พลิกชะตา หมอเทวดาอันดับหนึ่งบทที่ 418 ดีใจ

Now you are reading พลิกชะตา หมอเทวดาอันดับหนึ่ง Chapter บทที่ 418 ดีใจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เอา​น้ำแกง​มาอีก​”

ท่านชาย​โจว​หก​เอ่ย​พลาง​ยก​ชามใน​มือ​ให้​สาวใช้​

“ห้าม​ให้​เขา​”

ท่านชาย​ฉิน​สิบ​สามที่นั่ง​อยู่​ฝั่งตรงข้าม​เอ่ย​ขึ้น​ เขา​วาง​ตะเกียบ​ลง​ตั้งแต่​ก่อนหน้า​แล้ว​

สาวใช้​ยิ้ม​พลาง​รับ​ชามจาก​มือ​ท่านชาย​โว​หก​แล้ว​ตัก​น้ำแกง​ให้​เขา​เพิ่ม​

“ท่านชาย​หก​ คง​คิดถึง​น้ำแกง​ที่​ตระกูล​เรา​มาก​ใช่ไหม​เจ้าคะ​” นาง​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​

ท่าน​ชาน​ฉิน​สิบ​สามมอง​สาว​ใช้แล้ว​หัวเราะ​ออกมา​

“เจ้าก็​รู้​นี่​ว่า​คือ​น้ำแกง​ของ​ตระกูล​เรา​เชียว​นะ​” เขา​เอ่ย​

สาวใช้​ยิ้ม​ไม่เอ่ย​คำ​ใด​แล้ว​ส่งชามน้ำแกง​ให้​เขา​

“ว่าแต่​ ตอน​เจ้าอยู่​ทัพ​ตะวันตกเฉียงเหนือ​ได้​กิน​อะไร​บ้าง​” ท่านชาย​โจว​หก​ไม่สนใจ​ท่านชาย​ฉิน​สิบ​สาม แต่กลับ​หันไป​พูด​กับ​สาว​ใช่พลาง​ส่งขนม​อี๋​ เข้า​ปาก​ ก่อน​จะเอ่ย​เสียง​งึมงำออกมา​ “บ่อ​เกลือ​ ใช้เกลือ​ทำอาหาร​ รสชาติ​เหมือนกัน​ไป​หมด​ ลำบาก​นัก​”

สาวใช้​ใน​ห้อง​พา​กัน​ตกใจ​ก่อน​ตัดพ้อ​สงสาร​

“น่าสงสาร​ตรงไหน​ นั่น​เป็น​อาหาร​ของ​เหล่า​ทหาร​ผู้น้อย​ทหาร​ฝึกหัด​ เขา​ไม่ได้​กิน​ของ​พวก​นั้น​หรอก​” ท่านชาย​ฉิน​สิบ​สามเอ่ย​ด้วย​ความ​เหลืออด​ “ไป​ได้​แล้ว​ ไป​ได้​แล้ว​”

เหล่า​สาวใช้​ยิ้ม​ พอ​หันไป​เห็น​ท่านชาย​โจว​หก​กิน​น้ำแกง​หมด​แล้วจึง​เริ่ม​เก็บ​โต๊ะ​

ท่านชาย​โจว​หก​ยัด​ขนม​อี๋​ชิ้น​สุดท้าย​เข้า​ปาก​ ล้ม​กาย​ลง​เบาะ​รอง​นั่ง​ก่อน​จะตบ​หน้าท้อง​เบา​ๆ

ท่านชาย​ฉิน​สิบ​สามใช้พัด​ฟาด​เขา​

“สาย​ป่านนี้​แล้ว​ นี่​เจ้าเก็บ​ท้อง​มากินข้าว​ที่​บ้าน​ข้า​หรือ​” เขา​เอ่ย​ “ขี้เหนียว​ชะมัด​!”

ท่านชาย​โจว​คว้า​พัด​ขึ้น​มาพัด​ให้​ตัวเอง​

“ไป​กัน​ ไป​กัน​ กิน​ดื่ม​อิ่ม​ท้อง​แล้ว​ พวกเรา​ไป​ขี่ม้า​ยิง​ธนู​กัน​ ดู​ซิว่า​จอหงวน​ร่าง​ผอมแห้ง​อย่าง​เจ้าจะง้างธนู​ไหว​ไหม​” เขา​เอ่ย​พลาง​กระเด้ง​ตัว​ลุกขึ้น​

ท่านชาย​ฉิน​สิบ​สามส่งเสียง​เย้ยหยัน​

“ก็​แค่​ตากแดด​ตาม​ลม​จน​ผิว​ดำคล้ำ​แห้ง​กร้าน​ เลียนแบบ​นิสัยเสีย​ของ​พวก​ทหาร​ มีอะไร​น่า​ภูมิใจกัน​” เขา​เอ่ย​พลาง​ลุกขึ้น​ยืน​ “ไป​ก็​ไป​”

เขา​สั่งให้​บ่าว​ไป​เตรียม​ม้า ทั้งสอง​ออก​ไป​หยิบ​ธนู​ก่อน​จะเถียง​กัน​เพราะ​ธนู​ขึ้น​มาอี​กรอบ​

“นาน​มาก​แล้ว​ที่​ท่านชาย​ไม่ได้​อารมณ์ดี​เช่นนี้​”

“นั่นสิ​ นาน​มาก​แล้ว​เหมือน​กันที่​ไม่ได้​ครื้นเครง​เช่นนี้​”

เหล่า​สาวใช้​หัวเราะ​คิกคัก​กัน​ริม​ระเบียง​

ม้าควบ​ไป​บน​ถนน​อย่าง​ไว​ว่อง​ จน​ผู้คน​ที่​เดิน​ขวักไขว่​ต้อง​หลีกทาง​ให้​

“นี่​ เจ้าเป๋​ สอง​ปี​มานี้​เจ้านั่ง​แต่​รถ​ไม่ได้​ขี่ม้า​เลย​ใช่หรือไม่​” ท่านชาย​โจว​หก​เหลียว​กลับ​ไป​ถาม “เหตุใด​ถึงได้​ขี่​ช้าแบบนี้​”

ท่านชาย​ฉิน​สิบ​สามเร่ง​ม้าตาม​ไป​

“เกินไป​หรือเปล่า​ เจ้าแขน​ด้วน​” เขา​เอ่ย​

ท่านชาย​โจว​หก​ส่งเสียง​ถุย​ พลาง​ยก​แขน​กำยำ​ของ​ตน​ขึ้น​มาอวด​

“แขน​เจ้า ข้า​มอง​ไม่ออก​หรอก​ แต่​พอ​จะมองออก​ว่า​ใจกล้า​ขึ้น​เยอะ​ คำ​ก็​เจ้าเป๋​สอง​คำ​ก็​เจ้าเป๋​ อันที่จริง​ก็​คง​อดกลั้น​มานาน​แล้ว​สินะ​” ท่านชาย​ฉิน​สิบ​สามเอ่ย​ “ไม่ใช่ว่า​ตั้ง​แต่วัน​แรก​ที่​รู้จัก​กัน​ ใน​ใจเจ้าก็​เรียก​ข้า​เช่นนี้​มาตลอด​หรอก​นะ​”

“เจ้าไม่เข้าใจ​หรือ​อย่างไร​” ท่านชาย​โจว​หก​เอ่ย​พลาง​หัวเราะ​ “ข้า​พูด​กลับกัน​ต่างหาก​ ใน​ใจของ​ข้าเจ้า​ไม่ใช่เจ้าเป๋​ ข้า​ถึงได้​เรียก​เจ้าว่า​เจ้าเป๋​ หาก​เจ้าเป็น​เจ้าเป๋​จริง​ ข้า​คง​ไม่เรียก​เจ้าเช่นนั้น​หรอก​”

ท่านชาย​ฉิน​สิบ​สามมอง​เขา​ก่อน​จะร้อง​ออกมา​อย่าง​สงสัย​ พลาง​เลิกคิ้ว​ขึ้น​

“เจ้าก็​รู้ดี​อยู่​แก่​ใจนี่​ ข้า​นึก​ว่า​เจ้าไม่รู้​เสีย​อีก​” เขา​เอ่ย​พลาง​เร่ง​ม้าเข้า​ประชิด​ ก่อน​จะเอ่ย​กระซิบ​ว่า​ “ว่าแต่​หญิง​งามที่​เจ้าเอาแต่​คิดถึง​น่ะ​กลับมา​แล้ว​นะ​ เจ้าจะไม่ไปหา​นาง​หน่อย​หรือ​”

“ใคร​อยาก​ไปหา​นาง​กัน​” ท่านชาย​โจว​หก​ส่งเสียง​ฮึดฮัด​ พูด​จบ​ก็​นิ่ง​ไป​ ใบหน้า​พลัน​แดงก่ำ​ขึ้น​มา

หญิง​งามอย่างนั้น​หรือ​! เขา​เรียก​นาง​ว่า​หญิง​บ้า​มาตลอด​! ดังนั้น​หาก​พูด​กลับกัน​แล้ว​ แสดงว่า​ใน​ใจของ​เขา​ นาง​คือ​หญิง​งาม…

“ไม่ไป​จริง​หรือ​” ท่านชาย​ฉิน​สิบ​สามถาม “จากไป​ตั้ง​นาน​ ได้​กลับมา​ทั้งที​ มิใช่เรื่อง​น่ายินดี​หรือ​ เหตุใด​ถึงไม่ไป​เจอกัน​เสียหน่อย​”

ท่านชาย​โจว​หก​ไม่ได้​เถียง​กับ​เขา​ต่อ​ ทว่า​ใบหน้า​กลับ​หม่นหมอง​ขึ้น​มา ก่อน​จะทอดสายตา​มอง​ไป​ข้างหน้า​

“ไม่นับว่า​เป็นเรื่อง​น่ายินดี​หรอก​” เขา​เอ่ย​เสียง​เนิบ​ “ไม่เจอกัน​ยัง​จะดี​เสีย​กว่า​”

ที่​เฉิงเจียว​เหนียง​มาเมืองหลวง​ก็​เพราะ​การตาย​ของ​พวก​สวี​เม่าทั้ง​ห้า​

ท่านชาย​ฉิน​สิบ​สามไม่ได้​พูด​อะไร​ต่อ​

อันที่จริง​เขา​เอง​ก็​จำชาย​เหล่านั้น​ได้​ไม่ชัด​นัก​ จำได้​เพียง​ว่า​เข้ากับ​แม่นาง​ผู้​นั้น​ได้ดี​

‘ท่าน​พี่​’ นาง​เรียก​ออก​มาจาก​ใจ

เรียก​ออก​มาจาก​ก้นบึ้ง​ของ​หัวใจ​ ไม่ได้​ประจบสอพลอ​ ไม่ได้​แสร้ง​ทำให้​ผู้ใด​อื่น​เห็น​ นั่น​คือ​พี่ชาย​ นั่น​คือ​คนใน​ครอบครัว​

ไม่มีอีกแล้ว​

“ข้า​ขอโทษ​ ข้า​ขี้ขลาด​” เขา​เอ่ย​ “เจ้าพูด​ถูก​ ข้า​ไม่ได้​เคย​ได้​ออกรบ​ ไม่ได้​เผชิญหน้า​กับ​ความตาย​ แต่กลับ​หนี​ไป​ก่อน​เสียแล้ว​”

ท่านชาย​โจว​หก​หันไป​มอง​เขา​

“ดู​สิเจ้าคนขี้ขลาด​จะทำ​อย่างไร​” เขา​หัวเราะ​ลั่น​ ก่อน​จะสะบัด​แซ่ใน​มือ​

ม้าของ​ท่านชาย​ฉิบ​สิบ​สามส่งเสียงร้อง​ ยก​สอง​ขา​หน้า​ขึ้น​แล้ว​พุ่งตัว​ออก​ไป​ ท่านชาย​ฉิบ​สิบ​สามแทบจะ​ถูก​สะบัด​ร่วง​ลงมา​

“เจ้าหมอ​นี่​!” เขา​ตะโกน​

ท่านชาย​โจว​หก​หัวเราะ​ชอบใจ​แล้ว​เร่ง​ม้าตาม​ไป​ ก่อน​จะควบม้า​แซงพลาง​มุ่งหน้า​ออก​นอกเมือง​ไป​

มองดู​ชาย​หนึ่ง​ที่​ควบม้า​ออก​ไป​อย่าง​เร็ว​รี่​เบื้องหน้า​ ท่านชาย​ฉิน​สิบ​สามก็​เผย​ยิ้ม​ออกมา​

ใช่แล้ว​ ยาม​พวกเขา​ไม่อยู่​ คืน​วัน​ผ่าน​ไป​อย่างไร​ความหมาย​ จืดชืด​ไร้รสชาติ​

ใช่แล้ว​ พวกเขา​กลับมา​แล้ว​ เขา​นั้น​ดีใจ​มาก​จริงๆ​ ดีใจ​ยิ่งนัก​

ยอมรับ​ว่า​เป็น​เช่นนั้น​จริงๆ​ ก็​ไม่เห็น​มีอะไร​น่าอาย​!

ท่านชาย​ฉิน​สิบ​สามเร่ง​ม้าตามติด​

แม้ปาก​บอ​กว่า​จะไม่ไป​พบ​เฉิงเจียว​เหนียง​ แต่​พอ​วัน​ต่อ​ท่านชาย​โจว​หก​ก็​มาถึงเรือน​สะพา​ยอ​วี้​ไต้​แล้ว​

“ท่าน​พ่อ​มาก็​พอแล้ว​ไม่ใช่หรือ​ เหตุใด​ต้อง​ให้​ข้า​มอง​ส่งข้าว​ปลา​อาหาร​ให้​ด้วย​ก็​ไม่รู้​”

เขา​ยืน​อยู่​หน้า​ประตู​ ลง​จาก​ม้าไป​พลาง​ ปาก​ก็​บน​ไป​พลาง​

“นาง​จะสนใจ​หรือ​”

บ่าว​ไม่ได้​ฟังที่​ท่านชาย​โจว​หก​พูด​เลย​สักนิด​ เขา​ประคอง​ของขวัญ​สอง​กล่อง​ใหญ่​ใน​มือ​ มอง​ไป​ที่​หน้า​ประตู​ด้วย​แววตา​เป็นประกาย​

ท่านชาย​จะเต็ม​ใจมาหรือไม่​ เขา​ไม่สน​ รู้​เพียงแค่​ว่า​หลาย​คน​อิจฉา​ที่​เขา​ได้​ติด​ตามมา​ด้วย​ใน​ครั้งนี้​

นึกถึง​เหล่า​ผู้ติดตาม​ที่​กลับมา​เมื่อ​สอง​คืน​ก่อน​ เพราะ​ติดตาม​แม่นาง​ผู้​นั้น​ออก​ไป​กว่า​สอง​ปี​ คนใน​เรือน​ก็​แทบจะ​ลืม​พวกเขา​ไป​แล้ว​ แต่​ไม่ถึงเลย​ว่า​จะกลับมา​คราวนี้​พวกเขา​จะร่ำรวย​กัน​ขนาด​นั้น​

ทว่า​นั่น​ก็​เป็นเรื่อง​ธรรมดา​ พอ​มาคิดดู​แม่นาง​ผู้​นั้น​มีกิจการ​ใน​เมืองหลวง​ถึงสามแห่ง​ ทั้ง​ยัง​ยก​ให้​สาวใช้​ดูแล​ทั้งหมด​ เช่นนั้น​แล้ว​ที่​เหล่า​ผู้​ติ​มตาม​จะมีเงิน​มากมาย​จน​คน​ตกใจ​ ก็​คง​ไม่ใช่เรื่อง​แปลก​

ไม่รู้​ว่า​ข้าง​กาย​ของ​แม่นาง​จะขาด​บ่าว​รับใช้​หรือไม่​…

หลังจาก​เคาะ​ประตู​ ไม่นาน​ประตู​ก็​ถูก​เปิด​ออก​ ทว่า​ไม่มีการ​ถามไถ่อัน​ใด​

“มาแล้ว​หรือ​ เหตุใด​ถึงได้​ช้านัก​ คราวหน้า​ข้า​จะไม่ซื้อ​เหล้า​ร้าน​เจ้าแล้ว​ เอ๊ะ​ ท่านชาย​โจว​หก​ เหตุใด​ถึงเป็น​ท่าน​ไป​ได้​”

สาวใช้​เอ่ย​มอง​ท่านชาย​โจว​หก​ด้วย​ความประหลาดใจ​

“ท่าน​พ่อ​ให้​ข้า​มา” ท่านชาย​โจว​หก​เอ่ย​ พอ​หัน​กลับมา​ บ่าว​ที่อยู่​ด้านหลัง​ก็​วิ่ง​กระโดดโลดเต้น​ขึ้น​มา

“พี่สาว​” เขา​เอ่ย​อย่าง​นอบน้อม​ ก่อน​จะยื่น​ของขวัญ​ใน​มือ​ให้​

สาวใช้​หัวเราะ​พลาง​รับ​มาแล้ว​โยน​เงิน​ให้​

บ่าว​หนุ่ม​ดีใจ​นัก​ เขา​คำนับ​ขอบคุณ​แล้ว​ถอย​ออก​ไป​

“ก็​แค่​ของกินของใช้​ ส่งมาจาก​ต้นตระกูล​ส่าน​โจว​น่ะ​…” เขา​เอ่ย​ แล้วก็​ยังมี​ของ​ที่​เขา​เอา​มาจาก​ตะวันออกเฉียงเหนือ​ด้วย​เป็นส่วนใหญ่​

“เช่นนั้น​ก็​ขอ​ขอบคุณ​นายใหญ่​และ​ท่านชาย​ด้วย​เจ้าค่ะ​” สาวใช้​เอ่ย​แล้ว​คำนับ​ให้​

ท่านชาย​โจว​ยก​เท้า​กำลังจะ​ก้าว​เข้า​ประตู​ไป​ ทว่า​สาวใช้​กลับ​ขวาง​เอา​

“ท่านชาย​หก​ นาย​หญิง​ของ​ข้า​มีธุระ​ ไม่สะดวก​รับแขก​เจ้าค่ะ​” นาง​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​

ปั้น​ฉิน​ที่อยู่​ตรง​ระเบียง​กำลัง​รับ​ชามจาก​มือ​ของ​สาวใช้​สอง​นาง​ จังหวะ​ที่​กำลังจะ​หันหลัง​กลับ​เข้าไป​ใน​ห้องโถง​ ก็​ได้ยิน​เสียง​ถีบ​ประตู​ตึงตัง​ดัง​ขึ้น​

“ท่านชาย​โจว​หก​!”

สาวใช้​ร้อง​ออกมา​ใน​ทันใด​

พอ​ปั้น​ฉิน​เงยหน้า​ขึ้น​ ท่านชาย​โจว​หก​ก็​เดิน​จ้ำเข้ามา​ใน​ลานบ้าน​แล้ว​ ทว่า​คราวนี้​เขา​ไม่อาจ​ตรง​เข้ามา​ใน​เรือน​ได้​เหมือน​แต่ก่อน​ เพราะ​ถูก​เหล่า​ผู้ติดตาม​ขวาง​เอาไว้​

ท่านชาย​โจว​หก​มองดู​เหล่า​ผู้ติดตาม​ที่​ขวาง​เขา​อยู่แล้ว​แค่น​ยิ้ม​ออกมา​

“พวก​เจ้าแซ่อะไร​” เขา​ถาม “คิด​จะขวาง​ข้า​หรือ​”

“ท่านชาย​ พวก​ข้า​แซ่โจว​ก็​จริง​ แต่​ยาม​นี้​พวก​ข้า​รับใช้​นาย​หญิง​” หัวหน้า​ผู้ติดตาม​เอ่ย​พลาง​ยกมือ​ทำท่าทำทาง​

เหล่า​ผู้ติดตาม​พา​กัน​ล้อม​เข้ามา​เพื่อ​จับตัว​เขา​โยน​ออก​ไป​ช้างนอก​

ท่านชาย​โจว​หก​มอง​พวกเขา​ ก่อน​จะถอนหายใจ​แล้ว​ยิ้ม​ออกมา​

“เฉิงเจียว​เหนียง​!” เขา​แหงนหน้า​ตะโกน​เข้าไป​ใน​ห้องโถง​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​นัก​

ประตู​บานพับ​ที่​ปิด​ไว้​กึ่งหนึ่ง​ถูก​เปิด​ออก​โดย​สาวใช้​ ปั้น​ฉิน​ออก​เดิน​มา ก็​ปรากฏ​ร่าง​ของ​หญิงสาว​ที่นั่ง​หลัง​ตรง​อยู่​ข้างใน​

นาง​สวม​ชุด​กระโปรง​ผ้า​คา​ดอก​ลาย​เรียบ​ คลุม​ทับ​ด้วย​เสื้อ​ผ้าแพร​ เส้น​ผม​สีดำ​ดุจ​ไหม​คล้อง​หลัง​หู​ ใบหน้า​นั้น​ยังคง​ขาวนวล​หมดจด​ ราวกับ​ไม่ใช่มนุษย์​

นาน​แล้ว​ที่​ไม่ได้​เจอกัน​ ทว่า​กลับ​รู้สึก​เหมือน​เมื่อวาน​

สาวใช้​โบกมือ​ไล่​ เหล่า​ผู้ติดตาม​ก็​ถอย​ออก​ไป​ ปั้น​ฉิน​และ​เหล่า​สาวใช้​คำนับ​ให้​เขา​ มองดู​ท่านชาย​โจว​หก​เดิน​กระแทก​เท้า​ปึงปัง​เข้ามา​ใน​ห้องโถง​

กลิ่น​เหล้า​คละคลุ้ง​ไป​ทั่ว​

สายตา​ของ​ท่านชาย​โจว​หก​กวาด​ไป​เห็น​จอก​ใบ​ใหญ่​ที่​ตั้งอยู่​เบื้องหน้า​เฉิงเจียว​เหนียง​ พร้อมกับ​ไห​เหล้า​ที่​วาง​เรียงราย​

“เจ้าทำ​อะไร​น่ะ​” เขา​ถาม

เฉิงเจียว​เหนียง​ยก​จอก​ตรงหน้า​ขึ้น​

“ดื่มเหล้า​น่ะ​สิ” นาง​ตอบ​ด้วย​รอยยิ้ม​ ก่อน​จะยก​เหล้า​ขึ้น​ดื่ม​จริง​ดังที่​พูด​

ดื่มเหล้า​อย่างนั้น​หรือ​

ท่านชาย​โจว​หก​มอง​นาง​อย่าง​สงสัย​

ปั้น​ฉิน​และ​สอง​สาวใช้​เดิน​เข้ามา​ คน​หนึ่ง​ยก​ไห​เหล้า​ริน​ใส่จอก​ ปั้น​ฉิน​ยก​จอก​เหล้า​มาวาง​ไว้​ตรงหน้า​เฉิงเจียว​เหนียง​ พลาง​จัดเรียง​จอก​เหล้า​ที่ว่างเปล่า​

“นาย​หญิง​ เรือ​นอ​วิ๋น​เซียน​ส่งเหล้า​มาแล้ว​เจ้าค่ะ​” สาวใช้​ที่อยู่​ด้านนอก​เอ่ย​ขึ้น​พลาง​อุ้ม​ไห​เหล้า​ใบ​ไม่เล็ก​ไม่ใหญ่​เดิน​เข้ามา​ ก่อน​จะวาง​เรียง​ไว้​กับ​ไห​เหล้า​ใบ​อื่น​

เหล่า​สาวใช้​ด้านใน​พา​กัน​ริน​เหล้า​จาก​ไห​ที่​ส่งมาใหม่​ใส่จอก​

เฉิงเจียว​เหนียง​วาง​จอก​เหล้า​ที่อยู่​ใน​มือ​ไว้​ข้าง​กาย​ แล้ว​หยิบ​จอก​ใหม่​ขึ้น​มา ทว่า​คราวนี้​กลับ​ไม่ได้​ดื่ม​ ท่านชาย​โจว​หก​เดิน​เข้าไป​ใกล้​ยื่นมือ​ไป​คว้า​ข้อมือ​ของ​นาง​ แต่​เพราะ​ออกแรง​มากเกินไป​ เหล้า​จึงกระฉอก​ออกมา​เปรอะ​เสื้อผ้า​

ชุด​กระโปรง​หน้าร้อน​ผืน​บาง​แนบ​ไป​กับ​เนื้อ​ เผย​ให้​เห็น​ส่วนโค้ง​เว้า​อวบ​อิ่ม​ของ​หญิงสาว​ สอง​ตา​ของ​ท่านชาย​โจว​หก​ที่​มอง​จาก​มุมบน​เห็น​สายน้ำ​ไหลผ่าน​ร่อ​งอก​เต็มตา​

ปั้น​ฉิน​กรีดร้อง​ออกมา​ก่อน​จะรีบ​พุ่งตัว​เข้าไป​

ท่านชาย​โจว​หก​ผงะ​ถอยหลัง​ตั้งแต่​ก่อนหน้า​แล้ว​ ใบ​หน้าแดง​ระเรื่อ​เบน​สายตา​มอง​ไป​ทาง​อื่น​ ท่าทาง​ดู​ตก​ใจเสีย​ยิ่งกว่า​เหล่า​สาวใช้​

“ข้า​ ข้า​ เจ้าดื่มเหล้า​ไม่ได้​ไม่ใช่หรือ​!” เขา​เอ่ย​เสียง​ตะกุกตะกัก​

“ข้า​แค่​ไม่ชอบ​ดื่มเหล้า​ ไม่ใช่ว่า​ดื่ม​ไม่ได้​” เฉิงเจียว​เหนียง​เอ่ย​ พลาง​รับ​ผ้า​จาก​ปั้น​ฉิน​มาเช็ด​เสื้อ​ ก่อน​จะส่งสัญญาณให้​ส่งผ้า​ให้​ท่านชาย​โจว​หก​ด้วย​

เสื้อผ้า​ของ​ท่านชาย​โจว​หก​ก็​เปียก​เช่นกัน​ ทว่า​น้อยกว่า​นาง​นัก​ เขา​ชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง​เมื่อ​เห็น​สาวใช้​ส่งผ้า​มาให้​ แต่​ก็​รับ​มาก่อน​จะก้มหน้าก้มตา​เช็ด​

“แต่ก่อน​ก็​ไม่กล้า​ดื่ม​… เพราะ​สติ​เลอะเลือน​ไม่สมประกอบ​อยู่แล้ว​ ขืน​ดื่มเหล้า​อีก​ กลัว​มาจะเมาจน​หลับ​ไม่ตื่น​”

เสียงพูด​ของ​เฉิงเจียว​เหนียง​ดัง​ขึ้น​ข้าง​หู​ไม่หยุด​

เช่นนั้น​แปล​ว่า​ตอนนี้​ไม่กลัว​แล้ว​อย่างนั้น​หรือ​ หรือว่า​กลัว​ความ​เศร้าโศก​มากกว่า​

“เจ้าทุกข์ใจ​ แต่​ก็​ไม่ควร​ทำร้าย​ตัวเอง​เช่นนี้​” ท่านชาย​โจว​หก​ก้มหน้า​เอ่ย​เสียง​ขุ่น​ “ดื่มเหล้า​ย้อมใจ​จะช่วย​อะไร​ สิ้นคิด​แท้​”

เฉิงเจียว​เหนียง​วาง​ผ้า​ใน​มือ​ลง​แต่​ไม่พูด​อะไร​ต่อ​ หาง​ตา​ของ​ท่านชาย​โจว​หก​เหลือบ​ไป​เห็น​นาง​ยก​จอก​เหล้า​ขึ้น​ดื่ม​อีกครั้ง​

“นี่​!” เขา​เชิดหน้า​ขมวดคิ้ว​ตะโกน​ลั่น​

เฉิงเจียว​เหนียง​มอง​เขา​

“เจ้าก็​ดื่ม​สัก​จอ​กสิ​” นาง​เอ่ย​พลาง​ยกมือ​ส่งสัญญาณให้​สาวใช้​

ปั้น​ฉิน​ยื่น​จอก​เหล้า​ให้​ตามคำสั่ง​

ท่านชาย​โจว​หก​ยื่นมือ​ออก​ไป​รับ​จอก​เหล้า​ก่อน​ยก​ดื่ม​รวดเดียว​หมด​ จากนั้น​ก็​เดิน​มานั่งคุกเข่า​ลง​ข้าง​เฉิงเจียว​เหนียง​ มอง​จอก​เหล้า​ที่​วาง​เรียงราย​อยู่​ข้างหน้า​ ไม่พูดพร่ำทำเพลง​ก็​ยก​ดื่ม​ใน​ทันใด​

ท่วงท่า​ของ​ท่านชาย​โจว​หก​ทั้ง​ฉับไว​และ​รุนแรง​ ทุกคน​ไม่ทัน​ได้​ตั้งสติ​เหล้า​ทั้ง​เจ็ด​จอก​ก็​ถูก​ดื่ม​จน​หมด​

ชายหนุ่ม​ยก​แขน​เสื้อ​ขึ้น​มาเช็ด​ปาก​ พลาง​มอง​เฉิงเจียว​เหนียง​แล้ว​ทอดถอนใจ​

“เป็น​เพราะ​ข้า​ดูแล​พวกเขา​ไม่ดี​” เขา​พ่น​ลมหายใจ​ออกมา​ น้ำเสียง​ที่​เอ่ย​ขึ้น​นั้น​สั่นเครือ​ ฤทธิ์​เหล้า​เริ่ม​ทำงาน​ ใบหน้า​ของ​เขา​เปลี่ยนเป็น​สีแดงก่ำ​ ดวงตา​หยาดเยิ้ม​เพราะ​ความ​มึนเมา​ “เป็น​เพราะ​ข้า​ดูแล​พวกเขา​ไม่ดี​ เจ้าจะให้​ข้า​ทำ​เช่นไร​”

“ไม่เปลี่ยนไป​เลย​สัก​” เฉิงเจียว​เหนียง​มอง​เขา​แล้ว​ยิ้ม​บาง​ “ไม่มีผู้ใด​ต้อง​ดูแล​ผู้ใด​ และ​ก็​ไม่มีผู้​สมควร​ต้อง​ได้รับ​การ​ดูแล​ เรื่อง​ของ​พวกเขา​เอง​ทั้งนั้น​ เกี่ยว​อะไร​กับ​เจ้า”

นาง​พูด​พลาง​ยก​เหล้า​ใน​มือขึ้น​มาทำ​ท่าจะ​ดื่ม​ ท่านชาย​โจว​หก​ยื่นมือ​ออก​ไป​คว้า​ไว้​แล้ว​ยก​ดื่ม​รวดเดียว​หมด​แทน​

“ใช่แล้ว​ ที่​ข้า​พูดถึง​ก็​เป็นเรื่อง​ของ​ข้า​เอง​ ไม่เกี่ยวกับ​เจ้า ไม่เกี่ยวกับ​พวกเขา​” เขา​เอ่ย​ โยน​จอก​เหล้า​แล้ว​ลุก​ยืน​ขึ้น​ จังหวะ​ที่​กำลังจะ​ก้าวเดิน​ออก​ไป​ แข้ง​ขา​ก็​อ่อนแรง​จน​ล้ม​ลง​กอง​บน​พื้น​

“นาย​หญิง​ เมาเสียแล้ว​เจ้าค่ะ​” ปั้น​ฉิน​เดิน​เข้า​ไปดู​แล้ว​พูด​ขึ้น​

“แปด​จอก​ก็​เมาเสียแล้ว​ เหล้า​นี่​ใช้ไม่ได้​เลย​” เฉิงเจียว​เหนียง​เอ่ย​แล้ว​ลุก​ยืน​ขึ้น​ มองดู​ไห​เหล้า​ที่​วาง​เรียงราย​อยู่​ใน​ห้อง​ “ยก​ออก​ไป​แบ่ง​กัน​ดื่ม​เถิด​”

ปั้น​ฉิน​ขานรับ​ มองดู​เฉิงเจียว​เหนียง​เดินผ่าน​ท่านชาย​โจว​หก​ไป​ ก่อน​จะหันไป​มอง​ท่านชาย​โจว​หก​ที่นอน​เมาอยู่​กลาง​โถง

“ใครก็ได้​ มายก​เหล้า​ออก​ไป​ที​” นาง​เดินผ่าน​ท่านชาย​โจว​หก​ไป​ ก่อน​จะเรียก​เหล่า​ผู้ติดตาม​ที่อยู่​ตรง​ลานบ้าน​

ณ วังหลวง​ หมอ​หลวง​ห​ลี่​คลาย​มือ​ออก​ ขันที​อยู่​ซ้าย​ขวา​ก็​คลาย​มือ​ออก​เช่นกัน​ ชิ่งอ๋อง​ที่​ถูกจับ​ให้​นั่งลง​จน​ทนไม่ไหว​ตั้ง​นาน​แล้วก็​วิ่ง​ออก​ไป​ในทันที​

“พา​เขา​ไป​เล่น​ที่​ลาน​กว้าง​เถิด​” จิ้น​อัน​จวิ้น​อ๋อง​เอ่ย​

ขันที​ขานรับ​

“ชิ่งอ๋อง​ร่าย​กาย​แข็งแรง​ดี​พ่ะย่ะค่ะ​” หมอ​หลวง​ห​ลี่​เอ่ย​ พูด​จบกัน​หันไป​ยิ้ม​ให้​จิ้น​อัน​จวิ้น​อ๋อง​ “องค์​ชาย​คง​ได้ยิน​คำ​นี้​จน​เบื่อ​แล้ว​ใช่หรือไม่​ ที่​องค์​ชาย​อยาก​ได้ยิน​คง​ไม่ใช่คำ​นี้​”

จิ้น​อัน​จวิ้น​อ๋อง​หัวเราะ​

“เปล่า​ ข้า​เลิก​หวัง​ตั้ง​นาน​แล้ว​” เอา​เอ่ย​ “ชีวิต​คนเรา​สั้น​นัก​ จะมัว​คิด​เรื่อง​ที่​เป็นไปไม่ได้​ให้​เสียเวลา​ไป​ทำไม​”

หมอ​หลวง​ห​ลี่​มอง​หนุ่มน้อย​ตรงหน้า​ก่อน​พ่น​ลมหายใจ​ออกมา​แล้ว​พยักหน้า​

“องค์​ชาย​เอง​ก็​ต้องหา​ความสุข​บ้าง​นะ​พ่ะย่ะค่ะ​ ชีวิต​คนเรา​สั้น​นัก​” เขา​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​

จิ้น​อัน​จวิ้น​อ๋อง​พยัก​หน้ายิ้ม​

“ข้า​มีความสุข​นัก​ และ​จะมีความสุข​มากกว่า​นี้​ด้วย​” เขา​เอ่ย​

เพียงแค่​คิดถึง​เรื่อง​ที่​ข้า​ทำ​อยู่​ ข้า​ก็​มีความสุข​แล้ว​ หาก​ทำสำเร็จ​ ก็​จะยิ่ง​สุขใจ​กว่า​นี้​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด