[นิยายแปล] Game of the World Tree 20 เทพแห่งเหมันต์และการล่า

Now you are reading [นิยายแปล] Game of the World Tree Chapter 20 เทพแห่งเหมันต์และการล่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

     นักบวชเผ่าก็อบลินเรอะ?

     อีฟลอบรู้สึกหวั่นใจ     

     เดิมทีพวกมันไม่เคยมีนักบวชไม่มีแม้แต่รูปบูชาหรือสิ่งที่เรียกว่าศรัทธาด้วยซ้ำ แต่ถ้ามีนักบวชปรากฏขึ้นมาในบรรดาก็อบลินจริง ๆ ย่อมหมายถึงชาติพันธุ์นี้อาจจะมีสิ่งบูชา หรือแม้แต่มีการจุติของเทพเกิดขึ้น …

     ถ้าเป็นกรณีแรกก็ยังพอโอเคอ่ะค่ะ แต่ถ้าเป็นกรณีหลังอันนี้ … 

     อีฟเริ่มคาดเดาเมื่อพบว่าเบอร์เซิร์กเกอร์จงใจซ่อนตัว … การที่แค่พวกก็อบลินจะทำให้โอ๊คการ์ดระมัดระวังขนาดนี้ได้ ย่อมเป็นเรื่องตัวตนระดับเทพแน่ ๆ !

     “มันคือผู้ใด?”

     เสียงอันก้องกังวาลปรากฏขึ้นในห้วงโสตของยักษ์ไม้อีกครา ทว่าครั้งนี้น้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยความจริงจัง

     เบอร์เซิร์กเกอร์เข้าใจความนัยที่พระมารดาสื่อออกมาทันที มันหายใจเข้าลึกก่อนตอบวิวรณ์ภายในใจของตน

     “จากการสำรวจของข้า ตัวตนนั้นน่าจะเป็นเทพแห่งเหมันต์และการล่า – อูลร์”

     ชั้นว่าแล้ว!

     ความหมองหม่นมาเยือนในใจของอีฟทันควัน

     เบื้องหลังของเหตุการณ์นี้คือเทพองค์ที่อีฟคาดการณ์ไว้ไม่มีผิด!

     มันน่าสงสัยตั้งแต่มีออร์คมาตั้งรกรากใกล้กับป่าเอลฟ์แล้ว เพราะพวกมันคือหนึ่งในสาวกที่ใหญ่ที่สุดของเทพแห่งเหมันต์และการล่า เผ่าออร์คเป็นหูเป็นตาให้กับอูลร์เสมอมา

     ความรู้ที่เป็นมรดกตกทอดจากต้นไม้โลกองค์ก่อน มอบความทรงจำเกี่ยวกับอูลร์ให้กับอีฟในระดับที่เพียงพอต่อการเข้าใจสถานการณ์โดยรอบ

     อูลร์เป็นเทพแห่งศรัทธาที่มีอายุอานามไม่มากเท่าไร ว่ากันว่ามันถือกำเนิดจากรูปบูชาโบราณเมื่อประมาณ 2,000 ปีที่แล้ว มีระดับพลังอยู่ในโซนสูงสุดของเทพชั้นล่าง

     พันธกิจศักดิ์สิทธิ์ของมันคือการล่าและฤดูหนาว ระหว่างมันและต้นไม้โลกผู้ควบคุมธรรมชาติ ชีวิต และเหล่าเอลฟ์ ค่อนข้างกระท่อนกระแท่นจนเรียกได้ว่าบาดหมางกันมาช้านาน หากจะกล่าวว่ามันคือศัตรูตัวฉกาจของต้นไม้โลกก็ย่อมได้

     ภายหลังจากการล่มสลายของมหาพฤกษาองค์ก่อน เทพผู้เปี่ยมไปด้วยความดุร้ายองค์นี้ยังคงตามระรานเหล่าเอลฟ์อยู่เป็นนิจ มันเป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชนเผ่าเอลฟ์

     ดังนั้นอูลร์จึงอยู่ในรายการรอเก็บกวาดของอีฟ … เพื่อล้างแค้นให้กับต้นไม้โลก เพื่อป้องกันตนเอง และเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง …

     และตอนนี้ เทพองค์ที่ว่าก็กำลังตามหาคริสตัลหยาดพระโลหิตของมหาพฤกษา!

     และเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ เทพองค์ที่ว่าถึงกับยอมรับก็อบลินเป็นสาวก!!

     แม้ว่าก็อบลินจะมีปัญญาต่ำเตี้ยเรี่ยดินและให้พลังศรัทธาเพียงน้อยนิด แต่พวกมันก็แข็งขันและเขลาพอจะใช้ถูกงานเป็นอาจิน อีฟจึงไม่แปลกใจที่อูลร์เลือกใช้งานพวกมัน

     ทว่าการค้นหาคริสตัลโดยอูลร์น่าจะเพิ่งเริ่มมาได้ไม่นาน เนื่องจากหยาดคริสตัลพระโลหิตล้วนอยู่ในสถานะผนึกที่ช่วยซ่อนมันไว้จากทุกสรรพชีวิตจนยากแก่การค้นพบ

     คิดได้ดังว่า อีฟจึงเริ่มคาดเดาต่อ

     “เป็นไปได้มั้ยว่าอูลร์เริ่มค้นพบคริสตัลพวกนี้แล้ว … ทีนี้ก็เลยอยากรวบรวมพวกมันเพื่อศึกษาและหาทางครอบครองพลังแห่งชีวิตและธรรมชาติ?”

     พันธกิจศักดิ์สิทธิ์และพลังของอูลร์คือการล่าและฤดูหนาว ซึ่งนับว่าอยู่ต่ำกว่าพันธกิจศักดิ์สิทธิ์หลักอย่างชีวิตและธรรมชาติ ดังนั้นตามปกติอูลร์จึงอ่อนแอกว่าต้นไม้โลกไปโดยปริยาย และนั่นคือสาเหตุว่าทำไมพลังของอูลร์จึงยังอยู่ในช่วงเทพระดับต้น

     ที่สำคัญ … พลังของการล่าและฤดูหนาวก็นับว่าเกี่ยวข้องกับธรรมชาติและชีวิตตั้งแต่แรกเริ่มเดิมที

     ด้วยสาเหตุดังกล่าว อีฟจึงไม่แปลกใจที่อูลร์หาทางครอบครองพลังและพันธกิจศักดิ์สิทธิ์ด้วยการวิเคราะห์หยาดคริสตัลพระโลหิตของมหาพฤกษา

     แต่ถึงอย่างไร อีฟไม่คิดว่าอูลร์จะโยงเหตุการณ์ที่เหล่าคริสตัลเริ่มทยอยกันโผล่ขึ้นมากับการฟื้นคืนชีพของตน แต่คงจะเชื่อว่ามนตร์ที่ปิดผนึกคริสตัลเหล่านี้ไว้คงจะคลายออกตามเวลามากกว่า

     การที่มนตราไร้เจ้าของจะเสื่อมจะคลายหลังผ่านมาเป็นพันปีนั้นนับว่าเป็นเรื่องปกติ … และอีฟไม่คิดว่าแผนของอูลร์จะสำเร็จ เนื่องจากต้นไม้โลกได้ฟื้นคืนชีพและกลับมาครอบครองพลังแห่งชีวิตและธรรมชาติแล้ว

     พันธกิจศักดิ์สิทธิ์นี้ถือเป็นสิ่งเฉพาะตัว ไม่ว่าอูลร์จะปรารถนาพลังงนี้เพียงใด จะพยายามเพียงวิเคราะห์เท่าไร มันก็คงไม่สามารถเรียนรู้พลังที่มันต้องการได้

     เป้าหมายของมันได้พังลงในวินาทีที่อีฟจุติในฐานะมหาพฤกษา

     อย่างไรก็ตาม การดูดกลืนพลังศักดิ์สิทธิ์จากคริสตัลก็มอบพลังให้กับอูลร์ได้ในปริมาณมาก ซึ่งจะช่วยให้มันแข็งแกร่งขึ้นอีกในระดับหนึ่ง และนั่นเป็นสิ่งที่อีฟไม่อยากให้เกิดขึ้น

     ที่สำคัญ เหล่าคริสตัลพวกนี้ควรจะเป็นสิ่งตกทอดให้กับอีฟผู้รับช่วงพลังจากต้นไม้โลก และเป็นสิ่งที่ช่วยอีฟในการฟื้นฟูพลังอย่างรวดเร็ว!

     คิดได้ดังนั้น อีฟจึงเอ่ยถามเจ้าโอ๊คการ์ด

     “พวกก็อบลินเหล่านั้นแข็งแกร่งประมาณใด?”

     “พวกมันส่วนใหญ่เลเวล 5 มีระดับจ่าฝูงบางตัวที่เลเวล 10 นักบวชของพวกมันอยู่ที่ระดับ 11 และจำนวนของนักบวชยังไม่เด่นชัดขอรับ”

     เบอร์เซิร์กเกอร์ตอบกลับ

     พวกมันไม่ค่อยเก่งเท่าไรแฮะ

     อีฟลอบพยักหน้าอยู่ในใจ

     เมื่อพิจารณาจากระดับความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้าม เบอร์เซิร์กเกอร์สามารถกวาดล้างพวกมันได้ด้วยเถาวัลย์เส้นเดียวถ้ามันไม่กังวลเรื่องการที่ตัวตนระดับสูงอย่างอูลร์อาจจะพบมันเข้า

     “งื้คือมันมีนักบวชเลเวล 11 และจ่าฝูงเลเวล 10 .. ส่วนที่เหลือก็เลเวล 5 ถึง 9 สินะ”

     “ถ้าประมาณนี้ก็เหมาะที่จะให้พวกผู้เล่นมาฝึกฝนทักษะ”

     อีฟพึมพำ

     พลังของเหล่าผู้เล่นกว่าสามร้อยคนไต่ระดับรวดเร็วอย่างน่าใจหายหลังจากพวกเขาพากันทำเควสมาหลายวัน ในตอนนี้พวกผู้เล่นส่วนใหญ่อยู่ในช่วงเลเวลเจ็ดหรือสูงกว่านั้น

     ผู้เล่นระดับหัวหอกหลายคนได้บรรลุเลเวล 10 จากการทำเควสอย่างขยันขันแข็ง ซึ่งนับว่าเป็นระดับสุดท้ายของผู้ฝึกตน ขาดอีกเพียงก้าวเดียวก็จะเข้าสู่ช่วงยอดฝีมือระดับเหล็ก

     ด้วยพละกำลังในระดับปัจจุบัน พวกเขาอาจจะพบว่าการต่อสู้กับมอนสเตอร์ระดับเหล็กยังเปี่ยมไปด้วยความท้าทาย แต่ถ้าเป็นแค่พวกก็อบลินก็คงไม่คณามือเหล่าผู้เล่นแต่อย่างใด และถ้าเหล่าผู้เล่นร่วมมือกันก็คงจะพอต่อกรกับนักบวชเผ่าก็อบลินที่อยู่ในระดับเหล็กเลเวล 11 ได้

     ที่สำคัญคือเริ่มมีกลุ่มผู้เล่นที่เบื่อหน่ายการทำเควสประจำวันที่ต้องทำซ้ำไปซ้ำมา แถมยังมีกลุ่มผู้เล่นบางส่วนเลือกที่จะเมินคำแนะนำในระบบไกด์ผู้เล่น และพยายามจะออกไปจากบริเวณปลอดภัยเพื่อสำรวจสิ่งใหม่ ๆ 

     ในเวลานี้ คงไม่มีอะไรเหมาะไปกว่าการมอบความสนุกสนานเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับพวกผู้เล่น

     แรกเริ่มเดิมที อีฟตั้งใจจะใช้เบอร์เซิร์กเกอร์ต้อนมอนสเตอร์เข้ามาในโซนปลอดภัยเพื่อให้เหล่าผู้เล่นใช้เป็นของเล่นพร้อมกับการเพิ่มเลเวล อีฟคิดว่าช่วงเลเวล 11 จะเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสมกับการปล่อยพวกผู้เล่นออกไปสำรวจโลกกว้างภายนอก

     การปรากฏตัวของก็อบลินได้ก่อให้เกิดแนวทางใหม่ที่ดีกว่าเดิมกับเกมของอีฟ

     “เบอร์เซิร์กเกอร์เป็นดรูอิดผู้นับถือธรรมชาติ ถ้าเราให้มันต้อนสัตว์อสูรเข้ามาก็คงจะกระทบต่อศรัทธาของมันในระดับนึง … ถึงจะไม่บ่นออกมาอ่ะนะ … แต่ถ้าเป็นก็อบลินล่ะก็ไม่มีปัญหา”

     “ก็อบลินเป็นศัตรูของพวกเราอยู่แล้ว แถมพวกมันก็อ่อนแอใช้ได้ ตบตีมันไปก็คงไม่กระทบกับความรู้สึกที่เหล่าสาวกของเราในดินแดนนี้ ที่สำคัญคือพวกก็อบลินคงไม่อันตรายต่อผู้เล่นเท่าไร”

     “อีกอย่าง การที่พวกผู้เล่นช่วยกันล่าก็อบลินก็จะช่วนบั่นทอนแผนของอูลร์ได้เป็นอย่างดี และจะช่วยสร้างข่าวลือเรื่องวิญญาณแค้นของเหล่าเอลฟ์ผู้วายชมน์ได้ทางอ้อม”

     “ที่สำคัญ ทุกคนจะช่วยเค้าหาคริสตัลพระโลหิต และทำให้เค้าหลุดพ้นสภาพผักได้ไวขึ้น!”

     “เนี่ยล่ะค่ะ เส้นทางสู่การคืนทุนของเค้า!”

     คิดได้ดังว่า อีฟเริ่มวางแผนใหม่อย่างรวดเร็ว เริ่มจากการสร้างพล็อตรองให้กับตัวเกมในฐานะเควสรองบนพื้นที่โบราณสถานฟลอเรนซ์ และให้พวกผู้เล่นเก็บกวาดฝูงก็อบลิน!

     เหล่าผู้เล่นจากดาวสีฟ้านั้นแตกต่างกับเบอร์เซิร์กเกอร์

     โอ๊คการ์ดเป็นทั้งผู้ศรัทธาและสาวกของพระมารดาแห่งธรรมชาติ หากมันเข้าโจมตีนักบวชภายใต้การปกครองของอูลร์ย่อมก่อให้เกิดการตระหนักโดยเทพฝ่ายนั้น

     แต่เรื่องนี้กลายเป็นหนังคนละม้วนเมื่อใช้งานผู้เล่น …

     แม้พวกเขาจะหน้าตาเหมือนกับเอลฟ์เพียงใด แต่ก็ไม่มีใครเป็นผู้ศรัทธาของอีฟ นั่นหมายถึงการปราศจากร่องรอย หรือการเชื่อมต่อกับเทพจากดวงวิญญาณของพวกเขา

     แท้จริงแล้วไม่ใช่แค่เหล่าผู้เล่นไม่ได้มีสถานะเป็นผู้ศรัทธา ในความเป็นจริงมีเพียงแค่สติสัมปชัญญะที่เชื่อมโยงมาจากดาวสีฟ้า วิญญาณของพวกเขายังคงอยู่บนดาวดวงนั้นเหมือนเดิม ดังนั้นถ้าอูลร์ต้องการสืบสาวราวเรื่องด้วยการวิเคราะห์ร่องรอยแห่งศรัทธา … มันก็ต้องไปที่ดาวดวงนั้นให้ได้เสียก่อน

     อีกอย่างคืออูลร์เป็นหนึ่งในเทพที่อยู่ในเหตุการณ์เมื่อพันปีก่อน ณ เวลาที่ยุคสมัยของต้นไม้โลกได้ล่มสลายลง มันได้เห็นเหตุการณ์นั้นด้วยตาของมัน … และคาดได้ว่ามันยังคงเชื่อเรื่องจุดจบของต้นไม้โลกอย่างเหนียวแน่น

     ในกรณีที่ร้ายแรงที่สุด การเคลื่อนไหวของผู้เล่นอาจจะทำให้อูลร์คาดเดาไปในแนวทางที่มีเอลฟ์ผู้ละทิ้งความศรัทธาหวนคืนมาสู่ป่า ซึ่งมันคงไม่เชื่อมโยงมาถึงการคืนชีพของมหาพฤกษา

     นอกจากนี้ การที่ก็อบลินมาอาศัยโบราณสถานแห่งนครศักดิ์สิทธิ์ ย่อมเป็นหนึ่งในสาเหตุให้เกิดความขุ่นเคืองท่ามกลางเหล่าเอลฟ์ หากจะมีการปะทะกันบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด

     ในกรณีนี้ การล่าสังหารก็อบลินจำนวนเล็กน้อยโดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ศรัทธา ย่อมไม่เพียงพอต่อการดึงดูดความสนใจจากอูลร์

     อีฟไม่คิดว่าก็อบลินในเมืองฟลอเรนซ์เหล่านี้จะเป็นกองกำลังก็อบลินหนึ่งเดียวของอูลร์ มีความเป็นไปได้ว่าตามซากปรักหักพังที่อื่นก็คงจะมีสภาพคล้าย ๆ กัน แน่นอนว่าอีฟไม่คิดจะปกปิดเรื่องการฟื้นคืนชีพของตนไปตลอด

     เพราะในปัจจุบัน อูลร์คงค้นพบแล้วว่ามนตร์ที่ผนึกคริสตัลไว้ได้คลายออก มันคงจะพบว่าคำสาปของมหาพฤกษาได้สิ้นฤทธิ์ไปในเวลาไม่นานนับจากนี้

     ที่เหลือคงเป็นเรื่องของจังหวะและโอกาส ที่ว่าอูลร์จะเริ่มส่งสาวกมาสำรวจตอนไม้โลกตอนไหน … และเมื่อไรที่ตัวตนของอีฟจะเป็นที่ประจักษ์ต่อชาวซากัสอีกครั้ง

     โชคยังเข้าข้างอีฟ ที่ในปัจจุบันมีเทพผู้ค้นพบคริสตัลพระโลหิตเพียงตนเดียว คือเทพชั้นล่างอย่างอูลร์ อีฟจึงควรเร่งฟื้นฟูพลังของตนอย่างเลี่ยงมิได้ …

     ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลนี้ การเลือกทางที่เสี่ยงสักหน่อยก็ดูสมเหตุสมผล

     คิดได้ดังนั้น อีฟจึงตัดสินใจในบัดดล

     “เบอร์เซิร์กเกอร์ … เราต้องการกำลังของเจ้า”

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

      T/N: หาว~✰

      ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ 

      Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] Game of the World Tree 20 เทพแห่งเหมันต์และการล่า

Now you are reading [นิยายแปล] Game of the World Tree Chapter 20 เทพแห่งเหมันต์และการล่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

     นักบวชเผ่าก็อบลินเรอะ?

     อีฟลอบรู้สึกหวั่นใจ     

     เดิมทีพวกมันไม่เคยมีนักบวชไม่มีแม้แต่รูปบูชาหรือสิ่งที่เรียกว่าศรัทธาด้วยซ้ำ แต่ถ้ามีนักบวชปรากฏขึ้นมาในบรรดาก็อบลินจริง ๆ ย่อมหมายถึงชาติพันธุ์นี้อาจจะมีสิ่งบูชา หรือแม้แต่มีการจุติของเทพเกิดขึ้น …

     ถ้าเป็นกรณีแรกก็ยังพอโอเคอ่ะค่ะ แต่ถ้าเป็นกรณีหลังอันนี้ … 

     อีฟเริ่มคาดเดาเมื่อพบว่าเบอร์เซิร์กเกอร์จงใจซ่อนตัว … การที่แค่พวกก็อบลินจะทำให้โอ๊คการ์ดระมัดระวังขนาดนี้ได้ ย่อมเป็นเรื่องตัวตนระดับเทพแน่ ๆ !

     “มันคือผู้ใด?”

     เสียงอันก้องกังวาลปรากฏขึ้นในห้วงโสตของยักษ์ไม้อีกครา ทว่าครั้งนี้น้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยความจริงจัง

     เบอร์เซิร์กเกอร์เข้าใจความนัยที่พระมารดาสื่อออกมาทันที มันหายใจเข้าลึกก่อนตอบวิวรณ์ภายในใจของตน

     “จากการสำรวจของข้า ตัวตนนั้นน่าจะเป็นเทพแห่งเหมันต์และการล่า – อูลร์”

     ชั้นว่าแล้ว!

     ความหมองหม่นมาเยือนในใจของอีฟทันควัน

     เบื้องหลังของเหตุการณ์นี้คือเทพองค์ที่อีฟคาดการณ์ไว้ไม่มีผิด!

     มันน่าสงสัยตั้งแต่มีออร์คมาตั้งรกรากใกล้กับป่าเอลฟ์แล้ว เพราะพวกมันคือหนึ่งในสาวกที่ใหญ่ที่สุดของเทพแห่งเหมันต์และการล่า เผ่าออร์คเป็นหูเป็นตาให้กับอูลร์เสมอมา

     ความรู้ที่เป็นมรดกตกทอดจากต้นไม้โลกองค์ก่อน มอบความทรงจำเกี่ยวกับอูลร์ให้กับอีฟในระดับที่เพียงพอต่อการเข้าใจสถานการณ์โดยรอบ

     อูลร์เป็นเทพแห่งศรัทธาที่มีอายุอานามไม่มากเท่าไร ว่ากันว่ามันถือกำเนิดจากรูปบูชาโบราณเมื่อประมาณ 2,000 ปีที่แล้ว มีระดับพลังอยู่ในโซนสูงสุดของเทพชั้นล่าง

     พันธกิจศักดิ์สิทธิ์ของมันคือการล่าและฤดูหนาว ระหว่างมันและต้นไม้โลกผู้ควบคุมธรรมชาติ ชีวิต และเหล่าเอลฟ์ ค่อนข้างกระท่อนกระแท่นจนเรียกได้ว่าบาดหมางกันมาช้านาน หากจะกล่าวว่ามันคือศัตรูตัวฉกาจของต้นไม้โลกก็ย่อมได้

     ภายหลังจากการล่มสลายของมหาพฤกษาองค์ก่อน เทพผู้เปี่ยมไปด้วยความดุร้ายองค์นี้ยังคงตามระรานเหล่าเอลฟ์อยู่เป็นนิจ มันเป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชนเผ่าเอลฟ์

     ดังนั้นอูลร์จึงอยู่ในรายการรอเก็บกวาดของอีฟ … เพื่อล้างแค้นให้กับต้นไม้โลก เพื่อป้องกันตนเอง และเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง …

     และตอนนี้ เทพองค์ที่ว่าก็กำลังตามหาคริสตัลหยาดพระโลหิตของมหาพฤกษา!

     และเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ เทพองค์ที่ว่าถึงกับยอมรับก็อบลินเป็นสาวก!!

     แม้ว่าก็อบลินจะมีปัญญาต่ำเตี้ยเรี่ยดินและให้พลังศรัทธาเพียงน้อยนิด แต่พวกมันก็แข็งขันและเขลาพอจะใช้ถูกงานเป็นอาจิน อีฟจึงไม่แปลกใจที่อูลร์เลือกใช้งานพวกมัน

     ทว่าการค้นหาคริสตัลโดยอูลร์น่าจะเพิ่งเริ่มมาได้ไม่นาน เนื่องจากหยาดคริสตัลพระโลหิตล้วนอยู่ในสถานะผนึกที่ช่วยซ่อนมันไว้จากทุกสรรพชีวิตจนยากแก่การค้นพบ

     คิดได้ดังว่า อีฟจึงเริ่มคาดเดาต่อ

     “เป็นไปได้มั้ยว่าอูลร์เริ่มค้นพบคริสตัลพวกนี้แล้ว … ทีนี้ก็เลยอยากรวบรวมพวกมันเพื่อศึกษาและหาทางครอบครองพลังแห่งชีวิตและธรรมชาติ?”

     พันธกิจศักดิ์สิทธิ์และพลังของอูลร์คือการล่าและฤดูหนาว ซึ่งนับว่าอยู่ต่ำกว่าพันธกิจศักดิ์สิทธิ์หลักอย่างชีวิตและธรรมชาติ ดังนั้นตามปกติอูลร์จึงอ่อนแอกว่าต้นไม้โลกไปโดยปริยาย และนั่นคือสาเหตุว่าทำไมพลังของอูลร์จึงยังอยู่ในช่วงเทพระดับต้น

     ที่สำคัญ … พลังของการล่าและฤดูหนาวก็นับว่าเกี่ยวข้องกับธรรมชาติและชีวิตตั้งแต่แรกเริ่มเดิมที

     ด้วยสาเหตุดังกล่าว อีฟจึงไม่แปลกใจที่อูลร์หาทางครอบครองพลังและพันธกิจศักดิ์สิทธิ์ด้วยการวิเคราะห์หยาดคริสตัลพระโลหิตของมหาพฤกษา

     แต่ถึงอย่างไร อีฟไม่คิดว่าอูลร์จะโยงเหตุการณ์ที่เหล่าคริสตัลเริ่มทยอยกันโผล่ขึ้นมากับการฟื้นคืนชีพของตน แต่คงจะเชื่อว่ามนตร์ที่ปิดผนึกคริสตัลเหล่านี้ไว้คงจะคลายออกตามเวลามากกว่า

     การที่มนตราไร้เจ้าของจะเสื่อมจะคลายหลังผ่านมาเป็นพันปีนั้นนับว่าเป็นเรื่องปกติ … และอีฟไม่คิดว่าแผนของอูลร์จะสำเร็จ เนื่องจากต้นไม้โลกได้ฟื้นคืนชีพและกลับมาครอบครองพลังแห่งชีวิตและธรรมชาติแล้ว

     พันธกิจศักดิ์สิทธิ์นี้ถือเป็นสิ่งเฉพาะตัว ไม่ว่าอูลร์จะปรารถนาพลังงนี้เพียงใด จะพยายามเพียงวิเคราะห์เท่าไร มันก็คงไม่สามารถเรียนรู้พลังที่มันต้องการได้

     เป้าหมายของมันได้พังลงในวินาทีที่อีฟจุติในฐานะมหาพฤกษา

     อย่างไรก็ตาม การดูดกลืนพลังศักดิ์สิทธิ์จากคริสตัลก็มอบพลังให้กับอูลร์ได้ในปริมาณมาก ซึ่งจะช่วยให้มันแข็งแกร่งขึ้นอีกในระดับหนึ่ง และนั่นเป็นสิ่งที่อีฟไม่อยากให้เกิดขึ้น

     ที่สำคัญ เหล่าคริสตัลพวกนี้ควรจะเป็นสิ่งตกทอดให้กับอีฟผู้รับช่วงพลังจากต้นไม้โลก และเป็นสิ่งที่ช่วยอีฟในการฟื้นฟูพลังอย่างรวดเร็ว!

     คิดได้ดังนั้น อีฟจึงเอ่ยถามเจ้าโอ๊คการ์ด

     “พวกก็อบลินเหล่านั้นแข็งแกร่งประมาณใด?”

     “พวกมันส่วนใหญ่เลเวล 5 มีระดับจ่าฝูงบางตัวที่เลเวล 10 นักบวชของพวกมันอยู่ที่ระดับ 11 และจำนวนของนักบวชยังไม่เด่นชัดขอรับ”

     เบอร์เซิร์กเกอร์ตอบกลับ

     พวกมันไม่ค่อยเก่งเท่าไรแฮะ

     อีฟลอบพยักหน้าอยู่ในใจ

     เมื่อพิจารณาจากระดับความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้าม เบอร์เซิร์กเกอร์สามารถกวาดล้างพวกมันได้ด้วยเถาวัลย์เส้นเดียวถ้ามันไม่กังวลเรื่องการที่ตัวตนระดับสูงอย่างอูลร์อาจจะพบมันเข้า

     “งื้คือมันมีนักบวชเลเวล 11 และจ่าฝูงเลเวล 10 .. ส่วนที่เหลือก็เลเวล 5 ถึง 9 สินะ”

     “ถ้าประมาณนี้ก็เหมาะที่จะให้พวกผู้เล่นมาฝึกฝนทักษะ”

     อีฟพึมพำ

     พลังของเหล่าผู้เล่นกว่าสามร้อยคนไต่ระดับรวดเร็วอย่างน่าใจหายหลังจากพวกเขาพากันทำเควสมาหลายวัน ในตอนนี้พวกผู้เล่นส่วนใหญ่อยู่ในช่วงเลเวลเจ็ดหรือสูงกว่านั้น

     ผู้เล่นระดับหัวหอกหลายคนได้บรรลุเลเวล 10 จากการทำเควสอย่างขยันขันแข็ง ซึ่งนับว่าเป็นระดับสุดท้ายของผู้ฝึกตน ขาดอีกเพียงก้าวเดียวก็จะเข้าสู่ช่วงยอดฝีมือระดับเหล็ก

     ด้วยพละกำลังในระดับปัจจุบัน พวกเขาอาจจะพบว่าการต่อสู้กับมอนสเตอร์ระดับเหล็กยังเปี่ยมไปด้วยความท้าทาย แต่ถ้าเป็นแค่พวกก็อบลินก็คงไม่คณามือเหล่าผู้เล่นแต่อย่างใด และถ้าเหล่าผู้เล่นร่วมมือกันก็คงจะพอต่อกรกับนักบวชเผ่าก็อบลินที่อยู่ในระดับเหล็กเลเวล 11 ได้

     ที่สำคัญคือเริ่มมีกลุ่มผู้เล่นที่เบื่อหน่ายการทำเควสประจำวันที่ต้องทำซ้ำไปซ้ำมา แถมยังมีกลุ่มผู้เล่นบางส่วนเลือกที่จะเมินคำแนะนำในระบบไกด์ผู้เล่น และพยายามจะออกไปจากบริเวณปลอดภัยเพื่อสำรวจสิ่งใหม่ ๆ 

     ในเวลานี้ คงไม่มีอะไรเหมาะไปกว่าการมอบความสนุกสนานเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับพวกผู้เล่น

     แรกเริ่มเดิมที อีฟตั้งใจจะใช้เบอร์เซิร์กเกอร์ต้อนมอนสเตอร์เข้ามาในโซนปลอดภัยเพื่อให้เหล่าผู้เล่นใช้เป็นของเล่นพร้อมกับการเพิ่มเลเวล อีฟคิดว่าช่วงเลเวล 11 จะเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสมกับการปล่อยพวกผู้เล่นออกไปสำรวจโลกกว้างภายนอก

     การปรากฏตัวของก็อบลินได้ก่อให้เกิดแนวทางใหม่ที่ดีกว่าเดิมกับเกมของอีฟ

     “เบอร์เซิร์กเกอร์เป็นดรูอิดผู้นับถือธรรมชาติ ถ้าเราให้มันต้อนสัตว์อสูรเข้ามาก็คงจะกระทบต่อศรัทธาของมันในระดับนึง … ถึงจะไม่บ่นออกมาอ่ะนะ … แต่ถ้าเป็นก็อบลินล่ะก็ไม่มีปัญหา”

     “ก็อบลินเป็นศัตรูของพวกเราอยู่แล้ว แถมพวกมันก็อ่อนแอใช้ได้ ตบตีมันไปก็คงไม่กระทบกับความรู้สึกที่เหล่าสาวกของเราในดินแดนนี้ ที่สำคัญคือพวกก็อบลินคงไม่อันตรายต่อผู้เล่นเท่าไร”

     “อีกอย่าง การที่พวกผู้เล่นช่วยกันล่าก็อบลินก็จะช่วนบั่นทอนแผนของอูลร์ได้เป็นอย่างดี และจะช่วยสร้างข่าวลือเรื่องวิญญาณแค้นของเหล่าเอลฟ์ผู้วายชมน์ได้ทางอ้อม”

     “ที่สำคัญ ทุกคนจะช่วยเค้าหาคริสตัลพระโลหิต และทำให้เค้าหลุดพ้นสภาพผักได้ไวขึ้น!”

     “เนี่ยล่ะค่ะ เส้นทางสู่การคืนทุนของเค้า!”

     คิดได้ดังว่า อีฟเริ่มวางแผนใหม่อย่างรวดเร็ว เริ่มจากการสร้างพล็อตรองให้กับตัวเกมในฐานะเควสรองบนพื้นที่โบราณสถานฟลอเรนซ์ และให้พวกผู้เล่นเก็บกวาดฝูงก็อบลิน!

     เหล่าผู้เล่นจากดาวสีฟ้านั้นแตกต่างกับเบอร์เซิร์กเกอร์

     โอ๊คการ์ดเป็นทั้งผู้ศรัทธาและสาวกของพระมารดาแห่งธรรมชาติ หากมันเข้าโจมตีนักบวชภายใต้การปกครองของอูลร์ย่อมก่อให้เกิดการตระหนักโดยเทพฝ่ายนั้น

     แต่เรื่องนี้กลายเป็นหนังคนละม้วนเมื่อใช้งานผู้เล่น …

     แม้พวกเขาจะหน้าตาเหมือนกับเอลฟ์เพียงใด แต่ก็ไม่มีใครเป็นผู้ศรัทธาของอีฟ นั่นหมายถึงการปราศจากร่องรอย หรือการเชื่อมต่อกับเทพจากดวงวิญญาณของพวกเขา

     แท้จริงแล้วไม่ใช่แค่เหล่าผู้เล่นไม่ได้มีสถานะเป็นผู้ศรัทธา ในความเป็นจริงมีเพียงแค่สติสัมปชัญญะที่เชื่อมโยงมาจากดาวสีฟ้า วิญญาณของพวกเขายังคงอยู่บนดาวดวงนั้นเหมือนเดิม ดังนั้นถ้าอูลร์ต้องการสืบสาวราวเรื่องด้วยการวิเคราะห์ร่องรอยแห่งศรัทธา … มันก็ต้องไปที่ดาวดวงนั้นให้ได้เสียก่อน

     อีกอย่างคืออูลร์เป็นหนึ่งในเทพที่อยู่ในเหตุการณ์เมื่อพันปีก่อน ณ เวลาที่ยุคสมัยของต้นไม้โลกได้ล่มสลายลง มันได้เห็นเหตุการณ์นั้นด้วยตาของมัน … และคาดได้ว่ามันยังคงเชื่อเรื่องจุดจบของต้นไม้โลกอย่างเหนียวแน่น

     ในกรณีที่ร้ายแรงที่สุด การเคลื่อนไหวของผู้เล่นอาจจะทำให้อูลร์คาดเดาไปในแนวทางที่มีเอลฟ์ผู้ละทิ้งความศรัทธาหวนคืนมาสู่ป่า ซึ่งมันคงไม่เชื่อมโยงมาถึงการคืนชีพของมหาพฤกษา

     นอกจากนี้ การที่ก็อบลินมาอาศัยโบราณสถานแห่งนครศักดิ์สิทธิ์ ย่อมเป็นหนึ่งในสาเหตุให้เกิดความขุ่นเคืองท่ามกลางเหล่าเอลฟ์ หากจะมีการปะทะกันบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด

     ในกรณีนี้ การล่าสังหารก็อบลินจำนวนเล็กน้อยโดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ศรัทธา ย่อมไม่เพียงพอต่อการดึงดูดความสนใจจากอูลร์

     อีฟไม่คิดว่าก็อบลินในเมืองฟลอเรนซ์เหล่านี้จะเป็นกองกำลังก็อบลินหนึ่งเดียวของอูลร์ มีความเป็นไปได้ว่าตามซากปรักหักพังที่อื่นก็คงจะมีสภาพคล้าย ๆ กัน แน่นอนว่าอีฟไม่คิดจะปกปิดเรื่องการฟื้นคืนชีพของตนไปตลอด

     เพราะในปัจจุบัน อูลร์คงค้นพบแล้วว่ามนตร์ที่ผนึกคริสตัลไว้ได้คลายออก มันคงจะพบว่าคำสาปของมหาพฤกษาได้สิ้นฤทธิ์ไปในเวลาไม่นานนับจากนี้

     ที่เหลือคงเป็นเรื่องของจังหวะและโอกาส ที่ว่าอูลร์จะเริ่มส่งสาวกมาสำรวจตอนไม้โลกตอนไหน … และเมื่อไรที่ตัวตนของอีฟจะเป็นที่ประจักษ์ต่อชาวซากัสอีกครั้ง

     โชคยังเข้าข้างอีฟ ที่ในปัจจุบันมีเทพผู้ค้นพบคริสตัลพระโลหิตเพียงตนเดียว คือเทพชั้นล่างอย่างอูลร์ อีฟจึงควรเร่งฟื้นฟูพลังของตนอย่างเลี่ยงมิได้ …

     ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลนี้ การเลือกทางที่เสี่ยงสักหน่อยก็ดูสมเหตุสมผล

     คิดได้ดังนั้น อีฟจึงตัดสินใจในบัดดล

     “เบอร์เซิร์กเกอร์ … เราต้องการกำลังของเจ้า”

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

      T/N: หาว~✰

      ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ 

      Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] Game of the World Tree 20 เทพแห่งเหมันต์และการล่า

Now you are reading [นิยายแปล] Game of the World Tree Chapter 20 เทพแห่งเหมันต์และการล่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

     นักบวชเผ่าก็อบลินเรอะ?

     อีฟลอบรู้สึกหวั่นใจ     

     เดิมทีพวกมันไม่เคยมีนักบวชไม่มีแม้แต่รูปบูชาหรือสิ่งที่เรียกว่าศรัทธาด้วยซ้ำ แต่ถ้ามีนักบวชปรากฏขึ้นมาในบรรดาก็อบลินจริง ๆ ย่อมหมายถึงชาติพันธุ์นี้อาจจะมีสิ่งบูชา หรือแม้แต่มีการจุติของเทพเกิดขึ้น …

     ถ้าเป็นกรณีแรกก็ยังพอโอเคอ่ะค่ะ แต่ถ้าเป็นกรณีหลังอันนี้ … 

     อีฟเริ่มคาดเดาเมื่อพบว่าเบอร์เซิร์กเกอร์จงใจซ่อนตัว … การที่แค่พวกก็อบลินจะทำให้โอ๊คการ์ดระมัดระวังขนาดนี้ได้ ย่อมเป็นเรื่องตัวตนระดับเทพแน่ ๆ !

     “มันคือผู้ใด?”

     เสียงอันก้องกังวาลปรากฏขึ้นในห้วงโสตของยักษ์ไม้อีกครา ทว่าครั้งนี้น้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยความจริงจัง

     เบอร์เซิร์กเกอร์เข้าใจความนัยที่พระมารดาสื่อออกมาทันที มันหายใจเข้าลึกก่อนตอบวิวรณ์ภายในใจของตน

     “จากการสำรวจของข้า ตัวตนนั้นน่าจะเป็นเทพแห่งเหมันต์และการล่า – อูลร์”

     ชั้นว่าแล้ว!

     ความหมองหม่นมาเยือนในใจของอีฟทันควัน

     เบื้องหลังของเหตุการณ์นี้คือเทพองค์ที่อีฟคาดการณ์ไว้ไม่มีผิด!

     มันน่าสงสัยตั้งแต่มีออร์คมาตั้งรกรากใกล้กับป่าเอลฟ์แล้ว เพราะพวกมันคือหนึ่งในสาวกที่ใหญ่ที่สุดของเทพแห่งเหมันต์และการล่า เผ่าออร์คเป็นหูเป็นตาให้กับอูลร์เสมอมา

     ความรู้ที่เป็นมรดกตกทอดจากต้นไม้โลกองค์ก่อน มอบความทรงจำเกี่ยวกับอูลร์ให้กับอีฟในระดับที่เพียงพอต่อการเข้าใจสถานการณ์โดยรอบ

     อูลร์เป็นเทพแห่งศรัทธาที่มีอายุอานามไม่มากเท่าไร ว่ากันว่ามันถือกำเนิดจากรูปบูชาโบราณเมื่อประมาณ 2,000 ปีที่แล้ว มีระดับพลังอยู่ในโซนสูงสุดของเทพชั้นล่าง

     พันธกิจศักดิ์สิทธิ์ของมันคือการล่าและฤดูหนาว ระหว่างมันและต้นไม้โลกผู้ควบคุมธรรมชาติ ชีวิต และเหล่าเอลฟ์ ค่อนข้างกระท่อนกระแท่นจนเรียกได้ว่าบาดหมางกันมาช้านาน หากจะกล่าวว่ามันคือศัตรูตัวฉกาจของต้นไม้โลกก็ย่อมได้

     ภายหลังจากการล่มสลายของมหาพฤกษาองค์ก่อน เทพผู้เปี่ยมไปด้วยความดุร้ายองค์นี้ยังคงตามระรานเหล่าเอลฟ์อยู่เป็นนิจ มันเป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชนเผ่าเอลฟ์

     ดังนั้นอูลร์จึงอยู่ในรายการรอเก็บกวาดของอีฟ … เพื่อล้างแค้นให้กับต้นไม้โลก เพื่อป้องกันตนเอง และเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง …

     และตอนนี้ เทพองค์ที่ว่าก็กำลังตามหาคริสตัลหยาดพระโลหิตของมหาพฤกษา!

     และเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ เทพองค์ที่ว่าถึงกับยอมรับก็อบลินเป็นสาวก!!

     แม้ว่าก็อบลินจะมีปัญญาต่ำเตี้ยเรี่ยดินและให้พลังศรัทธาเพียงน้อยนิด แต่พวกมันก็แข็งขันและเขลาพอจะใช้ถูกงานเป็นอาจิน อีฟจึงไม่แปลกใจที่อูลร์เลือกใช้งานพวกมัน

     ทว่าการค้นหาคริสตัลโดยอูลร์น่าจะเพิ่งเริ่มมาได้ไม่นาน เนื่องจากหยาดคริสตัลพระโลหิตล้วนอยู่ในสถานะผนึกที่ช่วยซ่อนมันไว้จากทุกสรรพชีวิตจนยากแก่การค้นพบ

     คิดได้ดังว่า อีฟจึงเริ่มคาดเดาต่อ

     “เป็นไปได้มั้ยว่าอูลร์เริ่มค้นพบคริสตัลพวกนี้แล้ว … ทีนี้ก็เลยอยากรวบรวมพวกมันเพื่อศึกษาและหาทางครอบครองพลังแห่งชีวิตและธรรมชาติ?”

     พันธกิจศักดิ์สิทธิ์และพลังของอูลร์คือการล่าและฤดูหนาว ซึ่งนับว่าอยู่ต่ำกว่าพันธกิจศักดิ์สิทธิ์หลักอย่างชีวิตและธรรมชาติ ดังนั้นตามปกติอูลร์จึงอ่อนแอกว่าต้นไม้โลกไปโดยปริยาย และนั่นคือสาเหตุว่าทำไมพลังของอูลร์จึงยังอยู่ในช่วงเทพระดับต้น

     ที่สำคัญ … พลังของการล่าและฤดูหนาวก็นับว่าเกี่ยวข้องกับธรรมชาติและชีวิตตั้งแต่แรกเริ่มเดิมที

     ด้วยสาเหตุดังกล่าว อีฟจึงไม่แปลกใจที่อูลร์หาทางครอบครองพลังและพันธกิจศักดิ์สิทธิ์ด้วยการวิเคราะห์หยาดคริสตัลพระโลหิตของมหาพฤกษา

     แต่ถึงอย่างไร อีฟไม่คิดว่าอูลร์จะโยงเหตุการณ์ที่เหล่าคริสตัลเริ่มทยอยกันโผล่ขึ้นมากับการฟื้นคืนชีพของตน แต่คงจะเชื่อว่ามนตร์ที่ปิดผนึกคริสตัลเหล่านี้ไว้คงจะคลายออกตามเวลามากกว่า

     การที่มนตราไร้เจ้าของจะเสื่อมจะคลายหลังผ่านมาเป็นพันปีนั้นนับว่าเป็นเรื่องปกติ … และอีฟไม่คิดว่าแผนของอูลร์จะสำเร็จ เนื่องจากต้นไม้โลกได้ฟื้นคืนชีพและกลับมาครอบครองพลังแห่งชีวิตและธรรมชาติแล้ว

     พันธกิจศักดิ์สิทธิ์นี้ถือเป็นสิ่งเฉพาะตัว ไม่ว่าอูลร์จะปรารถนาพลังงนี้เพียงใด จะพยายามเพียงวิเคราะห์เท่าไร มันก็คงไม่สามารถเรียนรู้พลังที่มันต้องการได้

     เป้าหมายของมันได้พังลงในวินาทีที่อีฟจุติในฐานะมหาพฤกษา

     อย่างไรก็ตาม การดูดกลืนพลังศักดิ์สิทธิ์จากคริสตัลก็มอบพลังให้กับอูลร์ได้ในปริมาณมาก ซึ่งจะช่วยให้มันแข็งแกร่งขึ้นอีกในระดับหนึ่ง และนั่นเป็นสิ่งที่อีฟไม่อยากให้เกิดขึ้น

     ที่สำคัญ เหล่าคริสตัลพวกนี้ควรจะเป็นสิ่งตกทอดให้กับอีฟผู้รับช่วงพลังจากต้นไม้โลก และเป็นสิ่งที่ช่วยอีฟในการฟื้นฟูพลังอย่างรวดเร็ว!

     คิดได้ดังนั้น อีฟจึงเอ่ยถามเจ้าโอ๊คการ์ด

     “พวกก็อบลินเหล่านั้นแข็งแกร่งประมาณใด?”

     “พวกมันส่วนใหญ่เลเวล 5 มีระดับจ่าฝูงบางตัวที่เลเวล 10 นักบวชของพวกมันอยู่ที่ระดับ 11 และจำนวนของนักบวชยังไม่เด่นชัดขอรับ”

     เบอร์เซิร์กเกอร์ตอบกลับ

     พวกมันไม่ค่อยเก่งเท่าไรแฮะ

     อีฟลอบพยักหน้าอยู่ในใจ

     เมื่อพิจารณาจากระดับความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้าม เบอร์เซิร์กเกอร์สามารถกวาดล้างพวกมันได้ด้วยเถาวัลย์เส้นเดียวถ้ามันไม่กังวลเรื่องการที่ตัวตนระดับสูงอย่างอูลร์อาจจะพบมันเข้า

     “งื้คือมันมีนักบวชเลเวล 11 และจ่าฝูงเลเวล 10 .. ส่วนที่เหลือก็เลเวล 5 ถึง 9 สินะ”

     “ถ้าประมาณนี้ก็เหมาะที่จะให้พวกผู้เล่นมาฝึกฝนทักษะ”

     อีฟพึมพำ

     พลังของเหล่าผู้เล่นกว่าสามร้อยคนไต่ระดับรวดเร็วอย่างน่าใจหายหลังจากพวกเขาพากันทำเควสมาหลายวัน ในตอนนี้พวกผู้เล่นส่วนใหญ่อยู่ในช่วงเลเวลเจ็ดหรือสูงกว่านั้น

     ผู้เล่นระดับหัวหอกหลายคนได้บรรลุเลเวล 10 จากการทำเควสอย่างขยันขันแข็ง ซึ่งนับว่าเป็นระดับสุดท้ายของผู้ฝึกตน ขาดอีกเพียงก้าวเดียวก็จะเข้าสู่ช่วงยอดฝีมือระดับเหล็ก

     ด้วยพละกำลังในระดับปัจจุบัน พวกเขาอาจจะพบว่าการต่อสู้กับมอนสเตอร์ระดับเหล็กยังเปี่ยมไปด้วยความท้าทาย แต่ถ้าเป็นแค่พวกก็อบลินก็คงไม่คณามือเหล่าผู้เล่นแต่อย่างใด และถ้าเหล่าผู้เล่นร่วมมือกันก็คงจะพอต่อกรกับนักบวชเผ่าก็อบลินที่อยู่ในระดับเหล็กเลเวล 11 ได้

     ที่สำคัญคือเริ่มมีกลุ่มผู้เล่นที่เบื่อหน่ายการทำเควสประจำวันที่ต้องทำซ้ำไปซ้ำมา แถมยังมีกลุ่มผู้เล่นบางส่วนเลือกที่จะเมินคำแนะนำในระบบไกด์ผู้เล่น และพยายามจะออกไปจากบริเวณปลอดภัยเพื่อสำรวจสิ่งใหม่ ๆ 

     ในเวลานี้ คงไม่มีอะไรเหมาะไปกว่าการมอบความสนุกสนานเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับพวกผู้เล่น

     แรกเริ่มเดิมที อีฟตั้งใจจะใช้เบอร์เซิร์กเกอร์ต้อนมอนสเตอร์เข้ามาในโซนปลอดภัยเพื่อให้เหล่าผู้เล่นใช้เป็นของเล่นพร้อมกับการเพิ่มเลเวล อีฟคิดว่าช่วงเลเวล 11 จะเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสมกับการปล่อยพวกผู้เล่นออกไปสำรวจโลกกว้างภายนอก

     การปรากฏตัวของก็อบลินได้ก่อให้เกิดแนวทางใหม่ที่ดีกว่าเดิมกับเกมของอีฟ

     “เบอร์เซิร์กเกอร์เป็นดรูอิดผู้นับถือธรรมชาติ ถ้าเราให้มันต้อนสัตว์อสูรเข้ามาก็คงจะกระทบต่อศรัทธาของมันในระดับนึง … ถึงจะไม่บ่นออกมาอ่ะนะ … แต่ถ้าเป็นก็อบลินล่ะก็ไม่มีปัญหา”

     “ก็อบลินเป็นศัตรูของพวกเราอยู่แล้ว แถมพวกมันก็อ่อนแอใช้ได้ ตบตีมันไปก็คงไม่กระทบกับความรู้สึกที่เหล่าสาวกของเราในดินแดนนี้ ที่สำคัญคือพวกก็อบลินคงไม่อันตรายต่อผู้เล่นเท่าไร”

     “อีกอย่าง การที่พวกผู้เล่นช่วยกันล่าก็อบลินก็จะช่วนบั่นทอนแผนของอูลร์ได้เป็นอย่างดี และจะช่วยสร้างข่าวลือเรื่องวิญญาณแค้นของเหล่าเอลฟ์ผู้วายชมน์ได้ทางอ้อม”

     “ที่สำคัญ ทุกคนจะช่วยเค้าหาคริสตัลพระโลหิต และทำให้เค้าหลุดพ้นสภาพผักได้ไวขึ้น!”

     “เนี่ยล่ะค่ะ เส้นทางสู่การคืนทุนของเค้า!”

     คิดได้ดังว่า อีฟเริ่มวางแผนใหม่อย่างรวดเร็ว เริ่มจากการสร้างพล็อตรองให้กับตัวเกมในฐานะเควสรองบนพื้นที่โบราณสถานฟลอเรนซ์ และให้พวกผู้เล่นเก็บกวาดฝูงก็อบลิน!

     เหล่าผู้เล่นจากดาวสีฟ้านั้นแตกต่างกับเบอร์เซิร์กเกอร์

     โอ๊คการ์ดเป็นทั้งผู้ศรัทธาและสาวกของพระมารดาแห่งธรรมชาติ หากมันเข้าโจมตีนักบวชภายใต้การปกครองของอูลร์ย่อมก่อให้เกิดการตระหนักโดยเทพฝ่ายนั้น

     แต่เรื่องนี้กลายเป็นหนังคนละม้วนเมื่อใช้งานผู้เล่น …

     แม้พวกเขาจะหน้าตาเหมือนกับเอลฟ์เพียงใด แต่ก็ไม่มีใครเป็นผู้ศรัทธาของอีฟ นั่นหมายถึงการปราศจากร่องรอย หรือการเชื่อมต่อกับเทพจากดวงวิญญาณของพวกเขา

     แท้จริงแล้วไม่ใช่แค่เหล่าผู้เล่นไม่ได้มีสถานะเป็นผู้ศรัทธา ในความเป็นจริงมีเพียงแค่สติสัมปชัญญะที่เชื่อมโยงมาจากดาวสีฟ้า วิญญาณของพวกเขายังคงอยู่บนดาวดวงนั้นเหมือนเดิม ดังนั้นถ้าอูลร์ต้องการสืบสาวราวเรื่องด้วยการวิเคราะห์ร่องรอยแห่งศรัทธา … มันก็ต้องไปที่ดาวดวงนั้นให้ได้เสียก่อน

     อีกอย่างคืออูลร์เป็นหนึ่งในเทพที่อยู่ในเหตุการณ์เมื่อพันปีก่อน ณ เวลาที่ยุคสมัยของต้นไม้โลกได้ล่มสลายลง มันได้เห็นเหตุการณ์นั้นด้วยตาของมัน … และคาดได้ว่ามันยังคงเชื่อเรื่องจุดจบของต้นไม้โลกอย่างเหนียวแน่น

     ในกรณีที่ร้ายแรงที่สุด การเคลื่อนไหวของผู้เล่นอาจจะทำให้อูลร์คาดเดาไปในแนวทางที่มีเอลฟ์ผู้ละทิ้งความศรัทธาหวนคืนมาสู่ป่า ซึ่งมันคงไม่เชื่อมโยงมาถึงการคืนชีพของมหาพฤกษา

     นอกจากนี้ การที่ก็อบลินมาอาศัยโบราณสถานแห่งนครศักดิ์สิทธิ์ ย่อมเป็นหนึ่งในสาเหตุให้เกิดความขุ่นเคืองท่ามกลางเหล่าเอลฟ์ หากจะมีการปะทะกันบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด

     ในกรณีนี้ การล่าสังหารก็อบลินจำนวนเล็กน้อยโดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ศรัทธา ย่อมไม่เพียงพอต่อการดึงดูดความสนใจจากอูลร์

     อีฟไม่คิดว่าก็อบลินในเมืองฟลอเรนซ์เหล่านี้จะเป็นกองกำลังก็อบลินหนึ่งเดียวของอูลร์ มีความเป็นไปได้ว่าตามซากปรักหักพังที่อื่นก็คงจะมีสภาพคล้าย ๆ กัน แน่นอนว่าอีฟไม่คิดจะปกปิดเรื่องการฟื้นคืนชีพของตนไปตลอด

     เพราะในปัจจุบัน อูลร์คงค้นพบแล้วว่ามนตร์ที่ผนึกคริสตัลไว้ได้คลายออก มันคงจะพบว่าคำสาปของมหาพฤกษาได้สิ้นฤทธิ์ไปในเวลาไม่นานนับจากนี้

     ที่เหลือคงเป็นเรื่องของจังหวะและโอกาส ที่ว่าอูลร์จะเริ่มส่งสาวกมาสำรวจตอนไม้โลกตอนไหน … และเมื่อไรที่ตัวตนของอีฟจะเป็นที่ประจักษ์ต่อชาวซากัสอีกครั้ง

     โชคยังเข้าข้างอีฟ ที่ในปัจจุบันมีเทพผู้ค้นพบคริสตัลพระโลหิตเพียงตนเดียว คือเทพชั้นล่างอย่างอูลร์ อีฟจึงควรเร่งฟื้นฟูพลังของตนอย่างเลี่ยงมิได้ …

     ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลนี้ การเลือกทางที่เสี่ยงสักหน่อยก็ดูสมเหตุสมผล

     คิดได้ดังนั้น อีฟจึงตัดสินใจในบัดดล

     “เบอร์เซิร์กเกอร์ … เราต้องการกำลังของเจ้า”

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

      T/N: หาว~✰

      ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ 

      Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+