อยากกินไหมล่ะ 837 ความประหลาดใจของดีน

Now you are reading อยากกินไหมล่ะ Chapter 837 ความประหลาดใจของดีน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อยากกินไหมล่ะ 美食供应商

บทที่ 837 ความประหลาดใจของดีน

“นายก็รู้นี่นา มีทบอลตามมาตรฐานจะใช้แยมแครนเบอร์รี แต่แยมของเถ้าแก่หยวนนี้แตกต่างไปจากผู้อื่น” เมาส์กล่าวเสียงดังลั่นในขณะเดียวกัน

แยมแครนเบอร์รีเข้ากับสวีดิชมีทบอลได้ดีที่สุด แม้จะเป็นบลูเบอร์รีก็ไม่มีปัญหาเลย ถึงแม้ว่าแยมจะแตกต่างจากผู้อื่น แต่หยวนโจวจะใช้แค่เพียงแครนเบอร์รีที่ดีที่สุดมากกว่า และวัตถุดิบก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับฝีมือการทำอาหารของเขาเสียหน่อย ดังนั้นดีนจึงไม่ได้หันหน้าไปแม้ว่าเขาจะได้ยินบทสนทนาระหว่างเทาส์กับเพื่อนร่วมงานของเขาแล้วก็ตามที

“ฉันยังไม่เห็นแยมเลย” เพื่อนร่วมงานของเขาตอบ

ทั้งสองคนก็พูดเกินจริงไปเสียหน่อยโดยเฉพาะเพื่อนร่วมงานของเขา ถ้าเขาอยากเป็นนักแสดงก็คงไม่ผ่านการทดสอบอย่างแน่นอน

ไม่เห็นแยมงั้นรึ? ประโยคนี้กลับดึงดูดความสนใจของดีนและดาราคนอื่นๆจนทำให้พวกเขาต้องหันกลับมามองอาหารของหยวนโจวอย่างจริงๆจังๆ

ก่อนหน้านี้พวกเขาล้วนแล้วแต่ถูกการออกแบบอันงามประณีตของสวีดิชมีทบอลดึงดูดเข้าให้จึงไม่ทันได้สังเกตอาหารให้ดี แต่ตอนนี้พวกเขาได้มองไปที่จานสวีดิชมีทบอลและพบว่าไม่มีอะไรเลยนอกเสียจากมันบดกับมีทบอล

เมื่อดีนได้ยินว่าเพื่อนร่วมงานของเมาส์ยังไม่เห็นแยมเลย เขาก็เชื่อไปแล้วโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวว่าหยวนโจวจะต้องซ่อนแยมเอาไว้ภายในการนำเสนอจานเป็นแน่ ยกตัวอย่างเช่นเขาอาจจะวาดภาพด้วยแยม

แต่นี่…

“แม้แต่แยมแครนเบอร์รีที่ดีที่สุดก็ยังต้องเป็นสีแดงราวกับสีกุหลาบเลย” ดีนไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าแยมแครนเบอร์รีจะมีสีอื่นด้วย

แต่ตอนนี้อย่าว่าแต่สีแดงกุหลาบเลย ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงแยมแล้ว นี่มันสถานการณ์บ้าบออะไรกัน?

ภาชนะมีความพิเศษอะไรงั้นหรือ? ดีนสังเกตได้ว่าตรงก้นจานของสวีดิชมีทบอลสูงกว่าส่วนอื่นๆและมีความแตกต่างกันอยู่เล็กน้อย หยวนโจวออกแบบโครงสร้างด้านในเอาไว้ด้วยงั้นหรือ?

ดีนไม่ทันได้สังเกตตอนที่จู่ๆก็มีเสียงผู้ชายดังขึ้นมาจากด้านหลัง “เห็นได้ชัดเลยว่าหยวนโจวทุ่มเททั้งเวลาและเรี่ยวแรงให้กับสวีดิชมีทบอลจานนี้จริงๆ”

จากนั้นดีนกับคนอื่นๆก็ติดตามเสียงไปแล้วหันกลับไปมอง พวกเขาพบลี่ลี่กำลังยืนอยู่ด้านหลังพวกเขา ไม่รู้เหมือนกันว่าเขามาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่

“เชฟลี่? ทำไมคุณถึงได้…?” ไป๋กั้วให้ความช่วยเหลือตอนที่พวกเขาขอยืมของบางอย่างจากลี่ลี่จึงไท่แปลกที่พวกเขาจะรู้จักกัน ไป๋กั้วเพียงแค่สงสัยว่าเหตุใดเขาจึงต้องมาปรากฏตัวในฉากหนึ่งของรายการที่กำลังถ่ายทำอยู่ด้วย

ก่อนที่ไป๋กั้วจะทันได้ถามจบ ลี่ลี่ก็พูดต่อไปว่า “เชฟหยวนเป็นคนจิตใจดี เมื่อดูจากรูปการณ์แล้วก็สามารถบอกได้เลยว่าคนผู้นี้ไม่นับว่าไม่มีค่าอะไรเลยนอกจากฝีมือการทำอาหารของเขา แต่เมื่อพูดถึงฝีมือการทำอาหารของเขาแล้ว พวกมันก็ส่องประกายมากเหลือเกิน เขามีพรสวรรค์ในการทำอาหารทั้งยังขยันขันแข็งอีกต่างหาก”

“คุณมาที่นี่มีจุดประสงค์อะไรกันแน่ เชฟลี่” ในที่สุดไป๋กั้วก็ถามคำถามของตัวเองได้จนจบ

“ผมแค่จะมาดูว่าคุณขาดเหลืออะไรหรือเปล่าจะได้ช่วยเหลือคุณได้น่ะครับ” ลี่ลี่กล่าวด้วยท่าทางสงบสุขุม

เมื่อได้ยินคำตอบของลี่ลี่แล้ว ไป๋กั้วก็อดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้เลยว่าเขาช่างเป็นคนดีจริงๆ ในตอนนั้นเอง “นักแสดง” ทั้งสองคนซึ่งก็คือเมาส์กับเพื่อนร่วมงานของเขาก็เริ่มแสดงวิธีการทำงานให้ดู

“ดูให้ดีนะ” เมาส์ใช้ตะเกียบคีบส่วนหางที่ตกแต่งอย่างหรูหรา การนำเสนอจานอาหารเป็นนกยูงรำแพนหางอวดความงามของมันเอง มีทบอลประกอบกันขึ้นเป็นลำตัวส่วนส่วนมันบดจะประกอบขึ้นเป็นส่วนหางของนกยูง

ทันใดนั้นเอง มีทบอลก็หล่นลงมาอย่างที่เจียงเหม่ยซือและคนอื่นๆนึกเอาไว้เลยว่าแยมแครนเบอร์รีที่ดูไม่สมจริงเลยสักนิดอาจจะฝังอยู่ในมันบดก็เป็นได้

ไป๋กั้วรู้สึกตกตะลึง “มีทบอลหล่นลงมางั้นหรือ?”

“กลับกลายเป็นว่าภาชนะพิเศษไม่ได้มีไว้เพียงสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการออกแบบเพียงเท่านั้นเสียแล้วสิ” จู่ๆดีนก็เข้าใจขึ้นมาได้ในทันที

ในวินาทีต่อมา มีทบอลที่ดูราวกับแต่งชุดสีแดงกุหลาบก็กลิ้งออกมาจากประตูเล็กๆข้างใต้

“เยี่ยมไปเลย รสชาติอร่อยมากเชียวล่ะ รสชาติอันสดใหม่และอ่อนนุ่มของมีทบอลผสมผสานเข้ากับรสหวานกับรสเปรี้ยวของแยมแครนเบอร์รีกำลังดีเลยจริงๆ รสชาติที่ผสมผสานเข้าด้วยกันเพอร์เฟคสุดๆไปเลย” เมาส์กัดมีทบอลเข้าไปกว่าครึ่งในคำเดียวแล้วกินต่อไปอย่างมีความสุข

คนอื่นๆอดไม่ได้ที่จะน้ำลายสอเมื่อได้กลิ่นและได้ยินเสียงเขากินมีทบอล

ส่วนเพื่อนร่วมงานของเขาไม่มีเวลาจะทำอะไรอีกต่อไปแล้ว เขาตรงเข้าไปคีบส่วนหางของนกยูงด้วยตะเกียบของเขาแล้วมีทบอลอีกลูกก็หล่นลงมา จากนั้นเขาก็เริ่มกิน

เมาส์มองเพื่อนร่วมงานของเขาด้วยความดูถูกดูแคลน ไม่สงสัยเลยว่าทำไมเจ้าหมอนี่ถึงได้ไม่มีแฟน เขาไม่ได้กระตือรือร้นและตั้งอกตั้งใจตอนที่เขาทำเลยสักนิด ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ พวกเขาจะช่วยเถ้าแก่หยวนได้อย่างไรกันเล่า?

ในฐานคนที่มีแฟนแล้ว เมาส์ตัดสินใจที่จะทำต่อไปเพียงคนเดียว ระหว่างที่กำลังกินอยู่นั้น เขาก็บ่นพึมพำกับตัวเองว่า “ฉันคิดว่านายคงไม่รู้สินะว่าเถ้าแก่หยวนออกแบบได้แยบยลขนาดไหน ขอเพียงแค่นายคีบมันบดเบาๆก็จะเปิดประตูลับบนจานได้ จากนั้นมีทบอลก็จะถูกเคลือบด้วยแยมแครนเบอร์รีเองแหละ”

มีทบอลอร่อยมากเหลือเกิน ยิ่งเมาส์บ่นพึมพำมากเท่าไหร่อัตราการพูดก็ยิ่งเร็วมากขึ้นเท่านั้น ในที่สุดเขาก็ไม่อาจพูดออกมาได้อย่างชัดเจน หลังจากพูดเสร็จแล้วเขาก็เริ่มกิน

เป็นอย่างที่เถ้าแก่หยวนคาดเอาไว้เลย มีทบอลอร่อยมากเสียจนเมาส์แทบจะกลืนลิ้นตัวเองเข้าไปแล้ว

ไม่ว่าเขาจะเห็นอีกสักกี่ครั้งก็ยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่ดี ลี่ลี่แอบคิด ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกเบิกบานใจนิดหน่อยด้วย

หยวนโจวเอาชนะเขาด้วยสวีดิชมีทบอล เป็นเพราะรสชาตินั่นแหละ รสชาติของมีทบอลเองอร่อยพอตัวเลยล่ะ

ลี่ลี่ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมหยวนโจวถึงได้ทำอย่างอื่นก่อน แต่การได้แรงบันดาลใจจากความคิดเห็นของบรรดาลูกค้าในภายหลังก็ทำให้เขาเข้าใจเหตุผลแล้ว เขาก็แค่อยากจะเห็นท่าทีสับสนและประหลาดใจของดีนก็เท่านั้นแหละ

ดังนั้นลี่ลี่จึงมองไปทางดีน แต่เขาก็ต้องประหลาดใจที่มีเพียงแค่ความประหลาดใจแทนที่ความไม่เข้าใจบนใบหน้าของดีน

“พวกเราก็แค่กำลังกินมีทบอลเท่านั้น… จำเป็นต้องพูดขนาดนั้นเลยหรือไง?”

“ช่างคิดเสียจริง!”

เหล่าดารารู้สึกประหลาดใจกับกลเม็ดเด็ดพรายของสวีดิชมีทบอล แต่หยวนโจวหาได้ปรับปรุงอาหารให้เป็นเช่นนั้นเพื่อคำชมของพวกเขาแต่อย่างใดไม่

“ไม่ใช่แค่ช่างคิดเท่านั้นหรอก” ดีนตอบ “สาเหตุที่ทำให้เชฟหยวนสร้างประตูลับเอาไว้ตรงก้นจานเพื่อให้มีทบอลหล่นลงจากข้างบนก็เพื่อให้แน่ใจได้ว่าพวกมันจะถูกเคลือบด้วยแยมแครนเบอร์รีขณะที่กำลังหล่นลงมานั่นเอง”

“ถ้าผมคิดไม่ผิด เชฟหยวนจะต้องใช้วิธีการบางอย่างเพื่อทำให้แยมแครนเบอร์รีมีรูปร่างคล้ายกับแผ่นกระดาษที่ทั้งนุ่มและบาง วิธีการแบบนี้แหละจะทำให้มีทบอลถูกเคลือบอยู่ในแยมได้โดยทั่วถึง”

“วิธีการแบบนี้สามารถขจัดข้อบกพร่องทั้งสองประการออกไปจากมีทบอลทั้งหลายได้อย่างสมบูรณ์เชียวล่ะ”

ยิ่งดีนพูดมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น เมื่อเขากล่าวจบก็หลุดโพล่งภาษาฝรั่งเศสออกมา เนื่องจากเขาพูดเร็วเกินไป แม้แต่ลี่ลี่ที่มักจะไปประเทศฝรั่งเศสอยู่บ่อยๆและสามารถพูดภาษาฝรั่งเศสได้อย่างคล่องแคล่วก็ยังไม่สามารถเข้าใจเขาได้เลย

“สำหรับมีทบอลทั้งหลายนั้น มักจะมีข้อบกพร่องอยู่สองประการที่เชฟทุกคนต้องการที่จะเอาชนะให้ได้ ประการแรกก็คือซอสจิ้มที่กระจายไม่ทั่วถึง ไม่ว่าซอสจิ้มจะดีสักแค่ไหนลูกค้าก็มักจะจิ้มอาหารในซอสด้วยตัวเอง จะมากจะน้อยก็ส่งผลต่อรสชาติโดยไม่มีข้อยกเว้น พวกเราต้องใช้ความพยายามไปมากมายแต่กลับทำได้เพียงลดความแตกต่างให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

“ประการที่สองคือซอสจิ้มทั่วๆไปช่างหน้าตาดูไม่น่ารับประทานเอาเสียเลย” ดีนมองตรงไปที่หยวนโจวแล้วพูดต่อไป “ผมไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าปัญหาทั้งสองประการนี้จะได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์แบบแล้วในประเทศจีน”

หลังจากพวกเขาได้ยินคำอธิบายอย่างมืออาชีพของดีนแล้ว ไป๋กั้ว หลี่เหอและเจียงเหม่ยซือก็เข้าใจถึงวิธีการอันแยบยลอย่างน่าประหลาดที่ประกอบไปด้วยทฤษฎีมากมายที่แก้ไขข้อบกพร่องที่สำคัญทั้งสองประการได้อย่างสมบูรณ์แบบ”

“สวีดิชมีทบอล หรือนี่เป็นสุดยอดอาหารขนานแท้?” ไป๋กั้วกล่าวด้วยความประหลาดใจ

“มันดูราวกับถูกเคลือบน้ำตาลเอาไว้เลยจริงๆ แยมแครนเบอร์รีทั้งสวยแล้วก็กระจายตัวได้อย่างทั่วถึงอีกต่างหากแน่ะ” เจียงเหม่ยซือเฝ้าสังเกตมีทบอลที่อยู่ระหว่างตะเกียบของเมาส์อย่างละเอียดถี่ถ้วน

หลี่เหอหลี่ตาและสรุปว่า “ผู้ที่มีเหตุผลจะเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังและได้รับการยอมรับให้เป็นสุดยอดปรมาจารย์”

ดีนรู้สึกตื่นเต้น แต่ลี่ลี่กลับไม่ค่อยพอใจนัก เดิมทีเขาอยากมาอธิบายวิธีการอันสลับซับซ้อน แต่ดีนกลับรู้ได้ตั้งแต่แวบแรกที่เห็น

ลี่ลี่ถึงกับทอดถอนใจ ดูเหมือนว่าเขาก็ยังด้อยกว่าในด้านความเข้าใจอย่างถ่องแท้อย่างน้อยขั้นหนึ่งและด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องฝึกฝีมือการทำอาหารต่อไป เมื่อคิดได้เช่นนั้นแล้ว ลี่ลี่ก็ไม่อยู่ที่นี่เพื่อชมดูฉากตื่นเต้นอีกต่อไป เขาออกจากสถานที่ถ่ายทำแล้วกลับไปที่ร้านของตนเอง

พรรคพวกทั้งสามคนของไป๋กั้วเองก็อยากกินสวีดิชมีทบอลอันแสนสมบูรณ์แบบเหลือเกิน ถึงอย่างไรอาหารจานนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นอาหารชั้นยอดทั้งในด้านหน้าตาและรสชาติเลย แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่สามารถทำได้ เจียงเหม่ยซือจึงทำได้เพียงจ้องมองจนตาแทบจะล้าอยู่แล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด