อยากกินไหมล่ะ 823 เกี๊ยวใส่พริกไทย

Now you are reading อยากกินไหมล่ะ Chapter 823 เกี๊ยวใส่พริกไทย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อยากกินไหมล่ะ 美食供应商

บทที่ 823 เกี๊ยวใส่พริกไทย

ทันทีที่โจวซื่อเจี๋ยกล่าววาจาเช่นนั้นออกมา หยางซู่ซินก็รู้สึกโกรธจนควันแทบลอยขึ้นศีรษะ แต่เพื่อผลงานแกะสลักมังกรนพเก้าของตนเองแล้ว เขาได้แต่อดทนที่จะไม่ปาโทรศัพท์ออกไป

แม้จะเป็นเช่นนั้น ทว่าเขากลับหายใจฟืดฟาดก่อนที่จะพูดว่า “เยี่ยมมาก โจวซื่อเจี๋ย นายกำลังดูถูกช่างแกะสลักน้ำแข็งอยู่สินะ? เห็นทีฉันคงต้องแสดงให้นายเห็นถึงความยิ่งใหญ่ของเราบ้างเสียแล้วล่ะ”

“โห ฉันไม่รู้เรื่องการแกะสลักน้ำแข็งหรอกนะ ใช่ว่าฉันจะดูถูกการแกะสลักน้ำแข็งของนายหรอกนะ แต่ฉันไม่คิดว่านายจะทำสำเร็จหรอก” โจวซื่อเจี๋ยกล่าวเสียงแข็ง

“หึ นายคอยดูก็แล้วกัน คราวหน้าตอนที่นายอยากได้ให้แกะสลักถ้วยน้ำแข็งหรืออะไรสักอย่างก็อย่ามาขอร้องให้ฉันช่วยก็แล้วกัน” หยางซู่ซินกล่าวอย่างเย็นชา

“ไม่เป็นไร นายบอกว่าหยวนน้อยแกะสลักน้ำแข็งได้ยอดเยี่ยมไม่ใช่หรือไง? แถมพวกเรายังอยู่ใกล้กันแค่นี้เองนะ” โจวซื่อเจี๋ยกล่าวพลางยิ้มกว้าง

โจวซื่อเจี๋ยเป็นคนที่ทำตัวให้สมวัย เขามักจะถูกหยางซู่ซินหัวเราะเยาะที่ไม่รู้วิธีแกะสลักน้ำแข็งและน่าเสียดายที่สำหรับเขาแล้ว อาหารจานพิเศษของเขาต้องมีจานที่แกะสลักด้วยน้ำแข็งเป็นเครื่องประดับเพื่อให้สามารถเข้าถึงความสมบูรณ์แบบได้ และหยางซู่ซินกลับมีฝีมือในการแกะสลักน้ำแข็งเป็นพิเศษเสียได้

คราวนี้เขาสามารถจับจุดอ่อนของหยางซู่ซินเอาไว้ได้แล้ว โจวซื่อเจี๋ยย่อมไม่ยอมปล่อยโอกาสที่จะได้แก้เผ็ดครั้งนี้ไปอย่างแน่นอน ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มทุ่มเถียงกัน

โจวซื่อเจี๋ยพูดด้วยน้ำเสียงเฉยเมยพลางยิ้มกว้าง ส่วนอีกด้านหนึ่งของปลายสาย หยางซู่ซินกำลังระงับความโกรธของตนเองด้วยความยากลำบากยิ่งเพื่อผลงานแกะสลักมังกรนพเก้าของเขานั่นเอง

หยวนโจวไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ เขาเอาแต่ยุ่งง่วนกับเรื่องของตัวเอง

หยวนโจวที่ยังเวียนศีรษะและไร้เรี่ยวแรงต้องอ่านประกาศถึงสามครั้งกว่าจะเข้าใจสิ่งที่เจ้าระบบกำลังบอกเขาเรื่องที่บรรลุภารกิจแล้ว

“คราวนี้สำเร็จจริงๆแล้วสินะ? ดูเหมือนวิดีโอโปรโมตจะถูกโพสต์ลงไปแล้ว” หยวนโจวบ่นพึมพำแล้วเริ่มอ่านภารกิจ

“แลกรางวัลเลยก็แล้วกัน” หยวนโจวพึมพำ

เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “ได้รับรางวัลแล้ว กรุณาตรวจสอบดู”

[ภารกิจตำแหน่ง] กลายเป็นเชฟด้านอาหารที่ปรุงขึ้นมาจากข้าวสาลีขั้นกลาง

(เคล็ดลับในการทำภารกิจ: สุดยอดเชฟที่ไม่อยากเป็นสุดยอดเชฟด้านอาหารที่ปรุงขึ้นมาจากข้าวสาลีไม่มีคู่ควรที่จะเป็นสุดยอดเชฟหรอกนะ ไปซะเจ้าหนุ่ม ประกาศให้โลกรู้เสียเลยสิว่าคุณคือเชฟด้านอาหารที่ปรุงขึ้นมาจากข้าวสาลี)

[รางวัลในการทำภารกิจ] เลื่อนขั้นเป็นเชฟด้านอาหารที่ปรุงขึ้นมาจากข้าวสาลีขั้นกลาง (พร้อมตำแหน่ง)

(เคล็ดลับในการได้รางวัล: ของว่างท้องถิ่นเฉิงตูตำหรับเสฉวนชุดหนึ่งพร้อมที่จะนำมาวางจำหน่ายแล้ว เจ้านายอาจจะเพิ่มมันเข้าไปในเมนูเลยก็ได้นะ)

หยวนโจวเพิ่งจะฟื้นไข้ ดังนั้นเขาจึงยังคงรู้สึกเวียนศีรษะอยู่ เขาไม่มีท่าทีตอบสนองแต่อย่างใดในแวบแรก เมื่อเขาอ่านคำอธิบายอีกครั้งอย่างผิดวิสัยก็พบว่ามีบางอย่างที่แตกต่างออกไปเกี่ยวกับเคล็ดลับในการได้รางวัล

“เจ้าระบบ ต้องมีข้อผิดพลาดตรงไหนสักแห่งเป็นแน่เลย?” หยวนโจวถามด้วยความสงสัย

เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “กรุณาชี้ให้เห็นด้วย เจ้านาย”

“ก่อนหน้านี้แกมอบหนังสือเล่มหนาๆมาให้ฉันแล้วบอกฉันว่าฉันสามารถเลื่อนตำแหน่งได้หลังจากอ่านจบแล้ว จากนั้นฉันก็เริ่มทำขนมมาตั้งหลายอย่างแล้ว ทำไมรางวัลของภารกิจนี้ถึงได้เหมือนกันเลยล่ะ?” หยวนโจวถามขึ้นมา

เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “ภารกิจครั้งนี้เป็นส่วนขยายของภารกิจนั้นอย่างไรเล่า”

“นำรางวัลกลับมาใช้ใหม่สองครั้งเลยรึ? เจ้าระบบ หัดละอายใจเสียบ้างก็ดีนะ” หยวนโจวตอบหลังจากเงียบไปสักครู่

เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีจึงไม่มีความละอายทั้งทางจิตและวิญญาณ”

“โฮ่โฮ่” จู่ๆหยวนโจวก็รู้สึกเหมือนอาการเวียนศีรษะจะลามไปทั่ว แน่นอนว่านั่นย่อมสืบเนื่องมาจากสารอะดรีนาลินจากการที่ถูกเจ้าระบบยั่วยุให้โกรธ

“ฉันออกจะเป็นคนใจกว้างดังนั้นฉันจะไม่เถียงกับแกหรอกนะ” หยวนโจวกล่าวแล้วลุกขึ้นเตรียมตัวไปล้างหน้า

ถึงอย่างไรเขาก็กำลังเหงื่อออกเพราะไข้หวัด ทั่วทั้งตัวจึงรู้สึกเหนียวเหนอะหนะและนี่หาใช่สิ่งที่ทำให้หยวนโจวพึงพอใจเลยสักนิดเดียว

หลังจากอาบน้ำแล้ว หยวนโจวก็ไปที่ร้าน หลังจากเปิดไฟแล้วเขาก็เปิดประตู ตอนนี้เลยเวลาอาหารค่ำมาแล้ว ด้านนอกมีคนเดินเท้าอยู่เพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้น

ไม่บ่อยนักที่จะได้เห็นถนนว่างเปล่าเช่นนี้ แต่คนคุ้นเคยกลับยังคงยืนอยู่ด้านนอก

“โจวเจียรึ?” หยวนโจวตะโกรเรียก

“รู้สึกดีขึ้นหรือยังคะเถ้าแก่?” โจวเจียหันมาด้วยสีหน้ายินดีแกมประหลาดใจ

“อืม ฉันรู้สึกดีขึ้นแล้วล่ะ” หยวนโจวพูดอย่างไม่ใส่ใจ

“งั้นก็ดีแล้วล่ะค่ะ ดีใจที่ได้ยินแบบนั้นจัง ฉันจะไปเอาของขวัญที่ลูกค้ามอบไว้มาให้นะคะ ของพวกนั้นล้วนแล้วแต่เป็นของขวัญที่คุณเพิ่งจะได้รับเมื่อไม่นานมานี้เองแหละค่ะ” โจวเจียรู้สึกตื่นเต้นเสียจนหน้าแดง

“ฉันคงรบกวนเธอเข้าให้แล้ว” หยวนโจวกล่าว

“ไม่หรอกค่ะ ไม่รบกวนเลยสักนิด ยังไงฉันก็บอกเซินหมินไปแล้วว่าคืนนี้ไม่ต้องมา” โจวเจียหันกลับไปบอกหลังจากสืบเท้าไปข้างหน้าได้สองก้าว

“อืม” หยวนโจวพยักหน้า

“เอาล่ะ ฉันจะไปเอาของขวัญจากร้านลุงหวังมาให้นะคะ” โจวเจียกล่าว

“พอจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นไปเรียกอู๋ไห่ลงมาด้วยนะ” จู่ๆหยวนโจวก็กล่าวขึ้นมา

“ได้ค่ะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ” โจวเจียพยักหน้าแล้วเดินจากไป

หยวนโจวกลับเข้าไปในร้าน เขาตัดสินใจที่จะแลกของว่างท้องถิ่นเฉิงตูตำหรับเสฉวนมาเป็นอาหารค่ำ

“อาหารรสเผ็ดจะช่วยให้ฉันเหงื่อออกได้มากขึ้นและรวดเร็วขึ้น” หยวนโจวพึมพำแล้วเริ่มทำอาหาร

หยวนโจวกำลังจะทำเกี๊ยวโรยพริกไทย นี่คืออาหารที่ทั้งร้อน ชาและหอมกรุ่นเหมาะสำหรับหยวนโจวที่พยายามขับเหงื่อมากทีเดียว

เจ้าระบบเป็นผู้เตรียมวัตถุดิบต่างๆเอาไว้ให้ ขั้นแรกเขาต้องเตรียมเนื้อบดเสียก่อน โดยเขาจะผสมเนื้อหมูกับเนื้อวัวก่อนที่จะนำมาบด จากนั้นเขาก็จะผสมหอมและกระเทียมที่เป็นเครื่องปรุงรสลงไป

ตุ้บ! ตุ้บ! ตุ้บ! หยวนโจวจับมีดทำครัวไว้ให้มั่นแล้วหั่นเนื้อลงบนเขียง ในขณะเดียวกันมือซ้ายของเขาก็มัวแต่ยุ่งกับการนวดแป้งเพื่อเตรียมห่อเกี๊ยว

ในขณะที่หยวนโจวมัวแต่ยุ่งง่วนกับการเตรียมอาหารค่ำอยู่นั้น โจวเจียก็กำลังเคลื่อนย้ายของขวัญอย่างเอาเป็นเอาตาย เนื่องจากมีของอยู่มากมาย เธอจึงต้องเดินไปเดินมาถึงสี่เที่ยวกว่าจะย้ายเสร็จสรรพ เมื่อเธอจัดการเรียบร้อยแล้วก็เงยหน้ามองไปทางหยวนโจว

“เถ้าแก่ทำอาหารเหรอคะ?” โจวเจียค่อนข้างกังวลใจ

“อืม มื้อเย็นน่ะ” หยวนโจวตอบพลางห่อเกี๊ยวโดยไม่หยุดมือ ในการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเขาก็สามารถห่อเกี๊ยวเสร็จไปลูกหนึ่งซึ่งทำให้เกี๊ยวขาวนุ่มดูราวกับนกพิราบตัวน้อย

“แต่คุณเพิ่งจะดีขึ้นเองนะคะ” โจวเจียกล่าว

“ฉันเองก็ยังต้องกินอะไรบ้างนะ ไปเรียกอู๋ไห่มาได้แล้ว” หยวนโจวกล่าว

“ได้ค่ะ” โจวเจียพยักหน้าแล้วข้ามถนนก่อนที่จะปีนบันไดขึ้นไป

งานของโจวเจียเสร็จสิ้นลงอย่างราบรื่น ทันทีที่เธอบอกว่าหยวนโจวให้มาตามเขาไป อู๋ไห่ก็รีบตามโจวเจียออกจากบ้านไปในทันที แน่นอนว่าเขาย่อมสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วอยู่แล้วเพราะเพราะหาได้อยู่ท่ามกลางภาพเขียนแต่อย่างใดไม่

เมื่อพวกเขามาถึงร้านก็มีชามใบใหญ่สองใบที่มีไอกรุ่นออกมาวางอยู่บนโต๊ะแล้ว นอกจากนี้ยังมีช้อนกับตะเกียบวางเอาไว้บนโต๊ะด้วย

“นี่ของฉันเหรอ เจ้าเข็มทิศ?” อู๋ไห่นั่งลงตรงหน้าชามใบหนึ่งแล้วถามขึ้นมา

ส่วนโจวเจียนั้น เธอยืนอยู่ด้านข้างเช่นเคย

หยวนโจวเหลือบมองอู๋ไห่แล้วไม่พูดอะไรสักคำ จากนั้นเขาก็หันไปบอกโจวเจียว่า “ฉันทำมาให้เป็นพิเศษเลยเชียวนะ มานั่งกินเสียสิ”

“แต่…” โจวเจียกำลังจะปฏิเสธข้อเสนอเนื่องจากเธอรู้สึกอึดอัดขัดเขินที่ต้องมากินกับพวกเขา

ถึงอย่างไรก็ไม่มีอาหารจานไหนในร้านหยวนโจวที่ราคาจะถูกเลยสักจาน โจวเจียไม่เต็มใจที่จะมาเสียเงินที่นี่เลย ยิ่งไปกว่านั้นเธอก็รู้สึกละอายใจที่เถ้าแก่ต้องมาทำอาหารให้เธออีกต่างหาก ดังนั้นเธอจึงไม่เคยกินอาหารของหยวนโจวเลย

“ถ้าเธอไม่กินอีกล่ะก็ฉันจะเททิ้งแล้วนะ” หยวนโจวกล่าวแล้วนั่งลง

ตอนนี้โจวเจียสังเกตเห็นว่ายังมีอีกชามวางอยู่บนเคาน์เตอร์

“นั่งลงเถอะ ไม่ต้องอายไปหรอกน่า ถึงแม้ว่าเจ้าเข็มทิศจะเป็นคนที่เข้มงวดมากไปหน่อย แต่อาหารของเขาอร่อยแหงๆอยู่แล้วล่ะ” อู๋ไห่กล่าว

“ขอบคุณค่ะเถ้าแก่หยวน ขอบคุณค่ะพี่อู๋” โจวเจียมองไปที่ชามและหยวนโจวก่อนที่จะนั่งลงพร้อมเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน

“กินเถอะ” หยวนโจวกล่าวแล้วเริ่มกิน

“เกี๊ยวงั้นรึ? ดีจังเลย” อู๋ไห่ไม่คิดมาก เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนประจำที่กันแล้ว เขาก็เริ่มกินเช่นเดียวกัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด