พลิกชะตา หมอเทวดาอันดับหนึ่งบทที่ 424 มุงดู (1)

Now you are reading พลิกชะตา หมอเทวดาอันดับหนึ่ง Chapter บทที่ 424 มุงดู (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ยาม​รุ่งสาง​ ผู้คน​มาก​หน้าต่าง​พา​กัน​มายืน​รอหน้า​เรือน​ไท่​ผิง​ คน​ที่​จอง​ล่วงหน้า​ก็​จะได้​รู้​ข่าว​ก่อน​ว่า​วันนี้​ร้าน​ปิด​ แต่​ยังมี​อีก​หลาย​คน​ที่​มายัง​ร้าน​โดย​ไม่ได้​จอง​ไว้​ พอ​พวกเขา​รู้​ว่า​ร้าน​ปิด​ก็​เหนื่อยหน่าย​ไป​ตาม​ๆ กัน​อย่าง​ห้าม​ไม่ได้​

“พวก​เจ้าทำ​อะไร​กัน​อยู่​ เหตุใด​ถึงไม่เปิด​ประตู​!”

เสียง​จาก​ผู้คน​ที่​คอย​ถามเริ่ม​ดัง​ขึ้น​เรื่อยๆ​

“วันนี้​พวก​ข้า​คง​ไม่สะดวก​นัก​” บ่าว​ของ​ร้าน​ที่​ยืน​อยู่​ด้านหน้า​ประตู​เอ่ย​ขึ้น​ ท่าทาง​ดู​เศร้าหมอง​ “วันนี้​เป็น​วัน​เชิญดวงวิญญาณ​ของ​เถ้าแก่​เดินทาง​กลับ​สู่บ้านเกิด​ พวก​ข้า​ต้อง​ทำหน้าที่​ต้อนรับ​ดวงวิญญาณ​”

พอ​สิ้น​ประโยค​เมื่อ​ครู่​ ก็​มีขบวน​คน​เดิน​ออก​มาจาก​หลัง​ร้าน​ แม้พวกเขา​ไม่ได้​สวม​ชุด​กระสอบ​สำหรับ​งานศพ​ แต่​ใน​มือ​ของ​พวกเขา​นั้น​ได้​ถือ​ป้าย​ศพ​ ธงดวงวิญญาณ​ และ​โคม​ดวงวิญญาณ​

พอ​เห็น​ดังนั้น​ บ่าว​ของ​ร้าน​ก็​รีบ​หยุด​บทสนทนา​กับ​เหล่า​ชาวเมือง​ในทันที​ ก่อน​จะรีบ​วิ่ง​เข้าไป​ใน​ขบวน​

มีงานศพ​เกิดขึ้น​จริง​ด้วย​สินะ​

ชาวบ้าน​ที่มา​รุม​หน้า​ร้าน​ต่าง​ก็​ยอม​แยกย้าย​กัน​กลับ​ไป​

“ต้อง​ขออภัย​ทุกท่าน​ด้วย​” ผู้ดูแล​ร้าน​โค้ง​ตัว​ลง​เพื่อ​ขอโทษ​ทุกคน​ซ้ำแล้วซ้ำเล่า​ พลาง​ชี้ไป​ยัง​โหล​เหล้า​กับ​ถ้วย​เหล้า​ที่​วาง​อยู่​บน​ถนน​ “อีก​ชั่วครู่​ จะมีการ​แจก​เหล้า​ให้​แก่​ทุกท่าน​ หากว่า​ท่าน​ไม่รีบ​ไป​ไหน​ ก็​ขอ​เชิญมาดื่ม​ด้วยกัน​สัก​ถ้วย​นะ​ขอรับ​”

เหล่า​คน​ที่ตั้ง​ใจมากิน​อาหาร​ที่​ร้าน​ดูท่า​แล้​วจะ​ไม่ได้​สนใจ​ข้อเสนอ​นี้​แต่อย่างใด​ หนำซ้ำ​ยัง​นึก​สงสัย​ว่า​เหล้า​ที่​เอา​มาแจก​นั้น​จะดี​สัก​แค่​ไหน​กัน​เชียว​

ผู้คน​บางส่วน​หัวเราะ​แล้ว​เดิน​จากไป​ บ้าง​ก็​ยัง​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​ บางคน​ก็​ว่าง​จน​ไม่มีอะไร​ทำ​ บ้าง​ก็​รอ​แจก​เหล้า​ ส่วน​พวก​คน​ที่​ยืน​ดู​เหตุการณ์​อยู่​ด้าน​ข้าง​ก็ได้​แต่​มอง​อย่าง​สนอกสนใจ​

“อำมาตย์​เฉิน​เป็น​เถ้าแก่​ร้าน​พวก​เจ้าใช่ไหม​”

“เหตุใด​เถ้าแก่​ของ​พวก​เจ้าถึงได้​ตาย​ล่ะ​”

“เมื่อ​ครู่​เจ้าพูดว่า​พวก​เถ้าแก่​ มีเถ้าแก่​หลาย​คน​อย่างนั้น​หรือ​ มิหนำซ้ำ​ยัง​ตาย​จากไป​พร้อมกัน​อีก​อย่างนั้น​หรือ​”

ผู้คน​ต่าง​พา​กัน​ถามไถ่

“เถ้าแก่​ของ​พวกเรา​ตาย​ใน​สนามรบ​ ใน​ศึก​ตะวันตกเฉียงเหนือ​ช่วง​เดือน​ห้า​ ทำสงคราม​เพื่อ​ปกป้อง​เมือง​ และ​ใน​การต่อสู้​ครั้งนั้น​ ก็ได้​พราก​ชีวิต​ของ​ชาวเมือง​ รวมถึง​เถ้าแก่​ของ​พวกเรา​ด้วย​” ผู้ดูแล​ร้าน​เล่า​

ศึก​เดือน​ห้า​ครั้งนั้น​ชาว​เมืองหลวง​ต่าง​ก็​เคย​ได้ยิน​มาบ้าง​ เพราะว่า​เป็น​ศึก​ครั้ง​ใหญ่​ หลังจากที่​ได้รับ​ชัยชนะ​แล้ว​ พวก​ทหาร​ที่​เข้ามา​ส่งข่าว​ก็​ประกาศ​ไป​ทั่ว​ทั้งเมือง​ มีการ​จัด​งานเฉลิมฉลอง​กัน​สามวัน​สามคืน​ที่​หอ​กลอง​กลางเมือง​ รวมถึง​ตาม​วัดวาอาราม​ต่างๆ​ ก็​มีงาน​มหรสพ​เพื่อ​ฉลอง​ชัยชนะ​ใน​ศึก​ครั้งนั้น​

ที่แท้​พวกเขา​ก็​ตาย​ใน​ศึก​ครั้งนั้น​นี่เอง​

คิดไม่ถึง​เลย​ว่า​เถ้าแก่​เรือน​ไท่​ผิง​จะไป​เป็น​ทหาร​ด่าน​หน้าที่​ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ​ ซ้ำยัง​ตาย​ใน​หน้าที่​ จะว่า​ไป​ ก็​นับว่า​พวกเขา​เป็น​วีรบุรุษ​ที่​สละ​เลือดเนื้อ​เพื่อ​ปกป้อง​บ้านเมือง​อย่าง​แท้จริง​

ทุกคน​เมื่อ​ได้​ฟังเรื่องราว​ก็​รู้สึก​ใจหาย​ เมื่อ​พวกเขา​ได้​คำตอบ​กัน​แล้ว​ ผู้คน​ที่​เข้ามา​มุงดู​อยู่​ก็​เริ่ม​เยอะ​ขึ้น​

ชาวบ้าน​ต่าง​ก็​พา​กัน​พูดคุย​ถกเถียง​กัน​ บ้าง​ก็​มอง​ไป​ยัง​ถนนใหญ่​ด้วย​ความสงสัย​

“นาย​ท่าน​ฟ่าน”​

ชาย​ผู้​หนึ่ง​โน้มตัว​คำนับ​

“เรียบร้อย​แล้ว​ขอรับ​”

ฟ่าน​เจียง​หลิน​มอง​ไป​ยัง​รถม้า​ห้า​คัน​ที่​บรรทุก​โลงศพ​ไม้ ส่วน​ม้าที่​เดินรถ​ก็​มีผ้า​สีขาว​พัน​ไว้​

เขา​หันไป​มอง​ไป​ยัง​ภรรยา​ที่​เปลี่ยนเป็น​ชุด​กระสอบ​สำหรับ​พิธีศพ​ ส่วน​เด็กน้อย​ที่อยู่​ใน​อ้อม​อก​ของ​นาง​ก็​แต่งกาย​ด้วย​ชุด​กระสอบ​ขนาดเล็ก​เช่นกัน​ เด็กน้อย​วัย​กระเตาะ​เช่นนี้​ อาจ​ยัง​ไม่รับรู้​ถึงความเศร้า​เฉกเช่น​ผู้ใหญ่​ ใบหน้า​ของ​เด็กน้อย​ใน​ตอนนี้​ช่างดู​ยิ้มแย้ม​แก้มแดง​นัก​

ฟ่าน​เจียง​หลิน​ยื่นมือ​ไปหา​ภรรยา​เพื่อ​ขอ​อุ้ม​เด็ก​

เจ้าตัวเล็ก​ผู้​ไร้เดียงสา​ยื่นมือ​ออกมา​แตะเบาๆ​ บน​ใบหน้า​ของ​ฟ่าน​เจียง​หลิน​ พลาง​ทำ​เสียงหัวเราะ​คิกคัก​

ช่วงเวลา​ที่ผ่านมา​ พวกเขา​ใช้ชีวิต​กิน​ดื่ม​นอนมา​ด้วยกัน​จน​คุ้นเคย​แล้ว​ เด็ก​อาจ​มองว่า​พวกเขา​เป็น​พ่อแม่​แท้ๆ​ และ​พอ​เขา​เติบใหญ่​ขึ้น​ ต่อให้​มีคน​เล่าเรื่อง​ที่​เกิดขึ้น​ให้​ฟังใน​ภายหลัง​ เขา​ก็​คง​ไม่มีความทรงจำ​ใดๆ​ เกี่ยวกับ​พ่อแม่​ของ​เขา​หลง​เหลืออยู่​ สิ่งที่​เขา​จะจำได้​คง​มีเพียง​ชื่อ​ของ​พวกเขา​

ฟ่าน​เจียง​หลิน​ที่​ดวงตา​แดงก่ำ​ยื่นหน้า​เข้าไป​ใกล้​เด็กน้อย​

หนวด​ของ​เขา​แนบ​เข้ากับ​ใบหน้า​ของ​เด็ก​ เสียงหัวเราะ​คิด​คัก​ สำหรับ​เด็ก​แล้ว​สิ่งนี้​เรียก​ว่าการ​แกล้ง​หยอก​เล่น​

ภาพ​ที่​เห็น​ใน​ตอนนี้​ช่างสวยงาม​จน​เขา​เอง​ยัง​อธิบาย​ไม่ถูก​ มีทั้ง​โลงศพ​ไม้ โคม​ดวงวิญญาณ​ ชุด​กระสอบ​ เสียงหัวเราะ​ของ​เด็ก​

ฟ่าน​เจียง​หลิน​สูด​หายใจ​ลึก​ แขน​ข้าง​หนึ่ง​พยุง​ตัว​เด็ก​ไว้​มั่น​ อีก​ข้าง​ยก​โคม​ดวงวิญญาณ​ขึ้น​สู่ฟ้า

“สหาย​ที่รัก​ของ​ข้า​ พวกเรา​กลับบ้าน​กัน​เถิด​” ฟ่าน​เจียง​หลิน​ตะโกน​เสียงดัง​ลาก​ยาว​

เมื่อ​เสียง​ของ​เขา​ดัง​ขึ้น​ ผู้ติดตาม​ที่อยู่​รอบ​ๆ ก็​คว้า​เงิน​กระดาษ​ที่อยู่​ใน​ตะกร้า​ขึ้น​มาเผา​ เศษเงิน​กระดาษ​ที่​ถูก​เผา​ลอย​ว่อน​อยู่​ใน​อากาศ​ราวกับ​ปุย​หิมะ​

“มาแล้ว​ขอรับ​”

ไม่นาน​ผู้คน​ที่อยู่​ด้านหน้า​เรือน​ไท่​ผิง​ก็​ได้ยิน​เสียง​ตะโกน​ดัง​ขึ้น​

ม้าตัว​หนึ่ง​วิ่ง​นำ​ขบวน​ออกมา​

“วิญญาณ​วีร​บุ​รษ​ได้​กลับมา​แล้ว​ วิญญาณ​วีร​บุ​รษ​ได้​กลับมา​แล้ว​” คน​ที่​ควบม้า​ตะโกน​ประกาศ​

และ​ตอนนั้น​เอง​ขบวนรถ​ก็​ค่อยๆ​ ปรากฏ​สู่สายตา​ผู้คน​

“เถ้าแก่​”

ผู้ดูแล​ร้าน​เอ่ย​เรียก​เถ้าแก่​เสียง​คร่ำครวญ​ ก่อน​จะคุกเข่า​ร้องไห้​อย่าง​โศกเศร้า​

ผู้ดูแล​ร้าน​ที่​ยืน​อยู่​ด้านหลัง​เอง​ก็​คุกเข่า​อย่าง​ทุกข์ระทม​เช่นกัน​ คน​อีก​กลุ่ม​หนึ่ง​ก็​เริ่ม​ช่วยกัน​เผา​กระดาษ​เงิน​

“เถ้าแก่​ ขอให้​ไปสู่สุขคติ​ด้วย​เถิด​”

เสียง​ของ​พวกเขา​ลาก​ยาว​และ​ดัง​ขึ้น​พร้อมกัน​

เมื่อ​ขบวน​เริ่ม​เคลื่อนตัว​ พวก​ชาวบ้าน​ก็​ตก​อยู่​ใน​สภาวะ​เงียบงัน​ ท่ามกลาง​เศษเงิน​กระดาษ​ที่​ลอย​อยู่​ใน​อากาศ​ทำให้​บรรยากาศ​รอบ​ๆ อึมครึม​ โดยเฉพาะ​ขบวนแห่​ศพ​ที่​ใกล้​เข้ามา​ เมื่อ​พวกเขา​ได้​เห็น​เด็ก​ที่​ถูก​อุ้ม​อยู่​ร่วมใน​ขบวน​ศพ​ แม้จะไม่มีใคร​บอกกล่าว​อะไร​ แต่​ทุกคน​รู้​จาก​การ​แต่งกาย​ว่า​นี่​น่าจะเป็น​ลูก​ของ​หนึ่ง​ใน​เถ้าแก่​ห้า​คน​ที่​เสียชีวิต​ไป​

ฟ่าน​เจียง​หลิน​ไม่สนใจ​ผู้คน​ที่อยู่​รอบข้าง​ เขา​แค่​มอง​ไป​ยัง​เบื้องหน้า​แล้ว​ทำหน้าที่​ของ​เขา​ ไหล่​ของ​เขา​แบก​โคม​วิญญาณ​ให้​ตั้งขึ้น​ลู่​ลม​ ขณะที่​ใน​อ้อม​อก​ของ​เขา​ก็​กำลัง​อุ้ม​เด็กน้อย​ที่​มอง​โคม​ดวงวิญญาณ​ แล้ว​หัวเราะ​คิกคัก​ออกมา​

“ช่างน่าสงสาร​ยิ่งนัก​” พวก​ชาวบ้าน​ถอนหายใจ​อย่า​งอด​ไม่ได้​ เหล่า​หญิง​ทั้งหลาย​เอง​ก็​น้ำตา​ซึมอย่า​งอด​ไม่ได้​

“เป็น​เศรษฐี​อยู่ดีๆ​ เหตุใด​จึงไป​เป็น​ทหาร​กัน​เล่า​”

“ไม่ใช่ว่า​เป็น​แม่ทัพ​หรอก​หรือ​”

“แม่ทัพ​อะไร​กัน​ เป็น​ทหาร​นี่แหละ​ ซ้ำยัง​โชคร้าย​มาตาย​ใน​สนามรบ​อีก​ แถมยังมี​ข่าวลือ​อี​กว่า​แม้แต่​รางวัล​เกียรติยศ​ก็​ไม่ได้รับ​เลย​”

“ตาย​แล้ว​ นี่​มัน​ไม่เกินไป​หน่อย​หรือ​”

“แล้ว​พวกเขา​ตาย​ใน​สนามรบ​ได้​อย่างไร​ รีบ​เล่า​มาเร็ว​”

ผู้คน​ที่มา​มุงดู​เริ่ม​พูดคุย​ถกเถียง​กัน​ พลาง​ชี้ไป​ยัง​ขบวน​ศพ​ที่​กำลัง​เคลื่อน​ที่อยู่​

ทหาร​ไม่กี่​นาย​ที่อยู่​ตาม​ถนน​เมื่อ​ได้ยิน​เข้า​ก็​เก็บอาการ​ไม่อยู่​

พวกเขา​เคย​ได้ยิน​มาว่า​ ทหาร​เจ็ด​คน​ที่​มาจาก​เขา​เม่าหยวน​ซาน​นั้น​เป็น​เถ้าแก่​ร้าน​ร้าน​หนึ่ง​ใน​เมืองหลวง​ ทุกครั้ง​เมื่อ​ถึงช่วงเวลา​เทศกาล​ ใน​ร้าน​ก็​จะมีของขวัญ​กอง​อยู่​เต็มไปหมด​ ยิ่งไปกว่านั้น​ ทุก​ครึ่ง​ปี​พวกเขา​จะแจก​เงิน​กำนัล​ให้​พวก​เด็ก​ใน​ร้าน​ แถมยัง​ได้ยิน​มาว่า​ เงิน​กำนัล​นั่น​มีมูลค่า​หลาย​หมื่น​ก้วน​อีกด้วย​

หลาย​หมื่น​ก้วน​เลย​งั้น​หรือ​ สำหรับ​แถบ​ตะวันตกเฉียงเหนือ​แล้ว​ ระดับ​นายพล​บาง​นาย​ยัง​หาเงิน​ไม่ได้​เท่านี้​เลย​

แต่​คน​ก็​ครั้น​ยัง​สงสัย​ พวกเขา​มีกินมีใช้​ขนาด​นี้​แล้ว​ จะไป​เป็น​ทหาร​ทำไม​กัน​ งาน​สบาย​ๆ ไม่ทำ​ ดัน​ไป​ทำงาน​ที่​เสี่ยง​ตาย​วัน​ตาย​พรุ่ง​เสีย​นี่​

บางที​พวกเขา​อาจ​ก็​แค่​บังเอิญ​ดวงดี​มาตกถังข้าวสาร​ใน​เมืองหลวง​แห่ง​นี้​ก็​เป็นได้​

ใน​เวลา​เช่นนี้​ เมื่อ​พวกเขา​ได้​เห็น​ขบวน​ศพ​ ได้​เห็น​ผู้คน​มากมาย​ อีก​ทั้ง​เสียง​ร้องไห้​คร่ำครวญ​ที่​ดัง​ขึ้น​ พวก​ทหาร​ที่อยู่​ตาม​ถนน​ก็​เริ่ม​จะเชื่อ​แล้ว​ว่า​คน​พวก​นี้​มีเงิน​กัน​จริงๆ​

เป็น​เถ้าแก่​ร้านอาหาร​นี่เอง​

กะ​แล้ว​เชียว​ว่า​ต้อง​เป็น​คนมีเงิน​

อารมณ์​และ​ความคิด​ของ​พวก​ทหาร​เริ่ม​สับสน​ปนเป​ ทั้ง​รู้สึก​สงสาร​ ทั้ง​เสียดาย​ ทั้ง​เศร้าโศก​ แต่​ในขณะเดียวกัน​ก็​รู้สึก​อิจฉาริษยา​ใน​วาสนา​ของ​พวก​เถ้าแก่​เช่นกัน​

ถนน​สาย​แรก​ผ่าน​ไป​ ผู้คน​ที่​คุกเข่า​และ​ร้องไห้​คร่ำครวญ​อยู่​ข้าง​ถนน​ลุกขึ้น​ยืน​แล้ว​เดินตาม​ขบวน​ศพ​ ธงดวงวิญญาณ​ถูก​ชูขึ้น​เรื่อยๆ​ รวมทั้ง​เศษเงิน​กระดาษ​ที่​ถูก​เผา​ก็​ลอย​ใน​อากาศ​อย่าง​หนาแน่น​ขึ้น​ทันตา​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด