[นิยายแปล] Game of the World Tree 17 ปลุกกระแส

Now you are reading [นิยายแปล] Game of the World Tree Chapter 17 ปลุกกระแส at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

     “สำหรับพวกเรา นี่ไม่ใช่แค่เกม แต่เป็นดินแดนแห่งใหม่ที่ห่างไกลจากความวุ่นวาย …”

     “ทั้งต้นไม้ ต้นหญ้า ดอกไม้ต่าง ๆ มันสมจริงมาก”

     “ประสาทสัมผัสก็เหมือนจริงสุด ๆ แถม NPC ก็ดูมีชีวิตจริง ๆ”

     “ถ้าไม่มีหน้าต่างระบบ หรือเชื่อมต่อเน็ตกับทางโลกได้นะ เราคงคิดว่าเราโดนส่งมาต่างโลกแล้วอ่ะ”

     “ชั้นคิดว่าตัวเองเข้าใจคำโฆษณาในวีดิโอเปิดตัวแล้วแฮะ”

     “พวกเราเป็นส่วนหนึ่งของโลกแฟนตาซีที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ มันสมจริงและอิสระ!”

     “บริษัทเกมต้องอยากนำเสนอโลกในแบบที่มันเป็นให้กับพวกเรา …”

     หลี่มู่เอ่ยพลางหันมาหาทุกคน เขายิ้ม “ยังไง ๆ พวกเราก็ต้องอยู่ที่นี่กันไปอีกนาน เวลาจะลงมือทำอะไรคงต้องคิดให้ถี่ถ้วนกันก่อนล่ะนะ”

     เหล่าผู้เล่นหันมองกันและกัน

     “ตัดต้นไม้?”

     “กวาดพื้น?”

     “จีบ NPC?”

     “…”

     หลี่มู่หมดคำจะกล่าว เขาชำเลืองมองเดมาเซียที่พูดประโยคสุดท้ายออกมาก่อนจะเริ่มโหมดเทศนา 

     “วันนี้พวกเราทำงานอย่างหนัก ถ้าเทียบกับโลกจริง ๆ มันคืองานกรรมกรแบกหาม! ใครมันจะอยากทำของแบบนี้? แต่เห็นมั้ยว่าพวกเรานับร้อย ๆ คนยังตื่นเต้นราวกับคนบ้า มีความสุขแบบเหลือเชื่อทั้ง ๆ ที่ทำแค่ตัดต้นไม้ คิดว่าทั้งหมดนี้มันเพราะอะไรล่ะ?”

     เดมาเซียยกมือสางผมทรงระเบิดชี้ฟูสีแดงของตนพลางตอบแบบไม่มั่นใจ

     “เพราะเราปลดปล่อยความบ้า วิ่งแก้ผ้าได้เต็มที่ป่ะ?”

     เป็นอีกครั้งที่หลี่มู่หมดคำจะกล่าว เขามองหนุ่มผู้ไร้ทางเยียวยา “เพราะมันเหมือนชีวิตจริง! ทุกอย่างที่นี่มันเรียลจนพวกเราเผลอลืมไปว่าจริง ๆ มันเป็นเกม พวกเราได้เริ่มชีวิตใหม่ที่นี่ ซึ่งนี่แหละคือจุดหลักของเกมนี้!”

     ได้ยินดังว่า ทุกคนล้วนรู้สึกไปในทางเดียวกัน

     “จริงของพี่มู่ เราก็คิดเหมือนกัน อาจจะเพราะทั้งป่าเอยอะไรเอยมันสวยมาก พออยู่ในเกมนี้ก็ลืมปัญหาแทบทุกอย่าง”

     “เค้าด้วย! เค้าด้วย! บางทีก็สงสัยว่ามันอาจจะเป็นอีกโลกจริง ๆ … มันไม่มีอะไรดีไปกว่าการเดินทางที่ไม่สิ้นสุดและเวทมนตร์ …”

     หลี่มู่พยักหน้าเมื่อได้ยินหลากความเห็นจากทุกคน

     “ใช่เลย สิ่งสำคัญสุดของเกม The Kingdom of Elves คือความรู้สึกสมจริง พวกทีมพัฒนาเกมนี่อัจฉริยะชัด ๆ!”

     “แต่เราจะทำไงกับค่าความประทับใจของอลิซอ่ะพี่มู่?”

     เดมาเซียถาม

     หลี่มู่โยนผลไม้เข้าปากทั้งลูก เคี้ยวอยู่ครู่หนึ่งก่อนคายเมล็ด แล้วจึงตอบ

     “แน่นอนว่าเนื้อหาหลักของเกมคือความสมจริง ดังนั้นเราไม่สามารถปฏิบัติต่อ NPC เหมือนเป็นแค่ NPC เพราะนี่ไม่ใช่แค่เกมทั่วไป เราไม่สามารถเพิ่มค่าความสนิทจากการทำเควส แต่เราต้องพูดคุย สนทนากับพวกเขาเหมือนที่เราทำกับคนจริง ๆ”

     เขาลุกขึ้นช้า ๆ และหันไปทางกองไฟ เงาของหลี่มู่ทอดยาวสู่เบื้องหลัง เสียงของเขาเยือกเย็นราวกับนักปราชญ์ชรา

     “ตราบใดที่พวกเรายังอยู่ในเกมนี้ เราต้องประพฤติต่อโลกด้วยความเคารพ ปฏิบัติตนต่อ NPC เหมือนกับที่ทำต่อเพื่อนมนุษย์ สิ่งนี้น่าจะเป็นทางเดียวที่ทำให้พวกเขาประทับใจเรา และคิดว่าคนออกแบบเกมก็คงตั้งใจให้เป็นแบบนี้เช่นกัน”

     “สาเหตุที่เรามีแต้มความสนิท 20 หน่วยเพราะเราไม่เคยทำเหมือนเธอเป็นแค่ NPC แต่เราคิดว่ากำลังคุยอยู่กับนักบวชแห่งธรรมชาติจริง ๆ”

     เมื่อได้ยินคำอธิบายดังว่า ทุกคนพลันตระหนัก

     “งี้นี่เอง!”

     “มิน่าอ่ะ ทำเควสไปตั้งเยอะ แต่น้องอลิซก็แค่แสดงสีหน้ายิ้ม ๆ และให้แต้มความประทับใจแค่นิดเดียว”

     “มันจบแล้ว—! ตูคิดไงถึงพยายามไปแตะตัว NPC เนี่ย …”

     “แบบแกอ่ะอย่ามาทำเป็นพูดเลยเดมาเซีย ทำไว้แสบเอาเรื่อง”

     หลี่มู่หันมาทันทีเมื่อได้ยินเหล่าผู้เล่นหยอกล้อเดมาเซีย เขายิ้มให้กับทุกคนด้วยสีหน้าที่ดูลึกลับ

     “เอาจริง ๆ นะ ความเรียลมันก็เรื่องหนึ่ง แต่สิ่งที่ทำให้เราชอบเกมนี้ไม่ใช่แค่ความสมจริงอ่ะ”

     “แล้วมันคือไรอ่ะ?”

     ทุกคนนิ่งรออย่างใจจดใจจ่อ

     หลี่มู่ยิ้มเล็กน้อย “รู้สึกเหมือนกันมั้ยว่าเมื่อไรที่เราลงแรงทำบางอย่างในเกมนี้ เราก็จะได้ผลตอบแทนเสมอ? ทำงานก็ได้ค่าประสบการณ์ ถึงจะเล็กจะน้อย แต่ถ้าทำไปเรื่อย ๆ มันก็มากขึ้น … การรู้สึกว่าลงมือทำอะไรแล้วได้ผลตอบแทนนี่แหละ คือสิ่งที่เป็นแก่นหลักของเกมนี้เลย”

     เหล่าผู้เล่นพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

     “ใช่! ใช่! คิดเหมือนกันเลย”

     “กว่าจะตัดต้นไม้ได้ต้นนึงก็นานเอาเรื่อง แต่ว่าค่าประสบการณ์ก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ล่ะนะ”

     “ถึงเกมอื่นจะเพิ่มระดับได้ด้วยการทุ่มเทเหมือนกัน แต่เกมนี้เราสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่ชัดสุด แจ่มสุด”

     “ใช่เลย ส่วนผสมของความสมจริง กับความรู้สึกว่าบรรลุเป้าหมาย”

     “มันเจ๋งมากตอนรู้สึกว่าตัวเองแข็งแกร่งขึ้น!”

     “ใช้เวทมนตร์ด้วยตัวเองได้ก็แหล่มสุด ๆ!”

     “สกิลดาบ ครอสสแลช โคตรหล่ออ่ะบอกเลย”

     “ช่าย ช่าย!”

     หลี่มู่ยิ้มด้วยความสดใสเมื่อเห็นสมาชิกในทีมเห็นพ้องต้องกัน เขาเปิดหน้าต่างระบบขึ้นมาในระหว่างการสนทนา

     “ใช่เลย มันคือส่วนผสมของความเรียลและความรู้สึกว่าที่ลงมือไปมันคุ้มค่า และสิ่งที่แจ่มกว่าก็คือ …”

     หลี่มู่หยุดชั่วครู่ และกดปุ่มอัพเลเวลต่อหน้าเหล่าผู้ฟังที่กำลังตั้งใจมองด้วยความคาดหวัง

     ปุกิ๊ง–

     เสียงแจ้งเตือนแสนคุ้นเคยจากระบบ แสดงถึงการที่หลี่มู่อัพระดับสู่เลเวล 5 พร้อมกับแสงเปล่งประกายเจิดจ้า

     หลี่มู่ยิ้มเห็นฟันขาวท่ามกลางสายตาทิ่มแทงด้วยความอิจฉา

     “มันคือการได้เห็นพวกนายอิจฉาตาร้อนไงล่ะ …”

     “…”

     “โทษนะพี่ขอนำไปก่อน ทำงานหนัก ๆ ล่ะพวกนาย”

     “โว้ยยยย!”

     …

     งานเลี้ยงฉลองของเหล่าผู้เล่นดำเนินต่อไปจนถึงเที่ยงคืน

     ร่างกายของเอลฟ์ต้องการเวลาพักผ่อนเช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตทั่วไป แม้ว่าผู้เล่นจะสามารถปิดระบบเหนื่อยล้าที่มาจากการขาดนอนผ่านระบบเกม แต่ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงดีบัฟแรงกายอ่อนแรงได้

     สิ่งนี้จะกระทบต่อความสามารถหลากหลายด้าน และอาจนำไปสู่เหตุร้ายแรงอย่างการเสียชีวิตในบางสถานการณ์

     ผู้เล่นส่วนใหญ่จึงคำนวณเวลาพักผ่อน และใช้ช่วงเวลานั้นออกจากเกมไปสองสามชั่วโมง ก่อนจะกลับเข้ามาใหม่หลังตัวละครฟื้นฟูร่างกายเต็มที่แล้ว นอกจากนั้นในเวลากลางวันยังมีแสงจากธรรมชาติที่ทำให้การทำกิจกรรมต่าง ๆ สะดวกสบายขึ้น … เว้นแต่ผู้เล่นที่จริงจังเป็นพิเศษบางกลุ่มที่เลือกทิ้งการพักผ่อนไปโดยสิ้นเชิง

     ผู้เล่นจำนวนมากเริ่มเข้าสู่บ้านไม้ที่สร้างด้วยน้ำพักน้ำแรงของตน ในขณะที่หันไปทำกิจกรรมในทางฝั่งดาวสีฟ้า

     หลี่มู่ก็เลือกที่จะออฟไลน์เช่นกัน

     เขาค่อย ๆ มุดออกมาจากเครื่องเกมและชำเลืองมองนาฬิกา พบว่าผ่านไปเพียงสี่ชั่วโมงเท่านั้น ความบันเทิงที่ดูแสนยาวนานในช่วงก่อนหน้านี้ดูราวกับเป็นฝันตื่นหนึ่ง

     เขาหายใจเข้าลึกท่ามกลางความรู้สึกตื่นเต้น นี่เป็นครั้งแรกที่หลี่มู่ยังอยากจะเล่นเกมให้นานกว่าเดิม

     “เกมนี้จะเป็นตำนาน”

     หลี่มู่พลันอุทานดังว่า เขารีบเปิดคอมพิวเตอร์และลงมือเขียนรีวิวฉบับสั้น ๆ จากประสบการณ์ของตนทันที

     เขาจะกระจายชื่อเสียงของเกมนี้ให้โลกได้รับรู้!

     …

     …

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

      T/N: อินฟลูเอนเซอร์ระดับประเทศจะออกโรงแล้วค่ะ 

      ตอนนี้อาจจะรู้สึกว่าค่อนข้างสั้น แต่เอาเข้าจริงในออริจินัลก็มีจำนวนตัวอักษรจีนประมาณ 2,500 ตัวเหมือนกัน … พวกตอนยาว ๆ แบบตัวจีน 5,000 ตัวต่างหากที่ผิดปกติ (?)  การันตีว่าหลัง ๆ จะมีตอนเบิ้ลเยอะมาก ประเภทที่ตัวจีน 5,000 ตัวแทบทุกตอน ติด ๆ เป็นสิบตอน และเกิน 75% ถ้าคิดจากทั้งหมดของช่วงตอนนั้น ๆ 

      ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ 

      Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] Game of the World Tree 17 ปลุกกระแส

Now you are reading [นิยายแปล] Game of the World Tree Chapter 17 ปลุกกระแส at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

     “สำหรับพวกเรา นี่ไม่ใช่แค่เกม แต่เป็นดินแดนแห่งใหม่ที่ห่างไกลจากความวุ่นวาย …”

     “ทั้งต้นไม้ ต้นหญ้า ดอกไม้ต่าง ๆ มันสมจริงมาก”

     “ประสาทสัมผัสก็เหมือนจริงสุด ๆ แถม NPC ก็ดูมีชีวิตจริง ๆ”

     “ถ้าไม่มีหน้าต่างระบบ หรือเชื่อมต่อเน็ตกับทางโลกได้นะ เราคงคิดว่าเราโดนส่งมาต่างโลกแล้วอ่ะ”

     “ชั้นคิดว่าตัวเองเข้าใจคำโฆษณาในวีดิโอเปิดตัวแล้วแฮะ”

     “พวกเราเป็นส่วนหนึ่งของโลกแฟนตาซีที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ มันสมจริงและอิสระ!”

     “บริษัทเกมต้องอยากนำเสนอโลกในแบบที่มันเป็นให้กับพวกเรา …”

     หลี่มู่เอ่ยพลางหันมาหาทุกคน เขายิ้ม “ยังไง ๆ พวกเราก็ต้องอยู่ที่นี่กันไปอีกนาน เวลาจะลงมือทำอะไรคงต้องคิดให้ถี่ถ้วนกันก่อนล่ะนะ”

     เหล่าผู้เล่นหันมองกันและกัน

     “ตัดต้นไม้?”

     “กวาดพื้น?”

     “จีบ NPC?”

     “…”

     หลี่มู่หมดคำจะกล่าว เขาชำเลืองมองเดมาเซียที่พูดประโยคสุดท้ายออกมาก่อนจะเริ่มโหมดเทศนา 

     “วันนี้พวกเราทำงานอย่างหนัก ถ้าเทียบกับโลกจริง ๆ มันคืองานกรรมกรแบกหาม! ใครมันจะอยากทำของแบบนี้? แต่เห็นมั้ยว่าพวกเรานับร้อย ๆ คนยังตื่นเต้นราวกับคนบ้า มีความสุขแบบเหลือเชื่อทั้ง ๆ ที่ทำแค่ตัดต้นไม้ คิดว่าทั้งหมดนี้มันเพราะอะไรล่ะ?”

     เดมาเซียยกมือสางผมทรงระเบิดชี้ฟูสีแดงของตนพลางตอบแบบไม่มั่นใจ

     “เพราะเราปลดปล่อยความบ้า วิ่งแก้ผ้าได้เต็มที่ป่ะ?”

     เป็นอีกครั้งที่หลี่มู่หมดคำจะกล่าว เขามองหนุ่มผู้ไร้ทางเยียวยา “เพราะมันเหมือนชีวิตจริง! ทุกอย่างที่นี่มันเรียลจนพวกเราเผลอลืมไปว่าจริง ๆ มันเป็นเกม พวกเราได้เริ่มชีวิตใหม่ที่นี่ ซึ่งนี่แหละคือจุดหลักของเกมนี้!”

     ได้ยินดังว่า ทุกคนล้วนรู้สึกไปในทางเดียวกัน

     “จริงของพี่มู่ เราก็คิดเหมือนกัน อาจจะเพราะทั้งป่าเอยอะไรเอยมันสวยมาก พออยู่ในเกมนี้ก็ลืมปัญหาแทบทุกอย่าง”

     “เค้าด้วย! เค้าด้วย! บางทีก็สงสัยว่ามันอาจจะเป็นอีกโลกจริง ๆ … มันไม่มีอะไรดีไปกว่าการเดินทางที่ไม่สิ้นสุดและเวทมนตร์ …”

     หลี่มู่พยักหน้าเมื่อได้ยินหลากความเห็นจากทุกคน

     “ใช่เลย สิ่งสำคัญสุดของเกม The Kingdom of Elves คือความรู้สึกสมจริง พวกทีมพัฒนาเกมนี่อัจฉริยะชัด ๆ!”

     “แต่เราจะทำไงกับค่าความประทับใจของอลิซอ่ะพี่มู่?”

     เดมาเซียถาม

     หลี่มู่โยนผลไม้เข้าปากทั้งลูก เคี้ยวอยู่ครู่หนึ่งก่อนคายเมล็ด แล้วจึงตอบ

     “แน่นอนว่าเนื้อหาหลักของเกมคือความสมจริง ดังนั้นเราไม่สามารถปฏิบัติต่อ NPC เหมือนเป็นแค่ NPC เพราะนี่ไม่ใช่แค่เกมทั่วไป เราไม่สามารถเพิ่มค่าความสนิทจากการทำเควส แต่เราต้องพูดคุย สนทนากับพวกเขาเหมือนที่เราทำกับคนจริง ๆ”

     เขาลุกขึ้นช้า ๆ และหันไปทางกองไฟ เงาของหลี่มู่ทอดยาวสู่เบื้องหลัง เสียงของเขาเยือกเย็นราวกับนักปราชญ์ชรา

     “ตราบใดที่พวกเรายังอยู่ในเกมนี้ เราต้องประพฤติต่อโลกด้วยความเคารพ ปฏิบัติตนต่อ NPC เหมือนกับที่ทำต่อเพื่อนมนุษย์ สิ่งนี้น่าจะเป็นทางเดียวที่ทำให้พวกเขาประทับใจเรา และคิดว่าคนออกแบบเกมก็คงตั้งใจให้เป็นแบบนี้เช่นกัน”

     “สาเหตุที่เรามีแต้มความสนิท 20 หน่วยเพราะเราไม่เคยทำเหมือนเธอเป็นแค่ NPC แต่เราคิดว่ากำลังคุยอยู่กับนักบวชแห่งธรรมชาติจริง ๆ”

     เมื่อได้ยินคำอธิบายดังว่า ทุกคนพลันตระหนัก

     “งี้นี่เอง!”

     “มิน่าอ่ะ ทำเควสไปตั้งเยอะ แต่น้องอลิซก็แค่แสดงสีหน้ายิ้ม ๆ และให้แต้มความประทับใจแค่นิดเดียว”

     “มันจบแล้ว—! ตูคิดไงถึงพยายามไปแตะตัว NPC เนี่ย …”

     “แบบแกอ่ะอย่ามาทำเป็นพูดเลยเดมาเซีย ทำไว้แสบเอาเรื่อง”

     หลี่มู่หันมาทันทีเมื่อได้ยินเหล่าผู้เล่นหยอกล้อเดมาเซีย เขายิ้มให้กับทุกคนด้วยสีหน้าที่ดูลึกลับ

     “เอาจริง ๆ นะ ความเรียลมันก็เรื่องหนึ่ง แต่สิ่งที่ทำให้เราชอบเกมนี้ไม่ใช่แค่ความสมจริงอ่ะ”

     “แล้วมันคือไรอ่ะ?”

     ทุกคนนิ่งรออย่างใจจดใจจ่อ

     หลี่มู่ยิ้มเล็กน้อย “รู้สึกเหมือนกันมั้ยว่าเมื่อไรที่เราลงแรงทำบางอย่างในเกมนี้ เราก็จะได้ผลตอบแทนเสมอ? ทำงานก็ได้ค่าประสบการณ์ ถึงจะเล็กจะน้อย แต่ถ้าทำไปเรื่อย ๆ มันก็มากขึ้น … การรู้สึกว่าลงมือทำอะไรแล้วได้ผลตอบแทนนี่แหละ คือสิ่งที่เป็นแก่นหลักของเกมนี้เลย”

     เหล่าผู้เล่นพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

     “ใช่! ใช่! คิดเหมือนกันเลย”

     “กว่าจะตัดต้นไม้ได้ต้นนึงก็นานเอาเรื่อง แต่ว่าค่าประสบการณ์ก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ล่ะนะ”

     “ถึงเกมอื่นจะเพิ่มระดับได้ด้วยการทุ่มเทเหมือนกัน แต่เกมนี้เราสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่ชัดสุด แจ่มสุด”

     “ใช่เลย ส่วนผสมของความสมจริง กับความรู้สึกว่าบรรลุเป้าหมาย”

     “มันเจ๋งมากตอนรู้สึกว่าตัวเองแข็งแกร่งขึ้น!”

     “ใช้เวทมนตร์ด้วยตัวเองได้ก็แหล่มสุด ๆ!”

     “สกิลดาบ ครอสสแลช โคตรหล่ออ่ะบอกเลย”

     “ช่าย ช่าย!”

     หลี่มู่ยิ้มด้วยความสดใสเมื่อเห็นสมาชิกในทีมเห็นพ้องต้องกัน เขาเปิดหน้าต่างระบบขึ้นมาในระหว่างการสนทนา

     “ใช่เลย มันคือส่วนผสมของความเรียลและความรู้สึกว่าที่ลงมือไปมันคุ้มค่า และสิ่งที่แจ่มกว่าก็คือ …”

     หลี่มู่หยุดชั่วครู่ และกดปุ่มอัพเลเวลต่อหน้าเหล่าผู้ฟังที่กำลังตั้งใจมองด้วยความคาดหวัง

     ปุกิ๊ง–

     เสียงแจ้งเตือนแสนคุ้นเคยจากระบบ แสดงถึงการที่หลี่มู่อัพระดับสู่เลเวล 5 พร้อมกับแสงเปล่งประกายเจิดจ้า

     หลี่มู่ยิ้มเห็นฟันขาวท่ามกลางสายตาทิ่มแทงด้วยความอิจฉา

     “มันคือการได้เห็นพวกนายอิจฉาตาร้อนไงล่ะ …”

     “…”

     “โทษนะพี่ขอนำไปก่อน ทำงานหนัก ๆ ล่ะพวกนาย”

     “โว้ยยยย!”

     …

     งานเลี้ยงฉลองของเหล่าผู้เล่นดำเนินต่อไปจนถึงเที่ยงคืน

     ร่างกายของเอลฟ์ต้องการเวลาพักผ่อนเช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตทั่วไป แม้ว่าผู้เล่นจะสามารถปิดระบบเหนื่อยล้าที่มาจากการขาดนอนผ่านระบบเกม แต่ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงดีบัฟแรงกายอ่อนแรงได้

     สิ่งนี้จะกระทบต่อความสามารถหลากหลายด้าน และอาจนำไปสู่เหตุร้ายแรงอย่างการเสียชีวิตในบางสถานการณ์

     ผู้เล่นส่วนใหญ่จึงคำนวณเวลาพักผ่อน และใช้ช่วงเวลานั้นออกจากเกมไปสองสามชั่วโมง ก่อนจะกลับเข้ามาใหม่หลังตัวละครฟื้นฟูร่างกายเต็มที่แล้ว นอกจากนั้นในเวลากลางวันยังมีแสงจากธรรมชาติที่ทำให้การทำกิจกรรมต่าง ๆ สะดวกสบายขึ้น … เว้นแต่ผู้เล่นที่จริงจังเป็นพิเศษบางกลุ่มที่เลือกทิ้งการพักผ่อนไปโดยสิ้นเชิง

     ผู้เล่นจำนวนมากเริ่มเข้าสู่บ้านไม้ที่สร้างด้วยน้ำพักน้ำแรงของตน ในขณะที่หันไปทำกิจกรรมในทางฝั่งดาวสีฟ้า

     หลี่มู่ก็เลือกที่จะออฟไลน์เช่นกัน

     เขาค่อย ๆ มุดออกมาจากเครื่องเกมและชำเลืองมองนาฬิกา พบว่าผ่านไปเพียงสี่ชั่วโมงเท่านั้น ความบันเทิงที่ดูแสนยาวนานในช่วงก่อนหน้านี้ดูราวกับเป็นฝันตื่นหนึ่ง

     เขาหายใจเข้าลึกท่ามกลางความรู้สึกตื่นเต้น นี่เป็นครั้งแรกที่หลี่มู่ยังอยากจะเล่นเกมให้นานกว่าเดิม

     “เกมนี้จะเป็นตำนาน”

     หลี่มู่พลันอุทานดังว่า เขารีบเปิดคอมพิวเตอร์และลงมือเขียนรีวิวฉบับสั้น ๆ จากประสบการณ์ของตนทันที

     เขาจะกระจายชื่อเสียงของเกมนี้ให้โลกได้รับรู้!

     …

     …

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

      T/N: อินฟลูเอนเซอร์ระดับประเทศจะออกโรงแล้วค่ะ 

      ตอนนี้อาจจะรู้สึกว่าค่อนข้างสั้น แต่เอาเข้าจริงในออริจินัลก็มีจำนวนตัวอักษรจีนประมาณ 2,500 ตัวเหมือนกัน … พวกตอนยาว ๆ แบบตัวจีน 5,000 ตัวต่างหากที่ผิดปกติ (?)  การันตีว่าหลัง ๆ จะมีตอนเบิ้ลเยอะมาก ประเภทที่ตัวจีน 5,000 ตัวแทบทุกตอน ติด ๆ เป็นสิบตอน และเกิน 75% ถ้าคิดจากทั้งหมดของช่วงตอนนั้น ๆ 

      ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ 

      Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] Game of the World Tree 17 ปลุกกระแส

Now you are reading [นิยายแปล] Game of the World Tree Chapter 17 ปลุกกระแส at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

     “สำหรับพวกเรา นี่ไม่ใช่แค่เกม แต่เป็นดินแดนแห่งใหม่ที่ห่างไกลจากความวุ่นวาย …”

     “ทั้งต้นไม้ ต้นหญ้า ดอกไม้ต่าง ๆ มันสมจริงมาก”

     “ประสาทสัมผัสก็เหมือนจริงสุด ๆ แถม NPC ก็ดูมีชีวิตจริง ๆ”

     “ถ้าไม่มีหน้าต่างระบบ หรือเชื่อมต่อเน็ตกับทางโลกได้นะ เราคงคิดว่าเราโดนส่งมาต่างโลกแล้วอ่ะ”

     “ชั้นคิดว่าตัวเองเข้าใจคำโฆษณาในวีดิโอเปิดตัวแล้วแฮะ”

     “พวกเราเป็นส่วนหนึ่งของโลกแฟนตาซีที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ มันสมจริงและอิสระ!”

     “บริษัทเกมต้องอยากนำเสนอโลกในแบบที่มันเป็นให้กับพวกเรา …”

     หลี่มู่เอ่ยพลางหันมาหาทุกคน เขายิ้ม “ยังไง ๆ พวกเราก็ต้องอยู่ที่นี่กันไปอีกนาน เวลาจะลงมือทำอะไรคงต้องคิดให้ถี่ถ้วนกันก่อนล่ะนะ”

     เหล่าผู้เล่นหันมองกันและกัน

     “ตัดต้นไม้?”

     “กวาดพื้น?”

     “จีบ NPC?”

     “…”

     หลี่มู่หมดคำจะกล่าว เขาชำเลืองมองเดมาเซียที่พูดประโยคสุดท้ายออกมาก่อนจะเริ่มโหมดเทศนา 

     “วันนี้พวกเราทำงานอย่างหนัก ถ้าเทียบกับโลกจริง ๆ มันคืองานกรรมกรแบกหาม! ใครมันจะอยากทำของแบบนี้? แต่เห็นมั้ยว่าพวกเรานับร้อย ๆ คนยังตื่นเต้นราวกับคนบ้า มีความสุขแบบเหลือเชื่อทั้ง ๆ ที่ทำแค่ตัดต้นไม้ คิดว่าทั้งหมดนี้มันเพราะอะไรล่ะ?”

     เดมาเซียยกมือสางผมทรงระเบิดชี้ฟูสีแดงของตนพลางตอบแบบไม่มั่นใจ

     “เพราะเราปลดปล่อยความบ้า วิ่งแก้ผ้าได้เต็มที่ป่ะ?”

     เป็นอีกครั้งที่หลี่มู่หมดคำจะกล่าว เขามองหนุ่มผู้ไร้ทางเยียวยา “เพราะมันเหมือนชีวิตจริง! ทุกอย่างที่นี่มันเรียลจนพวกเราเผลอลืมไปว่าจริง ๆ มันเป็นเกม พวกเราได้เริ่มชีวิตใหม่ที่นี่ ซึ่งนี่แหละคือจุดหลักของเกมนี้!”

     ได้ยินดังว่า ทุกคนล้วนรู้สึกไปในทางเดียวกัน

     “จริงของพี่มู่ เราก็คิดเหมือนกัน อาจจะเพราะทั้งป่าเอยอะไรเอยมันสวยมาก พออยู่ในเกมนี้ก็ลืมปัญหาแทบทุกอย่าง”

     “เค้าด้วย! เค้าด้วย! บางทีก็สงสัยว่ามันอาจจะเป็นอีกโลกจริง ๆ … มันไม่มีอะไรดีไปกว่าการเดินทางที่ไม่สิ้นสุดและเวทมนตร์ …”

     หลี่มู่พยักหน้าเมื่อได้ยินหลากความเห็นจากทุกคน

     “ใช่เลย สิ่งสำคัญสุดของเกม The Kingdom of Elves คือความรู้สึกสมจริง พวกทีมพัฒนาเกมนี่อัจฉริยะชัด ๆ!”

     “แต่เราจะทำไงกับค่าความประทับใจของอลิซอ่ะพี่มู่?”

     เดมาเซียถาม

     หลี่มู่โยนผลไม้เข้าปากทั้งลูก เคี้ยวอยู่ครู่หนึ่งก่อนคายเมล็ด แล้วจึงตอบ

     “แน่นอนว่าเนื้อหาหลักของเกมคือความสมจริง ดังนั้นเราไม่สามารถปฏิบัติต่อ NPC เหมือนเป็นแค่ NPC เพราะนี่ไม่ใช่แค่เกมทั่วไป เราไม่สามารถเพิ่มค่าความสนิทจากการทำเควส แต่เราต้องพูดคุย สนทนากับพวกเขาเหมือนที่เราทำกับคนจริง ๆ”

     เขาลุกขึ้นช้า ๆ และหันไปทางกองไฟ เงาของหลี่มู่ทอดยาวสู่เบื้องหลัง เสียงของเขาเยือกเย็นราวกับนักปราชญ์ชรา

     “ตราบใดที่พวกเรายังอยู่ในเกมนี้ เราต้องประพฤติต่อโลกด้วยความเคารพ ปฏิบัติตนต่อ NPC เหมือนกับที่ทำต่อเพื่อนมนุษย์ สิ่งนี้น่าจะเป็นทางเดียวที่ทำให้พวกเขาประทับใจเรา และคิดว่าคนออกแบบเกมก็คงตั้งใจให้เป็นแบบนี้เช่นกัน”

     “สาเหตุที่เรามีแต้มความสนิท 20 หน่วยเพราะเราไม่เคยทำเหมือนเธอเป็นแค่ NPC แต่เราคิดว่ากำลังคุยอยู่กับนักบวชแห่งธรรมชาติจริง ๆ”

     เมื่อได้ยินคำอธิบายดังว่า ทุกคนพลันตระหนัก

     “งี้นี่เอง!”

     “มิน่าอ่ะ ทำเควสไปตั้งเยอะ แต่น้องอลิซก็แค่แสดงสีหน้ายิ้ม ๆ และให้แต้มความประทับใจแค่นิดเดียว”

     “มันจบแล้ว—! ตูคิดไงถึงพยายามไปแตะตัว NPC เนี่ย …”

     “แบบแกอ่ะอย่ามาทำเป็นพูดเลยเดมาเซีย ทำไว้แสบเอาเรื่อง”

     หลี่มู่หันมาทันทีเมื่อได้ยินเหล่าผู้เล่นหยอกล้อเดมาเซีย เขายิ้มให้กับทุกคนด้วยสีหน้าที่ดูลึกลับ

     “เอาจริง ๆ นะ ความเรียลมันก็เรื่องหนึ่ง แต่สิ่งที่ทำให้เราชอบเกมนี้ไม่ใช่แค่ความสมจริงอ่ะ”

     “แล้วมันคือไรอ่ะ?”

     ทุกคนนิ่งรออย่างใจจดใจจ่อ

     หลี่มู่ยิ้มเล็กน้อย “รู้สึกเหมือนกันมั้ยว่าเมื่อไรที่เราลงแรงทำบางอย่างในเกมนี้ เราก็จะได้ผลตอบแทนเสมอ? ทำงานก็ได้ค่าประสบการณ์ ถึงจะเล็กจะน้อย แต่ถ้าทำไปเรื่อย ๆ มันก็มากขึ้น … การรู้สึกว่าลงมือทำอะไรแล้วได้ผลตอบแทนนี่แหละ คือสิ่งที่เป็นแก่นหลักของเกมนี้เลย”

     เหล่าผู้เล่นพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

     “ใช่! ใช่! คิดเหมือนกันเลย”

     “กว่าจะตัดต้นไม้ได้ต้นนึงก็นานเอาเรื่อง แต่ว่าค่าประสบการณ์ก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ล่ะนะ”

     “ถึงเกมอื่นจะเพิ่มระดับได้ด้วยการทุ่มเทเหมือนกัน แต่เกมนี้เราสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่ชัดสุด แจ่มสุด”

     “ใช่เลย ส่วนผสมของความสมจริง กับความรู้สึกว่าบรรลุเป้าหมาย”

     “มันเจ๋งมากตอนรู้สึกว่าตัวเองแข็งแกร่งขึ้น!”

     “ใช้เวทมนตร์ด้วยตัวเองได้ก็แหล่มสุด ๆ!”

     “สกิลดาบ ครอสสแลช โคตรหล่ออ่ะบอกเลย”

     “ช่าย ช่าย!”

     หลี่มู่ยิ้มด้วยความสดใสเมื่อเห็นสมาชิกในทีมเห็นพ้องต้องกัน เขาเปิดหน้าต่างระบบขึ้นมาในระหว่างการสนทนา

     “ใช่เลย มันคือส่วนผสมของความเรียลและความรู้สึกว่าที่ลงมือไปมันคุ้มค่า และสิ่งที่แจ่มกว่าก็คือ …”

     หลี่มู่หยุดชั่วครู่ และกดปุ่มอัพเลเวลต่อหน้าเหล่าผู้ฟังที่กำลังตั้งใจมองด้วยความคาดหวัง

     ปุกิ๊ง–

     เสียงแจ้งเตือนแสนคุ้นเคยจากระบบ แสดงถึงการที่หลี่มู่อัพระดับสู่เลเวล 5 พร้อมกับแสงเปล่งประกายเจิดจ้า

     หลี่มู่ยิ้มเห็นฟันขาวท่ามกลางสายตาทิ่มแทงด้วยความอิจฉา

     “มันคือการได้เห็นพวกนายอิจฉาตาร้อนไงล่ะ …”

     “…”

     “โทษนะพี่ขอนำไปก่อน ทำงานหนัก ๆ ล่ะพวกนาย”

     “โว้ยยยย!”

     …

     งานเลี้ยงฉลองของเหล่าผู้เล่นดำเนินต่อไปจนถึงเที่ยงคืน

     ร่างกายของเอลฟ์ต้องการเวลาพักผ่อนเช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตทั่วไป แม้ว่าผู้เล่นจะสามารถปิดระบบเหนื่อยล้าที่มาจากการขาดนอนผ่านระบบเกม แต่ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงดีบัฟแรงกายอ่อนแรงได้

     สิ่งนี้จะกระทบต่อความสามารถหลากหลายด้าน และอาจนำไปสู่เหตุร้ายแรงอย่างการเสียชีวิตในบางสถานการณ์

     ผู้เล่นส่วนใหญ่จึงคำนวณเวลาพักผ่อน และใช้ช่วงเวลานั้นออกจากเกมไปสองสามชั่วโมง ก่อนจะกลับเข้ามาใหม่หลังตัวละครฟื้นฟูร่างกายเต็มที่แล้ว นอกจากนั้นในเวลากลางวันยังมีแสงจากธรรมชาติที่ทำให้การทำกิจกรรมต่าง ๆ สะดวกสบายขึ้น … เว้นแต่ผู้เล่นที่จริงจังเป็นพิเศษบางกลุ่มที่เลือกทิ้งการพักผ่อนไปโดยสิ้นเชิง

     ผู้เล่นจำนวนมากเริ่มเข้าสู่บ้านไม้ที่สร้างด้วยน้ำพักน้ำแรงของตน ในขณะที่หันไปทำกิจกรรมในทางฝั่งดาวสีฟ้า

     หลี่มู่ก็เลือกที่จะออฟไลน์เช่นกัน

     เขาค่อย ๆ มุดออกมาจากเครื่องเกมและชำเลืองมองนาฬิกา พบว่าผ่านไปเพียงสี่ชั่วโมงเท่านั้น ความบันเทิงที่ดูแสนยาวนานในช่วงก่อนหน้านี้ดูราวกับเป็นฝันตื่นหนึ่ง

     เขาหายใจเข้าลึกท่ามกลางความรู้สึกตื่นเต้น นี่เป็นครั้งแรกที่หลี่มู่ยังอยากจะเล่นเกมให้นานกว่าเดิม

     “เกมนี้จะเป็นตำนาน”

     หลี่มู่พลันอุทานดังว่า เขารีบเปิดคอมพิวเตอร์และลงมือเขียนรีวิวฉบับสั้น ๆ จากประสบการณ์ของตนทันที

     เขาจะกระจายชื่อเสียงของเกมนี้ให้โลกได้รับรู้!

     …

     …

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

      T/N: อินฟลูเอนเซอร์ระดับประเทศจะออกโรงแล้วค่ะ 

      ตอนนี้อาจจะรู้สึกว่าค่อนข้างสั้น แต่เอาเข้าจริงในออริจินัลก็มีจำนวนตัวอักษรจีนประมาณ 2,500 ตัวเหมือนกัน … พวกตอนยาว ๆ แบบตัวจีน 5,000 ตัวต่างหากที่ผิดปกติ (?)  การันตีว่าหลัง ๆ จะมีตอนเบิ้ลเยอะมาก ประเภทที่ตัวจีน 5,000 ตัวแทบทุกตอน ติด ๆ เป็นสิบตอน และเกิน 75% ถ้าคิดจากทั้งหมดของช่วงตอนนั้น ๆ 

      ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ 

      Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+