เล่ห์ร้ายโฉมสะคราญ 1179 การหลอกใช้ของเขา / 1180 จักต้องสำเร็จ

Now you are reading เล่ห์ร้ายโฉมสะคราญ Chapter 1179 การหลอกใช้ของเขา / 1180 จักต้องสำเร็จ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1179 การหลอกใช้ของเขา

 

 

“นี่ไม่เหมือนกับใต้เท้าซูที่ข้ารู้จักเลยสักนิด!” ขณะที่ฉินมู่ปิงเอ่ย กลับหุบรอยยิ้มที่ไม่แยแสต่อสิ่งใดในยามปกติลง ดวงตาที่ลุ่มลึกคู่นั้นราวกับสามารถเห็นไปถึงก้นบึ้งของหัวใจคนมิปาน

 

 

ดูลุ่มลึกและหนักแน่น

 

 

หากมีคนอยู่ที่นี่ เกรงว่าจะถูกความเปลี่ยนแปลงของเขาทำให้ตกตะลึง

 

 

ทว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซูหลีเห็นเขาเป็นสีหน้าเช่นนี้ จะพูดว่านางรู้สึกประหลาดใจก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจขนาดนั้น เพียงแต่หลังจากนางได้ยินคำถามที่ฉินมู่ปิงเอ่ยขึ้นแล้ว ดวงตาพลันลุ่มลึกไปวูบหนึ่ง

 

 

ทันทีที่ซูหลีปรายตามองก็เห็นจู๋ซย่า ข้ารับใช้ข้างกายของฉินมู่ปิง ยืนเฝ้าอยู่สถานที่ที่ห่างออกไป 5 เมตร ทั้งยังก้มศีรษะไม่เหลือบตาขึ้นมามองทางด้านที่พวกเขาอยู่

 

 

โดยรอบนอกจากจู๋ซย่า ก็ไม่มีคนอื่นอีก

 

 

ในดวงตาซูหลีมีประกายความเข้าใจพาดผ่าน มิน่าฉินมู่ปิงกล้าพูดคำพูดเช่นนี้ออกมาให้สถานที่แบบนี้ ที่แท้ก็เก็บกวาดคนโดยรอบหมดแล้ว

 

 

“หากซื่อจื่อรีบร้อน ก็สู้ลงมือเองไม่ดีกว่าหรือ” ซูหลีปรายตามองเขา ในดวงตามีความเย็นยะเยียบ

 

 

ฉินมู่ปิงได้ยินดังนั้นจึงหรี่ตาลงเล็กน้อย มองมาทางนางคล้ายกับตรวจสอบอย่างละเอียดมิปาน

 

 

“นี่ใต้เท้าซูหมายความว่าเช่นไร หรือจนถึงบัดนี้ยังสงสัยในความตั้งใจของข้า ก่อนหน้านี้ข้าเคยบอกใต้เท้าซูแล้วว่า ขอเพียงให้ใต้เท้าซูไปตรวจสอบก็เท่านั้น!”

 

 

ฉินมู่ปิงพูดจบก็หยุดชะงักไปครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าเขากำลังครุ่นคิดถึงอะไรบางสิ่งได้ จากนั้นเอ่ยอย่างลังเล “หรือผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว ใต้เท้าซูยังตรวจสอบอะไรไม่ได้ ทำไมรึ ต้องการให้เปิ่นซื่อจื่อช่วยเหลือหรือไม่”

 

 

“ขอเพียงใต้เท้าซูเอ่ยปาก เรื่องอะไรข้าล้วนกระทำด้วยความเต็มใจ!”

 

 

ขณะที่เขาพูดก็ย่างกรายเข้าใกล้ซูหลีก้าวหนึ่ง แม้กระทั่งถลันเข้าไปเป่าลมที่ข้างใบหูซูหลี

 

 

ซูหลีเลิกคิ้วเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะถอยออกมาก้าวหนึ่ง เพื่อหลบหลีกเขา

 

 

“เป็นเช่นนี้เองหรือ” น้ำเสียงของซูหลีเยียบเย็น นางหัวเราะอย่างเย้ยหยันแล้วเอ่ยว่า “นี่ซื่อจื่อต้องการช่วยข้า หรือต้องการช่วยตนเองกัน?”

 

 

ทันทีที่ซูหลีพูดคำพูดประโยคนี้ออกมา สถานการณ์ก็เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดขึ้นทันใด

 

 

สีหน้าของฉินมู่ปิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาขมวดคิ้วมองนาง “เจ้าไม่เชื่อใจข้า?”

 

 

“เชื่อใจเจ้าหรือ” ซูหลีเสมือนได้ยินคำพูดตลกขบขันมิปาน นางหัวเราะออกมาอย่าแผ่วเบา จากนั้นจึงหันศีรษะเผชิญหน้ากับเขาแล้วเอ่ยว่า

 

 

“ซื่อจื่อหลอกใช้ข้าครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อกำจัดคนที่เป็นเสี้ยนหนามในตาของตน บัดนี้ยังจะให้ข้าเชื่อใจเจ้าหรือ”

 

 

ฉินมู่ปิงเม้มริมฝีปากแน่น จ้องมองนางด้วยสายตาเยียบเย็น

 

 

ซูหลีกลับรู้สึกไม่ตกใจกับกลิ่นอายเย็นยะเยือกของเขาที่แผ่ซ่านออกมา อีกทั้งกลับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

 

 

“สกุลเซียว แม้จะน่ารังเกียจอย่างแท้จริง ทว่าจากที่ข้าทราบมา ความสัมพันธ์ระหว่างสกุลเซียวกับพวกจวนจิ้งหนานอ๋องนั้นไม่ดีมาโดยตลอด ซื่อจื่อกลัวว่าจะเอาชนะอีกฝ่ายไม่ได้ ถึงได้ยืมมือข้ากำจัดสกุลเซียวซะ!”

 

 

“ที่ข้าพูดมาถูกต้องหรือไม่”

 

 

แม้ใบหน้าของซูหลียังคงแต่งแต้มด้วยรอยยิ้ม ทว่ารอยยิ้มนั้นกลับไปไม่ถึงดวงตาเลยแม้แต่น้อย

 

 

แท้จริงแล้วนางทราบเรื่องนี้มาโดยตลอด เพียงแค่ไม่แสดงออกมาเท่านั้น เรื่องที่สกุลเซียวกับจวนจิ้งหนานอ๋องไม่ถูกกันนั้นเป็นเรื่องจริง ทว่าพวกเขาล้วนเป็นตัวการสำคัญที่ทำร้ายสกุลหลี่จนตกอยู่ในจุดจบเช่นนั้น

 

 

ดังนั้นซูหลีจึงแสร้งทำเป็นไม่ทราบไปก่อน เพียงจัดการเรื่องที่ตนควรกระทำให้ดีก็พอแล้ว

 

 

บัดนี้ฉินมู่ปิงนั้นชี้แนะสกุลจี้ให้แก่นาง

 

 

เรื่องอื่นยังไม่ต้องพูดถึง ดูเพียงสกุลจี้เป็นขุนนางมือสะอาดทั้งสกุล คนสกุลจี้ที่ฉินมู่ปิงพึ่งพาอาศัยได้ก็มีเพียงไทเฮาก็เท่านั้น

 

 

อีกทั้งไทเฮานอกจากตำแหน่งลอยๆ ในมือกลับไม่มีอำนาจอย่างแท้จริงเลยสักนิด

 

 

จะว่าไปแล้ว ความสัมพันธ์อย่างสกุลจี้กับฉินมู่ปิงนี้ จี้เก๋อเหล่ากับจี้เหิงหรานทั้งสองคนล้วนเป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ ทว่ากลับไม่ช่วยเหลือเขา เขาจึงเปลี่ยนมาใช้ซูหลี ทว่าในใจกลับรู้สึกไม่เต็มใจสักเท่าไร!

 

 

ดังนั้นซูหลีจึงไม่ได้เชื่อคำพูดของเขาอย่างหมดใจตั้งแต่แรก

 

 

นางเชื่อเพียงสิ่งที่ตนตรวจสอบมาแล้วเท่านั้น!

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 1180 จักต้องสำเร็จ

 

 

เพียงแต่เห็นท่าทีของฉินมู่ปิงในเวลานี้ คล้ายกับกำลังมีความร้อนใจ?

 

 

เพราะเห็นเรื่องของสกุลเซียวได้ผลเกินคาด ดังนั้นจึงอยากกำจัดจี้เหิงหรานอย่างไม่รีรอเช่นนั้นหรือ

 

 

นี่เป็นคนข้างกายของฉินเย่หานที่มีเขี้ยวเล็บที่แหลมคมที่สุด!?

 

 

แม้ซูหลีจะไม่ชื่นชอบจี้เหิงหรานมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ทว่าสมองของนางนั้นมีสติดี

 

 

จี้เหิงหรานผู้นี้เป็นคนที่ฉลาดหลักแหลม มีแผนการที่ลึกล้ำ เป็นขุนนางผู้ช่วยที่ดีที่สุดคนหนึ่งอย่างแท้จริง

 

 

ทว่าคนเช่นนี้กลับพึ่งพาอาศัยฉินเย่หาน

 

 

หากในใจของฉินมู่ปิงมีความคิดเช่นนั้น ยังจะสามารถปล่อยคนอย่างสกุลจี้และคนอย่างจี้เหิงหรานไปหรือ

 

 

ทันทีที่คำพูดนี้พูดจบ สีหน้าของฉินมู่ปิงพลันเปลี่ยนไปในทันที

 

 

หากไม่มีการลองหยั่งเชิงในวันนี้ เขาคงจะไม่ทราบจริงๆ ว่า ซูหลีนั้นทราบแผนการของเขาอย่างปรุโปร่ง

 

 

คนที่เย่อหยิ่งอวดดีอย่างซูหลี ไม่มีทางยอมให้ตนเองโดนหลอกใช้ถึงจะถูก ดังนั้นเขาจึงคิดมาตลอดว่าหากซูหลีทราบแล้ว คงจะก่อเรื่องวุ่นวายตั้งนานแล้ว

 

 

ใครจะรู้ว่า นางทราบเรื่องนี้อย่างทะลุปรุโปร่ง ทว่ากลับไม่แสดงท่าทีออกมาโดยตลอด

 

 

“ใต้เท้าซูเข้าใจผิดแล้ว ข้ากับสกุลเซียวนั้นไม่มีความแค้นต่อกัน เจ้าไปเอาคำพูดนี้มาจากที่ใดกัน” เขาหยุดชะงักอยู่นาน เพราะกำลังตกใจในความฉลาดปราดเปรื่องของซูหลี ทว่าสีหน้ากลับไม่แสดงอากัปกิริยาใดๆ เพียงอมยิ้มและมองไปที่ซูหลี

 

 

“พวกเราเป็นคนเปิดเผยไม่กระทำเรื่องลับๆ ซื่อจื่อกำลังวางแผนอะไร ในใจข้านั้นล้วนทราบดีที่สุด เพียงแต่อยากจะแนะนำซื่อจื่อเสียหน่อย อย่าคิดว่าผู้อื่นเป็นคนเขลา”

 

 

ขณะที่พูดซูหลียังยกยิ้มขึ้น อากัปกิริยาที่แสดงออกกับคำพูดที่นางเอ่ยออกมานั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง!

 

 

“ข้ายินยอมถูกเจ้าหลอกใช้ นั่นเป็นเพราะเดิมสกุลเซียวไม่ใสสะอาดอยู่แล้ว หากซื่อจื่อรีบร้อนที่จะจัดการกับสกุลจี้ ก็สู้ลงมือกระทำเองเถิด จะพูดอย่างข้าซูหลีผู้นี้ไม่มีรากฐานอะไรในราชสำนักอยู่แล้ว หากเปรียบกับซื่อจื่อแล้วยังห่างไกลอีกหลายโข!”

 

 

อากัปกิริยาที่แสดงออกแข็งทื่อไปโดยสิ้นเชิง นี่ซูหลีนั้นทราบแผนการทั้งหมดของเขาแล้ว

 

 

มิน่าบิดาของเขาถึงกล่าวมาโดยตลอดว่า คนผู้นี้ไม่มีทางที่จะควบคุมได้ วิธีการใช้ประโยชน์ของเขาไม่ถูกต้อง ไม่แน่นางอาจจะกลับมาแว้งกัดพวกเขาก็ได้

 

 

เขานั้นให้คนจับตาดูการเคลื่อนไหวในช่วงนี้ของซูหลีมาโดยตลอด ซูหลีเพียงตรวจสอบเรื่องสกุลจี้เท่านั้น หาได้สนใจเรื่องของจวนจิ้งหนานอ๋องสักนิด เขายังคิดว่านี่ตนสามารถควบคุมนางได้แล้ว

 

 

ใครจะคิดว่า นางเพียงไม่พูดและกระทำสิ่งใดออกมาก็เท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าในใจนางไม่รับรู้!

 

 

“ข้าจะรอข่าวดีจากซื่อจื่อ ไม่แน่การลงมือของเจ้า อาจทำให้ข้าไม่ต้องแม้กระทั่งตรวจสอบเรื่องนี้แล้วก็ได้!” ซูหลีชำเลืองมองอากัปกิริยาที่เก๊กต่อไปไม่ไหวของเขาแล้ว จึงฉีกยิ้มบางและเดินเข้าไปตบที่บ่าของเขาเบาๆ

 

 

ฉินมู่ปิงชายตามองนาง กลับพบกับความเย็นยะเยียบดุจน้ำแข็งที่ไม่มีความอบอุ่นเลยแม้แต่น้อยในดวงตาของนาง

 

 

“ข้าน้อยยังมีเรื่องต้องไปกระทำ ขอตัวลาก่อน ซื่อจื่อค่อยๆ เที่ยวเตร่เถอะ!” เพียงชั่วพริบตาเดียว นางก็ถอยตัวออกไป โค้งตัวคำนับฉินมู่ปิงครั้งหนึ่ง จากนั้นหมุนกายเดินออกไป

 

 

ฉินมู่ปิงมองไปยังทิศทางที่นางเดินออกไป ผ่านไปนานก็ยังดึงสติกลับมาไม่ได้

 

 

ความฉลาดปราดเปรื่องของนางนั้นคล้ายดั่งยาพิษมิปาน ทำให้เขาที่รู้อยู่แก่ใจว่านี่เป็นคนที่มีพิษสง ไม่อาจเข้าใกล้ได้ ทว่าเขากลับอยากใกล้ชิดนางอยู่ตลอด

 

 

ความอันตราย ที่มาพร้อมกับความน่าดึงดูดใจอย่างร้ายกาจ

 

 

“ซื่อจื่อขอรับ” จู๋ซย่าเดินมาจากทางด้านหลังของเขาและเรียกเขาประโยคหนึ่ง

 

 

“ของเหล่านั้นเตรียมพร้อมแล้วหรือ” สีหน้าของฉินมู่ปิงลุ่มลึก ยืนลำตัวเหยียดตรงและเอ่ยถามด้วยเสียงเยียบเย็น

 

 

ทันทีที่ซูหลีเดินออกไป สีหน้าของเขาก็ไม่หลุดอากัปกิริยาใดๆ ออกมาเลยสักส่วน

 

 

“ขอรับ บ่าวได้ให้คนหาวิธีส่งข่าวให้กับคนที่ใต้เท้าซูส่งออกไปเหล่านั้น คิดไม่ถึงว่าผ่านไปไม่นาน ใต้เท้าซูจะสามารถหา ‘หลักฐาน’ ได้แล้วขอรับ!” จู๋ซย่าก้มศีรษะเอ่ยขึ้ยด้วยท่าทีที่นอบน้อม

 

 

“จัดการให้เร็วกว่าเดิม!” ดวงตาของฉินมู่ปิงเคร่งขรึมในทันที เวลาของพวกเขามีไม่มากแล้ว ครานี้จักต้องจัดการให้สำเร็จ!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เล่ห์ร้ายโฉมสะคราญ 1179 การหลอกใช้ของเขา / 1180 จักต้องสำเร็จ

Now you are reading เล่ห์ร้ายโฉมสะคราญ Chapter 1179 การหลอกใช้ของเขา / 1180 จักต้องสำเร็จ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1179 การหลอกใช้ของเขา

 

 

“นี่ไม่เหมือนกับใต้เท้าซูที่ข้ารู้จักเลยสักนิด!” ขณะที่ฉินมู่ปิงเอ่ย กลับหุบรอยยิ้มที่ไม่แยแสต่อสิ่งใดในยามปกติลง ดวงตาที่ลุ่มลึกคู่นั้นราวกับสามารถเห็นไปถึงก้นบึ้งของหัวใจคนมิปาน

 

 

ดูลุ่มลึกและหนักแน่น

 

 

หากมีคนอยู่ที่นี่ เกรงว่าจะถูกความเปลี่ยนแปลงของเขาทำให้ตกตะลึง

 

 

ทว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซูหลีเห็นเขาเป็นสีหน้าเช่นนี้ จะพูดว่านางรู้สึกประหลาดใจก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจขนาดนั้น เพียงแต่หลังจากนางได้ยินคำถามที่ฉินมู่ปิงเอ่ยขึ้นแล้ว ดวงตาพลันลุ่มลึกไปวูบหนึ่ง

 

 

ทันทีที่ซูหลีปรายตามองก็เห็นจู๋ซย่า ข้ารับใช้ข้างกายของฉินมู่ปิง ยืนเฝ้าอยู่สถานที่ที่ห่างออกไป 5 เมตร ทั้งยังก้มศีรษะไม่เหลือบตาขึ้นมามองทางด้านที่พวกเขาอยู่

 

 

โดยรอบนอกจากจู๋ซย่า ก็ไม่มีคนอื่นอีก

 

 

ในดวงตาซูหลีมีประกายความเข้าใจพาดผ่าน มิน่าฉินมู่ปิงกล้าพูดคำพูดเช่นนี้ออกมาให้สถานที่แบบนี้ ที่แท้ก็เก็บกวาดคนโดยรอบหมดแล้ว

 

 

“หากซื่อจื่อรีบร้อน ก็สู้ลงมือเองไม่ดีกว่าหรือ” ซูหลีปรายตามองเขา ในดวงตามีความเย็นยะเยียบ

 

 

ฉินมู่ปิงได้ยินดังนั้นจึงหรี่ตาลงเล็กน้อย มองมาทางนางคล้ายกับตรวจสอบอย่างละเอียดมิปาน

 

 

“นี่ใต้เท้าซูหมายความว่าเช่นไร หรือจนถึงบัดนี้ยังสงสัยในความตั้งใจของข้า ก่อนหน้านี้ข้าเคยบอกใต้เท้าซูแล้วว่า ขอเพียงให้ใต้เท้าซูไปตรวจสอบก็เท่านั้น!”

 

 

ฉินมู่ปิงพูดจบก็หยุดชะงักไปครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าเขากำลังครุ่นคิดถึงอะไรบางสิ่งได้ จากนั้นเอ่ยอย่างลังเล “หรือผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว ใต้เท้าซูยังตรวจสอบอะไรไม่ได้ ทำไมรึ ต้องการให้เปิ่นซื่อจื่อช่วยเหลือหรือไม่”

 

 

“ขอเพียงใต้เท้าซูเอ่ยปาก เรื่องอะไรข้าล้วนกระทำด้วยความเต็มใจ!”

 

 

ขณะที่เขาพูดก็ย่างกรายเข้าใกล้ซูหลีก้าวหนึ่ง แม้กระทั่งถลันเข้าไปเป่าลมที่ข้างใบหูซูหลี

 

 

ซูหลีเลิกคิ้วเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะถอยออกมาก้าวหนึ่ง เพื่อหลบหลีกเขา

 

 

“เป็นเช่นนี้เองหรือ” น้ำเสียงของซูหลีเยียบเย็น นางหัวเราะอย่างเย้ยหยันแล้วเอ่ยว่า “นี่ซื่อจื่อต้องการช่วยข้า หรือต้องการช่วยตนเองกัน?”

 

 

ทันทีที่ซูหลีพูดคำพูดประโยคนี้ออกมา สถานการณ์ก็เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดขึ้นทันใด

 

 

สีหน้าของฉินมู่ปิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาขมวดคิ้วมองนาง “เจ้าไม่เชื่อใจข้า?”

 

 

“เชื่อใจเจ้าหรือ” ซูหลีเสมือนได้ยินคำพูดตลกขบขันมิปาน นางหัวเราะออกมาอย่าแผ่วเบา จากนั้นจึงหันศีรษะเผชิญหน้ากับเขาแล้วเอ่ยว่า

 

 

“ซื่อจื่อหลอกใช้ข้าครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อกำจัดคนที่เป็นเสี้ยนหนามในตาของตน บัดนี้ยังจะให้ข้าเชื่อใจเจ้าหรือ”

 

 

ฉินมู่ปิงเม้มริมฝีปากแน่น จ้องมองนางด้วยสายตาเยียบเย็น

 

 

ซูหลีกลับรู้สึกไม่ตกใจกับกลิ่นอายเย็นยะเยือกของเขาที่แผ่ซ่านออกมา อีกทั้งกลับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

 

 

“สกุลเซียว แม้จะน่ารังเกียจอย่างแท้จริง ทว่าจากที่ข้าทราบมา ความสัมพันธ์ระหว่างสกุลเซียวกับพวกจวนจิ้งหนานอ๋องนั้นไม่ดีมาโดยตลอด ซื่อจื่อกลัวว่าจะเอาชนะอีกฝ่ายไม่ได้ ถึงได้ยืมมือข้ากำจัดสกุลเซียวซะ!”

 

 

“ที่ข้าพูดมาถูกต้องหรือไม่”

 

 

แม้ใบหน้าของซูหลียังคงแต่งแต้มด้วยรอยยิ้ม ทว่ารอยยิ้มนั้นกลับไปไม่ถึงดวงตาเลยแม้แต่น้อย

 

 

แท้จริงแล้วนางทราบเรื่องนี้มาโดยตลอด เพียงแค่ไม่แสดงออกมาเท่านั้น เรื่องที่สกุลเซียวกับจวนจิ้งหนานอ๋องไม่ถูกกันนั้นเป็นเรื่องจริง ทว่าพวกเขาล้วนเป็นตัวการสำคัญที่ทำร้ายสกุลหลี่จนตกอยู่ในจุดจบเช่นนั้น

 

 

ดังนั้นซูหลีจึงแสร้งทำเป็นไม่ทราบไปก่อน เพียงจัดการเรื่องที่ตนควรกระทำให้ดีก็พอแล้ว

 

 

บัดนี้ฉินมู่ปิงนั้นชี้แนะสกุลจี้ให้แก่นาง

 

 

เรื่องอื่นยังไม่ต้องพูดถึง ดูเพียงสกุลจี้เป็นขุนนางมือสะอาดทั้งสกุล คนสกุลจี้ที่ฉินมู่ปิงพึ่งพาอาศัยได้ก็มีเพียงไทเฮาก็เท่านั้น

 

 

อีกทั้งไทเฮานอกจากตำแหน่งลอยๆ ในมือกลับไม่มีอำนาจอย่างแท้จริงเลยสักนิด

 

 

จะว่าไปแล้ว ความสัมพันธ์อย่างสกุลจี้กับฉินมู่ปิงนี้ จี้เก๋อเหล่ากับจี้เหิงหรานทั้งสองคนล้วนเป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ ทว่ากลับไม่ช่วยเหลือเขา เขาจึงเปลี่ยนมาใช้ซูหลี ทว่าในใจกลับรู้สึกไม่เต็มใจสักเท่าไร!

 

 

ดังนั้นซูหลีจึงไม่ได้เชื่อคำพูดของเขาอย่างหมดใจตั้งแต่แรก

 

 

นางเชื่อเพียงสิ่งที่ตนตรวจสอบมาแล้วเท่านั้น!

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 1180 จักต้องสำเร็จ

 

 

เพียงแต่เห็นท่าทีของฉินมู่ปิงในเวลานี้ คล้ายกับกำลังมีความร้อนใจ?

 

 

เพราะเห็นเรื่องของสกุลเซียวได้ผลเกินคาด ดังนั้นจึงอยากกำจัดจี้เหิงหรานอย่างไม่รีรอเช่นนั้นหรือ

 

 

นี่เป็นคนข้างกายของฉินเย่หานที่มีเขี้ยวเล็บที่แหลมคมที่สุด!?

 

 

แม้ซูหลีจะไม่ชื่นชอบจี้เหิงหรานมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ทว่าสมองของนางนั้นมีสติดี

 

 

จี้เหิงหรานผู้นี้เป็นคนที่ฉลาดหลักแหลม มีแผนการที่ลึกล้ำ เป็นขุนนางผู้ช่วยที่ดีที่สุดคนหนึ่งอย่างแท้จริง

 

 

ทว่าคนเช่นนี้กลับพึ่งพาอาศัยฉินเย่หาน

 

 

หากในใจของฉินมู่ปิงมีความคิดเช่นนั้น ยังจะสามารถปล่อยคนอย่างสกุลจี้และคนอย่างจี้เหิงหรานไปหรือ

 

 

ทันทีที่คำพูดนี้พูดจบ สีหน้าของฉินมู่ปิงพลันเปลี่ยนไปในทันที

 

 

หากไม่มีการลองหยั่งเชิงในวันนี้ เขาคงจะไม่ทราบจริงๆ ว่า ซูหลีนั้นทราบแผนการของเขาอย่างปรุโปร่ง

 

 

คนที่เย่อหยิ่งอวดดีอย่างซูหลี ไม่มีทางยอมให้ตนเองโดนหลอกใช้ถึงจะถูก ดังนั้นเขาจึงคิดมาตลอดว่าหากซูหลีทราบแล้ว คงจะก่อเรื่องวุ่นวายตั้งนานแล้ว

 

 

ใครจะรู้ว่า นางทราบเรื่องนี้อย่างทะลุปรุโปร่ง ทว่ากลับไม่แสดงท่าทีออกมาโดยตลอด

 

 

“ใต้เท้าซูเข้าใจผิดแล้ว ข้ากับสกุลเซียวนั้นไม่มีความแค้นต่อกัน เจ้าไปเอาคำพูดนี้มาจากที่ใดกัน” เขาหยุดชะงักอยู่นาน เพราะกำลังตกใจในความฉลาดปราดเปรื่องของซูหลี ทว่าสีหน้ากลับไม่แสดงอากัปกิริยาใดๆ เพียงอมยิ้มและมองไปที่ซูหลี

 

 

“พวกเราเป็นคนเปิดเผยไม่กระทำเรื่องลับๆ ซื่อจื่อกำลังวางแผนอะไร ในใจข้านั้นล้วนทราบดีที่สุด เพียงแต่อยากจะแนะนำซื่อจื่อเสียหน่อย อย่าคิดว่าผู้อื่นเป็นคนเขลา”

 

 

ขณะที่พูดซูหลียังยกยิ้มขึ้น อากัปกิริยาที่แสดงออกกับคำพูดที่นางเอ่ยออกมานั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง!

 

 

“ข้ายินยอมถูกเจ้าหลอกใช้ นั่นเป็นเพราะเดิมสกุลเซียวไม่ใสสะอาดอยู่แล้ว หากซื่อจื่อรีบร้อนที่จะจัดการกับสกุลจี้ ก็สู้ลงมือกระทำเองเถิด จะพูดอย่างข้าซูหลีผู้นี้ไม่มีรากฐานอะไรในราชสำนักอยู่แล้ว หากเปรียบกับซื่อจื่อแล้วยังห่างไกลอีกหลายโข!”

 

 

อากัปกิริยาที่แสดงออกแข็งทื่อไปโดยสิ้นเชิง นี่ซูหลีนั้นทราบแผนการทั้งหมดของเขาแล้ว

 

 

มิน่าบิดาของเขาถึงกล่าวมาโดยตลอดว่า คนผู้นี้ไม่มีทางที่จะควบคุมได้ วิธีการใช้ประโยชน์ของเขาไม่ถูกต้อง ไม่แน่นางอาจจะกลับมาแว้งกัดพวกเขาก็ได้

 

 

เขานั้นให้คนจับตาดูการเคลื่อนไหวในช่วงนี้ของซูหลีมาโดยตลอด ซูหลีเพียงตรวจสอบเรื่องสกุลจี้เท่านั้น หาได้สนใจเรื่องของจวนจิ้งหนานอ๋องสักนิด เขายังคิดว่านี่ตนสามารถควบคุมนางได้แล้ว

 

 

ใครจะคิดว่า นางเพียงไม่พูดและกระทำสิ่งใดออกมาก็เท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าในใจนางไม่รับรู้!

 

 

“ข้าจะรอข่าวดีจากซื่อจื่อ ไม่แน่การลงมือของเจ้า อาจทำให้ข้าไม่ต้องแม้กระทั่งตรวจสอบเรื่องนี้แล้วก็ได้!” ซูหลีชำเลืองมองอากัปกิริยาที่เก๊กต่อไปไม่ไหวของเขาแล้ว จึงฉีกยิ้มบางและเดินเข้าไปตบที่บ่าของเขาเบาๆ

 

 

ฉินมู่ปิงชายตามองนาง กลับพบกับความเย็นยะเยียบดุจน้ำแข็งที่ไม่มีความอบอุ่นเลยแม้แต่น้อยในดวงตาของนาง

 

 

“ข้าน้อยยังมีเรื่องต้องไปกระทำ ขอตัวลาก่อน ซื่อจื่อค่อยๆ เที่ยวเตร่เถอะ!” เพียงชั่วพริบตาเดียว นางก็ถอยตัวออกไป โค้งตัวคำนับฉินมู่ปิงครั้งหนึ่ง จากนั้นหมุนกายเดินออกไป

 

 

ฉินมู่ปิงมองไปยังทิศทางที่นางเดินออกไป ผ่านไปนานก็ยังดึงสติกลับมาไม่ได้

 

 

ความฉลาดปราดเปรื่องของนางนั้นคล้ายดั่งยาพิษมิปาน ทำให้เขาที่รู้อยู่แก่ใจว่านี่เป็นคนที่มีพิษสง ไม่อาจเข้าใกล้ได้ ทว่าเขากลับอยากใกล้ชิดนางอยู่ตลอด

 

 

ความอันตราย ที่มาพร้อมกับความน่าดึงดูดใจอย่างร้ายกาจ

 

 

“ซื่อจื่อขอรับ” จู๋ซย่าเดินมาจากทางด้านหลังของเขาและเรียกเขาประโยคหนึ่ง

 

 

“ของเหล่านั้นเตรียมพร้อมแล้วหรือ” สีหน้าของฉินมู่ปิงลุ่มลึก ยืนลำตัวเหยียดตรงและเอ่ยถามด้วยเสียงเยียบเย็น

 

 

ทันทีที่ซูหลีเดินออกไป สีหน้าของเขาก็ไม่หลุดอากัปกิริยาใดๆ ออกมาเลยสักส่วน

 

 

“ขอรับ บ่าวได้ให้คนหาวิธีส่งข่าวให้กับคนที่ใต้เท้าซูส่งออกไปเหล่านั้น คิดไม่ถึงว่าผ่านไปไม่นาน ใต้เท้าซูจะสามารถหา ‘หลักฐาน’ ได้แล้วขอรับ!” จู๋ซย่าก้มศีรษะเอ่ยขึ้ยด้วยท่าทีที่นอบน้อม

 

 

“จัดการให้เร็วกว่าเดิม!” ดวงตาของฉินมู่ปิงเคร่งขรึมในทันที เวลาของพวกเขามีไม่มากแล้ว ครานี้จักต้องจัดการให้สำเร็จ!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+