[นิยายแปล] Game of the World Tree 21 นี่คือเควสลับใช่ป่ะ?

Now you are reading [นิยายแปล] Game of the World Tree Chapter 21 นี่คือเควสลับใช่ป่ะ? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

     เวลาบนดาวสีฟ้าผ่านไปกว่าสามวัน นับจากวันเปิดตัวเกม The Kingdom of Elves ซึ่งหมายถึงกว่าสิบสองวันภายในผืนทวีปซากัส

     ผู้เล่นที่มีเลเวลถึง 10 ค่อย ๆ ทวีจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว จากบรรดาผู้เข้าร่วมทดสอบกว่า 300 ชีวิต

     … เดมาเซีย

     เขาคือหนึ่งในผู้เล่นสายพละกำลังที่อัพระดับถึงเลเวล 10 เมื่อวันก่อน และเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ร่วมชะตากรรมที่ค้นพบว่าหลอด EXP ของเลเวล 10 ไป 11 นั้นแตกต่างจากระดับก่อนหน้าอย่างมหาศาล ซึ่งต้องใช้ค่าประสบการณ์ร่วมหมื่นแต้ม

     ช่วงเลเวล 9 ไปเลเวล 10 ใช้ค่าประสบการณ์เพียงแค่ 3,000 แต้มเท่านั้น

     เมื่อเหล่าผู้เล่นเริ่มคุ้นเคยกับระบบเกม พวกเขาพัฒนาลู่ทางมากมายเพื่อให้ได้ค่าประสบการณ์อย่างรวดเร็วเท่าที่จะเป็นไปได้

     วิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในปัจจุบันคือการล่ามอนสเตอร์ และการทำภารกิจเช่นเดียวกับเกมอื่น ๆ 

     ทว่ามันมีบางสิ่งที่ต่างไปจากเกมอื่น สิ่งนั้นคือของที่เหล่าผู้เล่นทุกคนล้วนประสบเมื่อไปล่ามอนสเตอร์ เป็นความโชกเลือดในระดับสมจริงจนทุกคนสงสัยว่ามันได้รับการอนุมัติให้สร้างได้อย่างไร แน่นอนว่าผู้เล่นจำนวนมากไม่คุ้นชินกับดีกรีความเดือดระดับนี้ แต่สุดท้ายทุกคนก็เริ่มด้านชาอย่างเลี่ยงไม่ได้ … 

     อย่างไรก็ตาม เกมนี้ถึงขั้นเคลมว่าเป็นเกม VR ที่มอบประสบการณ์สมจริงที่สุด! หากผู้เล่นท่านใดไม่ชอบระบบนี้ก็สามารถใช้เครื่องมือในระบบมาช่วยเบลอความรุนแรงได้อย่างง่ายดาย

     หลังจากเลเวล 9 เหล่าผู้เล่นก็แบ่งกรุ๊ปกันเป็นสองกลุ่มใหญ่ ๆ กันตามสไตล์การเก็บเลเวล

     ผู้เล่นสายดั้งเดิมบางกลุ่มอย่าง นกกาเหว่า เลือกที่จะอยู่ในค่ายและพัฒนาเลเวลสู่ระดับเหล็กด้วยการทำภารกิจต่าง ๆ 

     ในขณะที่ผู้เล่นเจนศึกหลายคนเลือกที่จะผจญภัยไปรัศมี 10 กิโลเมตรโดยรอบเพื่อท้าทายชะตาฟ้าดินของตน

     เหล่าผู้เล่นสามารถรับค่าประสบการณ์จากการตัดไม้ การล่าสัตว์อสูร ทว่าสิ่งมีชีวิตในโซนปลอดภัยล้วนอ่อนแอเกินกว่าจะใช้วิธีดังกล่าวให้ได้ผลคุ้มค่าคุ้มเวลา ดังนั้นค่าประสบการณ์จากสิ่งเหล่านี้จึงห่างไกลจากการทำภารกิจอยู่เป็นโยชน์ 

      ดังนั้น ผู้เล่นบางกลุ่มจึงได้ริเริ่มความคิดที่จะออกนอกโซนปลอดภัยเพื่อหาสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งสมน้ำสมเนื้อ ด้วยความคาดหวังว่าจะได้รับค่าประสบการณ์ที่ดี

     หลังจากที่ลังเลกันอยู่ครู่ใหญ่ ในที่สุดผู้เล่นบางกลุ่มก็ตัดสินใจที่จะออกจากเซฟโซน ผจญภัยไปในบริเวณนอกมินิแมพเพื่อหาอสูรป่าที่ควรค่ากับการล่า

     การตัดสินใจครั้งนี้นับว่าสัมฤทธิ์ผล เมื่อกลุ่มผู้เล่นนำโดย ข้าวกล่อง พบเข้ากับงูหลามยักษ์เลเวล 9 นอกบริเวณปลอดภัย พวกเขาล่ามันสำเร็จและได้รับรางวัลเป็นค่าประสบการณ์จำนวนมาก

     ข่าวเรื่องการล่าสัตว์อสูรนอกโซน แพร่กระจายไปในกลุ่มผู้เล่นราวกับไฟลามทุ่ง จำนวนผู้เล่นที่ออกไปเสี่ยงโชคในบริเวณนอกเขตปลอดภัยจึงมากขึ้นเรื่อย ๆ 

     แม้กระทั่งกลุ่มผู้เล่นสายภารกิจบางคนก็เลือกที่จะเข้าร่วมกับสหายสายฟาร์มมอนรุ่นบุกเบิกเหล่านี้

     อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นส่วนมากก็เลือกที่จะทำตามระบบสอนเล่น และอัพเกรดเลเวลของตนผ่านระบบภารกิจอย่างมั่นคง

     การคาดโทษจากการตายในเกมรุนแรงยิ่งขึ้นตามระดับเลเวลที่เพิ่มมา ไม่มีใครอยากจะกลับไปเริ่มต้นใหม่จากหนึ่งจากโทษของการตาย

     แน่นอนว่าผู้เล่นบางกลุ่มไม่พอใจกับระบบการชุบชีวิตของเกมนี้ จนถึงขั้นเปิดประเด็นกลางกระดานสนทนาหลายต่อหลายครั้ง … อีฟจึงใช้ความคิดเห็นเหล่านั้นมาใช้ประกอบการปรับสมดุลเกม

     ความสมจริงเกินเหตุจนน่าวิตกของการล่าอสูร ยังส่งผลให้ผู้เล่นส่วนน้อยเลือกจะออกไปผจญภัยแม้จะมีระบบโมเสกช่วยเบลอเนื้อหารุนแรง ตอนนี้ผู้เล่นสายฟาร์มมอนส่วนใหญ่จึงเป็นชายหนุ่ม

     เดมาเซียเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ชื่นชอบการสำรวจ เขาเคยพลาดตายหลายต่อหลายครั้งก่อนเลเวล 5 และเก็บเลเวลตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อตเพื่อกลับมายืนอยู่จุดเดิม ในขณะเดียวกัน หลี่มู่และนกกาเหว่าอยู่ในระหว่างการพุ่งสู่ระดับเหล็ก!

     เนื่องจากเดมาเซียไม่อยากถูกทิ้งห่างไปไกลเรื่อย ๆ จากหลี่มู่ เขาจึงตัดสินใจออกเดินทางโดยรวมกลุ่มกับผู้เล่นชายอีกสามคนที่อยู่ในช่วงเลเวล 10 เหมือนกัน

     ชายหนุ่มทั้งสี่คนนี้ มีสามนายเป็นสายกายภาพ และอีกหนึ่งชายเป็นสายเวทมนตร์ พวกเขาตัดสินใจบอกลาเขตปลอดภัยและก้าวเข้าสู่ความเวิ้งว้างนอกมินิแมพไปด้วยกัน

     …

     ทันทีที่พวกเขาออกจากเซฟโซน ทุก ๆ อย่างล้วนยากขึ้นอย่างก้าวกระโดด บรรดาแมกไม้ในป่ายิ่งดูแปลกพิศดารขึ้นไปอีกขั้น

     เดมาเซียและผองเพื่อนค่อย ๆ รุกคืบไปตามป่า พวกเขาหมั่นใช้อาวุธทำสัญลักษณ์ระหว่างทางพลางสอดส่องบริเวณโดยรอบอย่างระมัดระวัง เพื่อเตรียมตั้งรับเหล่าสัตว์อสูรที่อาจปรากฏตัวขึ้นมา

     “ต้นไม้มันเยอะไปปะ? เดินยากเป็นบ้า”

     “เอาน่ะเอาน่า มันเป็นป่าที่ไม่เคยมีคนบุกเบิกนี่นา”

     “ลูกพี่เดมาเซีย แน่ใจป่าวว่าแหล่งข้อมูลพี่เชื่อถือได้? มันจะมีงูหลามยักษ์แถวนี้จริงดิ?”

     “สบายใจได้เลย! มันต้องอยู่แถวนี้แหละ! เราจ่ายค่าข้อมูลนี้ให้กับพี่ข้าวกล่องด้วยต้นสนตะวัน เขาบอกว่าเขาเห็นมันแถวนี้แบบเต็มสองตา”

     เดมาเซียทุบอกของตนสร้างความมั่นใจให้กับเพื่อนร่วมทีม

     ระบบเกมในปัจจุบันยังไม่เอื้อให้เหล่าผู้เล่นแลกเปลี่ยนกัน เนื่องจากยังไม่มีระบบเงินตรา ทุกวันนี้จึงยังเป็นการใช้ไอเท็มต่าง ๆ มาเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน ที่สำคัญคือทรัพยากรโดยรอบมีอยู่อย่างจำกัด ราคาของวัตถุดิบหายากจึงยิ่งล้ำค่าเป็นพิเศษ ซึ่งอีฟได้เตรียมระบบ แต้มผลงาน ไว้แทนค่าเงินเป็นที่เรียบร้อย โดยจะประกาศใช้งานหลังจากผู้เล่นอัพเกรดเป็นเลเวล 11 ได้สำเร็จ

     “อย่างงี้นี่เอง!”

     ทุกคนล้วนโล่งใจเมื่อได้ยินคำอธิบายจากเดมาเซีย

     พวกเขาเคลื่อนพลต่อไปอย่างช้า ๆ 

     ไกลกว่าร้อยเมตรในทิศเบื้องหลังชายหนุ่มทั้งสี่ ปรากฏแววตาเจิดจ้าคู่หนึ่งคอยสังเกตพวกเขาทุกฝีก้าว

     มันคือโอ๊คการ์ด นามว่าเบอร์เซิร์กเกอร์

     ร่างขนาดมหึมาของมันสามารถซ่อนตัวได้อย่างอย่างแนบเนียนท่ามกลางต้นไม้โบราณ มันบีบร่างอันสั่นเทาของก็อบลินตนหนึ่งไว้ …

     มันเฝ้ารออยู่บริเวณโบราณสถานฟลอเรนซ์และจับเอาก็อบลินเลเวล 10 ตนนี้มา เบอร์เซิร์กเกอร์ได้ทุบร่างก็อบลินจนมันจะตายอยู่รอมร่อ 

     เบอร์เซิร์กเกอร์คอยเฝ้าสังเกตท่าทางของเหล่าผู้เล่นอย่างใกล้ชิดพลางบีบก็อบลินสภาพใกล้ตายไว้ในกำมือ

     กลุ่มเดมาเซียไม่ทันตระหนักถึงสายตาที่จับจ้องอยู่แม้แต่น้อย พวกเขาเดินทางอย่างสนุกสนานไปในป่าพร้อมกับสนทนาอย่างออกรส

     “พวกเรามาไกลแค่ไหนแล้วหว่า”

     “เกือบ ๆ จะเจ็ดกิโลจากเขตปลอดภัยล่ะ”

     “ชู่ว เบาหน่อยพวก ตอนนี้เราอยู่นอกเซฟโซนนะ เดี๋ยวได้ดับยกตี้ถ้าเจอกับมอนระดับเหล็กเข้าจัง ๆ”

     ในวินาทีนั้น เดมาเซียซึ่งเป็นผู้นำทีมพลันดูหวาดวิตก หูแหลมของเขาขยับเล็กน้อย เขาขยับนิ้วส่งสัญญาณให้ทั้งทีมเงียบพลางกระซิบแผ่วเบา

     “เงียบแปป! เราได้ยินบางอย่าง!”

     เสียงของเขาดูตื่นเต้นเล็กน้อย

     ผู้เล่นทั้งสี่พร้อมใจกันเงียบลงในทันที จิตวิญญาณชายหนุ่มล้วนลุกโชคด้วยความตื่นเต้น พวกเขาค้อมตัวลงต่ำพลางกลั้นหายใจ สายตาทุกคู่สอดส่องไปรอบกายอย่างระแวงระวัง 

     “แอ๊ แอ๊ แอ๊–!”

     เสียงกรีดร้องโหยหวนโทนแหลมสูงดังขึ้นทำลายความเงียบสงัดจากทิศทางเบื้องหน้า ฝูงนกกาล้วนแตกตื่นกันพัลวัน

     ทุก ๆ คนคว้าอาวุธคู่กายออกมาโดยพร้อมเพรียงด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

     “แอ๊ แอ๊ แอ๊–!”

     ต้นตอของเสียงกรีดร้องขยับเข้ามาใกล้ทุกขณะ และแฝงไปด้วยความคลุ้มคลั่งอย่างผิดปกติ ทุกคนเข้าสภาวะพร้อมปะทะด้วยหัวใจที่เต้นระรัวอยู่ในอก

     “มันอยู่ข้างหน้านี้ …”

     เดมาเซียกล่าวอย่างสุขุม

     ในวินาทีที่เขาพูดจบ พลันปรากฏร่างเขียวผอมแห้งบุกป่าฝ่าดงออกมาเบื้องหน้า ร่างของมันอยู่ในผ้าขี้ริ้ว นัยน์ตาของมันแดงฉาน มันพุ่งเข้าใส่กลุ่มชายหนุ่มอย่างบ้าคลั่ง

     “ก … ก็อบลิน?”

     สมาชิกทีมทั้งสามตะโกนพร้อมกันอย่างพร้อมเพรียง

     จอมเวทหนึ่งเดียวในทีมเร่งร่ายคาถาประเมิน ก่อนจะเผยแววตาสดใส

     “มันเลเวลสิบ! แถมมันกำลังบาดเจ็บ!”

     “มันไม่มีอาวุธ!”

     “แถมมันค่อนข้าง … ดุ! มันไม่กลัวเราเลยเรอะ?”

     แววตาเดมาเซียเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น เขาเหวี่ยงดาบของตนพลางเอ่ย

     “ใครสนล่ะ? ค่าประสบการณ์วิ่งมาแล้วเว้ย! ฆ่ามัน!”

     “ฆ่ามัน!”

     “อย่าให้มันหนีไปได้!”

     ทุกคนตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน 

     ก๊วนชายหนุ่มพากันคว้าอาวุธเข้าเชือดเฉือนก็อบลินเต็มแรง พลางตะโกนโหวกเหวก 

     ทว่า ก็อบลินกลับพุ่งเข้าปะทะอาวุธท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคน มันตายอนาถคาคมมีดโดยไม่แม้แต่จะหลบเลี่ยง …

     ในวินาทีที่มันจะสิ้นลม พลันปรากฏแววตาอันโล่งใจในตาน้อย ๆ ของมัน

     ทักษะพลียุทธค่อย ๆ เริ่มทำงานโดยอัตโนมัติ ร่างกายก็อบลินพลันทรุดโทรมราวกับผ่านช่วงเวลานับสิบ ๆ ปีก่อนจะสลายกลายเป็นผงธุลีต่อหน้าทุกคน

     ในขณะเดียวกัน ชายหนุ่มทั้งสี่ได้รับการแจ้งเตือนจากระบบเกี่ยวกับค่าประสบการณ์ที่พวกเขาได้รับจากการล่า

     ทุกคนยังคงดูงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

     “ทำไมมันไม่หลบหว่า …?”

     “ไม่รู้ดิแถมแบบ … เหมือนก็อบลินมันอยากจะรีบตายมากกว่า”

     “เราก็ว่างั้น เหมือนว่ามันโดนตัวอะไรไล่กวดมา …”

     “โอย … ยืมไหล่แปปดิ เห็นเลือดแล้วเวียนหัวอ่ะพวก …”

     “…”

     “…”

     “…”

     “อ่ะเดี๋ยว นี่มันอะไร?”

     ผู้เล่นคนหนึ่งย่อตัวลงสำรวจกองขี้เถ้าที่เคยเป็นร่างของก็อบลิน เขาหยิบวัตถุประหลาดที่เปล่งประกายในกองฝุ่นขึ้นมา

     มันคือผลึกคริสตัลที่เปล่งแสงสีเขียวอ่อน ๆ ราวกับมีพลังลึกลับบางอย่างภายในนั้น

     “ของดรอป?”

     “ไหนลองใช้สกิลวิเคราะห์ … เอ … ดูข้อมูลไม่ได้แฮะ หรือนี่คือไอเท็มเควส?”

     สี่สหายชายหนุ่มล้วนสับสนระคนตื่นเต้น

     ในวินาทีนั้น แมกไม้เบื้องหน้าถูกร่างมหึมาแหวกออก เงาทะมึนของบางสิ่งขนาดใหญ่ทอดลงบนผู้เล่นทั้งสี่

     มันคือเบอร์เซิร์กเกอร์ที่เดินออกจากป่า เจ้ายักษ์ไม้ได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าทุก ๆ คน

     เหล่าผู้เล่นเงยหน้ามองโอ๊คการ์ดที่สูงกว่าสามสิบเมตรเบื้องหน้า พวกเขากลืนน้ำลายด้วยความตระหนกถึงขีดสุด

     “นี่มันอะไรวะเนี่ย?”

     “ยักษ์ไม้?”

     “ห … ใหญ่โคตร …”

     เดมาเซียลอบคิดบางสิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเผยแววตาอันเจิดจรัส 

     “เขาคือโอ๊คการ์ด! พวกเราเจอโอ๊คการ์ดตัวเป็น ๆ!”

     “โอ๊คการ์ด? ไม่ใช่ว่านั่นคือ NPC สุดลึกลับที่พี่มู่เคยพูดถึงเหรอ?”

     “แน่นอน! เราเคยเห็นสกรีนช็อตที่ถ่ายติดเขาด้วย!”

     เดมาเซียพลันนึกบางสิ่งออกมาทันควัน

     “มิน่า ก็อบลินมันถึงวิ่งหน้าตั้งมาแบบไม่คิดชีวิต คงเป็นโอ๊คการ์ดที่ไล่ล่ามาตลอดทาง …”

     เดมาเซียชะงักหลังพูดจบประโยค

     แต่เดี๋ยวก่อน …

     ไม่ใช่ว่าพวกตูไปแย่งเหยื่อของเฮียแกมาเรอะ?

     ในวินาทีนี้เหมือนว่าสี่หนุ่มจะมีความคิดที่คล้ายกัน พวกเขามองกันด้วยสายตาเลิ่กลั่ก เตรียมพร้อมจะโกยแน่บทันทีถ้าจำเป็น

     พวกเขารู้ดีว่าตนไม่สามารถประเมินความคิดของ NPC ในเกมนี้ด้วยประสบการณ์จากเกมอื่นได้ เหล่า NPC มีความทุกข์และความสุขที่สมจริงอย่างยิ่งยวด แม้ว่าโอ๊คการ์ดจะอยู่ฝั่งเดียวกับพวกเขา แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นพันธมิตรผู้รักสงบเสมอไป …

     จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเจ้านี่เกิดบ้าเลือดขึ้นมา …

     ชายหนุ่มจ้องมองร่างสูงกว่าสามสิบเมตรที่หน้าตาดูดุร้ายเอาเรื่องด้วยความหวั่นเกรง

     พี่ใหญ่คนนี้ดูจะไม่เป็นมิตรเท่าไรนะ …

     ทว่าการกระทำของโอ๊คการ์ดกลับทำให้ทุกคนตะลึงงันอีกรอบ

     ร่างสูงของมันหยุดลง ทีท่าของมันย่อลงค้อมคำนับเล็กน้อย ยื่นแขนไม้ขนาดใหญ่ข้างหนึ่งวาดสัญลักษณ์มหาพฤกษาในระดับอก และกล่าวด้วยเสียงทุ้มราวกับสุภาพบุรุษสูงวัย

     “ผู้ถูกเลือกผู้สูงศักดิ์ทั้งหลาย ขอบคุณสำหรับการสังหารโจรป่าหยาบช้า และเพื่อแสดงถึงความขอบคุณ ข้าจะมอบสิ่งที่เหมาะสมให้ตามความปรารถนาของพวกท่าน”

     เหล่าผู้เล่นมองกันและกันด้วยความสับสน

     “โจร”

     “มันขโมยอัญมณีนี้มาเหรอ?”

     “สิ่งที่เหมาะสมกับความปรารถนาของพวกเรา?”

     เดมาเซียดูเข้าใจบางอย่างขึ้นมาโดยพลัน เขาตบต้นขาตนเองฉาดใหญ่พร้อมเอ่ย

     “เจ้าพวกบ้า … นี่มันเควสลับแน่ ๆ! มันต้องเป็นเควสลับแน่ ๆ! พวกเราคงเจอเนื้อเรื่องลับเข้าเต็ม ๆ!”

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

      T/N: เคยคิดจะทำเควสลับใน Tree of Savior เพื่อปลดอาชีพชิโนบิ – นักมวย – มิโกะ – รูน นับถือใจคนที่ทำด้วยตัวเองจนเสร็จจริง ๆ ค่ะ … โดยส่วนตัวได้ทำไปแค่ชิโนบิและรูน นอกจากสองอาชีพนี้คือกดใบข้ามเอาหน้าตาเฉย

      สาเหตุที่หยุดทำ เพราะตอนนั้นออนไลน์ทิ้งไว้เฝ้าแมพอยู่เป็นวัน ๆ เพื่อหาของเควส แบ่งทีมกันอย่างดี 6 คน เฝ้าแต่ละแชนแนลคอยรายงานผล ทีนี้มันไม่เกิดสักทีเลยส่ง ticket หาทีมงาน แล้วพบว่าไอเท็มเควสนี้ติด bug จริง ๆ !! 

     … ไอเท็มเควสลับนี้จะไม่ spawn อย่างแน่นอน ต้องรออัพเดท 

      ถ้าไม่นับมิตรภาพระหว่างทาง คืออดหลับอดนอนอย่างเสียเปล่าค่ะ

      นั่นล่ะค่ะ

      จบเลย จบจริง ๆ ไม่คิดจะทำเควสประเภทจ่ายเวลาสูง ๆ อีก

      ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ 

      Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] Game of the World Tree 21 นี่คือเควสลับใช่ป่ะ?

Now you are reading [นิยายแปล] Game of the World Tree Chapter 21 นี่คือเควสลับใช่ป่ะ? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

     เวลาบนดาวสีฟ้าผ่านไปกว่าสามวัน นับจากวันเปิดตัวเกม The Kingdom of Elves ซึ่งหมายถึงกว่าสิบสองวันภายในผืนทวีปซากัส

     ผู้เล่นที่มีเลเวลถึง 10 ค่อย ๆ ทวีจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว จากบรรดาผู้เข้าร่วมทดสอบกว่า 300 ชีวิต

     … เดมาเซีย

     เขาคือหนึ่งในผู้เล่นสายพละกำลังที่อัพระดับถึงเลเวล 10 เมื่อวันก่อน และเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ร่วมชะตากรรมที่ค้นพบว่าหลอด EXP ของเลเวล 10 ไป 11 นั้นแตกต่างจากระดับก่อนหน้าอย่างมหาศาล ซึ่งต้องใช้ค่าประสบการณ์ร่วมหมื่นแต้ม

     ช่วงเลเวล 9 ไปเลเวล 10 ใช้ค่าประสบการณ์เพียงแค่ 3,000 แต้มเท่านั้น

     เมื่อเหล่าผู้เล่นเริ่มคุ้นเคยกับระบบเกม พวกเขาพัฒนาลู่ทางมากมายเพื่อให้ได้ค่าประสบการณ์อย่างรวดเร็วเท่าที่จะเป็นไปได้

     วิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในปัจจุบันคือการล่ามอนสเตอร์ และการทำภารกิจเช่นเดียวกับเกมอื่น ๆ 

     ทว่ามันมีบางสิ่งที่ต่างไปจากเกมอื่น สิ่งนั้นคือของที่เหล่าผู้เล่นทุกคนล้วนประสบเมื่อไปล่ามอนสเตอร์ เป็นความโชกเลือดในระดับสมจริงจนทุกคนสงสัยว่ามันได้รับการอนุมัติให้สร้างได้อย่างไร แน่นอนว่าผู้เล่นจำนวนมากไม่คุ้นชินกับดีกรีความเดือดระดับนี้ แต่สุดท้ายทุกคนก็เริ่มด้านชาอย่างเลี่ยงไม่ได้ … 

     อย่างไรก็ตาม เกมนี้ถึงขั้นเคลมว่าเป็นเกม VR ที่มอบประสบการณ์สมจริงที่สุด! หากผู้เล่นท่านใดไม่ชอบระบบนี้ก็สามารถใช้เครื่องมือในระบบมาช่วยเบลอความรุนแรงได้อย่างง่ายดาย

     หลังจากเลเวล 9 เหล่าผู้เล่นก็แบ่งกรุ๊ปกันเป็นสองกลุ่มใหญ่ ๆ กันตามสไตล์การเก็บเลเวล

     ผู้เล่นสายดั้งเดิมบางกลุ่มอย่าง นกกาเหว่า เลือกที่จะอยู่ในค่ายและพัฒนาเลเวลสู่ระดับเหล็กด้วยการทำภารกิจต่าง ๆ 

     ในขณะที่ผู้เล่นเจนศึกหลายคนเลือกที่จะผจญภัยไปรัศมี 10 กิโลเมตรโดยรอบเพื่อท้าทายชะตาฟ้าดินของตน

     เหล่าผู้เล่นสามารถรับค่าประสบการณ์จากการตัดไม้ การล่าสัตว์อสูร ทว่าสิ่งมีชีวิตในโซนปลอดภัยล้วนอ่อนแอเกินกว่าจะใช้วิธีดังกล่าวให้ได้ผลคุ้มค่าคุ้มเวลา ดังนั้นค่าประสบการณ์จากสิ่งเหล่านี้จึงห่างไกลจากการทำภารกิจอยู่เป็นโยชน์ 

      ดังนั้น ผู้เล่นบางกลุ่มจึงได้ริเริ่มความคิดที่จะออกนอกโซนปลอดภัยเพื่อหาสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งสมน้ำสมเนื้อ ด้วยความคาดหวังว่าจะได้รับค่าประสบการณ์ที่ดี

     หลังจากที่ลังเลกันอยู่ครู่ใหญ่ ในที่สุดผู้เล่นบางกลุ่มก็ตัดสินใจที่จะออกจากเซฟโซน ผจญภัยไปในบริเวณนอกมินิแมพเพื่อหาอสูรป่าที่ควรค่ากับการล่า

     การตัดสินใจครั้งนี้นับว่าสัมฤทธิ์ผล เมื่อกลุ่มผู้เล่นนำโดย ข้าวกล่อง พบเข้ากับงูหลามยักษ์เลเวล 9 นอกบริเวณปลอดภัย พวกเขาล่ามันสำเร็จและได้รับรางวัลเป็นค่าประสบการณ์จำนวนมาก

     ข่าวเรื่องการล่าสัตว์อสูรนอกโซน แพร่กระจายไปในกลุ่มผู้เล่นราวกับไฟลามทุ่ง จำนวนผู้เล่นที่ออกไปเสี่ยงโชคในบริเวณนอกเขตปลอดภัยจึงมากขึ้นเรื่อย ๆ 

     แม้กระทั่งกลุ่มผู้เล่นสายภารกิจบางคนก็เลือกที่จะเข้าร่วมกับสหายสายฟาร์มมอนรุ่นบุกเบิกเหล่านี้

     อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นส่วนมากก็เลือกที่จะทำตามระบบสอนเล่น และอัพเกรดเลเวลของตนผ่านระบบภารกิจอย่างมั่นคง

     การคาดโทษจากการตายในเกมรุนแรงยิ่งขึ้นตามระดับเลเวลที่เพิ่มมา ไม่มีใครอยากจะกลับไปเริ่มต้นใหม่จากหนึ่งจากโทษของการตาย

     แน่นอนว่าผู้เล่นบางกลุ่มไม่พอใจกับระบบการชุบชีวิตของเกมนี้ จนถึงขั้นเปิดประเด็นกลางกระดานสนทนาหลายต่อหลายครั้ง … อีฟจึงใช้ความคิดเห็นเหล่านั้นมาใช้ประกอบการปรับสมดุลเกม

     ความสมจริงเกินเหตุจนน่าวิตกของการล่าอสูร ยังส่งผลให้ผู้เล่นส่วนน้อยเลือกจะออกไปผจญภัยแม้จะมีระบบโมเสกช่วยเบลอเนื้อหารุนแรง ตอนนี้ผู้เล่นสายฟาร์มมอนส่วนใหญ่จึงเป็นชายหนุ่ม

     เดมาเซียเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ชื่นชอบการสำรวจ เขาเคยพลาดตายหลายต่อหลายครั้งก่อนเลเวล 5 และเก็บเลเวลตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อตเพื่อกลับมายืนอยู่จุดเดิม ในขณะเดียวกัน หลี่มู่และนกกาเหว่าอยู่ในระหว่างการพุ่งสู่ระดับเหล็ก!

     เนื่องจากเดมาเซียไม่อยากถูกทิ้งห่างไปไกลเรื่อย ๆ จากหลี่มู่ เขาจึงตัดสินใจออกเดินทางโดยรวมกลุ่มกับผู้เล่นชายอีกสามคนที่อยู่ในช่วงเลเวล 10 เหมือนกัน

     ชายหนุ่มทั้งสี่คนนี้ มีสามนายเป็นสายกายภาพ และอีกหนึ่งชายเป็นสายเวทมนตร์ พวกเขาตัดสินใจบอกลาเขตปลอดภัยและก้าวเข้าสู่ความเวิ้งว้างนอกมินิแมพไปด้วยกัน

     …

     ทันทีที่พวกเขาออกจากเซฟโซน ทุก ๆ อย่างล้วนยากขึ้นอย่างก้าวกระโดด บรรดาแมกไม้ในป่ายิ่งดูแปลกพิศดารขึ้นไปอีกขั้น

     เดมาเซียและผองเพื่อนค่อย ๆ รุกคืบไปตามป่า พวกเขาหมั่นใช้อาวุธทำสัญลักษณ์ระหว่างทางพลางสอดส่องบริเวณโดยรอบอย่างระมัดระวัง เพื่อเตรียมตั้งรับเหล่าสัตว์อสูรที่อาจปรากฏตัวขึ้นมา

     “ต้นไม้มันเยอะไปปะ? เดินยากเป็นบ้า”

     “เอาน่ะเอาน่า มันเป็นป่าที่ไม่เคยมีคนบุกเบิกนี่นา”

     “ลูกพี่เดมาเซีย แน่ใจป่าวว่าแหล่งข้อมูลพี่เชื่อถือได้? มันจะมีงูหลามยักษ์แถวนี้จริงดิ?”

     “สบายใจได้เลย! มันต้องอยู่แถวนี้แหละ! เราจ่ายค่าข้อมูลนี้ให้กับพี่ข้าวกล่องด้วยต้นสนตะวัน เขาบอกว่าเขาเห็นมันแถวนี้แบบเต็มสองตา”

     เดมาเซียทุบอกของตนสร้างความมั่นใจให้กับเพื่อนร่วมทีม

     ระบบเกมในปัจจุบันยังไม่เอื้อให้เหล่าผู้เล่นแลกเปลี่ยนกัน เนื่องจากยังไม่มีระบบเงินตรา ทุกวันนี้จึงยังเป็นการใช้ไอเท็มต่าง ๆ มาเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน ที่สำคัญคือทรัพยากรโดยรอบมีอยู่อย่างจำกัด ราคาของวัตถุดิบหายากจึงยิ่งล้ำค่าเป็นพิเศษ ซึ่งอีฟได้เตรียมระบบ แต้มผลงาน ไว้แทนค่าเงินเป็นที่เรียบร้อย โดยจะประกาศใช้งานหลังจากผู้เล่นอัพเกรดเป็นเลเวล 11 ได้สำเร็จ

     “อย่างงี้นี่เอง!”

     ทุกคนล้วนโล่งใจเมื่อได้ยินคำอธิบายจากเดมาเซีย

     พวกเขาเคลื่อนพลต่อไปอย่างช้า ๆ 

     ไกลกว่าร้อยเมตรในทิศเบื้องหลังชายหนุ่มทั้งสี่ ปรากฏแววตาเจิดจ้าคู่หนึ่งคอยสังเกตพวกเขาทุกฝีก้าว

     มันคือโอ๊คการ์ด นามว่าเบอร์เซิร์กเกอร์

     ร่างขนาดมหึมาของมันสามารถซ่อนตัวได้อย่างอย่างแนบเนียนท่ามกลางต้นไม้โบราณ มันบีบร่างอันสั่นเทาของก็อบลินตนหนึ่งไว้ …

     มันเฝ้ารออยู่บริเวณโบราณสถานฟลอเรนซ์และจับเอาก็อบลินเลเวล 10 ตนนี้มา เบอร์เซิร์กเกอร์ได้ทุบร่างก็อบลินจนมันจะตายอยู่รอมร่อ 

     เบอร์เซิร์กเกอร์คอยเฝ้าสังเกตท่าทางของเหล่าผู้เล่นอย่างใกล้ชิดพลางบีบก็อบลินสภาพใกล้ตายไว้ในกำมือ

     กลุ่มเดมาเซียไม่ทันตระหนักถึงสายตาที่จับจ้องอยู่แม้แต่น้อย พวกเขาเดินทางอย่างสนุกสนานไปในป่าพร้อมกับสนทนาอย่างออกรส

     “พวกเรามาไกลแค่ไหนแล้วหว่า”

     “เกือบ ๆ จะเจ็ดกิโลจากเขตปลอดภัยล่ะ”

     “ชู่ว เบาหน่อยพวก ตอนนี้เราอยู่นอกเซฟโซนนะ เดี๋ยวได้ดับยกตี้ถ้าเจอกับมอนระดับเหล็กเข้าจัง ๆ”

     ในวินาทีนั้น เดมาเซียซึ่งเป็นผู้นำทีมพลันดูหวาดวิตก หูแหลมของเขาขยับเล็กน้อย เขาขยับนิ้วส่งสัญญาณให้ทั้งทีมเงียบพลางกระซิบแผ่วเบา

     “เงียบแปป! เราได้ยินบางอย่าง!”

     เสียงของเขาดูตื่นเต้นเล็กน้อย

     ผู้เล่นทั้งสี่พร้อมใจกันเงียบลงในทันที จิตวิญญาณชายหนุ่มล้วนลุกโชคด้วยความตื่นเต้น พวกเขาค้อมตัวลงต่ำพลางกลั้นหายใจ สายตาทุกคู่สอดส่องไปรอบกายอย่างระแวงระวัง 

     “แอ๊ แอ๊ แอ๊–!”

     เสียงกรีดร้องโหยหวนโทนแหลมสูงดังขึ้นทำลายความเงียบสงัดจากทิศทางเบื้องหน้า ฝูงนกกาล้วนแตกตื่นกันพัลวัน

     ทุก ๆ คนคว้าอาวุธคู่กายออกมาโดยพร้อมเพรียงด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

     “แอ๊ แอ๊ แอ๊–!”

     ต้นตอของเสียงกรีดร้องขยับเข้ามาใกล้ทุกขณะ และแฝงไปด้วยความคลุ้มคลั่งอย่างผิดปกติ ทุกคนเข้าสภาวะพร้อมปะทะด้วยหัวใจที่เต้นระรัวอยู่ในอก

     “มันอยู่ข้างหน้านี้ …”

     เดมาเซียกล่าวอย่างสุขุม

     ในวินาทีที่เขาพูดจบ พลันปรากฏร่างเขียวผอมแห้งบุกป่าฝ่าดงออกมาเบื้องหน้า ร่างของมันอยู่ในผ้าขี้ริ้ว นัยน์ตาของมันแดงฉาน มันพุ่งเข้าใส่กลุ่มชายหนุ่มอย่างบ้าคลั่ง

     “ก … ก็อบลิน?”

     สมาชิกทีมทั้งสามตะโกนพร้อมกันอย่างพร้อมเพรียง

     จอมเวทหนึ่งเดียวในทีมเร่งร่ายคาถาประเมิน ก่อนจะเผยแววตาสดใส

     “มันเลเวลสิบ! แถมมันกำลังบาดเจ็บ!”

     “มันไม่มีอาวุธ!”

     “แถมมันค่อนข้าง … ดุ! มันไม่กลัวเราเลยเรอะ?”

     แววตาเดมาเซียเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น เขาเหวี่ยงดาบของตนพลางเอ่ย

     “ใครสนล่ะ? ค่าประสบการณ์วิ่งมาแล้วเว้ย! ฆ่ามัน!”

     “ฆ่ามัน!”

     “อย่าให้มันหนีไปได้!”

     ทุกคนตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน 

     ก๊วนชายหนุ่มพากันคว้าอาวุธเข้าเชือดเฉือนก็อบลินเต็มแรง พลางตะโกนโหวกเหวก 

     ทว่า ก็อบลินกลับพุ่งเข้าปะทะอาวุธท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคน มันตายอนาถคาคมมีดโดยไม่แม้แต่จะหลบเลี่ยง …

     ในวินาทีที่มันจะสิ้นลม พลันปรากฏแววตาอันโล่งใจในตาน้อย ๆ ของมัน

     ทักษะพลียุทธค่อย ๆ เริ่มทำงานโดยอัตโนมัติ ร่างกายก็อบลินพลันทรุดโทรมราวกับผ่านช่วงเวลานับสิบ ๆ ปีก่อนจะสลายกลายเป็นผงธุลีต่อหน้าทุกคน

     ในขณะเดียวกัน ชายหนุ่มทั้งสี่ได้รับการแจ้งเตือนจากระบบเกี่ยวกับค่าประสบการณ์ที่พวกเขาได้รับจากการล่า

     ทุกคนยังคงดูงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

     “ทำไมมันไม่หลบหว่า …?”

     “ไม่รู้ดิแถมแบบ … เหมือนก็อบลินมันอยากจะรีบตายมากกว่า”

     “เราก็ว่างั้น เหมือนว่ามันโดนตัวอะไรไล่กวดมา …”

     “โอย … ยืมไหล่แปปดิ เห็นเลือดแล้วเวียนหัวอ่ะพวก …”

     “…”

     “…”

     “…”

     “อ่ะเดี๋ยว นี่มันอะไร?”

     ผู้เล่นคนหนึ่งย่อตัวลงสำรวจกองขี้เถ้าที่เคยเป็นร่างของก็อบลิน เขาหยิบวัตถุประหลาดที่เปล่งประกายในกองฝุ่นขึ้นมา

     มันคือผลึกคริสตัลที่เปล่งแสงสีเขียวอ่อน ๆ ราวกับมีพลังลึกลับบางอย่างภายในนั้น

     “ของดรอป?”

     “ไหนลองใช้สกิลวิเคราะห์ … เอ … ดูข้อมูลไม่ได้แฮะ หรือนี่คือไอเท็มเควส?”

     สี่สหายชายหนุ่มล้วนสับสนระคนตื่นเต้น

     ในวินาทีนั้น แมกไม้เบื้องหน้าถูกร่างมหึมาแหวกออก เงาทะมึนของบางสิ่งขนาดใหญ่ทอดลงบนผู้เล่นทั้งสี่

     มันคือเบอร์เซิร์กเกอร์ที่เดินออกจากป่า เจ้ายักษ์ไม้ได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าทุก ๆ คน

     เหล่าผู้เล่นเงยหน้ามองโอ๊คการ์ดที่สูงกว่าสามสิบเมตรเบื้องหน้า พวกเขากลืนน้ำลายด้วยความตระหนกถึงขีดสุด

     “นี่มันอะไรวะเนี่ย?”

     “ยักษ์ไม้?”

     “ห … ใหญ่โคตร …”

     เดมาเซียลอบคิดบางสิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเผยแววตาอันเจิดจรัส 

     “เขาคือโอ๊คการ์ด! พวกเราเจอโอ๊คการ์ดตัวเป็น ๆ!”

     “โอ๊คการ์ด? ไม่ใช่ว่านั่นคือ NPC สุดลึกลับที่พี่มู่เคยพูดถึงเหรอ?”

     “แน่นอน! เราเคยเห็นสกรีนช็อตที่ถ่ายติดเขาด้วย!”

     เดมาเซียพลันนึกบางสิ่งออกมาทันควัน

     “มิน่า ก็อบลินมันถึงวิ่งหน้าตั้งมาแบบไม่คิดชีวิต คงเป็นโอ๊คการ์ดที่ไล่ล่ามาตลอดทาง …”

     เดมาเซียชะงักหลังพูดจบประโยค

     แต่เดี๋ยวก่อน …

     ไม่ใช่ว่าพวกตูไปแย่งเหยื่อของเฮียแกมาเรอะ?

     ในวินาทีนี้เหมือนว่าสี่หนุ่มจะมีความคิดที่คล้ายกัน พวกเขามองกันด้วยสายตาเลิ่กลั่ก เตรียมพร้อมจะโกยแน่บทันทีถ้าจำเป็น

     พวกเขารู้ดีว่าตนไม่สามารถประเมินความคิดของ NPC ในเกมนี้ด้วยประสบการณ์จากเกมอื่นได้ เหล่า NPC มีความทุกข์และความสุขที่สมจริงอย่างยิ่งยวด แม้ว่าโอ๊คการ์ดจะอยู่ฝั่งเดียวกับพวกเขา แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นพันธมิตรผู้รักสงบเสมอไป …

     จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเจ้านี่เกิดบ้าเลือดขึ้นมา …

     ชายหนุ่มจ้องมองร่างสูงกว่าสามสิบเมตรที่หน้าตาดูดุร้ายเอาเรื่องด้วยความหวั่นเกรง

     พี่ใหญ่คนนี้ดูจะไม่เป็นมิตรเท่าไรนะ …

     ทว่าการกระทำของโอ๊คการ์ดกลับทำให้ทุกคนตะลึงงันอีกรอบ

     ร่างสูงของมันหยุดลง ทีท่าของมันย่อลงค้อมคำนับเล็กน้อย ยื่นแขนไม้ขนาดใหญ่ข้างหนึ่งวาดสัญลักษณ์มหาพฤกษาในระดับอก และกล่าวด้วยเสียงทุ้มราวกับสุภาพบุรุษสูงวัย

     “ผู้ถูกเลือกผู้สูงศักดิ์ทั้งหลาย ขอบคุณสำหรับการสังหารโจรป่าหยาบช้า และเพื่อแสดงถึงความขอบคุณ ข้าจะมอบสิ่งที่เหมาะสมให้ตามความปรารถนาของพวกท่าน”

     เหล่าผู้เล่นมองกันและกันด้วยความสับสน

     “โจร”

     “มันขโมยอัญมณีนี้มาเหรอ?”

     “สิ่งที่เหมาะสมกับความปรารถนาของพวกเรา?”

     เดมาเซียดูเข้าใจบางอย่างขึ้นมาโดยพลัน เขาตบต้นขาตนเองฉาดใหญ่พร้อมเอ่ย

     “เจ้าพวกบ้า … นี่มันเควสลับแน่ ๆ! มันต้องเป็นเควสลับแน่ ๆ! พวกเราคงเจอเนื้อเรื่องลับเข้าเต็ม ๆ!”

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

      T/N: เคยคิดจะทำเควสลับใน Tree of Savior เพื่อปลดอาชีพชิโนบิ – นักมวย – มิโกะ – รูน นับถือใจคนที่ทำด้วยตัวเองจนเสร็จจริง ๆ ค่ะ … โดยส่วนตัวได้ทำไปแค่ชิโนบิและรูน นอกจากสองอาชีพนี้คือกดใบข้ามเอาหน้าตาเฉย

      สาเหตุที่หยุดทำ เพราะตอนนั้นออนไลน์ทิ้งไว้เฝ้าแมพอยู่เป็นวัน ๆ เพื่อหาของเควส แบ่งทีมกันอย่างดี 6 คน เฝ้าแต่ละแชนแนลคอยรายงานผล ทีนี้มันไม่เกิดสักทีเลยส่ง ticket หาทีมงาน แล้วพบว่าไอเท็มเควสนี้ติด bug จริง ๆ !! 

     … ไอเท็มเควสลับนี้จะไม่ spawn อย่างแน่นอน ต้องรออัพเดท 

      ถ้าไม่นับมิตรภาพระหว่างทาง คืออดหลับอดนอนอย่างเสียเปล่าค่ะ

      นั่นล่ะค่ะ

      จบเลย จบจริง ๆ ไม่คิดจะทำเควสประเภทจ่ายเวลาสูง ๆ อีก

      ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ 

      Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] Game of the World Tree 21 นี่คือเควสลับใช่ป่ะ?

Now you are reading [นิยายแปล] Game of the World Tree Chapter 21 นี่คือเควสลับใช่ป่ะ? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

     เวลาบนดาวสีฟ้าผ่านไปกว่าสามวัน นับจากวันเปิดตัวเกม The Kingdom of Elves ซึ่งหมายถึงกว่าสิบสองวันภายในผืนทวีปซากัส

     ผู้เล่นที่มีเลเวลถึง 10 ค่อย ๆ ทวีจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว จากบรรดาผู้เข้าร่วมทดสอบกว่า 300 ชีวิต

     … เดมาเซีย

     เขาคือหนึ่งในผู้เล่นสายพละกำลังที่อัพระดับถึงเลเวล 10 เมื่อวันก่อน และเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ร่วมชะตากรรมที่ค้นพบว่าหลอด EXP ของเลเวล 10 ไป 11 นั้นแตกต่างจากระดับก่อนหน้าอย่างมหาศาล ซึ่งต้องใช้ค่าประสบการณ์ร่วมหมื่นแต้ม

     ช่วงเลเวล 9 ไปเลเวล 10 ใช้ค่าประสบการณ์เพียงแค่ 3,000 แต้มเท่านั้น

     เมื่อเหล่าผู้เล่นเริ่มคุ้นเคยกับระบบเกม พวกเขาพัฒนาลู่ทางมากมายเพื่อให้ได้ค่าประสบการณ์อย่างรวดเร็วเท่าที่จะเป็นไปได้

     วิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในปัจจุบันคือการล่ามอนสเตอร์ และการทำภารกิจเช่นเดียวกับเกมอื่น ๆ 

     ทว่ามันมีบางสิ่งที่ต่างไปจากเกมอื่น สิ่งนั้นคือของที่เหล่าผู้เล่นทุกคนล้วนประสบเมื่อไปล่ามอนสเตอร์ เป็นความโชกเลือดในระดับสมจริงจนทุกคนสงสัยว่ามันได้รับการอนุมัติให้สร้างได้อย่างไร แน่นอนว่าผู้เล่นจำนวนมากไม่คุ้นชินกับดีกรีความเดือดระดับนี้ แต่สุดท้ายทุกคนก็เริ่มด้านชาอย่างเลี่ยงไม่ได้ … 

     อย่างไรก็ตาม เกมนี้ถึงขั้นเคลมว่าเป็นเกม VR ที่มอบประสบการณ์สมจริงที่สุด! หากผู้เล่นท่านใดไม่ชอบระบบนี้ก็สามารถใช้เครื่องมือในระบบมาช่วยเบลอความรุนแรงได้อย่างง่ายดาย

     หลังจากเลเวล 9 เหล่าผู้เล่นก็แบ่งกรุ๊ปกันเป็นสองกลุ่มใหญ่ ๆ กันตามสไตล์การเก็บเลเวล

     ผู้เล่นสายดั้งเดิมบางกลุ่มอย่าง นกกาเหว่า เลือกที่จะอยู่ในค่ายและพัฒนาเลเวลสู่ระดับเหล็กด้วยการทำภารกิจต่าง ๆ 

     ในขณะที่ผู้เล่นเจนศึกหลายคนเลือกที่จะผจญภัยไปรัศมี 10 กิโลเมตรโดยรอบเพื่อท้าทายชะตาฟ้าดินของตน

     เหล่าผู้เล่นสามารถรับค่าประสบการณ์จากการตัดไม้ การล่าสัตว์อสูร ทว่าสิ่งมีชีวิตในโซนปลอดภัยล้วนอ่อนแอเกินกว่าจะใช้วิธีดังกล่าวให้ได้ผลคุ้มค่าคุ้มเวลา ดังนั้นค่าประสบการณ์จากสิ่งเหล่านี้จึงห่างไกลจากการทำภารกิจอยู่เป็นโยชน์ 

      ดังนั้น ผู้เล่นบางกลุ่มจึงได้ริเริ่มความคิดที่จะออกนอกโซนปลอดภัยเพื่อหาสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งสมน้ำสมเนื้อ ด้วยความคาดหวังว่าจะได้รับค่าประสบการณ์ที่ดี

     หลังจากที่ลังเลกันอยู่ครู่ใหญ่ ในที่สุดผู้เล่นบางกลุ่มก็ตัดสินใจที่จะออกจากเซฟโซน ผจญภัยไปในบริเวณนอกมินิแมพเพื่อหาอสูรป่าที่ควรค่ากับการล่า

     การตัดสินใจครั้งนี้นับว่าสัมฤทธิ์ผล เมื่อกลุ่มผู้เล่นนำโดย ข้าวกล่อง พบเข้ากับงูหลามยักษ์เลเวล 9 นอกบริเวณปลอดภัย พวกเขาล่ามันสำเร็จและได้รับรางวัลเป็นค่าประสบการณ์จำนวนมาก

     ข่าวเรื่องการล่าสัตว์อสูรนอกโซน แพร่กระจายไปในกลุ่มผู้เล่นราวกับไฟลามทุ่ง จำนวนผู้เล่นที่ออกไปเสี่ยงโชคในบริเวณนอกเขตปลอดภัยจึงมากขึ้นเรื่อย ๆ 

     แม้กระทั่งกลุ่มผู้เล่นสายภารกิจบางคนก็เลือกที่จะเข้าร่วมกับสหายสายฟาร์มมอนรุ่นบุกเบิกเหล่านี้

     อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นส่วนมากก็เลือกที่จะทำตามระบบสอนเล่น และอัพเกรดเลเวลของตนผ่านระบบภารกิจอย่างมั่นคง

     การคาดโทษจากการตายในเกมรุนแรงยิ่งขึ้นตามระดับเลเวลที่เพิ่มมา ไม่มีใครอยากจะกลับไปเริ่มต้นใหม่จากหนึ่งจากโทษของการตาย

     แน่นอนว่าผู้เล่นบางกลุ่มไม่พอใจกับระบบการชุบชีวิตของเกมนี้ จนถึงขั้นเปิดประเด็นกลางกระดานสนทนาหลายต่อหลายครั้ง … อีฟจึงใช้ความคิดเห็นเหล่านั้นมาใช้ประกอบการปรับสมดุลเกม

     ความสมจริงเกินเหตุจนน่าวิตกของการล่าอสูร ยังส่งผลให้ผู้เล่นส่วนน้อยเลือกจะออกไปผจญภัยแม้จะมีระบบโมเสกช่วยเบลอเนื้อหารุนแรง ตอนนี้ผู้เล่นสายฟาร์มมอนส่วนใหญ่จึงเป็นชายหนุ่ม

     เดมาเซียเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ชื่นชอบการสำรวจ เขาเคยพลาดตายหลายต่อหลายครั้งก่อนเลเวล 5 และเก็บเลเวลตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อตเพื่อกลับมายืนอยู่จุดเดิม ในขณะเดียวกัน หลี่มู่และนกกาเหว่าอยู่ในระหว่างการพุ่งสู่ระดับเหล็ก!

     เนื่องจากเดมาเซียไม่อยากถูกทิ้งห่างไปไกลเรื่อย ๆ จากหลี่มู่ เขาจึงตัดสินใจออกเดินทางโดยรวมกลุ่มกับผู้เล่นชายอีกสามคนที่อยู่ในช่วงเลเวล 10 เหมือนกัน

     ชายหนุ่มทั้งสี่คนนี้ มีสามนายเป็นสายกายภาพ และอีกหนึ่งชายเป็นสายเวทมนตร์ พวกเขาตัดสินใจบอกลาเขตปลอดภัยและก้าวเข้าสู่ความเวิ้งว้างนอกมินิแมพไปด้วยกัน

     …

     ทันทีที่พวกเขาออกจากเซฟโซน ทุก ๆ อย่างล้วนยากขึ้นอย่างก้าวกระโดด บรรดาแมกไม้ในป่ายิ่งดูแปลกพิศดารขึ้นไปอีกขั้น

     เดมาเซียและผองเพื่อนค่อย ๆ รุกคืบไปตามป่า พวกเขาหมั่นใช้อาวุธทำสัญลักษณ์ระหว่างทางพลางสอดส่องบริเวณโดยรอบอย่างระมัดระวัง เพื่อเตรียมตั้งรับเหล่าสัตว์อสูรที่อาจปรากฏตัวขึ้นมา

     “ต้นไม้มันเยอะไปปะ? เดินยากเป็นบ้า”

     “เอาน่ะเอาน่า มันเป็นป่าที่ไม่เคยมีคนบุกเบิกนี่นา”

     “ลูกพี่เดมาเซีย แน่ใจป่าวว่าแหล่งข้อมูลพี่เชื่อถือได้? มันจะมีงูหลามยักษ์แถวนี้จริงดิ?”

     “สบายใจได้เลย! มันต้องอยู่แถวนี้แหละ! เราจ่ายค่าข้อมูลนี้ให้กับพี่ข้าวกล่องด้วยต้นสนตะวัน เขาบอกว่าเขาเห็นมันแถวนี้แบบเต็มสองตา”

     เดมาเซียทุบอกของตนสร้างความมั่นใจให้กับเพื่อนร่วมทีม

     ระบบเกมในปัจจุบันยังไม่เอื้อให้เหล่าผู้เล่นแลกเปลี่ยนกัน เนื่องจากยังไม่มีระบบเงินตรา ทุกวันนี้จึงยังเป็นการใช้ไอเท็มต่าง ๆ มาเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน ที่สำคัญคือทรัพยากรโดยรอบมีอยู่อย่างจำกัด ราคาของวัตถุดิบหายากจึงยิ่งล้ำค่าเป็นพิเศษ ซึ่งอีฟได้เตรียมระบบ แต้มผลงาน ไว้แทนค่าเงินเป็นที่เรียบร้อย โดยจะประกาศใช้งานหลังจากผู้เล่นอัพเกรดเป็นเลเวล 11 ได้สำเร็จ

     “อย่างงี้นี่เอง!”

     ทุกคนล้วนโล่งใจเมื่อได้ยินคำอธิบายจากเดมาเซีย

     พวกเขาเคลื่อนพลต่อไปอย่างช้า ๆ 

     ไกลกว่าร้อยเมตรในทิศเบื้องหลังชายหนุ่มทั้งสี่ ปรากฏแววตาเจิดจ้าคู่หนึ่งคอยสังเกตพวกเขาทุกฝีก้าว

     มันคือโอ๊คการ์ด นามว่าเบอร์เซิร์กเกอร์

     ร่างขนาดมหึมาของมันสามารถซ่อนตัวได้อย่างอย่างแนบเนียนท่ามกลางต้นไม้โบราณ มันบีบร่างอันสั่นเทาของก็อบลินตนหนึ่งไว้ …

     มันเฝ้ารออยู่บริเวณโบราณสถานฟลอเรนซ์และจับเอาก็อบลินเลเวล 10 ตนนี้มา เบอร์เซิร์กเกอร์ได้ทุบร่างก็อบลินจนมันจะตายอยู่รอมร่อ 

     เบอร์เซิร์กเกอร์คอยเฝ้าสังเกตท่าทางของเหล่าผู้เล่นอย่างใกล้ชิดพลางบีบก็อบลินสภาพใกล้ตายไว้ในกำมือ

     กลุ่มเดมาเซียไม่ทันตระหนักถึงสายตาที่จับจ้องอยู่แม้แต่น้อย พวกเขาเดินทางอย่างสนุกสนานไปในป่าพร้อมกับสนทนาอย่างออกรส

     “พวกเรามาไกลแค่ไหนแล้วหว่า”

     “เกือบ ๆ จะเจ็ดกิโลจากเขตปลอดภัยล่ะ”

     “ชู่ว เบาหน่อยพวก ตอนนี้เราอยู่นอกเซฟโซนนะ เดี๋ยวได้ดับยกตี้ถ้าเจอกับมอนระดับเหล็กเข้าจัง ๆ”

     ในวินาทีนั้น เดมาเซียซึ่งเป็นผู้นำทีมพลันดูหวาดวิตก หูแหลมของเขาขยับเล็กน้อย เขาขยับนิ้วส่งสัญญาณให้ทั้งทีมเงียบพลางกระซิบแผ่วเบา

     “เงียบแปป! เราได้ยินบางอย่าง!”

     เสียงของเขาดูตื่นเต้นเล็กน้อย

     ผู้เล่นทั้งสี่พร้อมใจกันเงียบลงในทันที จิตวิญญาณชายหนุ่มล้วนลุกโชคด้วยความตื่นเต้น พวกเขาค้อมตัวลงต่ำพลางกลั้นหายใจ สายตาทุกคู่สอดส่องไปรอบกายอย่างระแวงระวัง 

     “แอ๊ แอ๊ แอ๊–!”

     เสียงกรีดร้องโหยหวนโทนแหลมสูงดังขึ้นทำลายความเงียบสงัดจากทิศทางเบื้องหน้า ฝูงนกกาล้วนแตกตื่นกันพัลวัน

     ทุก ๆ คนคว้าอาวุธคู่กายออกมาโดยพร้อมเพรียงด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

     “แอ๊ แอ๊ แอ๊–!”

     ต้นตอของเสียงกรีดร้องขยับเข้ามาใกล้ทุกขณะ และแฝงไปด้วยความคลุ้มคลั่งอย่างผิดปกติ ทุกคนเข้าสภาวะพร้อมปะทะด้วยหัวใจที่เต้นระรัวอยู่ในอก

     “มันอยู่ข้างหน้านี้ …”

     เดมาเซียกล่าวอย่างสุขุม

     ในวินาทีที่เขาพูดจบ พลันปรากฏร่างเขียวผอมแห้งบุกป่าฝ่าดงออกมาเบื้องหน้า ร่างของมันอยู่ในผ้าขี้ริ้ว นัยน์ตาของมันแดงฉาน มันพุ่งเข้าใส่กลุ่มชายหนุ่มอย่างบ้าคลั่ง

     “ก … ก็อบลิน?”

     สมาชิกทีมทั้งสามตะโกนพร้อมกันอย่างพร้อมเพรียง

     จอมเวทหนึ่งเดียวในทีมเร่งร่ายคาถาประเมิน ก่อนจะเผยแววตาสดใส

     “มันเลเวลสิบ! แถมมันกำลังบาดเจ็บ!”

     “มันไม่มีอาวุธ!”

     “แถมมันค่อนข้าง … ดุ! มันไม่กลัวเราเลยเรอะ?”

     แววตาเดมาเซียเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น เขาเหวี่ยงดาบของตนพลางเอ่ย

     “ใครสนล่ะ? ค่าประสบการณ์วิ่งมาแล้วเว้ย! ฆ่ามัน!”

     “ฆ่ามัน!”

     “อย่าให้มันหนีไปได้!”

     ทุกคนตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน 

     ก๊วนชายหนุ่มพากันคว้าอาวุธเข้าเชือดเฉือนก็อบลินเต็มแรง พลางตะโกนโหวกเหวก 

     ทว่า ก็อบลินกลับพุ่งเข้าปะทะอาวุธท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคน มันตายอนาถคาคมมีดโดยไม่แม้แต่จะหลบเลี่ยง …

     ในวินาทีที่มันจะสิ้นลม พลันปรากฏแววตาอันโล่งใจในตาน้อย ๆ ของมัน

     ทักษะพลียุทธค่อย ๆ เริ่มทำงานโดยอัตโนมัติ ร่างกายก็อบลินพลันทรุดโทรมราวกับผ่านช่วงเวลานับสิบ ๆ ปีก่อนจะสลายกลายเป็นผงธุลีต่อหน้าทุกคน

     ในขณะเดียวกัน ชายหนุ่มทั้งสี่ได้รับการแจ้งเตือนจากระบบเกี่ยวกับค่าประสบการณ์ที่พวกเขาได้รับจากการล่า

     ทุกคนยังคงดูงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

     “ทำไมมันไม่หลบหว่า …?”

     “ไม่รู้ดิแถมแบบ … เหมือนก็อบลินมันอยากจะรีบตายมากกว่า”

     “เราก็ว่างั้น เหมือนว่ามันโดนตัวอะไรไล่กวดมา …”

     “โอย … ยืมไหล่แปปดิ เห็นเลือดแล้วเวียนหัวอ่ะพวก …”

     “…”

     “…”

     “…”

     “อ่ะเดี๋ยว นี่มันอะไร?”

     ผู้เล่นคนหนึ่งย่อตัวลงสำรวจกองขี้เถ้าที่เคยเป็นร่างของก็อบลิน เขาหยิบวัตถุประหลาดที่เปล่งประกายในกองฝุ่นขึ้นมา

     มันคือผลึกคริสตัลที่เปล่งแสงสีเขียวอ่อน ๆ ราวกับมีพลังลึกลับบางอย่างภายในนั้น

     “ของดรอป?”

     “ไหนลองใช้สกิลวิเคราะห์ … เอ … ดูข้อมูลไม่ได้แฮะ หรือนี่คือไอเท็มเควส?”

     สี่สหายชายหนุ่มล้วนสับสนระคนตื่นเต้น

     ในวินาทีนั้น แมกไม้เบื้องหน้าถูกร่างมหึมาแหวกออก เงาทะมึนของบางสิ่งขนาดใหญ่ทอดลงบนผู้เล่นทั้งสี่

     มันคือเบอร์เซิร์กเกอร์ที่เดินออกจากป่า เจ้ายักษ์ไม้ได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าทุก ๆ คน

     เหล่าผู้เล่นเงยหน้ามองโอ๊คการ์ดที่สูงกว่าสามสิบเมตรเบื้องหน้า พวกเขากลืนน้ำลายด้วยความตระหนกถึงขีดสุด

     “นี่มันอะไรวะเนี่ย?”

     “ยักษ์ไม้?”

     “ห … ใหญ่โคตร …”

     เดมาเซียลอบคิดบางสิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเผยแววตาอันเจิดจรัส 

     “เขาคือโอ๊คการ์ด! พวกเราเจอโอ๊คการ์ดตัวเป็น ๆ!”

     “โอ๊คการ์ด? ไม่ใช่ว่านั่นคือ NPC สุดลึกลับที่พี่มู่เคยพูดถึงเหรอ?”

     “แน่นอน! เราเคยเห็นสกรีนช็อตที่ถ่ายติดเขาด้วย!”

     เดมาเซียพลันนึกบางสิ่งออกมาทันควัน

     “มิน่า ก็อบลินมันถึงวิ่งหน้าตั้งมาแบบไม่คิดชีวิต คงเป็นโอ๊คการ์ดที่ไล่ล่ามาตลอดทาง …”

     เดมาเซียชะงักหลังพูดจบประโยค

     แต่เดี๋ยวก่อน …

     ไม่ใช่ว่าพวกตูไปแย่งเหยื่อของเฮียแกมาเรอะ?

     ในวินาทีนี้เหมือนว่าสี่หนุ่มจะมีความคิดที่คล้ายกัน พวกเขามองกันด้วยสายตาเลิ่กลั่ก เตรียมพร้อมจะโกยแน่บทันทีถ้าจำเป็น

     พวกเขารู้ดีว่าตนไม่สามารถประเมินความคิดของ NPC ในเกมนี้ด้วยประสบการณ์จากเกมอื่นได้ เหล่า NPC มีความทุกข์และความสุขที่สมจริงอย่างยิ่งยวด แม้ว่าโอ๊คการ์ดจะอยู่ฝั่งเดียวกับพวกเขา แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นพันธมิตรผู้รักสงบเสมอไป …

     จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเจ้านี่เกิดบ้าเลือดขึ้นมา …

     ชายหนุ่มจ้องมองร่างสูงกว่าสามสิบเมตรที่หน้าตาดูดุร้ายเอาเรื่องด้วยความหวั่นเกรง

     พี่ใหญ่คนนี้ดูจะไม่เป็นมิตรเท่าไรนะ …

     ทว่าการกระทำของโอ๊คการ์ดกลับทำให้ทุกคนตะลึงงันอีกรอบ

     ร่างสูงของมันหยุดลง ทีท่าของมันย่อลงค้อมคำนับเล็กน้อย ยื่นแขนไม้ขนาดใหญ่ข้างหนึ่งวาดสัญลักษณ์มหาพฤกษาในระดับอก และกล่าวด้วยเสียงทุ้มราวกับสุภาพบุรุษสูงวัย

     “ผู้ถูกเลือกผู้สูงศักดิ์ทั้งหลาย ขอบคุณสำหรับการสังหารโจรป่าหยาบช้า และเพื่อแสดงถึงความขอบคุณ ข้าจะมอบสิ่งที่เหมาะสมให้ตามความปรารถนาของพวกท่าน”

     เหล่าผู้เล่นมองกันและกันด้วยความสับสน

     “โจร”

     “มันขโมยอัญมณีนี้มาเหรอ?”

     “สิ่งที่เหมาะสมกับความปรารถนาของพวกเรา?”

     เดมาเซียดูเข้าใจบางอย่างขึ้นมาโดยพลัน เขาตบต้นขาตนเองฉาดใหญ่พร้อมเอ่ย

     “เจ้าพวกบ้า … นี่มันเควสลับแน่ ๆ! มันต้องเป็นเควสลับแน่ ๆ! พวกเราคงเจอเนื้อเรื่องลับเข้าเต็ม ๆ!”

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

      T/N: เคยคิดจะทำเควสลับใน Tree of Savior เพื่อปลดอาชีพชิโนบิ – นักมวย – มิโกะ – รูน นับถือใจคนที่ทำด้วยตัวเองจนเสร็จจริง ๆ ค่ะ … โดยส่วนตัวได้ทำไปแค่ชิโนบิและรูน นอกจากสองอาชีพนี้คือกดใบข้ามเอาหน้าตาเฉย

      สาเหตุที่หยุดทำ เพราะตอนนั้นออนไลน์ทิ้งไว้เฝ้าแมพอยู่เป็นวัน ๆ เพื่อหาของเควส แบ่งทีมกันอย่างดี 6 คน เฝ้าแต่ละแชนแนลคอยรายงานผล ทีนี้มันไม่เกิดสักทีเลยส่ง ticket หาทีมงาน แล้วพบว่าไอเท็มเควสนี้ติด bug จริง ๆ !! 

     … ไอเท็มเควสลับนี้จะไม่ spawn อย่างแน่นอน ต้องรออัพเดท 

      ถ้าไม่นับมิตรภาพระหว่างทาง คืออดหลับอดนอนอย่างเสียเปล่าค่ะ

      นั่นล่ะค่ะ

      จบเลย จบจริง ๆ ไม่คิดจะทำเควสประเภทจ่ายเวลาสูง ๆ อีก

      ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ 

      Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+