[นิยายแปล] Game of the World Tree 96 ล้างบาง

Now you are reading [นิยายแปล] Game of the World Tree Chapter 96 ล้างบาง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

     ร่างของมังกรดำพุ่งหลาวลงกระแทกพื้น พร้อมประกายแสงจากพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ค่อย ๆ จางหายไป และในที่สุด ทุกอย่างก็กลับคืนสู่ความสงบ

     ราวกับปาฏิหาริย์เมื่อครู่นี้ไม่เคยเกิดขึ้น…

     และในเวลาเดียวกัน ผู้เล่นทุกคนก็ได้รับข้อความใหม่จากระบบอีกครั้ง

     ปุกิ๊ง—-!

     [ท่านคุ้มกันเอลฟ์เผ่าเฟลมสำเร็จ 181 ตน โปรดนำพวกเขาไปสู่ฟลอเรนซ์เพื่อสิ้นสุดภารกิจ โดยระบบจะมอบรางวัลตามผลงานรายบุคคล และจำนวนเอลฟ์ถูกที่พากลับมาได้]

     ปุกิ๊ง—-!

     [ท่านค้นพบภารกิจรอง: นำมังกรดำที่ถูกจับ กลับไปสู่เมืองเริ่มต้น]

     [รางวัลภารกิจ: แต้มผลงาน 50 หน่วย]

     “มังกรดำที่ถูกจับ?”

     ดวงตาของเหล่าผู้เล่นเป็นประกาย ทุกคนมองไปที่ไมเรลซึ่งนอนแผ่อยู่บนพื้น ซึ่งถูกพันธนาการไว้โดยพลังศักดิ์สิทธิ์ที่แปลงสภาพเป็นเชือก

     เมื่อเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นของพวกเอลฟ์ ไมเรลก็แทบจะสิ้นใจตายจากความอับอายและความโกรธ

     มันพยายามร้องโวยวาย แต่เชือกที่พันปากของมันไว้ทำให้มันทำได้เพียงส่งเสียงในลำคอซ้ำไปซ้ำมาเท่านั้น…

     “เทพธิดาอย่างโหด! มังกรดำกลายเป็นแหนมเลย!”

     “แม่ก็คือแม่—!”

     เหล่าผู้เล่นต่างอุทานพลางเดินเข้ามาข้าง ๆ ไมเรลอย่างตื่นเต้น

     ไม่มีผู้เล่นคนใดสนใจสายตาแสนเศร้าโศกของมังกรดำ บ้างก็เอื้อมมือสัมผัสเกล็ดด้วยความอยากรู้อยากเห็น บ้างก็หามุมถ่ายรูปอยู่ข้าง ๆ อย่างตื่นเต้น

     “มังกรดำนี่โคตรเจ๋งเลยฮะ!”

     “เกล็ดแข็งเวอร์เลยค่ะ!

     “มาถ่ายรูปหมู่เร็ว!”

     “รอเดี๋ยว… ขอหนูเซลฟี่แปป—!”  

     .

     .

     ໒(⊙ᴗ⊙)७

     ไมเรล: “…”

     และในเวลาเดียวกัน เสียงที่แว่วมาเป็นระยะก็ทำให้มังกรดำสั่นกลัว

     “อยากรู้จังว่าเกล็ดนี้เอาไปทำโล่ได้ไหม ดูแกร่งเหมาะกับการใช้รับแรงการปะทะมากค่ะ…”

     “จำเรื่องเลือดมังกรในนิยายได้ปะ ที่แบบ… ดื่มเข้าไปแล้วได้พลังมหาศาล ผมล่ะสงสัยจริง ๆ ว่าในนี้จะเป็นแบบนั้นไหม?

     “ว่าแต่… มีวิธีจับมันมาฝึกแล้วใช้เป็นพาหนะปะ? โอยนักรบมังกร… แค่คิดก็เท่แล้ว!”

     ไมเรล: “…”

     มังกรดำครางเสียงต่ำออกมา พลางจ้องไปที่ เผ่าชั่วร้าย อย่างเจ็บปวดรวดร้าว

     เผ่าเจ้าเล่ห์แสนโหดร้าย!

     จะชั่วร้ายเกินไปแล้ว!

     ไอ้หูยาวพวกนี้จะป่าเถื่อนเกินไปแล้ว!

     ไม่ใช่แค่จะเอาเกล็ดของท่านไมเรล แต่เลือดของท่านก็โดนพวกมันเล็งไว้ แถมเหิมเกริมถึงขั้นจะใช้ท่านไมเรลเป็นพาหนะ!!

     โอ้สวรรค์! หรือชีวิตมังกรของท่านไมเรลจะต้องจบลงวันนี้?!

     ท่านไมเรลยังไม่ได้เป็นมังกรผู้ยิ่งใหญ่เหนือผู้ใดใต้ผืนนภา ท่านไม่เรลไม่ยอม! ไม่ยอม—!!

     ฮึก

     อนาคตของท่านไมเรล…

     ระหว่างกำลังนอนคิดซ้ำไปซ้ำมาด้วยความรันทด หยาดน้ำตาเม็ดโตพลันเอ่อล้นออกมาจากขอบตาของมัน

     “เฮ้ย! มันร้องไห้?!”

     “ไอ้มังกรดำตัวนี้ใจเสาะเวอร์ ว่ามะ?”

     “ว้าย ๆ ร้องไห้ล่ะ!”

     ไมเรล: “…”

     มันเบือนหน้าหนี หลับตาลง ก่อนจะออกอาการกระฟัดกระเฟียดจนหายใจหอบ และแกล้งตายไปทั้ง ๆ แบบนั้น

     …

 

     เหล่าเอลฟ์เผ่าเฟลมโห่ร้องแสดงความยินดีเมื่อรับรู้ว่าศึกครั้งนี้ได้จบลงแล้ว 

     ทว่าเพียงครู่เดียว บรรยากาศของความยินดีก็ถูกความเศร้าโศกเข้าปกคลุม

     เพราะการฝ่าจากวงล้อมของทัพออร์คครั้งนี้ มีเอลฟ์จำนวนมากต้องจบชีวิตลง

     เหล่าสมาชิกเผ่าที่เหลือรอดต่างรวบรวมร่างของผู้เสียชีวิตจากการปะทะ และเตรียมที่จะฌาปนกิจร่างเหล่านี้ด้วยเพลิงเวทมนตร์ก่อนออกเดินทาง

     เพราะที่นี่คือป่าเอลฟ์

     ตามธรรมเนียมของเหล่าเอลฟ์ หลังจากการฌาปนกิจ เถ้าธุลีจะกระจัดกระจายไปในป่าเอลฟ์ ซึ่งหมายถึงการกลับคืนสู่ต้นกำเนิด และดวงวิญญาณจะไปได้สู่อาณาจักรแห่งเทพของพระมารดา…

     ทว่าในยามที่พวกเขารวบรวมร่างผู้เสียชีวิต เหล่าเอลฟ์ก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าเอลฟ์หนุ่มสาวที่เสียชีวิตในสนามรบ ล้วนอันตรธานไปอย่างไร้ร่องรอย…

     ยิ่งไปกว่านั้น บรรดาหนุ่มสาวผู้รอดชีวิต กลับดูไม่ยี่หระกับการสูญเสียพวกพ้องเลยแม้แต่น้อย

     ในทางกลับกัน พวกเขากลับดูลิงโลดอย่างยิ่ง

     แม้จะมีเอลฟ์จำนวนหนึ่งที่ทำหน้าเศร้า แต่ก็ดูเหมือนว่าอารมณ์ที่แท้จริงของพวกเขากับสิ่งที่แสดงออกมา… จะไม่ได้สอดคล้องกัน

     สีหน้าของพวกเขาในยามนี้ เหมือนกับคนที่กำลังข่มอารมณ์จริง ๆ ของตนไว้…  

     เหล่าสมาชิกเผ่าเฟลมต่างรู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติ แต่พวกเขาไม่สามารถระบุออกมาได้ว่าคือเรื่องใด 

     และก่อนที่จะทันได้ถามอะไรออกไป บรรดาผู้เล่นก็วิ่งแจ้นมาร่วมไว้อาลัยให้กับเอลฟ์ชราด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า ทำให้เผ่าเฟลมได้แต่เก็บความคิดของตนเอาไว้ในใจ

     …

 

     ในอีกด้านหนึ่ง หลังจากที่ร่างกายฟื้นเต็มที่ อัลก็ เตรียมที่จะไล่ตามกลุ่มออร์คที่หนีไปอีกครั้ง

     แม้ว่าเหล่าออร์คต่างหนีไปไกลแล้วในช่วงเวลาที่พลังของพระมารดาได้จุติลงมา แต่อัลก็ยังอดรู้สึกกังวลไม่ได้

     แต่ในจังหวะที่กำลังจะพุ่งตัวตามพวกมันไป เสียงของพระมารดากลับดังขึ้นมาในห้วงจิตของเขา

     “เจ้าไม่จำเป็นต้องไล่ตามพวกมันไป”

     ไม่จำเป็น?

     อัลหยุดการเคลื่อนไหวของตนทันที

     เนื่องจากพระมารดากล่าวว่าไม่จำเป็น อัลจึงล้มเลิกความตั้งใจที่จะไล่ล่าเหล่าออร์ค

     หลังจากนั้น อัลได้เข้าไปช่วยเหลือเผ่าเฟลมรวบรวมร่างผู้เสียชีวิต ในขณะที่บรรดาผู้เล่นต่างช่วยเหล่าเอลฟ์รวบรวมตำราเก่าแก่ที่ถูกทิ้งไว้อย่างกระตือรือร้น และปิดท้ายด้วยการจัดการกับรางวัลชิ้นโตจากการปะทะ – มังกรดำไมเรล ผู้ซึ่งแกล้งตายมาจนถึงปัจจุบัน 

     และเมื่อจัดการธุระในพื้นที่เสร็จสิ้น พวกเขาก็เริ่มออกเดินทางกลับสู่ใจกลางป่า…

     …

 

     ในบริเวณชายป่า

     นักบวชออร์คที่รายล้อมไปด้วยออร์คผู้คุ้มกัน กำลังวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนสุดชีวิต… 

     การจัดกระบวนทัพเพื่อลอบโจมตีครั้งนี้ เผ่าถ้ำหินได้ส่งนักรบฝีมือฉกาจมามากกว่า 300 ชีวิต!

     ทว่าภายหลังการปรากฏตัวของกลุ่มเอลฟ์ผู้บ้าคลั่ง และนักดาบระดับเงินร่างเล็กตนนั้น กำลังรบของพวกมันก็ถูกสังหารไปจำนวนมาก

     นักรบที่หนีรอดมีเพียงแค่ร้อยกว่าชีวิตเท่านั้น!

     นอกจากนี้ สิ่งที่ทำให้นักบวชออร์คหวาดกลัวอย่างมาก… คือการที่มังกรดำไมเรล ยังคงไม่กลับมาจากสนามรบ!

     แม้ว่าในป่าด้านหลังจะไม่มีผู้ไดไล่ตามพวกมันมา แต่ข้อเท็จจริงที่มันตระหนักก็ทำให้นักบวชออร์คอกสั่นขวัญแขวนมากขึ้นเรื่อย ๆ 

     ใบของต้นไม้โลก… แค่พลังจากสิ่งนั้นคงไม่สามารถกักขังท่านไมเรลไว้ได้นานขนาดนี้ หรือว่าจะมี… ศัตรูที่น่ากลัวกว่าเดิมปรากฏตัวขึ้น?

     ข้าเพิ่งสัมผัสได้ถึงคลื่นความผันผวนจากบางสิ่งที่คล้ายกับพลังศักดิ์สิทธิ์… ถึงจะระบุรูปแบบของพลังไม่ได้ แต่ข้ามั่นใจว่าคลื่นพลังที่รุนแรงระดับนี้ต้องมาจากเทพอย่างแน่นอน!

     ยิ่งมันไตร่ตรองสถานการณ์ในปัจจุบันมากเท่าไร ความหวาดวิตกของมันก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น

     และในระหว่างที่นักบวชออร์คกำลังวิตก กำลังพลที่เคลื่อนตัวอยู่เบื้องหน้าของมันกลับหยุดชะงักลงด้วยบางสิ่ง…

     “เกิดอะไรขึ้น?”

     หัวใจของนักบวชออร์คพลันบีบรัด มันพยายามชะโงกมองพื้นที่เบื้องหน้า

     ไม่รู้ว่าว่าตั้งแต่เมื่อใด ที่ร่างบางร่างหนึ่งได้ปรากฏตัวขึ้นบริเวณทางออกของป่าเอลฟ์

     ทั่วทั้งร่างของเธอถูกปกคลุมโดยชุดยาวสีดำสนิท เรือนผมยาวสีเงินเข้มโผล่พ้นออกมาจากบริเวณผ้าคลุมศีรษะ ดวงตาสีแดงสดจับจ้องมาที่กลุ่มออร์คอย่างเงียบงัน 

     สีหน้าของสตรีปริศนาดูสงบนิ่ง แววตาของเธอดูไม่ต่างอะไรจากดวงตาของผู้ที่กำลังจ้องมองมดปลวก

     รูม่านตาของนักบวชออร์คหดเกร็งด้วยความตระหนก

     เพราะมันไม่สามารถรับรู้สภาวะการมีตัวตนของบุคคลตรงหน้าได้แม้แต่น้อย!

     สาเหตุของเรื่องนี้เป็นไปได้แค่สองทาง

     คือการที่อีกฝ่ายมีทักษะอันแข็งแกร่งในการอำพรางพลังของตน หรือ…. 

     พละกำลังของอีกฝ่ายอยู่เหนือจินตนาการของมันไปไกล!

     และในจังหวะที่นักบวชออร์คกำลังจะกล่าวบางสิ่ง แรงกดดันมหาศาลก็แผ่ออกมาจากร่างกายของอีกฝั่ง!

     เหล่าออร์คทั้งหมดในบริเวณชายป่าต่างตกตะลึงจนแทบสิ้นสติ เพราะแรงกดดันนี้เหนือกว่ามังกรดำไมเรลดั่งฟ้ากับเหว!

     ยอดฝีมือระดับสูง!

     ต้องเป็นยอดฝีมือระดับทองไม่ผิดแน่!

     นักบวชออร์คกรีดร้องลั่นอยู่ในใจ แต่ไม่มีเสียงใดเล็ดรอดออกมาจากปากของมัน

     และ…

     หญิงสาวลึกลับพลันเงยศีรษะขึ้น พร้อมกับพลังศักดิ์สิทธิ์แห่งความตายอันเย็นเยียบที่แผ่กระจายออกมาจากร่างของเธอ

     ร่างกายออร์คที่สัมผัสเข้ากับพลังอันเย็นเยียบพลันหยุดทำงาน พวกมันล้มลงสิ้นชีพราวกับหุ่นกระบอกที่สายเชิดถูกสะบั้นลง!

     เมื่อสัมผัสได้ถึงรูปแบบของพลังศักดิ์สิทธิ์ของบุคคลตรงหน้า นักบวชออร์คก็เบิกตากว้างอย่างตื่นตะลึง

     “ผ… ผู้ติดตามของเทพแห่งความตา…”

     ลมหายใจของมันหยุดลงโดยที่ยังไม่ทันได้กล่าวให้จบประโยค

     พร้อมกับร่างออร์คนับร้อย ๆ ตัว ที่ล้มลงกับพื้น

     ไม่มีผู้ใดหนีรอดไปได้แม้แต่ตัวเดียว

     ร่างบางโบกมือครั้งหนึ่ง บังเกิดเป็นคลื่นพลังแห่งชีวิตที่ถาโถมเข้ากลืนกินร่างของออร์คทั้งกองทัพ พัดพาพลังชีวิตของพวกมันที่ตกค้างอยู่ให้หายไปในชั่วพริบตา

     และรูปลักษณ์ของเธอก็เปลี่ยนแปลงไป กลายเป็นร่างของเทพธิดาแห่งธรรมชาติ อีฟ อิกดราซิล

     “ถ้าสังหารผู้คนจำนวนมากในดินแดนของเรา ก็จงอย่าคิดว่าจะหนีรอดไปได้”

     เธอทิ้งคำพูดไว้ประโยคหนึ่ง ก่อนที่ทั้งร่างของเธอจะกลายเป็นแสงสว่าง และค่อย ๆ จางหายไป

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

      T/N: ช่วงนี้ฟื้นจากโควิดแล้วค่ะ แต่งานประจำค้างเป็นภูเขา งานนอกก็อีกกองใหญ่ เฟทก็เพิ่งอัพเด— 

      ถั่วยังไม่เล่นเนื้อเรื่องค่ะ ตอนนี้ดองไว้ก่อน

      หลักสูตรการแกล้งตายของมังกรสี (เงิน)

      ไมเรล: ฮึ *ตาย*

      “ถ้าสังหารผู้คนจำนวนมากในดินแดนของเรา ก็จงอย่าคิดว่าจะหนีรอดไปได้!” 

      เธอทิ้งคำพูดที่คิดไว้ว่าเท่ประโยคหนึ่ง และสลายหายไป 

     หม้อแกงล่ะ!

     ʕ ꆤ ᴥ ꆤʔ  

     *มองพวกไม่ครบหน้าตู้ในหนึ่งแคปจอ*

 

     /ไม่ได้ลืมใครแน่นอนค่ะ!

     เปิดไว้ก่อนเพื่อกำลังใจ เดี๋ยวพอเคลียร์งานหมด (read: พ้นวิกฤติ) จะมีช่วงปั่นเนื้อเรื่องเฟทค่ะ!

     อ่านแปลไทยได้ที่ https://www.nekopost.net/novel/12413  

     ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ 

     Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432  

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] Game of the World Tree 96 ล้างบาง

Now you are reading [นิยายแปล] Game of the World Tree Chapter 96 ล้างบาง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

     ร่างของมังกรดำพุ่งหลาวลงกระแทกพื้น พร้อมประกายแสงจากพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ค่อย ๆ จางหายไป และในที่สุด ทุกอย่างก็กลับคืนสู่ความสงบ

     ราวกับปาฏิหาริย์เมื่อครู่นี้ไม่เคยเกิดขึ้น…

     และในเวลาเดียวกัน ผู้เล่นทุกคนก็ได้รับข้อความใหม่จากระบบอีกครั้ง

     ปุกิ๊ง—-!

     [ท่านคุ้มกันเอลฟ์เผ่าเฟลมสำเร็จ 181 ตน โปรดนำพวกเขาไปสู่ฟลอเรนซ์เพื่อสิ้นสุดภารกิจ โดยระบบจะมอบรางวัลตามผลงานรายบุคคล และจำนวนเอลฟ์ถูกที่พากลับมาได้]

     ปุกิ๊ง—-!

     [ท่านค้นพบภารกิจรอง: นำมังกรดำที่ถูกจับ กลับไปสู่เมืองเริ่มต้น]

     [รางวัลภารกิจ: แต้มผลงาน 50 หน่วย]

     “มังกรดำที่ถูกจับ?”

     ดวงตาของเหล่าผู้เล่นเป็นประกาย ทุกคนมองไปที่ไมเรลซึ่งนอนแผ่อยู่บนพื้น ซึ่งถูกพันธนาการไว้โดยพลังศักดิ์สิทธิ์ที่แปลงสภาพเป็นเชือก

     เมื่อเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นของพวกเอลฟ์ ไมเรลก็แทบจะสิ้นใจตายจากความอับอายและความโกรธ

     มันพยายามร้องโวยวาย แต่เชือกที่พันปากของมันไว้ทำให้มันทำได้เพียงส่งเสียงในลำคอซ้ำไปซ้ำมาเท่านั้น…

     “เทพธิดาอย่างโหด! มังกรดำกลายเป็นแหนมเลย!”

     “แม่ก็คือแม่—!”

     เหล่าผู้เล่นต่างอุทานพลางเดินเข้ามาข้าง ๆ ไมเรลอย่างตื่นเต้น

     ไม่มีผู้เล่นคนใดสนใจสายตาแสนเศร้าโศกของมังกรดำ บ้างก็เอื้อมมือสัมผัสเกล็ดด้วยความอยากรู้อยากเห็น บ้างก็หามุมถ่ายรูปอยู่ข้าง ๆ อย่างตื่นเต้น

     “มังกรดำนี่โคตรเจ๋งเลยฮะ!”

     “เกล็ดแข็งเวอร์เลยค่ะ!

     “มาถ่ายรูปหมู่เร็ว!”

     “รอเดี๋ยว… ขอหนูเซลฟี่แปป—!”  

     .

     .

     ໒(⊙ᴗ⊙)७

     ไมเรล: “…”

     และในเวลาเดียวกัน เสียงที่แว่วมาเป็นระยะก็ทำให้มังกรดำสั่นกลัว

     “อยากรู้จังว่าเกล็ดนี้เอาไปทำโล่ได้ไหม ดูแกร่งเหมาะกับการใช้รับแรงการปะทะมากค่ะ…”

     “จำเรื่องเลือดมังกรในนิยายได้ปะ ที่แบบ… ดื่มเข้าไปแล้วได้พลังมหาศาล ผมล่ะสงสัยจริง ๆ ว่าในนี้จะเป็นแบบนั้นไหม?

     “ว่าแต่… มีวิธีจับมันมาฝึกแล้วใช้เป็นพาหนะปะ? โอยนักรบมังกร… แค่คิดก็เท่แล้ว!”

     ไมเรล: “…”

     มังกรดำครางเสียงต่ำออกมา พลางจ้องไปที่ เผ่าชั่วร้าย อย่างเจ็บปวดรวดร้าว

     เผ่าเจ้าเล่ห์แสนโหดร้าย!

     จะชั่วร้ายเกินไปแล้ว!

     ไอ้หูยาวพวกนี้จะป่าเถื่อนเกินไปแล้ว!

     ไม่ใช่แค่จะเอาเกล็ดของท่านไมเรล แต่เลือดของท่านก็โดนพวกมันเล็งไว้ แถมเหิมเกริมถึงขั้นจะใช้ท่านไมเรลเป็นพาหนะ!!

     โอ้สวรรค์! หรือชีวิตมังกรของท่านไมเรลจะต้องจบลงวันนี้?!

     ท่านไมเรลยังไม่ได้เป็นมังกรผู้ยิ่งใหญ่เหนือผู้ใดใต้ผืนนภา ท่านไม่เรลไม่ยอม! ไม่ยอม—!!

     ฮึก

     อนาคตของท่านไมเรล…

     ระหว่างกำลังนอนคิดซ้ำไปซ้ำมาด้วยความรันทด หยาดน้ำตาเม็ดโตพลันเอ่อล้นออกมาจากขอบตาของมัน

     “เฮ้ย! มันร้องไห้?!”

     “ไอ้มังกรดำตัวนี้ใจเสาะเวอร์ ว่ามะ?”

     “ว้าย ๆ ร้องไห้ล่ะ!”

     ไมเรล: “…”

     มันเบือนหน้าหนี หลับตาลง ก่อนจะออกอาการกระฟัดกระเฟียดจนหายใจหอบ และแกล้งตายไปทั้ง ๆ แบบนั้น

     …

 

     เหล่าเอลฟ์เผ่าเฟลมโห่ร้องแสดงความยินดีเมื่อรับรู้ว่าศึกครั้งนี้ได้จบลงแล้ว 

     ทว่าเพียงครู่เดียว บรรยากาศของความยินดีก็ถูกความเศร้าโศกเข้าปกคลุม

     เพราะการฝ่าจากวงล้อมของทัพออร์คครั้งนี้ มีเอลฟ์จำนวนมากต้องจบชีวิตลง

     เหล่าสมาชิกเผ่าที่เหลือรอดต่างรวบรวมร่างของผู้เสียชีวิตจากการปะทะ และเตรียมที่จะฌาปนกิจร่างเหล่านี้ด้วยเพลิงเวทมนตร์ก่อนออกเดินทาง

     เพราะที่นี่คือป่าเอลฟ์

     ตามธรรมเนียมของเหล่าเอลฟ์ หลังจากการฌาปนกิจ เถ้าธุลีจะกระจัดกระจายไปในป่าเอลฟ์ ซึ่งหมายถึงการกลับคืนสู่ต้นกำเนิด และดวงวิญญาณจะไปได้สู่อาณาจักรแห่งเทพของพระมารดา…

     ทว่าในยามที่พวกเขารวบรวมร่างผู้เสียชีวิต เหล่าเอลฟ์ก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าเอลฟ์หนุ่มสาวที่เสียชีวิตในสนามรบ ล้วนอันตรธานไปอย่างไร้ร่องรอย…

     ยิ่งไปกว่านั้น บรรดาหนุ่มสาวผู้รอดชีวิต กลับดูไม่ยี่หระกับการสูญเสียพวกพ้องเลยแม้แต่น้อย

     ในทางกลับกัน พวกเขากลับดูลิงโลดอย่างยิ่ง

     แม้จะมีเอลฟ์จำนวนหนึ่งที่ทำหน้าเศร้า แต่ก็ดูเหมือนว่าอารมณ์ที่แท้จริงของพวกเขากับสิ่งที่แสดงออกมา… จะไม่ได้สอดคล้องกัน

     สีหน้าของพวกเขาในยามนี้ เหมือนกับคนที่กำลังข่มอารมณ์จริง ๆ ของตนไว้…  

     เหล่าสมาชิกเผ่าเฟลมต่างรู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติ แต่พวกเขาไม่สามารถระบุออกมาได้ว่าคือเรื่องใด 

     และก่อนที่จะทันได้ถามอะไรออกไป บรรดาผู้เล่นก็วิ่งแจ้นมาร่วมไว้อาลัยให้กับเอลฟ์ชราด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า ทำให้เผ่าเฟลมได้แต่เก็บความคิดของตนเอาไว้ในใจ

     …

 

     ในอีกด้านหนึ่ง หลังจากที่ร่างกายฟื้นเต็มที่ อัลก็ เตรียมที่จะไล่ตามกลุ่มออร์คที่หนีไปอีกครั้ง

     แม้ว่าเหล่าออร์คต่างหนีไปไกลแล้วในช่วงเวลาที่พลังของพระมารดาได้จุติลงมา แต่อัลก็ยังอดรู้สึกกังวลไม่ได้

     แต่ในจังหวะที่กำลังจะพุ่งตัวตามพวกมันไป เสียงของพระมารดากลับดังขึ้นมาในห้วงจิตของเขา

     “เจ้าไม่จำเป็นต้องไล่ตามพวกมันไป”

     ไม่จำเป็น?

     อัลหยุดการเคลื่อนไหวของตนทันที

     เนื่องจากพระมารดากล่าวว่าไม่จำเป็น อัลจึงล้มเลิกความตั้งใจที่จะไล่ล่าเหล่าออร์ค

     หลังจากนั้น อัลได้เข้าไปช่วยเหลือเผ่าเฟลมรวบรวมร่างผู้เสียชีวิต ในขณะที่บรรดาผู้เล่นต่างช่วยเหล่าเอลฟ์รวบรวมตำราเก่าแก่ที่ถูกทิ้งไว้อย่างกระตือรือร้น และปิดท้ายด้วยการจัดการกับรางวัลชิ้นโตจากการปะทะ – มังกรดำไมเรล ผู้ซึ่งแกล้งตายมาจนถึงปัจจุบัน 

     และเมื่อจัดการธุระในพื้นที่เสร็จสิ้น พวกเขาก็เริ่มออกเดินทางกลับสู่ใจกลางป่า…

     …

 

     ในบริเวณชายป่า

     นักบวชออร์คที่รายล้อมไปด้วยออร์คผู้คุ้มกัน กำลังวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนสุดชีวิต… 

     การจัดกระบวนทัพเพื่อลอบโจมตีครั้งนี้ เผ่าถ้ำหินได้ส่งนักรบฝีมือฉกาจมามากกว่า 300 ชีวิต!

     ทว่าภายหลังการปรากฏตัวของกลุ่มเอลฟ์ผู้บ้าคลั่ง และนักดาบระดับเงินร่างเล็กตนนั้น กำลังรบของพวกมันก็ถูกสังหารไปจำนวนมาก

     นักรบที่หนีรอดมีเพียงแค่ร้อยกว่าชีวิตเท่านั้น!

     นอกจากนี้ สิ่งที่ทำให้นักบวชออร์คหวาดกลัวอย่างมาก… คือการที่มังกรดำไมเรล ยังคงไม่กลับมาจากสนามรบ!

     แม้ว่าในป่าด้านหลังจะไม่มีผู้ไดไล่ตามพวกมันมา แต่ข้อเท็จจริงที่มันตระหนักก็ทำให้นักบวชออร์คอกสั่นขวัญแขวนมากขึ้นเรื่อย ๆ 

     ใบของต้นไม้โลก… แค่พลังจากสิ่งนั้นคงไม่สามารถกักขังท่านไมเรลไว้ได้นานขนาดนี้ หรือว่าจะมี… ศัตรูที่น่ากลัวกว่าเดิมปรากฏตัวขึ้น?

     ข้าเพิ่งสัมผัสได้ถึงคลื่นความผันผวนจากบางสิ่งที่คล้ายกับพลังศักดิ์สิทธิ์… ถึงจะระบุรูปแบบของพลังไม่ได้ แต่ข้ามั่นใจว่าคลื่นพลังที่รุนแรงระดับนี้ต้องมาจากเทพอย่างแน่นอน!

     ยิ่งมันไตร่ตรองสถานการณ์ในปัจจุบันมากเท่าไร ความหวาดวิตกของมันก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น

     และในระหว่างที่นักบวชออร์คกำลังวิตก กำลังพลที่เคลื่อนตัวอยู่เบื้องหน้าของมันกลับหยุดชะงักลงด้วยบางสิ่ง…

     “เกิดอะไรขึ้น?”

     หัวใจของนักบวชออร์คพลันบีบรัด มันพยายามชะโงกมองพื้นที่เบื้องหน้า

     ไม่รู้ว่าว่าตั้งแต่เมื่อใด ที่ร่างบางร่างหนึ่งได้ปรากฏตัวขึ้นบริเวณทางออกของป่าเอลฟ์

     ทั่วทั้งร่างของเธอถูกปกคลุมโดยชุดยาวสีดำสนิท เรือนผมยาวสีเงินเข้มโผล่พ้นออกมาจากบริเวณผ้าคลุมศีรษะ ดวงตาสีแดงสดจับจ้องมาที่กลุ่มออร์คอย่างเงียบงัน 

     สีหน้าของสตรีปริศนาดูสงบนิ่ง แววตาของเธอดูไม่ต่างอะไรจากดวงตาของผู้ที่กำลังจ้องมองมดปลวก

     รูม่านตาของนักบวชออร์คหดเกร็งด้วยความตระหนก

     เพราะมันไม่สามารถรับรู้สภาวะการมีตัวตนของบุคคลตรงหน้าได้แม้แต่น้อย!

     สาเหตุของเรื่องนี้เป็นไปได้แค่สองทาง

     คือการที่อีกฝ่ายมีทักษะอันแข็งแกร่งในการอำพรางพลังของตน หรือ…. 

     พละกำลังของอีกฝ่ายอยู่เหนือจินตนาการของมันไปไกล!

     และในจังหวะที่นักบวชออร์คกำลังจะกล่าวบางสิ่ง แรงกดดันมหาศาลก็แผ่ออกมาจากร่างกายของอีกฝั่ง!

     เหล่าออร์คทั้งหมดในบริเวณชายป่าต่างตกตะลึงจนแทบสิ้นสติ เพราะแรงกดดันนี้เหนือกว่ามังกรดำไมเรลดั่งฟ้ากับเหว!

     ยอดฝีมือระดับสูง!

     ต้องเป็นยอดฝีมือระดับทองไม่ผิดแน่!

     นักบวชออร์คกรีดร้องลั่นอยู่ในใจ แต่ไม่มีเสียงใดเล็ดรอดออกมาจากปากของมัน

     และ…

     หญิงสาวลึกลับพลันเงยศีรษะขึ้น พร้อมกับพลังศักดิ์สิทธิ์แห่งความตายอันเย็นเยียบที่แผ่กระจายออกมาจากร่างของเธอ

     ร่างกายออร์คที่สัมผัสเข้ากับพลังอันเย็นเยียบพลันหยุดทำงาน พวกมันล้มลงสิ้นชีพราวกับหุ่นกระบอกที่สายเชิดถูกสะบั้นลง!

     เมื่อสัมผัสได้ถึงรูปแบบของพลังศักดิ์สิทธิ์ของบุคคลตรงหน้า นักบวชออร์คก็เบิกตากว้างอย่างตื่นตะลึง

     “ผ… ผู้ติดตามของเทพแห่งความตา…”

     ลมหายใจของมันหยุดลงโดยที่ยังไม่ทันได้กล่าวให้จบประโยค

     พร้อมกับร่างออร์คนับร้อย ๆ ตัว ที่ล้มลงกับพื้น

     ไม่มีผู้ใดหนีรอดไปได้แม้แต่ตัวเดียว

     ร่างบางโบกมือครั้งหนึ่ง บังเกิดเป็นคลื่นพลังแห่งชีวิตที่ถาโถมเข้ากลืนกินร่างของออร์คทั้งกองทัพ พัดพาพลังชีวิตของพวกมันที่ตกค้างอยู่ให้หายไปในชั่วพริบตา

     และรูปลักษณ์ของเธอก็เปลี่ยนแปลงไป กลายเป็นร่างของเทพธิดาแห่งธรรมชาติ อีฟ อิกดราซิล

     “ถ้าสังหารผู้คนจำนวนมากในดินแดนของเรา ก็จงอย่าคิดว่าจะหนีรอดไปได้”

     เธอทิ้งคำพูดไว้ประโยคหนึ่ง ก่อนที่ทั้งร่างของเธอจะกลายเป็นแสงสว่าง และค่อย ๆ จางหายไป

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

      T/N: ช่วงนี้ฟื้นจากโควิดแล้วค่ะ แต่งานประจำค้างเป็นภูเขา งานนอกก็อีกกองใหญ่ เฟทก็เพิ่งอัพเด— 

      ถั่วยังไม่เล่นเนื้อเรื่องค่ะ ตอนนี้ดองไว้ก่อน

      หลักสูตรการแกล้งตายของมังกรสี (เงิน)

      ไมเรล: ฮึ *ตาย*

      “ถ้าสังหารผู้คนจำนวนมากในดินแดนของเรา ก็จงอย่าคิดว่าจะหนีรอดไปได้!” 

      เธอทิ้งคำพูดที่คิดไว้ว่าเท่ประโยคหนึ่ง และสลายหายไป 

     หม้อแกงล่ะ!

     ʕ ꆤ ᴥ ꆤʔ  

     *มองพวกไม่ครบหน้าตู้ในหนึ่งแคปจอ*

 

     /ไม่ได้ลืมใครแน่นอนค่ะ!

     เปิดไว้ก่อนเพื่อกำลังใจ เดี๋ยวพอเคลียร์งานหมด (read: พ้นวิกฤติ) จะมีช่วงปั่นเนื้อเรื่องเฟทค่ะ!

     อ่านแปลไทยได้ที่ https://www.nekopost.net/novel/12413  

     ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ 

     Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432  

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+