พลิกชะตา หมอเทวดาอันดับหนึ่งบทที่ 425 เจ้าจงฟัง (1)

Now you are reading พลิกชะตา หมอเทวดาอันดับหนึ่ง Chapter บทที่ 425 เจ้าจงฟัง (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นี่​มัน​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​

เหล่า​ทหาร​ผู้น้อย​จาก​ทัพ​ตะวันตกเฉียงเหนือ​ที่​ติดตาม​ฟ่าน​เจียง​หลิน​มาร่วม​พิธีศพ​ได้​แต่​ถามซ้ำไปซ้ำมา​อยู่​ใน​ใจ

ตอน​เห็น​ผู้คน​ที่มา​ส่งศพ​จาก​นอกเมือง​ พวกเขา​ก็​ตกตะลึง​มาก​พอแล้ว​ คิดไม่ถึง​เลย​ว่า​นั่น​เพียง​เริ่มต้น​เท่านั้น​

คน​เยอะ​ชะมัด​!

คน​เยอะ​ชะมัด​!

บ้า​ไป​แล้ว​ เหตุใด​ถึงได้​มีคน​มากมาย​ขนาด​นี้​! ราวกับ​คน​ทั้ง​เมืองหลวง​พา​กัน​ออกมา​ต้อนรับ​อย่างไร​อย่างนั้น​

บ้า​ไป​แล้ว​ พวกเขา​เป็น​แค่​เถ้าแก่​ร้าน​เล็ก​ๆ จริงๆ​ หรือ​

เหล่า​ทหาร​ผู้น้อย​ยืน​ร่าง​แข็งทื่อ​อยู่​ใน​ขบวน​ศพ​ สายตา​ทอด​มองออก​ไป​ไกล​ เห็น​เพียง​หัว​คน​สีดำ​เต็มไปหมด​ ซ้าย​ขวา​หน้า​หลัง​ แม้กระทั่ง​บน​เรือน​ บน​หลังคา​ หรือ​บน​ต้นไม้​สอง​ข้างทาง​ก็​มีคน​อยู่​ทั้งนั้น​

คน​ที่​เบียดเสียด​เข้ามา​ไม่ได้​ก็​ส่งเสียง​ก่น​ด่า​ พยายาม​แทรกตัว​เข้ามา​ด้านใน​ ไม่ว่า​ตรงไหน​ก็​มีแต่​คน​เต็มไปหมด​ คน​ที่​เดิมที​อยู่​ใน​ขบวน​ส่งศพ​ก็​เดิน​ออกมา​จับมือ​กัน​เป็นแนว​กั้น​ฝูงชน​ เพื่อ​จะได้​เคลื่อน​ขบวน​อย่าง​ไม่มีติดขัด​ แต่ละคน​ร้อง​ตะโกน​สุดเสียง​ไม่ให้​ฝูงชน​กรู​เข้ามา​จน​หน้าดำหน้าแดง​

เหล่า​ทหาร​ผู้น้อย​เงยหน้า​ขึ้น​ มองดู​แผ่น​ฟ้าปกคลุม​ไป​ด้วย​เงิน​กระดาษ​จน​ขาวโพลน​ไป​หมด​ ราวกับว่า​ฟ้าดิน​เอง​ก็​เศร้าโศก​แช่น​กัน​

ทั่ว​ทั้งเมือง​ส่งดวงวิญญาณ​นักรบ​ด้วย​ความอาลัย​

จู่ๆ ประโยค​นี้​ก็​ลอย​เข้ามา​ใน​หัว​ของ​เหล่า​ทหาร​ผู้น้อย​ที่​ไม่รู้หนังสือ​

พวกเขา​ไม่ได้​เป็น​คนพูด​ประโยค​นี้​ เพียงแค่​เคย​ได้ยิน​คนอื่น​พูด​มาอีกที​

หลังจาก​ศึก​ใหญ่​ของ​กองทัพ​ตะวันตกเฉียงเหนือ​เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​ เหล่า​แม่ทัพ​ ทหาร​ และ​ชาวเมือง​ร่วมกัน​เสี่ยง​ตาย​ปกป้อง​ประตูเมือง​ รวม​พลัง​ทั้งเมือง​ต้าน​กำลัง​กองโจร​ตะวันตก​อยู่​สามวัน​

ทว่า​สุดท้าย​ก็​ล้มตาย​กัน​หมด​ หลังจากนั้น​ทั้ง​แถบ​ตะวันตก​ได้​สร้าง​วัด​อิง​ห​ลิง​ เพื่อ​อุทิศ​ให้​แก่​ผู้ล่วงลับ​ คน​ทั้งเมือง​ร่วมใจ​กัน​สวม​ชุด​ผ้าดิบ​ทำพิธี​ส่งศพ​ ตอนนั้น​พวกเขา​ยัง​เล็ก​ แต่​ยัง​จำได้ดี​ว่า​วันนั้น​เสียง​ระฆัง​ดังก้อง​ไป​ทั่ว​ทั้ง​ฟ้าอัน​มืดครึ้ม​ ทั้ง​ยัง​มีเงิน​กระดาษ​ปลิว​ว่อน​จน​มืดฟ้ามัวดิน​ และ​เหล่า​ชาวเมือง​จาก​ทั่วทุกสารทิศ​ต่าง​มาส่งศพ​ที่​หน้า​ประตูเมือง​อย่างเช่น​วันนี้​

ใน​ตอนนั้น​มีบัณฑิต​เขียน​ร้อยแก้ว​แต่ง​ร้อย​กลอง​บรรยาย​เรื่องราว​นี้​ไว้​มากมาย​ ทั้ง​ยัง​เป็น​พิธีศพ​ของ​ทหาร​ผู้น้อย​เหมือนกับ​ทั้ง​ห้า​คน​นี้​

พวกเขา​เหล่านี้​คือ​ใคร​กัน​

“พวก​เจ้าพี่น้อง​คุ้มกัน​พวกเขา​เข้า​เมืองหลวง​ให้​ปลอดภัย​ พวก​ข้า​รับรอง​ว่า​จะมอบ​ความร่ำรวย​ให้​แก่​เจ้าในวันหน้า​”

เสียง​ของ​สวี​ซื่อ​เกิน​ดัง​ขึ้น​ข้าง​หู​ก่อน​ออกเดินทาง​

ยาม​ได้ยิน​เช่นนั้น​ แม้ปาก​ของ​พวกเขา​จะไม่เอ่ย​คำ​ใด​ออก​ไป​ แต่​ใน​ใจกลับ​แค่น​หัวเราะ​

เหล่า​พี่น้อง​แห่ง​เขา​เม่าหยวน​เอง​ยัง​ไม่ทัน​ได้​ร่ำรวย​เสีย​ด้วยซ้ำ​ แม้แต่​ชีวิต​ของ​ตัวเอง​ยัง​รักษา​ไว้​ไม่ได้​ ยัง​มีหน้า​บอ​กว่า​จะมอบ​ความร่ำรวย​ให้​พวกเขา​อีก​หรือ​ คำพูด​เช่นนี้​ใคร​ได้ยิน​ก็​ต้อง​หัวเราะ​ทั้งนั้น​

พอ​มานึกดู​ใน​ยาม​นี้​ คำพูด​นั้น​ไม่ได้​ฟังดู​หน้า​ขัน​อีกต่อไป​

พวกเขา​สามารถ​ปลุกระดม​คน​ทั้งเมือง​ให้​มาส่งศพ​ได้​ เหตุใด​ถึงจะมอบ​ความร่ำรวย​ให้​แก่​พวกเขา​ในวันหน้า​ไม่ได้​

วินาที​นั้น​เหล่า​ทหาร​ผู้น้อย​ขนลุก​เกลียว​ไป​ทั้ง​ร่าง​

เสียง​เกือกม้า​เหล็ก​ควบ​เป็นจังหวะ​กำลัง​เคลื่อน​เข้ามา​ใกล้​ ตามมา​ด้วย​เสียง​ตะโกน​ดังลั่น​

“ถอย​ไป​ ถอย​ไป​!”

กอง​ทหารม้า​ลาดตระเวน​ปัญจ​ทิศ​รักษา​นคร​ที่​เพิ่ง​รู้​ข้าว​ พอได้​เห็น​กับ​ตา​ตัวเอง​เช่นนี้​แล้วก็​ตกตะลึง​ไม่น้อย​

มิน่า​ละ​ถึงมีข่าวด่วน​มาจาก​ประตูเมือง​ว่า​เกิน​เหตุ​จลาจล​ พอ​เห็น​ฝูงชน​ที่​อัน​แน่น​กับ​ถนน​เช่นนี้​แล้ว​ แม้พวกเขา​กว่า​สิบ​ชีวิต​จะมีเกราะ​เหล็ก​และ​ทวน​ยาว​อยู่​ใน​มือ​ แต่กลับ​รู้สึก​หวาดกลัว​ไม่น้อย​

“ทำ​อะไร​กัน​ พวก​เจ้าทำ​อะไร​กัน​” หัวหน้า​ทหาร​ลาดตระเวน​ถาม

“พวกเรา​ไม่ได้​ทำ​อะไร​ แค่​มาดู​พิธี​ส่งศพ​”

“มาหา​เหล้า​ปลา​อาหาร​กิน​เป็น​ลาภปาก​”

ฝูงชนม​พา​กัน​ตะโกน​เสียง​เซ็งแซ่

มาดู​พิธี​ส่งศพ​อย่างนั้น​หรือ​ หา​เหล้า​ปลา​อาหาร​กิน​เป็น​ลาภปาก​ ถุย​ คิด​ว่า​เขา​โง่หรือ​อย่างไร​

ผู้ใด​ตาย​กัน​ เหตุใด​ถึงต้อง​ปลุกปั่น​ชาวเมือง​จน​วุ่นวาย​เช่นนี้​

“ส่งศพ​ต้อง​ออก​นอกเมือง​ เหตุใด​ขบวน​ถึงเข้ามา​ใน​เมือง​” ทหาร​ลาดตระเวน​ถามพลาง​ส่งสัญญาณมือ​

เหล่า​ทหาร​ที่อยู่​ด้านหลัง​กรู​เข้ามา​ในทันที​ ใน​มือ​ง้างธนู​เล็ง​ไป​ที่​คนใน​ขบวน​ส่งศพ​ ใจจดใจจ่อ​รอจังหวะ​โจมตี​

“รีบ​แยกย้าย​บัด​เดี๋ยวนี้​ มิเช่นนั้น​จะสำเร็จโทษ​ให้​หมด​ทุกคน​”

ฟ่าน​เจียง​หลิน​ควบ​อยู่​บน​หลัง​ม้าใน​อ้อม​มีเด็กทารก​น้อย​ จ้องมอง​เหล่า​ทหาร​ที่​ขวางทาง​ด้วย​สีหน้า​เรียบ​เฉย​

คนใน​ขบวน​ส่งศพ​ด้าน​หลังเขา​ยืน​นิ่ง​สงบ​ ธงนำ​วิญญาณ​สีขาว​โบกสะบัด​ไป​ตาม​แรงลม​ โลงศพ​ทั้ง​ห้า​ที่​แทบจะ​ถูก​กลืน​หาย​ไป​ใน​กอง​เงิน​กระดาษ​เรียงแถว​อยู่​บน​ถนน​ ช่างดู​แปลก​พิลึก​ท่ามกลาง​เสียง​ตะ​โหน​โห่ร้อง​รอบ​ทิศ​

เหล่า​ทหาร​ลาดตระเวน​เห็น​เช่นนั้น​ก็​กลืนน้ำลาย​ลงคอ​อย่า​งอด​ไม่ได้​

ผู้ใด​กัน​

“ข้า​ฟ่าน​เจียง​หลิน​ ขุนศึก​จาก​กองทัพ​ตะวันตกเฉียงเหนือ​ พา​พี่น้อง​ทั้ง​ห้า​ที่​ตาย​จากไป​ใน​สงคราม​กลับมา​ทำพิธี​ฝังศพ​ที่​เมืองหลวง​” ฟ่าน​เจียง​หลิน​เอ่ย​เสียง​เนิบ​ พลาง​หยิบ​จดหมาย​จาก​อกออกมา​ให้​

หัวหน้า​หน่วย​ลาดตระเวน​รับ​มา ก็​เห็น​ว่า​ชื่อ​แซ่ของ​ผู้ตาย​นั้น​ถูกต้อง​ครบถ้วน​

“เป็น​ขุนศึก​จาก​กองทัพ​ตะวันตกเฉียงเหนือ​หรอก​หรือ​” เขา​เอ่ย​สีหน้า​ดู​คลายกังวล​ลง​ไป​บ้าง​

ว่าแต่​พวกเขา​ทำ​สิ่งใด​กัน​ผู้คน​ถึงได้​รุมล้อม​จน​วุ่นวาย​เช่นนี้​

เหตุการณ์​แบบนี้​จะพบ​เจอ​ได้​ยาม​แห่​ขบวน​เชลยศึก​เข้า​เมืองหลวง​หลัง​คว้า​ชัย​กลับมา​ไม่ใช่หรือ​ หาก​เป็น​เช่นนั้น​ก็​จะมีขบวนแห่​โลงศพ​เช่นกัน​ แต่​จะมีเฉพาะ​ขุนนาง​แม่ทัพ​ขั้น​ที่​เท่านั้น​ถึงจะได้รับ​การปฏิบัติ​เช่นนี้​

ทหาร​ผู้น้อย​ก็​ได้รับ​การปฏิบัติ​เช่นนี้​ตั้งแต่​เมื่อใด​กัน​

“ใน​เมื่อ​เป็น​พิธี​ฝังศพ​ ก็​ต้อง​ออก​ไป​นอกเมือง​ เหตุใด​ถึงเข้า​เมือง​เล่า​” เขา​ขมวดคิ้ว​ถาม “หรือว่า​กำลังจะ​วน​ออก​นอกเมือง​”

“ใต้เท้า​”

หัวหน้า​หน่วย​ลาดตระเวน​ชะงัก​ จ้องมอง​ชาย​ตรงหน้า​ด้วย​ความ​ตกตะลึง​ เหตุใด​เสียง​ของ​ชาย​ที่​พูด​อยู่​ถึงกลายเป็น​เสียง​ของ​หญิงสาว​ไป​ได้​

“ใต้เท้า​ เหตุ​ที่​เข้า​เมือง​มานี้​ เพราะ​ข้า​เป็น​คน​จัดการ​เอง​”

ฝูงชน​เหลียว​มอง​มาใน​ทันใด​ หัวหน้า​หน่วย​ลาดตระเวน​ที่​เพิ่ง​ได้สติ​ก็​เหลียว​มอง​เช่นกัน​ ก่อน​จะเห็น​กลุ่ม​ด้านหลัง​ที่​ไม่รู้​ว่า​เดิน​เข้ามา​กัน​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​ พวกเขา​แตกต่าง​จาก​ชาวเมือง​ที่มา​ลุ​มล้อม​ด้วย​ความ​อยากรู้อยากเห็น​ ใน​มือถือ​สงธงส่งวิญญาณ​สีขาว​ เห็นได้ชัด​ว่า​มาเพื่อ​ไว้อาลัย​เช่นกัน​

วินาที​นั้น​หญิงสาว​ที่​สวม​หมวก​คลุม​หน้า​ก็​เดิน​เข้ามา​ใกล้​ นางสาว​ชุด​สีดำ​ ที่​เอว​มีเชือก​ป่าน​คาด​อยู่​

“น้องสาว​”

พอ​เห็น​หญิง​ผู้​นั้น​ ฟ่าน​เจียง​หลิน​ที่อยู่​บน​หลัง​ม้าก็​พลิกตัว​ลงมา​ใน​ทันใด​ ไม่รู้​ว่า​เพราะ​ขี้ม้า​มานาน​หรือว่า​เพราะ​เศร้าโศก​เสียใจ​ จังหวะ​ก้าวเดิน​ถึงได้​ซวนเซ​จน​แทบ​ล้ม​ ทารก​น้อย​อ้อม​อก​ก็​หัวเราะ​คิกคัก​ออกมา​เพราะ​ฝีเท้า​อัน​โซเซนั้น​

“น้องสาว​” ฟ่าน​เจียง​หลิน​เอ่ย​เสียงสะอื้น​พลาง​เดิน​เข้ามา​ใกล้​ “ข้า​พา​พวกเขา​กลับมา​แล้ว​”

ประโยค​แสน​เรียบง่าย​นั้น​เอ่ย​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​สั่นเครือ​ หัวหน้า​หน่วย​ลาดตระเวน​ที่​ยืน​อยู่​อีก​ฝั่งรู้สึก​ปวดใจ​ขึ้น​มาอย่าง​ห้าม​ไม่ได้​ สายตา​พลัน​ไป​ตก​อยู่​บน​โลงศพ​ทั้ง​ห้า​

สาวใช้​สอง​นาง​ที่อยู่​ข้าง​กาย​หญิงสาว​ผู้​นั้น​ทรุด​เข่า​ลง​กับ​พื้น​ร้องไห้​ฟูมฟาย​

ตลอดทาง​มีเพียง​เหล่า​ชายหนุ่ม​ร่วมทาง​ นอกจาก​เสียงสะอื้น​ตอน​เสร็จ​ทำพิธี​เซ่นไหว้​ริม​ทาง​ครั้งแรก​แล้วก็​ไม่ได้ยิน​เสียง​ร้องไห้​อีก​เลย​ ในที่สุด​ตอนนี้​ก็​มีเสียง​ร้องไห้​ของ​หญิง​ดัง​ขึ้น​ ยิ่ง​ทำให้​บรรยากาศ​ของ​พิธี​ส่งศพ​คุกรุ่น​ยิ่งขึ้น​

เพียงแต่​ใน​วินาที​เดียวกัน​นี้​ ไม่รู้​ว่า​ทารก​น้อย​ตกใจ​เพราะ​คน​เยอะ​ หรือ​ตกใจ​เพราะ​เสียง​คร่ำครวญ​ของ​หญิงสาว​กัน​แน่​ ถึงได้​ร้องไห้​จ้าออกมา​

ฝูงชน​ที่​ตะโกน​โหวกเหวก​โวยวาย​โดยรอบ​เงียบสงบ​ลง​ ท่ามกลาง​ผู้คน​มากมาย​บน​ท้องถนน​มีเพียง​เสียง​ร้องไห้​ของ​หญิงสาว​และ​เด็กน้อย​ที่​ดัง​อื้ออึง​ไป​ทั่ว​ ยิ่ง​ทำให้​บรรยากาศ​แปลก​พิลึก​และ​อึดอัด​เสีย​ยิ่งกว่า​เดิม​

“ใต้เท้า​” เฉิงเจียว​เหนียง​มอง​หัวหน้า​หน่วย​ลาดตระเวน​ “สุสาน​อยู่​ทาง​ตะวันออก​ของ​เมือง​”

หัวหน้า​หน่วย​ลาดตระเวน​จ้องมอง​ เขา​ทำ​ท่าจะ​เอ่ยปาก​ แต่​เฉิงเจียว​เหนียง​กลับ​ชิงพูด​ขึ้น​มาเสีย​ก่อน​

“อันที่จริง​จะอ้อม​ออก​ทาง​นอกเมือง​ไป​ทาง​ตะวันออก​ก็ได้​ ไม่จำเป็นต้อง​ผ่าน​เข้า​เมือง​” นาง​เอ่ย​

รู้ดี​อยู่​แก่​ใจไม่ใช่หรือ​ ทหาร​ลาดตะเวน​พึมพำ​ใน​ใจ

“เพียงแต่​ข้า​เคย​รับปาก​เหล่า​พี่ชาย​ไว้​ ตอนที่​พวกเขา​จาก​เมืองหลวง​ไป​ประจำ​ทัพ​ตะวันตกเฉียงเหนือ​” เฉิงเจียว​เหนียง​เอ่ย​ รอยยิ้ม​บาง​ปรากฏ​ขึ้น​บน​ใบหน้า​ แต่​น่าเสียดาย​ที่​รอยยิ้ม​ใต้​ผ้าคลุม​นั้น​ไม่มีผู้ใด​ได้​เห็น​ สายตา​ของ​นาง​หันไป​มอง​ที่​โลงศพ​ทั้ง​ห้า​บน​รถม้า​ห้า​คัน​ “รอ​วันที่​พวกเขา​ถวาย​ความภักดี​ต่อ​แผ่นดิน​แล้ว​คว้า​ชัย​กลับบ้าน​มาได้​ ข้า​จะแห่​ขบวน​ม้าให้​ทั่ว​ทุกหน​แห่ง​ จุล​พลุ​ เลี้ยง​สุรา​ต้อนรับ​พวกเขา​”

นาง​เอ่ย​พลาง​เยื้องย่าง​ผ่าน​หัวหน้า​หน่วย​ลาดตระเวน​ไป​ยัง​บรรดา​โลงศพ​ นาง​ยื่นมือ​ออก​ไป​สัมผัส​ม้าที่​ลาก​รถ​

ม้าชั้นดี​ทั้ง​ห้า​ตัว​นี้​มีสีเดียวกัน​ หาก​คน​ที่​รู้จัก​ของดี​มอง​ปราด​เดียว​ก็​ในทันที​ว่า​นี่​คือ​ม้าชั้นยอด​ ส่วน​ผู้​ที่​ไม่รู้​จะเอ่ย​ชื่นชม​เพียงแค่​ม้าเหล่า​ดี​ช่างงามนัก​

เพราะ​สายตา​มัวแต่​มองดู​ความวุ่นวาย​ จึงไม่ทัน​ได้​สังเกตว่า​เหล่า​ม้าที่​ลาก​รถ​อยู่​นี้​งดงาม​เพียงใด​

“ยาม​นี้​พวกเขา​กลับมา​แล้ว​…”

เพียงแต่​น่าเสียดาย​ที่​ยาม​จากไป​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ แต่​แต่​ยาม​กลับมา​กลับ​กลายเป็น​เพียง​โลงศพ​อัน​เย็นเฉียบ​

เหล่า​ผู้คน​ที่​ล้อมรอบ​พา​กัน​ตัดพ้อ​

“พวกเขา​ถวาย​ความภักดี​ต่อ​แผ่นดิน​และ​คว้า​ชัย​กลับมา​ได้​แล้ว​ ข้า​ย่อม​ผิดคำพูด​ที่​ตน​รับปาก​ไว้​ไม่ได้​”

เฉิงเจียว​เหนียง​เอ่ย​ก่อน​จะชัก​มือ​กลับ​จาก​ม้า

ผู้ดูแล​อู๋​ที่อยู่​ข้าง​กาย​รีบ​ยื่น​ไห​เหล้า​ใบ​หนึ่ง​ให้​ เฉิงเจียว​เหนียง​ยื่นมือ​ออก​ไป​รับ​

“ท่าน​พี่​ทั้งหลาย​ นี่​คือ​เหล้า​ที่​น้อง​เป็น​คน​บ่ม​ หา​ที่ใด​ไม่ได้​บน​โลก​นี้​”

นาง​เอ่ย​พลาง​คว่ำ​ไห​เหล้า​ลง​ กลิ่นหอม​แผ่ซ่าน​ไป​ทั่ว​ใน​ทันใด​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด