังในร่างหลักได้อย่างเฉียบคมยิ่งขึ้น

      เธอจึงตัดสินใจยกระดับการอำพรางของเธอ

      “การสร้างภาพลวงตาในระยะที่กำหนดมันเอาท์ไปแล้ว จัดเต็มใส่ร่างต้นไม้ไปเลยดีกว่า เราสามารถเคลือบพลังไว้บนร่างตัวเอง ให้ร่างจริงปรากฏต่อพวกสาวกและผู้เล่นเท่านั้น!”

      “แล้วถ้าใช้วิธีนี้ ต่อให้สมุนของเทพองค์ไหนเนียนมุดเข้ามาในเขต ตราบใดที่มันไม่ลองแตะลำต้นโดยตรง มันก็จะไม่รู้ว่ากำลังโดนหลอกตา ภาพที่พวกมันเห็นจะเป็นแค่ต้นไม้โลกที่ยืนต้นตายเท่านั้น!” 

      แถมพวกผู้เล่นกับสาวกต่างรู้ว่าเค้าต้องการปกปิดสถานะปัจจุบันจากโลกภายนอก ดังนั้นต่อให้มีใครแทรกซึมเข้ามา เค้าก็แค่บอกให้ทุกคนช่วยกันรีบเชือดปิดปา– รีบเก็บกวาดมันออกไป อุวะฮะฮะฮะฮ่า!

      “หรือบางที… เราอาจจะใช้เป็นแผนซ้อนแผน ทำให้พวกผู้บุกรุกหัวหมุนเพราะข้อมูลจากฝั่งตัวเองได้ด้วย!”

      จีเนียสจริง ๆ ค่ะ!

      ในช่วงก่อนหน้านี้ การควบคุมพลังศักดิ์สิทธิ์ของอีฟยังห่างไกลจากคำว่าแม่นยำ แถมการเชื่อมต่อด้วยช่องทางศรัทธาระหว่างเธอกับกลุ่มผู้เล่นและสาวกก็ไม่ค่อยราบรื่นนัก

      แต่หลังจากการกำเนิดอาณาจักรแห่งเทพ การควบคุมพลังของเธอก็มีความเฉียบคมมากยิ่งขึ้น อุปสรรคเหล่านี้จึงหายไปโดยอัตโนมัติ

      เมื่ออีฟไตร่ตรองเสร็จสิ้น เธอก็รีบสร้างม่านพลังขึ้นมาปกคลุมร่างกายทันที 

      และในเวลาเดียวกัน จำนวนเอลฟ์พื้นเมืองที่เพิ่มขึ้น และเครือข่ายพลังศรัทธาที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ก็ทำให้ [ระบบ NPC ภารกิจ] ที่อีฟวางโครงสร้างไว้ในแผนพัฒนาเกม พร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ!

      …

      …

~~ ~~ ❀ ~~ ~~

      T/N: เด็กสาวลูกเมี้ยวเค็ม ?

      คิดว่า เด็กสาว ดีกว่า เอลฟ์สาว นิดนึงเวลาเรียกลูกเมี้ยวค่ะ

      …

      ออลมีท!

     อ่านแปลไทยได้ที่ https://www.nekopost.net/novel/12413  

     ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ 

     Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432  

~~ ~~ ❀ ~~ ~~

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด