ยอดเซลล์แมนทะลุมิติ 586 – 1 ใครหลอกใคร

Now you are reading ยอดเซลล์แมนทะลุมิติ Chapter 586 - 1 ใครหลอกใคร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เนื่องจากแผนการเจ้าเล่ห์ของอวี้เจียเกือบจะบรรลุจนแทบจะทำลายงานใหญ่ ดังนั้นการเฝ้าดูสาวน้อยทูเจวี๋ยผู้นี้จึงไม่อาจเลินเล่อชะล่าใจได้ ริบดาบทองของนางมา ทั้งยังมัดนางอย่างแน่นหนา จวบจนนางนอนอยู่บนพื้นหญ้าอย่างอ่อนแรงไร้กำลังไม่อาจขยับเขยื้อนได้อีก หลินหว่านหรงถึงวางใจอย่างสิ้นเชิง 

 

 

เมื่อกลับมายังกระโจมแม่ทัพอันซอมซ่อ ล้มตัวนอนลงบนกองหญ้าที่สุมอย่างลวกๆ เมื่อนึกว่าสถานที่แห่งนี้อยู่ห่างจากเค่อจือเอ่อร์ไม่เกินสามร้อยลี้ อ๋องขวาทูเจวี๋ยผู้เก่งกล้าสามารถก็ยังตั้งค่ายพักอยู่ริมทะเลสาบห่างออกไปยี่สิบลี้ เขาก็พลิกตัวไปมา ทำอย่างไรก็นอนไม่หลับ 

 

 

นับตั้งแต่ออกจากเมืองหลวงจนล่วงลึกเข้าสู่เค่อจือเอ่อร์ก็เป็นเวลาหลายเดือนแล้ว ไม่รู้ว่าพวกของเฉี่ยวเฉี่ยว คุณหนูใหญ่อยู่บ้านจะเป็นอย่างไรบ้าง เซียนเอ๋อร์จะหาเรื่องชิงเสวียนอีกหรือไม่ หนิงเอ๋อร์กับคุณหนูใหญ่จะทะเลาะกันหรือไม่ ยอดหญิงลั่วจะวาดภาพปลุกอารมณ์ที่ให้ข้าดูได้คนเดียวพวกนั้นอีกหรือไม่ สาวน้อยผู้งดงามเหล่านี้จะคิดถึงสามีเช่นข้าอยู่บ่อยครั้งหรือไม่ 

 

 

เมื่อคำนวณวันเวลา ท้องของชิงเสวียนก็น่าจะโย้โตแล้ว เด็กน้อยที่อยู่ในนั้นที่แท้เป็นลูกชายหรือลูกสาวกันนะ? เขาจะรู้หรือไม่ว่าพ่อของเขากำลังรบอยู่ข้างนอก 

 

 

ไม่คิดก็พอทำเนา การบังเกิดความรู้สึกครั้งนี้ ความคนึงหาอันรุนแรงก็ถั่งท้นขึ้นมาราวกับกระแสน้ำหลากในทะเลสาบแห่งนี้ ใบหน้าอันน่าลุ่มหลงแต่ละดวง บางครั้งก็งดงามเย็นชา บางครั้งก็เอียงอายยวนเย้า บางครั้งก็งามหยาดเยิ้มทรงเสน่ห์ แต่ละใบหน้าต่างผุดอยู่ตรงหน้าเขา ทำให้ใจเขาทั้งยินดีทั้งร้าวรอน อยากจะเสียบปีกแล้วรีบรุดโบยบินกลับเมืองหลวง พร่ำพรรณนาความในใจกับฮูหยินทุกคนให้มันรู้แล้วรู้รอดไป เมื่อคิดถึงความรักอันลึกซึ้งน้ำตาก็คลอเบ้า ใกล้จะไหลรินมาตั้งแต่แรก 

 

 

รู้สึกแบบนี้ก็นอนไม่ได้แล้ว! ด้วยความร้อนรนกระวนกระวายใจ เขาจึงตะกายขึ้นมาจากกองหญ้า วักน้ำสะอาดขึ้นมาสาดใส่ใบหน้า ความรู้สึกเย็นเฉียบชำแรกเข้าสู่จิตใจ เขาพ่นลมหายใจยาว รู้สึกเหมือนหน้าอกมีวัตถุอ่อนนุ่มบางอย่างกำลังกดทัพอยู่ตรงหัวใจ คันยุบยิบ 

 

 

เขาล้วงควักอยู่ในอกสองสามที เมื่อดึงออกมากลับต้องหัวเราะพรวดโดยพลัน มนุษย์หญ้าที่เยวี่ยหย่าเอ๋อร์ถักขึ้นมานี้ช่างน่าสนใจเสียจริง คิ้วชี้ตาถลน ทั้งยังสวมชุดชนเผ่านอกด่านให้ข้าอีกด้วย หรือว่านางคิดจะให้ข้าเป็นเขยขวัญของนางให้จงได้? เพียงแต่ฝีมือของแม่หนูคนนี้ไม่แน่เลยจริงๆ อย่างน้อยก็วาดข้าค่อนข้างหล่ออยู่บ้าง 

 

 

ขณะที่กำลังพลิกมองมนุษย์หญ้าตัวนั้นกลับไปกลับมาด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่อง ข้างกายกลับมีเสียงพรืดดังออกมาคราหนึ่ง เสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้นมา เสียงของนางเซียนหนิงลอยแว่ว “นี่เป็นมนุษย์หญ้าที่ผู้ใดทำขึ้นมา ดูแล้วเหมือนเจ้ายิ่งนัก…เหมือนกับโจรน้อย!” 

 

 

“พี่สาวกล่าวถูกต้องที่สุดแล้ว” หลินหว่านหรงหมุนกายกลับมาหน้าระรื่น จับสองมือนางแน่น “ข้าก็คือโจรน้อย โจรน้อยที่ขโมยหัวใจนางเซียนโดยเฉพาะ” 

 

 

“หน้าไม่อาย” หนิงอวี่ซีหน้าแดงเล็กน้อย ดึงมนุษย์หญ้าตัวน้อยมาจากมือเขา มองพินิจพิจารณาอยู่หลายครั้ง ส่ายหน้าด้วยความจนใจ “สตรีทูเจวี๋ยผู้นี้กลับมีจิตใจละเอียดถ้วนถี่และฝีมือดีมากนัก เพียงแต่น่าเสียดาย ต่อให้นางจะฉลาดอีกสักเพียงใด กลับตกอยู่ในกรงขังของเจ้า ต่อให้ดิ้นรนอีกสักเพียงใดก็ดิ้นไม่หลุดเสียแล้ว” 

 

 

น้ำเสียงของนางแผ่วเบา แฝงความเสียใจอยู่บ้าง ที่พูดทางแจ้งคืออวี้เจีย ถึงกระนั้นกลับไม่ได้กำลังแสดงถึงสภาวะจิตใจของตนเองยามนี้หรอกหรือ? 

 

 

หนิงอวี่ซีผิวพรรณเหนือล้ำกว่าหิมะ อาภรณ์ขาวดั่งเซียน ยืนงดงามใต้จันทรา ดั่งมนุษย์ที่อยู่ในภาพวาด เพียงแต่เมื่อหว่างคิ้วปรากฏความกลัดกลุ้มเศร้าสร้อยจางๆ ถึงทำให้นางเซียนผู้งามพิลาสนางนี้เพิ่มกลิ่นไปความเป็นมนุษย์ขึ้นมาหลายส่วน 

 

 

หลินหว่านหรงกุมมือนางพร้อมส่ายหน้าเล็กน้อย “พี่สาวเทพเซียน ท่านอยู่บนหุบเขาเซียนมานาน เห็นแดนเซียนจนคุ้นชิน ไม่เคยสัมผัสลึกซึ้งกับความปากหวานก้นเปรี้ยว หลอกลวงซึ่งกันและกัน ดังนั้นถึงพูดเช่นนี้ อวี้เจียผู้นี้แม้จะอายุน้อย แต่หาใช่คนชนชั้นธรรมดาแน่นอน หากพูดว่านางมุดเข้ามาอยู่ในกรงขังของข้า เช่นนั้นก็ออกจะดูแคลนนางเกินไปจริงๆ แล้ว การดูเบาผู้อื่นต้องจ่ายค่าตอบแทน” 

 

 

นางเซียนมองเขาด้วยความสงสัย “ความหมายของเจ้าก็คือนางหลอกเจ้า?! นี่จะเป็นไปได้อย่างไร?! ในทะเลแห่งความตาย นางมอบน้ำสะอาดทั้งหมดให้เจ้า เทียนซานหิมะถล่มก็ยิ่งช่วยชีวิตเจ้าโดยไม่เสียดายชีวิต! หากแสดงละครแล้วแสดงได้ขนาดนี้ เช่นนั้นสตรีผู้นี้ก็ออกจะน่ากลัวอยู่บ้างแล้วจริงๆ” 

 

 

หนิงอวี่ซีพูดความจริงทุกประการ การกระทำทุกประการของเยวี่ยหย่าเอ๋อร์ ในฐานะผู้ที่อยู่ในสถานการณ์ หลินหว่านหรงสัมผัสได้อย่างจริงแท้แน่นอนมากที่สุด เขาส่ายหน้าอย่างหนักแน่น “จะแสดงละครหรือไม่ ตอนนี้ข้าไม่อาจแยกแยะได้ สิ่งที่ข้ายืนยันได้เพียงหนึ่งเดียวก็คือ เป้าหมายของการกระทำทั้งหมดของอวี้เจียไม่มีทางง่ายดายเช่นนั้นแน่นอน พี่สาวท่านลองคิดดู ข้ากับนาง คนหนึ่งคือชาวต้าหัว คนหนึ่งคือชาวทูเจวี๋ย เดิมทีก็เป็นศัตรูคู่แค้นอยู่แล้ว ต่อให้เพราะข้าหน้าตาหล่อเหลาสง่างาม โดดเด่นเหนือผู้อื่นจนทำให้นางเกิดจิตใจใฝ่ปองต่อข้าก็ตาม แต่ด้วยสถานะที่เป็นศัตรูกันของพวกเรา นางแสดงออกอย่างรีบร้อนเช่นนี้มันออกจะรีบร้อนเกินไปหรือไม่?” 

 

 

หล่อเหลาสง่างาม โดดเด่นเหนือผู้อื่นอะไรกัน! หนิงอวี่ซีหัวเราะพลางมองค้อนเขาคราหนึ่ง “ความหมายของเจ้าก็คือ เมื่ออยู่สถานะที่เป็นศัตรูกันเช่นพวกเจ้า ต่อให้นางชอบเจ้าก็น่าจะเก็บงำ หรือกระทั่งไม่อาจให้เจ้ารู้ได้ ใช่หรือไม่?” 

 

 

หลินหว่านหรงผงกศีรษะด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “เมื่อพูดจากหลักการ การแอบรักก็น่าจะเป็นเช่นนี้! ยิ่งไปกว่านั้นนางยังแอบรักศัตรูอีกด้วย! แม้นางจะเป็นสตรีทูเจวี๋ยผู้กล้าหาญและมีอิสรเสรี แต่นางไม่อาจคำนึงถึงความรู้สึกของบิดามารดา และคนในเผ่านางกระมัง?” 

 

 

นางเซียนครุ่นคิดเล็กน้อย จากนั้นจึงส่งเสียงอืมเบาๆ “ที่เจ้าพูดอาจมีเหตุผล สตรีที่ร่างกายและจิตใจตกอยู่ในเงื้อมมือผู้อื่นไม่อาจใช้เหตุผลปกติมาวิเคราะห์ได้เด็ดขาด ก็เหมือนข้า…ผู้ใดบ้างที่ไม่ช่วงที่เสียสติ?!” 

 

 

นางพูดไปพูดมาใบหน้าก็แดงซ่าน ก้มหน้าลงไปอย่างเงียบงัน ท่าทางอยากจะพูดทว่าเอียงอายนั้นช่างกวักวิญญาณอย่างล้นเหลือ 

 

 

พี่สาวเทพเซียนพูดจายิ่งเหมือนผู้หญิงมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว หลินหว่านหรงมองอย่างเหม่อลอย เมื่อเห็นนางเซียนค่อยๆ ร่วงหล่นลงสู่โลกโลกีย์ทีละก้าวทีละก้าวด้วยตาตนเอง ความรู้สึกเช่นนี้หาใช่คนธรรมดาทั่วไปที่จะสัมผัสได้ 

 

 

เขาหัวเราะร่วน ส่ายหน้าแล้วเอ่ยว่า “อวี้เจียก็คืออวี้เจีย จะเอานางมาพูดเปรียบเทียบกับพี่สาวนางเซียนได้อย่างไรกัน ความจริงแล้วความสงสัยที่ข้ามีต่ออวี้เจียหาใช่มีเท่านี้” 

 

 

“หาใช่มีเท่านี้?” นางเซียนมองเขาด้วยความงุนงง “หรือว่ายังมีเรื่องอื่นอีก?!” 

 

 

หลินหว่านหรงผงกศีรษะ สีหน้าหนักอึ้งในทันที “อันที่จริงนับตั้งแต่วันแรกที่จับตัวนางมา ข้าก็เริ่มสงสัยในเจตนาของนางแล้ว! หลังจากเผาปาเยี่ยนเฮ่าเท่อ ทัพของข้ายังไม่ทันได้ถอนตัวก็เจอนางโดยบังเอิญ เวลามันช่างประจวบเหมาะเกินไป ส่วนขั้นตอนในการจับกุมนาง เมื่อเทียบกับรูปโฉมอันงามล้ำเลิศของนางก็ออกจะง่ายดายเกินไปนัก ลองคิดดูว่าสตรีที่งดงามเช่นนี้ เหตุใดถึงมาขลุกอยู่กับขบวนพ่อค้านับร้อยคนได้ ซ้ำการป้องกันก็ผ่อนคลายเช่นนี้อีก ยิ่งไปกว่านั้นถูสั่วจั่วอ๋องขวาทูเจวี๋ยต้องตาต้องใจนางมากขนาดนี้ สถานะของนางไม่มีทางธรรมดาแน่นอน แล้วเหตุใดถึงมาโผล่ในสถานที่ที่อันตรายมากที่สุดอย่างแนวหน้าบนทุ่งหญ้าด้วยความประมาทเลินเล่อเช่นนั้นได้? ท่านว่า ข้าจะไม่สงสัยนางได้หรือ?!” 

 

 

นางเซียนตะลึงงันเล็กน้อย ฟังการวิเคราะห์ของโจรน้อยแล้วก็มีเหตุผลอยู่บ้างจริงๆ  

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด