พลิกชะตา หมอเทวดาอันดับหนึ่งบทที่ 415 พบกันอีกครั้ง

Now you are reading พลิกชะตา หมอเทวดาอันดับหนึ่ง Chapter บทที่ 415 พบกันอีกครั้ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ช่วงเวลา​มืดมิด​ยาม​เกิด​สุริยุปราคา​นั้น​ไม่นาน​นัก​ ท่านชาย​ฉิน​สิบ​สามวิ่ง​ผ่าน​ห้องโถง​อัน​วุ่นวาย​ออก​ไป​ ท้องฟ้า​เริ่ม​สว่าง​แล้ว​ ยาม​ดวงอาทิตย์​ค่อยๆ​ ลอย​ขึ้น​ สายลม​ก็​ค่อยๆ​ จางหาย​ไป​

ผู้คน​ร้อง​ตะโกน​วิ่ง​พล่าน​อยู่​บน​ถนน​เหมือน​เช่นเคย​ ท่านชาย​ฉิน​สิบ​สามมอง​ไป​เห็น​รถม้า​ที่​แล่น​โคลงเคลง​ท่ามกลาง​ฝูงชน​

ปั้น​ฉิน​กด​กลั้น​ความกลัว​เอาไว้​ ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​เมื่อ​แสงของ​อาทิตย์​ตก​กระทบ​บน​ร่าง​อีกครั้ง​

“ดับไฟ​เถิด​” นาง​เอ่ย​

สีหน้า​ของ​ผู้ติดตาม​ที่​ถือ​ตะเกียง​ห้อมล้อม​ก็​ไม่ได้​สู้ดีกว่า​นาง​เท่าไร​นัก​

น่าสยดสยอง​เหลือเกิน​! น่าสยดสยอง​เหลือเกิน​!

นาย​หญิง​บอ​กว่า​วันนี้​มีสุริยุปราคา​ นาย​หญิง​บอ​กว่า​จะมืด​ครู่หนึ่ง​ นาย​หญิง​บอ​กว่า​หาก​กลัว​ก็​ให้​จุด​ตะเกียง​

แม้คำพูด​ของ​นาง​จะแม่นยำ​เสมอ​ และ​ทุกครั้ง​เป็นเรื่อง​ของ​มนุษย์​ แต่​ครั้งนี้​เป็นเรื่อง​ของ​สวรรค์​ รู้เรื่อง​ดินฟ้าอากาศ​นั้น​ยัง​พอ​เข้าใจ​ได้​ แต่​แต่​รู้​ว่า​เทียน​โก่​วจะ​มากลืน​กิน​ดวงอาทิตย์​นี่​สิ…

ทุกคน​ยังคง​กังวล​อยู่​ ทางการ​ประกาศ​ว่า​ปราก​ฎการณ์​สุริยุปราคา​สิ้นสุดลง​แล้ว​ ถึงจะไม่แม่นยำ​ก็ตาม​

พอ​เข้า​เมือง​มา ปั้น​ฉิน​ก็​เปิด​ผ้าม่าน​รถ​ขึ้น​ ทุกคน​คิด​ว่า​นาย​หญิง​ร้อน​ แต่​หลังจาก​เดินทาง​ไป​ได้​ครู่หนึ่ง​ นาย​หญิง​ที่​แหงน​มอง​ท้องฟ้า​แล้ว​ละสายตา​กลับ​

‘จุด​ตะเกียง​’ นาง​เอ่ย​

ผู้ติดตาม​ยังคง​มึนงง​ แต่​ท้องฟ้า​เริ่ม​เปลี่ยนสี​แล้ว​

เมื่อ​นึกถึง​ภาพ​และ​คำพูด​เหล่านั้น​ ผู้ติดตาม​ทั้งหลาย​ก็​ขนลุกซู่​อีกครั้ง​

ตะเกียง​ดับ​ลง​ มีคน​เบียด​เข้ามา​ ก่อน​จะใช้มือ​ยัน​แล้ว​พลิกตัว​ขึ้น​มานั่ง​

ปั้น​ฉิน​กรีดร้อง​ด้วย​ความตกใจ​ ผู้ติดตาม​ทั้งหลาย​ที่​ได้สติ​กลับคืน​มาก็​รีบ​ตั้ง​รับ​

“ข้า​เอง​” ท่านชาย​ฉิน​สิบ​สามเอ่ย​ขึ้น​ เหลียว​ไป​ยิ้ม​ให้​เฉิงเจียว​เหนียง​ใน​รถ​ แววตา​นั้น​ไม่อาจ​ปกปิด​ความดีใจ​ได้​เลย​สักนิด​

นับ​ดู​แล้วก็​จากกัน​นาน​ถึงสอง​ปี​กว่า​ แต่​ตาม​นี้​กลับ​รู้สึก​เหมือน​เพิ่ง​พบ​เจอ​ดัน​เมื่อวาน​นี้​ไม่ปาน​

แม้จะนึก​หน้า​ของ​นาง​ไม่ออก​บ้าง​ใน​บางครั้ง​ แต่​เมื่อ​ได้​พบ​เจอกัน​ ใบหน้า​กลับ​ชัดเจน​และ​คุ้นเคย​นัก​

ยาม​ไม่ได้​เจอ​หน้า​ ภาพ​นั้น​พร่ามัว​ราว​ดั่ง​เมฆหมอก​ปกคลุม​ภูเขา​ ครั้น​ได้​พบ​เจอ​ ภาพ​ก็​สว่างไสว​ราว​ดั่ง​เมฆสีแสงเรืองรอง​

“ท่านชาย​สิบ​สาม ข้า​ตกใจกลัว​แทบตาย​” ปั้น​ฉิน​พูด​ด้วย​ใบ​หน้าซีด​ขาว​

เข้า​เมืองหลวง​ครา​นี้​ช่างมีเรื่อง​ให้​ตกใจ​มากมาย​เหลือเกิน​

“พวก​เจ้านี่​ใช้ไม่ได้​เลย​ หาก​คนร้าย​มาจริงๆ​ นาย​หญิง​ของ​เจ้ามิตกอยู่ในอันตราย​ เพราะ​ความ​ประมาทเลินเล่อ​ของ​พวก​เจ้าหรอก​หรือ​” ท่านชาย​ฉิน​สิบ​สามมองหน้า​ผู้ติดตาม​แล้ว​ตำหนิ​

ผู้ติดตาม​ละอายใจ​

“เจ้าไม่เคย​ได้ยิน​หรือว่า​ ยอด​ฝีมือ​มัก​ลงมือ​ใน​ตอนท้าย​เสมอ​”

เสียง​หญิงสาว​ดัง​มาจาก​ด้านหลัง​

ท่านชาย​ฉิน​สิบ​สามหันหน้า​ไป​มอง​หญิงสาว​ที่​กำลัง​โบก​พัด​กลม​ ด้าม​พัด​ส่องแสง​ประกาย​ภายใต้​แสงแดด​จ้า

นาง​ไม่เคย​คิด​ว่าการ​ขอ​ความ​คุ้มครอง​จาก​ผู้ใด​จะเป็น​ทางเลือก​ของ​ตน​

ท่านชาย​ฉิน​สิบ​สามยิ้ม​ออกมา​อีกครั้ง​

“เจ้าอ่าน​ปฏิทิน​ของ​อะไร​” จู่ๆ เขา​ถามขึ้น​

“ปฏิทิน​หลิน​เต๋อ”​ เฉิงเจียว​เหนียง​ตอบ​

“เจ้าชอบ​อ่าน​ด้วย​หรือ​ ข้า​เคย​เรียน​อยู่​หลาย​วัน​ แต่​ยัง​ไม่ถึงขึ้น​คำนวณ​ได้​” ท่านชาย​ฉิน​สิบ​สามเอ่ย​ “ใน​เมื่อ​เจ้าเชี่ยวชาญ​ขนาด​เช่นนี้​ ก็​สอน​ข้า​ด้วย​เถิด​”

“เจ้าคำนวณ​ได้​หรือไม่​” เฉิงเจียว​เหนียง​ถาม “เจ้ารู้​วิชา​เทียน​หยวน​ หรือไม่​”

ท่านชาย​ฉิน​สิบ​สามตกตะลึง​

“อย่า​พูด​ถึงว่า​รู้​เลย​ ยัง​ไม่เคย​ได้ยิน​มาก่อน​ด้วยซ้ำ​ พึ่ง​เรียน​ไป​เพียง​เก้า​บท​” เขา​ยิ้มเจื่อน​ตอบ​

“การคำนวณ​ปฏิทิน​สังเกต​ดินฟ้าอากาศ​ ส่วนใหญ่​เป็น​หน้าที่​ของ​ซือ​เทียน​ไถ เป็นหลัก​ ท่านชาย​คง​ชำนาญ​ใน​คัมภีร์​ทั้ง​หก​ เรื่อง​การ​รบ​หรือ​การ​จัด​การคน​มากกว่า​สินะ​” เฉิงเจียว​เหนียง​เอ่ย​

ท่านชาย​ฉิน​สิบ​สามหัวเราะ​ลั่น​

“สู้พูด​มาตรงๆ​ ว่า​ข้า​เรียน​ไม่ได้​ยัง​ดี​เสีย​กว่า​” เขา​เอ่ย​

“ธรรมชาติ​มีกฎ​ จะเรียน​หรือไม่​เรียน​ก็​เหมือนกัน​” เฉิงเจียว​เหนียง​เอ่ย​

“พอแล้ว​ พอแล้ว​ ข้า​รู้​ว่า​ข้า​โง่เขลา​ เรียน​ไม่ได้​ เช่นนั้น​อย่าง​ได้​พูด​ต่อ​เลย​” ท่านชาย​ฉิน​สิบ​สามยิ้ม​เอ่ย​ “ไม่เจอกัน​เสีย​นาน​ แม่นาง​สบายดี​หรือไม่​”

“ก็ดี​ ท่านชาย​ฉิน​เป็น​อย่างไรบ้าง​” เฉิงเจียว​เหนียง​ถามกลับ​อย่าง​สุภาพ​

พอได้​พบกัน​ยาม​นี้​กลับ​ดู​ห่างเหิน​มากขึ้น​มาเสีย​อย่างนั้น​

“ไม่ได้​เจอกัน​มาหลาย​ปี​ แต่กลับ​บังเอิญ​เจอกัน​บน​ถนน​เช่นนี้​ ช่างมีบุญวาสนา​ต่อกัน​นัก​ ให้​ข้า​ส่งแม่นาง​กลับบ้าน​เถิด​” ท่านชาย​ฉิน​สิบ​สามเอ่ย​

ปั้น​ฉิน​หัวเราะ​ขึ้น​ทันที​พลาง​มอง​ไป​ยัง​ท่านชาย​ฉิน​สิบ​สามที่นั่ง​อยู่​ใน​รถ​

ตกลง​นี่​ใคร​ส่งใคร​กัน​แน่​

เฉิงเจียว​เหนียง​ก้มหัว​คำนับ​แล้ว​ยิ้ม​บาง​ รถม้า​ก็​แล่น​ออก​ไป​

พอ​เห็น​ท่านชาย​ฉิน​สิบ​สามที่นั่ง​พูดคุย​หยอกล้อ​อยู่​กับ​คนขับ​รถม้า​ แม่นาง​จูแห่ง​หอ​เต๋อเซิ่ง​เบน​สายตา​กลับมา​

“นาย​หญิง​อย่า​เสียใจ​ไป​เลย​เจ้าค่ะ​” ชุน​ห​ลิง​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​เอ่ย​ขึ้น​ใน​ทันใด​

แม่นาง​จูตกใจ​กับ​คำพูด​นั้น​แล้ว​หันไป​มอง​นาง​

ชุน​ห​ลิง​ก้มหน้า​ลง​อย่าง​ร้อนรน​

“เหตุใด​เจ้าถึงคิด​เช่นนั้น​” แม่นาง​จูเอ่ย​ “ชุน​ห​ลิง​ เจ้าคิด​เช่นนี้​ถือว่า​ผิด​มหันต์​ ลืมตัว​ว่า​ตน​เป็น​ผู้ใด​ คนเรา​หาก​ลืมตัว​แล้ว​ วันหน้า​ใช้ชีวิต​ลำบาก​เอา​”

“เจ้าค่ะ​ ข้า​ผิด​ไป​แล้ว​” ชุน​ห​ลิง​รีบ​เอ่ย​

แม่นาง​จูเหลือบมอง​นาง​ หันหลัง​แล้ว​เดิน​จากไป​โดย​ไม่พูด​อะไร​

ชุน​ห​ลิง​เงยหน้า​ขึ้น​เมื่อ​ได้ยิน​เสียง​ประตู​ปิด​ นาง​ไม่ได้​ตระหนก​เลย​แม้แต่น้อย​ มุมปาก​ยก​เหยียด​

“ลืมตัว​อะไร​กัน​” นาง​พูด​ “ก็​รู้​ว่า​ตัวเอง​สู้หน้า​คนอื่น​ไม่ได้​ เป็น​หงส์​ไม่ได้​ก็​เท่านั้น​”

นาง​พูด​จบ​ก็​มองออก​ไปนอก​หน้าต่าง​อีกครั้ง​ สุริยุปราคา​จางหาย​ไป​แล้ว​ บน​ถนน​ไม่ได้​วุ่นวาย​เหมือน​ก่อนหน้า​ ทั้ง​ยัง​ไม่เห็น​รถม้า​คัน​นั้น​แล้ว​

กลับมา​แล้ว​…

กลับมา​อีกครั้ง​แล้ว​จริงๆ​ ด้วย​…

กลับมา​พอ​ดีจริง​เชียว​!

ล้างแค้น​อย่างไร​ถึงเรียก​ว่า​ล่าง​แค้น​อย่าง​แท้จริง​น่ะ​หรือ​ นั่น​ก็​คือ​ให้​ศัตรู​ได้​เห็น​กับ​ตา​ ได้ยิน​ด้วย​สอง​หู​ และ​สัมผัส​ด้วยตัวเอง​ ไม่อย่างนั้น​ก็​เหมือน​ร้องเพลง​ให้​คน​หูหนวกตาบอด​ฟัง จะสนุก​ได้​อย่างไร​!

เนื่องจาก​วัน​สุริยุปราคา​ ชาว​เมืองหลวง​จึงโกลาหล​วุ่นวาย​ไป​หมด​ คน​กลุ่ม​หนึ่ง​เคลื่อน​ไป​บน​ถนน​อย่าง​เงียบเชียบ​ราวกับ​โคมไฟ​ที่​ประเดี๋ยว​ติด​ประเดี๋ยว​ดับ​

แม้ยืน​อยู่​นอก​ท้องพระโรง​ ก็​ได้ยิน​น้ำเสียง​อัน​เกรี้ยวโกรธ​ของ​ฮ่องเต้​อย่าง​ชัดเจน​

“… หาก​ฟ้าเปลี่ยนเป็น​หน้าที่​ของ​ข้า​ การ​สังเกตการณ์​การ​ดวงตะวัน​ ดวงจันทร์​ และ​ดวงดาว​บน​ฟ้าเป็น​หน้าที่​ของ​พวก​เจ้า เมื่อใด​ที่​ฟ้าเปลี่ยน​ข้า​ย่อม​มีราชกิจ​ต้อง​ทำ​ ดูแล​ราษฎร​ นี่​เป็น​ความผิด​ของ​ข้า​ แต่​พวก​เจ้าบอก​ข้า​สักหน่อย​ได้​หรือไม่​ว่า​ข้า​ผิด​อะไร​ ข้า​ทำผิด​หรือไม่​ พวก​เจ้าก็​ช่วย​ปฏิบัติหน้าที่​บ้าง​จะได้​หรือไม่​”

“…ฝ่าบาท​ โปรด​อย่า​ได้​ขุ่นเคือง​ ท้องฟ้า​ไม่กลัว​การเปลี่ยนแปลง​ ฝ่าบาท​อย่า​ได้​กังวล​เรื่อง​ราชกิจ​จน​ไม่มีความสุข​เลย​พะ​ย่ะ​ค่ะ​…”

เหล่า​ขุนนาง​ใหญ่​หลาย​คน​กลั้น​หัวเราะ​ไว้​ไม่อยู่​

“คน​พวก​นี้​ช่างกล้า​พูด​เสีย​จริง​” คน​หนึ่ง​กระซิบ​ “ไม่ว่า​เรื่อง​ใด​ก็​ไม่ใช่ความผิด​ของ​พวกเขา​ทั้งนั้น​หรือ​ ช่างหน้าด้าน​เสีย​จริง​”

“หาก​หน้า​ไม่ด้าน​จะอยู่​หอ​สังเกตการณ์​ได้​อย่างไร​” อีก​คน​หัวเราะ​และ​พูด​เสียง​เบา​ “อย่างไร​เสีย​ ให้​ฝ่าบาท​ดุด่า​พวกเขา​เสร็จ​ พวกเขา​ก็​ทำตัว​เช่น​เดิม​…”

แล้ว​จะให้​ทำ​อย่างไรเล่า​ ลงโทษ​คน​พวก​นี้​อย่างนั้น​หรือ​ ด้วย​สาเหตุ​อะไร​ คาดการณ์​วัน​สุริยุปราคา​ไม่ได้​อย่างนั้น​หรือ​ ก็​จะมีคน​อ้างว่า​เรื่อง​ของ​สวรรค์​ไม่สามารถ​คาดเดา​ได้​ ยิ่ง​วัน​ใน​จะเกิด​สุริยุปราคา​แล้ว​ ยิ่ง​ไม่สมเหตุสมผล​เพราะ​ถือเป็น​ภัยธรรมชาติ​

เมื่อ​พูดถึง​ตรงนี้​ ก็​ได้ยิน​เสียงดัง​ขึ้น​จาก​ด้านใน​ คล้าย​กับ​ว่า​ฝ่าบาท​กำลัง​ปา​ข้าวของ​ด้วย​ความโมโห​

“ออก​ไป​ ไสหัวออก​ไป​เดี๋ยวนี้​!”

ขุนนาง​ด้านนอก​รีบ​หุบ​ยิ้ม​แล้ว​ลุกขึ้น​ยืน​ ประตู​ห้องโถง​เปิด​ออก​อย่าง​รวดเร็ว​ ขุนนาง​เดิน​ออกมา​กลุ่ม​หนึ่ง​ ใบหน้า​ดู​สงบนิ่ง​คล้าย​กับ​ว่า​คน​ที่​ถูก​ฝ่าบาท​ดุว่า​ก่น​ด่า​ไม่ใช่พวกเขา​ ทั้ง​ยัง​คำนับ​ทักทาย​ขุนนาง​คนอื่นๆ​ นอก​ประตู​ด้วย​ ก่อน​จะเดิน​จากไป​

“ก็​ไม่ถือว่า​สูญเปล่า​” ขุนนาง​กระซิบ​ “เกรง​ว่า​ธูป​ของวัด​ผู่​ซิ่วจะ​ไม่มีให้​พวกเขา​เสียแล้ว​”

คำพูด​นี้​พา​ให้​ทุกคน​แทบ​หัวเราะ​ลั่น​ แต่​ก็​ยัง​ระลึก​ได้​ว่า​พวกเขา​ต้อง​สำรวม​เมื่อ​อยู่​หน้า​ท้องพระโรง​

หลังจาก​รอ​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ฝ่าบาท​ก็​ไม่ได้​เรียก​พวกเขา​เข้าเฝ้า​ แต่กลับ​ได้ยิน​เสียง​คนพูด​ลอย​ออก​มาจาก​ด้านใน​

“ฝ่าบาท​ อย่า​ทรง​เกรี้ยวโกรธ​ไป​เลย​พะ​ย่ะ​ค่ะ​ พวกเขา​ก็​พูด​ถูก​ เรื่อง​เหล่านี้​ไม่ใช่สิ่งที่​พวกเขา​ควร​ทำ​”

เสียง​ของ​ชายหนุ่ม​ดัง​ขึ้น​

ขุนนาง​ด้านนอก​สบตา​กัน​

จิ้น​อัน​จวิ้น​อ๋อง​

ใคร​บางคน​ขยับ​ปาก​พูด​โดย​ไม่ออกเสียง​

“เหตุใด​ถึงไม่ใช่สิ่งที่​พวกเขา​ควร​ทำ​ ราชสำนัก​เลี้ยง​คน​ไร้ค่า​อย่าง​พวกเขา​ไว้​ทำไม​”

“ฝ่าบาท​ ก็​มิได้​ไร้ค่า​ พวกเขา​จัดทำ​ปฏิทิน​ถามฤดูกาล​นะ​พะ​ย่ะ​ค่ะ​”

ขุนนาง​นอก​ประตู​กลั้น​หัวเราะ​ไว้​ไม่อยู่​อีกครั้ง​

“เอาล่ะ​ จวิ้น​อ๋อง​พูด​คำ​เดียว​ล้ม​หอ​สังเกตการณ์​ได้​ สำนัก​โหร​หลวง​สุ่มหา​ขุนนาง​สัก​สอง​คน​ทำ​ก็ได้​แล้ว​” ใคร​บางคน​กระซิบ​

ไม่เพียงแต่​พวกเขา​ที่​หัวเราะ​ลั่น​ ฝ่าบาท​ที่อยู่​ด้านใน​ก็​หัวเราะ​ด้วย​เช่นกัน​ น้ำเสียง​เกรี้ยวโกรธ​ก่อนหน้านี้​ก็​จางหาย​ไป​มาก​แล้ว​

ณ ห้องโถง​ของ​ฝ่าย​เสมียน​กลาง​ เฉินเซ่า​วาง​พู่กัน​ใน​มือ​ลง​

“ไม่น่าแปลกใจ​ที่​ช่วงนี้​จะเห็น​จวิ้น​อ๋อง​ข้าง​กาย​ฝ่าบาท​ เขา​ศึกษา​อย่าง​ถ่องแท้​” เขา​เอ่ย​ “อย่าง​น้อย​ก็​ยัง​ดีกว่า​องค์​ชาย​ใหญ่​”

ขุนนาง​ยิ้ม​แล้ว​กระแอม​ขึ้น​

“คำพูด​นี้​ไม่น่า​เข้าหู​ของ​ขุนนาง​ฝ่าย​ท้องพระโรง​เกา​นัก​หรอก​นะ​” เขา​ยิ้ม​เอ่ย​

เมื่อ​พูดถึง​ขุนนาง​ฝ่าย​ท้องพระโรง​เกา​ เฉินเซ่า​ทำ​หน้า​ดูแคลน​เล็กน้อย​

“จวิ้น​อ๋อง​พูด​ถูกต้อง​แล้ว​” เขา​เอ่ย​ “ถึงเวลา​ต้อง​กำจัด​คน​ของ​หอ​สังเกตการณ์​แล้ว​ คน​ที่​ไม่ทำงาน​แต่​ครองตำแหน่ง​เอาไว้​ น่าเสียดาย​แทน​คนเก่ง​ที่อยู่​จน​ผมหงอก​”

ปล่อย​ข่าวลือ​ให้​เข้าใจผิด​! เหตุผล​นี้​ไม่เลว​ แต่​เงื่อนไข​คือ​ต้อง​พิสูจน์​ได้​ว่า​การคำนวณ​ตาม​ปฏิทิน​นั้น​แม่นยำ​

“ใต้เท้า​ฝ่าย​การเมือง​ มี” ขุนนาง​คน​หนึ่ง​เอ่ย​

ทันทีที่​คำพูด​ดัง​ขึ้น​ ทุกคน​ที่อยู่​ตรงนั้น​ต่าง​มอง​มาที่​เขา​ด้วย​ความประหลาดใจ​ไม่น้อย​

มีอะไร​หรือ​

“มีคน​คาดการณ์​เวลา​ที่​แน่นอน​ของ​สุริยุปราคา​โดย​อิง​จาก​ปฏิทิน​” ขุนนาง​เอ่ย​ต่อ​ “โดย​ใช้ตำรา​ปฏิทิน​หลิน​เต๋อ​ของ​ห​ลี่​เทียน​ซือ”​

ทุกคน​ประหลาดใจ​เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​นี้​ จึงเข้าไป​ถามไถ่ทีละ​คน​

“เหตุใด​ถึงไม่รายงาน​เรื่อง​นี้​แต่แรก​เล่า​” เฉินเซ่า​ถาม

“จะกล้า​รายงาน​เรื่อง​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​” ขุนนาง​ยิ้ม​ตอบ​

ก็​จริง​อย่าง​ที่ว่า​ แม้ปฏิทิน​ดาราศาสตร์​จะมีกฎ​ที่​ตายตัว​ แต่​เรื่อง​ของ​สวรรค์​ทำให้​ผู้คน​หวาดกลัว​ ไร้​การควบคุม​ไม่ได้​ นี่​คือ​สาเหตุ​ที่​ขุนนาง​ของ​หอ​สังเกตการณ์​คำนวณ​ผิดพลาด​อยู่​หลาย​หน​ แต่กลับ​ไม่ถูก​ลงโทษ​เลย​

“นอกจากนี้​ นี่​เป็น​รายงาน​เร่งด่วน​จาก​เมือง​ซู่โจว​ที่​ตำหนิ​การทำงาน​ของ​อำเภอ​ผา​น​เจียง​” ขุนนาง​เอ่ย​ “มีความเป็นไปได้​สูงที่จะ​ก่อให้เกิด​การจลาจล​”

ทุกคน​เริ่ม​สนใจ​ เฉินเซ่า​ถามว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ขุนนาง​จึงเล่าเรื่อง​ทั้งหมด​ให้​ฟัง เมื่อ​ได้ยิน​ว่า​หญิงสาว​คน​หนึ่ง​ตัด​ศีรษะ​ภิกษุ​ที่​มีผู้​ศรัทธา​มากมาย​ต่อหน้า​คน​ทั้งเมือง​ ทั้ง​ห้อง​โถว​ถึงกับ​แตก​ตื่นขึ้น​มา แม้แต่​ขุนนาง​ผู้น้อย​ด้านนอก​ต่าง​วิ่ง​เข้ามา​ฟังกัน​ทุกคน​

คาดไม่ถึง​ว่า​ปราก​ฎการณ์​สุริยุปราคา​จะกลาย​เป็นเรื่อง​น่าสนุก​เช่นนี้​

“เร็ว​เข้า​ ใต้เท้า​เจี่ยนเจิ้ง​มีเหตุการณ์​ประหลาด​ใด​บ้าง​รีบ​เล่า​มา”

ทุกคน​ต่าง​เรียก​สหาย​ของ​ตน​เข้ามา​ฟัง

“…แม่นาง​ผู้​นี้​ต้อง​ชำนาญ​ด้าน​ปฏิทิน​เป็นแน่​”

“ไม่ใช่แค่​แม่นาง​ผู้​นี้​หรอก​ พระรูป​นั้น​ด้วย​”

“ชำนาญ​ด้าน​ปฏิทิน​ไม่ใช่เรื่อง​แปลก​ แปลกที่​แม่นาง​ผู้​นี้​ทั้ง​ฉลาด​และ​กล้าหาญ​ เจ้าลอง​คิดดู​ว่า​หาก​เป็น​เจ้า เจ้าจะทำ​เช่นไร​”

เมื่อ​ถูก​ถามเช่นนี้​ ทุก​คนใน​ห้องโถง​ก็​พา​กัน​ครุ่นคิด​

หาก​เป็น​ข้า​ คิด​ว่า​สิ่งแรก​ที่​คิดถึง​คือ​ถก​กับ​ภิกษุ​ชรา​นั่น​ แล้ว​บอก​กับ​ชาวบ้าน​ว่า​วันนี้​ไม่มีสุริยุปราคา​ ภิกษุ​ชรา​นั่น​โกหก​พวกเขา​

“เจ้าคิด​ว่า​จะอธิบาย​ให้​ชาวบ้าน​เข้าใจ​ได้​หรือ​” มีคน​ยิ้มเยาะ​และ​โต้กลับ​ “หาก​พูด​ให้​เข้าใจ​ได้​ เหตุใด​ถึงมีผู้​ศรัทธา​ภิกษุ​รูป​นั้น​มากมาย​เช่นนี้​”

“ถูกต้อง​ ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูด​ถึงว่า​คน​ส่วนใหญ่​เป็น​ผู้​เลื่อมใส​ของ​พระ​นั่น​ แม้ไม่ใช่ผู้​ศรัทธา​ แต่​เป็น​คนธรรมดา​ทั่วไป​ จู่ๆ มีคนแปลกหน้า​เข้ามา​บอ​กว่า​การหลุดพ้น​นี้​ไม่ดี​อย่างไรบ้าง​ พวก​เจ้าจะเชื่อ​คนแปลกหน้า​หรือ​เพื่อนบ้าน​ของ​ตน​ล่ะ​” มีคน​พยักหน้า​เอ่ย​

แน่นอน​ว่า​ข้า​ต้อง​เชื่อ​คนรู้จัก​…

นี่​อาจ​เป็นเรื่อง​ของ​สัญชาตญาณ​ของ​มนุษย์​

“โต้เถียง​ไป​ก็​ไม่มีประโยชน์​อะไร​ ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูด​ถึงว่า​ถกเถียง​กัน​หรือไม่​ เกรง​แต่ว่า​ตน​จะตกที่นั่งลำบาก​เสีย​ก่อน​” มีคนพูด​พร้อม​พยักหน้า​ขึ้น​อีกครั้ง​ “วิธี​ที่​ดี​ที่สุด​ใน​การ​จัดการ​ศัตรู​คือ​การ​ตัด​โอกาส​ ไม่ให้โอกาส​เขา​ต่อสู้​กับ​ตน​ ฆ่าพระ​เฒ่านั่น​เสีย​ จะพูด​เช่นไร​ก็​ย่อม​ได้​ เพราะ​คนตาย​ พูด​ไม่ได้​”

วิธี​ที่​ดี​ที่สุด​ใน​การ​จัดการ​ศัตรู​คือ​การ​ตัด​โอกาส​….

เฉินเซ่า​ที่นั่ง​ดู​อยู่​หลัง​โต๊ะ​ไม้ กำ​พู่กัน​ใน​มือ​แน่น​อย่าง​ไม่รู้ตัว​ พลาง​พยักหน้า​ตาม​

แต่ทว่า​ มีคน​กี่​คน​บน​โลก​ที่​กล้า​ทำ​เช่นนี้​

หาก​บอ​กว่า​มี คงจะ​เป็น​แม่นาง​ผู้​นั้น​…

แม่นาง​ผู้​นั้น​!

เฉินเซ่า​รีบ​นั่ง​หลัง​ตรง​ทันที​

ไม่ใช่หรอก​กระมัง​…

เฉินเซ่า​ถอนหายใจ​และ​ลุก​ยืน​ขึ้น​

“แม่นาง​ผู้​นั้น​อยู่​ที่ไหน​หรือ​” จู่ๆ เขา​ถามขึ้น​

บทสนทนา​คึกคัก​ใน​ห้องโถง​ถูก​ขัดจังหวะ​ ขุนนาง​คน​หนึ่ง​ครุ่นคิด​ขึ้น​มาใน​ทันใด​

“หนังสือ​ของ​ทางการ​ไม่ได้​ระบุ​รายละเอียด​มาก​นัก​ ระบุ​เพียง​ว่า​เป็น​สำเนียง​เจียง​หนาน​ คล้าย​ว่า​มาจาก​เมือง​เจียง​โจว​ แต่​ผู้ติดตาม​พูด​สำเนียง​เมืองหลวง​…”

เฉินเซ่า​ยิ้ม​แล้ว​ยก​มือขึ้น​ให้​กับ​ทุกคน​ ก่อน​จะเดิน​ออกจาก​ห้องโถง​ เขา​มองดู​ดวงอาทิตย์​ที่​เจิดจ้า​บน​ท้องฟ้า​

เมื่อใด​ก็​ตามที่​แม่นาง​ผู้​นั้น​เคลื่อนไหว​ ย่อม​เกิด​คลื่น​ทุก​ครา​ที่​นาง​เดินผ่าน​

“เกรง​ว่า​เมืองหลวง​แห่ง​นี้​จะไม่สงบสุข​อีกครั้ง​แล้ว​” เขา​ฝืนยิ้ม​พูด​พลาง​ลูบ​เครา​ “ต้อง​พูด​ว่าการ​ฟ้าเปลี่ยนเป็น​ลางบอกเหตุ​จริงๆ​ ด้วย​”

แม่นาง​ผู้​นั้น​หรือ​ เขา​คิด​เช่นนี้​ได้​ก็​ถือว่า​ประเมิน​นาง​สูงเกินไป​แล้ว​

“สืบ​ข่าว​จาก​เมือง​ซู่โจว​และ​อำเภอ​ผา​น​เจียง​ให้​ละเอียด​ เขียน​เป็น​สาส์น​ขึ้น​กราบทูล​” เฉินเซ่า​เอ่ย​ “ใน​ฐานะ​ขุนนาง​ต้อง​แบ่งเบาภาระ​ของ​ฝ่าบาท​ ถึงเวลา​แล้ว​ที่จะ​ต้อง​ชำระล้าง​หอ​สังเกตการณ์​ที่​ไร้ประโยชน์​นี้​เสียที​”

ขุนนาง​ทั้งหลาย​ตอบรับ​แล้ว​มอง​เฉินเซ่า​ก้าว​เท้า​เดิน​จากไป​

ขณะเดียวกัน​ ณ เรือน​สะพา​นอ​วี้​ไต้​เต็มไปด้วย​เสียง​เอะอะโวยวาย​

“พี่​ปั้น​ฉิน​!”

สอง​สาวใช้​ สอง​เสียง​ แต่​มีเพียง​ชื่อ​เดียว​ พวก​นาง​กอด​กัน​กลม​ เหล่า​สาวใช้​ที่อยู่​รายล้อม​มองดู​ด้วย​ความ​ตกตะลึง​

“คิดถึง​เจ้าเหลือเกิน​!”

ปั้น​ฉิน​ทั้งสอง​มองหน้า​กัน​ เมื่อ​นึกถึง​จุดมุ่งหมาย​ที่​ทำให้​ทั้งสอง​ได้​พบ​เจอกัน​อีกครั้ง​ใน​เมืองหลวง​ครา​นี้​ ทั้งคู่​ก็​พา​กัน​ร้องไห้​ขึ้น​มา

“ตอนนี้​ไม่ใช่เวลา​ที่จะ​พูดถึง​เรื่อง​เหล่านี้​ รีบ​ไป​ดูแล​นาย​หญิง​เร็ว​” สาวใช้​กลืนน้ำลาย​เอ่ย​ “พวกเรา​ค่อย​คุย​กัน​ทีหลัง​”

“ใช่ ทั้ง​ยังมี​แขก​อยู่​ด้วย​” ปั้น​ฉิน​พยักหน้า​พูด​

“จริงๆ​ เลย​ แขก​คน​นี้​มาเร็ว​เหลือเกิน​” สาวใช้​พูด​พลาง​มอง​เข้าไป​ใน​ห้อง​ ชายหนุ่ม​คน​หนึ่ง​นั่ง​ยิ้ม​อยู่​ด้านใน​

“บอก​มาเถิด​ ครั้งนี้​ต้องการ​กำจัด​ใคร​” ชายหนุ่ม​ยิ้มแป้น​ โน้มตัว​ไป​ข้างหน้า​แล้ว​กระซิบ​

ประโยค​นี้​อีกแล้ว​!

สาวใช้​กลอกตา​อยู่​ตรง​ระเบียง​ทางเดิน​

แม้เวลา​จะล่วงเลย​มาเกือบ​สอง​ปี​ ท่านชาย​ดู​คงแก่เรียน​มากขึ้น​กว่า​เดิม​นัก​ นาย​หญิง​ก็​ดู​สง่างามมากขึ้น​เช่นกัน​ แต่​หลังจากที่​ไม่ได้​พบ​เจอกัน​มานาน​ จะพูดถึง​แต่​เรื่อง​ดี​ๆ ไม่ได้​เลย​หรือ​

นาย​หญิง​ของ​ข้า​คือ​โจร​ป่า​อำ​มาหิต​ คิด​ฆ่าคน​ทุกเมื่อ​หรือ​ย่าง​ไร​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด