เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]บทที่ 998 มีหมูตัวหนึ่งคิดจะฉกผักกาดขาว

Now you are reading เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包] Chapter บทที่ 998 มีหมูตัวหนึ่งคิดจะฉกผักกาดขาว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 998 มีหมูตัวหนึ่งคิดจะฉกผักกาดขาว

บทที่ 998 มีหมูตัวหนึ่งคิดจะฉกผักกาดขาว

เซี่ยหนานรู้ดีว่าตระกูลกู้เป็นคนแบบไหน

หากให้เสี่ยวเฉ่าผูกมิตรกับพวกเขามีแต่ข้อดีทั้งนั้น

หลัก ๆ คือ ตนไว้วางใจท่าทีของชายหนุ่มและสะใภ้คนนี้

หลังจากต้อนรับอย่างอบอุ่น ทางซูเสี่ยวเฉ่าจึงได้เห็นกู้เฉิงเซวียนด้วย

หญิงสาวประหลาดใจมาก

ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ?

เรายังไม่ได้บอกที่อยู่เลยนี่นา แล้วหาเจอได้ยังไง?

เธอเอ่ยขอโทษผู้ใหญ่ที่กำลังคุยด้วยก่อนเดินแยกตัวออกมา

วันนี้เจ้าตัวสวมชุดกระโปรงสีม่วงอ่อน สวมรองเท้าแตะสีขาวรัดส้นที่ไม่ได้เต็มใจจะซื้อมาแต่แรก

รองเท้าคู่นี้เสี่ยวเถียนเป็นคนซื้อให้

ส่วนเสื้อผ้าก็ได้อาเถาฮวาส่งมาให้

พวกเขาบอกว่าให้ไว้เป็นการแสดงความยินดีที่มีแม่บุญธรรมน่ะ

แต่ซูเสี่ยวเฉ่ารู้ว่าที่ครอบครัวให้ใส่เป็นเพราะไม่อยากให้โดนแขกเหรื่อดูถูก

ชุดกระโปรงทำจากไหมแท้ การออกแบบที่มีสไตล์ พอได้ใส่แล้วสวยงามมาก

กอปรกับรองเท้ามีส้นน้อย ๆ ทำให้ซูเสี่ยวเฉ่าตัวสูงกว่าเดิม

เสี่ยวเถียนทำผมให้พี่สาวแต่เช้า พร้อมทั้งแต่งหน้าบาง ๆ ให้ด้วย

ตั้งแต่หัวจรดเท้า หญิงสาวที่พื้นฐานมีหน้าตาดีอยู่แล้วจึงดูสวยขึ้นกว่าเดิม

ขนาดกู้เฉิงเซวียนที่เห็นความงามของหญิงสาวในเมืองมาแล้วทุกรูปแบบยังเหม่อไปชั่วขณะ

“สวัสดีค่ะสหายกู้!”

ซูเสี่ยวเฉ่าทักทายด้วยความสุภาพ

เจ้าตัวกลมในอ้อมแขนชุยถงหลานเอ่ยขึ้น “พี่สามกู้ พี่สามกู้!”

ทุกคนได้แต่ยืนงง ก่อนนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้กู้เฉิงเซวียนเพิ่งบอกให้เสี่ยวเถียนเรียกตนว่าพี่สามกู้ สงสัยคงได้ยินมา

ผู้เป็นมารดาจิ้มหน้าผากลูกชายเบา ๆ

“เด็กดื้อ!”

ทุกคนหัวเราะ

“สวัสดีจ้ะเสี่ยวเฉ่า ฉันเป็นพี่สะใภ้ของกู้เฉิงเซวียนน่ะ หลังจากนี้เรียกฉันว่าพี่สาวถงหลานเถอะ เสี่ยวเถียนก็เรียกเหมือนกัน”

จากนั้นก็ลุกขึ้นทักทายอย่างเป็นกันเอง

“สวัสดีค่ะพี่ถงหลาน”

“ขอโทษด้วยนะ พี่เพิ่งรู้ข่าววันนี้จึงไม่ได้มาเยี่ยมเธอเลย เป็นครอบครัวเราเองที่ทำตัวหยาบคาย”

“ไม่เป็นไรเลยค่ะ วันก่อนฉันไปโรงพยาบาลมาแล้ว หมอบอกว่าใกล้จะกลับเป็นปกติแล้วค่ะ” ซูเสี่ยวเฉ่าตอบทันควัน

วันก่อนไปถอดเฝือกมาแล้ว หมอบอกว่าขอแค่แขนไม่ไปโดนอะไรก็พอ

กู้เฉิงเซวียนเอ่ย “สหายเสี่ยวเฉ่า พี่สะใภ้เพิ่งจะดุผมไปเองครับ เขาบอกผมขับรถชนเขาควรจะมาดูอาการบาดเจ็บคุณสักหน่อย ว่าแต่ตอนนี้ยังเจ็บอยู่ไหมครับ?”

กู้เฉิงเซวียนเป็นคนกล้าหาญ

ช่วงนี้เขานึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นตลอด ถึงจะไม่ได้ชนแรง แต่ถ้าเกิดอวัยวะภายในเกิดบาดเจ็บขึ้นมาโดยที่เราตรวจไม่พบล่ะ?

หญิงสาวยิ้ม “หมอบอกว่าฟื้นตัวดีขึ้นมากค่ะ”

“ยังไงก็ต้องดูแลให้ดีนะ ระวังเรื่องกระดูกไว้สักร้อยวันด้วยนะจ๊ะ” ชุยถงหลานว่า

“ไปตรวจทุก ๆ สองวันด้วยนะ จะได้แน่ใจว่าไม่มีอาการแทรกซ้อนอื่นอีก”

ชุยถงหลานไม่เคยพบซูเสี่ยวเฉ่ามาก่อน แต่ด้วยความที่มีความประทับใจต่อซูเสี่ยวเถียน และพวกเขาเป็นพี่น้องกันจึงไม่มีเหตุผลอะไรให้เมินเฉย

หญิงสาวขอบคุณ ท่วงท่าอันสง่างามไม่เหมือนผู้หญิงจากชนบทสักนิดทำให้กู้เฉิงเซวียนนึกชมในใจ

ซูเสี่ยวเฉ่าเป็นคนอ่อนโยน ด้วยรูปร่างหน้าตาแบบนี้ คนพบกันครั้งแรกอาจจะรู้สึกว่าไม่น่าสนใจ

แม้จะไม่ใช่ความงามที่โดดเด่นสะดุดตา แต่เป็นความงามอันเรียบง่าย

แต่ยิ่งมองก็ยิ่งไม่สามารถละสายตาไปได้

กู้เฉิงเซวียนอดมองต่อไม่ได้

วันนั้นซูเสี่ยวเฉ่าสวมเสื้อผ้าธรรมดา ๆ จึงไม่คิดว่าเจ้าตัวจะมีเสน่ห์ตรงไหน

แต่วันนี้เธอให้ความรู้สึกที่ต่างออกไป

ชายหนุ่มรู้สึกว่าหัวใจกำลังเต้นแรง

เซี่ยหนานมองเห็นแววตาร้อนแรงคู่นั้น

เธอมีความประทับใจต่อกู้เฉิงเซวียนอยู่แล้ว เพราะเธอรู้สึกว่าหนุ่มสาวสมัยนี้ไม่ค่อยกล้ารับผิดชอบกับสิ่งที่กระทำเท่าไร

หาได้ยากที่คนหนุ่มแบบกู้เฉิงเซวียนจะกล้ารับผิดชอบ และไม่ใช้อำนาจของครอบครัวมาทำตัวยโสโอหัง

ยิ่งเห็นสายตาที่เขามองลูกสาว เธอก็ได้แต่หัวเราะในใจ

นอกจากรูปร่างหน้าตาที่เหมาะสมกัน ก็มีเพียงพื้นเพครอบครัวที่ตระกูลกู้จะสูงกว่าหน่อย

เพราะยังไงเราคงไม่อาจให้เสี่ยวเฉ่าคว้าท้องฟ้าไว้ได้*[1]

เซี่ยหนานรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ใจหนึ่งก็หวังว่าลูกสาวจะมีครอบครัวที่ดีได้ แต่อีกใจกลับเป็นห่วงว่าถ้าแต่งงานกับตระกูลสูงส่งอาจจะโดนเขารังแกเอา

เรื่องบางเรื่องอย่าคิดเยอะเลย

จากนั้นก็เลิกสนใจแล้วหันไปสนทนากับชุยถงหลานแทน

ซูซานกงเห็นฉากนั้นเข้าพอดี

ตอนเขาเห็นชายหนุ่มผู้โดดเด่นยืนอยู่เบื้องหน้าซูเสี่ยวเฉ่าที่ทั้งสวยและเป็นมิตรก็พลันรู้สึกไม่พอใจ

เจ้านี่คือหมูที่คิดจะฉกผักกาดขาวของเขาไปหรือ?

จะเป็นไปได้ยังไง?

ไม่ได้!

ต้องไล่มันออกไป

ซูซานกงก้าวฉับ ๆ เข้าไปหา

เมื่อเห็นพวกเขาไม่ได้สนิทกันมากค่อยโล่งใจหน่อย

ซูซานกงเอ่ยอย่างสนิทสนม “เสี่ยวเฉ่า คนนี้ใครหรือ? แนะนำให้ฉันรู้จักหน่อยสิ?”

เมื่อเห็นพี่สามพรวดพราดเข้ามา เสี่ยวเถียนอยากยกมือปิดหน้าเหลือเกิน

พี่สามอายุตั้งขนาดนี้แล้ว ทำไมตายังไม่มีแววอีก?

คงจะดีถ้าสองคนนี้สร้างครอบครัวด้วยกันได้

ถ้าให้เสี่ยวเถียนอธิบาย บอกได้เลยว่านี่แหละคือลักษณะของหญิงงาม

แล้วพี่สามจะวิ่งเข้าไปทำลายบรรยากาศเพื่อ?

คนไม่ดีไม่ควรแต่งงานหรอกนะ!

“พี่สามมานี่ก่อน หนูมีเรื่องจะคุยด้วย” เธอกวักมือเรียก

ซูซานกงได้ยินแล้ว ก็ตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกทันที

ใจหนึ่งก็อยากกำจัดเจ้าหมูตัวนี้ อีกใจก็อยากไปหาน้อง

การที่เธอเรียกแสดงว่ามีเรื่องสำคัญ

โชคดีที่สมองใช้การได้อย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความสิ้นหวังเขาคว้ามือหญิงสาวเอาไว้

“เสี่ยวเฉ่า ผู้ใหญ่กำลังตามหาอยู่น่ะ อย่าเอาแต่อยู่ที่นี่ไปตลอดจนลืมดูแลพวกเขานะ”

เขาคิดว่าที่พูดไปสมเหตุสมผลมาก

ซูเสี่ยวเฉ่าจึงทำได้แค่ขอโทษ “ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ”

กู้เฉิงเซวียนลังเลเล็กน้อยที่จะจากอีกฝ่ายไป แต่ในเมื่อผู้ใหญ่เรียกเขาจะไปทำอะไรได้

เซี่ยหนานตกใจกับฉากซูซานกงลากซูเสี่ยวเฉ่าออกไปมาก

เจ้าเด็กนี่มันทำอะไรเนี่ย?

ถึงเสี่ยวเฉ่าจะเป็นน้องสาว แต่เธออายุไม่น้อยแล้วนะ ถึงเวลาคบหากับผู้ชายแล้วด้วย

ชุยถงหลานมองสามหนุ่มสาวด้วยสายตาครุ่นคิด

[1] การไขว่คว้าฟ้ามา หมายถึง การให้ผู้มีความสามารถมาค้ำจุนผู้มีอำนาจน้อยกว่า

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด