อยากกินไหมล่ะ 887 กลับบ้านแล้วไปกินข้าวซะ

Now you are reading อยากกินไหมล่ะ Chapter 887 กลับบ้านแล้วไปกินข้าวซะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อยากกินไหมล่ะ 美食供应商

บทที่ 887 กลับบ้านแล้วไปกินข้าวซะ

“เจ้าเข็มทิศ นายเหม่ออะไรอยู่น่ะ?” ซุนหมิงถามด้วยความสงสัย

“ไม่มีอะไร” หยวนโจวตอบพลางได้สติจากความคิดของตนเอง

“ฉันไม่เห็นเครื่องทำความร้อนเลย ฉันน่าจะซื้อให้นายสักเครื่องดีไหม?” ซุนหมิงเสนอขึ้นมา

“อีกไม่นานก็จะถึงฤดูใบไม้ผลิกับฤดูร้อนแล้ว” หยวนโจวกล่าวขึ้น

“งั้นฉันจะซื้อทั้งเครื่องทำความร้อนและทำความเย็นมันเสียเลย” ซุนหมิงเสนอขึ้นมาโดยไม่ลังเล

“นายคิดว่าที่นี่หนาวงั้นรึ?” หยวนโจวตั้งคำถาม

“ก็ไม่เชิงหรอก แล้วอีกอย่างมันก็ดูแปลกๆ แต่พอเจออากาศร้อนๆในช่วงฤดูร้อน นายก็จะได้ใช้เครื่องปรับอากาศได้ยังไงล่ะ” ซุนหมิงกล่าวหลังจากส่ายหน้า

“อย่าห่วงไปเลย ยังไม่เจออากาศร้อนๆในช่วงฤดูร้อนหรอกน่า แถมร้านของฉันยังอบอุ่นในช่วงฤดูหนาวและเย็นสบายในช่วงฤดูร้อนด้วย” หยวนโจวเน้นย้ำ “ยังไงซะ ฉันก็ไม่มีพื้นที่ให้วางเครื่องปรับอากาศไว้ในห้องได้แล้วล่ะ”

“ไม่ได้นะ ฉันยังต้องกลับไปรายงานพ่อกับแม่อีกนะ” ซุนหมิงกล่าว “แค่เลือกอะไรสักอย่างมาให้ฉันก็พอ”

“ฉันจะบอกนายตอนที่คิดออกก็แล้วกันนะ” หยวนโจวตอบอย่างชาญฉลาด

“นายแน่ใจนะ?” ซุนหมิงมองหยวนโจวด้วยความสงสัย

ในความคิดของเขา หยวนโจวไม่เคยร้องขออะไรจากใครเลย ดังนั้นเขาจึงรู้สึกสงสัยในคำพูดของหยวนโจว

“อืม ฉันไม่ได้โกหกนะ” หยวนโจวพยักหน้า

“จริงสินะ นายเป็นคนพูดคำไหนคำนั้นนี่นา” ซุนหมิงกล่าวด้วยความลังเล

ใช่แล้วล่ะ ถึงแม้ว่าหยวนโจวจะไม่ใช่คนที่จะร้องขออะไรจากใคร แต่เขาก็เป็นคนรักษาคำพูดและไม่เคยโกหก

“โอเค งั้นลงไปข้างล่างกันดีกว่า” หยวนโจวกล่าวขึ้น

“ได้เลย ยังไงก็ไม่มีคนงามหรือความลับอะไรที่จะเปิดเผยออกมาอยู่แล้วนี่ แถมยังไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะจะมาเอ้อระเหยอีกต่างหาก” ซุนหมิงกล่าวพลางยิ้ม

“งั้นก็รีบออกไปเถอะ” หยวนโจวบ่น

“อืม อืม ออกไปเดี๋ยวนี้แหละน่า” ซุนหมิงกล่าวขณะที่เขาเริ่มมุ่งหน้าลงชั้นล่าง

เมื่อเดินผ่านประตูห้องถัดไป ซุนหมิงก็เห็นลูกบิดและบานประตู ทั้งสองอย่างช่างสะอาดเป็นอย่างยิ่ง เห็นได้ชัดว่าเป็นห้องที่ยังคงมีคนเข้าไปอยู่บ่อยๆ

ซุนหมิงรู้ว่านี่คงจะเป็นห้องบิดามารดาของหยวนโจวเป็นแน่ แม้ว่าเขาจะไม่เคยขึ้นมาชั้นบนเลยก็ตามที แต่เขาก็ล่วงรู้ได้จากการคาดเดา แน่นอนว่าเขายังคงหุบปากเอาไว้และไม่ได้พูดอะไรออกมา

“ไปกันเถอะ” หยวนโจวปิดประตูแล้วเริ่มลงบันได

“โอเค ฉันขี้เกียจกลับไปที่ร้านแล้ว ฉันยังต้องกลับไปเปิดร้านตัวเองอีกนะ” ซุนหมิงกล่าวขึ้นเมื่อพวกเขามาถึงประตูหลัง

“นายคงจะรีบไปหาแม่เทพธิดาของนายล่ะสิ” หยวนโจวพูดออกมาตรงๆ

“นับว่ายังดีที่นายรู้ ไว้เจอกันใหม่นะ คราวหน้าฉันจะมากินอาหารนะและแน่นอนนายต้องเป็นคนเลี้ยงด้วย” ซุนหมิงกล่าวขึ้นขณะที่เดินห่างออกไปพลางโบกมือให้ด้วย

“นั่นก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของฉันด้วย แล้วเจอกันนะ” หยวนโจวกล่าวขึ้น

ซุนหมิงหาได้ใส่ใจคำปฏิเสธของหยวนโจว หลังจากโบกมือให้แล้ว เขาก็เดินออกจากตรอกไป หยวนโจวอยู่ที่นั่นจนกระทั่งมองไม่เห็นซุนหมิงแล้วก่อนที่จะกลับเข้าร้านไป

เมื่อยืนอยู่ในครัวที่เปิดไฟสว่างจ้าแล้วมองไปที่ตู้ทุกใบโดยรอบ จู่ๆหยวนโจวก็นึกอะไรขึ้นมาได้ “ฉันคิดว่าต้องการตู้อีกใบนะ”

“ตู้ที่เอาไว้เก็บข้าวของพวกนี้” หยวนโจวกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่า

แน่นอนว่าหยวนโจวย่อมหมายถึงข้าวของอย่างนวมชกมวยและบัตรเชิญต่างๆ เพราะรู้สึกว่าการนำเอาของพวกนั้นไปวางบนชั้นไม่ใคร่จะเหมาะสมสักเท่าไหร่นัก

“พรุ่งนี้ฉันจะไปเฟอร์นิเจอร์ซิตี้ ตู้ใบใหม่จะต้องวางอยู่ใต้หน้าต่าง ยังไงก็ยังเหลือพื้นที่ตรงนั้นอยู่แหละน่า” หยวนโจววางแผน

“ดูเวลาสิ ฉันควรจะไปเตรียมวัตถุดิบสำหรับอาหารค่ำได้แล้ว” หยวนโจวกล่าวหลังจากตรวจสอบเวลาแล้วเริ่มยุ่งง่วนกับตัวเองอีกครั้ง

เมื่อถึงยามค่ำคืน โจวเจียก็มาถึงตามปกติและรออยู่ที่ประตูหลังจนกว่าร้านจะเปิด ส่วนบรรดาลูกค้าคนอื่นๆ พวกเขาต่างเข้าแถมกันตามลำดับ

พวกคนเร่ขายของต่างกำลังเร่ขายของไม่หยุดหย่อนพลอยให้ถนนทั้งสายคึกคักไปด้วย เนื่องจากทั้งผู้คนและกิจการของร้านค้าต่างๆอยู่ในเขตที่พัฒนาแล้วเช่นเดียวกัน

ในขณะเดียวกันก็มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังมุ่งหน้าไปที่ร้าน พวกเธอล้วนแล้วแต่เป็นหญิงสาวโดยแต่ละคนบรรจงแต่งหน้าอย่างประณีตและแต่งกายตามสมัยนิยม พวกเธอทุกคนต่างถือไม้เซลฟี่เอาไว้ด้วย

“มา มา นั่นก็คือร้านหยวนโจวหรืออีกชื่อหนึ่งว่าร้านสุดยอดเชฟ” หญิงสาวผู้ร่าเริงกล่าวขึ้นขณะที่เธอเริ่มถ่ายภาพด้วยไม้เซลฟี่ของตัวเอง

แน่นอนว่าพื้นหลังภาพถ่ายของเธอก็คือผู้คนในแถวและร้านที่ไม่มีป้ายชื่อร้าน

“นี่คือร้านของช่างแกะสลักน้ำแข็งชื่อดัง ดูสิๆมีคนตั้งเยอะตั้งแยะอยู่ที่นี่ด้วยล่ะ ไปเซลฟี่กันเถอะ”

“เธอรู้จักเชฟด้านอาหารที่ปรุงขึ้นมาจากข้าวสาลีคนนั้นที่กำลังโด่งดังมากๆในอินเตอร์เน็ตไหมล่ะ? ที่นี่ไงล่ะ ร้านของคนดังในอินเตอร์เน็ต นี่ก็คือร้านของเขาล่ะ”

“มา มา มาเซลฟี่กันเถอะ”

“นี่คือร้านที่ไอดอลของฉันเคยมาถ่ายทำรายการเชียวนะ มาเซลฟี่กันเถอะ”

“เฮ้ ฉันเข้าไปถ่ายภาพเหมือนกันนะ ตอนที่โพสต์รูปลงไปก็จะได้ติดแท็กฉันไปด้วยยังไงล่ะ”

เนื่องจากมีคนจากคณะกรรมการควบคุมระเบียบแถวอยู่บริเวณนี้ คนพวกนี้จึงต้องปฏิบัติตัวให้เหมาะสม คนพวกนี้เป็นคนที่จะมาถ่ายภาพหลังจากหยวนโจวได้รับความนิยมในอินเตอร์เน็ตด้วยเหตุผลหลากหลายประการเมื่อเร็วๆนี้

จำนวนของคนพวกนี้ค่อนข้างเยอะทีเดียว โชคดีที่มีผู้คนจากคณะกรรมการควบคุมระเบียบแถวมาคอยควบคุมดูแล ถึงแม้ว่าคนพวกนี้จะรู้สึกตื่นเต้น แต่พวกเธอก็ยังปฏิบัติตามกฎจึงไม่ก่อให้เกิดการรบกวนขึ้นแต่อย่างใด

“ฟู่ โชคดีจัง ฉันคิดว่าน่าจะยังได้หมายเลขอยู่นะ” ในขณะที่พวกเธอมัวแต่ถ่ายภาพอยู่นั้น หลิงหงก็วิ่งเข้ามาต่อแถว

อีกไม่ถึง 20 นาทีก็จะได้เวลาอาหารค่ำแล้ว

เวลาผ่านไปเพียงชั่วพริบตา

แอ๊ด! หยวนโจวเปิดประตูออกมาเพื่อบ่งบอกว่าร้านจวนจะเปิดแล้ว

“มาเข้าคิวตรงนี้แล้วรับหมายเลขของคุณไปด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ” เสียงของโจวเจียดังขึ้น

การมาเข้าคิวรับหมายเลขหาใช่เรื่องใหญ่อะไร ไม่นานนักบรรดาลูกค้าก็ได้รับหมายเลขของตนเอง ส่วนผู้ที่มาทีหลังก็จะไม่ได้หมายเลขไป พวกเขาจึงพากันไปรออยู่ใต้เต็นท์ หลิงหงเองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย

“หลิงหง? นายมาที่นี่ทำไมน่ะ?” เจียงฉางซี่ถามขึ้นมา

“มาหาอะไรกินน่ะสิ” หลิงหงกล่าวพลางเสยผมด้วยความมั่นใจและไร้กังวล

“ฉันนึกว่านายจะกินอาหารค่ำที่บ้านเสียอีก?” เจียงฉางซี่ถามขึ้นด้วยความสงสัย

“นี่เป็นอาหารก่อนมื้อค่ำต่างหากเล่า” หลิงหงตอบ

“นายดูท่าทางแปลกๆนะ ฉันว่านายกำลังวางแผนทำเรื่องไม่ดีอยู่แน่ๆเลย” เจียงฉางซี่ตรงเข้าประเด็น

“ไม่ใช่สักหน่อย ฉันออกจะเป็นคนดี” หลิงหงกล่าวพลางเผยรอยยิ้มกว้างและเจิดจ้าบนใบหน้าเพื่ออวดฟันขาวของตนเอง

“ฉันไม่เชื่อนายหรอก” เจียงฉางซี่กล่าว

“ฉันพูดเรื่องจริงนะ” หลิงหงพยักหน้าหงึกหงัก

การแลกเปลี่ยนเพื่อมิตรภาพระหว่างหยวนโจวกับเฉาจื่อซูสิ้นสุดลงในวันนี้ แต่มีคนไม่มากนักที่ล่วงรู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ถึงอย่างไรหยวนโจวก็หาใช่คนที่จะทำเรื่องเกินกว่าเหตุสำหรับการแลกเปลี่ยนเพื่อมิตรภาพ

เขามักจะระลึกอยู่เสมอว่าตัวเองก็เป็นแค่คนตัวเปล่า

ดังนั้นวันนี้บรรดาลูกค้าจึงยังคงสงบเสงี่ยม ทั้งยังไม่มีใครถามอะไรเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนวิชาเลย

หลิงหงเป็นลูกค้ากลุ่มสุดท้ายที่ได้หมายเลข หลังจากรอมาชั่วโมงหนึ่งก็ถึงคราวที่พวกเธอจะได้กินบ้างแล้ว และเมื่อพวกเธอเข้าไปข้างใน พวกเธอก็พบว่าวันนี้มีคนมาไม่ครบด้วย

“ฉันรู้สึกเหมือนวันนี้มีอะไรขาดหายไปนะ” หลิงหงกล่าวพลางกวาดตามองไปรอบๆหลังจากนั่งลงแล้ว

“ใช่แล้ว วันนี้คุณเฉิงไม่มานี่นา” โจวเจียกล่าวขึ้นมา

“โอ้ ไม่แปลกใจเลยที่ฉันรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปจากพื้นหลังน่ะ” หลิงหงมักจะทุ่มเถียงกับคุณเฉิงอยู่บ่อยๆ

“วันนี้กินอะไรดีคะ พี่หง?” โจวเจียถามขึ้น

“ขอไข่ต้มชาสมุนไพรก็แล้วกัน” หลิงหงกล่าว

“เอาอะไรเพิ่มอีกไหมคะ?” โจวเจียถามขึ้นมา

ถึงอย่างไรปกติหลิงหงก็กินเยอะมากอยู่แล้ว แน่นอนว่าไข่ต้มชาสมุนไพรที่เดียวไม่เพียงพอสำหรับเขาหรอก

“ไม่เป็นไร ขอแค่ไข่ต้มชาสมุนไพรก็พอ แต่ช่วยบอกเจ้าเข็มทิศให้เติมน้ำชาลงในไข่ต้มชาสมุนไพรหน่อยนะ” หลิงหงกล่าวอย่างจริงจัง

“ได้ค่ะ” โจวเจียตอบตกลงหลังจากจ้องมองหลิงหง

“โอนเงินเรียบร้อยแล้วนะ” หลิงหงกล่าวพลางโชว์โทรศัพท์ให้ดู

โจวเจียพยักหน้าแล้วยื่นออเดอร์ให้หยวนโจว เมื่อหยวนโจวเห็นออเดอร์แล้ว เขาก็พูดขึ้นมาว่า “หลิงหง นายอยากให้เพิ่มน้ำชาเยอะเป็นพิเศษเหรอ?”

“เพราะวันนี้ฉันต้องกินข้าวที่บ้านน่ะสิ” หลิงหงกล่าวขึ้นมาอย่างน่าสงสัย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด