[นิยายแปล] Game of the World Tree 34 เอลฟ์คลั่ง

Now you are reading [นิยายแปล] Game of the World Tree Chapter 34 เอลฟ์คลั่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

     เอลฟ์จำนวนมากในชุดผ้าลินินต่างถาโถมเข้ามาจากทุกสารทิศพร้อมเสียงตะโกนอันดังก้อง พวกเขาแกว่งไกวมีดและไม้เท้าที่ทำจากไม้เข้าปะทะกับฝูงอันเดด

     กูลูตะลึงพรึงเพริดกับเสียงโห่ร้องแห่งความตื่นเต้น

     มันเงยหน้าขึ้นมาและร้องด้วยความตกใจเมื่อเห็นร่างสูงที่ตนคุ้นเคย

     “เอลฟ์?”

     องค์พระบิดา! เหตุใดในป่าจึงมีเจ้าพวกหูยาวจำนวนมากขนาดนี้?!

     ไม่ใช่ว่าพวกมันตายไปหมดแล้วเหรอ?

     กูลูลอบรู้สึกอยากถอยหนีขึ้นมา

     ความคิดดังกล่าวเกิดขึ้นมาจากคำกล่าวขานเกี่ยวกับพวกเอลฟ์ในพันปีที่แล้ว เอลฟ์โดยทั่วไปจะมีพลังอยู่ในระดับเหล็กหรือสูงกว่านั้น

     ต่อหน้าเอลฟ์ยอดฝีมือระดับเหล็ก กูลูก็ไม่ต่างอะไรกับก็อบลินตัวน้อย แม้มันจะเป็นนักบวชผู้ครอบครองไสยเวทมรณะ แต่มันคงไม่สามารถต้านทานกำลังเอลฟ์นับร้อยตนได้

     “หืม? … มีบางสิ่งไม่ถูกไม่ควร”

     กูลูพลันนึกถึงบางสิ่ง

     หากมีเอลฟ์ที่ทรงพลังหลงเหลืออยู่จำนวนมากจริง ๆ … เกรงว่าเหล่าก็อบลินคงถูกขับไล่ออกจากโบราณสถานไปนานแสนนานแล้ว

     คิดได้ดังว่า มันจึงพิจารณาเหล่าเอลฟ์พวกนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ซึ่งทำให้มันเบาใจไปได้อีกหลายขุม …

     เอลฟ์ฝูงนี้ไม่ได้อยู่ในระดับ ยอดฝีมือ ด้วยซ้ำ! 

     ในวินาทีนั้น กูลูเข้าใจถึงสาเหตุที่ก็อบลินหายไปกว่า 200 ตน

     ไอ้พวกนี้มันฆ่าก็อบลิน!

     ทว่า นักบวชชรากลับสับสนขึ้นไปอีกระดับ

     แล้วไอ้เอลฟ์เลเวลต่ำกว่า 11 พวกนี้มันโผล่มาจากไหนกัน?

     มันพยายามขบคิดเท่าที่สมองก็อบลินของมันจะอำนวย …

     แต่มันเค้นสมองไปเท่าไรก็ไม่ได้คำตอบ …

     มันจึงหยุดหาสาเหตุ และเลือกที่จะทำตามความปรารถนาที่ฝังลึกในใจของตนแทน

     “เอาเถอะ! องค์เทพแห่งเหมันต์และการล่า! ไม่ว่าพวกเอลฟ์จะมาจากแห่งหนใด พวกมันล้วนชะตาขาดเมื่อเจอข้า! จงกลายเป็นเครื่องสังเวยแด่พระบิดา เพื่อที่ข้าจะได้รับพรจากพระองค์!”

     มันเชื่ออย่างสุดใจว่าตนจะต้องได้รับการตอบแทนจากอูลร์ หากตนสามารถสังหารเอลฟ์พวกนี้ได้ 

     แม้เหล่าเอลฟ์จะเคยทรงอำนาจ ทว่าพวกมันต่างรักสงบ ทักษะในการต่อสู้ของเอลฟ์จึงด้อยกว่าคู่ต่อสู้ที่มีระดับใกล้เคียงกัน

     ในมุมมองของกูลู กลุ่ม ผู้ฝึกตน เผ่าเอลฟ์ที่ยังไม่แตะเลเวล 11 พวกนี้ ล้วนอ่อนแอกว่ากลุ่มก็อบลินเลเวล 10!

     มันตัวเดียวก็เกินพอหากจะต้องรับมือกับศัตรูที่อ่อนแอถึงเพียงนี้!

     ฮ่าฮ่า พวกเอลฟ์จะเริ่มหนีเมื่อมันบาดเจ็บ เผลอ ๆ อาจจะเผ่นตั้งแต่มันเห็นผีดิบ …

     กูลูคิดในเชิงหยามเหยียดพลางแกว่งไม้เท้า

     กระแสพลังสีม่วงเข้มถูกปลดปล่อยออกมาจากไม้เท้ากระดูก วินาทีนั้นพลันบังเกิดร่างกระดูกอีกโหลหนึ่ง …

     “ฆ่ามัน! อย่าปล่อยให้รอดแม้แต่ตัวเดียว!”

     กูลูบัญชา

     เมื่อได้ยินคำสั่งของนักบวช เหล่าอันเดดพร้อมใจกันแยกเขี้ยวยิงฟันก่อนจะถาโถมเข้าใส่เหล่าเอลฟ์พร้อมมีดกระดูกในมือ …

     “โฮ่ เวทอันเดดจริงด้วย!”

     ผู้เล่นที่เพิ่งมาถึงต่างพากันชะงักและลังเลอยู่ครู่หนึ่ง

     นักบวชก็อบลินรู้สึกภาคภูมิใจขึ้นไปอีกขั้น เมื่อเห็นสีหน้าและแววตาของเหล่าผู้เล่นที่เบิกกว้างด้วยความตกใจ

     หึหึหึ …

     กลัวใช่ไหม?

     รูปร่างหน้าตาของเหล่าโครงกระดูกดูสยดสยองเป็นอย่างยิ่ง แถมเหล่าโหงพรายที่มันเสกออกมาล้วนมีมนตร์วิเศษแฝงอยู่ คือลมหายใจมรณะที่สามารถกัดกร่อนไปถึงดวงวิญญาณของผู้อ่อนแอ!

     ไม่มีสิ่งมีชีวิตตนใดที่ไม่หวาดกลัวกองทัพของมัน!

     นี่คือพลังแห่งความตาย พลังของผู้เชี่ยวชาญไสยเวทมรณะ! 

     เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังที่พลุ่งพล่านในไม้เท้า กูลูยิ่งดูคลุ้มคลั่งขึ้นทุกขณะ …

     จงหวาดหวั่น!

     จงหนี!

     จงสำราญไปกับการถูกล่าโดยผีดิบ!

     ทว่าเหล่าเอลฟ์กลับพูดบางสิ่งที่ทำให้มันสับสนเล็กน้อย

     “บ้าจริง … เหมือนจริงเว่อร์ … เกือบทำตูกลัวแล้ว …”

     “คาดหวังได้กับเกมที่บอกว่าสมจริงร้อยเปอร์ สเปเชียลเอฟเฟคเวทอันเดดคืออย่างเจ๋ง!”

     “โครงกระดูกเท่มากอ่ะ!”

     พวกเอลฟ์ล้วนตื่นเต้นกับเหตุการณ์ตรงหน้า ไม่มีเอลฟ์ตนใดแสดงความหวาดกลัวออกมาแม้แต่น้อย

     พวกมัน … ไม่กลัวเรอะ?

     วิญญาณของมันไม่โดนกัดกร่อนเรอะ?

     กูลูตื่นตะลึง

     ทว่ามันกลับรู้สึกดูถูกเหยียดหยามเอลฟ์เหล่านี้อีกครั้ง

     หึหึหึ …

     พวกมันไม่รู้พิษสงของไสยเวทแห่งความตาย ไม่รู้ตัวว่ากำลังโดนกัดกร่อน

     ช่างเป็นพวกผู้ฝึกตนที่อ่อนต่อโลกยิ่งนัก

     พวกมันช่างไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพลังนี้

     พวกมันจะได้สัมผัสกองทัพแห่งโหงพรายที่แท้จริง! 

     แล้วพวกมันจะได้รู้ว่าอะไรที่สยดสยองยิ่งกว่าความตาย!

     เมื่อคิดได้ดังกล่าว กูลูเหวี่ยงไม้เท้าอีกครั้งพร้อมเร่งพลังขึ้นสู่ระดับสูงสุด …

     ในวินาทีนั้น พลันปรากฏโครงกระดูกอีกโหลหนึ่ง

     โหงพรายในผืนป่ามีจำนวนมหาศาล พวกมันปล่อยคลื่นวิญญาณที่เข้มข้นอย่างยิ่งยวด จนอุณหภูมิรอบข้างดิ่งลงอย่างรวดเร็ว

     นักบวชก็อบลินรู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่งเมื่อได้สัมผัสพลังไสยเวทแห่งความตาย

     มันต้องการจะแสดงความต่างชั้นให้เหล่าผู้ฝึกตนได้เห็น!

     “เฮ้ย! มันเสกอันเดดเพิ่มอีกแล้ว!”

     “รีบประเมินพลังมันเร็ว!”

     “บอสเวล 11 ส่วนกระดูกเวล 10!”

     “พวกกระดูกมันปกป้องบอสไว้ ลองตีมอนให้หมดก่อน! กวาดมันให้หมด!”

     “สายกายภาพลุยโลด นักเวทเน้นซัพพอร์ทจากแนวหลัง!”

     “ทีมนึงต่อกระดูกสองตัว! ส่วนทีมเลเวล 10 ให้หาโอกาสตีบอส! หาจุดอ่อนมัน จำรูปแบบการโจมตีมัน! อย่าให้มันเสกเพิ่ม!”

     “ถ้าใครพลาดตาย ช่วยวิ่งตรงดิ่งจากจุดเกิดมาเลย!”

     เหล่าเอลฟ์ต่างพูดในสิ่งที่กูลูไม่เข้าใจ และเริ่มมีท่าทีแปลก ๆ 

     สิ่งเหล่านี้สร้างความประหลาดใจให้มันเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีเอลฟ์ตนใดเลือกที่จะหลบหนี ในทางกลับกันพวกมันกลับดูยิ่งตื่นเต้นเป็นเท่าทวี

     เหล่าเอลฟ์ต่างพากันแกว่งไกวมีดพร้อมพุ่งเข้าปะทะกองทัพของกูลู!

     สองฝ่ายโถมกำลังโรมรันฆ่าฟันกัน ของเหลวสีเข้มสาดกระจ่ายไปทุกหนทุกแห่ง

     อันเดดเลเวล 10 มีพลังที่น่าสะพรึงกลัว แม้ผู้เล่นจะผ่านการฝึกฝนมาจำนวนหนึ่ง ทว่าพวกเขากลับไม่ใช่คู่มือของมัน เพียงพริบตาเดียวผู้เล่นกลุ่มแรกล้วนบาดเจ็บสาหัสและทยอยล้มลงเนื่องจากการโจมตีอันโหดเหี้ยมของเหล่าอันเดด

     กูลูมองอย่างเหยียดหยามเมื่อเห็นเอลฟ์บาดเจ็บล้มตายกันในเวลาอันสั้น

     หึหึหึ ไอ้พวกโง่ที่คิดจะสู้กับผีดิบด้วยร่างกาย 

     มันคาดว่าจะเห็นเหล่าเอลฟ์ตื่นตระหนกและเริ่มถอยหนี

     จำนวนประชากรของเอลฟ์เรียกได้ว่าอยู่ในสภาวะวิกฤติ กูลูคิดว่าพวกมันคงไม่สามารถนิ่งเฉยและปล่อยให้เกิดการสังหารหมู่ได้!

     มันเชื่อว่าถ้าเอลฟ์บางตนได้ตายลง เอลฟ์ที่เหลือก็จะเริ่มหาทางหลบหนี

     ทว่า … บางสิ่งที่เกินจินตนาการของมันพลันบังเกิด

     พวกเอลฟ์ที่บาดเจ็บจนนอนกองกับพื้นในช่วงก่อนหน้านี้ต่างพยายามยืนขึ้นมาอีกครั้ง สีหน้าพวกมันยิ่งดูตื่นเต้น พวกมันเมินแผลฉกรรจ์และโลหิตที่ไหลท่วมทั่วร่าง

     โดยเฉพาะเอลฟ์ตัวผู้ พวกมันจะดูบ้าเลือดเป็นพิเศษ  

     เหล่าเอลฟ์พากันเหวี่ยงอาวุธราวกับไม่ได้กำลังบาดเจ็บ พวกมันโห่ร้องและฟาดฟันเหล่าโครงกระดูกอย่างต่อเนื่อง

     กูลูไม่มีระบบของเกมที่จะช่วยบรรเทาภาพอันหวาดเสียวตรงหน้า

     มันเห็นเอลฟ์ขาขาดที่ไม่ยอมล่าถอย ในทางกลับกัน เอลฟ์พวกนั้นกลับกระโจนตัวหรือคลานลากร่างกายบนพื้นเพื่อกระหน่ำแทงซ้ำ ๆ ด้วยมีดไม้ในมือ

     มันเห็นเอลฟ์บางตนที่แขนกระจุยจากเวทมนตร์ของพวกเดียวกัน ทว่าเอลฟ์ตนนั้นกลับทำเพียงหันหลังไปสบถ “ไอ้บ้า ยิงแม่น ๆ ดิโว้ย!” แล้วหันกลับมาพุ่งเข้าตะลุมบอนอีกครั้ง …

     มันเห็นผีดิบกระซวกเข้าที่ช่องท้องของเอลฟ์ตนหนึ่ง บาดแผลเปิดกว้างจนทำให้อวัยวะภายในไหลออกมากองนอกร่างกาย ทว่าเอลฟ์ตนนั้นกลับหัวเราะอย่างห้าวหาญพลางสู้กับเหล่าอันเดดราวกับไม่รู้ว่าตนได้รับบาดเจ็บ … 

     พวกเอลฟ์ฟาดฟันด้วยมีดไม้อย่างบ้าคลั่ง โดยไม่สนใจแรงกายที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจากอาการบาดเจ็บของตน

     เอลฟ์ที่ควรจะเจ็บเจียนตายกลับรื่นเริงและเปี่ยมสุข พวกมันบางตนอาจจะกล่าวประโยคที่เกินคาดอย่าง “บ้าจริง ตูกำลังจะตาย!” ก่อนจะตาเหลือกแล้วสิ้นลมไปทั้ง ๆ แบบนั้น 

     ในทางเดียวกัน พวกมันไม่สนใจการบาดเจ็บล้มตายของพวกพ้องเลยแม้แต่น้อย ไม่มีตนใดโศกเศร้า ราวกับพวกมันทั้งหมดมองทุกสรรพชีวิตเป็นศัตรู

     นอกจากนี้ เอลฟ์บางตนยังหยิบฉวยอาวุธของสหายรบที่ตายไปแล้วด้วยความละโมภ …

     กูลูตื่นตะลึงเมื่อเห็นภาพตรงหน้า

     อ … ไอ้พวกเอลฟ์กลุ่มนี้มันเป็นบ้าอะไรกัน?

     พวกมันไม่เจ็บ?

     พวกมันไม่มีความรู้สึก?

     พวกมัน … ไม่กลัวตาย?

     ไม่ … พวกมันไม่กลัวที่จะต้องตายเลยสักนิด …

     กูลูเห็นเอลฟ์บางตนโห่ร้องลั่น ก่อนจะกระโจนใส่มีดกระดูกของผีดิบโดยตรง เอลฟ์ตนนั้นถูกใบมีดเสียบทะลุหัวใจ ทว่ามันกลับกอดโครงกระดูกไว้แน่นพร้อมกระอักเลือดคำโต มันยังไม่วายตะโกนสนทนากับพวกพ้องด้วยความตื่นเต้น

     “ตูจับมันไว้แล้ว ใช้โอกาสนี้ฆ่ามันเร็วเข้า!”

     กูลูสะพรึงเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ร่างของมันสั่นเทาพลางพึมพำ

     “บ้าไปแล้ว …”

     “พวกมันบ้าไปแล้ว …”

     “เอลฟ์พวกนี้มันบ้าไปแล้ว!!”

 _ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

      T/N: โก- โก– โกววว—–!

     ระดับพลังของเรื่องนี้นะคะ อ้างอิงตอนแรก ๆ ได้เลยค่ะ

     1. ผู้ฝึกตน (ก่อนเลเวล 11)

     2. ยอดฝีมือ (หลังเลเวล 11)

     – เหล็ก

     – เงิน 

     – ทอง

     3. เลเจนด์

     4. กึ่งเทพ 

     5. ในตำนาน / เทพ (ทั้งเทพที่เกิดจากพลังศรัทธา – เทพดั้งเดิม หรือที่เรียกว่าเทพโบราณ)

ตอนต่อไปประมาณจันทร์ที่ 13.02.2023 เวลา 16:30 น. หรืออาจจะไวกว่านั้นนิดหน่อยค่ะ

      ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ 

      Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] Game of the World Tree 34 เอลฟ์คลั่ง

Now you are reading [นิยายแปล] Game of the World Tree Chapter 34 เอลฟ์คลั่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

     เอลฟ์จำนวนมากในชุดผ้าลินินต่างถาโถมเข้ามาจากทุกสารทิศพร้อมเสียงตะโกนอันดังก้อง พวกเขาแกว่งไกวมีดและไม้เท้าที่ทำจากไม้เข้าปะทะกับฝูงอันเดด

     กูลูตะลึงพรึงเพริดกับเสียงโห่ร้องแห่งความตื่นเต้น

     มันเงยหน้าขึ้นมาและร้องด้วยความตกใจเมื่อเห็นร่างสูงที่ตนคุ้นเคย

     “เอลฟ์?”

     องค์พระบิดา! เหตุใดในป่าจึงมีเจ้าพวกหูยาวจำนวนมากขนาดนี้?!

     ไม่ใช่ว่าพวกมันตายไปหมดแล้วเหรอ?

     กูลูลอบรู้สึกอยากถอยหนีขึ้นมา

     ความคิดดังกล่าวเกิดขึ้นมาจากคำกล่าวขานเกี่ยวกับพวกเอลฟ์ในพันปีที่แล้ว เอลฟ์โดยทั่วไปจะมีพลังอยู่ในระดับเหล็กหรือสูงกว่านั้น

     ต่อหน้าเอลฟ์ยอดฝีมือระดับเหล็ก กูลูก็ไม่ต่างอะไรกับก็อบลินตัวน้อย แม้มันจะเป็นนักบวชผู้ครอบครองไสยเวทมรณะ แต่มันคงไม่สามารถต้านทานกำลังเอลฟ์นับร้อยตนได้

     “หืม? … มีบางสิ่งไม่ถูกไม่ควร”

     กูลูพลันนึกถึงบางสิ่ง

     หากมีเอลฟ์ที่ทรงพลังหลงเหลืออยู่จำนวนมากจริง ๆ … เกรงว่าเหล่าก็อบลินคงถูกขับไล่ออกจากโบราณสถานไปนานแสนนานแล้ว

     คิดได้ดังว่า มันจึงพิจารณาเหล่าเอลฟ์พวกนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ซึ่งทำให้มันเบาใจไปได้อีกหลายขุม …

     เอลฟ์ฝูงนี้ไม่ได้อยู่ในระดับ ยอดฝีมือ ด้วยซ้ำ! 

     ในวินาทีนั้น กูลูเข้าใจถึงสาเหตุที่ก็อบลินหายไปกว่า 200 ตน

     ไอ้พวกนี้มันฆ่าก็อบลิน!

     ทว่า นักบวชชรากลับสับสนขึ้นไปอีกระดับ

     แล้วไอ้เอลฟ์เลเวลต่ำกว่า 11 พวกนี้มันโผล่มาจากไหนกัน?

     มันพยายามขบคิดเท่าที่สมองก็อบลินของมันจะอำนวย …

     แต่มันเค้นสมองไปเท่าไรก็ไม่ได้คำตอบ …

     มันจึงหยุดหาสาเหตุ และเลือกที่จะทำตามความปรารถนาที่ฝังลึกในใจของตนแทน

     “เอาเถอะ! องค์เทพแห่งเหมันต์และการล่า! ไม่ว่าพวกเอลฟ์จะมาจากแห่งหนใด พวกมันล้วนชะตาขาดเมื่อเจอข้า! จงกลายเป็นเครื่องสังเวยแด่พระบิดา เพื่อที่ข้าจะได้รับพรจากพระองค์!”

     มันเชื่ออย่างสุดใจว่าตนจะต้องได้รับการตอบแทนจากอูลร์ หากตนสามารถสังหารเอลฟ์พวกนี้ได้ 

     แม้เหล่าเอลฟ์จะเคยทรงอำนาจ ทว่าพวกมันต่างรักสงบ ทักษะในการต่อสู้ของเอลฟ์จึงด้อยกว่าคู่ต่อสู้ที่มีระดับใกล้เคียงกัน

     ในมุมมองของกูลู กลุ่ม ผู้ฝึกตน เผ่าเอลฟ์ที่ยังไม่แตะเลเวล 11 พวกนี้ ล้วนอ่อนแอกว่ากลุ่มก็อบลินเลเวล 10!

     มันตัวเดียวก็เกินพอหากจะต้องรับมือกับศัตรูที่อ่อนแอถึงเพียงนี้!

     ฮ่าฮ่า พวกเอลฟ์จะเริ่มหนีเมื่อมันบาดเจ็บ เผลอ ๆ อาจจะเผ่นตั้งแต่มันเห็นผีดิบ …

     กูลูคิดในเชิงหยามเหยียดพลางแกว่งไม้เท้า

     กระแสพลังสีม่วงเข้มถูกปลดปล่อยออกมาจากไม้เท้ากระดูก วินาทีนั้นพลันบังเกิดร่างกระดูกอีกโหลหนึ่ง …

     “ฆ่ามัน! อย่าปล่อยให้รอดแม้แต่ตัวเดียว!”

     กูลูบัญชา

     เมื่อได้ยินคำสั่งของนักบวช เหล่าอันเดดพร้อมใจกันแยกเขี้ยวยิงฟันก่อนจะถาโถมเข้าใส่เหล่าเอลฟ์พร้อมมีดกระดูกในมือ …

     “โฮ่ เวทอันเดดจริงด้วย!”

     ผู้เล่นที่เพิ่งมาถึงต่างพากันชะงักและลังเลอยู่ครู่หนึ่ง

     นักบวชก็อบลินรู้สึกภาคภูมิใจขึ้นไปอีกขั้น เมื่อเห็นสีหน้าและแววตาของเหล่าผู้เล่นที่เบิกกว้างด้วยความตกใจ

     หึหึหึ …

     กลัวใช่ไหม?

     รูปร่างหน้าตาของเหล่าโครงกระดูกดูสยดสยองเป็นอย่างยิ่ง แถมเหล่าโหงพรายที่มันเสกออกมาล้วนมีมนตร์วิเศษแฝงอยู่ คือลมหายใจมรณะที่สามารถกัดกร่อนไปถึงดวงวิญญาณของผู้อ่อนแอ!

     ไม่มีสิ่งมีชีวิตตนใดที่ไม่หวาดกลัวกองทัพของมัน!

     นี่คือพลังแห่งความตาย พลังของผู้เชี่ยวชาญไสยเวทมรณะ! 

     เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังที่พลุ่งพล่านในไม้เท้า กูลูยิ่งดูคลุ้มคลั่งขึ้นทุกขณะ …

     จงหวาดหวั่น!

     จงหนี!

     จงสำราญไปกับการถูกล่าโดยผีดิบ!

     ทว่าเหล่าเอลฟ์กลับพูดบางสิ่งที่ทำให้มันสับสนเล็กน้อย

     “บ้าจริง … เหมือนจริงเว่อร์ … เกือบทำตูกลัวแล้ว …”

     “คาดหวังได้กับเกมที่บอกว่าสมจริงร้อยเปอร์ สเปเชียลเอฟเฟคเวทอันเดดคืออย่างเจ๋ง!”

     “โครงกระดูกเท่มากอ่ะ!”

     พวกเอลฟ์ล้วนตื่นเต้นกับเหตุการณ์ตรงหน้า ไม่มีเอลฟ์ตนใดแสดงความหวาดกลัวออกมาแม้แต่น้อย

     พวกมัน … ไม่กลัวเรอะ?

     วิญญาณของมันไม่โดนกัดกร่อนเรอะ?

     กูลูตื่นตะลึง

     ทว่ามันกลับรู้สึกดูถูกเหยียดหยามเอลฟ์เหล่านี้อีกครั้ง

     หึหึหึ …

     พวกมันไม่รู้พิษสงของไสยเวทแห่งความตาย ไม่รู้ตัวว่ากำลังโดนกัดกร่อน

     ช่างเป็นพวกผู้ฝึกตนที่อ่อนต่อโลกยิ่งนัก

     พวกมันช่างไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพลังนี้

     พวกมันจะได้สัมผัสกองทัพแห่งโหงพรายที่แท้จริง! 

     แล้วพวกมันจะได้รู้ว่าอะไรที่สยดสยองยิ่งกว่าความตาย!

     เมื่อคิดได้ดังกล่าว กูลูเหวี่ยงไม้เท้าอีกครั้งพร้อมเร่งพลังขึ้นสู่ระดับสูงสุด …

     ในวินาทีนั้น พลันปรากฏโครงกระดูกอีกโหลหนึ่ง

     โหงพรายในผืนป่ามีจำนวนมหาศาล พวกมันปล่อยคลื่นวิญญาณที่เข้มข้นอย่างยิ่งยวด จนอุณหภูมิรอบข้างดิ่งลงอย่างรวดเร็ว

     นักบวชก็อบลินรู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่งเมื่อได้สัมผัสพลังไสยเวทแห่งความตาย

     มันต้องการจะแสดงความต่างชั้นให้เหล่าผู้ฝึกตนได้เห็น!

     “เฮ้ย! มันเสกอันเดดเพิ่มอีกแล้ว!”

     “รีบประเมินพลังมันเร็ว!”

     “บอสเวล 11 ส่วนกระดูกเวล 10!”

     “พวกกระดูกมันปกป้องบอสไว้ ลองตีมอนให้หมดก่อน! กวาดมันให้หมด!”

     “สายกายภาพลุยโลด นักเวทเน้นซัพพอร์ทจากแนวหลัง!”

     “ทีมนึงต่อกระดูกสองตัว! ส่วนทีมเลเวล 10 ให้หาโอกาสตีบอส! หาจุดอ่อนมัน จำรูปแบบการโจมตีมัน! อย่าให้มันเสกเพิ่ม!”

     “ถ้าใครพลาดตาย ช่วยวิ่งตรงดิ่งจากจุดเกิดมาเลย!”

     เหล่าเอลฟ์ต่างพูดในสิ่งที่กูลูไม่เข้าใจ และเริ่มมีท่าทีแปลก ๆ 

     สิ่งเหล่านี้สร้างความประหลาดใจให้มันเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีเอลฟ์ตนใดเลือกที่จะหลบหนี ในทางกลับกันพวกมันกลับดูยิ่งตื่นเต้นเป็นเท่าทวี

     เหล่าเอลฟ์ต่างพากันแกว่งไกวมีดพร้อมพุ่งเข้าปะทะกองทัพของกูลู!

     สองฝ่ายโถมกำลังโรมรันฆ่าฟันกัน ของเหลวสีเข้มสาดกระจ่ายไปทุกหนทุกแห่ง

     อันเดดเลเวล 10 มีพลังที่น่าสะพรึงกลัว แม้ผู้เล่นจะผ่านการฝึกฝนมาจำนวนหนึ่ง ทว่าพวกเขากลับไม่ใช่คู่มือของมัน เพียงพริบตาเดียวผู้เล่นกลุ่มแรกล้วนบาดเจ็บสาหัสและทยอยล้มลงเนื่องจากการโจมตีอันโหดเหี้ยมของเหล่าอันเดด

     กูลูมองอย่างเหยียดหยามเมื่อเห็นเอลฟ์บาดเจ็บล้มตายกันในเวลาอันสั้น

     หึหึหึ ไอ้พวกโง่ที่คิดจะสู้กับผีดิบด้วยร่างกาย 

     มันคาดว่าจะเห็นเหล่าเอลฟ์ตื่นตระหนกและเริ่มถอยหนี

     จำนวนประชากรของเอลฟ์เรียกได้ว่าอยู่ในสภาวะวิกฤติ กูลูคิดว่าพวกมันคงไม่สามารถนิ่งเฉยและปล่อยให้เกิดการสังหารหมู่ได้!

     มันเชื่อว่าถ้าเอลฟ์บางตนได้ตายลง เอลฟ์ที่เหลือก็จะเริ่มหาทางหลบหนี

     ทว่า … บางสิ่งที่เกินจินตนาการของมันพลันบังเกิด

     พวกเอลฟ์ที่บาดเจ็บจนนอนกองกับพื้นในช่วงก่อนหน้านี้ต่างพยายามยืนขึ้นมาอีกครั้ง สีหน้าพวกมันยิ่งดูตื่นเต้น พวกมันเมินแผลฉกรรจ์และโลหิตที่ไหลท่วมทั่วร่าง

     โดยเฉพาะเอลฟ์ตัวผู้ พวกมันจะดูบ้าเลือดเป็นพิเศษ  

     เหล่าเอลฟ์พากันเหวี่ยงอาวุธราวกับไม่ได้กำลังบาดเจ็บ พวกมันโห่ร้องและฟาดฟันเหล่าโครงกระดูกอย่างต่อเนื่อง

     กูลูไม่มีระบบของเกมที่จะช่วยบรรเทาภาพอันหวาดเสียวตรงหน้า

     มันเห็นเอลฟ์ขาขาดที่ไม่ยอมล่าถอย ในทางกลับกัน เอลฟ์พวกนั้นกลับกระโจนตัวหรือคลานลากร่างกายบนพื้นเพื่อกระหน่ำแทงซ้ำ ๆ ด้วยมีดไม้ในมือ

     มันเห็นเอลฟ์บางตนที่แขนกระจุยจากเวทมนตร์ของพวกเดียวกัน ทว่าเอลฟ์ตนนั้นกลับทำเพียงหันหลังไปสบถ “ไอ้บ้า ยิงแม่น ๆ ดิโว้ย!” แล้วหันกลับมาพุ่งเข้าตะลุมบอนอีกครั้ง …

     มันเห็นผีดิบกระซวกเข้าที่ช่องท้องของเอลฟ์ตนหนึ่ง บาดแผลเปิดกว้างจนทำให้อวัยวะภายในไหลออกมากองนอกร่างกาย ทว่าเอลฟ์ตนนั้นกลับหัวเราะอย่างห้าวหาญพลางสู้กับเหล่าอันเดดราวกับไม่รู้ว่าตนได้รับบาดเจ็บ … 

     พวกเอลฟ์ฟาดฟันด้วยมีดไม้อย่างบ้าคลั่ง โดยไม่สนใจแรงกายที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจากอาการบาดเจ็บของตน

     เอลฟ์ที่ควรจะเจ็บเจียนตายกลับรื่นเริงและเปี่ยมสุข พวกมันบางตนอาจจะกล่าวประโยคที่เกินคาดอย่าง “บ้าจริง ตูกำลังจะตาย!” ก่อนจะตาเหลือกแล้วสิ้นลมไปทั้ง ๆ แบบนั้น 

     ในทางเดียวกัน พวกมันไม่สนใจการบาดเจ็บล้มตายของพวกพ้องเลยแม้แต่น้อย ไม่มีตนใดโศกเศร้า ราวกับพวกมันทั้งหมดมองทุกสรรพชีวิตเป็นศัตรู

     นอกจากนี้ เอลฟ์บางตนยังหยิบฉวยอาวุธของสหายรบที่ตายไปแล้วด้วยความละโมภ …

     กูลูตื่นตะลึงเมื่อเห็นภาพตรงหน้า

     อ … ไอ้พวกเอลฟ์กลุ่มนี้มันเป็นบ้าอะไรกัน?

     พวกมันไม่เจ็บ?

     พวกมันไม่มีความรู้สึก?

     พวกมัน … ไม่กลัวตาย?

     ไม่ … พวกมันไม่กลัวที่จะต้องตายเลยสักนิด …

     กูลูเห็นเอลฟ์บางตนโห่ร้องลั่น ก่อนจะกระโจนใส่มีดกระดูกของผีดิบโดยตรง เอลฟ์ตนนั้นถูกใบมีดเสียบทะลุหัวใจ ทว่ามันกลับกอดโครงกระดูกไว้แน่นพร้อมกระอักเลือดคำโต มันยังไม่วายตะโกนสนทนากับพวกพ้องด้วยความตื่นเต้น

     “ตูจับมันไว้แล้ว ใช้โอกาสนี้ฆ่ามันเร็วเข้า!”

     กูลูสะพรึงเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ร่างของมันสั่นเทาพลางพึมพำ

     “บ้าไปแล้ว …”

     “พวกมันบ้าไปแล้ว …”

     “เอลฟ์พวกนี้มันบ้าไปแล้ว!!”

 _ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

      T/N: โก- โก– โกววว—–!

     ระดับพลังของเรื่องนี้นะคะ อ้างอิงตอนแรก ๆ ได้เลยค่ะ

     1. ผู้ฝึกตน (ก่อนเลเวล 11)

     2. ยอดฝีมือ (หลังเลเวล 11)

     – เหล็ก

     – เงิน 

     – ทอง

     3. เลเจนด์

     4. กึ่งเทพ 

     5. ในตำนาน / เทพ (ทั้งเทพที่เกิดจากพลังศรัทธา – เทพดั้งเดิม หรือที่เรียกว่าเทพโบราณ)

ตอนต่อไปประมาณจันทร์ที่ 13.02.2023 เวลา 16:30 น. หรืออาจจะไวกว่านั้นนิดหน่อยค่ะ

      ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ 

      Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] Game of the World Tree 34 เอลฟ์คลั่ง

Now you are reading [นิยายแปล] Game of the World Tree Chapter 34 เอลฟ์คลั่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

     เอลฟ์จำนวนมากในชุดผ้าลินินต่างถาโถมเข้ามาจากทุกสารทิศพร้อมเสียงตะโกนอันดังก้อง พวกเขาแกว่งไกวมีดและไม้เท้าที่ทำจากไม้เข้าปะทะกับฝูงอันเดด

     กูลูตะลึงพรึงเพริดกับเสียงโห่ร้องแห่งความตื่นเต้น

     มันเงยหน้าขึ้นมาและร้องด้วยความตกใจเมื่อเห็นร่างสูงที่ตนคุ้นเคย

     “เอลฟ์?”

     องค์พระบิดา! เหตุใดในป่าจึงมีเจ้าพวกหูยาวจำนวนมากขนาดนี้?!

     ไม่ใช่ว่าพวกมันตายไปหมดแล้วเหรอ?

     กูลูลอบรู้สึกอยากถอยหนีขึ้นมา

     ความคิดดังกล่าวเกิดขึ้นมาจากคำกล่าวขานเกี่ยวกับพวกเอลฟ์ในพันปีที่แล้ว เอลฟ์โดยทั่วไปจะมีพลังอยู่ในระดับเหล็กหรือสูงกว่านั้น

     ต่อหน้าเอลฟ์ยอดฝีมือระดับเหล็ก กูลูก็ไม่ต่างอะไรกับก็อบลินตัวน้อย แม้มันจะเป็นนักบวชผู้ครอบครองไสยเวทมรณะ แต่มันคงไม่สามารถต้านทานกำลังเอลฟ์นับร้อยตนได้

     “หืม? … มีบางสิ่งไม่ถูกไม่ควร”

     กูลูพลันนึกถึงบางสิ่ง

     หากมีเอลฟ์ที่ทรงพลังหลงเหลืออยู่จำนวนมากจริง ๆ … เกรงว่าเหล่าก็อบลินคงถูกขับไล่ออกจากโบราณสถานไปนานแสนนานแล้ว

     คิดได้ดังว่า มันจึงพิจารณาเหล่าเอลฟ์พวกนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ซึ่งทำให้มันเบาใจไปได้อีกหลายขุม …

     เอลฟ์ฝูงนี้ไม่ได้อยู่ในระดับ ยอดฝีมือ ด้วยซ้ำ! 

     ในวินาทีนั้น กูลูเข้าใจถึงสาเหตุที่ก็อบลินหายไปกว่า 200 ตน

     ไอ้พวกนี้มันฆ่าก็อบลิน!

     ทว่า นักบวชชรากลับสับสนขึ้นไปอีกระดับ

     แล้วไอ้เอลฟ์เลเวลต่ำกว่า 11 พวกนี้มันโผล่มาจากไหนกัน?

     มันพยายามขบคิดเท่าที่สมองก็อบลินของมันจะอำนวย …

     แต่มันเค้นสมองไปเท่าไรก็ไม่ได้คำตอบ …

     มันจึงหยุดหาสาเหตุ และเลือกที่จะทำตามความปรารถนาที่ฝังลึกในใจของตนแทน

     “เอาเถอะ! องค์เทพแห่งเหมันต์และการล่า! ไม่ว่าพวกเอลฟ์จะมาจากแห่งหนใด พวกมันล้วนชะตาขาดเมื่อเจอข้า! จงกลายเป็นเครื่องสังเวยแด่พระบิดา เพื่อที่ข้าจะได้รับพรจากพระองค์!”

     มันเชื่ออย่างสุดใจว่าตนจะต้องได้รับการตอบแทนจากอูลร์ หากตนสามารถสังหารเอลฟ์พวกนี้ได้ 

     แม้เหล่าเอลฟ์จะเคยทรงอำนาจ ทว่าพวกมันต่างรักสงบ ทักษะในการต่อสู้ของเอลฟ์จึงด้อยกว่าคู่ต่อสู้ที่มีระดับใกล้เคียงกัน

     ในมุมมองของกูลู กลุ่ม ผู้ฝึกตน เผ่าเอลฟ์ที่ยังไม่แตะเลเวล 11 พวกนี้ ล้วนอ่อนแอกว่ากลุ่มก็อบลินเลเวล 10!

     มันตัวเดียวก็เกินพอหากจะต้องรับมือกับศัตรูที่อ่อนแอถึงเพียงนี้!

     ฮ่าฮ่า พวกเอลฟ์จะเริ่มหนีเมื่อมันบาดเจ็บ เผลอ ๆ อาจจะเผ่นตั้งแต่มันเห็นผีดิบ …

     กูลูคิดในเชิงหยามเหยียดพลางแกว่งไม้เท้า

     กระแสพลังสีม่วงเข้มถูกปลดปล่อยออกมาจากไม้เท้ากระดูก วินาทีนั้นพลันบังเกิดร่างกระดูกอีกโหลหนึ่ง …

     “ฆ่ามัน! อย่าปล่อยให้รอดแม้แต่ตัวเดียว!”

     กูลูบัญชา

     เมื่อได้ยินคำสั่งของนักบวช เหล่าอันเดดพร้อมใจกันแยกเขี้ยวยิงฟันก่อนจะถาโถมเข้าใส่เหล่าเอลฟ์พร้อมมีดกระดูกในมือ …

     “โฮ่ เวทอันเดดจริงด้วย!”

     ผู้เล่นที่เพิ่งมาถึงต่างพากันชะงักและลังเลอยู่ครู่หนึ่ง

     นักบวชก็อบลินรู้สึกภาคภูมิใจขึ้นไปอีกขั้น เมื่อเห็นสีหน้าและแววตาของเหล่าผู้เล่นที่เบิกกว้างด้วยความตกใจ

     หึหึหึ …

     กลัวใช่ไหม?

     รูปร่างหน้าตาของเหล่าโครงกระดูกดูสยดสยองเป็นอย่างยิ่ง แถมเหล่าโหงพรายที่มันเสกออกมาล้วนมีมนตร์วิเศษแฝงอยู่ คือลมหายใจมรณะที่สามารถกัดกร่อนไปถึงดวงวิญญาณของผู้อ่อนแอ!

     ไม่มีสิ่งมีชีวิตตนใดที่ไม่หวาดกลัวกองทัพของมัน!

     นี่คือพลังแห่งความตาย พลังของผู้เชี่ยวชาญไสยเวทมรณะ! 

     เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังที่พลุ่งพล่านในไม้เท้า กูลูยิ่งดูคลุ้มคลั่งขึ้นทุกขณะ …

     จงหวาดหวั่น!

     จงหนี!

     จงสำราญไปกับการถูกล่าโดยผีดิบ!

     ทว่าเหล่าเอลฟ์กลับพูดบางสิ่งที่ทำให้มันสับสนเล็กน้อย

     “บ้าจริง … เหมือนจริงเว่อร์ … เกือบทำตูกลัวแล้ว …”

     “คาดหวังได้กับเกมที่บอกว่าสมจริงร้อยเปอร์ สเปเชียลเอฟเฟคเวทอันเดดคืออย่างเจ๋ง!”

     “โครงกระดูกเท่มากอ่ะ!”

     พวกเอลฟ์ล้วนตื่นเต้นกับเหตุการณ์ตรงหน้า ไม่มีเอลฟ์ตนใดแสดงความหวาดกลัวออกมาแม้แต่น้อย

     พวกมัน … ไม่กลัวเรอะ?

     วิญญาณของมันไม่โดนกัดกร่อนเรอะ?

     กูลูตื่นตะลึง

     ทว่ามันกลับรู้สึกดูถูกเหยียดหยามเอลฟ์เหล่านี้อีกครั้ง

     หึหึหึ …

     พวกมันไม่รู้พิษสงของไสยเวทแห่งความตาย ไม่รู้ตัวว่ากำลังโดนกัดกร่อน

     ช่างเป็นพวกผู้ฝึกตนที่อ่อนต่อโลกยิ่งนัก

     พวกมันช่างไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพลังนี้

     พวกมันจะได้สัมผัสกองทัพแห่งโหงพรายที่แท้จริง! 

     แล้วพวกมันจะได้รู้ว่าอะไรที่สยดสยองยิ่งกว่าความตาย!

     เมื่อคิดได้ดังกล่าว กูลูเหวี่ยงไม้เท้าอีกครั้งพร้อมเร่งพลังขึ้นสู่ระดับสูงสุด …

     ในวินาทีนั้น พลันปรากฏโครงกระดูกอีกโหลหนึ่ง

     โหงพรายในผืนป่ามีจำนวนมหาศาล พวกมันปล่อยคลื่นวิญญาณที่เข้มข้นอย่างยิ่งยวด จนอุณหภูมิรอบข้างดิ่งลงอย่างรวดเร็ว

     นักบวชก็อบลินรู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่งเมื่อได้สัมผัสพลังไสยเวทแห่งความตาย

     มันต้องการจะแสดงความต่างชั้นให้เหล่าผู้ฝึกตนได้เห็น!

     “เฮ้ย! มันเสกอันเดดเพิ่มอีกแล้ว!”

     “รีบประเมินพลังมันเร็ว!”

     “บอสเวล 11 ส่วนกระดูกเวล 10!”

     “พวกกระดูกมันปกป้องบอสไว้ ลองตีมอนให้หมดก่อน! กวาดมันให้หมด!”

     “สายกายภาพลุยโลด นักเวทเน้นซัพพอร์ทจากแนวหลัง!”

     “ทีมนึงต่อกระดูกสองตัว! ส่วนทีมเลเวล 10 ให้หาโอกาสตีบอส! หาจุดอ่อนมัน จำรูปแบบการโจมตีมัน! อย่าให้มันเสกเพิ่ม!”

     “ถ้าใครพลาดตาย ช่วยวิ่งตรงดิ่งจากจุดเกิดมาเลย!”

     เหล่าเอลฟ์ต่างพูดในสิ่งที่กูลูไม่เข้าใจ และเริ่มมีท่าทีแปลก ๆ 

     สิ่งเหล่านี้สร้างความประหลาดใจให้มันเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีเอลฟ์ตนใดเลือกที่จะหลบหนี ในทางกลับกันพวกมันกลับดูยิ่งตื่นเต้นเป็นเท่าทวี

     เหล่าเอลฟ์ต่างพากันแกว่งไกวมีดพร้อมพุ่งเข้าปะทะกองทัพของกูลู!

     สองฝ่ายโถมกำลังโรมรันฆ่าฟันกัน ของเหลวสีเข้มสาดกระจ่ายไปทุกหนทุกแห่ง

     อันเดดเลเวล 10 มีพลังที่น่าสะพรึงกลัว แม้ผู้เล่นจะผ่านการฝึกฝนมาจำนวนหนึ่ง ทว่าพวกเขากลับไม่ใช่คู่มือของมัน เพียงพริบตาเดียวผู้เล่นกลุ่มแรกล้วนบาดเจ็บสาหัสและทยอยล้มลงเนื่องจากการโจมตีอันโหดเหี้ยมของเหล่าอันเดด

     กูลูมองอย่างเหยียดหยามเมื่อเห็นเอลฟ์บาดเจ็บล้มตายกันในเวลาอันสั้น

     หึหึหึ ไอ้พวกโง่ที่คิดจะสู้กับผีดิบด้วยร่างกาย 

     มันคาดว่าจะเห็นเหล่าเอลฟ์ตื่นตระหนกและเริ่มถอยหนี

     จำนวนประชากรของเอลฟ์เรียกได้ว่าอยู่ในสภาวะวิกฤติ กูลูคิดว่าพวกมันคงไม่สามารถนิ่งเฉยและปล่อยให้เกิดการสังหารหมู่ได้!

     มันเชื่อว่าถ้าเอลฟ์บางตนได้ตายลง เอลฟ์ที่เหลือก็จะเริ่มหาทางหลบหนี

     ทว่า … บางสิ่งที่เกินจินตนาการของมันพลันบังเกิด

     พวกเอลฟ์ที่บาดเจ็บจนนอนกองกับพื้นในช่วงก่อนหน้านี้ต่างพยายามยืนขึ้นมาอีกครั้ง สีหน้าพวกมันยิ่งดูตื่นเต้น พวกมันเมินแผลฉกรรจ์และโลหิตที่ไหลท่วมทั่วร่าง

     โดยเฉพาะเอลฟ์ตัวผู้ พวกมันจะดูบ้าเลือดเป็นพิเศษ  

     เหล่าเอลฟ์พากันเหวี่ยงอาวุธราวกับไม่ได้กำลังบาดเจ็บ พวกมันโห่ร้องและฟาดฟันเหล่าโครงกระดูกอย่างต่อเนื่อง

     กูลูไม่มีระบบของเกมที่จะช่วยบรรเทาภาพอันหวาดเสียวตรงหน้า

     มันเห็นเอลฟ์ขาขาดที่ไม่ยอมล่าถอย ในทางกลับกัน เอลฟ์พวกนั้นกลับกระโจนตัวหรือคลานลากร่างกายบนพื้นเพื่อกระหน่ำแทงซ้ำ ๆ ด้วยมีดไม้ในมือ

     มันเห็นเอลฟ์บางตนที่แขนกระจุยจากเวทมนตร์ของพวกเดียวกัน ทว่าเอลฟ์ตนนั้นกลับทำเพียงหันหลังไปสบถ “ไอ้บ้า ยิงแม่น ๆ ดิโว้ย!” แล้วหันกลับมาพุ่งเข้าตะลุมบอนอีกครั้ง …

     มันเห็นผีดิบกระซวกเข้าที่ช่องท้องของเอลฟ์ตนหนึ่ง บาดแผลเปิดกว้างจนทำให้อวัยวะภายในไหลออกมากองนอกร่างกาย ทว่าเอลฟ์ตนนั้นกลับหัวเราะอย่างห้าวหาญพลางสู้กับเหล่าอันเดดราวกับไม่รู้ว่าตนได้รับบาดเจ็บ … 

     พวกเอลฟ์ฟาดฟันด้วยมีดไม้อย่างบ้าคลั่ง โดยไม่สนใจแรงกายที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจากอาการบาดเจ็บของตน

     เอลฟ์ที่ควรจะเจ็บเจียนตายกลับรื่นเริงและเปี่ยมสุข พวกมันบางตนอาจจะกล่าวประโยคที่เกินคาดอย่าง “บ้าจริง ตูกำลังจะตาย!” ก่อนจะตาเหลือกแล้วสิ้นลมไปทั้ง ๆ แบบนั้น 

     ในทางเดียวกัน พวกมันไม่สนใจการบาดเจ็บล้มตายของพวกพ้องเลยแม้แต่น้อย ไม่มีตนใดโศกเศร้า ราวกับพวกมันทั้งหมดมองทุกสรรพชีวิตเป็นศัตรู

     นอกจากนี้ เอลฟ์บางตนยังหยิบฉวยอาวุธของสหายรบที่ตายไปแล้วด้วยความละโมภ …

     กูลูตื่นตะลึงเมื่อเห็นภาพตรงหน้า

     อ … ไอ้พวกเอลฟ์กลุ่มนี้มันเป็นบ้าอะไรกัน?

     พวกมันไม่เจ็บ?

     พวกมันไม่มีความรู้สึก?

     พวกมัน … ไม่กลัวตาย?

     ไม่ … พวกมันไม่กลัวที่จะต้องตายเลยสักนิด …

     กูลูเห็นเอลฟ์บางตนโห่ร้องลั่น ก่อนจะกระโจนใส่มีดกระดูกของผีดิบโดยตรง เอลฟ์ตนนั้นถูกใบมีดเสียบทะลุหัวใจ ทว่ามันกลับกอดโครงกระดูกไว้แน่นพร้อมกระอักเลือดคำโต มันยังไม่วายตะโกนสนทนากับพวกพ้องด้วยความตื่นเต้น

     “ตูจับมันไว้แล้ว ใช้โอกาสนี้ฆ่ามันเร็วเข้า!”

     กูลูสะพรึงเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ร่างของมันสั่นเทาพลางพึมพำ

     “บ้าไปแล้ว …”

     “พวกมันบ้าไปแล้ว …”

     “เอลฟ์พวกนี้มันบ้าไปแล้ว!!”

 _ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

      T/N: โก- โก– โกววว—–!

     ระดับพลังของเรื่องนี้นะคะ อ้างอิงตอนแรก ๆ ได้เลยค่ะ

     1. ผู้ฝึกตน (ก่อนเลเวล 11)

     2. ยอดฝีมือ (หลังเลเวล 11)

     – เหล็ก

     – เงิน 

     – ทอง

     3. เลเจนด์

     4. กึ่งเทพ 

     5. ในตำนาน / เทพ (ทั้งเทพที่เกิดจากพลังศรัทธา – เทพดั้งเดิม หรือที่เรียกว่าเทพโบราณ)

ตอนต่อไปประมาณจันทร์ที่ 13.02.2023 เวลา 16:30 น. หรืออาจจะไวกว่านั้นนิดหน่อยค่ะ

      ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ 

      Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+