ยอดเซลล์แมนทะลุมิติ 552.1

Now you are reading ยอดเซลล์แมนทะลุมิติ Chapter 552.1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เหตุกะทันหันนี้อยู่เหนือความคาดหมายชาวทูเจวี๋ยทั้งหมด ไม่ว่าใครก็คาดไม่ถึงว่าสั่วหลานเข่อผู้กล้าแห่งเอ๋อจี้น่าที่เห็น ๆ อยู่ว่ากำลังได้เปรียบ ท่วงทีดุร้ายป่าเถื่อนนั้น ภายในชั่วพริบตากลับร่วงหล่นจากม้า ถูกชาวต้าหัวโจมตีจนถึงแก่ชีวิต สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างนั้นมีความแปลกประหลาดพิสดารอย่างบอกไม่ถูก ชาวทูเจวี๋ยสามพันคนยืนแน่นิ่งอึ้งอยู่กับที่ เงียบงันไร้ซึ่งสรรพสำเนียง 

 

 

ทหารต้าหัวกลับยินดีเป็นบ้าเป็นหลัง หัวเราะงอหายเรื่องที่เข่นฆ่าหัวหน้าศัตรูอย่างง่ายดาย แม่ทัพหลินช่างเป็นดั่งเทพเสียจริง เกาฉิวชูมือกู่ร้องเสียงดังนำ “แม่ทัพหลินเลิศภพจบแดน ไร้เทียมทาน!” 

 

 

“เฮ! เฮ! เลิศภพจบแดน! ไร้เทียมทาน!” นายทหารห้าพันคนชูดาบทวนและคบเพลิงในมือขึ้นสูง ท่ามกลางแสงไฟอันเจิดจ้า เสียงกู่ร้องยินดีด้วยความตื่นเต้นดังกระหึ่มไปจนถึงสวรรค์ชั้นฟ้า 

 

 

เจ้าเหล่าเกาคนนี้ชอบทำให้คนนับถือเสียจริง! หลินหว่านหรงหัวเราะฮิฮะสองครา เป่าควันที่ปากกระบอกปืนเบาๆ จากนั้นจึงเก็บปืนเข้าไปในอก หักหัวม้าแล้วเดินเยื้องย่างไปข้างกายสั่วหลานเข่อ เห็นว่าชาวทูเจวี๋ยผู้นี้นอนหงายอยู่บนพื้น สองมือสองขาแผ่หลาเป็นตัวอักษร “太” (ไท่) ขนาดใหญ่ บนหน้าผากมีรูโลหิตขนาดยักษ์รูหนึ่ง โลหิตไหลทะลัก เพียงชั่วพริบตาก็ย้อมพื้นหญ้าสีเขียวข้างกายจนแดงฉาน สั่วหลานเข่อเบิกสองตาโพลง ต่อให้ตายไปแล้วก็ยังไม่เข้าใจว่าตนเองพ่ายแพ้ได้อย่างไร 

 

 

หลินหว่านหรงกลับไปยังหน้าขบวนของตนเอง แหงนหน้าหัวร่อยาวๆ “การสู้ตัดสินที่ยุติธรรมมากที่สุดบนโลกเสร็จสิ้นแล้ว สั่วหลานเข่อตายแล้ว! พวกเจ้าชาวทูเจวี๋ยยังไม่รีบลงจากม้ายอมจำนนอีก?!” 

 

 

“ลงจากม้ายอมจำนน ลงจากม้ายอมจำนน!” เหล่าทหารต้าหัวอารมณ์พลุ่งพล่าน กู่ร้องตะโกนออกมาพร้อมเพรียงกัน 

 

 

ชนเผ่านอกด่านสามพันคนต่างมองหน้ากัน พวกมันแม้แต่ฝันก็ยังคิดไม่ถึง สั่วหลานเข่อซึ่งเดิมทีควรเป็นชาวทูเจวี๋ยที่ถนัดการประลองมากที่สุด กล้าหาญดุดันมากที่สุดกลับถูกคนคร่าชีวิตไปโดยไม่รู้ตัว ทั้งยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชาวต้าหัวเจ้าเล่ห์นี้ใช้วิชามารอะไรอีกด้วย นี่ก็สร้างความตื่นตระหนกและแรงกดดันทางทางจิตใจแก่พวกมันอย่างยิ่ง มิหนำซ้ำตามข้อตกลงก่อนการประลองระหว่างสั่วหลานเข่อกับอัวเหล่ากง หากสั่วหลานเข่อพ่ายแพ้จนตัวตาย ชนเผ่านอกด่านสามพันคนจะต้องวางดาบยกมือยอมจำนน สิ่งนี้สำหรับชาวทูเจวี๋ยซึ่งมีนิสัยหมาป่าแล้วถือเป็นการหยามเหยียดอย่างยากจะรับได้ 

 

 

“ชาวต้าหัวที่ไร้ยางอาย พวกเจ้าเล่นตุกติก! ข้าจั่วจ้านไม่มีทางยอมเจ้าแน่!” ท่ามกลางชนเผ่านอกด่านที่เงียบงัน จู่ๆ ก็มีเสียงโมโหเดือดดาลดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง คนผู้นั้นร่างกายแข็งแรงกำยำ ซึ่งก็คือหัวหน้าทหารม้าที่มาช่วยตูเอ่อร์ฮั่นจี้ก่อนหน้านี้นั่นเอง เมื่อสั่วหลานเข่อตาย จั่วจ้านผู้นี้จึงกลายเป็นหัวหน้าสูงสุดของชาวทูเจวี๋ยสามพันคน 

 

 

เกาฉิวแนะนำที่มาที่ไปของคนผู้นี้เสียงเบา หลินหว่านหรงตะโกนเสียงดังออกไปว่า “จั่วจ้านใช่หรือไม่? ได้ยินว่าเจ้าเป็นหัวหน้าจากฮาเอ่อร์เหอหลิน เจ้าอย่ามาใช้จิตใจของคนถ่อยมาประเมินจิตใจของวิญญูชน นี่คือการประลองที่ยุติธรรมมากที่สุดบนโลกนี้ เป็นสั่วหลานเข่อผู้กล้าแห่งเอ๋อจี้น่าที่เอ่ยปากตกลงด้วยตัวเอง แม้เขาจะรบพ่ายแพ้จนตัวตาย แต่กลับยังสง่าผ่าเผยตรงไปตรงมากว่าเจ้ามากนัก เจ้าปฏิเสธไม่ยอมรับผลการสู้ตัดสินอย่างเปิดเผย ไม่เพียงแต่ไม่เคารพต่อผู้กล้าจากเอ๋อจี้น่า ทว่ายิ่งลบหลู่เทพแห่งทุ่งหญ้าอีกด้วย เทพแห่งทุ่งหญ้าจะต้องลงโทษพวกเจ้าแน่นอน 

 

 

หูปู้กุยที่อยู่ด้านข้างฟังแล้วก็หัวเราะพรวดออกมาทันที หากเอ่ยถึงฝีปาก ผู้ใดยังจะเหนือกว่าแม่ทัพหลิน หลายประโยคนี้ไม่เพียงสร้างความร้าวฉานระหว่างฮาเอ่อร์เหอหลินกับเอ๋อจี้น่า แต่ยิ่งยกเอาเทพแห่งทุ่งหญ้าผู้ยิ่งใหญ่มาอีกด้วย ชาวทูเจวี๋ยต่อให้จะกร่างอีกสักเพียงใดก็ไม่กล้าไม่เคารพเทพแห่งทุ่งหญ้า! 

 

 

จริงดังคาด หลินหว่านหรงพอพูดจบ ท่ามกลางชนเผ่านอกด่านก็บังเกิดเสียงทะเลาะเบาะแว้งดังเซ็งแซ่ ชาวต้าหัวใช้แผนเจ้าเล่ห์เช่นนี้ พวกมันมองไม่เห็น แต่สั่วหลานเข่อสาบานโดยใช้เทพแห่งทุ่งหญ้า กลับเป็นสิ่งที่ทุกคนได้ยินกับหู หากตระบัดสัตย์ก็ต้องถูกสวรรค์ลงทัณฑ์ มีชนเผ่านอกด่านที่ซื่อสัตย์บางคนคุกเข่าลงไปแล้ว กำลังสวดภาวนาแด่เทพแห่งทุ่งหญ้า 

 

 

จั่วจ้านหัวหน้าทหารม้าแห่งฮาเอ่อร์เหอหลินเห็นว่าค่อยๆ สูญเสียการควบคุมสถานการณ์ มันจึงสะบัดดาบม้าในมืออย่างฉับพลัน รีบตวาดด้วยน้ำเสียงมีโทสะออกมาว่า “เหล่าผู้กล้าทูเจวี๋ย เชิดศีรษะอันสูงส่งของพวกเจ้าขึ้นมา ห้ามก้มหัวยอมจำนนแด่ชาวต้าหัวที่ต่ำชั้นเป็นอันขาด เพื่อแสดงความจงรักภักดีที่พวกเรามีต่อท่านข่าน ฆ่าชาวต้าหัว! บุก!” 

 

 

มันและม้าบุกอยู่ข้างหน้าสุด ทหารม้าในดินแดนตนหลายพันนายตามติดอยู่ข้างหลังมัน ทุ่งหญ้าบังเกิดลมสลาตันอันรุนแรงขึ้นมาหอบหนึ่ง ชาวทูเจวี๋ยซึ่งเดิมทียังลังเลตัดสินใจไม่ได้ เพียงชั่วพริบตาก็ถูกสัญญาณบุกตะลุยนี้กระตุ้นสันดานหมาป่าขึ้นมา พวกมันส่งเสียงขู่แฮ่ๆ แล้วพลิกตัวขึ้นหลังม้า รวมตัวกันจนกลายเป็นสายน้ำที่ไหลทะลักสายหนึ่ง บุกเข่นฆ่าเข้าให้กระบวนทัพต้าหัว 

 

 

ทอดสายตามองจุดดำจำนวนนับไม่ถ้วนที่วิ่งห้อตะบึงมาอย่างเร็วรี่บนทุ่งหญ้า หลินหว่านหรงก็รู้สึกเดือดดาลยิ่งนัก “มารดามัน! เจ้าชนเผ่านอกด่านพวกนี้ช่างดื่มนมแพะแล้วฉี่เหม็นจริงๆ ด้วย ไม่มีความน่าเชื่อถือเลยสักนิด!” 

 

 

หูปู้กุยหัวเราะ “ไม่มีความน่าเชื่อถือก็ยิ่งดี อีกประเดี๋ยวพวกเราลงมือขึ้นมาจะได้ยิ่งถูกต้องเที่ยงธรรมมากขึ้น ถอย พี่น้องทั้งหลาย ถอยไปให้หมด!” 

 

 

หูปู้กุยออกบัญชา ทหารม้าต้าหัวห้าพันนายหักหัวม้าวิ่งห้อตะบึงจากไป จั่วจ้านเห็นรูปการณ์แล้วยินดียิ่งนัก “ชาวต้าหัวผู้อ่อนแอ ไม่กล้าสู้ตัดสินกับพวกเรา! ผู้กล้าทั้งหลาย ตามข้าไปฆ่ามัน!” 

 

 

“ฆ่า!” เมื่อเห็นทหารม้าต้าหัวถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว เลือดลมหมาป่าของชาวทูเจวี๋ยก็พลุ่งพล่านขึ้นมาทันที ลืมเลือนการลงทัณฑ์จากเทพแห่งทุ่งหญ้าอะไรนั่นไปตั้งแต่แรก พวกมันเร่งม้าศึก ชูดาบวาววับที่อยู่ในมือขึ้น แย่งกันกู่ร้องหวีดหวิว ท่วงท่าดุร้ายน่ากลัว 

 

 

เพียงอึดใจเดียวก็วิ่งออกมาได้สองลี้ ม้าทูเจวี๋ยซึ่งวิ่งบุกตะลุยอยู่ข้างหน้าสุดจำนวนหลายร้อยตัวหลั่งเหงื่อโลหิตประดุจสายฝนทั่วร่าง ส่งเสียงหอบหายใจหนักๆ ดังฟืดฟาด ร่างกายค่อยๆ เริ่มสั่นเทา ทหารม้าทูเจวี๋ยยังไม่รู้ตัว ม้าศึกซึ่งกำลังวิ่งอย่างรวดเร็วพลันร่างวูบลงไปหนึ่งช่วง เท้าทั้งสี่ไม่อาจออกแรงได้อีก ล้มตรงๆ ไปข้างหน้าทันที 

 

 

“อ๊า!” ชาวทูเจวี๋ยที่ตกใจจนหน้าถอดสีถูกเหวี่ยงออกไปราวกับโยนก้อนหิน ร่างหมุนหลายรอบกลางอากาศ ล้มลงตรงๆ กระแทกพื้น ร้องโอดโอยอย่างน่าอนาถ ม้าศึกร้องโหยหวนเสียงแหบพร่า ดังไปทั่วสนามรบต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน ทหารม้าที่บุกตามหลังมารั้งไม่ทัน กีบเท้าม้ารุนแรงเหยียบย่ำร่างของสหายและม้าศึก ร่วงออกไปครั้งหนึ่ง ม้าศึกทูเจวี๋ยจำนวนนับไม่ถ้วนที่กำลังวิ่งอย่างเร็วรี่จู่ๆ ก็เหมือนหล่นวูบกลางอากาศ ล้มลงภายในชั่วพริบตา ลอยปลิวว่อนอยู่กลางอากาศ ทุกแห่งหนเต็มไปด้วยร่างของชนเผ่านอกด่าน 

 

 

ชาวต้าหัวซึ่งเดิมที่ ‘หลบหนี’ อย่างเร็วรี่หัวหัวกลับมาโดยพร้อมเพรียง หูปู้กุยดึงบังเ**ยน หัวเราะฮ่าๆ แล้วพูดว่า “ชาวทูเจวี๋ยคนตระบัดสัตย์ เทพแห่งทุ่งหญ้าเริ่มลงโทษพวกเจ้าแล้ว พี่น้องทั้งหลาย บุก!” 

 

 

“บุก!” ทหารม้าต้าหัวที่หักหัวกลับมาประหนึ่งยอดขุมบรรพตที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วบนทุ่งหญ้า บุกเข้ามาราวกับลมพายุ เมื่อเทียบกับชาวทูเจวี๋ยก็ยิ่งเหนือกว่าจนไม่อาจเทียมทัดได้ ระยะทางหลายลี้ประชิดเข้ามาใกล้ภายในชั่วพริบตา ชาวทูเจวี๋ยซึ่งยังคงร้องร้องครวญคราวโอดโอยอยู่บนพื้นพวกนั้นมองดูดาบสังหารของชาวต้าหัวที่ฟันลงมา ถึงกระนั้นกลับหมดเรี่ยวแรงต้านทานหลบหลีก ท่ามกลางประกายโลหิตอันไม่มีที่สิ้นสุด ชาวทูเจวี๋ยจำนวนนับไม่ถ้วนกลายเป็นวิญญาณอันแดดิ้นใต้คมดาบทหารต้าหัว เสียงร้องด้วยความตกใจ เสียงร้องโอดโอย กรีดผ่านความเงียบสงัดของทุ่งหญ้าระลอกแล้วระลอกเล่า ดังก้องไปทั่วท้องนภา 

 

 

มองดูคนในเผ่าของตนที่มีจำนวนนับไม่ถ้วนร่วงหล่นจากม้า ม้าทูเจวี๋ยอันแข็งแรงบึกบึนไร้เทียมทานในกาลก่อนล้มลงบนพื้นน้ำลายฟูมปาก เมื่อลองคิดถึงสั่วหลานเข่อซึ่งถูกโจมตีจนตายอย่างน่าประหลาด ในที่สุดจั่วจ้านก็บังเกิดปัญญา มันรีบตะโกนเสียงหลง “แย่แล้ว พวกมันเล่นตุกติกกับม้าศึก ลงจากม้า รีบลงจากม้า!” 

 

 

ยามนี้ชนเผ่านอกด่านตกลงสู่ห้วงสนามรบโดยสิ้นเชิง แล้วจะมีสักกี่คนที่ได้ยินเสียงร้องตะโกนของมันกัน?! ม้าทูเจวี๋ยจำนวนนับไม่ถ้วนที่พุ่งไปข้างหน้าตามกันล้มลงไปทีละตัว ม้าแต่ละตัว ชาวทูเจวี๋ยแต่ละคน ต่างกลายเป็นเป้าสังหารของทหารม้าต้าหัว เมื่ออยู่ต่อหน้าความสับสนอลหม่านซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัวนี้ สถานการณ์จึงสูญเสียการควบคุมโดยสิ้นเชิง ต่อให้เป็นชาวทูเจวี๋ยที่ฝึกฝนมาอย่างดีมากที่สุดก็ไม่อาจรวมกลุ่มเพื่อป้องกันและโต้กลับอย่างมีประสิทธิภาพได้ พวกมันทำได้แค่มองดูคนในเผ่าตนเองล้มลงทีละคนเท่านั้น ความหวาดผวาและความสิ้นหวังที่ไม่เคยมีมาก่อนครอบคลุมจิตใจของทุกคน 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด