[นิยายแปล] Game of the World Tree 84 บัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพ

Now you are reading [นิยายแปล] Game of the World Tree Chapter 84 บัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

      ครืด…

      ประตูของมหาวิหารเปิดออกช้า ๆ พร้อมกับเสียง เอี๊ยดอ๊าด อันแผ่วเบา

      อีฟสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ครั้งหนึ่ง เธอเพิ่มความตื่นตัวจนถึงขีดสุด ก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปในมหาวิหารอย่างระมัดระวัง

      เมื่อก้าวข้ามธรณีประตูเข้ามาสู่มหาวิหารเธอพบว่าตัวเองได้เข้ามาสู่ห้องโถงอันกว้างใหญ่ กว้างเกินกว่าที่ตนเคยพบเห็นจากที่ใด

      ภายในห้องโถง พลังของเธอดูเหมือนจะถูกจำกัดลง ท่ามกลางความแปลกใจของเทพธิดา

      เธอไม่สามารถใช้พลังศักดิ์สิทธิ์เพื่อสำรวจพื้นที่โดยรอบได้ ทำได้เพียงสำรวจพวกมันด้วยการมองเห็นตามปกติ ราวกับได้กลายเป็นมนุษย์ธรรมดาเป็นการชั่วคราว…

      อย่างไรก็ตาม อีฟพบว่าการเชื่อมต่อระหว่างตัวเองและต้นไม้โลกยังคงอยู่ เธอจึงสามารถกลับไปสู่ร่างหลักเมื่อไรก็ได้ ตราบที่ตนต้องการ

      หลังจากมั่นใจในความปลอดภัย อีฟก็เริ่มสอดส่องสายตาไปทั่วห้องโถง

      สถานที่แห่งนี้กว้างใหญ่จนไม่อาจหาที่ใดมาเปรียบ ราวกับเป็นหอประชุมขนาดมหึมา ที่มีบัลลังก์อันหรูหราวางเรียงเป็นแนวยาว

      สถานที่แห่งนี้กว้างใหญ่จนไม่อาจหาที่ใดมาเปรียบ รายล้อมด้วยบัลลังก์อันหรูหราจำนวนมหาศาล เรียงรายต่อกันเป็นแนวยาว ราวกับเป็นหอประชุมขนาดมหึมา

      บัลลังก์จำนวนมหาศาลถูกเรียงคล้ายรูปพัดไม่ต่ำกว่าพันที่นั่ง พวกมันต่างมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกัน

      อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาลงไปในรายละเอียด จะพบว่าบัลลังก์ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพที่หมองหม่น ขาดการดูแล หรือแม้แต่แตกหัก ภายใต้หมู่ดาวบนฟากฟ้า  มีบัลลังก์เพียงบางส่วนเท่านั้นที่สะท้อนแสงเหล่าดวงดาราระยิบระยับอย่างงดงาม

       บัลลังก์ที่ไร้ร่องรอยของความเสียหายเหล่านี้ รวมกลุ่มกันอยู่บริเวณหน้ามหาวิหาร และมีจำนวนน้อยกว่า 100 ที่นั่ง

      ทันทีที่อีฟได้เห็นทิวทัศน์ตรงหน้า บางสิ่งพลันกระจ่างขึ้นมาในห้วงจิตใจของเธอ

      “มหาวิหารแห่งเทพ… สถานที่ แห่งนั้น น่ะเหรอ?” 

      เมื่อมองไปยังเหล่าบัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์เบื้องหน้าเธอ ประกอบกับข้อมูลที่ได้รับการสืบทอดจากมหาพฤกษาองค์ที่แล้ว ในที่สุดเธอก็ทราบถึงตัวตนของสถานที่แห่งนี้

      จากข้อมูลที่เธอได้รับจากต้นไม้โลกองค์เก่า ในแดนสวรรค์มีมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่อยู่แห่งหนึ่ง

      นามของมันคือ มหาวิหารเทพสูงสุด อันเป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจของบรรดาเทพโบราณ และสถานที่ซึ่งทวยเทพใช้ในการสนทนาเรื่องราวต่าง ๆ 

      มันเป็นมหาวิหารที่เต็มไปด้วยบัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์ของเหล่าเทพ 

      เหล่าเทพผู้ถือกำเนิดขึ้นมาตลอด นับตั้งแต่ช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นของทุกสรรพชีวิตในเอกภพแห่งซากัส!

      อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่อีฟได้รับจากต้นไม้โลก วิหารแห่งนั้นได้ถูกทำลายลงไปแล้วในสงครามแห่งเทพเมื่อ 1,000 ปีก่อน… 

      อีฟได้แต่ลอบส่ายหัวเมื่อพิจารณาข้อมูลดังกล่าว

      “ไม่แหละ ที่นี่ยังไงก็ไม่ใช่มหาวิหารเทพสูงสุดแห่งนั้น ไม่งั้นคงไม่มีกลิ่นอายแบบเดียวกับดินแดนซากัส”

      “แต่… บัลลังก์พวกนี้มันถอดแบบเหมือนเด๊ะ จากพวกบัลลังก์เทพโบราณที่รู้มาจากต้นไม้โลกองค์เก่าเลยอ่ะ… อย่างกับว่าพวกมันโดนย้ายมาจากมหาวิหารเทพสูงสุด…”

      “หรือมหาวิหารแห่งเทพ… จะมาแทนที่มหาวิหารเทพสูงสุด? ว่าแต่… เดิมทีวิหารเทพมันอยู่ในสวรรค์หนิ แล้ววิหารมหาเทพอะไรนี่มันมาเกี่ยวข้องกับเขตแดนซากัสได้ไงล่ะทีนี้”

      ความฉงนได้ผุดขึ้นมาในใจของเทพธิดาเล็กน้อย

      แต่หลังจากการสำรวจบริเวณโดยรอบอยู่ครู่หนึ่ง เธอฟันธงว่าสถานที่แห่งนี้… ตั้งอยู่ในเขตแดนซากัสแน่นอนค่ะ!

      อะไรนะ ระบุตำแหน่งเหรอ ก็… น่าจะเป็นที่ไหนสักแห่งใกล้กับบริเวณของต้นกำเนิดเขตแดน และกำแพงคริสตัลแถวที่เค้าเพิ่งถูกเรียกมานั่นแหละ!

      แล้วความรู้สึกแปลก ๆ นี่มันอะไรกันนะ เหมือนกับว่า…

      “อย่างกับว่ามันมีไว้ ระงับ อะไรซักอย่าง…”

      อีฟเริ่มคาดเดาจากปัจจัยโดยรอบ

      บัลลังก์ของเทพโบราณในมหาวิหารเทพสูงสุด มาพร้อมกับพรแห่งกฏจากพันธกิจของเทพแต่ละองค์

      แม้เทพเหล่านั้นจะสิ้นไปในอดีต แต่มรดกแห่งตำแหน่งอันศักดิ์สิทธิ์ที่ยังหลงเหลืออยู่ ถือเป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์อันล้ำค่า 

      แม้จะไม่มีความสามารถพิเศษเหมือนกับวัตถุศักดิ์สิทธิ์ทั่วไป แต่เนื่องจากพลังอันยิ่งใหญ่ของเทพโบราณยังคงสถิตอยู่ บัลลังก์เหล่านี้จึงมีคุณสมบัติพิเศษตามธรรมชาติ ในการกำราบทุกสรรพสิ่ง

      และในเวลานี้ อีฟก็ได้เข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่หยุดยั้งเธอ จากการดูดซึมต้นกำเนิดของเขตแดนซากัส!

      คนร้ายก็คือวิหารแห่งนี้ล่ะค่ะ!!

      “แต่เดี๋ยวก่อน มันสร้างขึ้นมาเพื่อยับยั้งต้นกำเนิดของซากัสหรือเปล่านะ?”

      อีฟสงสัย

      แต่เธอกลับส่ายศีรษะเมื่อผ่านไปเพียงครู่หนึ่ง 

      “ไม่แหละ มันไม่ใช่การยับยั้ง แต่มันเหมือนการ ป้องกัน มากกว่า… ไม่สิ มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทั้งยับยั้งและป้องกันไปในเวลาเดียวกัน!” 

      อีฟคาดเดาบางสิ่งขึ้นมาจากการเชื่อมโยงเหตุการณ์ตรงหน้า เข้ากับข้อมูลที่ตนได้รับมาจากต้นไม้โลกองค์ที่แล้ว 

      ในความทรงจำเหล่านั้น ต้นไม้โลกไม่ใช่สิ่งเดียวที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสงครามแห่งเทพเมื่อ 1,000 ปีก่อน

      ทั้งสรวงสวรรค์ทั้งเขตแดนซากัส ต่างตกเป็นสถานที่รบพุ่งของเหล่าทวยเทพทั้งคู่ 

      ความเสียหายที่เกิดต่อแดนสวรรค์คือการล่มสลายของมหาวิหารเทพสูงสุด และสำหรับเขตแดนซากัสคือความเสียหายต่อต้นกำเนิด ซึ่งส่งผลให้ระดับพลังเวทมนตร์ดิ่งลง!

      เมื่อนึกถึงเรื่องราวเหล่านี้ ทฤษฎีบางอย่างพลันปรากฏขึ้นมาในความคิดของเธอ

      “ที่นี่น่าจะเป็นวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งใหม่ ที่พวกเทพได้สร้างเอาไว้และย้ายบัลลังก์ลงมา ซึ่งพวกเขาจะเข้ามาที่นี่ได้ในรูปแบบของดวงจิตเท่านั้น ส่วนจุดประสงค์ในการสร้าง น่าจะเพื่อ ปกป้อง และ ยับยั้ง ต้นกำเนิดของเขตแดนซากัส!”

      เขตแดนซากัส เป็นเขตแดนหลักที่ใหญ่ที่สุด และมีสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาจำนวนมากที่สุด ที่มอบศรัทธาให้กับเหล่าเทพ จึงไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ที่บรรดาเทพโบราณจะสร้างสถานที่สำหรับเสวนาแห่งใหม่ไว้ในดินแดนแห่งนี้ เพื่อปกป้องเขตแดน

      แม้ว่าเหล่าเทพจะไม่สามารถเข้าสู่เขตแดนซากัสด้วยร่างที่แท้จริงของตนได้ แต่พวกเขายังสามารถเข้ามาสู่สถานที่แห่งนี้ผ่านการเคลื่อนย้ายดวงจิต 

      เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ความหวาดกลัวพลันผุดขึ้นมาในหัวใจของอีฟทันที

      “เราประมาทไปหน่อยตอนดูดซึมครั้งล่าสุด ถ้ามีดวงจิตของเทพซักองค์อยู่ที่นี่ ก็คงจะความแตกไปแล้ว!”

      ผลจากการดูดซึมของเธอส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวง 

      ต้นกำเนิดของเขตแดนซากัสเคยได้รับความเสียหาย ทำให้อัตราการดูดซึมพลังงาน [ว่างเปล่า] อยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำอย่างยิ่งยวดมาเป็นเวลา 1,000 ปี

      แต่พลัง [ว่างเปล่า] มีคุณสมบัติตามธรรมชาติในการแผ่ตัวเข้าหาเขตแดน ทำให้ปริมาณพลังงานสะสมในบริเวณรอบเขตแดนซากัสตลอดระยะเวลาพันปีมีจำนวนมหาศาล

      การดูดซึมของอีฟจึงทำให้พลังงานที่สะสมมานานนับพันปีเหล่านั้นไหลบ่าเข้ามา ส่งผลให้ระดับพลังเวทของเขตแดนซากัสเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 1 เปอร์เซ็นต์ทันที…

      ถ้ามันมีดวงจิตของเทพซักองค์อยู่แถวนี้ ยับค่ะ… ยับแน่…

      อาจจะไม่ได้เดาไปแนว ‘ต้นไม้โลกฟื้นคืนชีพแล้วววว’ ก็ได้ แต่ต้องสงสัยกันขึ้นมาบ้างล่ะ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในดินแดนซากัส 

      ไม่สิ… เดี๋ยว!

      หัวใจของอีฟเต้นรัว

      เธอรีบกวาดสายตาไปที่บัลลังก์จำนวนมากที่เรียงรายอยู่เบื้องหน้า และเริ่มค้นหาบางสิ่งไปทีละจุด

      เมื่อสำรวจไปได้ครู่หนึ่ง สีหน้าของเธอดูประหลาดขึ้นมาทันที

      “ไม่… พวกเทพต้องไม่เดามาถึงเรื่องการคืนชีพของต้นไม้โลก พูดให้ถูกคือพวกเขาจะไม่เดาไปในทางนั้นเลย!”

      สายตาของเธอจับจ้องไปที่หนึ่งในบัลลังก์ที่พังทลายลง

      มันเป็นบัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์ที่แกะสลักลายเส้นอันวิจิตร ประกอบด้วยลวดลายมวลหมู่ดอกไม้และเถาวัลย์ แบบเดียวกับบัลลังก์มหาพฤกษาที่อยู่ในความทรงจำที่อีฟรับมาจากต้นไม้โลก!

      ในบัลลังก์นี้ มีร่องรอยของวิญญาณแห่งเทพโบราณสถิตอยู่ ตัวบัลลังก์อยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม ซึ่งบ่งบอกถึงสถานะ ของเทพผู้เป็นเจ้าของได้อย่างดี

      แม้ว่าอีฟจะเป็นผู้สืบทอดของต้นไม้โลก และครอบครองพันธกิจศักดิ์สิทธิ์ชนิดเดียวกัน แต่เธอก็ไม่ใช่ต้นไม้โลกองค์เดิมแต่อย่างใด

      นอกจากนี้ จิตวิญญาณของเธอก็มาจากจักรวาลอื่น จะมองอย่างไรดวงวิญญาณข้างในก็แตกต่างกันอย่างมาก …เธอจึงไม่ได้รับสืบทอดบัลลังก์ของมหาพฤกษาองค์ก่อน 

      สถานการณ์ในยามนี้ จึงเป็นการที่ต้นไม้โลกได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง โดยที่ชื่อในระบบของมหาวิหารยังคงขึ้นสถานะว่าตายไปแล้ว (….)

      หากเทียบกับต้นไม้โลกองค์ก่อน สถานะของอีฟจะใกล้เคียงกับบุตรีของพระองค์มากกว่าอย่างอื่น

      เมื่อนึกถึงความจริงข้อนี้ อีฟก็ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เธอได้แต่รู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง

      แต่ในไม่ช้า เธอก็รู้สึกว่านี่เป็นโอกาสอันดีเช่นกัน!

      สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าตราบใดที่เธอไม่เปิดเผยตัวเอง ในช่วงเวลาพักใหญ่ ๆ นี้ แม้เหล่าทวยเทพจะค้นพบการเปลี่ยนแปลงของระดับพลังเวทมนตร์ในเขตแดนซากัส แต่พวกเขาก็จะไม่เพ่งเล็งมาที่ต้นไม้โลกเป็นลำดับต้น ๆ

      ทันใดนั้น อีฟสัมผัสได้ว่าบางสิ่งกำลังอัญเชิญเธออีกครั้ง

      ทว่าคราวนี้ เป้าหมายบางอย่างได้ผุดขึ้นมาในใจของเธออย่างชัดเจน

      “อ๋า… ที่เรียกมานี่ คือจะให้เราประทับวิญญาณไว้ที่นี่เหรอ?”

      หากอีฟได้ทิ้งเครื่องหมายแห่งวิญญาณไว้ในสถานที่แห่งนี้ บัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์ของเธอจะถูกสร้างขึ้นในมหาวิหาร เทียบเท่ากับการที่เธอได้รับการยอมรับจากเหล่าเทพทั้งหลาย

      กล่าวอีกนัยหนึ่ง นี่คือการลงทะเบียนในฐานะ เทพองค์ใหม่

      อย่างไรก็ตาม อีฟเลือกที่จะไม่ทำมัน

      “บัลลังก์เป็นสิ่งที่สะท้อนมาจากพลังศักดิ์สิทธิ์ ถึงเราจะปกปิดกลิ่นอายของมันเอาไว้ ถ้าทิ้งบัลลังก์ไว้ที่นี่เมื่อไร ความก็แตกเมื่อนั้น… หรือในกรณีที่แย่ที่สุดก็อาจจะไปกระตุ้นบัลลังก์ของต้นไม้โลกองค์ที่แล้ว กลายเป็นว่าเราจะไปสืบทอดบัลลังก์ต้นไม้โลกโดยตรง!”

      ถ้าเป็นเช่นนั้น มัน จะกลายเป็นเรื่องที่น่ากระอักกระอ่วน เหมือนกับการป่าวประกาศว่าตัวเองเป็น นางเอกของเรื่องเกิดใหม่เป็นต้นไม้โลก โดยตรง…

      ไม่ค่ะ ไม่เอา ไม่ประทับใจอย่างแรงค่ะ!

      “แต่แบบนี้… ถ้าเรามีพันธกิจศักดิ์สิทธิ์อันใหม่ ก็คงจะหาทางทิ้งบัลลังก์ไว้ที่นี่ได้ล่ะมั้ง”

      อีฟส่ายศีรษะพลางถอนหายใจ เธอหันหลังกลับ ก่อนจะก้าวออกจากมหาวิหารแห่งเทพ

      และไม่นานหลังจากที่เธอก้าวพ้นประตูไป บัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์จำนวนหนึ่งพลันเปล่งประกายแสงอันเจิดจ้า!

      …

      …

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

      T/N: เฉียด… อีกนิดเดียวจ๊ะเอ๋แล้วน่ะ

      อ่านแปลไทยได้ที่ https://www.nekopost.net/novel/12413/ ค่ะ ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ 

      Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] Game of the World Tree 84 บัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพ

Now you are reading [นิยายแปล] Game of the World Tree Chapter 84 บัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

      ครืด…

      ประตูของมหาวิหารเปิดออกช้า ๆ พร้อมกับเสียง เอี๊ยดอ๊าด อันแผ่วเบา

      อีฟสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ครั้งหนึ่ง เธอเพิ่มความตื่นตัวจนถึงขีดสุด ก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปในมหาวิหารอย่างระมัดระวัง

      เมื่อก้าวข้ามธรณีประตูเข้ามาสู่มหาวิหารเธอพบว่าตัวเองได้เข้ามาสู่ห้องโถงอันกว้างใหญ่ กว้างเกินกว่าที่ตนเคยพบเห็นจากที่ใด

      ภายในห้องโถง พลังของเธอดูเหมือนจะถูกจำกัดลง ท่ามกลางความแปลกใจของเทพธิดา

      เธอไม่สามารถใช้พลังศักดิ์สิทธิ์เพื่อสำรวจพื้นที่โดยรอบได้ ทำได้เพียงสำรวจพวกมันด้วยการมองเห็นตามปกติ ราวกับได้กลายเป็นมนุษย์ธรรมดาเป็นการชั่วคราว…

      อย่างไรก็ตาม อีฟพบว่าการเชื่อมต่อระหว่างตัวเองและต้นไม้โลกยังคงอยู่ เธอจึงสามารถกลับไปสู่ร่างหลักเมื่อไรก็ได้ ตราบที่ตนต้องการ

      หลังจากมั่นใจในความปลอดภัย อีฟก็เริ่มสอดส่องสายตาไปทั่วห้องโถง

      สถานที่แห่งนี้กว้างใหญ่จนไม่อาจหาที่ใดมาเปรียบ ราวกับเป็นหอประชุมขนาดมหึมา ที่มีบัลลังก์อันหรูหราวางเรียงเป็นแนวยาว

      สถานที่แห่งนี้กว้างใหญ่จนไม่อาจหาที่ใดมาเปรียบ รายล้อมด้วยบัลลังก์อันหรูหราจำนวนมหาศาล เรียงรายต่อกันเป็นแนวยาว ราวกับเป็นหอประชุมขนาดมหึมา

      บัลลังก์จำนวนมหาศาลถูกเรียงคล้ายรูปพัดไม่ต่ำกว่าพันที่นั่ง พวกมันต่างมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกัน

      อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาลงไปในรายละเอียด จะพบว่าบัลลังก์ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพที่หมองหม่น ขาดการดูแล หรือแม้แต่แตกหัก ภายใต้หมู่ดาวบนฟากฟ้า  มีบัลลังก์เพียงบางส่วนเท่านั้นที่สะท้อนแสงเหล่าดวงดาราระยิบระยับอย่างงดงาม

       บัลลังก์ที่ไร้ร่องรอยของความเสียหายเหล่านี้ รวมกลุ่มกันอยู่บริเวณหน้ามหาวิหาร และมีจำนวนน้อยกว่า 100 ที่นั่ง

      ทันทีที่อีฟได้เห็นทิวทัศน์ตรงหน้า บางสิ่งพลันกระจ่างขึ้นมาในห้วงจิตใจของเธอ

      “มหาวิหารแห่งเทพ… สถานที่ แห่งนั้น น่ะเหรอ?” 

      เมื่อมองไปยังเหล่าบัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์เบื้องหน้าเธอ ประกอบกับข้อมูลที่ได้รับการสืบทอดจากมหาพฤกษาองค์ที่แล้ว ในที่สุดเธอก็ทราบถึงตัวตนของสถานที่แห่งนี้

      จากข้อมูลที่เธอได้รับจากต้นไม้โลกองค์เก่า ในแดนสวรรค์มีมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่อยู่แห่งหนึ่ง

      นามของมันคือ มหาวิหารเทพสูงสุด อันเป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจของบรรดาเทพโบราณ และสถานที่ซึ่งทวยเทพใช้ในการสนทนาเรื่องราวต่าง ๆ 

      มันเป็นมหาวิหารที่เต็มไปด้วยบัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์ของเหล่าเทพ 

      เหล่าเทพผู้ถือกำเนิดขึ้นมาตลอด นับตั้งแต่ช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นของทุกสรรพชีวิตในเอกภพแห่งซากัส!

      อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่อีฟได้รับจากต้นไม้โลก วิหารแห่งนั้นได้ถูกทำลายลงไปแล้วในสงครามแห่งเทพเมื่อ 1,000 ปีก่อน… 

      อีฟได้แต่ลอบส่ายหัวเมื่อพิจารณาข้อมูลดังกล่าว

      “ไม่แหละ ที่นี่ยังไงก็ไม่ใช่มหาวิหารเทพสูงสุดแห่งนั้น ไม่งั้นคงไม่มีกลิ่นอายแบบเดียวกับดินแดนซากัส”

      “แต่… บัลลังก์พวกนี้มันถอดแบบเหมือนเด๊ะ จากพวกบัลลังก์เทพโบราณที่รู้มาจากต้นไม้โลกองค์เก่าเลยอ่ะ… อย่างกับว่าพวกมันโดนย้ายมาจากมหาวิหารเทพสูงสุด…”

      “หรือมหาวิหารแห่งเทพ… จะมาแทนที่มหาวิหารเทพสูงสุด? ว่าแต่… เดิมทีวิหารเทพมันอยู่ในสวรรค์หนิ แล้ววิหารมหาเทพอะไรนี่มันมาเกี่ยวข้องกับเขตแดนซากัสได้ไงล่ะทีนี้”

      ความฉงนได้ผุดขึ้นมาในใจของเทพธิดาเล็กน้อย

      แต่หลังจากการสำรวจบริเวณโดยรอบอยู่ครู่หนึ่ง เธอฟันธงว่าสถานที่แห่งนี้… ตั้งอยู่ในเขตแดนซากัสแน่นอนค่ะ!

      อะไรนะ ระบุตำแหน่งเหรอ ก็… น่าจะเป็นที่ไหนสักแห่งใกล้กับบริเวณของต้นกำเนิดเขตแดน และกำแพงคริสตัลแถวที่เค้าเพิ่งถูกเรียกมานั่นแหละ!

      แล้วความรู้สึกแปลก ๆ นี่มันอะไรกันนะ เหมือนกับว่า…

      “อย่างกับว่ามันมีไว้ ระงับ อะไรซักอย่าง…”

      อีฟเริ่มคาดเดาจากปัจจัยโดยรอบ

      บัลลังก์ของเทพโบราณในมหาวิหารเทพสูงสุด มาพร้อมกับพรแห่งกฏจากพันธกิจของเทพแต่ละองค์

      แม้เทพเหล่านั้นจะสิ้นไปในอดีต แต่มรดกแห่งตำแหน่งอันศักดิ์สิทธิ์ที่ยังหลงเหลืออยู่ ถือเป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์อันล้ำค่า 

      แม้จะไม่มีความสามารถพิเศษเหมือนกับวัตถุศักดิ์สิทธิ์ทั่วไป แต่เนื่องจากพลังอันยิ่งใหญ่ของเทพโบราณยังคงสถิตอยู่ บัลลังก์เหล่านี้จึงมีคุณสมบัติพิเศษตามธรรมชาติ ในการกำราบทุกสรรพสิ่ง

      และในเวลานี้ อีฟก็ได้เข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่หยุดยั้งเธอ จากการดูดซึมต้นกำเนิดของเขตแดนซากัส!

      คนร้ายก็คือวิหารแห่งนี้ล่ะค่ะ!!

      “แต่เดี๋ยวก่อน มันสร้างขึ้นมาเพื่อยับยั้งต้นกำเนิดของซากัสหรือเปล่านะ?”

      อีฟสงสัย

      แต่เธอกลับส่ายศีรษะเมื่อผ่านไปเพียงครู่หนึ่ง 

      “ไม่แหละ มันไม่ใช่การยับยั้ง แต่มันเหมือนการ ป้องกัน มากกว่า… ไม่สิ มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทั้งยับยั้งและป้องกันไปในเวลาเดียวกัน!” 

      อีฟคาดเดาบางสิ่งขึ้นมาจากการเชื่อมโยงเหตุการณ์ตรงหน้า เข้ากับข้อมูลที่ตนได้รับมาจากต้นไม้โลกองค์ที่แล้ว 

      ในความทรงจำเหล่านั้น ต้นไม้โลกไม่ใช่สิ่งเดียวที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสงครามแห่งเทพเมื่อ 1,000 ปีก่อน

      ทั้งสรวงสวรรค์ทั้งเขตแดนซากัส ต่างตกเป็นสถานที่รบพุ่งของเหล่าทวยเทพทั้งคู่ 

      ความเสียหายที่เกิดต่อแดนสวรรค์คือการล่มสลายของมหาวิหารเทพสูงสุด และสำหรับเขตแดนซากัสคือความเสียหายต่อต้นกำเนิด ซึ่งส่งผลให้ระดับพลังเวทมนตร์ดิ่งลง!

      เมื่อนึกถึงเรื่องราวเหล่านี้ ทฤษฎีบางอย่างพลันปรากฏขึ้นมาในความคิดของเธอ

      “ที่นี่น่าจะเป็นวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งใหม่ ที่พวกเทพได้สร้างเอาไว้และย้ายบัลลังก์ลงมา ซึ่งพวกเขาจะเข้ามาที่นี่ได้ในรูปแบบของดวงจิตเท่านั้น ส่วนจุดประสงค์ในการสร้าง น่าจะเพื่อ ปกป้อง และ ยับยั้ง ต้นกำเนิดของเขตแดนซากัส!”

      เขตแดนซากัส เป็นเขตแดนหลักที่ใหญ่ที่สุด และมีสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาจำนวนมากที่สุด ที่มอบศรัทธาให้กับเหล่าเทพ จึงไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ที่บรรดาเทพโบราณจะสร้างสถานที่สำหรับเสวนาแห่งใหม่ไว้ในดินแดนแห่งนี้ เพื่อปกป้องเขตแดน

      แม้ว่าเหล่าเทพจะไม่สามารถเข้าสู่เขตแดนซากัสด้วยร่างที่แท้จริงของตนได้ แต่พวกเขายังสามารถเข้ามาสู่สถานที่แห่งนี้ผ่านการเคลื่อนย้ายดวงจิต 

      เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ความหวาดกลัวพลันผุดขึ้นมาในหัวใจของอีฟทันที

      “เราประมาทไปหน่อยตอนดูดซึมครั้งล่าสุด ถ้ามีดวงจิตของเทพซักองค์อยู่ที่นี่ ก็คงจะความแตกไปแล้ว!”

      ผลจากการดูดซึมของเธอส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวง 

      ต้นกำเนิดของเขตแดนซากัสเคยได้รับความเสียหาย ทำให้อัตราการดูดซึมพลังงาน [ว่างเปล่า] อยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำอย่างยิ่งยวดมาเป็นเวลา 1,000 ปี

      แต่พลัง [ว่างเปล่า] มีคุณสมบัติตามธรรมชาติในการแผ่ตัวเข้าหาเขตแดน ทำให้ปริมาณพลังงานสะสมในบริเวณรอบเขตแดนซากัสตลอดระยะเวลาพันปีมีจำนวนมหาศาล

      การดูดซึมของอีฟจึงทำให้พลังงานที่สะสมมานานนับพันปีเหล่านั้นไหลบ่าเข้ามา ส่งผลให้ระดับพลังเวทของเขตแดนซากัสเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 1 เปอร์เซ็นต์ทันที…

      ถ้ามันมีดวงจิตของเทพซักองค์อยู่แถวนี้ ยับค่ะ… ยับแน่…

      อาจจะไม่ได้เดาไปแนว ‘ต้นไม้โลกฟื้นคืนชีพแล้วววว’ ก็ได้ แต่ต้องสงสัยกันขึ้นมาบ้างล่ะ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในดินแดนซากัส 

      ไม่สิ… เดี๋ยว!

      หัวใจของอีฟเต้นรัว

      เธอรีบกวาดสายตาไปที่บัลลังก์จำนวนมากที่เรียงรายอยู่เบื้องหน้า และเริ่มค้นหาบางสิ่งไปทีละจุด

      เมื่อสำรวจไปได้ครู่หนึ่ง สีหน้าของเธอดูประหลาดขึ้นมาทันที

      “ไม่… พวกเทพต้องไม่เดามาถึงเรื่องการคืนชีพของต้นไม้โลก พูดให้ถูกคือพวกเขาจะไม่เดาไปในทางนั้นเลย!”

      สายตาของเธอจับจ้องไปที่หนึ่งในบัลลังก์ที่พังทลายลง

      มันเป็นบัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์ที่แกะสลักลายเส้นอันวิจิตร ประกอบด้วยลวดลายมวลหมู่ดอกไม้และเถาวัลย์ แบบเดียวกับบัลลังก์มหาพฤกษาที่อยู่ในความทรงจำที่อีฟรับมาจากต้นไม้โลก!

      ในบัลลังก์นี้ มีร่องรอยของวิญญาณแห่งเทพโบราณสถิตอยู่ ตัวบัลลังก์อยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม ซึ่งบ่งบอกถึงสถานะ ของเทพผู้เป็นเจ้าของได้อย่างดี

      แม้ว่าอีฟจะเป็นผู้สืบทอดของต้นไม้โลก และครอบครองพันธกิจศักดิ์สิทธิ์ชนิดเดียวกัน แต่เธอก็ไม่ใช่ต้นไม้โลกองค์เดิมแต่อย่างใด

      นอกจากนี้ จิตวิญญาณของเธอก็มาจากจักรวาลอื่น จะมองอย่างไรดวงวิญญาณข้างในก็แตกต่างกันอย่างมาก …เธอจึงไม่ได้รับสืบทอดบัลลังก์ของมหาพฤกษาองค์ก่อน 

      สถานการณ์ในยามนี้ จึงเป็นการที่ต้นไม้โลกได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง โดยที่ชื่อในระบบของมหาวิหารยังคงขึ้นสถานะว่าตายไปแล้ว (….)

      หากเทียบกับต้นไม้โลกองค์ก่อน สถานะของอีฟจะใกล้เคียงกับบุตรีของพระองค์มากกว่าอย่างอื่น

      เมื่อนึกถึงความจริงข้อนี้ อีฟก็ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เธอได้แต่รู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง

      แต่ในไม่ช้า เธอก็รู้สึกว่านี่เป็นโอกาสอันดีเช่นกัน!

      สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าตราบใดที่เธอไม่เปิดเผยตัวเอง ในช่วงเวลาพักใหญ่ ๆ นี้ แม้เหล่าทวยเทพจะค้นพบการเปลี่ยนแปลงของระดับพลังเวทมนตร์ในเขตแดนซากัส แต่พวกเขาก็จะไม่เพ่งเล็งมาที่ต้นไม้โลกเป็นลำดับต้น ๆ

      ทันใดนั้น อีฟสัมผัสได้ว่าบางสิ่งกำลังอัญเชิญเธออีกครั้ง

      ทว่าคราวนี้ เป้าหมายบางอย่างได้ผุดขึ้นมาในใจของเธออย่างชัดเจน

      “อ๋า… ที่เรียกมานี่ คือจะให้เราประทับวิญญาณไว้ที่นี่เหรอ?”

      หากอีฟได้ทิ้งเครื่องหมายแห่งวิญญาณไว้ในสถานที่แห่งนี้ บัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์ของเธอจะถูกสร้างขึ้นในมหาวิหาร เทียบเท่ากับการที่เธอได้รับการยอมรับจากเหล่าเทพทั้งหลาย

      กล่าวอีกนัยหนึ่ง นี่คือการลงทะเบียนในฐานะ เทพองค์ใหม่

      อย่างไรก็ตาม อีฟเลือกที่จะไม่ทำมัน

      “บัลลังก์เป็นสิ่งที่สะท้อนมาจากพลังศักดิ์สิทธิ์ ถึงเราจะปกปิดกลิ่นอายของมันเอาไว้ ถ้าทิ้งบัลลังก์ไว้ที่นี่เมื่อไร ความก็แตกเมื่อนั้น… หรือในกรณีที่แย่ที่สุดก็อาจจะไปกระตุ้นบัลลังก์ของต้นไม้โลกองค์ที่แล้ว กลายเป็นว่าเราจะไปสืบทอดบัลลังก์ต้นไม้โลกโดยตรง!”

      ถ้าเป็นเช่นนั้น มัน จะกลายเป็นเรื่องที่น่ากระอักกระอ่วน เหมือนกับการป่าวประกาศว่าตัวเองเป็น นางเอกของเรื่องเกิดใหม่เป็นต้นไม้โลก โดยตรง…

      ไม่ค่ะ ไม่เอา ไม่ประทับใจอย่างแรงค่ะ!

      “แต่แบบนี้… ถ้าเรามีพันธกิจศักดิ์สิทธิ์อันใหม่ ก็คงจะหาทางทิ้งบัลลังก์ไว้ที่นี่ได้ล่ะมั้ง”

      อีฟส่ายศีรษะพลางถอนหายใจ เธอหันหลังกลับ ก่อนจะก้าวออกจากมหาวิหารแห่งเทพ

      และไม่นานหลังจากที่เธอก้าวพ้นประตูไป บัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์จำนวนหนึ่งพลันเปล่งประกายแสงอันเจิดจ้า!

      …

      …

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

      T/N: เฉียด… อีกนิดเดียวจ๊ะเอ๋แล้วน่ะ

      อ่านแปลไทยได้ที่ https://www.nekopost.net/novel/12413/ ค่ะ ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ 

      Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+